รูปแบบการแสดง
นาฏศิลป์ไทย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ความหมาย
ระบำ รำ ฟ้อน คือ ศิลปะการร่ายรำอย่างหนึ่ง
ที่มุ่งหมายความสวยงามของท่าทาง และความรื่นเริง
บันเทิงใจ ไม่มีการดำเนินเรื่องราว มีกิริยาการเคลื่อนไหว
ที่เน้นให้เข้ากับจังหวะดนตรี และจะมีเนื้อเพลงหรือไม่มี
เนื้อเพลงก็ได้ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกท้องถิ่น
MEANING
"รำ"
คือ การแสดงที่มุ่งความงามของการร่ายรำ
เป็นการแสดงท่าทางลีลาของผู้รำ โดยใช้มือแขนเป็นหลัก
ซึ่งอาจจะเป็นการนั่งรำ หรือการรำเคลื่อนไหวเพียงครึ่งตัว
หรือทั้งตัวก็ได้
ประเภทการรำ
รำเดี่ยว (รำคนเดียว)
รำคู่
-รำคู่กัน 2 คน อาจมีหลายคู่ก็ได้
รำหมู่
-รำตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป/หลายคน
แต่มีความเป็นหนึ่งเดียว
"รำเดี่ยว"
เป็นการรำที่ใช้ผู้แสดงเพียงคนเดียว
จุดมุ่งหมายคือ ต้องการอวดฝีมือในการรำ หรือต้องการ
สลับฉาก เพื่อรอการจัดฉากหรือตัวละครที่แต่งกายยังไม่
เสร็จเรียบร้อย
การรำเดี่ยว เช่น การรำฉุยฉายต่างๆ
รำมโนราห์บูชายัญ รำพลายชุมพล ฯลฯ
-ตัวอย่างการแสดง-
"รำเดี่ยว"
-รำฉุยฉายทศกัณฑ์ลงสวน-
-รำพลายชุมพล- -รำมโนห์ราบูชายัญ-
"รำคู่"
แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ รำคู่ในเชิงศิลปะ
การต่อสู้ ไม่มีบทร้อง และรำคู่ในชุดสวยงาม
การรำคู่ในเชิงศิลปะการต่อสู้ ได้แก่
กระบี่ กระบอง ดาบสองมือ โล่ ดาบ เขน ดั้ง ทวน และ
รำกริช เป็นการรำไม่มีบทร้อง ใช้สลับฉากในการแสดง
การรำคู่ในชุดสวยงาม ท่ารำในการรำจะต้องประดิษฐ์
ให้สวยงาม ทั้งท่ารำที่มีคำร้องตลอดชุด หรือมีบาง
ช่วง เพื่ออวดลีลาท่ารำ มีบทร้องและใช้ท่าทางแสดง
ความหมายในตอนนั้น ๆ ได้แก่ หนุมานจับสุพรรณ
มัจฉา หนุมานจับนางเบญกาย พระรามตามกวาง
พระลอตามไก่ รามสูร เมขลา รจนาเสี่ยงพวงมาลัย
ฯลฯ
"รำหมู่"
เป็นการแสดงมากกว่า ๒ คนขึ้นไป เช่น
รำโคม
ญวนรำกระถาง
รำวงมาตรฐาน และรำวงทั่วไป
รวมถึงการแสดงพื้นเมืองของชาวบ้าน เช่น
เต้นกำรำเคียว
รำกลองยาว
"ระบำ"
คือ ศิลปะของการร่ายรำที่แสดงพร้อมกัน เป็นหมู่ เป็นชุด
ความงามของการแสดงระบำอยู่ที่ความสอดประสานกลมกลืนกัน
ด้วยความพร้อมเพรียง
การแสดงมีทั้งเนื้อร้องและไม่มีเนื้อร้องก็ได้ใช้เพียงดนตรี
ประกอบ
คำว่า "ระบำ" ได้รวมเอา "ฟ้อน" และ "เซิ้ง" เข้าไว้ด้วยกัน
เพราะ วิธีการแสดงไปในรูปเดียวกัน แตกต่างกันที่วิธีร่ายรำ และ
การแต่งกายตามระเบียบประเพณีตามท้องถิ่น
ระบำแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ระบำดั้งเดิมหรือระบำมาตรฐาน
ระบำปรับปรุงหรือระบำเบ็ดเตล็ด
ระบำดั้งเดิม
หรือ ระบำมาตรฐาน
