The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by oftheart2, 2022-04-22 03:58:39

แผนวิทยาการคำนวณชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 1

แผนวิทคำนวณ ป.1 สสวท รวม

คำอธบิ ายรายวิชา

รายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 1 วลา 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

ศกึ ษาและฝกึ ทักษะเกีย่ วกบั การแก้ปัญหาอยา่ งง่ายโดยใช้การลองผดิ ลองถูก การเปรยี บเทยี บ แสดงลำดับ
ขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาที่เป็นอัลกอริทึมอย่างง่าย โดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ
เขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือสือ่ ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสร้าง จัดเก็บ เรียกใชข้ ้อมูลตามวตั ถประสงค์
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์
เบอื้ งต้น ใช้งานอย่างเหมาะสม

ว. 4.2 เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
1. การแกป้ ัญหาอยา่ งง่ายโดยใช้การลองผดิ ลองถูก การเปรียบเทยี บ
2. แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแกป้ ัญหาที่เป็นอัลกอริทึมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือ

ขอ้ ความ
3. เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื สอ่ื
4. ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดเก็บ เรยี กใชข้ ้อมลู ตามวตั ถประสงค์
5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์รว่ มกนั ดแู ลรกั ษา

อปุ กรณ์เบอื้ งตน้ ใช้งานอย่างเหมาะสม

รวมท้ังหมด 5 ตัวช้ีวัด

โครงสรา้ งรายวิชา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1
รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) จำนวน 20 ชั่วโมง/ปี
รหัสวิชา ว11101

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วดั จำนวนช่วั โมง
1 ปฐมนเิ ทศและข้อตกลงในการเรียน - 1
2 โปง้ กอ้ ย และ อ่ิม ตอน เปรยี บเทียบความเหมือน 1
3 โป้ง กอ้ ย และ อ่ิม ตอน เปรียบเทยี บและตัดสนิ ใจ ว 4.2 ป.1/1 1
4 ครอบครัวของเรา ตอน ลำดับเหตุการณ์ ว 4.2 ป.1/1 1
5 ครอบครัวของเรา ตอน เรียงใหเ้ ปน็ ลำดบั ว 4.2 ป.1/2 1
6 เสน้ ทางกลบั บ้าน ว 4.2 ป.1/2 1
7 เสน้ ทางกลบั บา้ น ตอน ชว่ ยพ่อปกู ระเบอ้ื ง ว 4.2 ป.1/1 1
8 โปรแกรมแก้หิว ว 4.2 ป.1/1 1
9 โปรแกรมแกห้ ิว ตอน ชว่ ยคณุ ครจู ัดหนังสือ ว 4.2 ป.1/2-3 1
10 หนูนอ้ ยบ้านนา ว 4.2 ป.1/2-3 1
11 หนูนอ้ ยบา้ นนา ตอน ใชง้ านถูกตอ้ งป้องกนั ความ ว 4.2 ป.1/4-5
เสยี หาย 1
12 งานบ้านงานเรา ว 4.2 ป.1/4-5
13 งานบ้านงานเรา ตอน วางแผนการเดนิ ทางใหค้ ณุ พ่อ 1
14 วนั งานโรงเรยี น ว 4.2 ป.1/3 1
15 วันงานโรงเรยี น ตอน คน้ หาแบบไหนไวกวา่ ว 4.2 ป.1/3 1
16 ฝนตกน้ำทว่ ม ว 4.2 ป.1/1 1
17 ฝนตกน้ำทว่ ม ตอน ชว่ ยหนูมาลรี ดน้ำต้นไม้ ว 4.2 ป.1/1 1
18 ท่งุ ข้าวรวงทอง ว 4.2 ป.1/3 1
ว 4.2 ป.1/3,5 2
สอบปลายปี ว 4.2 ป.1/4 1
รวม ว 4.2 ป.1/1-5 20 ช่ัวโมง
1 มฐ. 5 ตชว.

แบบทดสอบ
รายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1

คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเลือกข้อทีถ่ กู ต้องท่สี ดุ เพยี งข้อเดยี ว

1. หุ่นยนต์เลยี นแบบมนุษย์ ข้อใดต่อไปน้ี มีลักษณะเหมอื นกันกบั มนุษย์
ก. บนิ ได้
ข. มีล้อ
ค. มีรปู รา่ งคลา้ ยมนุษย์

2. อากาศยานไร้คนขบั (โดรน) มีความสามารถเหมือนกันกับขอ้ ใด
ก. พูดได้
ข. บนิ ได้
ค. หายใจได้

3. ขอ้ ใดต่อไปนี้ไม่ถกู ต้อง
ก. จกั รยานแขง็ แรงกวา่ รถยนต์
ข. จกั รยานไม่ใช้น้ำมนั
ค. จักรยานไปถึงจุดหมายเร็วกวา่ รถยนต์

4. ข้อใดต่อไปน้ีถกู ต้อง
ก. จักรยานบรรทุกของไดม้ ากวา่ รถยนต์
ข. จกั รยานเดินทางพร้อมกนั ได้หลายคน
ค. รถยนต์แขง็ แรงกวา่ จกั รยาน

5. จงเรียงลำดับตามเหตกุ ารณต์ อ่ ไปนีใ้ ห้ถูกต้อง ตดั เค้ก ปกั เทียน
เป่าเทยี น จดุ เทยี น 3 4
12
เรียนหนังสอื
ก. 1 2 3 4 4
ข. 4 2 1 3
ค. 3 2 4 1

6. จงเรยี งลำดับตามเหตกุ ารณ์ต่อไปน้ีให้ถูกต้อง ตน่ื นอน
กลับบ้าน ไปโรงเรยี น 3
12

ก. 1 2 3 4
ข. 4 2 1 3
ค. 3 2 4 1

7. จากรปู ข้อใดต่อน้ีถกู ต้อง

ก. คียบ์ อร์ด
ข. กล้อง
ค. เมาส์

8. จากรูป ข้อใดตอ่ นี้ถกู ต้อง

ก. จอภาพ
ข. กล้อง
ค. เมาส์

9. จากรูป ขอ้ ใดตอ่ น้ีถูกต้อง

ก. ใชส้ ำหรับแสดงผลภาพ ขอ้ ใดตอ่ นี้ถูกต้อง
ข. ใช้สำหรบั พมิ พ์ขอ้ ความ
ค. ใช้สำหรับถ่ายภาพ

10. จากรูป

ก. ใชส้ ำหรบั บนั ทกึ วดิ ีโอ
ข. ใชส้ ำหรับสง่ ออกเสยี ง
ค. ใช้สำหรับวาดรูป

11. หากนกั เรียนต้องการพิมพข์ ้อความ นักเรยี นจะใช้อุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ชนดิ ใด
ก. เมาส์
ข. คียบ์ อร์ด
ค. จอภาพ

12. หากนกั เรยี นต้องการบันทกึ วดิ โี อ นักเรียนจะใช้อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ชนิดใด
ก. ลำโพง
ข. กล้อง
ค. ทัชแพด

13. เมาส์ มลี กั ษณะการทำงานอยา่ งไร
ก. ถ่ายภาพ
ข. พมิ พ์ขอ้ ความ
ค. คลกิ สง่ั งานคอมพวิ เตอร์

14. อปุ กรณ์ใดต่อไป สามารถใช้แทนเมาสไ์ ด้
ก. กล้อง
ข. ทัชแพด
ค. คียบ์ อรด์

15. ขอ้ ใดต่อไปน้ี ไม่ใช่ อุปกรณค์ อมพวิ เตอร์
ก. เมาส์
ข. กระดาษ
ค. จอภาพ

16. ข้อใดต่อไปน้ี คือ อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์
ก. เมาส์
ข. กระดาษ
ค. สไี ม้

17. คอมพวิ เตอร์มลี กั ษณะการใช้งานอยา่ งไร
ก. วาดรูป
ข. สร้างงานเอกสาร
ค. ถกู ทงั้ ก. และ ข.

