The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนหลัก ตะกร้อ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ศิริพงษ์ คำไทย, 2019-10-24 22:22:07

แผนหลัก ตะกร้อ

แผนหลัก ตะกร้อ

แผนหลัก

วิชา พลศึกษา (เซปกตะกร้อ)
ชันมัธยมศึกษาปที 3

นายศิริพงษ์ คําไทย

โรงเรียนพุ ทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์

แผนหลกั เพ่ือการจดั การเรียนรู้
รหสั วชิ า พ23103 รายวิชา พลศึกษา

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3

จดั ทาโดย
นายศิริพงษ์ คาไทย ตาแหนง่ ครู

กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
โรงเรยี นพทุ ไธสง อาเภอพุทไธสง จังหวัดบรุ ีรัมย์
สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 32

สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ

บันทึกข้อความ

สว่ นราชการ กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา โรงเรยี นพุทไธสง อาเภอพุทไธสง จงั หวดั

บรุ ีรมั ย์

ท่ี วก /2562 วันท่ี ตลุ าคม พ.ศ. 2562

เร่อื ง สง่ แผนหลกั เพ่ือการจัดการเรียนรู้

เรยี น ผอู้ านวยการโรงเรียนพทุ ไธสง

ตามท่โี รงเรียนพทุ ไธสง สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ได้มนี โยบายใหค้ ณะครแู ละบุคลากร
ทางการศึกษาจัดทาแผนหลักเพ่อื จดั การเรียนรู้ ใชเ้ ปน็ แนวทางในการกาหนดทิศทางการจดั การเรยี นการสอนใน
รายวชิ าที่รบั ผดิ ชอบ ดงั นั้น เพอื่ ใหส้ อดคล้องกับนโยบายข้างต้น ขา้ พเจา้ ได้จดั ทาแผนหลักเพือ่ การจดั การเรยี นรู้ใน
รายวชิ าสขุ ศกึ ษาและพลศึกษาพื้นฐาน (พ23103) ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 เรียบร้อยแลว้ จึงขอส่งแผนหลักเพือ่
การจดั การเรียนร้เู สนอตอ่ ฝา่ ยบรหิ ารรายละเอียดตามเอกสารนี้

จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดทราบ

ลงช่อื ................................................
(นายศิริพงษ์ คาไทย)
ตาแหนง่ ครู

ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ความเหน็ ของรองผอู้ านวยการฝา่ ยบริหารวิชาการ

(นายศุภฤกษ์ ศุภรัตนสมัย) (นายชาญ ส่ิวไธสง)
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รองผอู้ านวยการฝา่ ยบรหิ ารงานวิชาการ

............/..................../................ ............/..................../................

ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น

(นายประชยั พรสงา่ กุล)
ผู้อานวยการโรงเรียนพุทไธสง

............/..................../................

จุดหมายหลักสตู ร

------------------------------------------------
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน มุง่ พัฒนาผเู้ รยี นให้เปน็ คนดี มีปญั ญา มีความสุข มีศกั ยภาพใน
การศกึ ษาต่อ และประกอบอาชีพ จงึ กาหนดเปน็ จดุ หมายเพ่อื ให้เกดิ กบั
ผเู้ รียน เมอื่ จบการศึกษาขน้ั พื้นฐาน ดังนี้
1. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมท่พี ึงประสงค์ เหน็ คณุ คา่ ของตนเอง มีวนิ ัยและปฏิบตั ิตนตาม
หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทตี่ นนับถือ ยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสอ่ื สาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมที ักษะชีวติ
3. มีสุขภาพกายและสขุ ภาพจิตท่ีดี มสี ุขนสิ ยั รักการออกกาลังกาย
4. มีความรกั ชาติ มจี ติ สานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยดึ ม่นั ในวถิ ีชวี ิตและการปกครองตาม
ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ
5. มจี ิตสานึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย และการอนรุ ักษแ์ ละพฒั นาส่ิงแวดลอ้ ม
มีจิตสาธารณะท่ีมุ่งทาประโยชนแ์ ละสร้างสงิ่ ที่ดงี ามในสงั คม และอยรู่ ว่ มกันในสังคมอย่างมีความสุข

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

------------------------------------------------
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน มุ่งพฒั นาผู้เรียนใหม้ ีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่
ร่วมกับผูอ้ ื่นในสังคมได้อยา่ งมีความสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้
1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ซือ่ สัตยส์ ุจริต
3. มวี นิ ยั
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพียง
6. ม่งุ ม่ันในการทางาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มจี ติ สาธารณะ

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน

------------------------------------------------
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน มุ่งพัฒนาผ้เู รียนใหม้ คี ณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ซึ่งการ
พัฒนาผูเ้ รียนใหบ้ รรลมุ าตรฐานการเรยี นรูท้ กี่ าหนดน้ัน จะช่วยใหผ้ เู้ รียนเกดิ สมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ดังนี้
1. ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity) เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร
มวี ฒั นธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความรสู้ กึ และทัศนะของตนเองเพอ่ื แลกเปล่ียน

ขอ้ มลู ขา่ วสารและประสบการณอ์ ันจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพฒั นาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพ่ือขจดั
และลดปญั หาความขดั แย้งตา่ งๆ การเลือกรบั หรอื ไมร่ บั ข้อมลู ขา่ วสารนั้นด้วยหลกั เหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจน
การเลือกใช้วิธกี ารส่ือสารท่มี ีประสิทธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบที่มตี ่อตนและสังคม

