The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน

ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน

ไฟฟาในชวี ติ ประจาํ วนั

ความหมายไฟฟา ราชบณั ฑิตยสถานได้ให้ความหมาย
ของคําวา่ “ไฟฟา” ไวว้ า่

"พลังงานรปู แบบหนงึ ซงึ เกียวขอ้ งกับการแยก
ตัวออกมา หรอื การเคลือนทีของอิเล็กตรอน
หรอื โปรตอน หรอื อนภุ าคอืนทีมสี มบตั ิแสดง
อํานาจคล้ายคลึงกับอิเล็กตรอนหรอื โปรตอน
ใชป้ ระโยชนก์ ่อใหเ้ กิดพลังงานอืน เชน่
ความรอ้ น แสงสวา่ ง การเคลือนที เปนต้น"

แบง่ ประเภทของไฟฟาเปน 2 ประเภท คือ

ไฟฟาสถิต ไฟฟากระแส

ไฟฟาสถิต

ปรมิ าณประจุไฟฟาบวกและลบทีค้างอยูบ่ นพนื
ผวิ วสั ดไุ มเ่ ท่ากันและไมส่ ามารถทีจะไหลหรอื

ถ่ายเทไปทีอืนๆได้
เนอื งจากวสั ดนุ นั เปนฉนวนหรอื เปนวสั ดทุ ีไมน่ าํ
ไฟฟาจะแสดงปรากฏการณใ์ นรปู การดงึ ดดู การ
ผลักกันหรอื เกิดประกายไฟ ซงึ ปรากฏการณก์ าร
เกิดไฟฟาสถิตในธรรมชาติ เชน่ ฟาแลบ ฟารอ้ ง
ฟาผา่ เปนต้น

หลักการเกิดไฟฟาสถิตสามารถนาํ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้หลายอยา่ ง เชน่
ทําใหเ้ กิดภาพบนจอโทรทัศน์ ทําใหเ้ กิดภาพในเครอื งถ่ายเอกสาร เครอื ง
เอกซเรย์ ชว่ ยในการพน่ สรี ถยนต์ จนถึงการทํางานของไมโครชพิ ในเครอื ง

คอมพวิ เตอร์ เปนต้น

ฟาแลบ ฟารอ้ ง

ไฟฟากระแส

การไหลของอิเล็กตรอนภายในตัวนาํ ไฟฟาจากที
หนงึ ไปอีกทีหนงึ

เชน่ ไหลจากแหล่งกําเนดิ ไฟฟาไปสแู่ หล่งทีต้องการใช้
กระแสไฟฟา ซงึ ก่อใหเ้ กิดแสงสวา่ ง

เมอื กระแสไฟฟาไหลผา่ นลวดความต้านทานสงู จะก่อ
ใหเ้ กิดความรอ้ น เราใชห้ ลักการเกิดความ
รอ้ น มาประดษิ ฐอ์ ุปกรณไ์ ฟฟา เชน่

ตัวอยา่ ง

เตาหงุ ต้ม เตารดี ไฟฟา

กระแสไฟฟาแบง่ ออกเปน 2 ชนดิ คือ

ไฟฟากระแสตรง
(Direct Current หรอื DC)

ไฟฟากระแสสลับ
(Alternating Current หรอื AC)

ไฟฟากระแสตรง ถ่านไฟฉาย
(Direct Current หรอื DC) ไดนาโม

ทีมที ิศทางการไหลไปทางเดียวตลอดระยะเวลา
ทีวงจรไฟฟาปด กล่าวคือ กระแสไฟฟาจะไหลจาก

ขวั บวกภายในแหล่งกําเนิดผา่ นตัวต้านทาน
หรอื โหลดผา่ น ตัวนาํ ไฟฟาแล้วยอ้ นกลับเขา้
แหล่งกําเนิดทีขวั ลบเปนทางเดยี วเชน่ นตี ลอด

เวลา

ประโยชนข์ องกระแสไฟฟาตรง

ใชใ้ นการทดลองทางเคมี เชน่ ใชใ้ นการชุบโลหะต่าง ๆ
การนาํ นาํ มาแยกเปนออกซเิ จน ใชเ้ ชอื มโลหะและตัดแผน่ เหล็ก

