The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภูมิปัญญาท้องถิ่น การสานกระติบข้าว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ภูมิปัญญาท้องถิ่น การสานกระติบข้าว

ภูมิปัญญาท้องถิ่น การสานกระติบข้าว

ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น ดา้ นการสานกระติบขา้ ว

กล่มุ จักรสานไม้ไผบ่ า้ นทา่ กลิ้ง
หมทู่ ่ี 3 ตาบลนากง้ั อาเภอปากคาด จังหวดั บงึ กาฬ

โทรศัพท์ 087-5647284

คำนำ

ภมู ปิ ญั ญา คือแบบแผนการดาเนนิ ชีวติ ท่มี ีคณุ ค่า แสดงถงึ ความเฉลียวฉลาดของบุคคลและสังคมซึ่งได้
สั่งสมปฏบิ ัติสืบตอ่ กนั มา การสานกระติบข้าวเป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น ที่นาเอาลาไม้ไผ่แปรสภาพ ให้
เป็นภาชนะสานสาหรับใส่ข้าวเหนียวน่งึ มีรปู ทรงกระบอกและรูปทรงส่ีเหลี่ยมคล้ายกระป๋อง มีฝาปิดมีเชือก
ร้อยสาหรับห้ิว และถือ นิยมใช้กันในผู้ที่บริโภคข้าวเหนียวในภาคเหนือ และอีสา โดยท่ัวไปภาชนะสาหรับใส่
ข้าวเหนียวนึ่ง เป็นผลิตภัณฑ์ท่ีมีใช้กันอยู่ทั่วไปท้ังในประเทศหรือต่างประเทศ ท้ังนี้เพราะไม้ไผ่เป็นพืช
ธรรมชาติท่ีข้ึนอยู่ท่ัวทุกภูมิภาค และภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นท่ีนาไม้ไผ่มาแปรสภาพก็มีลักษณะคล้ายกัน
หรอื ได้อิทธพิ ลทางความคิดจากกนั และกนั ทาให้ไมไ้ ผ่ถกู จดั ได้ว่าเป็นปัจจัยจาเป็นอย่างหนึ่ง ต่อการดารงชีวิต
ของผู้คนในอดีต ด้วยเทคนิคการสานจากภูมิปัญญาไทยนี้ ทาให้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นท่ียอมรับ และยังคงอยู่ตลอด
มา สรา้ งรายได้ให้กับชุมชนในการสรา้ งงาน

ทบี่ า้ นท่ากล้ิง อาเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ คอื ภูมภิ าคหนึ่งท่ีมีการสืบสานภูมิปัญญาทางด้านการ
จักรสานไม้ไผ่น้ีมายาวนาน จนปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อื่นเข้ามาทดแทนการใช้กระติบข้าว มากมายให้เลือก
นับต้ังแต่ ภาชนะท่ีเป็นพลาสติก โลหะ และอื่นๆ ทาให้กระแสความนิยมในการใช้กระติบข้าวที่ทาจากไม้ไผ่
ลดลง และคนร่นุ ใหมก่ ็สนใจในภูมิรู้ดา้ นน้ีน้อย

การศึกษาข้อมูลภูมิปัญญาท้องถ่ินการจักรสานไม้ไผ่ของชุมชนน้ี ก็เพ่ือให้เห็นถึงวัฒนธรรมทางภูมิ
ปัญญาของท้องถิ่น ที่ทรงคุณค่ามากด้วยภูมิปัญญา และปัญหาท่ีเสี่ยงต่อการสูญสิ้นของภูมิปัญญานี้ ว่ามีมาก
หรอื น้อย และด้วยปัจจัยหรือองค์ประกอบใด เพื่อนาไปสู่การอนุรักษ์หรือแก้ไข และยังสืบสานความรู้ของการ
จักสานไว้ สาหรบั บุคคลหรอื หน่วยงานทเี่ กีย่ วขอ้ งในโอกาสต่อไป

สำนกั งำนพัฒนำชมุ ชนอำเภอปำกคำด

สำรบัญ หน้า

ประวัตคิ วามเป็นมา 1

วัสดุทีใ่ ช้ทากระติบขา้ ว 2
ขนั้ ตอนการสานกระตบิ ข้าว 3
เอกลักษณ/์ จุดเด่น 6
แหล่งจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ 7