2. ความสามารถในการคดิ (Thinking Capacity) เป็นความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ อยา่ ง
สร้างสรรค์ การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและการคิดเป็นระบบ เพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพอื่
การตัดสินใจเกย่ี วกับตนเองและสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem – solving capacity) เป็นความสามารถในการแก้ปัญหา
และอุปสรรคตา่ งๆ ทเ่ี ผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตผุ ล คุณธรรมและข้อมลู สารสนเทศ
เข้าใจความสมั พันธ์และการเปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใชใ้ น
การป้องกนั และแก้ไขปัญหาและมกี ารตัดสนิ ใจ ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ ต่อตนเอง สังคม
และสง่ิ แวดลอ้ ม

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Capacity for Applying Life skills) เปน็ ความสามารถในการนา
กระบวนการต่างๆไปใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งตอ่ เน่ือง การทางานและ
การอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมด้วยการสร้างเสรมิ ความสัมพันธ์อนั ดีระหว่างบุคคล การจดั การปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ
อยา่ งเหมาะสม การปรบั ตวั ให้ทันกับการเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จกั หลกี เลีย่ งพฤติกรรม
ไม่พึงประสงคท์ ีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (Capacity for Technological Application) เปน็ ความสามารถ
ในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยดี า้ นตา่ งๆและมีทักษะกระบวนการเทคโนโลยี เพือ่ การพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้าน
การเรยี นรู้ การส่อื สาร การทางาน การแก้ปญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกต้องเหมาะสมและมีคณุ ธรรม

คณุ ภาพผเู้ รียน

จบช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3

● เขา้ ใจและเหน็ ความสาคัญของปจั จัยทสี่ ง่ ผลกระทบต่อการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการท่ีมีตอ่ สุขภาพ
และชีวติ ในช่วงวยั ตา่ ง ๆ

● เขา้ ใจ ยอมรบั และสามารถปรบั ตวั ตอ่ การเปลีย่ นแปลงทางร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ ความร้สู ึกทาง
เพศ ความเสมอภาคทางเพศ สร้างและรกั ษาสมั พนั ธภาพกับผู้อน่ื และตดั สินใจแก้ปญั หาชีวิตด้วยวิธกี ารที่เหมาะสม

● เลือกกนิ อาหารท่ีเหมาะสม ไดส้ ดั สว่ น ส่งผลดตี ่อการเจริญเติบโตและพฒั นาการตามวัย
● มีทกั ษะในการประเมนิ อทิ ธพิ ลของเพศ เพ่ือน ครอบครวั ชุมชนและวฒั นธรรมทม่ี ตี ่อ เจตคติ คา่ นยิ ม
เกยี่ วกบั สขุ ภาพและชวี ติ และสามารถจัดการไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
● ปอ้ งกันและหลีกเลย่ี งปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพและการเกิดโรค อุบัตเิ หตุ การใช้ยา สาร
เสพตดิ และความรนุ แรง รจู้ กั สร้างเสรมิ ความปลอดภยั ให้แกต่ นเอง ครอบครัว และชมุ ชน

● เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางกาย กจิ กรรมกีฬา กิจกรรมนนั ทนาการ กจิ กรรมสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย
เพ่อื สุขภาพ โดยนาหลกั การของทกั ษะกลไกมาใชไ้ ด้อยา่ งปลอดภัย สนกุ สนาน และปฏบิ ตั ิเป็นประจาสม่าเสมอตาม
ความถนัดและความสนใจ

● แสดงความตระหนกั ในความสมั พนั ธร์ ะหว่างพฤติกรรมสขุ ภาพ การป้องกนั โรค การดารงสุขภาพ การ
จัดการกับอารมณ์และความเครยี ด การออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬากบั การมีวิถชี วี ิตท่ีมสี ุขภาพดี

● สานกึ ในคุณคา่ ศักยภาพและความเปน็ ตวั ของตวั เอง
● ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา หนา้ ที่ความรับผดิ ชอบ เคารพสิทธขิ องตนเองและผู้อื่น ให้ความรว่ มมอื ในการ
แขง่ ขันกฬี าและการทางานเป็นทีมอยา่ งเปน็ ระบบ ด้วยความมุง่ ม่ันและมนี ้าใจนักกีฬา จนประสบความสาเรจ็ ตาม
เปา้ หมายดว้ ยความชืน่ ชม และสนกุ สนาน

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ สำระกำรเรียนร้พู ้ืนฐำน

รำยวิชำ พลศึกษำ รหัสวิชำ พ23103 จำนวน 0.5 หน่วยกิต

ช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 3 ภำคเรียนที่ 1 เวลำเรยี น 20 ชั่วโมง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ให้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับประวัตคิ วามเปน็ มาและความรทู้ ่ัวไปเก่ยี วกบั กีฬาเซปักตะกร้อ ปฏบิ ัติ

กิจกรรมการยืดเหยยี ดกล้ามเน้ือ การเคล่ือนที่ การออกกาลังกายดว้ ยกจิ กรรมกีฬาเซปักตะกร้อดว้ ยทักษะพ้ืนฐาน

การเตะตะกร้อ การโยน การเสิร์ฟ ทักษะการเป็นผเู้ ลน่ ฝ่ายรุกแบบตา่ ง ๆ การสกัดก้ัน อยา่ งถกู ต้อง ปลอดภยั และ

สนกุ สนาน

เพือ่ ให้มคี วามรู้ความเข้าใจในการเล่นกีฬาให้ปลอดภยั การแก้ไขปัญหา การเสริมสร้างสุขภาพ

ใชเ้ ทคโนโลยีหาความรู้เพิม่ เติมเพื่อให้รหู้ ลกั การและวธิ ีการออกกาลงั กายที่ถกู ต้อง มีทกั ษะ มสี มรรถภาพทางกาย

และทางจิต มรี ะเบียบวินยั มีคุณธรรมจรยิ ธรรม เหน็ คุณค่าและนาไปปฏิบัติในชีวติ ประจาวัน