18. เมอ่ื นักเรียนพบปัญหาจาการใชค้ อมพวิ เตอร์ท่โี รงเรียน นกั เรยี นควรปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร
ก. แจง้ ให้ครูทราบ
ข. แจ้งใหเ้ พ่ือนแก้ปญั หา
ค. แกป้ ัญหาเอง

19. ขอ้ ใด คือ การดูแลรกั ษาคอมพวิ เตอร์
ก. ใชผ้ ้าสะอาดชุบน้ำ เช็ดอปุ กรณ์
ข. ใชผ้ า้ สะอาดแห้ง เช็ดอุปกรณ์
ค. ไม่ควรถอดปลัก๊ ไฟ เม่ือไม่ได้ใช้งานแลว้

20. ขอ้ ใด คอื โปรแกรมวาดภาพ
ก. เพนต์
ข. เวิด
ค. เอก็ ซเ์ ซล

21. “ไฟล์” หมายถงึ อะไร
ก. การกำจัดแมลง
ข. แฟม้ ข้อมลู
ค. การบิน

22. “save” หมายถึงอะไร
ก. โปรแกรมวาดภาพ
ข. การบันทึกข้อมลู ไว้ในไฟล์
ค. โฟลเดอร์

23. “ท่ีเกบ็ ไฟล”์ คอื ข้อใด
ก. โฟลเดอร์
ข. การบันทกึ ขอ้ ข้อมลู ไว้ในไฟล์
ค. ไฟล์

24. สญั ลกั ษณใ์ ดท่ีไม่ควรนำมาต้ังช่อื ไฟล์
ก. ตวั เลข
ข. ตวั อักษรภาษาองั กฤษ
ค. เครื่องหมาย =

25. เดนิ หมายถึงข้อใด

ก. เดนิ ซา้ ย
ข. เดนิ ขวา
ค. เดินลง

26. เดิน หมายถงึ ข้อใด

ก. เดนิ ซา้ ย
ข. เดนิ ขึ้น
ค. เดินลง

ดรู ูปภาพแล้วตอบคำถามข้อ 27 – 30
คำชแ้ี จง ให้แยกประเภทของลกู กวาด พร้อมทั้งนบั จำนวน

27.

จำนวน.....................................ชิ้น

28.

จำนวน.....................................ชิ้น

29.

จำนวน.....................................ชน้ิ

30.

จำนวน.....................................ชิ้น



เฉลยแบบทดสอบ
รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1

คำช้แี จง ให้นักเรียนเลอื กข้อที่ถกู ต้องท่ีสุดเพยี งข้อเดียว

1. หุ่นยนตเ์ ลยี นแบบมนษุ ย์ ข้อใดต่อไปน้ี มีลักษณะเหมือนกนั กับมนุษย์
ก. บินได้
ข. มีล้อ
ค. มรี ูปรา่ งคล้ายมนุษย์

2. อากาศยานไรค้ นขบั (โดรน) มีความสามารถเหมือนกันกับขอ้ ใด
ก. พดู ได้
ข. บินได้
ค. หายใจได้

3. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ถกู ต้อง
ก. จกั รยานแขง็ แรงกวา่ รถยนต์
ข. จกั รยานไมใ่ ช้น้ำมัน
ค. จกั รยานไปถงึ จุดหมายเรว็ กว่ารถยนต์

4. ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
ก. จกั รยานบรรทกุ ของไดม้ ากวา่ รถยนต์
ข. จกั รยานเดนิ ทางพรอ้ มกนั ได้หลายคน
ค. รถยนต์แข็งแรงกว่าจักรยาน

5. จงเรียงลำดับตามเหตกุ ารณต์ อ่ ไปนีใ้ ห้ถูกต้อง ตดั เค้ก ปกั เทียน
เป่าเทยี น จดุ เทยี น 3 4
12
เรียนหนังสอื
ก. 1 2 3 4 4
ข. 4 2 1 3
ค. 3 2 4 1

6. จงเรยี งลำดับตามเหตกุ ารณ์ต่อไปน้ีให้ถูกต้อง ตน่ื นอน
กลับบ้าน ไปโรงเรยี น 3
12

ก. 1 2 3 4
ข. 4 2 1 3
ค. 3 2 4 1

7. จากรปู ข้อใดต่อน้ีถกู ต้อง

ก. คียบ์ อร์ด
ข. กล้อง
ค. เมาส์

8. จากรูป ข้อใดตอ่ นี้ถกู ต้อง

ก. จอภาพ
ข. กล้อง
ค. เมาส์

9. จากรูป ขอ้ ใดตอ่ น้ีถูกต้อง

ก. ใชส้ ำหรับแสดงผลภาพ ขอ้ ใดตอ่ นี้ถูกต้อง
ข. ใช้สำหรบั พมิ พ์ขอ้ ความ
ค. ใช้สำหรับถ่ายภาพ

10. จากรูป

ก. ใชส้ ำหรบั บนั ทกึ วดิ ีโอ
ข. ใชส้ ำหรับสง่ ออกเสยี ง
ค. ใช้สำหรับวาดรูป

11. หากนกั เรียนต้องการพิมพข์ ้อความ นักเรยี นจะใช้อุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ชนดิ ใด
ก. เมาส์
ข. คียบ์ อร์ด
ค. จอภาพ

12. หากนกั เรยี นต้องการบันทกึ วดิ โี อ นักเรียนจะใช้อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ชนิดใด
ก. ลำโพง
ข. กล้อง
ค. ทัชแพด

13. เมาส์ มลี กั ษณะการทำงานอยา่ งไร
ก. ถ่ายภาพ
ข. พมิ พ์ขอ้ ความ
ค. คลกิ สง่ั งานคอมพวิ เตอร์

14. อปุ กรณ์ใดต่อไป สามารถใช้แทนเมาส์ได้
ก. กล้อง
ข. ทชั แพด
ค. คยี บ์ อรด์

15. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ อปุ กรณค์ อมพิวเตอร์
ก. เมาส์
ข. กระดาษ
ค. จอภาพ

16. ข้อใดต่อไปนี้ คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
ก. เมาส์
ข. กระดาษ
ค. สีไม้

17. คอมพิวเตอร์มลี กั ษณะการใช้งานอยา่ งไร
ก. วาดรปู
ข. สร้างงานเอกสาร
ค. ถูกทัง้ ก. และ ข.

