"โวหารภาพพจน์"
ผู้สอน
นายไพโรจน์ ขวัญคง
นางสาวสิริภา แสงสมัคร
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
"โวหารภาพพจน์"
โวหารคืออะไร
โวหาร คือการใช้ถ้อยคำภาษาอย่างมีชั้นเชิงพลิกแพลงที่ลึกซึ้ง
ประทับใจมุ่งให้เกิดความรู้สึกด้านอารมณ์เป็นสำคัญ ทำให้เห็น
ภาพพจน์
ภาพพจน์คืออะไร
ภาพพ
จน์ คือภาพเกิดขึ้นในใจเนื่องมาแต่การใช้โวหารทำให้
เข้าใจความหมายได้ชัดเจนขึ้น เข้าถึงความคิดและคความรู้สึกของผู้
แต่ง สามารถถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดเหล่านั้นมาเป็นของผู้อ่าน
เอง ทำให้เกิดความซาบซึ้งในงานเขียนทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง
"โวหารภาพพจน์"
อุปมา
อุปลักษณ์
บุคคลวัต หรือบุคลาธิษฐาน
อติพจน์ อธิพจน์ อวพจน์
นามนัย
สัญลักษณ์
อุปมานิทัศน์
สัทพจน์
ปฏิพากย์
อัพภาส
"โวหารภาพพจน์"
อุปมา คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งว่าเหมือนสิ่งหนึ่ง โดยใช้คำเปรียบเทียบว่า
เหมือน ประดุจ ดัง ดั่ง เฉก เช่น ราว ราวกับ คล้าย กล เพียง เพี้ยง พ่าง ย่อม
อย่าง เปรียบ ปาน ปูน ประหนึ่ง เสมือน ประเล่ห์ ปิ้ ม เงื่อน ครุวนา
ตัวอย่าง
คุณแม่หนาหนักเพี้ยง พสุธา
คุณบิดรดุจอา- กาศกว้าง
คุณพี่พ่างศิขรา เมรุมาศ
คุณพระอาจารย์อ้าง อาจสู้สาคร
(โคลงโลกนิติ : สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร)
เปรียบเทียบพระคุณของแม่ พ่อ พี่ และครูอาจารย์เหมือนแผ่นดิน ท้องฟ้า ภูเขา
และมหาสมุทร ตามลำดับ
"โวหารภาพพจน์"
อุปมา คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งว่าเหมือนสิ่งหนึ่ง โดยใช้คำเปรียบเทียบว่า
เหมือน ประดุจ ดัง ดั่ง เฉก เช่น ราว ราวกับ คล้าย กล เพียง เพี้ยง พ่าง ย่อม
อย่าง เปรียบ ปาน ปูน ประหนึ่ง เสมือน ประเล่ห์ ปิ้ ม เงื่อน
ตัวอย่าง
ชกะสีอรุณแสง
ไม้เรียงผกาทุพ ดรุณี ณ ยามอาย
ปานแก้มแฉล้มแดง
(มัทนะพาธา : รัชกาลที่ ๖)
เปรียบสีกุหลาบ ว่าแดงเหมือนแก้มผู้หญิงยามเขินอาย
"โวหารภาพพจน์"
อุปมา คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งว่าเหมือนสิ่งหนึ่ง โดยใช้คำเปรียบเทียบว่า
เหมือน ประดุจ ดัง ดั่ง เฉก เช่น ราว ราวกับ ค
ล้าย กล เพียง เพี้ยง พ่าง ย่อม
อย่าง เปรียบ ปาน ปูน ประหนึ่ง เสมือน ประเล่ห์ ปิ้ ม เงื่อน
ตัวอย่าง งามกว่าสร้อยแสงดาวพราวอ้อม
เธอเปรียบดังดอกไม้วัยสาวน้อย ไม่แพ้ดวงเดือนอยู่กลางหมู่ดาว
เธอจึงเป็นความหวังชายทั้งปวง (วันที่ดอกไม้บาน)
....ล่วงเลยไป กลบกลืนกับกาลเวลา ไม่พบอะไรยั่งยืน ดุจกระแสน้ำ ที่ไม่คืนกลับมา
หันมองกลับ กลับไป ก็มีแต่ความทรงจำ ชีวิตที่เคยผ่านมา เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม
และน้ำตาเก็บไว้...