ภมู ิปัญญาท้องถนิ่ ด้านการสานกระติบข้าว

ชือ่ ภมู ิปัญญำ การสานกระติบขา้ ว

ชอ่ื กลุ่ม กลุ่มจักรสานไมไ้ ผบ่ า้ นทา่ กลง้ิ ท่ที าการกลุ่ม ศาลาอเนกประสงค์บ้านท่ากลง้ิ หมู่ที่ 3 ตาบลนา
ก้งั อาเภอปากคาด จงั หวดั บึงกาฬ 38190 โทรศัพทม์ ือถือ 087-5647284

ประวัติความเปน็ มา

ชาวบ้านท่ากลิ้ง ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมหลังจากพ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต ส่วน
ใหญ่จะว่างงาน ผู้นาครอบครัวที่เป็นผู้ชายก็ต้องทางานรับจ้างตามฤดู ส่วนแม่บ้านจะทาหน้าที่เล้ียงดูบุตร
หลานส่วนหน่ึงรับจ้างท่ัวไป หารายได้พอจุนเจือครอบครัว เพ่ือรอฤดูการเพาะปลูกครั้งต่อไป ผลกระทบท่ี
เกิดข้นึ ในภาพรวม ทาให้ครอบครัวขาดความอบอนุ่ และไมม่ ีอาชีพเสริมขาดรายได้

นางสมาน ฝ่ายอากาศ ได้มีแนวความคิดที่อยากมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ท่ีเกิดข้ึนโดยเฉพาะการ
แก้ปัญหาที่ชาวบ้านในชุมชนไปทางานท่ีอื่น โดยเร่ิมรวมกลุ่มแม่บ้านที่มีฝีมือด้านการจักรสานซึ่งได้รับการ
ถ่ายทอดมาแต่สมัยบรรพบุรุษ เป็นภูมิปัญญาท่ีสืบทอดต่อเน่ืองกันมาเป็นมรดก นางสมาน ฝ่ายอากาศ
ประธานกลุม่ ซ่ึงมีพื้นฐานในการจกั รสานและสมาชิกได้มีการ ถ่ายทอดความรู้ เทคนิคการทากระติบข้าวให้แก่
สมาชิกเองและผู้สนใจ โดยมีสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอปากคาด ให้คาแนะนาให้ความรู้ ในการบริหาร
จัดการกลุ่ม จึงก่อเกิด “กลุ่มจักรสานไม้ไผ่บ้านท่ากล้ิง” ขึ้น เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2545 นางสมาน ฝ่าย

อากาศ เป็นประธานกลุ่ม โดยมีกระต๊ิบข้าวเป็นผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่ม ท่ีทาการกลุ่มตั้งอยู่ท่ี ศาลา
เอนกประสงค์ บ้านทา่ กล้งิ หมู่3 ตาบลนากั้ง อาเภอปากคาด จังหวดั บงึ กาฬ

ตอ่ มา กลุ่ม จักรสานไม้ไผ่บ้านท่ากลิ้ง ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง มีสมาชิกเพิ่มจานวนมากขึ้นจาก
เดิม 10 คน แต่ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 25 คน หน่วยงาน สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอปากคาด ทหาร
และองค์การบรหิ ารส่วนตาบลนากงั้ เหน็ ความมงุ่ มนั่ ของกลุม่ จึงให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ จึงนาเงินมา
ใช้ในการบรหิ ารจัดการกล่มุ และจดั ซื้อวสั ดุ อุปกรณ์ ในการจกั รสาน กลุ่มจักรสานไม้ไผ่บ้านท่ากลิ้งได้พัฒนา
สินค้าให้หลากหลาย ให้ทันสมัย รูปแบบท่ีแปลกใหม่ และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าซ่ึงกลุ่ม
สามารถสานกระติบข้าวและของใชท้ ่ีทาจากไม้ไผ่ ลวดลายและตวั อักษรตามที่ลูกค้าต้องการ

