คู่มือกระบวนงานประกันสังคม
โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์และสวัสดิการ
กรมประชาสัมพันธ์
สารบัญ
หน้า
ทะเบียนผู้ประกันตน
1. การแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน 1
2. การแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน 3
3. การแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน 5
4. การเบิกค่าทันตกรรม 7
5. การเบิกค่ารักษาพยาบาล คู่มือการทำธุรกรรม 9
6. การแจ้งเปลี่ยนสถานพยาบาลประกันสังคม 12
7. การแจ้งผลการเลือกสถานพยาบาล 14
คู่มือการใช้งานสำหรับสถานประกอบการ 16
- 1 -
ทะเบียนผู้ประกันตน
1. การแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน
ในกรณีที่มีการรับลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานราชการเข้าใหม่เพิ่มขึ้น ให้นายจ้างแจ้งขึ้นทะเบียน
ลูกจ้างใหม่ต่อสำนักงานประกันสังคม ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ให้ลูกจ้างหรือพนักงานราชการเริ่มเข้าทำงาน
โดยใช้แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03)
ขั้นตอนการแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน
ผู้รับผิดชอบตรวจสอบหนังสือเวียนในระบบอินทราเน็ต
เกี่ยวกับคำสั่งจ้างของลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานราชการ
ประสานกับสำนัก/กอง ที่มีลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานราชการเข้าใหม่
เพื่อสอบถามว่าลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานราชการดังกล่าวมารายงานตัวเข้ารับการจ้างหรือไม่
หรือไม่
แจ้งให้ลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานราชการเข้าใหม่ เขียนแบบฟอร์มแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03)
พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน รับรองสำเนาถูกต้อง 1 ฉบับ
(ในกรณีผู้ประกันตนเคยเปลี่ยนชื่อในขณะที่เป็นผู้ประกันตน ต้องแนบสำเนาใบเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุลมาด้วย)
ทำบันทึกข้อความเรียน ลนก. เพื่อโปรดพิจารณาลงนาม ในแบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03)
ผู้รับผิดชอบดำเนินการแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน
หมายเหตุ : การขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนต่อสำนักงานประกันสังคมให้แจ้ง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่
ลูกจ้างนั้นเป็นผู้ประกันตนตามแบบ สปส.1-03 หากฝ่าฝืน อาจมีความผิดต้องระวางโทษ
จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- 2 -
เอกสารที่ใช้ในการแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน
1. แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของลูกจ้าง 1 ฉบับ
3. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล (ถ้ามี)
แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03)
ชื่อสถานประกอบการ : กรมประชาสัมพันธ์
เลขที่บัญชี : 10-9000229-7
สถานประกอบการ/สาขาตั้งอยู่ : เลขที่ 9 ซอย อารีย์สัมพันธ์ ถนน พระรามที่ 6 แขวง พญาไท
เขต พญาไท จังหวัด กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10400
ลำดับที่สาขา : 000000
- 3 -
2. การแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
ในกรณีที่มีลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานราชการลาออก ให้นายจ้างแจ้งการลาออกจากงาน
ต่อสำนักงานประกันสังคม ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยใช้แบบแจ้ง
การสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09)
ขั้นตอนการแจ้งสิ้ดสุดความเป็นผู้ประกันตน
ผู้รับผิดชอบตรวจสอบหนังสือเวียนในระบบอินทราเน็ต
เกี่ยวกับคำสั่งลาออกของลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานราชการ
ผู้รับผิดชอบตรวจสอบเลขบัตรประจำตัวประชาชนของลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานราชการ
ที่ลาออก ในทะเบียนชื่อของของลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานราชการ
ผู้รับผิดชอบดำเนินการกรอกรายละเอียดลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานราชการที่ลาออก
ได้แก่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ-สกุล วันเดือนปีที่สิ้นสุด และสาเหตุการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
ในแบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09)
ทำบันทึกข้อความเรียน ลนก. เพื่อโปรดพิจารณาลงนาม ในแบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
(สปส.6-09)
ผู้รับผิดชอบดำเนินการแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
หมายเหตุ : เมื่อลูกจ้างลาออกหรือถูกเลิกจ้าง ให้แจ้งต่อสำนักงานประกันสังคมให้แจ้งภายในวันที่ 15
ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลง หากฝ่าฝืน อาจมีความผิดต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- 4 -
เอกสารที่ใช้ในการแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
1. แบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09)
แบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09)
ชื่อสถานประกอบการ : กรมประชาสัมพันธ์
เลขที่บัญชี : 10-9000229-7
สถานประกอบการ/สาขาตั้งอยู่ : เลขที่ 9 ซอย อารีย์สัมพันธ์ ถนน พระรามที่ 6 แขวง พญาไท
เขต พญาไท จังหวัด กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10400
ลำดับที่สาขา : 000000
- 5 -
3. การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน
ในกรณีที่ผู้ประกันตนเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงคำนำหน้านาม
(นาย/นาง/นางสาว) การเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล การเปลี่ยนข้อมูลสถานภาพครอบครัว/จำนวนบุตร หรือ
การเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกาย ให้นายจ้างแจ้งสำนักงานประกันสังคม ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจาก
เดือนที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยใช้แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงของผู้ประกันตน (สปส.6-10)
ผู้รับผิดชอบตรวจสอบหนังสือเวียนในระบบอินทราเน็ต
เกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุลของลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานราชการ
หรือลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานราชการยื่นใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุลให้ผู้รับผิดชอบ
ให้ผู้ประกันตนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูล กรอกรายละเอียดในแบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง
ของผู้ประกันตน (สปส.6-10) พร้อมยื่นเอกสารแนบ (สำเนาทะเบียนเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล
สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาทะเบียนหย่า สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ/เอกสารรับรองความพิการ
จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ถ้ามี
ผู้รับผิดชอบดำเนินการแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงของผู้ประกันตน
หมายเหตุ : แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงของผู้ประกันตน (สปส.6-10) ให้แจ้งต่อสำนักงานประกันสังคม
ให้แจ้งภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลง หากฝ่าฝืน อาจมีความผิด
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- 6 -
เอกสารที่ใช้ในการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน
1. แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงของผู้ประกันตน (สปส.6-10)
2. เอกสารแนบ (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล
- สำเนาทะเบียนสมรส
่
- สำเนาทะเบียนหยา
- สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ/เอกสารรับรองความพิการจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงของผู้ประกันตน (สปส.6-10)
ชื่อสถานประกอบการ : กรมประชาสัมพันธ์
เลขที่บัญชี : 10-9000229-7
สถานประกอบการ/สาขาตั้งอยู่ : เลขที่ 9 ซอย อารีย์สัมพันธ์ ถนน พระรามที่ 6 แขวง พญาไท
เขต พญาไท จังหวัด กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10400
ลำดับที่สาขา : 000000
- 7 -
4. การเบิกค่าทันตกรรม
ในกรณีที่ผู้ประกันตนมีการทำทันตกรรม (อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าตัดฝันคุด ขูดหินปูน ใส่ฟันเทียม
ชนิดถอดได้) กับโรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชน ผู้ประกันตนสามารถยื่นเรื่องเบิกสิทธิประโยชน์
