14
15
16
17
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 21101
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรียนรวู้ ิทยาศาสตร์อยา่ งไร ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1
เร่ืองทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ จำนวน 4 ชว่ั โมง
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 ครูผูส้ อน นางสาวสดุ ารัตน์ ปิยะนันท์
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
-
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ ทง้ั ความร้แู ละกระบวนการที่ไดม้ าซ่งึ ความรู้ โดยความรไู้ ดม้ าจากการสังเกต
และการรวบรวมข้อมูลดว้ ยการสำรวจการทดลองแลว้ จัดเข้าไวอ้ ยา่ งเป็นระบบ สามารถอธิบายได้ด้วย
หลักฐานและให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์เพื่อสนับสนุนคำอธิบายนั้น และวิทยาศาสตร์ยังรวมถึงการ
เรียนรู้และการทำความเข้าใจความรู้อย่างเป็นระบบ แม้ว่าวิทยาศาสตร์ทำให้เข้าใจเหตุการณ์หรือ
ปรากฏการณ์ธรรมชาติแต่วิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถอธิบายได้ทุกเหตุการณ์หากเหตุการณ์นั้นไม่มี
หลักฐานท่นี า่ เชื่อถอื มาใช้หาคำตอบหรอื สร้างคำอธิบาย วิทยาศาสตรเ์ ปน็ จุดเร่ิมต้นของเทคโนโลยีซ่ึง
เกิดจากการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิยาศาสตร์จึงเกี่ยวข้องกับมนุษย์และช่วยให้การ
ดำรงชีวิตของมนุษย์ดขี ้นึ และมีคุณภาพ ต้ังแตอ่ ดีตจนถึงปจั จุบนั วทิ ยาศาสตรพ์ ัฒนามาอย่างต่อเน่ือง
ซึ่งเกิดจากการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ในการทำงานของนักวิทยาศาสตร์เพื่อให้ได้คำตอบของ
ปัญหาหรือคำถามที่สงสัยจนนำไปสู่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จะใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ท่ี
ประกอบด้วยการสงั เกตและระบุปัญหาการต้งั สมมติฐาน การวางแผนและการสำรวจหรือการทดลอง
หรือการเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างคำอธิบาย การสรุปผลและการสื่อสาร หากการ
สำรวจหรอื การทดลองพบว่าสมมติฐานท่ีตัง้ ไวไ้ ม่เป็นจริง สามารถกลบั ไปศกึ ษาคน้ คว้าหรือกลับไปตั้ง
สมมติฐานใหม่เพื่อตอบปัญหาหรือคำถามนั้นได้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์อาจมีข้ันตอนแตกต่าง
กัน สามารถสลับหรือเพิ่มลดขั้นตอนได้ตามความเหมาะสม ในการทำงานของนักวิทยาศาสตร์
จำเป็นต้องอาศัยทักษะกระ บวนการ ทางว ิทยาศาสตร์ เพื่อ ช่ วยให้การ ทำงานมีประสิทธ ิ ภ าพ
ประกอบด้วย การสังเกต การวัด การจำแนกประเภท การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปซกับสเปซ
และสเปซกับเวลา การใช้จำนวน การจดั กระทำและสื่อความหมายข้อมูล การลงความเห็นจากข้อมูล
การพยากรณ์ การตัง้ สมมตฐิ าน การกำหนดนยิ ามเชิงปฏิบัติการ การกำหนดและควบคุมตัวแปร การ
ทดลอง การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป และการสร้างแบบจำลอง
18
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1) นักเรยี นอธบิ ายทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ (K)
3.2) นักเรยี นปฏบิ ตั ทิ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (P)
3.3) มคี วามกระตือรอื รน้ และใหค้ วามรว่ มมอื (A)
4. สาระการเรียนรู้
การทำงานในกระบวนการวิทยาศาสตร์จำเปน็ ต้องอาศยั ทกั ษะเพื่อช่วยให้การทำงานเปน็ ไป
อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ทักษะดังกลา่ วเรยี กว่า ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (science process
skills) ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มี 14 ทกั ษะ ดงั นี้ การสังเกต การวดั การจำแนกประเภท
การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปซกับสเปซและสเปซกับเวลา การใช้จำนวน การจัดกระทำและส่ือ
ความหมายข้อมูล การลงความเหน็ จากข้อมูล การพยากรณ์ การตั้งสมมตฐิ าน การกำหนดนิยามเชงิ
ปฏิบัติการ การกำหนดและควบคุมตัวแปร การทดลอง การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป และ
การสร้างแบบจำลอง
5. สมรรถนะสำคญั
5.1) ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์
5.2) ความสามารถในการสื่อสาร
5.3) ความสามรถในการใชท้ ักษะชีวิต
5.4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
6.1) มีวนิ ัย
6.2) ไฝเ่ รยี นรู้
6.3) มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
1-2 ชัว่ โมงแรก
ขั้นท่ี 1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1) ครทู บทวนความรู้เรอ่ื งกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 5 ข้ันตอน
2) ครูใช้คำถามกับนักเรียน นักเรียนรู้ไหมว่านักวิทยาศาสตร์ต้องมีทักษะอะไรบ้าง
(แนวทางคำตอบ ให้นักเรียนตอบตามความเข้าใจ)
19
ขัน้ ท่ี 2 ขัน้ สำรวจและคน้ หา (Exploration)
1) ครูให้นักเรียนศึกษาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในหนงั สือเรียน สสวท.