ก่องข้าวและกระติบข้าว เป็นภาชนะบรรจุข้าวเหนียวของชาวอีสานที่ทรงคุณค่า มากด้วยภูมิปัญญา
เก็บความร้อนได้ดี ในขณะที่ยอมให้ไอน้าระเหยออกไปได้ ทาให้ข้าวเหนียวท่ีบรรจุอยู่ภายในกระติบ หรือก่อง
ข้าวไมแ่ ฉะด้วยไอนา้ ต่างจากกระติกน้าแข็ง ที่จาเป็นต้องใช้ผ้าขาวบางรองอีกที ก่อนบรรจุข้าวเหนียว แต่เม็ด
ข้าวที่อยู่ชิดรอบขอบกระติกก็ยังคงแฉะอยู่ดี ทาให้ผลิตภัณฑ์กระติบข้าวที่ทาจากไม้ไผ่น้ีเป็นที่ยอมรับ และ
ยังคงอยตู่ ลอดมา สรา้ งรายได้ใหก้ บั ชมุ ชนในการสรา้ งงาน และยังสบื สานความรูข้ องการจกั สานไว้

วสั ดุทใ่ี ช้ทำกระติบข้ำว 2. ดา้ ยไนลอ่ น
1. ไม้ไผ่บ้าน 4. กรรไกร
3. เขม็ เยบ็ ผ้าขนาดใหญ่ 6. เล่อื ย
5. มดี โต้ 8. ก้านตาล
7. เหลก็ หมาด (เหลก็ แหลม) 10. เครอ่ื งกรอดา้ ย
9. เครอื่ งขูดตอก

กระติบข้าวสามารถทาไดจ้ ากวสั ดหุ ลายอยา่ ง เช่น ใบจาก ใบตาล ใบลาน เป็นต้น แต่ที่นิยมใช้ทามาก
และมีคุณภาพดีที่สุด ต้องทาจากไม้ไผ่ ไม้ไผ่มีหลายชนิด แต่ละชนิด เหมาะกับงานแต่ละอย่าง และไม้ไผ่ที่
นิยมนามาทากระติบขา้ ว คือไม้ไผ่บ้าน หรือไม้ไผ่ใหญ่ อายุประมาณ 10 เดือน ถึง 1 ปี เพราะมีปล้องใหญ่และ
ปลอ้ งยาว เน้อื ไมเ้ หนียวกาลังดี ไม่เปราะงา่ ย ทาเป็นเส้นตอกสวย ขาว

ขอ้ เสนอแนะ
1. การเลือกไม้ไผ่ ควรเลอื กไม้ไผ่ ทม่ี ีปลอ้ งยาวอายุประมาณ 10 เดือน ถึง 1 ปี
2. การจักตอก ตอ้ งมีขนาดความกว้าง ความยาวให้เทา่ ๆ กันทกุ เสน้ เพ่ือจะไดก้ ระติบรปู ทรงสวยงาม
3. ก่อน ทจ่ี ะเหลาเสน้ ตอก หรอื ขดู ใหน้ าเสน้ ตอกทีจ่ ักแล้ว แชน่ ้าประมาณ 1 ชวั่ โมง เพอ่ื ใหเ้ สน้ ตอก
ออ่ นนุ่ม จะไดข้ ูดเหลาง่ายขน้ึ แล้วนาไปตากแดด ให้แห้งสนทิ เพ่ือป้องกนั เช้ือราก่อนลงมือสาน

ส่วนประกอบของกระติบขำ้ ว
กระตบิ ขา้ วเป็นเครื่องจักสานแบ่งสว่ นประกอบออกไดเ้ ป็นส่สี ่วนคือ สว่ นฐาน สว่ นกัน สว่ นตวั และสว่ น

ฝา ส่วนฐานทาด้วยกา้ นตาลเหลาตัดโคง้ เปน็ วงกลมมีขนาดเท่ากบั สว่ นกน้ ผูกมกั ให้ตดิ กันเพ่อื ใชเ้ ปน็ ฐาน
สาหรบั ต้งั ส่วนกันสานเป็นแผน่ ซ้อมกนั สองชั้นผกู มัดตดิ กับส่วนตัว ส่วนตวั เป็นรูปทรงกระบอกสานซ้อนกัน
สองชน้ั ส่วนฝาจะมีขนาดใหญ่กว่าส่วนตวั เล็กน้อย สามารถสามส่วนตวั ไดพ้ อดขี อบบนสุดของฝามหี ู สาหรบั
รอ้ ยเชอื กสองหู