และไฮโดรเจน เปนต้น ใชใ้ นการประจุกระแสไฟฟาเขา้ แบตเตอรี

ทําให้เหล็กมอี ํานาจแมเ่ หล็ก

ใชใ้ นวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์ ใชเ้ ปนอุปกรณอ์ ํานวยความ
สะดวก เชน่ ไฟฉาย เปนต้น

ไฟฟากระแสสลับ การเกิดคลืนของ
(Alternating Current หรอื AC) กระแสไฟฟาสลับ

มกี ารไหลกลับไปกลับมา ทังขนาดของกระแส
และแรงดันไมค่ งที เปลียนแปลงอยูเ่ สมอ คือ
กระแสจะไหลไปทางหนึงก่อน ต่อมาก็จะไหลสวน
กลับแล้วก็เรมิ ไหลเหมอื นครงั แรก การทีกระแส
ไฟฟาไหลไปตามลกู ศรเสน้ ทึบด้านบนครงั หนึงและ
ไหลไปตามลกู ศรเสน้ ประด้านล่างอีกครงั หนึง เรยี ก
วา่ 1 รอบ

ประโยชนข์ องกระแสไฟฟาสลับ

ใชก้ ับระบบแสงสวา่ งได้ดี ใชก้ ับเครอื งใชไ้ ฟฟาทีต้องการ
กําลังมาก ๆ

ใชก้ ับเครอื งอํานวยความสะดวกและ
อุปกรณไ์ ฟฟาได้เกือบทกุ ชนดิ

การกําเนิดของไฟฟาทีสาํ คัญ

มดี ้วยกัน 5 วธิ ี

1. ไฟฟาทีเกิดจากการเสยี ดสขี องวตั ถุ

เกิดขนึ จากการนาํ วตั ถตุ ่างกัน 2 ชนดิ
มาขดั สกี ันผลของการขดั สดี งั กล่าวทําใหเ้ กิดความไม่

สมดลุ ขนึ ของประจุไฟฟาในวตั ถทุ ังสอง
เนอื งจาก เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟา วตั ถทุ ังสองจะ
แสดงศักยไ์ ฟฟาออกมาต่างกัน วตั ถชุ นดิ หนงึ แสดง
ศักยไ์ ฟฟาบวก (+) ออกมา วตั ถอุ ีกชนดิ หนงึ แสดงศักย์

ไฟฟาลบ (-) ออกมา ซงึ เรยี กวา่

“ไฟฟาสถิต”

ตัวอยา่ ง

จากแท่งยางกับผา้ ขนสตั ว์
แท่งแก้วกับผา้ แพร

แผน่ พลาสติกกับผา้
หวกี ับผม

2. ไฟฟาทีเกิดจากการทําปฏิกิรยิ าทางเคมี

ทีเกิดจากการนาํ โลหะ 2 ชนดิ

ทีแตกต่างกัน โลหะทังสองจะทําปฏิกิรยิ าเคมกี ับสาร
ละลายอิเล็กโทรไลท์ ซงึ ปฏิกิรยิ าทางเคมแี บบนี

เรยี กวา่ “โวลตาอิกเซลล์”

สงั กะสกี ับทองแดงจุม่ ลงในสารละลายอิเล็กโทรไลท์ จะ
เกิดปฏิกิรยิ าเคมที ําใหเ้ กิดไฟฟาดงั ตัวอยา่ งในแบตเตอรี

และถ่านอัลคาไลน์ (ถ่านไฟฉาย) เปนต้น

ตัวอยา่ ง

แบตเตอรี
ถ่านอัลคาไลน์ 1.5 โวลต์

ถ่านอัลคาไลน์ 9 โวลต์

3. ไฟฟาทีเกิดจากความรอ้ น

ทีเกิดขนึ จากการนาํ แท่งโลหะหรอื แผน่ โลหะต่างชนิดกัน 2 แท่ง โดยนาํ ปลายดา้ นหนงึ ของ
โลหะทังสองต่อติดกันดว้ ยการเชอื มหรอื ยดึ ดว้ ยหมุดปลายทีเหลืออีกดา้ นนาํ ไปต่อกับมเิ ตอร์