กรณีทันตกรรมนั้นได้ โดยยื่นเรื่องขอเบิกได้ภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่เข้ารับบริการทาง
การแพทย์ที่ระบุในใบรับรองแพทย์นั้น โดยใช้แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีทันตกรรม (สปส.2-16)
• กรณอุดฟัน ถอนฟัน ผ่าตัดฝันคุด ขูดหินปูน
ี
ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นในอัตราไม่เกิน
900 บาท ต่อปี แต่หากค่ารักษาฟันสูงกว่า 900 บาทขึ้นไป ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายในส่วนต่างนัน
้
ในกรณีที่ผู้ประกันตนเข้ารับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลที่ทำความตกลงกับสำนักงาน
ประกันสังคมให้ผู้ประกันตนจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้กับสถานพยาบาลส่วนเกินจากสิทธิที่ได้รับ
• กรณีใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้บางส่วน
ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์และค่าฟันเทียมเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น
ไม่เกิน 1,500 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม ดังนี้
1) 1-5 ซี่เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นไม่เกิน 1,300 บาท
2) มากกว่า 5 ซี่เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นไม่เกิน 1,500 บาท
• กรณีใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปาก
ผู้ประกันตนมีสิทธิเบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 4,400 บาทภายใน 5 ปีนับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม
์
ตามหลักเกณฑ ดังนี้
1) ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2,400 บาท
2) ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปากบนและล่าง เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 4,400 บาท
ผู้ประกันตนยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีทันตกรรม (สปส.2-16)
ต่อผู้รับผิดชอบ หรือยื่นโดยตรงที่สำนักงานประกันสังคม พร้อมกับเอกสารที่ใช้ในการ
เบิกค่าทันตกรรม
ผู้รับผิดชอบตรวจสอบว่าคุณสมบัติและเอกสารที่ผู้ประกันตนยื่นครบถ้วน ถูกต้อง หรือไม่
หากเอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ให้ผู้ประกันตนดำเนินการแก้ไข และยื่นเอกสารให้ครบถ้วน
และยื่นต่อผู้รับผิดชอบ
ผู้รับผิดชอบดำเนินการแจ้งเบิกค่าทันตกรรมให้ผู้ประกันตน
สำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน
ภายใน 30 วันนับแต่ยื่นคำขอเบิกค่าทันตกรรม
- 8 -
เอกสารที่ใช้ในการเบิกค่าทันตกรรม
1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีทันตกรรม (สปส.2-16)
2. ใบรับรองแพทย์ (ตัวจริง)
็
3. ใบเสรจรับเงิน (ตัวจริง)
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน รับรองสำเนาถูกต้อง 1 ฉบับ
5. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอ
(กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) รับรองสำเนาถูกต้อง 1 ฉบับ
ู้
6. สำเนาเวชระเบียนบันทึกการให้บริการทันตกรรม (กรณีผประกันตนมิได้มายื่นแบบคำขอฯ ด้วยตนเอง
ู่
หรืออยในดุลพินิจของเจ้าหน้าที่) ถ้ามี
แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีทันตกรรม (สปส.2-16)
หมายเหตุ : ผู้ประกันตนที่มีสิทธิเบิกค่าทันตกรรมต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมครบ 3 เดือน
ภายในระยะเวลา 15 เดือน
- 9 -
5. การเบิกค่ารักษาพยาบาล
ในกรณีที่ผู้ประกันตนประสงค์เบิกค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากการเบิกค่ารักษาพยาบาลนั้น
สำนักงานประกันสังคมจะพิจารณาความร้ายแรงเป็นรายกรณี ผู้รับผิดชอบจะให้คำแนะนำแก่
ผู้ประกันตนหรือญาติของผู้ประกันตนในเบื้องต้น เพื่อให้ผู้ประกันตนยื่นคำขอเบิกค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเอง
ต่อสำนักงานประกันสังคมที่ใกล้เคียง โดยใช้แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01)
สิทธิในการรับบริการทางการแพทย์เกิดขึ้นต่อเมื่อภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนวันรับบริการ
ทางการแพทย์ได้จ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 เดือน และผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิได้ตลอดอายุ
ตลอดความเป็นผู้ประกันตน กรณีสิ้นสภาพจากความเป็นผู้ประกันตน สามารถใช้สิทธิต่อไปได้อีก 6 เดือน
นับแต่วันที่สิ้นสภาพ