ขน้ั ตอนกำรสำนกระติบข้ำว
1. นาปล้องไม้ไผม่ าตัดหัวท้าย ตดั เอาข้อออก ผ่าเป็นซีกทาเส้นตอกกวา้ งประมาณ2-3 ม.ม. ขูดให้เรยี บและบาง

 การ เตรยี มไมไ้ ผ่สาหรับการสานกระติบข้าวน้ัน ควรมีอายุไม่เกินหน่ึงปี โดยเลือกไผ่ท่ีโตเพียงฝนเดียว
มาทาก่องข้าวหรือสานกระติบ สาหรับไผ่ท่ีใช้ทากระติบได้ดีท่ีสุดจะมีอายุประมาณ 4-5 เดือน
การ เลอื กไมไ้ ผ่ จะเลอื กไม้ที่มีข้อปล้องยาวและตรง มีผิวเรียบเป็นมันนามาตัดข้อปล้องทางหัวและท้าย
ออก โดยใช้เล่ือยตัดรอบไม้ไผ่เพื่อป้องกันผิวไผ่ฉีก ขนาดของปล้องไม้ไผ่หน่ึง ควรมีความยาวประมาณ
30-40 เซนติเมตร จากน้ันจึงใช้มีดโต้ผ่าออกเป็นช้ินๆ แล้วใช้มีดตอกจักเป็นตอกขูดเปลือกสีเขียว ของ
มันออกและตากแดดเพอ่ื เก็บรกั ษาเอาไว้ก่อนจะทางานสาน

 เม่อื เหลาไม้ไผ่จนมีขนาดเหลือความหนาประมาณ 0.05 เชน ติเมตร ก็จะขูดเสี้ยนไม้ออก เพื่อให้ตอก
มีความเรียบและอ่อนบางท่ีสุด กระติบท่ีได้ก็จะสวย และเวลาสานถ้าหากว่าเป็นตอกอ่อนก็จะทาให้
สานง่ายไม่เจ็บมืออีกด้วย นาเส้นตอกที่ได้มาสานเป็นรูปร่างกระติบข้าว หนึ่งลูกมี 2 ฝา มาประกอบ
กนั

 เม่ือได้ตอกมาประมาณ 100-150 เส้น แล้ว ก็จะเร่ิมสานกระติบข้าวได้ บางครั้งผู้สานต้องการเพ่ิม
ลวดลายในการสานกระตบิ กจ็ ะย้อมสตี อกกอ่ นก็มี ส่วนใหญ่จะใช้สีผสมลงในกระบอกไม้ไผ่แล้วนามาย้อม
ตอกให้เป็นสีสันตามที่ตัว เองต้องการ เม่ือลงมือสานมักจะเริ่มต้นสานใช้ตอก 6 เส้น แล้วสานด้วยลาย
สอง โดยทิ้งชายตอกให้เหลือประมาณ 5 เซนติเมตร เมื่อสานได้ยาวจนชายตอกอีกด้านเหลือประมาณ 3
เซนติเมตร ให้นาชายท้ังสองขา้ งมาประกับกนั โดยใช้ลายสอง และเม่อื นามาประกบกันได้แล้วด้วยลายสอง
ก็จะม้วนชายตอกทไ่ี มต่ ้องการอีกทีดว้ ยการสานลายสองเวียน การสานกระติบให้ประกบซ้อนกันเป็นสอง
ชั้น ก็เพ่ือช่วยเก็บความร้อนให้อยู่ได้ช่ัวขณะหนึ่งพอที่จะทาให้ได้กินข้าว เหนียวท่ีไม่แข็งเกินไป
นอกจากน้ันกระติบข้าวท่ีทาจากไม้ไผ่ยังช่วยดูดซับเอาหยาดน้าท่ีอยู่ภายในที่ จะเป็นตัวทาให้ข้าวเปียก
หรือแฉะ