18. เม่อื นกั เรยี นพบปัญหาจาการใชค้ อมพิวเตอร์ที่โรงเรยี น นักเรียนควรปฏบิ ัติอยา่ งไร
ก. แจง้ ให้ครทู ราบทันที
ข. แจ้งให้เพื่อนแก้ปญั หา
ค. แกป้ ัญหาเอง

19. ขอ้ ใด คือ การดแู ลรักษาคอมพิวเตอร์
ก. ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำ เช็ดอุปกรณ์
ข. ใชผ้ า้ สะอาดแหง้ เชด็ อุปกรณ์
ค. ไมค่ วรถอดปล๊กั ไฟ เมื่อไม่ไดใ้ ช้งานแล้ว

20. ขอ้ ใด คอื โปรแกรมวาดภาพ
ก. เพนต์
ข. เวิด
ค. เอก็ ซเ์ ซล

21. “ไฟล์” หมายถงึ อะไร
ก. การกำจัดแมลง
ข. แฟม้ ข้อมลู
ค. การบิน

22. “save” หมายถึงอะไร
ก. โปรแกรมวาดภาพ
ข. การบันทึกข้อมลู ไว้ในไฟล์
ค. โฟลเดอร์

23. “ท่ีเกบ็ ไฟล”์ คอื ข้อใด
ก. โฟลเดอร์
ข. การบันทกึ ขอ้ ข้อมลู ไว้ในไฟล์
ค. ไฟล์

24. สญั ลกั ษณใ์ ดท่ีไม่ควรนำมาต้ังช่อื ไฟล์
ก. ตวั เลข
ข. ตวั อักษรภาษาองั กฤษ
ค. เครื่องหมาย =

25. เดนิ หมายถึงข้อใด

ก. เดนิ ซา้ ย
ข. เดนิ ขวา
ค. เดินลง

26. เดนิ หมายถึงข้อใด

ก. เดนิ ซา้ ย
ข. เดินข้ึน
ค. เดินลง

ดรู ูปภาพแลว้ ตอบคำถามขอ้ 27 – 30
คำชแ้ี จง ใหแ้ ยกประเภทของลูกกวาด พร้อมทง้ั นับจำนวน

27.

จำนวน.................6....................ช้นิ

28.

จำนวน..................7...................ชิ้น

29.

จำนวน..................8...................ชนิ้

30.

จำนวน..................6...................ชิ้น

ช่อื – สกลุ ........................................................................................................................ ........ชนั้ ..................... เลขที่.........................

ใบงาน เรอ่ื ง เปรียบเทียบความเหมือน
คำชี้แจง ให้นักเรยี นระบายสีวงกลมทนี่ กกบั เคร่ืองบนิ มีความสามารถเหมอื นกัน

บนิ ได้ หายใจได้ มีปีก
มขี า พดู ได้

ชอ่ื – สกลุ ........................................................................................................................ ........ช้นั ..................... เลขท.ี่ ........................

ใบงาน เรอ่ื ง เปรียบเทียบความตกต่าง
คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเปรยี บเทียบแล็บท็อป กับ แท็บเลต็ แล้วระบายสบี อลลูนเปน็ สีเหลอื งในสง่ิ ท่เี หมือนกนั และระบายสีฟ้า
ในส่ิงที่ตา่ งกนั

มแี บตเตอร่ี พมิ พข์ ้อความ โทรเบอรไ์ ด้
ได้

มีป่มุ คียบ์ อร์ด บันทึกวดิ โี อได้

ชอ่ื – สกลุ ........................................................................................................................ ........ช้ัน ..................... เลขท.่ี ........................

ใบงาน เรอ่ื ง เปรียบเทียบตัดสนิ ใจ
คำชี้แจง ครอบครัวของนักเรียนตอ้ งการเดินทางจากจงั หวัดชลบรุ ี ไปยงั จหั วัดระยอง นักเรียนควรเลือกพาหนะใดในการ
เดินทางระหวา่ งรถยนต์ กบั รถจกั รยานยนต์

ชอื่ – สกุล ........................................................................................................................ ........ชัน้ ..................... เลขที่.........................
ใบงาน เรอ่ื ง ลำดับเหตกุ ารณ์

คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นเติมตัวเลขทอ่ี ยู่หนา้ ข้อความไปเขยี นลงในชอ่ งวา่ งเพื่อเรยี งลำดับเหตุการณ์

การลา้ งจาน
1. ล้างนำ้ เปล่า
2. เทเศษอาหาร
3. ตากให้แห้ง
4. ล้างนำ้ ยาลา้ งจาน
5. ลา้ งเศษอาหาร
6. เชด็ ดว้ ยผ้าสะอาด
7. จดั เก็บใหเ้ รยี บร้อย

เทเศษอาหาร _________ _________ ________

_________ เช็ดดว้ ยผ้าสะอาด ________

ช่อื – สกลุ ........................................................................................................................ ........ชนั้ ..................... เลขที่.........................

ใบงาน เรอ่ื ง ไปรา้ นไอศครมี กันเถอะ
คำช้ีแจง ให้นักเรียนเดินทางไปยังรา้ นไอศครีม โดยลากเสน้ ไปใหถ้ ึงจุดหมาย

ช่ือ – สกุล ........................................................................................................................ ........ชนั้ ..................... เลขท่ี.........................
ใบงาน เรอ่ื ง กระเชา้ อวยพร

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาบตั รคำส่ังตอ่ ไปนี้ แลว้ ช่วยคุณแมจ่ ดั กระเชา้ อวยพร โดยเลอื กบตั รคำส่งั แลว้ เขยี นตัวอักษร
ภาษาองั กฤษใตบ้ ัตรคำส่ังเพ่ือเรียงผลไมใ้ สก่ ระเช้า โดยใสผ่ ลไม้ท่ลี ูกใหญท่ ี่สดุ ก่อน และใสผ่ ลไมท้ ลี่ ูกเล็กทสี่ ดุ ทหี ลงั และหยบิ ได้เพียง
คร้ังละ 1 ผล เท่านั้น

บัตรคำสงั่

หยบิ แตงโม หยบิ ส้ม หยบิ ละมดุ ใสก่ ระเชา้
(A) (B) (C) (D)

เขียนลำดับบตั รคำส่งั ลงในตารางตามข้นั ตอน 3)
1) 2)

4) 5) 6)

ชอ่ื – สกุล ........................................................................................................................ ........ชน้ั ..................... เลขที่.........................
ใบงาน เรือ่ ง อยู่ไหนนะ

คำชแ้ี จง คุณแม่นำถุงเทา้ พลอยไปซักตาก ให้นกั เรยี นช่วยพลอยหาถุงเท้า โดยทำเคร่ืองหมายกากบาท () ท่ีถงุ เทา้ ของ
พลอย

ถุงเทา้ ของพลอย

ชือ่ – สกุล ........................................................................................................................ ........ชนั้ ..................... เลขท่.ี ........................