เป็นระบำดั้งเดิมที่มีมาแต่โบราณ
ไม่สามารถนำมาเปลี่ยนแปลงท่ารำได้ เพราะถือว่าเป็นการ
ร่ายรำที่เป็นแบบฉบับบรมครูนาฏศิลป์ได้คิดประดิษฐ์ไว้ และ
นิยมนำมาเป็นแบบแผนในการร่ายรำที่เคร่งครัด
การแต่งกาย ของระบำประเภทนี้ มักแต่งกายในลักษณะ
"ยืนเครื่อง"
-ตัวอย่างการแสดง-
"ระบำมาตรฐาน"
-ระบำซัดชาตรี-
-ระบำย่องหงิด- -ระบำพรหมมาสตร์-
-ตัวอย่าง-
การแต่งกายแบบยืนเครื่อง
-ยืนเครื่องนาง- -ยืนเครื่องพระ-
ระบำปรับปรุง
หรือระบำเบ็ดเตล็ด
เป็นระบำที่ปรับปรุงขึ้นมาใหม่ โดยการประดิษฐ์ท่ารำ
ใหม่ขึ้นเป็นชุดๆ
แต่งกายตามรูปแบบและเนื้อหาของลักษณะการแสดง
มักเน้นความวิจิตรงดงามของท่ารำ และการแต่งกาย
ระบำปรับปรุง
หรือระบำเบ็ดเตล็ด
ตัวอย่างระบำชุดต่างๆ ได้แก่
ระบำชุดโบราณคดี : จุดประสงค์เพื่อให้ผู้ชมสนใจ
โบราณคดี โดยอาศัยศิลปะโบราณวัตถุมาประดิษฐ์
ท่ารำและการแต่งกาย เช่น
ระบำทวารวดี ระบำเชียงแสน ระบำสุโขทัย ระบำศรีวิชัย
ระบำลพบุรี ระบำศรีชัยสิงห์ เป็นต้น
ระบำสัตว์ : เป็นระบำที่เลียนแบบอิริยาบทของสัตว์ เช่น
ระบำไก่ ระบำปลา ระบำนกเขา ระบำเงือก ระบำกินรีร่อน
ระบำบันเทิงกาสร ระบำอัศวลีลา ระบำมยุราภิรมย์
เป็นต้น
ระบำวีรชัย : ระบำที่แสดงถึงการยกทัพของมนุษย์ ยักษ์
และสัตว์ เน้นความพร้อมเพรียงคึกคัก เช่น
ระบำวีรชัยยักษ์ ระบำวีรชัยลิง ระบำกราวยักษ์
ระบำวีรชัยครุฑ เป็นต้น
ระบำสุโขทัย ระบำลพบุรี
ระบำไก่
ระบำปรับปรุง
หรือระบำเบ็ดเตล็ด (ต่อ)
ตัวอย่างระบำชุดต่างๆ ได้แก่
ระบำแสดงความสัมพันธ์ระหว่างชาติ : ระบำที่แสดงให้เห็น
ถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างชาติไทยกับต่างชาติ นับตั้งแต่
พ.ศ. 2498 เป็นต้นมา เช่น ระบำพม่า-ไทยอธิษฐาน (2498)
ระบำลาว-ไทยปณิธาน (2500)
ระบำไทย-จีนไมตรี (2519) ระบำมิตรไมตรีญี่ปุ่น-ไทย (2514)
ระบำมิตรไมตรีเกาหลี-ไทย (2524) เป็นต้น
ระบำที่ประกอบการแสดงโขน-ละคร : เป็นระบำที่ประดิษฐ์
ใหม่ เพื่อใช้ประกอบการแสดงต่างๆ เช่น ระบำพนรัตน์
ประกอบการแสดงละครนอก เรื่อง สุวรรณหงส์ / ระบำม่าน
มงคล ประกอบการแสดงละครพันทาง เรื่อง ราชาธิราช /
ระบำไกรลาสสำเริง ประกอบการแสดงละครนอก เรื่อง
มโนห์รา เป็นต้น
"ฟ้อน"
การแสดงกริยาเดียวกับระบำหรือการรำ
เพียงแต่เรียกให้แตกต่างกันไปตามท้องถิ่น จัดเป็นการแสดง
พื้นเมืองของภาคนั้นๆ แต่ในรูปของการแสดงแล้วก็คือ
ลักษณะการร่ายรำ ที่ผู้แสดงต้องแสดงให้ประณีตงดงาม
โดยสืบทอดมาจากศิลปะของชนชาติต่างๆ ที่มีการก่อตั้งชุมชน
อาศัยอยู่ในอาณาเขตล้านนามาช้านาน นอกจากนี้ยังมีลักษณะ
ของการรับอิทธิพลจากศิลปะของชนชาติที่อยู่ใกล้เคียงกันด้วย
ฟ้อนภูไท ฟ้อนเล็บ