"โวหารภาพพจน์"
อุปลักษณ์ คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งหนึ่ง โดยใช้คำเปรียบว่า เป็น คือ
หรืออาจไม่มีคำเปรียบแต่ใจความก็ยังเปรียบสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง หานหัก
จากด้วย
พ่อตายคือฉัตรกั้ง แรงร่ำ
แม่ดับดุจรถจักร มือคุ้มแดนไตร
ลูกตายบ่วายรัก
เมียมิ่งตายวายม้วย (โคลงโลกนิติ : สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ กรมพระยาเดชาดิศร
"โวหารภาพพจน์"
อุปลักษณ์ คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งหนึ่ง โดยใช้คำเปรียบว่า เป็น คือ
หรืออาจไม่มีคำเปรียบแต่ใจความก็ยังเปรียบสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง นารีไร้สรร ภูษา
ผัวก็เป็นอาภรณ์ พิลาศ
แม้ไร้ซึ่งภารดา งามเหือด
ถึงจะแต่งรัตนมาษ ไป่พร้อมโสภา
(พระนลคำหลวง : รัชกาลที่ ๖)
โอ้แม่เทพธิดาจากฟ้ากว้าง ใจคนอ้างว้างขวัญแสนหวั่นไหว
อยากได้เธอมาประทับไว้กับใจ แต่ไม่กล้าบังอาจด้วยขลาดเกิน
(วันดอกไม้บาน)
"โวหารภาพพจน์"
อุปลักษณ์ คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งหนึ่ง โดยใช้คำเปรียบว่า เป็น คือ
หรืออาจไม่มีคำเปรียบแต่ใจความก็ยังเปรียบสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง ความรู้เป็นเพื่อนได้ ในยาม เปลี่ยวนา
เป็นเครื่องอาภรณ์คราว พูดโต้
เป็นแรงเมื่อคิดความ ควรตัด สินแฮ
เป็นทรัพย์ทุกเพล้โพล้ พรุ่งงาย
(วชิรญาณภาษิต : สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ)
เพชรน้ำค้างค้างหล่นบนพรมหญ้า เย็นหยาดฟ้ามาฝันหลงวันใหม่
"โวหารภาพพจน์"
อุปลักษณ์ คือการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็น
สิ่งหนึ่ง โดยใช้คำเปรียบว่า เป็น คือ
หรืออาจไม่มีคำเปรียบแต่ใจความก็ยังเปรียบสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง ...หนังสือคือโรงละครใหญ่ อะไรที่เกี่ยวกับชีวิตไม่ว่าสูงว่าต่ำมีอยู่ใน
หนังสือพิมพ์ทั้งสิ้น...
ข้อสังเกต หากมีคำว่า เป็น คือ แต่ไม่ใช่การเปรียบเทียบก็ไม่ใช่อุปลักษณ์ เช่น
เธอคือนางสาวไทย เธอคือนางแมวป่า
ฉันเป็นหัวหน้าชั้น ฉันเป็นแก้วตาดวงใจของแม่
"โวหารภาพพจน์"
บุคคลวัต หรือบุคลาธิษฐาน คือการสมมุติให้สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ให้ทำ
กิริยาอย่างมนุษย์
น้ำเซาะหินรินรินหลากไหล ไม่หลับเลยชั่วฟ้าดินสลาย
ตัวอย่าง สรรพสัตว์พอฟื้นก็วอดวาย สลายซากเป็นกากธุลี
(ลำนำภูกระดึง : อังคาร กัลยาณพงศ์)
ลมระเริงลู่หวิวพลิ้วระลอก สัพยอกยอดไม้ไปลิ่วล่อง
แล้วใบไม้ก็ไหวส่ายขึงข่ายกรอง ทอแสงทองทอดประดับซับน้ำค้าง
(วารีดุริยางค์ : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
"โวหารภาพพจน์"