วดั แรงดนั เมอื ใหค้ วามรอ้ นทีปลายด้านต่อติดกันของโลหะทัง

สอง สง่ ผลใหเ้ กิดการแยกตัวของประจุไฟฟาเกิดศักยไ์ ฟฟาขนึ ทีปลายด้านเปดของโลหะ

แสดงค่า ออกมาทีมเิ ตอร์

4. ไฟฟาทีเกิดจากพลังงานแสงอาทิตย์

สรา้ งเซลล์แสงอาทิตย(์ Solar Cell) ทีทําหนา้ ที
เปลียนพลังงานแสงอาทิตยใ์ หเ้ ปนพลังงานไฟฟา
ปจจุบนั เครอื งใชไ้ ฟฟาหลายชนดิ ใชพ้ ลังงานแสง

อาทิตยไ์ ดแต่ค่าใชจ้ า่ ยในการผลิตกระแสไฟฟา
จากแสงอาทิตยค์ ่อนขา้ งสงู

นา ิกาขอ้ มอื

เครอื งคิดเลข

5. ไฟฟาทีเกิดจากพลังงานแมเ่ หล็กไฟฟา

ไดม้ าจากพลังงานแมเ่ หล็กโดยวธิ กี ารใชล้ วดตัวนาํ ไฟฟาตัดผา่ นสนาม
แมเ่ หล็ก หรอื การนาํ สนามแมเ่ หล็กวงิ ตัดผา่ นลวดตัวนาํ

อยา่ งใดอยา่ งหนงึ ทังสองวธิ นี จี ะทําใหม้ กี ระแสไฟฟาไหลในลวดตัวนาํ
นนั กระแสทีผลิตไดม้ ที ังกระแสตรงและกระแสสลับ

อุปกรณไ์ ฟฟา

สายไฟ (wireอุป) กรณห์ รอื ตัวกลางในการสง่ พลังงานไฟฟาเปน

อุปกรณท์ ีนาํ กระแสไฟฟาไหลผา่ นไปยงั เครอื งใชไ้ ฟฟา

สายทนความรอ้ น

ใชก้ ับเครอื งใ้ชไ้ ฟฟาทีใชก้ ระแส
ไฟฟามาก

เตาไฟฟา
เตารดี ไฟฟา

สายไฟคู่ สายไฟค่อู ่อน

ใชเ้ ดนิ ไฟในบา้ นจะมลี ักษณะแบน ใชก้ ับเครอื งใชไ้ ฟฟาทีใชก้ ระแสไฟ
ภายในทําจากลวดทองแดงหมุ้ ไมม่ ากนกั เก็บมว้ นได้ เชน่ สายไฟ

ดว้ ยฉนวนพวี ซี ี วทิ ยุ พดั ลม

สายไฟเดียว

ใชใ้ นการเดนิ สายโดยการรอ้ ย
เขา้ ไปในท่อทีใชส้ าํ หรบั รอ้ ยสายไฟ
หรอื รางเดนิ ไฟสามารถฝงไปใน

ผนงั ได้

สวติ ช์ (swทitําcหhน)า้ ทีตัดหรอื ต่อวงจรไฟฟาในสว่ นทีต้องการ สวติ ชจ์ ะ

ต่อกับสายไฟทีเชอื มจากแหล่งกําเนดิ ไปยงั เครอื งใชไ้ ฟฟา
ถ้าเราไมต่ ้องการให้เครอื งใชไ้ ฟฟาทํางานก็ปดสวติ ช์

สวติ ชท์ างดียว

พบมากทีสดุ นาํ มาใชค้ วบคมุ เปด
ปดวงจรมชี วั 2ขวั ถ้ากดปดวงจร
หรอื สวติ ชก์ ็จะทําใหข้ วั ทัง2เชอื ม
ต่อกันครบวงจรกระแสไฟฟาไหล

อุปกรณไ์ ฟฟาทํางานได้

สวติ ช2์ ทาง

เปลียนทิศทางการเคลือนทีของ
กระแสไฟฟาบงั คับใหก้ ระแสไหล
ไป2ทาง แต่จะไหลทางใดทางหนงึ