ใบงาน เรือ่ ง กลับมาไดไ้ หม
คำชีแ้ จง ลูกสนุ ัขของพลอยหลงทางอยู่ในป่า ตอ้ งการกลับมาหาพลอย ซึง่ ในระหวา่ งทางจะมวี ัว และบ่อน้ำ เป็นอปุ สรรคใน
การเดนิ ทาง ให้นักเรียนชว่ ยพาลกู สุนัขของพลอยกลับบ้านอย่างปลอดภยั โดยไม่เดนิ ไปยังช่องทม่ี ีอุปสรรค ให้นักเรยี นวาดลกู ศรลงบน
แผนที่

ชอ่ื – สกุล ........................................................................................................................ ........ชัน้ ..................... เลขที.่ ........................
ใบงาน เรอ่ื ง ไปโรงเรียนกันเถอะ

คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนเขยี นตัวอกั ษรใตบ้ ัตรคำสั่งตามลำดบั เพ่ือวางแผนการเดนิ ไปท่โี รงเรียน แล้วไปรา้ นไอศครมี แผนทก่ี าร
เดินทางมดี ังน้ี

จดุ เรม่ิ ต้น

ชอื่ – สกุล ........................................................................................................................ ........ช้นั ..................... เลขที่.........................
ใบงาน เรอื่ ง ไปโรงเรยี นกันเถอะ (ต่อ)

คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนเขียนตัวอกั ษรใตบ้ ตั รคำส่ังตามลำดบั เพือ่ วางแผนการเดนิ ไปทโ่ี รงเรียน แลว้ ไปร้านไอศครีม แผนที่การ
เดนิ ทางมดี ังน้ี

บตั รคำสงั่

เดนิ ซา้ ย เดนิ หนา้ เดินขวา
(A) (B) (C)

เดนิ ลง โรงเรยี น ร้านไอศครีม
(D)
ลำดบั บตั รคำสงั่ (E) (F)
12
345
67 8 9 10

ช่อื – สกลุ ........................................................................................................................ ........ช้นั ..................... เลขท่.ี ........................
ตัดตามรอย

ช่อื – สกลุ ........................................................................................................................ ........ช้ัน ..................... เลขที่.........................

ใบงาน เรือ่ ง ห่นุ ยนต์เรขาคณิต
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นตัดรูปปเรขาคณิตท่คี รแู จกให้ แล้วนำมามาต่อใหเ้ ปน็ หุ่นยนตต์ ามจินตนาการ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1

กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ)

ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา ..........

เร่อื ง ปฐมนเิ ทศและข้อตกลงในการเรยี น เวลา 1 ชว่ั โมง

ครผู ู้สอน.........................................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
-

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (ความร,ู้ ทกั ษะ, เจตคติ)
1. มีความรูค้ วามเขา้ ใจแนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี

(วทิ ยาการคํานวณ) และการวัดและประเมนิ ผลวชิ าวิทยาศาสตร์
2. ชแ้ี จงเจตคตทิ ี่มตี ่อวิทยาศาสตรไ์ ด้
3. สอื่ สารและนำความรู้ความเข้าใจเจตคติต่อวิชาวทิ ยาศาสตรไ์ ปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้

3. สาระสำคัญ
การปฐมนิเทศเปน็ การสร้างความเข้าใจอนั ดตี ่อกันระหวา่ งครูกับนกั เรยี น เปน็ การตกลงกนั ใน

เบอื้ งต้นกอ่ นท่ีจะเริม่ การเรียนการสอน ครไู ดร้ จู้ กั นักเรียนดียิ่งขน้ึ รับทราบความต้องการ ความรูส้ ึก และเจต
คตติ อ่ วิชาทเ่ี รียน ในขณะเดยี วกนั นกั เรียนได้ทราบความต้องการของครู แนวทางในการจดั การเรยี นการสอน
และการวดั และประเมนิ ผล ส่ิงต่าง ๆ ดังกลา่ วจะนำไปสูก่ ารเรยี นการสอนท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ ครูสามารถจดั
กจิ กรรมการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้นักเรียนคลายความวิตกกงั วล สามารถเรยี นได้อย่างมี
ความสุข อันจะส่งผลใหน้ กั เรียนประสบความสำเร็จบรรลุตามเปา้ หมายท่ีได้กำหนดไว้

4. สาระการเรยี นรู้
การปฐมนิเทศ
– แนวทางการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคํานวณ)
– เจตคติต่อวิชาวทิ ยาศาสตร์
– การวดั และประเมนิ ผลวิชาวทิ ยาศาสตร์

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน

6. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน
-

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ดำเนินการเรยี นการสอนดังต่อไปนี้

1. ข้ันสร้างความสนใจ (engagement)
1. ครแู นะนำตนเองแลว้ ให้นกั เรียนในห้องเรียนแนะนำตนเองทุกคน
2. ครูอาจใหน้ ักเรียนแนะนำทีละกลุ่มตวั อักษร หรือตามลำดับหมายเลขประจำตวั หรือตาม

แถวท่ีนัง่ ตามความเหมาะสม

2. ข้ันสำรวจและค้นหา(exploration)
1. ครอู ธบิ ายข้อตกลงในการเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน รวมถงึ คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน โครงสรา้ ง

รายวิชาพ้นื ฐาน และเนอื้ หาท่ีตอ้ งเรยี นรู้ในรายวชิ าพื้นฐาน วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 วา่ มอี ะไรบ้าง
2. ครถู ามความคิดเหน็ ของนักเรยี นเก่ยี วกับความเหมือนและความแตกต่างของสิ่งต่าง ๆ เป็น

เชน่ ใด
3. ให้นักเรียนอภปิ รายรว่ มกันวา่ การเรยี นด้วยวธิ ีการ ใหน้ กั เรียนค้นคว้าด้วยตนเอง จากการ

ทดลองและปฏิบัตจิ รงิ เหมือนนักวทิ ยาศาสตร์ นกั เรียนคดิ ว่ามีประโยชนห์ รอื ไม่
4. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามปัญหาเพื่อทำความเข้าใจร่วมกนั
5. ครแู นะนำวิธีการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรว์ ่านักเรียนมวี ิธกี ารเรียนรูห้ ลายแบบ เช่น
– ลงมือปฏิบตั กิ จิ กรรมที่บา้ นและท่โี รงเรียน
– คน้ ข้อมูลจากแหล่งการเรียนรูต้ า่ ง ๆ
– อภปิ รายกลมุ่ ยอ่ ย
– แสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง
6. ครถู ามความคดิ เห็นของนักเรียนเก่ียวกับการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรว์ ่า การเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์

ใหป้ ระสบความสำเรจ็ ต้องมลี ักษณะนสิ ัยอยา่ งไร
7. ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกันตอบคำถามและแสดงความคิดเหน็ (แนวคำตอบ 1. ชา่ งสังเกต เพราะ

การสังเกตทำให้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ซ่งึ นำไปส่กู ารค้นพบความรูใ้ หม่ 2. อยากรู้อยากเห็น เพราะการเป็นคนอยากรู้
อยากเห็น ช่างคิดช่างสงสัย มักคดิ ต้งั คำถามเพ่ือคน้ หาคำตอบ ลักษณะนสิ ัยแบบนนี้ ำไปสูก่ ารคน้ พบความรูใ้ หม่
เสมอ 3. มเี หตผุ ล เพราะความรูท้ างวทิ ยาศาสตรต์ อ้ งอธบิ ายด้วยเหตุและผล เมื่อได้ความรู้ใหม่ตอ้ งอธิบายได้
วา่ ผลที่ไดเ้ กิดจากสาเหตใุ ด เม่ือทราบสาเหตุแลว้ กอ็ ธบิ ายได้วา่ ผลเปน็ อย่างไรโดยเชอื่ ในหลกั ฐานที่สนบั สนุน 4.
มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เพราะผู้ท่มี ีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรคเ์ ป็นผู้ทีอ่ ยากคดิ อยากทำในสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ซง่ึ นำไปสู่การค้นพบความร้ใู หมไ่ ด้ 5. มีความพยายามและความอดทน เพราะผลของคำตอบไม่ใชไ่ ด้มาโดยการ