บุคคลวัต หรือบุคลาธิษฐาน คือการสมมุติให้สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ให้ทำ
กิริยาอย่างมนุษย์
ตัวอย่าง ใจเมืองบ้าดังจะผก หักอกเมืองดังจะพัง
(ลิลิตพระลอ)
ทะเลไม่เคยหลับใหล ใครตอบได้ไหมไฉนจึงตื่น
บางครั้งสะอื้น ทะเลมันตื่นอยู่ร่ำไป
เมื่อฟ้าหลั่งน้ำตา หมู่เมฆาพาหัวเราะ
แผ่นดินร่วมยั่วล้อ ลมรุมด่าว่าซ้ำเติม
"โวหารภาพพจน์"
อติพจน์ อธิพจน์ อวพจน์ คือการกล่าวที่ผิดไปจากความจริง ทำให้เกิด
อารมณ์สะเทือนใจ กว่าปกติ อาจกล่าวให้เกินจริงหรือกล่าวน้อยกว่าจริง
ตัวอย่าง หิวจนไส้จะขาด ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด
ใจกว้างอย่างกับแม่น้ำ เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด
ขอให้อายุยืนนานเป็นหมื่นปี เห็นช้างตัวเท่าหมู
งีบเดียวก็ถึงแล้ว ผ้าขี้ริ้วห่อทอง
"โวหารภาพพจน์"
อติพจน์ อธิพจน์ อวพจน์ คือการกล่าวที่ผิดไปจากความจริง ทำให้เกิด
อารมณ์สะเทือนใจ กว่าปกติ อาจกล่าวให้เกินจริงหรือกล่
าวน้อยกว่าจริง
ตัวอย่าง เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม ถึงพรหม
พาหมู่สัตว์จ่อมจม ชีพม้วย
สุเมรุเปื่อยเป็นตม ทบท่าว ลงนา
หากอกกนิษฐ์พรหมฉ้วย พี่ไว้จึงคง
"โวหารภาพพจน์"
นามนัย คือการเรียกชื่อสิ่งหนึ่งโดยใช้คำอื่นแทน ไม่เรียกตรง ๆ เป็นคำ
ที่เข้าใจกันทั่วไป หรือเป็นการนำเอาส่วนย่อยเด่น ๆ ของสิ่งนั้นมากล่าวแทน
ส่วนใหญ่
ตัวอย่าง ถึงหน้าวังดังหนึ่งใจจะขาด คิดถึงบาทบพิตรอดิศร
โอ้ผ่านเกล้าเจ้าประคุณของสุนทร แต่ปางก่อนเคยเฝ้าทุกเช้าเย็น
(นิราศภูเขาทอง : สุนทรภู่)
"โวหารภาพพจน์"
นามนัย คือการเรียกชื่อสิ่งหนึ่งโดยใช้คำอื่นแทน ไม่เรียกตรง ๆ เป็นคำ
ที่เข้าใจกันทั่วไป หรือเป็นการนำเอาส่วนย่อยเด่น ๆ ของสิ่งนั้นมากล่าวแทน
ส่วนใหญ่
ตัวอย่าง สมอง สติปัญญา
สมอ กองทัพเรือ
เก้าอี้ ตำแหน่ง
เคียว ชาวนา / พรรคคอมมิวนิสต์
แซมบ้า บราซิล
สิงโตคำราม
โคราช อังกฤษ
เมืองย่าโม นครราชสีมา
นครราชสีมา
"โวหารภาพพจน์"
สัญลักษณ์ คือการใช้สิ่งหนึ่งแทนสิ่งหนึ่งที่มีคุณสมบัติหรือภาวะบางอย่าง
ร่วมกัน
ตัวอย่าง แรกเชื่อว่าเนื้อทับทิมแท้ มาแปรเป็นพลอยหุงไปเสียได้
กาลวงว่าหงส์ให้ปลงใจ ด้วยมิได้ดูหงอนแต่ก่อนมา
"โวหารภาพพจน์"
สัญลักษณ์ คือการใช้สิ่งหนึ่งแทนสิ่งหนึ่งที่มีคุณสมบัติหรือภาวะบางอย่าง
ร่วมกัน
ตัวอย่าง สัญลักษณ์ แทน
ดอกไม้ ผู้หญิงเพราะบอบบาง
ราชสีห์ ผู้มีอำนาจ มีบารมี
สีดำ ความตาย เศร้า อธรรม
สีขาว ความดี บริสุทธิ์ สว่าง
สีเขียว ความสุข ความสดชื่น
เมฆ หมอก อุปสรรค ความเศร้า
"โวหารภาพพจน์"
อุปมานิทัศน์ คือการใช้เรื่องราวหรือนิทานมาประกอบเพื่อขยายหรือแนะนำ
โดยนัยให้ผู้อ่านเข้าใจแนวคิด หลักธรรม หรือข้อควรปฏิบ
ัติที่ต้องการสื่อได้ชัดเจน