เท่านนั มขี วั อยู3่ ขวั

สวติ ชอ์ ัตโนมตั ิ

หรอื เชอรก์ ิตเบรคเกอร์
สามารถตัดวงจรไฟฟาไดเ้ องเมอื

มกี ระแสไฟฟาไหลเกิน

ฟวส์ (fusเeป)นอุปกรณท์ ีใชต้ ัดวงจรไฟฟาไหลผา่ นมากเกินไปหรอื

เมอื เกิดไฟฟาลัดวงจร ทําจากตะกัวผสมดีบุกและบสิ มทั
เล็กนอ้ ย

ฟวสเ์ สน้

ใชก้ ับสะพานไฟทัวไป

ฟวสแ์ ผน่ ฟวสห์ ลอด

ใชต้ ่อกับสะพานไฟกระแสไฟฟา ใชใ้ นอุปกรณไ์ ฟฟาต่างๆ เชน่
ไหลผา่ นไดม้ ากกวา่ ฟวสเ์ สน้ วทิ ยุ โทรทัศน์

ฟวสก์ ระเบอื ง

ใชต้ ่อกับสายเมนทีต่อเขา้ บา้ น
เรอื นเปนฟวสท์ ีทนกระแสไฟฟาได้

มาก

สะหกพ(เรปcรอืาดะuแเนหรtสรยีไไoอืฟกฟปuวฟฟดา่ tาวค)าเงพัตภจอื เราอใยไหาฟใท้สนฟ์าเบมาปา้ภานนราอไยถดุปใซน้อกอ่ ยบรมา่ณา้ แงนซไ์ปเฟปมลฟนออุตาปดทัวกภีใทรัยชีณใส้ชาํ ไ์ใ้ หนฟรกฟบั าารกตตา่ารัดงๆ

เต้ารบั (แsลoะcเkตe้าtเ)สยี บ

เปนอุปกรณท์ ีนาํ กระแสไฟฟาเขา้ สเู่ ครอื งใชไ้ ฟฟาเพอื ให้
สามารถทํางานได้ ภายในบา้ นหรอื อาคารจะติดเต้ารบั โดย

ต่อเชอื มกับวงจรไฟฟาแบบขนาน สว่ นเต้าเสยี บจะต่อ
เชอื มกับเครอื งใชส้ ายไฟฟาโดยใชส้ ายไฟฟาต่อเชอื ม

เต้าเสยี บแบบ2ขา เต้าเสยี บ เต้ารบั

ใชก้ ับเต้ารบั ชนดิ 2 ชอ่ ง

เต้าเสยี บแบบ 3 ขา เต้ารบั

ใชก้ ับเต้ารบั ชนดิ 3 ชอ่ งโดยขา เต้าเสยี บ
ที3จะเชอื มกับสายดนิ เพอื ปองกัน
อันตรายหากเกิดไฟฟารวั ขณะใช้

งาน

ปรมิ าณทางไฟฟา ความต่างศักยไ์ ฟฟา

กระแสไฟฟา
ความต้านทานไฟฟา

1.ความต่างศักยไ์ ฟฟา โวลต์มเิ ตอร์

ความแตกต่างของพลังงานไฟฟา
ระหวา่ งจุดสองจุด ซงึ ทําใหเ้ กิดกระแสไฟฟา โดยกระแส
ไฟฟาจะไหลจากจุดทีมรี ะดบั พลังงานไฟฟาสงู (ศักย์
ไฟฟาสงู ) ไปยงั จุดทีมรี ะดับพลังงานไฟฟาตํากวา่ (ศักย์
ไฟฟาต่ า) และจะหยุดไหลเมอื ศักยไ์ ฟฟาของทังสองจุด
เท่ากัน ศักยไ์ ฟฟาทีต่างกันระหวา่ งขวั ไฟฟาทังสองจะ
มากหรอื นอ้ ยนันขนึ อยูก่ ับชนดิ ของสารทีทําขวั ไฟฟา ซงึ
สามารถวดั ความต่างศักยไ์ ฟฟาไดโ้ ดยใช้

โวลต์มเิ ตอร(์ VOLTMETER) มหี นว่ ยวดั
เปนโวลต์ (VOLT : V)