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เล่ม 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาที่ 1 หน้าท่ี 8-9
2) ครูเกริ่นนำกิจกรรมที่ 1.2 น้ำสีเคลื่อนที่อย่างไร จากนั้นให้นักเรียนศึกษา
จุดประสงค์และวิธีการดำเนนิ กจิ กรรม
3) ครูแนะนำอุปกรณ์ในการทดลอง จากนัน้ ครูเรมิ่ ทำการทดลองทีละข้นั ตอน โดยให้
นกั เรียนสังเกตและบันทกึ ผลการทดลองลงในสมดุ
ขนั้ ท่ี 3 ขัน้ อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation)
1) ให้นักเรียนนำเสนอผลการทำกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ จากนั้นให้นักเรียนตอบ
คำถามทา้ ยกิจกรรม และรว่ มกนั อภปิ รายสรุปผลของกิจกรรม โดยใชค้ ำถามทา้ ยกจิ กรรมเปน็ แนวทาง
เพอ่ื ใหไ้ ด้ขอ้ สรปุ จากกิจกรรมวา่ การทำงานในกิจกรรมนีใ้ ช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คือ
- ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปซกับสเปซ จากการสังเกตและระบุตำแหน่งหรือ
พนื้ ท่ีทีน่ ้ำสีครอบครองอยกู่ อ่ น และหลังจากการดงึ กระดาษทปี่ ิดปากแก้วนำ้ ออก
- ทักษะการพยากรณ์จากการพยากรณส์ ิ่งทจ่ี ะเกดิ ขึ้นเมอื่ ดึงกระดาษทป่ี ิดปากแกว้ น้ำออก
- ทกั ษะการสังเกตจากการสงั เกตสิง่ ท่เี กดิ ขน้ึ เม่อื ดึงกระดาษที่ปิดปากแก้วน้ำออกโดยไม่เพิ่ม
ความคดิ เห็นของตนเองลงไป
- ทักษะการลงความเห็นจากข้อมลู จากการอภิปรายสาเหตุของการเกิดผลการทำกิจกรรม
2) ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับการเคลื่อนที่ของน้ำสีจากผลการทำกิจกรรม
เพื่อสร้างคำอธิบายร่วมกัน ซึ่งควรได้ ข้อสรุปว่า น้ำที่มีอุณหภูมิต่างกันจะมีความหนาแน่นไม่เทา่ กัน
โดยน้ำที่มีอุณหภูมสิ ูงกว่าหรอื น้ำร้อนจะมความหนาแน่น น้อยกว่าน้ำที่มีอณุ หภูมิต่ำกว่าหรือนำ้ เย็น
เมือ่ วางแก้วนำ้ ร้อนไวด้ า้ นบน น้ำรอ้ นจึงไม่จมลงสดู่ า้ นลา่ ง ขณะท่นี ้ำเยน็ ไมล่ อยขนึ้ สู่ดา้ นบนทำให้น้ำสี
ในแก้วน้ำทั้งสองใบไม่ผสมกัน แต่เมื่อวางแก้วนำ้ เย็นไวด้ ้านบน น้ำเย็นจึงจมลงสู่ด้านล่าง ขณะที่น้ำ
ร้อนลอยขน้ึ สู่ดา้ นบนทำให้น้ำสีในแก้วน้ำทัง้ สองใบผสมกนั
ช่ัวโมงท่ี 3-4
3) ครูอธิบายความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ทั้ง 14
ทักษะ ให้นักเรียนเพิ่มเติม และเปิดโอกาสให้นักเรียนถามในส่วนของเนื้อหาที่สงสัย และมอบหมาย
งานให้นักเรียนทำชิ้นงานทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ทั้ง 14 ทักษะ เป็นการบ้านมาส่งในคาบ
ถัดไป
20
ขั้นท่ี 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)
1) ครูให้นักเรียนสำรวจรวจตัวเองว่านักเรียนได้ใช้ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์
ใดบา้ งในชีวติ ประจำวนั โดยให้ครสู มุ่ นักเรยี นออกมาพดู อธิบายคำตอบหนา้ ชัน้ เรียน
ข้ันที่ 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation)
1) ประเมินการเรยี นรู้จาก การตอบคำถาม พฤติกรรมของนักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมิน
2) ให้นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยท่ี 1 เรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์อยา่ งไร
8. สื่อการสอน/อุปกรณ์/แหลง่ เรียนรู้
- หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เล่ม 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 (สสวท.)
- ชุดอุปกรณ์การทดลองกิจกรรมที่ 1.2 น้ำสีเคลื่อนที่อย่างไร ได้แก่ น้ำร้อน น้ำเย็น สีผสม
อาหารแดงกับเขียว แกว้ นำ้ สองใบ กระดาษแขง็ และถาดรองนำ้
- แบบทดสอบหลงั เรียน
9. การวัดและการประเมินผลการเรยี นรู้
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เครือ่ งมือทใ่ี ชว้ ัด เกณฑ์การ
ประเมิน
ดา้ นความรู้ (K) ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ
70 ขน้ึ ไป
1) อธิบายทักษะกระบวนการ - การตอบคำถาม - คำถาม
ทางวิทยาศาสตร์ ในช้นั เรยี น
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
2) ปฏบิ ตั ิทักษะกระบวนการ - การตอบคำถาม - แบบประเมนิ
พฤติกรรม
ทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียน ผา่ นเกณฑ์ระดับดี
-พฤตกิ รรมในชนั้
เรียน
ดา้ นคุณลักษณะ (A)
3) มคี วามกระตอื รือรน้ และให้ - การตอบคำถาม - คำถาม
ความร่วมมอื ของนกั เรียน - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑร์ ะดบั ดี
-พฤติกรรมในชนั้ พฤติกรรม
เรียน
21
22
23