คน้ คว้าและทดลองเพยี งคร้งั เดยี ว แตต่ อ้ งใชค้ วามพยายามและความอดทนในการผา่ นอุปสรรคต่าง ๆ เพ่ือให้

ได้คำตอบ)

8. ครูแนะนำวธิ กี ารวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ของนักเรยี น ซ่ึงมีอัตราสว่ นคะแนน ดงั น้ี

(1) การวดั และประเมนิ ผลด้านความรู้ (K) 60 คะแนน

สอบกลางปี (ตามกำหนดการของโรงเรียน) 30 คะแนน

สอบปลายปี (ตามกำหนดการของโรงเรยี น) 30 คะแนน

(2) การวัดและประเมนิ ผลด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 30 คะแนน

– การประเมินการสงั เกต

– การประเมินการสำรวจ

– การประเมนิ การสืบคน้ ข้อมูล

– การประเมนิ โครงงานวิทยาศาสตร์

– การประเมนิ แฟ้มสะสมผลงาน

– การประเมนิ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ

– การประเมินด้านสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน

(3) การวัดและประเมนิ ผลดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและจิตวิทยาศาสตร์ (A) 10 คะแนน

– การประเมินด้านเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ 10 คะแนน

คะแนนรวม 100 คะแนน

3. ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรปุ (explanation)
1. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั แนวทางการจดั การเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เจต

คตติ อ่ วชิ าวทิ ยาศาสตร์ และการวัดและประเมินผลวชิ าวทิ ยาศาสตร์
2. ครมู อบหมายให้นักเรยี นไปศึกษาค้นควา้ เน้ือหาของบทเรียนชวั่ โมงหนา้ เพือ่ จดั การเรยี นรู้

ครั้งต่อไป โดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาค้นคว้าลว่ งหนา้ ในหัวข้อนักเรียนมีวิธีการจัดเรียงรองเท้า ใหเ้ ป็นระเบียบ
อยา่ งไร โดยใชใ้ บงาน สงั เกตก่อนเรียน 1 ที่ครจู ัดเตรยี มไว้ใหป้ ระกอบการศึกษาคน้ ควา้

3. ครอู ธบิ ายขัน้ ตอนการปฏิบัติกิจกรรมและมอบหมายให้นักเรียนไปปฏิบัตกิ จิ กรรมท่ีบ้าน
พรอ้ มทั้งให้นักเรียนเตรียมประเดน็ คำถามที่สงสยั มาอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม เพื่อนำมาอภปิ รายร่วมกนั ใน
ห้องเรยี นครัง้ ต่อไป

8. กระบวนการวัดและประเมินผล
การประเมนิ การเรยี นรู้ของนักเรียนทำได้ ดังนี้
1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชน้ั เรยี น
2. ประเมนิ การเรยี นรูจ้ ากคำตอบของนักเรียนระหวา่ งการจัดการเรียนรแู้ ละจากแบบบันทกึ

กิจกรรม
3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 จากการทำกจิ กรรม

ของนักเรียน

การประเมนิ จากการทำกจิ กรรม

ระดบั คะแนน

3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ

รหสั สิ่งที่ประเมิน ระดบั คะแนน

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

S1 การสังเกต

S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล

S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ

ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21

C4 การส่ือสาร

C5 ความรว่ มมือ

9. ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง.......................................................... แล้วมีความเหน็ ดังน้ี
1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 ดีมาก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
 เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยังไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป
3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่
 นำไปใช้ได้จรงิ
 ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ

.................................................................................................................................................... ..........................
......................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอื่ ..................................................
(.................................................)

วนั ท่ี........เดือน...............พ.ศ. ...........

10. บันทกึ ผลหลังการสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหน่ง............................................

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคาํ นวณ)

ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา ..........

เรือ่ ง โปง้ กอ้ ย และ อ่ิม ตอน เปรยี บเทยี บความเหมือน เวลา 1 ชว่ั โมง

ครผู สู้ อน.........................................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาทพี่ บในชวี ติ จริงอยา่ งเป็นข้ันตอน

และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หา
ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ รูเ้ ทา่ ทันและมีจรยิ ธรรม

ตวั ชีว้ ัด ป.1/1 แกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใชก้ ารลองผิดลองถูก การเปรียบเทยี บ

2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความร,ู้ ทักษะ, เจตคติ)
1. นกั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั การเปรียบเทียบของสิง่ ตา่ ง ๆ
2. นักเรียนสามารถเปรยี บเทียบความเหมือนและความแตกต่างของส่ิงตา่ ง ๆ ได้
3. นกั เรียนมีเจตคตติ ่อวชิ าวทิ ยาศาสตรไ์ ปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้

3. สาระสำคญั
เมื่อเปรยี บเทยี บของสองสิง่ พบความเหมือนและความแตกต่าง อาจขึน้ อย่กู ับลักษณะภายนอก

หรอื การใชง้ าน

4. สาระการเรยี นรู้
- การเปรียบเทียบ

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

6. ชิน้ งานหรือภาระงาน
ใบกิจกรรมท่ี 1.1 เปรยี บเทยี บความเหมือน
ใบกิจกรรมที่ 1.2 เปรียบเทียบความแตกตา่ ง

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคญั ดำเนินการเรียนการสอนดังต่อไปน้ี

1. ข้ันสร้างความสนใจ (engagement)
1. ครูใช้คำถามนำเขา้ สู่บทเรียน “นักเรยี นรจู้ กั รถมอเตอร์ไซคแ์ ละรถจักรยานหรอื ไม่” จากน้ัน

ถามต่อวา่ “รถมอเตอรไ์ ซคก์ ับรถจกั รยานมีความเหมือนและแตกต่างกนั อยา่ งไรบ้าง"
2. ข้ันสำรวจและค้นหา (exploration)
1. ครเู ขียนคำตอบของนักเรียนบนกระดานจากนั้นครูอธิบายเพมิ่ เติมวา่ การเปรียบเทียบส่ิงของ

สามารถพจิ ารณาจากคณุ สมบัติด้านตา่ ง ๆ เชน่ ขนาด จากนนั้ ครูใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั พจิ ารณาคำตอนอ่ืนแล้ว
บอกว่าคำตอบนัน้ พิจารณาจากคณุ สมบัติดา้ นใด

3. ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรุป (explanation)
1. ครนู ำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในหนงั สอื เรยี นบทท่ี 1 เร่อื ง โปง้ ก้อย และอิ่ม
2. ครูอธบิ ายวธิ ีการทำใบกจิ กรรมที่ 1.1 เรื่องเปรยี บเทยี บความเหมือน โดยใหด้ วู ิดโี อเกยี่ วกับ