2. กระแสไฟฟา
ไฟฟากระแสตรง
ไฟฟากระแสสลับ

แอมมเิ ตอร์

3. ความต้านทานไฟฟา มลั ติมเิ ตอร์

สมบตั ิของตัวนาํ ไฟฟา (CONDUCTOR) ทียอม
ให้กระแสไหลผา่ นไดม้ ากหรอื นอ้ ย ซงึ เปนสมบตั ิ
เฉพาะตัวของตัวนาํ นนั ๆ จะมคี ่าแตกต่างกันไป
แล้วแต่ชนดิ ของตัวนาํ กล่าวคือตัวนาํ ไฟฟาทียอม
ใหก้ ระแสไฟฟาไหลผา่ นไดม้ ากจะมคี วาม
ต้านทานนอ้ ย สว่ นตัวนาํ ไฟฟาทียอมใหก้ ระแสไฟฟา
ไหลผา่ นไดน้ อ้ ยจะมคี วามต้านทานมาก
ความต้านทานไฟฟามหี นว่ ยเปน โอหม์ (OHM) ใช้
สญั ลักษณ์ V ตัวยอ่ ทีใชแ้ ทนความต้านทาน

ไฟฟา คือ Rและการวดั ค่าความต้านทานไฟฟา

ใชเ้ ครอื งมอื ทีเรยี กวา่ มลั ติมเิ ตอร์
(MULTIMETER)

ปจจยั ต่าง ๆ ตามกฎของโอห์ม

1. ชนดิ ของตัวนาํ ไฟฟา

วตั ถตุ ่างชนดิ กัน แมจ้ ะมขี นาดเท่ากัน จะมคี วามต้านทาน
ไฟฟาต่างกัน เชน่ ทองแดงจะมคี วามต้านทานไฟฟามากกวา่ เงิน เปนต้น

ตัวนาํ ไฟฟา คือ วตั ถทุ ียอมให้กระแสไฟฟาไหล
ผา่ นได้ดี ได้แก่ โลหะ เชน่ เงิน ทองแดง
สงั กะสี อลมู เิ นียม เปนต้น
และมอี โลหะบางชนดิ ทีนาํ ไฟฟา เชน่ แกรไฟต์

เปนต้น

ปจจยั ต่าง ๆ ตามกฎของโอห์ม

ฉนวนไฟฟา คือ วตั ถทุ ีไมย่ อมให้กระแสไฟฟา
ไหลผา่ นหรอื ไหลผา่ นได้นอ้ ย ได้แก่
อโลหะ เชน่ พลาสติก ไม้ ผา้ เปนต้น

พลาสติก ผา้

ไม้

ปจจยั ต่าง ๆ ตามกฎของโอห์ม

2. ขนาดของตัวนาํ ไฟฟา

ตัวนาํ ไฟฟาชนดิ เดียวกันทีมขี นาดต่างกันจะมขี นาดต่างกัน จะ
มคี วามต้านทานต่างกัน โดยตัวนาํ ไฟฟาขนาดเล็กจะมคี วาม

ต้านทานสงู สว่ นตัวนาํ ไฟฟาขนาด
ใหญ่ จะมคี วามต้านทานตํา

3. ความยาวของตัวนาํ ไฟฟา

ตัวนาํ ไฟฟาชนดิ เดียวกันทีมคี วามยาวไมเ่ ท่ากัน จะมคี วาม
ต้านทานต่างกัน โดยตัวนาํ ไฟฟาทีมคี วามยาวนอ้ ยจะมคี วาม

ต้านทานตําจงึ ยอมให้กระแสไฟฟา
ไหลผา่ นได้มาก สว่ นตัวนาํ ฟฟาทีมคี วามยาวมากจะมคี วาม