ตวั ชีว้ ัด
พ 3.1
พ 3.1 ม.3/1 เลน่ กีฬาไทยและกีฬาสากล อย่างละ ๑ ชนิด โดยใชเ้ ทคนคิ ท่ีเหมาะสมกบั ตนเองและทีม
พ 3.1 ม.3/2 นาหลักการ ความรู้ และทักษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และการเล่น

กฬี าไปใช้ สรา้ งเสรมิ สุขภาพอยา่ งตอ่ เน่ืองเป็นระบบ
พ 3.2
พ 3.2 ม.3/1 มีมารยาทในการเล่นและดูกีฬา ดว้ ยความมนี ้าใจนักกีฬา
พ 3.2 ม.3/2 ออกกาลังกายและเลน่ กฬี า อย่างสมา่ เสมอและนาแนวคดิ หลักการจากการเลน่ ไปพฒั นา

คณุ ภาพชีวิตของตนดว้ ยความ ภาคภูมิใจ
พ 3.2 ม.3/3 ปฏบิ ตั ิตนตามกฎ กตกิ า และข้อตกลง ในการเล่นตามชนิดกีฬาทเ่ี ลอื ก และนาแนวคิดท่ีไดไ้ ป

พัฒนา คณุ ภาพชวี ติ ของตนในสงั คม
พ 3.2 ม.3/4 จาแนกกลวธิ กี ารรกุ การปอ้ งกนั และใช้ในการเลน่ กีฬาทเี่ ลือกและตัดสินใจเลอื กวิธที ่ี

เหมาะสมกับทมี ไปใชไ้ ด้ตามสถานการณ์ของการเลน่

ตารางท่ี 1 ตารางวเิ คราะหม์ าตรฐาน ตวั ช้ีวดั หรอื ผลการเรยี นรกู้ ับพทุ ธิพิสัย ทักษะพิสัยและจติ พิสยั
รายวิชาพลศึกษา รหัสวชิ า 23101 ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3

สาระท่ี 3 การเคลอ่ื นไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
พ 3.1
พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล อย่างละ ๑ ชนดิ โดยใช้เทคนคิ ท่เี หมาะสมกบั ตนเองและ

ทีม
พ 3.1 ม.3/2 นาหลกั การ ความรู้ และทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และ

การเลน่ กฬี าไปใช้ สร้างเสริมสขุ ภาพอย่างตอ่ เนื่องเปน็ ระบบ
พ 3.2
พ 3.2 ม.3/1 มมี ารยาทในการเล่นและดูกีฬา ดว้ ยความมนี ้าใจนกั กีฬา
พ 3.2 ม.3/2 ออกกาลังกายและเลน่ กีฬา อย่างสมา่ เสมอและนาแนวคดิ หลักการจากการเลน่ ไปพฒั นา

คุณภาพชวี ิตของตนดว้ ยความ ภาคภมู ิใจ
พ 3.2 ม.3/3 ปฏบิ ตั ิตนตามกฎ กตกิ า และข้อตกลง ในการเลน่ ตามชนิดกีฬาทเี่ ลือก และนาแนวคดิ ท่ี

ไดไ้ ปพัฒนา คุณภาพชวี ติ ของตนในสังคม
พ 3.2 ม.3/4 จาแนกกลวิธีการรกุ การป้องกนั และใชใ้ นการเล่นกีฬาทีเ่ ลือกและตัดสินใจเลอื กวิธีท่ี

เหมาะสมกับทีม ไปใชไ้ ด้ตามสถานการณ์ของการเลน่

มาตรฐาน คา พุทธิพิสัย ทกั ษะ จติ
และ สาคัญ ความร/ู้ มิติของกระบวนการทางสติปัญญาตามแนวคดิ พิสัย พสิ ยั
ตวั ช้วี ัด
ของบลมู ฉบบั ปรับปรุงใหม่ ทักษะ คุณ
กระบวนการ ลักษณะ
การ การ การ การ การ การ /สมรรถนะ
จา เขา้ ใจ ประยกุ ต์ใช้ วเิ คราะห์ ประเมิน สร้างสรรค์
ค่า

พ 3.1 ม. - เลน่ ✓✓ ✓✓
3/1 เลน่ กฬี า
กฬี าไทย - ใช้
และกีฬา
สากล - นา
อยา่ งละ ๑ - ใช้
ชนิด โดย
ใช้เทคนิค ✓ --
ท่ี
เหมาะสม
กบั ตนเอง
และทีม
พ 3.1 ม.
3/2 นา
หลักการ
ความรู้
และทกั ษะ
ในการ
เคลือ่ นไหว
กจิ กรรม
ทางกาย
การเลน่
เกม และ
การเลน่
กฬี าไปใช้
สรา้ งเสริม
สุขภาพ
อยา่ ง
ต่อเนื่อง
เปน็ ระบบ

พุทธิพสิ ยั

ความรู้/มิติของกระบวนการทางสตปิ ญั ญาตาม ทักษะพสิ ยั จิต
พสิ ยั
แนวคดิ

ของบลมู ฉบบั ปรบั ปรุงใหม่

ก ก

า ก ก ร
า า ส
ร ร ร ร้
วเิ ป า
มาตรฐานและตัวชว้ี ัด คาสาคญั ก ก ป ค ร ง
า า ร ร ะเ ส
ร ร ะ า มิ ร ทกั ษะ คุณ
จา เข้ ยุ ะ น ร กระบวนการ ลักษณะ
าใ ก ห์ ค่ ค์ /สมรรถนะ