อากาศยานไร้คนขบั จากนนั้ ให้นักเรียนทำใบกิจกรรมแล้วสุ่มนกั เรยี นนำเสนอคำตอบ
3. ครกู ล่าวถึงการเปรยี บเทยี บซง่ึ มีท้ังการเปรยี บเทียบสงิ่ ท่ีเหมือนกนั และเปรียบเทียบส่งิ ที่

แตกต่างกนั ครูอธบิ ายวธิ ีการทำใบกจิ กรรมท่ี 1.2 เรื่องเปรียบเทียบความแตกต่าง และใหผ้ ้เู รียนลงมือทำใบ
กจิ กรรมแลว้ สุ่มนกั เรียนนำเสนอคำตอบ

4. ข้นั ขยายความรู้ (elaboration)
ครูอธิบายวา่ การเปรยี บเทียบของสองส่ิงโดยพิจารณาอย่างรอบดา้ นจะชว่ ยให้สามารถตัดสนิ ใจ

เลอื กได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมกบั สถานการณ์
5. ขน้ั ประเมิน (evaluation)
1. ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะคนพิจารณาวา่ จากหัวขอ้ ทีเ่ รียนมาและการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม มจี ดุ ใดบ้าง

ทย่ี ังไม่เข้าใจหรือยงั มีข้อสงสัย ถา้ มี ครชู ว่ ยอธบิ ายเพิ่มเติมใหน้ ักเรยี นเข้าใจ
2. นักเรยี นร่วมกันประเมนิ การปฏิบัตกิ ิจกรรมกลุ่มว่ามปี ัญหาหรอื อปุ สรรคใด และได้มีการ

แก้ไขอย่างไรบา้ ง
3. ครูและนกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม

และการนำความร้ทู ี่ไดไ้ ปใชป้ ระโยชน์

8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล
การประเมินการเรยี นรขู้ องนักเรยี นทำได้ ดงั นี้
1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชนั้ เรียน
2. ประเมินการเรยี นรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจดั การเรยี นรแู้ ละจากแบบบันทึก

กิจกรรม
3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนักเรียน

การประเมนิ จากการทำกจิ กรรม

ระดบั คะแนน

3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรบั ปรุง

รหสั ส่งิ ทปี่ ระเมนิ ระดับคะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

S1 การสังเกต

S8 การลงความเหน็ จากข้อมลู

S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ

ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21

C4 การสื่อสาร

C5 ความร่วมมอื

9. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้
- หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 สสวท.
- แบบฝึกทักษะรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 สสวท.
- http://goo.gl/36VTbq
- http://goo.gl/aRoyMt
- http://goo.gl/GMBD5J

10. ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศกึ ษา/ผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ.......................................................... แล้วมีความเหน็ ดังน้ี
1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 ดมี าก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
 ยงั ไม่เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป
3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 นำไปใช้ไดจ้ ริง
 ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

.................................................................................................................................................... ..........................
......................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอื่ ..................................................
(.................................................)

วันท่ี........เดือน...............พ.ศ. ...........

11. บันทกึ ผลหลังการสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหน่ง............................................

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 3

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ รายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วทิ ยาการคํานวณ)

ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา ..........

เรอ่ื ง โป้ง ก้อย และ อ่ิม ตอน เปรียบเทยี บและตัดสินใจ เวลา 1 ชว่ั โมง

ครูผ้สู อน.........................................

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวติ จรงิ อยา่ งเป็นขน้ั ตอน

และเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหา
ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทันและมจี ริยธรรม

ตัวชี้วัด ป.1/1 แก้ปญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้การลองผิดลองถูก การเปรียบเทียบ

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (ความร,ู้ ทักษะ, เจตคติ)
1. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การเปรยี บเทียบของสิ่งตา่ ง ๆ
2. นักเรียนสามารถเปรยี บเทียบความเหมือนและความแตกต่างของส่ิงตา่ ง ๆ ได้
3. นกั เรยี นมีเจตคตติ ่อวชิ าวทิ ยาศาสตรไ์ ปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้

3. สาระสำคญั
เมื่อเปรียบเทยี บของสองสง่ิ พบความเหมือนและความแตกตา่ ง อาจขน้ึ อยู่กับลกั ษณะภายนอก

หรือการใช้งาน

4. สาระการเรียนรู้
- การเปรียบเทียบ

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง
3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

6. ชิ้นงานหรือภาระงาน
ใบกิจกรรมท่ี 1.3 เปรียบเทียบและตัดสินใจ

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ดำเนนิ การเรียนการสอนดังต่อไปน้ี

1. ขัน้ สร้างความสนใจ (engagement)
1. ครใู ช้คำถามนำเขา้ ส่บู ทเรียน “นกั เรยี นรู้จกั รถมอเตอร์ไซค์และรถจักรยานหรือไม่” จากนัน้

ถามต่อว่า “รถมอเตอรไ์ ซค์กับรถจักรยานมีความเหมือนและแตกต่างกนั อยา่ งไรบ้าง"
2. ข้นั สำรวจและคน้ หา (exploration)
1. ครูเขียนคำตอบของนักเรยี นบนกระดานจากนน้ั ครูอธิบายเพ่มิ เติมวา่ การเปรียบเทียบส่งิ ของ

สามารถพิจารณาจากคุณสมบัตดิ า้ นต่าง ๆ เชน่ ขนาด จากน้นั ครูให้นักเรียนรว่ มกันพจิ ารณาคำตอนอื่นแล้ว
บอกว่าคำตอบน้นั พิจารณาจากคณุ สมบัติดา้ นใด

3. ข้ันอธบิ ายและลงข้อสรุป (explanation)
1. ครูนำนักเรยี นศึกษาเนื้อหาในหนังสอื เรยี นบทที่ 1 เร่ือง โปง้ ก้อย และอิ่ม
2. ครอู ธบิ ายวิธกี ารทำใบกจิ กรรมท่ี 1.3 เร่อื งเปรยี บเทียบและตดั สินใจ จากน้ันใหน้ ักเรยี นทำ

ใบกจิ กรรมแล้วส่มุ นกั เรยี นออกมานำเสนอคำตอบ
3. ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายและสรปุ การเปรียบเทยี บวา่ มีทัง้ การเปรยี บเทยี บส่ิงท่ี

เหมือนกันเปรียบเทียบส่งิ ท่ีแตกตา่ งกันนอกจากน้ียังต้องพิจารณาเง่อื นไขต่าง ๆ ที่ไดจ้ ากการเปรยี บเทยี บมา
ประกอบการตัดสนิ ใจการเปรียบเทยี บของสองสิง่ โดยพจิ ารณาอย่างรอบดา้ นจะชว่ ยให้สามารถตัดสนิ ใจเลือก
ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมกับสถานการณ์

4. ขั้นขยายความรู้ (elaboration)
ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ยกตัวอย่างการเปรยี บเทียบที่เกย่ี วขอ้ งกับชวี ิตประจำวัน เช่น
- การเลือกยางลบ เช่น ราคาถูกหรือราคาแพง มลี ายการ์ตูนหรือไม่มลี าย ขนาดเลก็ หรือ

ขนาดใหญ่ มีกลนิ่ หรอื ไมม่ ีกลิ่น มรี ูปทรงเรขาคณิตหรือรปู สัตว์
- การเลือกทำกิจกรรมเช่นฟังเพลงหรือดูการต์ นู ลา้ งจานหรอื กวาดบา้ น ช่วยแมท่ ำอาหาร