ตัวอย่าง เรื่องนี้ก็เข้าทำนองหมาป่ากับลูกแกะนั่นแหละ
ไม่รู้จักบุญคุณคนเหมือนเรื่องชาวนากับงูเห่า
ทำตัวเป็นเด็กเลี้ยงแกะพูดอะไรใครก็ไม่เชื่อ
เดี่ยวหละพูดจาโกหกบ่อย ๆ จมูกจะงอกยาวเป็นพีน็อกคิโอ
หล่อนทำตัวเป็นนางซินรอราชรถมาเกย
เราต้องทำตัวเหมือนไม้ไผ่ที่มัดรวมเป็นกำจึงจะพ้นภัยได้
"โวหารภาพพจน์"
สัทพจน์ คือการกล่าวเลียนเสียงธรรมชาติ
ตัวอย่าง บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว
เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา
สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
ประคองพาขึ้นไปจนบนบรรพต
(พระอภัยมณี)
ไผ่ซออ้อเอียดเบียดออด ลมลอดไล่เลี้ยวเรียวไผ่
ออดแอดแอดออดยอดไกว แพใบไล้น้ำลำคลอง
(บนพรมไม้ไผ่ : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
"โวหารภาพพจน์"
สัทพจน์ คือการกล่าวเลียนเสียงธรรมชาติ
ตัวอย่าง กระทาปักหาตัวเมียจ้อ
ค้อนทองร้องรับกันป๊กป๊ก
ไก่ป่าขันแจ้วอยู่แนวไพร ชูคอปีกหางกางหก
หารังเรียกคู่อยู่กับดิน นกคุ่มเปรียวปรื๋อกระพือบิน
เขี่ยคุ้ยขุยไผ่เป็นถิ่นถิ่น
หยุดกินวิ่งกรากกระต๊ากไป
(ขุนช้างขุนแผน)
"โวหารภาพพจน์"
ปฏิพากย์ คือการใช้ถ้อยคำที่ตรงกันข้ามเพื่อแสดงความขัดแย้งในเนื้อความ
เป็นการเน้นความให้น่าสนใจและกินใจ
ตัวอย่าง แทบฝั่งธารที่เราเฝ้าฝันถึง เสียงน้ำซึ่งกระซิบสาดปราศจากเสียง
จักรวาลวุ่นวายไร้สำเนียง โลกนี้เพียงแผ่นภพสงบเย็น
(วารีดุริยางค์ : เนาวรัตน์พงษ์ไพบูลย์)
มือน้อยน้อยของแม่ดูแค่นี้ เคยเฆี่ยนตีลูกบ้างในบางหน
แต่มือเดียวกันนี้แหละสู้ทน ประคองลูกให้พ้นภยันตราย
(ไหมแท้ที่แม่ทอ : ไพวรินทร์ ขาวงาม)
"โวหารภาพพจน์"
ปฏิพากย์ คือการใช้ถ้อยคำที่ตรงกันข้ามเพื่อแสดงความขัดแย้งในเนื้อความ
เป็นการเน้นความให้น่าสนใจและกินใจ
ตัวอย่าง คืนวันของเรานั้นมีน้อย เศร้าสร้อยเพียงใดเล่าใจสลาย
เมื่อมีเกิดโลกนี้ก็มีตาย มีรักแล้วกลับกลายเป็นเกลียดชัง
(คืนวันมีน้อย : กานติ ณ ศรัทธา)
งดงามดั่งทุ่งทองลออกดอกไม้ กระจ่างอยู่ในใจแม่ไกลห่าง
แจ่มชัดในความมืดไม่จืดจาง ในความว่างเงียบสงัดยิ่งชัดเจน
(มิตรภาพ : วันรวี รุ่งแสง)
สารพัดวิบัติได้ในมนุษย์ สูงแล้วทรุดสุขแล้วเศร้าเคล้าสนอง
อยุธยาวิโยคกรรมตามครรลอง ประเมินมองหมายดูรู้แล้วปลง
(นิราศพระอาราม : จินตนา ปิ่นเฉลียว)
"โวหารภาพพจน์"
อัพภาส คือการใช้คำที่มีการกร่อนเสียงจากคำซ้ำ เช่น ริกริก เป็นระริก
ตัวอย่าง
เก้าอี้โยกริมระเบียงฟังเสียงน้ำ งามสงบพลบค่ำระร่ำไหล
เหงาดั่งว่าน้ำหยดจนหมดใจ เหลือสิ่งใดไว้บ้างระหว่างชีวิต
เพื่อชื่นชมรมณีย์กับชีวิต ที่จะคิดที่จะทำตามคิดเห็น
ระเรื่อยเรื่อยเฉื่อยฉ่ำลืมลำเค็ญ ลืมความเป็นปรัศนีของชีวิต
สรุปเนื้อหา/คำถาม