จ ต์ ✓✓
✓✓

✓✓
ช้
✓✓
พ 3.2 ม.3/1 มมี ารยาทในการเลน่ และดู - มีมารยาท ✓

กีฬา ด้วยความมีนา้ ใจนกั กีฬา - มีนา้ ใจ

พ 3.2 ม.3/2 ออกกาลงั กายและเล่น - เลน่ กีฬา

กฬี า อยา่ งสม่าเสมอและนาแนวคดิ - นา ✓

หลกั การจากการเลน่ ไปพัฒนา คณุ ภาพ

ชวี ติ ของตนดว้ ยความ ภาคภมู ใิ จ

พ 3.2 ม.3/3 ปฏิบัตติ นตามกฎ กติกา - ปฏบิ ตั ิ

และข้อตกลง ในการเล่นตามชนดิ กฬี าท่ี - นา ✓

เลอื ก และนาแนวคิดทไี่ ดไ้ ปพัฒนา

คุณภาพชีวิตของตนในสงั คม

พ 3.2 ม.3/4 จาแนกกลวธิ ีการรกุ การ - จาแนก

ปอ้ งกนั และใช้ในการเล่นกีฬาทเ่ี ลอื ก - เลือก ✓✓

และตดั สนิ ใจเลอื กวิธีทีเ่ หมาะสมกบั ทีม

ไปใชไ้ ด้ตามสถานการณข์ องการเลน่

ตารางที่ 2 ตารางวิเคราะหค์ วามเช่ือมโยงของมาตรฐานและตัวช้ีวดั หรอื ผลการเรียนรกู้ บั
รายวิชา พลศึกษา รหสั วิชา พ23103

มาตรฐานและตวั ชว้ี ัด คาสาคญั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ดา้ นความ
(Knowledg
พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬา - เลน่ กฬี า เทคนคิ และวธิ กี ารเล่นกฬี า - มีความรู้ ความเข้า
ไทยและกฬี าสากล อยา่ ง - ใช้ ไทยและ กฬี าสากลทเ่ี ลือก ประวตั ทิ ีม่ าของกฬี า
ละ ๑ ชนดิ โดยใชเ้ ทคนิค เชน่ กรฑี าประเภทลู่ และ ตะกร้อ
ท่เี หมาะสมกับตนเองและ ลาน วอลเลย์บอล
ทมี บาสเกตบอล ดาบสองมอื
เทนนสิ ตะกร้อขา้ มตาขา่ ย
ฟตุ บอล

พ 3.1 ม.3/2 นาหลักการ - นา การนาหลกั การ ความรู้

ความรู้ และทักษะในการ - ใช้ ทักษะ ในการเคล่อื นไหว

เคล่อื นไหว กิจกรรมทาง กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม

กาย การเลน่ เกม และ การเล่นกฬี าไปใช้ เปน็ ระบบ

การเลน่ กีฬาไปใช้ สร้าง สรา้ งเสริมสุขภาพ อย่าง

เสรมิ สุขภาพอย่าง ตอ่ เน่อื ง

ตอ่ เนอ่ื งเป็นระบบ

หมายเหตุ K/P/A/C นาไปใช้ในการวิเคราะห์ความสัมพันธก์ ับตารางที่ 4

บพฤติกรรมการเรยี นรู้

พฤติกรรมการการเรียนรู้

มรู้ ด้านทกั ษะกระบวนการ ดา้ นสมรรถนะ ด้านคุณลกั ษณะ

ge) (Process) (Competencies) (Attribute)

าใจใน -สามารถปฏิบัตทิ กั ษะ 1.ความสามารถในการสื่อสาร 1.ซอื่ สัตยส์ ุจรติ

าเซปกั การเดาะลกู ดว้ ยข้าง 2. มีวนิ ยั
เท้าด้านในหรือส่วนอ่ืน 2.ความสามารถในการคดิ 3. ใฝ่เรียนรู้

ๆ ขงรา่ งกาย 3.ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. มุง่ มัน่ ในการ
ทางาน

4.ความสามารถในการใช้ทกั ษะ 5. มีจิตสาธารณะ

ชีวติ

-สามารถปฏิบตั ิทกั ษะ 5.ความสามารถในการใช้ -
การเดาะลกู ดว้ ยข้าง เทคโนโลยี
เทา้ ด้านในหรอื สว่ นอน่ื -
ๆ ของร่างกายร่วมกับ
สมาชกิ กลมุ่ ได้

มาตรฐานและตัวชวี้ ดั คาสาคญั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ด้านความ
(Knowledg

พ 3.2 ม.3/4 จาแนก - จาแนก วิธกี ารประยุกตใ์ ชก้ ลวธิ กี าร
กลวิธีการรุก การปอ้ งกนั - เลือก รุก และการป้องกนั ในการ
และใชใ้ นการเล่นกฬี าที่ เล่นกีฬา ไดต้ ามสถานการณ์
เลอื กและตัดสนิ ใจเลือก ของการเล่น
วธิ ที ีเ่ หมาะสมกบั ทมี ไป
ใชไ้ ดต้ ามสถานการณข์ อง
การเลน่

พ 3.2 ม.3/3 ปฏิบัติตน - ปฏบิ ตั ิ 1.กฎ กตกิ าและข้อตกลงใน
ตามกฎ กตกิ า และ - นา การเล่นกฬี า ทเี่ ลอื กเล่น
ข้อตกลง ในการเลน่ ตาม 2.การประยกุ ตป์ ระสบการณ์
ชนิดกีฬาทเี่ ลอื ก และนา การปฏิบตั ิ ตามกฎ กตกิ า
แนวคิดท่ีไดไ้ ปพฒั นา ข้อตกลงในการเล่นกฬี า ไปใช้
คณุ ภาพชวี ติ ของตนใน พฒั นาคุณภาพชวี ติ ของตนใน
สงั คม สงั คม

พฤตกิ รรมการการเรยี นรู้

มรู้ ดา้ นทักษะกระบวนการ ดา้ นสมรรถนะ ด้านคุณลกั ษณะ

ge) (Process) (Competencies) (Attribute)

-สามารถปฏบิ ัตทิ ักษะ 1.ความสามารถในการคดิ 1.ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ

การเสริ ์ฟได้ 2. มีวินัย
-สามารถปฏิบัติทักษะ 2.ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ใฝ่เรยี นรู้

การเล่นหน้าตาข่ายได้ 3.ความสามารถในการใช้ 4. มุง่ ม่นั ในการ
ทางาน

เทคโนโลยี 5. มจี ิตสาธารณะ

-สามารถแสดงท่าทาง 1.ความสามารถในการสื่อสาร 1.ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ
สญั ญาณมอื ผตู้ ดั สนิ 2.ความสามารถในการคดิ 2. มีวนิ ยั
และตดั สนิ การแข่งขนั 3.ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. ใฝ่เรียนรู้
ได้ 4. มุง่ มั่นในการ
ทางาน
5. มีจิตสาธารณะ

มาตรฐานและตัวชว้ี ัด คาสาคญั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ด้านความ
(Knowledg

พ 3.2 ม.3/2 ออกกาลัง - เล่นกีฬา 1.การออกกาลงั กายและการ
กายและเล่นกฬี า อย่าง - นา เล่นกีฬา ประเภทบคุ คลและ
สมา่ เสมอและนาแนวคดิ ประเภททมี
หลักการจากการเล่นไป 2.การนาประสบการณ์
พฒั นา คณุ ภาพชวี ติ ของ แนวคดิ จากการ ออกกาลงั
ตนด้วยความ ภาคภมู ิใจ กายและเลน่ กฬี าไป
ประยกุ ตใ์ ช้ ในการพัฒนา
คุณภาพชวี ิต

พ 3.2 ม.3/1 มมี ารยาท - มมี ารยาท มารยาทในการเลน่ และการดู
ในการเล่นและดูกฬี า - มีน้าใจ กีฬา ดว้ ยความมีนา้ ใจ
ดว้ ยความมนี า้ ใจนักกีฬา นกั กีฬา

พฤติกรรมการการเรยี นรู้

มรู้ ดา้ นทักษะกระบวนการ ด้านสมรรถนะ ดา้ นคณุ ลักษณะ

ge) (Process) (Competencies) (Attribute)

-สามารถแสดงการ 1.ความสามารถในการสอื่ สาร 1.ซอื่ สัตยส์ ุจรติ

แข่งขันประเภททมี 2. มวี นิ ัย
ภายในห้องตนเองตาม 2.ความสามารถในการคดิ 3. ใฝ่เรียนรู้

กติกาการแขง่ ขันได้ 3.ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. มุง่ มั่นในการ
ทางาน

4.ความสามารถในการใช้ทกั ษะ 5. มจี ติ สาธารณะ

ชวี ติ

-สามารถแข่งขัน 1.ความสามารถในการส่ือสาร 1.ซ่ือสตั ยส์ ุจรติ
ระหวา่ งห้องเรยี นและ 2.ความสามารถในการคดิ 2. มีวินัย
ดาเนนิ การแขง่ ขนั ให้ 3.ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. ใฝเ่ รยี นรู้
เปน็ ไปดว้ ยดไี ด้ 4.ความสามารถในการใชท้ กั ษะ 4. มงุ่ มนั่ ในการ
ทางาน
5. มีจติ สาธารณะ

ชีวติ





ตารางท่ี 3 กำ้ หนดหนว่ ยกำรเรยี นร้แู ละกำรก้ำหนดน้ำหนักคะแนนกำรวดั และประเมิน

รำยวิชำพลศกึ ษำ รหัสวชิ ำ พ23103 ชันมัธยมศกึ ษำปีที่ 3

จ้ำ







หน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนและตวั ชวี ัด สำระกำรเรียนรู้ ชั่









หนว่ ยที่ 1 พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬำไทยและ ประวตั ิกติกาและทกั ษะ

ประวตั กิ ตกิ ำและทกั ษะพนื ฐำน กฬี ำสำกล อยำ่ งละ ๑ ชนดิ โดย พื้นฐานกีฬาเซปักตะกร้อ

กฬี ำเซปักตะกร้อ ใชเ้ ทคนิค ทีเ่ หมำะสมกับตนเอง 1.ประวัติกีฬำเซปกั ตะกรอ้ 6

และทมี 2.ทกั ษะพืนฐำนกฬี ำเซปกั

ตะกรอ้

หนว่ ยท่ี 2 พ 3.1 ม.3/2 น้ำหลักกำร ทักษะพ้นื ฐานการเดาะกลมุ่

ทกั ษะพนื ฐำนกำรเดำะกลมุ่ ควำมรู้ และทักษะในกำร เซปกั ตะกรอ้

เซปกั ตะกรอ้ เคลื่อนไหว กจิ กรรมทำงกำย กำรเดำะกลมุ่ เซปักตะกร้อ

กำรเล่นเกม และกำรเล่นกีฬำไป 2

ใช้ สรำ้ งเสรมิ สขุ ภำพอย่ำง

ต่อเนื่องเป็นระบบ

หนว่ ยท่ี 3 พ 3.2 ม.3/4 จ้ำแนกกลวิธีกำร ทกั ษะการเสิรฟ์ และทา 4
รุก กำรป้องกนั และใชใ้ นกำร คะแนนหน้าตาขา่ ย

ำ นำ้ คะแนนตำมช่วงเวลำกำรวดั และประเมินผล

ห กป

นั ล ล

ก คะแนน ำำ

ค ตำมพสิ ยั ระหว่ำงเรยี น ง ย รวม
ะ ภ ภ

แ ำำ

น คค

นKPACKPACK K

20 10 6 2 2 10 6 2 2 - - 20

10 - 10 - - - 10 - - - - 10
20 - 16 2 2 - 16 2 2 - - 20

ทกั ษะกำรเสริ ฟ์ และทำ้ คะแนน เลน่ กฬี ำท่เี ลอื กและตดั สนิ ใจ 1.กำรเสริ ฟ์
หนำ้ ตำขำ่ ย เลอื กวิธีท่เี หมำะสมกับทมี ไป 2.กำรเลน่ ลูกหน้ำตำขำ่ ย
ใช้ได้ตำมสถำนกำรณข์ องกำร
เล่น