หรอื ช่วยพ่อปลกู ตน้ ไม้
5. ขั้นประเมิน (evaluation)
1. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อทเี่ รียนมาและการปฏบิ ตั ิกิจกรรม มีจุดใดบ้าง

ท่ยี งั ไมเ่ ข้าใจหรือยงั มีข้อสงสยั ถ้ามี ครชู ่วยอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ให้นักเรียนเข้าใจ
2. นักเรียนรว่ มกันประเมินการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุ่มวา่ มปี ญั หาหรอื อุปสรรคใด และได้มีการ

แก้ไขอย่างไรบ้าง
3. ครูและนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั จากการปฏบิ ัติกิจกรรม

และการนำความรทู้ ี่ได้ไปใช้ประโยชน์

8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล
การประเมินการเรยี นรขู้ องนักเรยี นทำได้ ดงั นี้
1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภปิ รายในชนั้ เรียน
2. ประเมินการเรยี นรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจดั การเรยี นรแู้ ละจากแบบบันทึก

กิจกรรม
3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม

ของนักเรียน

การประเมนิ จากการทำกจิ กรรม

ระดบั คะแนน

3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรบั ปรุง

รหสั ส่งิ ทปี่ ระเมนิ ระดับคะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

S1 การสังเกต

S8 การลงความเหน็ จากข้อมลู

S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ

ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21

C4 การสื่อสาร

C5 ความร่วมมอื

9. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้
- หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 สสวท.
- แบบฝึกทักษะรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 สสวท.
- http://goo.gl/36VTbq
- http://goo.gl/aRoyMt
- http://goo.gl/GMBD5J

10. ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศกึ ษา/ผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ของ.......................................................... แล้วมีความเหน็ ดังน้ี
1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 ดมี าก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ งเหมาะสม
 ยงั ไม่เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป
3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 นำไปใช้ไดจ้ ริง
 ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

.................................................................................................................................................... ..........................
......................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอื่ ..................................................
(.................................................)

วันท่ี........เดือน...............พ.ศ. ...........

11. บันทกึ ผลหลังการสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหน่ง............................................

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคาํ นวณ)

ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา ..........

เรื่อง ครอบครวั ของเรา ตอน ลำดับเหตกุ ารณ์ เวลา 1 ชว่ั โมง

ครผู ้สู อน.........................................

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจริงอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน

และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหา
ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม

ตัวชว้ี ัด ป.1/2 แสดงลำดบั ข้ันตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาที่เป็นอัลกอริทมึ อย่างง่าย โดยใช้
ภาพ สญั ลกั ษณห์ รือข้อความ

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทกั ษะ, เจตคต)ิ
1. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั การลำดบั เหตุการณ์ หรือเรอื่ งราวได้อยา่ งถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถเรยี งลำดับเหตุการณ์ หรือเรื่องราวตา่ ง ๆ ได้อยา่ งถูกต้องตามลำดับ
3. นักเรยี นมีเจตคตติ ่อวชิ าวิทยาศาสตร์ไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้

3. สาระสำคญั
การเลา่ เหตกุ ารณ์ หรือเร่ืองราว จะต้องจัดลำดับขั้นตอนให้ถูกต้อง ในบางครง้ั อาจมีลำดับที่ถูกต้อง

มากกว่า 1 แบบ

4. สาระการเรยี นรู้
- การเลา่ นทิ าน
- การเลา่ กจิ วัตรประจำวนั

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
3. มุง่ มัน่ ในการทำงาน

6. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน
ใบกจิ กรรมท่ี 2.1 การลำดับเหตุการณ์
ใบกิจกรรมที่ 2.2 เรียงลำดับนิทาน

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั ดำเนินการเรียนการสอนดงั ต่อไปน้ี

1. ขนั้ สร้างความสนใจ (engagement)
1. ครใู ชค้ ำถามนำเขา้ สบู่ ทเรียน “หลงั จากทนี่ กั เรียนตน่ื นอนตอนเชา้ นกั เรยี นทำกิจวัตรใดบา้ ง

ก่อนไปโรงเรยี น”
2. ครูเขยี นคำตอบของนักเรียนบนกระดาน

2. ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration)
1. ครนู ำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในหนงั สือเรยี นบทที่ 2 เร่อื งครอบครัวของเรา
2. ครูอธบิ ายวิธีการทำใบกจิ กรรมท่ี 2.1 เร่ือง การลำดบั เหตกุ ารณ์ จากนั้นให้นกั เรียนทำใบ

กิจกรรม แลว้ ส่มุ นกั เรยี นนำเสนอคำตอบ
3. ครูอธิบายว่าการเล่าเหตุการณ์ควรเรียงเหตกุ ารณ์ตามลำดบั เวลาที่เกดิ ขึน้ เพื่อใหเ้ กิดความ

ต่อเนอ่ื งและไม่สบั สน
3. ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (explanation)
1. ครนู ำนกั เรยี นศึกษาเนื้อหาในหนงั สอื เรียนบทท่ี 2 เรื่องครอบครัวของเรา
2. ครูถามนักเรียนว่า “นักเรียนเคยฟังนิทานหรือไมน่ ทิ านเร่ืองอะไร” และสมุ่ ใหน้ ักเรยี นเล่า

นิทานให้ฟัง จากนัน้ ครูนำเขา้ สกู่ ารทำใบกิจกรรมท่ี 2.2 โดยครูอธบิ ายวธิ กี ารทำใบกิจกรรมท่ี 2.2 เรือ่ ง
เรยี งลำดับนิทาน และครเู ล่านิทานเร่ืองราชสีห์กบั หนูแลว้ ให้นักเรยี นตอบคำถามในใบกิจกรรม จากนัน้ สมุ่
นักเรยี นนำเสนอคำตอบ ซึ่งสามารถเรยี งลำดบั ได้เพยี งแบบเดยี ว

4. ขั้นขยายความรู้ (elaboration)
1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายและสรุปวา่ การเล่าเหตุการณ์ควรเรยี งเหตุการณ์ตามลำดับ

เวลาทเี่ กดิ ขนึ้ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความตอ่ เน่ืองและไม่สบั สน การทำกิจกรรมเพ่อื ให้ไดผ้ ลลพั ธ์บางอย่างสามารถสลับ
ข้นั ตอนบางขั้นตอนได้

2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ยกตัวอยา่ งการสำดับเหตุการณแ์ ละการทำกจิ กรรมท่ีเป็นขน้ั ตอน ซง่ึ
เกี่ยวข้องกับชวี ติ ประจำวนั ตัวอยา่ งเหตุการณ์ เชน่ การไปเที่ยวกบั ครอบครวั เหตุการณ์ในการ์ตนู การเล่า
เร่ืองเก่ยี วกับส่ิงที่สนใจ วิธเี ล่นเกม ตวั อย่างกจิ กรรม เช่น การกวาดบ้าน การลา้ งจาน การทำกจิ กรรมทาง
ศาสนา

5. ข้นั ประเมนิ (evaluation)
1. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะคนพิจารณาวา่ จากหวั ขอ้ ทีเ่ รยี นมาและการปฏบิ ตั ิกิจกรรม มีจดุ ใดบ้าง