ต้านทานสงู จงึ ยอมให้กระแสไหล
ผา่ นได้นอ้ ย

4. อุณหภมู ิ ปจจยั ต่าง ๆ ตามกฎของโอห์ม

ตัวนาํ ไฟฟาทีเปนโลหะบรสิ ทุ ธแิ ละโลหะผสม เมอื อุณหภมู เิ พมิ
ขนึ ค่าความต้านทานก็จะเพมิ ขนึ ด้วย ซงึ ค่าความต้านทานของ
โลหะผสมจะขนึ อยูก่ ับค่าสมั ประสทิ ธคิ วามต้านทานของโลหะที
นาํ มาผสมกัน ในทางกลับกัน ตัวนาํ ทีเปนสารกึงตัวนาํ เครอื งปงขนมปง
เมอื อุณหภมู สิ งู ขนึ ค่าความต้านทานจะลดลง

เครอื งใชไ้ ฟฟาทีใชล้ วดต้านทาน

เตารดี กานาํ รอ้ น

ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความต่าง
ศักยไ์ ฟฟา กระแสไฟฟา
และความต้านทานไฟฟา

ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความต่างศักยไ์ ฟฟา กฎของโอห์ม (OHM’S LAW)
กระแสไฟฟา และความต้านทานไฟฟา เขยี น
เมอื อุณหภมู คิ งที อัตราสว่ นระหวา่ ง
เปนสมการ ไดด้ งั นี ความต่างศักยไ์ ฟฟากับกระแสไฟฟา
ของตัวนาํ ไฟฟา จะมคี ่าลดลงเท่ากับ
V = IR ความต้านทานของตัวนาํ ไฟฟานนั

V แทน ความต่างศักยไ์ ฟฟา มหี นว่ ยเปนโวลต์ (V)

I แทน กระแสไฟฟา มหี นว่ ยเปนแอมแปร์ (A)

R แทน ความต้านทานไฟฟา มหี นว่ ยเปนโอหม์ (Ω)

ตัวอยา่ ง
หลอดไฟฟาหลอดหนงึ ใชไ้ ฟฟาซงึ
มคี วามต่างศักยไ์ ฟฟา 220 โวลต์

ยอมให้กระแสไฟฟาไหลผา่ น 2
แอมแปร์ หลอดไฟฟาหลอดนีมี

ความต้านทานเท่าใด

เฉลยตัวอยา่ ง

ตัวอยา่ ง
ลวดตัวนาํ ทีต่อกับศักยไ์ ฟฟา 50
โวลต์ มคี ่าความต้านทานภายใน
10 โอห์ม จะมกี ระแสไฟฟาไหลผา่ น

ลวดตัวนาํ เท่าใด

เฉลยตัวอยา่ ง

ตัวอยา่ ง
ลวดตัวนาํ ทีมคี ่าความต้านทาน
ภายใน 6โอห์ม ต่อกับศักยไ์ ฟฟา
ปรากฏวา่ วดั ค่ากระแสไฟฟาไหลผา่ น
ลวดตัวนาํ ได้ 0.25 แอมแปร์ ศักย์

ไฟฟาทีต่อกับลวดตัวนาํ
มคี ่าเท่าใด

เฉลยตัวอยา่ ง

ตัวอยา่ ง
วดั กระแสไฟฟาทีไหลผา่ นเครอื งปรบั

อากาศเครอื งหนงึ ได้ 10 แอมแปร์
เมอื เครอื งปรบั อากาศต่อกับความ
ต่างศักย์ 220 V เครอื งปรบั อากาศ

นีใชก้ ําลังไฟฟาเท่าไร

เฉลยตัวอยา่ ง

วงจรไฟฟาในบา้ น

การต่อวงจรไฟฟา

วงจรไฟฟ า (Electric circuit) หมายถึง เสน้
ทางทีกระแสไฟฟาไหลผา่ นอุปกรณไ์ ฟฟาต่างๆ

เชน่ เซลล์ไฟฟา สายไฟ หลอดไฟ และสวติ ช์
ไดค้ รบรอบ

หากกระแสไฟฟาไหลได้ไมค่ รบวงจร
หลอดไฟจะไมส่ วา่ ง เรยี กวงจรลักษณะนีวา่

"วงจรเปด"

หากต่อวงจรไฟฟาแล้วมกี ระแสไฟฟาไหลผา่ น
ได้จนครบวงจร หลอดไฟก็จะสวา่ ง เรยี กวงจรลักษณะนี

วา่ "วงจรปด"


Click to View FlipBook Version