หนว่ ยกำรเรียนรู้ มำตรฐำนและตัวชวี ัด สำระกำรเรียนรู้ จ้ำ

หน่วยที่ 4 พ 3.2 ม.3/3 ปฏบิ ัติตนตำมกฎ กตกิ าและการตัดสนิ กีฬา ว
กตกิ ำและกำรตดั สินกฬี ำเซปกั กติกำ และขอ้ ตกลง ในกำรเล่น เซปกั ตะกรอ้ น
ตำมชนิดกีฬำท่ีเลือก และน้ำ กติกำและกำรตดั สนิ กฬี ำ ช่ั
ตะกร้อ แนวคดิ ทไี่ ดไ้ ปพัฒนำ คุณภำพ เซปกั ตะกร้อ ว
ชวี ติ ของตนในสังคม โ
หนว่ ยท่ี 5 พ 3.2 ม.3/2 ออกก้ำลงั กำยและ การแข่งขนั เซปกั ตะกรอ้ ม
กำรแขง่ ขันภำยใน เลน่ กีฬำ อย่ำงสมำ้่ เสมอและนำ้ ภายในหอ้ งเรยี น ง
แนวคิดหลกั กำรจำกกำรเล่นไป กำรแข่งขันเซปกั ตะกรอ้
หอ้ งเรียน พฒั นำ คณุ ภำพชวี ติ ของตนด้วย ภำยในหอ้ งเรียน 2
ควำม ภำคภมู ใิ จ
2

ำ น้ำ คะแนนตำมชว่ งเวลำกำรวดั และประเมินผล

ห กป

นั ล ล

ก คะแนน ำำ

ค ตำมพิสยั ระหว่ำงเรยี น ง ย รวม
ะ ภ ภ

แ ำำ

น คค

น KPACKPACK K

20 - 16 2 2 - 16 2 2 - - 20

10 - 6 2 2 - 6 2 2 - - 10

หนว่ ยที่ 6 พ 3.2 ม.3/1 มมี ำรยำทในกำร การแข่งขนั กฬี าเซปักตะกร้อ 2
กำรแขง่ ขนั กฬี ำเซปกั ตะกร้อ เล่นและดกู ฬี ำ ดว้ ยควำมมีนำ้ ใจ ระหวา่ งหอ้ งเรียน
นักกีฬำ กำรแข่งขนั กีฬำเซปักตะกร้อ
ระหวำ่ งหอ้ งเรียน ระหว่ำงห้องเรียน

รวม 18

20 - 16 2 2 - 16 2 2 - - 20

100 10 70 10 10 10 70 10 10 - - 100
100

ตารางที่ 4 การออกแบบ/การวางแผนการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
รายวิชา พลศึกษา รหสั วิชา พ23103 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานและตวั ชวี้ ัด คาสาคญั

หน่วยที่ 1 พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทย - เลน่ กีฬา พฤติกรรมก
- ใช้
ประวัติกตกิ าและทกั ษะ และกฬี าสากล อยา่ งละ ๑ ดา้ นความร(ู้ K)
- มคี วามรู้ ความเขา้ ใจใน
พนื้ ฐานกฬี าเซปัก ชนดิ โดยใช้เทคนคิ ที่ เซปักตะกร้อ
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ(
ตะกร้อ เหมาะสมกบั ตนเองและทมี -สามารถปฏบิ ตั ทิ กั ษะการ
ด้านในหรอื ส่วนอ่นื ๆ ขอ

หน่วยท่ี 2 พ 3.1 ม.3/2 นาหลักการ - นา ดา้ นทักษะกระบวนการ(
ทกั ษะพนื้ ฐานการเดาะกลมุ่ ความรู้ และทกั ษะในการ - ใช้ -สามารถปฏิบตั ทิ กั ษะการ
เคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย ดา้ นในหรือส่วนอน่ื ๆ ขอ
เซปักตะกร้อ การเลน่ เกม และการเล่นกฬี า สมาชกิ กลมุ่ ได้
ไปใช้ สร้างเสรมิ สขุ ภาพอย่าง ด้านสมรรถนะ (C)
ตอ่ เนอ่ื งเป็นระบบ 1.ความสามารถในการคดิ

2.ความสามารถในการแก

3.ความสามารถในการใช

ด้านคุณลักษณะอนั พึงป

หลักฐานการเรียนรแู้ ละวิธีการวดั

และประเมนิ ผลการเรียนรู้

การเรยี นรู้ แนวทางการวัด ประเมนิ ผลและ เคร่ืองมอื การวดั และประเมนิ ผล
หลักฐานการเรยี นรู้
1. แบบบนั ทึกคะแนน
ใหผ้ ู้เรียน ปฏบิ ัตดิ งั นี้ 2. แบบประเมินสมรรถนะ
3. แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั
นประวตั ทิ มี่ าของกฬี า 1. ศึกษาและทารายงานเกี่ยวกบั พงึ ประสงค์

ประวตั ิท่มี าของกีฬาเซปกั ตะกร้อ

(P) 2. ฝกึ ปฏบิ ัตทิ ักษะการเดาะลกู ด้วย

รเดาะลกู ด้วยข้างเท้า ข้างเทา้ ดา้ นในหรอื สว่ นอื่น ๆ ของ

องร่างกาย ร่างกาย เชน่ ข้างเทา้ ดา้ นใน ขา้ งเทา้

ด้านนอก หลงั เทา้ ศีรษะ

(P) ให้ผเู้ รียน ปฏบิ ัตดิ ังน้ี 1. แบบบนั ทกึ คะแนน
รเดาะลูกด้วยข้างเทา้ ฝึกปฏบิ ตั ทิ กั ษะการเดาะลูกดว้ ยขา้ ง
องรา่ งกายรว่ มกบั เทา้ ดา้ นในหรอื ส่วนอื่น ๆ ของ
ร่างกายรว่ มกับสมาชกิ กลมุ่


