ธรรมชาตขิ อง
วทิ ยาศาสตร์
เน้อื หาในบทน้ี
01 02 03 04
ธรรมชาตขิ อง กระบวนการทาง จติ ลกั ษณะของ
วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์
01
ธรรมชาติของวทิ ยาศาสตร์
Introduction
YES Or NO
ใชว่ ิทยาศาสตร์หรือไม่?
ลองนกึ ดู
นกั เรยี นคดิ วา่ ไสยศาสตร์ และ ลองบอก
วิทยาศาสตรแ์ ตกตา่ ง วิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตรใ์ น
จากศาสตรอ์ น่ื อย่างไร ชวี ติ ประจาวนั
แตกตา่ งกนั อยา่ งไร
วทิ ยาศาสตร์ จะเป็นสงิ่ ที่มเี หตผุ ล มีหลักฐาน
“ พิสจู นไ์ ด้ และมีการรวบรวมขอ้ มลู อยา่ งมขี น้ั ตอน
จนสามารถพยากรณส์ ิ่งท่ีจะเกดิ ขน้ึ ได้ และการ
ไดม้ าซง่ึ ความรทู้ างวทิ ยาศาสตรม์ กี ระบวนการท่ี
“ชัดเจน มีระบบระเบยี บซง่ึ เปน็ ลักษณะของ
วิทยาศาสตร์
ธรรมชาติของวทิ ยาศาสตร์
● การสบื เสาะหาความรทู้ างวิทยาศาสตรม์ ขี น้ั ตอนท่ี
เป็นระบบ แต่ไมต่ ายตวั
● วิทยาศาสตร์ เปน็ กจิ การทเ่ี ป็นสากลของ
มนุษยชาติ ทกุ คนมีสว่ นรว่ มได้
● ปรากฏการณต์ า่ งๆสามารถอธบิ าย และทานายได้
● ความรทู้ างวทิ ยาศาสตรม์ คี วามคงทน
● ความร้ทู างวทิ ยาศาสตรเ์ ปลย่ี นแปลงได้ เม่อื มี
หลักฐานใหม่ๆ
02
กระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์
1. การสงั เกต : จดุ เริม่ ตน้ ของกระบวนการ
● กาลิเลโอ >>> สังเกตโคมไฟทหี่ อ้ ยอยูใ่ นโบสถแ์ กวง่ ไปมาครบรอบใน
ระยะเวลาทเี่ ทา่ กนั เสมอ >>> ลกู ตมุ้ สาหรบั ใชใ้ นนาฬกิ า
การสังเกต
การสังเกต ถอื เป็น ควรสงั เกตสงิ่ ทค่ี วรสงั เกต การสงั เกตไดเ้ รว็ และ
จดุ เรม่ิ ตน้ ของปญั หา ทสี่ อดคล้องกบั คลอ่ งแคลว่ เรยี กว่า
มคี วามชานาญ หรอื
หรือข้อสงสยั จุดม่งุ หมายทต่ี อ้ งการหา ทักษะในการสงั เกต
คาตอบ
ทดสอบทกั ษะการสังเกต
2. การมองเหน็ ปญั หา การระบุปญั หา
● เมอื่ ทาการสงั เกต เรามกั จะสงสยั ตอ่ ไปวา่ ทาไม หรือเพราะสง่ิ ใด
จงึ เกดิ ปรากฎการณ์นั้นๆขนึ้
● นกั วิทยาศาสตร์จึงเปน็ คนชา่ งสงสยั และอยากรอู้ ยากเหน็ เสมอ
● เซอร์ไอแซก นิวตนั : สงสยั วา่ ทาไมเวลาลกู แอป๊ เปล้ิ หลน่ จากตน้
ทาไมจงึ ตอ้ งตกลงสพู่ น้ื ดนิ เสมอ ทาไมจงึ ไมล่ อยไปในอากาศ
● นามาสกู่ ารคน้ พบ ความรเู้ รอื่ ง ‘แรงโนม้ ถว่ ง’
3. การตั้งสมมตฐิ าน
● คอื การคาดเดาคาตอบ หรือสาเหตลุ ว่ งหนา้ วา่ ปรากฏการนนั้ ๆเปน็
เพราะสาเหตนุ นั้ สาเหตนุ ี้
● เมือ่ มกี ารตง้ั คาอธบิ ายลว่ งหนา้ ก็จะมกี ารทดสอบวา่ คาอธบิ าย หรือ
คาตอบท่ตี งั้ ไวน้ นั้ เปน็ จรงิ หรอื ไม่
การฝกึ ตง้ั สมมตฐิ าน : ไข่เก่า ไขใ่ หม่
สมมตฐิ านที่ 1 ไขใ่ หมล่ อยนา้ ไขเ่ กา่ จมนา้
สมมตฐิ านที่ 2 ไข่ใหมจ่ มนา้ ไขเ่ กา่ ลอยนา้
4. การสารวจ การทดลอง หรอื เก็บขอ้ มูล
● คอื การทดลอง หรือตรวจสอบ เพือ่ ทดสอบ หรือพิสจู น์
สมมตฐิ าน ว่าเปน็ จรงิ หรอื ไม่
ก่อนการทดลองตอ้ งวางแผน ออกแบบการทดลองวา่
60%Initial 1. จะดาเนินการทดลองอยา่ งไร
40%Advanced 2. เลอื กใชว้ สั ดอุ ปุ กรณอ์ ะไร
3. มีวธิ กี ารเกบ็ ขอ้ มลู อยา่ งไร