 กำรข้ึนลำยกระติบ ซ่ึงจะข้ึนอยู่กับความต้องการของคนที่สานว่าต้องการใช้ลายอะไร เพราะแต่
ละลายจะขนึ้ ต่างกนั ลายกระติบทน่ี ิยมสาน คือ “ลายขา้ งกระแตสองยืนและสามยืน” การขึ้นลายสองนั้น
จะยกตอก 2 เส้นแล้วท้ิง 2 เส้น และเม่ือข้ึนลายไปได้ประมาณครึ่งหน่ึงของความยาวของตอกแล้ว ก็จะ
สานต่อด้วยลายสามนอนหรอื ลายคุบ จากน้ันจึงสานด้วยลายสองยืนอีกครั้งเพ่ือความแข็งแรงของกระติบ
ข้าว จากนั้นจึงม้วนเก็บชายตอกด้วยการพับคร่ึงเข้าไปข้างในทั้งสองข้างและบีบ เพื่อตกแต่งให้สวยงาม
ส่วนก้นของกระติบข้าวนั้นจะสานเป็นแผ่นแบนสองอันมาประกบกันเข้าแล้วผูกติดกับส่วนตัวกระติบ
เรียกขน้ั ตอนน้ีวา่ “อัดตุ๋” ซึ่ง มีการเย็บอยู่สองวิธีคือ การเย็บโดยใช้หวาย กับเย็บด้วยการใช้ด้ายเย็บ แต่
การเยบ็ ด้วยหวายนัน้ ใหค้ วามสวยงามตามธรรมชาติ และมีความแขง็ แรงกวา่ การเยบ็ ดว้ ยดา้ ย

 ฐำนของกระติบ ซ่ึงคนอีสานจะเรียกว่า “ตีนติบข้าว” เป็น ส่วนหน่ึงมี่ต้องรับน้าหนักและจาเป็นท่ี
จะต้องทาให้แข็งแรง ดังน้ันส่วนใหญ่จึงใช้ก้านตาลมาเหลาแล้วโค้งให้เป็นวงกลมเท่ากับขนาดของก้น
กระติบข้าว ก้านตาลท่ีใช้จะต้องตรงไม่คดเบี้ยวและมีความยาวประมาณ 1 เมตรข้ึนไป นาก้านตาลท่ีตัด
ได้มาเหลาเอาหนามตาลออก ผ่าตามความยาวของก้านตาล ซึ่งก้านตาล 1 ก้านใหญ่สามารถทาตีน
กระติบได้ 1-2 อัน จากน้ันจึงผ่าเกลาให้เรียบเสมอกัน นามาม้วนแล้วทิ้งไว้ให้แห้งโดยใช้เวลาประมาณ
15-20 วัน

 ฝำกระติบ ข้าวนั้นจะสานเชน่ เดียวกับตัวกระติบเพียงแต่ให้ใหญ่กว่าเพื่อสวมครอบปิด เปิดได้ กระติบ
ขา้ วที่สานเสร็จแลว้ ไม่ควรเกบ็ ไว้ในท่ชี ้นื เพราะจะทาให้ขึ้นราได้ง่ายและมีมอดเจาะ และควรเก็บไว้ในที่มี
อากาศถ่ายเทได้สะดวก ใช้ด้ายไนล่อนสอดเข้าเป็นสายไว้สะพายไปมาได้สะดวก จะได้กระติบข้าวที่
สาเรจ็ เรียบร้อย สามารถนามาใช้ และจาหน่ายได้

เอกลักษณ์/จุดเดน่
กระตบิ ขา้ วเปน็ ของใชป้ ระจาบ้านที่ใชบ้ รรจุขา้ วเหนียว ทุกครัวเรอื น ทกุ พ้นื ท่ีทรี่ ับประทานข้าวเหนียว
1. สานเปน็ ลวดลายตา่ ง ๆ หรอื เปน็ ตวั หนังสือท้ังไทยและอังกฤษ จะได้ราคาดี
2. หาอปุ กรณใ์ นการทาง่าย
3. ทาใหเ้ กดิ อัตราการวา่ งงาน และเปน็ อาชีพทสี่ จุ ริต และเพ่ิมรายไดใ้ หแ้ ก่ครอบครวั
4. วิวฒั นาการเปน็ ของชารว่ ยไดม้ ากมาย เชน่ กลอ่ งใสก่ ระดาษชาระ กระเป๋า แจกัน
5. ทาให้ข้าวเหนยี วทบ่ี รรจไุ ม่เหนยี วแฉะ ไม่ตดิ มือ พกพาสะดวก หิ้วไปไดท้ กุ หนทุกแห่ง
กำรนำเอำเทคโนโลยีมำใชใ้ นกำรทำกระติบขำ้ ว
1. มีการนาเอาใสไม้ไฟฟา้ ที่เลิกใช้แล้วมาดดั แปลงทาเป็นเครื่องขดู ตอกที่อ่อนบาง
2. ไดน้ าสีย้อมไหม ใช้ในการยอ้ มเส้นตอกเพอ่ื ทาลวดลาย ใหส้ สี นั สวยงามยิ่งข้ึน