กป้ ญั หา
ช้เทคโนโลยี
ประสงค์(A)

1.ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ 4.อยอู่

2. มีวนิ ัย 5.มุ่งม

3. ใฝเ่ รยี นรู้

หน่วยทพ่ี 33.2 ม.3/4 จาแนกกลวธิ กี ารรุก การ - จาแนก ดา้ นทักษะกระบวนการ(
ทักษะการเสริ ฟ์ ปอ้ งกัน และใช้ในการเล่น - เลอื ก
และทาคะแนน กีฬาท่ีเลอื กและตดั สินใจเลือก 1. สามารถปฏบิ ัติทักษะก

หน้าตาขา่ ย วิธีทเี่ หมาะสมกบั ทมี ไปใช้ได้ 2. สามารถปฏิบตั ิทกั ษะก
ตามสถานการณข์ องการเล่น
ด้านสมรรถนะ (C)

1. ความสามารถในการค

2. ความสามารถในการแก

3.ความสามารถในการใช

ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงป

1.ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ 4.อยู่อ

2. มวี ินยั 5.มุ่งม

3. ใฝเ่ รยี นรู้

หน่วยทพ่ี 43.2 ม.3/3 ปฏบิ ตั ิตนตามกฎ กตกิ า - ปฏบิ ัติ ด้านทักษะกระบวนการ(
กติกาและการ และขอ้ ตกลง ในการเลน่ ตาม - นา
ตดั สินกฬี าเซปัก ชนิดกฬี าทเ่ี ลือก และนา สามารถแสดงทา่ ทางสญั ญ

ตะกร้อ แนวคิดทไ่ี ดไ้ ปพฒั นา ตดั สนิ การแขง่ ขันได้
คุณภาพชวี ติ ของตนในสังคม
ด้านสมรรถนะ (C)

1.ความสามารถในการสื่อ

2.ความสามารถในการคดิ

3.ความสามารถในการแก

ดา้ นคุณลักษณะอันพึงป
1.ซ่อื สัตยส์ จุ รติ 4.อยู่อ

อยา่ งพอเพยี ง
มัน่ ในการทางาน

(P) ใหผ้ เู้ รียนปฏบิ ตั ดิ ังน้ี 1. แบบบันทึกคะแนน
การเสริ ฟ์ ได้ 1.ฝึกปฏบิ ัติทกั ษะการเสริ ์ฟ 2. แบบประเมนิ สมรรถนะ
การเล่นหน้าตาข่ายได้ รายบคุ คล 3. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอัน
2.ฝกึ ปฏบิ ัติทกั ษะการเล่นหน้าตา พงึ ประสงค์
คดิ ข่ายรายบคุ คล

กป้ ญั หา
ชเ้ ทคโนโลยี
ประสงค์(A)
อยา่ งพอเพียง
มน่ั ในการทางาน

(P) ให้ผู้เรียนปฏบิ ัตดิ งั นี้ 1. แบบบันทึกคะแนน
ญาณมือผตู้ ดั สินและ -แสดงท่าทางสญั ญาณมือผ้ตู ดั สิน 2. แบบประเมนิ สมรรถนะ
และตดั สนิ การแข่งขันภายใน 3. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั
อสาร ห้องเรยี นและระหวา่ งหอ้ งเรียน พงึ ประสงค์

ก้ปญั หา
ประสงค(์ A)
อยา่ งพอเพยี ง

2. มวี ินัย 5.มุ่งม

3. ใฝ่เรยี นรู้

หน่วยทพี่ 53.2 ม.3/2 ออกกาลงั กายและเล่น - เล่นกีฬา ดา้ นทักษะกระบวนการ(
การแขง่ ขนั กฬี า อยา่ งสม่าเสมอและนา - นา สามารถแสดงการแขง่ ขนั
ภายในหอ้ งเรยี น แนวคิดหลักการจากการเลน่ ตนเองตามกตกิ าการแขง่ ข
ด้านสมรรถนะ (C)
ไปพฒั นา คณุ ภาพชวี ิตของ 1.ความสามารถในการสอื่
ตนด้วยความ ภาคภมู ใิ จ

2.ความสามารถในการคดิ

3.ความสามารถในการแก

ด้านคุณลักษณะอนั พึงป

1.ซือ่ สัตยส์ จุ รติ 4.อย่อู

2. มีวินยั 5.มุ่งม

3. ใฝเ่ รยี นรู้

หนว่ ยทพี่ 63.2 ม.3/1 มมี ารยาทในการเลน่ และ - มมี ารยาท ดา้ นทกั ษะกระบวนการ(
การแขง่ ขนั กีฬา ดูกฬี า ดว้ ยความมนี ้าใจ - มีนา้ ใจ
เซปักตะกร้อ นกั กีฬา -สามารถแขง่ ขันระหวา่ งห
ระหว่างหอ้ งเรยี น
ดาเนินการแข่งขันใหเ้ ปน็ ไ

ดา้ นสมรรถนะ (C)

1.ความสามารถในการส่อื

2.ความสามารถในการคดิ

3.ความสามารถในการแก

มนั่ ในการทางาน

(P) ให้ผเู้ รยี นปฏบิ ตั ดิ ังนี้ 1. แบบบนั ทกึ คะแนน
นประเภททมี ภายในหอ้ ง แสดงการแขง่ ขันประเภททมี ภายใน 2. แบบประเมนิ สมรรถนะ
ขนั ได้ หอ้ งตนเองตามกติกาการแขง่ ขัน 3. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอัน
พงึ ประสงค์
อสาร