4. มีสิง่ ใดตอ้ งควบคมุ ใหเ้ หมอื นกนั
5. มสี ิ่งใดตอ้ งควบคุมใหเ้ หมอื นกนั
6. มีสิง่ ใดตอ้ งเปล่ียนใหเ้ หมือนกนั
การควบคมุ ตัวแปร
ส่ิงท่ตี อ้ งคานงึ ในการทดลอง คือ “การควบคมุ ตวั แปร”
ตวั แปรมี 2 ประเภท คอื
ตวั แปรทต่ี อ้ งควบคุม ตัวแปรทตี่ อ้ ง
ใหค้ งที่ เปลี่ยนแปลง
ตัวแปรควบคุม ตัวแปรตน้
ตัวแปรตาม
วดี ีโอการทดลอง
ไข่เกา่ ไขใ่ หม่
สิง่ ท่ีต้องระวังในการเก็บข้อมลู
การบนั ทกึ ขอ้ มลู ความซ่อื สัตยต์ ่อข้อมลู
ตอ้ งจดบนั ทกึ และทาการ ต้องซื่อสตั ยต์ อ่ ขอ้ มลู ทเ่ี กบ็
สังเกตทกุ ครงั้ จะใช้วธิ จี า ได้ โดยไม่ใชค้ วามคดิ เหน็
ไมไ่ ด้ เพราะจะทาใหเ้ สยี ขอ้ มูล ส่วนตวั ไปเปลย่ี นแปลง
ที่สาคัญไป ข้อมูล
การนาเสนอขอ้ มลู
ขอ้ มลู ไมม่ าก และไมซ่ บั ซอ้ น
สามารถรายงานดว้ ยการบอก
การบรรยาย
ข้อมูลมาก และซับซ้อน
ตอ้ งเสนอให้เขา้ ใจง่าย เช่น ใช้
ตารางข้อมูล, ภาพ, กราฟ,
แผนภูมิ เป็นต้น
5. การสรา้ งคาอธิบาย
คอื การสรา้ งคาอธบิ าย หรืออธบิ ายเหตผุ ล ของ
ปรากฏการณ์ หรือผลของการทดลองทเ่ี ราทดลอง หรือทดสอบได้
6. การสรปุ ผลจากการทดลอง
● การทดลอง ทาใหไ้ ดข้ อ้ มูลทพ่ี สิ จู นว์ ่า สมมตฐิ านทเ่ี ราตงั้ ไวเ้ ปน็ จริง
หากทดลองซา้ กนั หลายๆครงั้ ไดผ้ ลยืนยนั เหมือนกนั ทกุ ครง้ั >>>
สามารถสรุปเปน็ ความรใู้ หม่ได้
● สมมตฐิ านทตี่ งั้ ไว้ ก็จะกลายเปน็ ‘กฎความรู้’ หรือ ‘ความจริงทาง
วิทยาศาสตร์’
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
1 2 3
การสังเกต การระบปุ ญั หา การต้งั สมมตฐิ าน
4 5
การทดลอง การสรา้ งคาอธบิ าย
หรือเกบ็ ขอ้ มลู
03
จติ วทิ ยาศาสตร์
จติ วทิ ยาศาสตร์ คอื …
จติ วิทยาศาสตร์ เปน็ ลักษณะนิสยั ของบุคคล ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ความรสู้ ึกนกึ คดิ ทาง
วิทยาศาสตร์ ซึ่งมีการนกึ คิด และแสดงออกได้หลายแนวทาง
เชน่ การวเิ คราะห์ และใหเ้ หตผุ ลแตล่ ะขอ้ มลู กอ่ นการประเมนิ และตัดสนิ ใจ
การไมแ่ สดงความคิดเห็นตอ่ สถานการณต์ า่ ง ๆ ก่อนลงมือทา หรอื ไดข้ อ้ มลู เพยี งพอ
การรายงานหลกั ฐานอนั ประจกั ษอ์ ยา่ งครบถ้วนไมแ่ อบอ้างผลงานผอู้ ่ืน
รวมทง้ั การเหน็ คณุ ค่าความสาคญั และความสนใจตอ่ วิทยาศาสตร์
จติ วิทยาศาสตร์
ใจกวา้ ง ช่างสงสัย
อดทน
ละเอยี ด
รอบคอบ
จติ วทิ ยาศาสตร์
เชอื่ มน่ั ตอ่ ซื่อสตั ย์ ยอมรบั ความ ไม่แอบอา้ ง
หลักฐาน คิดเหน็ ผูอ้ นื่ ผลงานของ
ผู้อน่ื มาเปน็
ของตวั เอง
04
ลักษณะของ
นกั วทิ ยาศาสตร์
นกั วิทยาศาสตร์
มักมีลกั ษณะ
อย่างไร?
ชา่ งสังเกต อยากรู้
อยากเหน็
มคี วามคดิ รเิ รมิ่ ลักษณะ มคี วามเปน็
สรา้ งสรรค์ สาคญั ของ เหตุเปน็ ผล
นักวิทยาศาสตร์
มคี วามมานะ มีความเชอื่ มน่ั
พยายาม ในตัวเอง
ความมานะของนกั วิทยาศาสตรไ์ ทย
บดิ าแหง่ วิทยาศาสตรไ์ ทย
Test & Evaluate
ความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มี ลกั ษณะนิสัยอย่างไรทชี่ ว่ ยให้
เปล่ยี นแปลงได้หรอื ไม่ ลกั ษณะเฉพาะตวั อยา่ งไร ทางานทางวทิ ยาศาสตร์
อยา่ งไร สาเรจ็
Thanks!