3. นาวิธีการประดิษฐ์ เป็นลายประยุกต์และตัวอักษร ทัง้ ภาษาไทยและอังกฤษ
4. มีการตกแต่งฝาบน ดว้ ยการทาคิ้วเพ่ือความสวยงาม และคงทน
5. มกี ารทาเคร่ืองกรอด้ายไนลอ่ น ที่นามาพันค้วิ ดว้ ยเคร่ืองมอื ทาให้กรอไดเ้ ร็วและละเอียดสวยงาม

ประโยชนท์ ไี่ ด้จำกกระตบิ ข้ำว
1. ใช้บรรจุขา้ วเหนียว
2. เปน็ ของชาร่วย
3. ประดบั ตกแต่ง
4. กล่องเอนกประสงค์
5. กลอ่ งออมสิน
6. แจกัน
7. กล่องใสด่ นิ สอ

ควำมสมั พันธ์กับชุมชน
การรวมกลุ่ม เกิดจากแนวความคดิ มีสว่ นร่วมของคนในชุมชนที่แก้ปัญหาท่ีชาวบ้านในชุมชนไปทางาน

ที่อ่ืน มีรายได้เสริม การสร้างความอบอุ่นในครัวครัวทาให้คนในชุมชนตระหนัก และรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ
กลุ่มร่วมกันรักและหวงแหนในภูมิปัญญา ตลอดจนมีการถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นหลัง ให้กับเยาวชน และคนใน
ชมุ ชนสมาชิกกลุ่ม มกี ารจดั กจิ กรรมตา่ งๆ รวมกบั ชุมชนเสมอและการเปดิ รบั สมาชกิ เพ่ิมทุกปี

แหล่ง จำหนำ่ ยผลิตภณั ฑ์
ศาลาอเนกประสงค์บ้านท่ากลิ้ง หมู่ที่ 3 ตาบลนาก้ัง อาเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ 38190

โทรศพั ท์มอื ถอื 087-5647284 (รบั ทาข้อความตวั อักษรตามส่ัง) ราคาพรอ้ มค่าสง่ ทางไปรษณยี ท์ วั่ ประเทศ

รำคำผลิตภณั ฑ์ ขนาดเล็ก 100-150 บาท/ลูก ขนาดใหญ่ 200-300 บาท/ลูก

กลุม่ ผูป้ ระกอบกำร

กลุ่มจกั รสานไม้ไผบ่ า้ นท่ากล้งิ ท่ที าการกลุ่ม ตั้งอยู่ท่ี ศาลาอเนกประสงคบ์ ้านทา่ กล้ิง หมู่ท่ี 3 ตาบลนาก้งั
อาเภอปากคาด จงั หวดั บึงกาฬ 38190 โทรศพั ทม์ ือถอื 087-5647284

คณะผจู้ ดั ทำ

นายอานนท์ แสงร่งุ พัฒนาการอาเภอปากคาด
นกั วชิ าการพัฒนาชุมชนปฏิบตั กิ าร
นายจกั รา กลุ อัก นักวิชาการพัฒนาชมุ ชนปฏบิ ัตกิ าร
ประธานกลมุ่ พร้อมกบั สมาชิกกลมุ่ จักรสานบา้ นทา่ กลง้ิ
นางสาวพัชรนิ ทร์ อา่ งบญุ ตา

นางสมาน ฝา่ ยอากาศ


Click to View FlipBook Version