• กรณีไม่ได้รักษาในโรงพยาบาลตามประกันสังคม ต้องสำรองค่ารักษาไปก่อน
• ขอใบรับรองแพทย์ โดยระบุอาการบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยชัดเจน
• ขอใบเสร็จรับเงิน พร้อมแสดงค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น ค่ารักษา ค่ายา ค่าห้อง และค่าอาหาร เป็น
ต้น
• หากต้องการเบิกเงินทดแทนขาดรายได้ จะต้องมีหนังสือรับรองจากนายจ้างด้วย
• เตรียมเอกสารสำคัญทั่วไป เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาบัตรประกันสังคม สำเนาทะเบียน
บ้าน และสำเนาสมุดบัญขีธนาคารหน้าแรก
• หลังจากนั้นยื่นคำขอได้ที่สำนักงานประกันสังคมที่อยู่ใกล้บ้าน (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณ
กระทรวงสาธารณสุข)
ค่าใช้จ่ายบริการทางการแพทย์ แบ่งตามกรณีดังนี้
1. อาการเจ็บป่วยทั่วไป
ผู้ประกันตนจะได้รับการรักษาพยาบาล แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตามสิทธิประกันสังคมที่ได้รับ ยกเว้นบางโรคท ี่
ประกันสังคมกำหนด เช่น การเสริมสวย การรักษาการมีบุตรยาก ผสมเทียม แว่นตา การใช้สารเสพติด การทำร้าย
ตัวเอง เป็นต้น จะไม่สามารถขอเบิกสิทธิประกันสังคมได้
2. อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ
สำหรับการเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือประสบอุบัติเหตุ ผู้ประกันตนก็สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิ
ประกันสังคมได้ แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลอื่นเราอาจจะต้องสำรองจ่ายไปก่อน แล้วมาขอเบิกประกันสังคมใน
ภายหลัง ดังนี้
2.1 หากเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล ผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน สามารถเบิกค่ารักษาได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจำ
เป็น สำหรับผู้ป่วยในเบิกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องไม่เกินระยะเวลา 72 ชั่วโมง ในส่วนค่าห้องและค่าอาหาร
เบิกได้ไม่เกินวันละ 700 บาทต่อวัน
2.2. หากเป็นโรงพยาบาลเอกชน ผู้ป่วยนอกสามารถเบิกค่ารักษาเท่าที่จ่ายจริง โดยไม่เกิน 1,000 บาทต่อ
ิ่
ครั้ง และจ่ายเพมได้ตามรายการที่กำหนด แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยในสามารถเบิกค่ารักษาได้ไม่เกิน 2,000 บาท ส่วน
ค่าห้องและอาหารต้องไม่เกิน 700 บาทต่อวัน
- 10 -
ทั้งนี้หากผู้ประกันตนมีค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ เพิ่มเติม ทางประกันสังคมจะแบ่งค่าใช้จ่ายให้ตามส่วนต่างๆ ดังนี้ด้วย
• ค่าห้อง (ICU) จ่ายให้ไม่เกินวันละ 4,500 บาท
• ค่าห้องผ่าตัดใหญ่เบิกไม่เกิน 8,000-16,000 บาท โดยจะขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงที่ได้รับการผ่าตัด กรณี
ฉุกเฉินเบิกปีละ 4 ครั้ง (ผู้ป่วยนอก 2 ครั้ง ผู้ป่วยใน 2 ครั้ง) กรณีอุบัติเหตุไม่จำกัดจำนวนครั้ง
• ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือเอกซเรย์ ไม่เกิน 1,000 บาท
• ค่าฟื้นคืนชีพรวมค่ายาและอุปกรณ์ ไม่เกินครั้งละ 4,000 บาท
• ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG, ECG) เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 300 บาท
• ค่าทำ CT Scan เบิกได้ 4,000 บาท
• ค่าทำ MRI เบิกได้ 8,000 บาท
• ค่าทันตกรรม กรณีถอนฟัน อดฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด ไม่เกิน 900 บาท/ปี
ุ
• ค่าใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้ กรณีใส่ฟันเทียมแบบถอดได้บางส่วน เบิกได้ไม่เกิน 1,500 บาท และถอดได้ทั้ง
ปาก ไม่เกิน 4,400 บาท
3. อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินขั้นวิกฤต
หากผู้ประกันตนมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต จะได้รับสิทธิประกันสังคมค่ารักษาพยาบาลอีกด้วย แต่ทั้งนี้จะต้องมี
อาการฉุกเฉิน ได้แก่ หมดสติไม่รู้สึกตัว หายใจเร็ว ตัวเย็นหรือชัก เจ็บหน้าออก แขนขาออนแรง รวมถึงอาการที่มีผล
่
ต่อระบบหายใจ หรือระบบประสาทที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ก็สามารถรับบริการได้ที่สถานพยาบาลใกล้เคียงทุกแห่ง
โดยไม่ต้องสำรองจ่ายจนกว่าจะพ้นวิกฤตภายใน 72 ชม. รวมวันหยุดราชการด้วย
แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01)
- 11 -
หมายเหตุ : กรณีเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล ให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุลด้วย