ทย่ี งั ไม่เขา้ ใจหรือยงั มีข้อสงสัย ถ้ามี ครชู ่วยอธบิ ายเพิ่มเติมใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ
2. นกั เรียนรว่ มกันประเมินการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุ่มว่ามปี ัญหาหรอื อุปสรรคใด และไดม้ ีการ

แก้ไขอยา่ งไรบ้าง
3. ครูและนักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม

และการนำความร้ทู ี่ได้ไปใช้ประโยชน์

8. กระบวนการวัดและประเมินผล
การประเมนิ การเรยี นรขู้ องนักเรียนทำได้ ดงั นี้
1. ประเมินความรเู้ ดิมจากการอภปิ รายในชน้ั เรยี น
2. ประเมินการเรียนรจู้ ากคำตอบของนกั เรียนระหวา่ งการจดั การเรยี นรู้และจากแบบบันทึก

กิจกรรม
3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 จากการทำกจิ กรรม

ของนักเรยี น

การประเมินจากการทำกจิ กรรม

ระดบั คะแนน

3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ

รหัส สง่ิ ทปี่ ระเมนิ ระดบั คะแนน

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

S1 การสงั เกต

S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล

S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรปุ

ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21

C4 การสอ่ื สาร

C5 ความรว่ มมือ

9. สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้
- หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 สสวท.
- แบบฝกึ ทักษะรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)

ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 สสวท.

- http://goo.gl/4H5McH คลิปวดิ ีโอ นิทานเรอื่ ง ราชสีห์กับหนู
- http://goo.gl/26Xvhs กลไกลการทำงานตอ่ เน่ืองเป็นลำดบั ข้ันตอน
- http://goo.gl/9h7wUC ตัวอย่างความผิดพลาดของการทำกจิ กรรมที่ไมเ่ ป็นไป
ตามลำดับ

10. ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผูท้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรูข้ อง.......................................................... แล้วมีความเห็นดังนี้
1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่
 ดมี าก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรบั ปรงุ
2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่
 นำไปใช้ไดจ้ รงิ
 ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื ..................................................
(.................................................)

วนั ท่ี........เดือน...............พ.ศ. ...........

11. บันทกึ ผลหลังการสอน
 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ลงชื่อ..................................................ครผู ู้สอน
(.................................................)

ตำแหน่ง............................................

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 5

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ รายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วทิ ยาการคาํ นวณ)

ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา ..........

เรือ่ ง ครอบครัวของเรา ตอน เรียงให้เปน็ ลำดับ เวลา 1 ชว่ั โมง

ครูผ้สู อน.........................................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาทพี่ บในชีวติ จรงิ อย่างเป็นข้ันตอน

และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหา
ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ รเู้ ท่าทันและมีจรยิ ธรรม

ตวั ช้ีวดั ป.1/2 แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปญั หาท่ีเป็นอลั กอริทึมอย่างง่าย โดยใช้
ภาพ สญั ลกั ษณห์ รือข้อความ

2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (ความรู้, ทกั ษะ, เจตคต)ิ
1. นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การลำดับเหตกุ ารณ์ หรือเรอ่ื งราวได้อยา่ งถกู ต้อง
2. นักเรยี นสามารถเรยี งลำดับเหตุการณ์ หรอื เร่ืองราวต่าง ๆ ไดอ้ ย่างถกู ต้องตามลำดับ
3. นักเรียนมีเจตคตติ ่อวิชาวทิ ยาศาสตร์ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้

3. สาระสำคญั
การเลา่ เหตุการณ์ หรอื เร่ืองราว จะตอ้ งจัดลำดับขัน้ ตอนให้ถูกต้อง ในบางคร้งั อาจมีลำดับท่ถี ูกต้อง

มากกว่า 1 แบบ

4. สาระการเรยี นรู้
- การเล่านทิ าน
- การเลา่ กิจวัตรประจำวนั

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

6. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน
ใบกิจกรรมที่ 2.3 เรยี งให้เปน็ ลำดบั

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

โดยเน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคญั ดำเนนิ การเรยี นการสอนดงั ต่อไปน้ี

1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement)
1. ครใู ช้คำถามนำเขา้ ส่บู ทเรยี น “หลังจากทีน่ ักเรยี นตืน่ นอนตอนเช้านกั เรียนทำกจิ วัตรใดบ้าง

ก่อนไปโรงเรยี น”
2. ครูเขยี นคำตอบของนักเรยี นบนกระดาน

2. ขัน้ สำรวจและค้นหา (exploration)
1. ครนู ำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในหนังสอื เรยี นบทที่ 2 เรอ่ื งครอบครวั ของเรา
2. ครอู ธบิ ายวา่ การเล่าเหตกุ ารณ์ควรเรยี งเหตกุ ารณต์ ามลำดบั เวลาท่ีเกิดข้ึน เพ่อื ให้เกิดความ

ตอ่ เนอ่ื งและไม่สับสน
3. ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ (explanation)
1. ครนู ำนกั เรียนศึกษาเนื้อหาในหนังสอื เรยี นบทท่ี 2 เรื่องครอบครัวของเรา
2. ครูอธิบายวธิ ีการทำใบกิจกรรมที่ 2.3 เรื่องเรยี งใหเ้ ปน็ ลำดับ จากนน้ั ใหน้ ักเรียนทำใบ

กิจกรรมแล้วสุม่ นักเรยี นออกมานำเสนอคำตอบ สำหรับในข้อที่ 2 ครูอาจให้นักเรียนนำเสนอกจิ วตั รประจำวนั
อนื่ ๆ เพ่มิ เตมิ จากท่กี ำหนดใหใ้ นโจทย์

3. ครกู ลา่ ววา่ บางเหตกุ ารณ์อาจจะมีการเรียงลำดบั สลบั ข้ันตอนได้บางข้นั ตอน โดยทผี่ ลลพั ธ์
ไม่เปล่ียนแปลง ดงั ทีน่ กั เรียนไดท้ ำในใบกิจกรรมที่ 2.3 และครยู กตัวอยา่ งเพิ่มเติม เชน่ การอาบนำ้ ก่อนการ
แปรงฟัน

4. ขน้ั ขยายความรู้ (elaboration)
1. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปว่าการเลา่ เหตุการณค์ วรเรียงเหตุการณต์ ามลำดับ

เวลาท่ีเกดิ ขนึ้ เพ่อื ให้เกิดความตอ่ เนื่องและไม่สับสน การทำกจิ กรรมเพ่ือใหไ้ ดผ้ ลลัพธบ์ างอยา่ งสามารถสลับ
ข้นั ตอนบางข้นั ตอนได้

2. ครูและนักเรียนร่วมกนั ยกตัวอย่างการสำดบั เหตกุ ารณ์และการทำกิจกรรมที่เปน็ ขนั้ ตอน ซง่ึ
เก่ยี วข้องกบั ชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเหตกุ ารณ์ เชน่ การไปเที่ยวกับครอบครวั เหตุการณ์ในการ์ตูน การเลา่
เรื่องเก่ียวกับส่ิงท่สี นใจ วธิ เี ล่นเกม ตวั อยา่ งกิจกรรม เชน่ การกวาดบา้ น การลา้ งจาน การทำกิจกรรมทาง
ศาสนา


Click to View FlipBook Version