- 12 -
6. การแจ้งเปลี่ยนสถานพยาบาลประกันสังคม
กรณีที่ผู้ประกันตนประสงค์จะเปลี่ยนสถานพยาบาลประกันสังคม สามารถเปลี่ยนได้ กรณีดังนี้
1. เปลี่ยนประจำปี ให้ดำเนินการได้ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคมจนถึงวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป
2. เปลี่ยนระหว่างปี กรณีมีเหตุจำเป็น เช่น ย้ายที่พักอาศัยย้ายสถานที่ประจำทำงาน หรือ
พิสูจน์ทราบว่าผู้ประกันตนมิได้มีการเลือกสถานพยาบาลด้วยตนเอง ให้ยื่นเปลี่ยนสถานพยาบาลภายใน
ระยะเวลา 30 วัน
โดยผู้ประกันตนสามารถทำการเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ 3 ช่องทางดังนี้
• ยื่นแบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ (สปส. 9-02) ได้ที่สำนักงาน
ประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัดสาขาทุกแห่งทั่วประเทศ หรือยื่นที่ผู้รับผิดชอบ
• ทำรายการผ่าน www.sso.go.th ด้วยตนเอง
• ทำรายการผ่าน Applications Sp Connect ด้วยตนเอง
ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนสถานพยาบาลผู้ประกันตนของกรมประชาสัมพันธ์ สำนักงาน
ประกันสังคมจะแจ้งผลฯ การเลือกสถานพยาบาลผ่านกรมประชาสัมพันธ์
รายชื่อสถานพยาบาลประกันสังคม ประจำปี พ.ศ. 2564 (ในกรุงเทพมหานคร)
หมายเหตุ : โดยสถานพยาบาลที่ผู้ประกันตนขอเปลี่ยน จะต้องเป็นสถานพยาบาลซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดที่
ผู้ประกันตนประจำทำงานหรือพักอาศัยในปัจจุบัน หรือจังหวัดรอยต่อของจังหวัดดังกล่าว
และมีจำนวนผู้ประกันตนไม่เกินตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
- 13 -
เอกสารที่ใช้แจ้งเปลี่ยนสถานพยาบาลประกันสังคม
1. แบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ (สปส. 9-02)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ประกันตน 1 ฉบับ
การตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลตรวจสอบได้ที่ www.sso.go.th/ Application SSO
Connect / โทรสายด่วน 1506 / สำนักงานประกันสังคม / สถานพยาบาลในโครงการประกันสังคม
ทุกแห่งทั่วประเทศและเครื่อง Smart Kiosk ของกระทรวงมหาดไทย
ิ
ั
สำหรับผู้ประกันตนที่ไม่ประสงค์เปลี่ยนสถานพยาบาล สามารถใช้สิทธิรบบรการทางการแพทย์
จากสถานพยาบาลตามสิทธิเดิมได้จนสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน กรณีสิ้นสภาพจากความเป็น
ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิต่อไปได้อีก 6 เดือนนับ แต่วันที่สิ้นสภาพ
แบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ (สปส. 9-02)
- 14 -
7. การแจ้งผลการเลือกสถานพยาบาล
เมื่อผู้รับผิดชอบดำเนินการแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนต่อสำนักงานประกันสังคมแล้ว
สำนักงานประกันสังคมจะส่งจดหมายรายงานแจ้งผลการเลือกสถานพยาบาลมาที่กรมประชาสัมพันธ์ ให้
ผู้รับผิดชอบดำเนินการ ดังนี้
สำนักงานประกันสังคมส่งรายงานแจ้งผลการเลือกสถานพยาบาล
มาที่กรมประชาสัมพันธ์
ผู้รับผิดชอบสำเนาแบบรายงานแจ้งผลการเลือกสถานพยาบาลเก็บไว้ 1 ฉบับ
เพื่อเป็นหลักฐาน
ผู้รับผิดชอบค้นหาหน่วยงานสังกัดของผู้ประกันตน ในข้อมูลของบุคลากร ในระบบอินทราเน็ต
ผู้รับผิดชอบดำเนินการส่งรายงานแจ้งผลการเลือกสถานพยาบาลให้กับ
ผู้ประกันตน กรณีที่ผู้ประกันตนสังกัดอยู่ที่ สวท. สทท. สปช. หรือ สนข.
ให้ผู้รับผิดชอบนำรายงานแจ้งผลการเลือกสถานพยาบาลดังกล่าว
ใส่ตะกร้าซึ่งวางอยู่ที่ฝ่ายสารบรรณ
ผู้รับผิดชอบบันทึกการส่งไว้ ในทะเบียนหนังสือส่ง
- 15 -
รายงานแจ้งผลการเลือกสถานพยาบาล
- 16 -
คู่มือการใช้งานสำหรับสถานประกอบการ
การเข้าใช้งานระบบ
1. เปิดโปรแกรม Browser
2. เข้า Url ของระบบสำนักงานประกันสังคม https://www.sso.go.th/wpr/
3. ระบบจะแสดงหน้าจอหลัก
4. คลิกปุ่ม ระบบจะแสดงหน้าจอบริการสำหรับสถานประกอบการ
5. คลิกที่ “เข้าสู่ระบบ” ระบบจะแสดงหน้าจอ Log in เข้าสู่ระบบ
6. ระบบจะแสดงหน้าจอหลักพร้อมข้อมูลการเข้าสู่ระบบ
7. กรอกชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน
ชื่อผู้ใช้ : 1090002297ax
รหัสผ่าน : Prd026182323
8. คลิกปุ่ม ระบบจะแสดงหน้าจอบริการสำหรับสถานประกอบการพร้อมข้อมูลการเข้าสู่
ระบบ
9. คลิกปุ่ม (ทะเบียนผู้ประกันตน)
10. ระบบจะแสดงหน้าจอเลือกกิจกรรมงานทะเบียนที่ต้องการดำเนินการ