กป้ ญั หา

ประสงค์(A)
อย่างพอเพียง
มน่ั ในการทางาน

(P) ให้ผ้เู รยี นปฏิบตั ดิ ังนี้ 1. แบบบันทึกคะแนน
ห้องเรยี นและ -ดาเนนิ การจดั การแข่งขันระหวา่ ง 2. แบบประเมนิ สมรรถนะ
ไปดว้ ยดีได้ หอ้ งเรยี นแบบแพ้คดั ออก ตามกตกิ า 3. แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั
สมาคมเซปกั ตะกร้อ พึงประสงค์
อสาร



ก้ปญั หา

ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ป

1.ซื่อสัตยส์ ุจรติ 4.อยู่อ

2. มีวนิ ยั 5.มงุ่ ม

3. ใฝเ่ รยี นรู้

หมายเหตุ พฤตกิ รรมการเรยี นรนู้ าขอ้ มูลมาจากตารางท่ี 2 และ แนวทางการวดั และประเมินผลแล

ประสงค์(A)
อยา่ งพอเพียง
มั่นในการทางาน

ละหลกั ฐานการเรยี นรู้ นาไปใชใ้ นตารางท่ี 8

ตารางท่ี 8 การออกแบบ/การวางแผนการกจิ กรรมการเรียนร

แผน

จดั ก สัปดาหท์ ่ี หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน คาสาคญั แนวทางการวัด ประเมนิ ผ
าร และตวั ชี้วดั และ
เรยี น
หลักฐานการเรียนรู้

รู้ที่

1 1-6 หน่วยท่ี 1 พ 3.1 ม. - เลน่ ใหผ้ ู้เรยี น ปฏบิ ตั ดิ งั นี้

ประวัติกตกิ าและทกั ษะ 3/1 เล่น กฬี า 1. ศึกษาและทารายงาน

พื้นฐานกีฬา กฬี าไทย - ใช้ เก่ียวกบั ประวตั ิท่ีมาของกฬี า

เซปักตะกร้อ และกฬี า เซปกั ตะกรอ้

สากล 2. ฝึกปฏบิ ตั ิทักษะการเดาะ

อย่างละ ๑ ดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในหรอื ส่วน

ชนิด โดย ๆ ของรา่ งกาย เช่น ขา้ งเทา้

ใชเ้ ทคนิค ด้านใน ขา้ งเท้าดา้ นนอก หล

ที่เหมาะสม เทา้ ศรี ษะ

กบั ตนเอง

และทมี

รู้ รายวชิ า พลศกึ ษา รหัสวชิ า พ23103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผล กระบวนการจดั การเรียนรู้และ สื่อ/นวตั กรรม/ จา
แนวทางการกจิ กรรมการเรียนรู้ ทรัพยากรและแหลง่ เรียนรู้ น

1. ประวตั ิกติกากีฬาเซปกั ตะกร้อ จดั การ 1. แบบฝึกทักษะ เกณฑ์การให้ น
เรียนรโู้ ดยใชว้ ธิ ีแบบใหผ้ เู้ รยี นค้นควา้ หา คะแนน(Rubric) ชั่

า คาตอบดว้ ยตนเอง (Guided Discovery) 2. ตัวอยา่ งของเนื้อหา โ
1. ครเู ตรยี มตัวอยา่ งเนอ้ื หา ม

ะลูก 2. ครอู ธิบายเกี่ยวตัวอย่างเนอ้ื หา 6
นอ่ืน 3. ให้นกั เรยี นค้นควา้

4. เมื่อค้นควา้ ไดเ้ นือ้ หาทตี่ อ้ งการใหส้ ่งครตู ามที่
ลงั ไดอ้ ธิบาย และครสู รุปเนอ้ื หาร่วมกัน

2. ทกั ษะพน้ื ฐานกฬี าเซปักตะกรอ้
จัดการเรียนรโู้ ดยใชว้ ิธแี บบฝึกปฏบิ ตั ิ (Practice)
1.ขัน้ การนาโดยครูโดยสอบถามถงึ สภาพรา่ งกาย
ของแต่ละคน
2.ครสู อนทกั ษะโดยเรมิ่ จากการยกตวั อยา่ งง่าย
ไปยาก

2 7-8 หนว่ ยที่ 2 พ 3.1 ม. - นา ให้ผเู้ รยี น ปฏิบัตดิ งั น้ี

ทักษะพื้นฐานการเดาะ 3/2 นา - ใช้ ฝึกปฏบิ ตั ทิ ักษะการเดาะลูก

กลมุ่ เซปกั หลักการ ด้วยข้างเทา้ ดา้ นในหรอื ส่วน

ตะกรอ้ ความรู้ ๆ ของรา่ งกายร่วมกับสมาชิก

และทกั ษะ กลุ่ม

ในการ

เคลอ่ื นไหว

กจิ กรรม

ทางกาย

การเลน่

เกม และ

การเล่น

กีฬาไปใช้

สร้างเสรมิ

สขุ ภาพ

อย่าง

ต่อเน่อื ง

เป็นระบบ

3.ครสู าธิตทักษะจากการยกตวั อยา่ งแบบง่ายไป

ยาก และเรม่ิ ทกั ษะที่ซับซอ้ น

4.ครูให้นกั เรียนไดฝ้ ึกปฏิบตั ิรว่ มกนั โดยการนา

ของครู

5.ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปทกั ษะร่วมกันในจดุ

ท่ตี ้องการแกไ้ ขและพฒั นา

ทักษะพ้นื ฐานการเดาะกลมุ่ เซปกั ตะกรอ้ 1. แบบฝกึ ทกั ษะ เกณฑก์ ารให้ 2

ก จัดการเรยี นรูโ้ ดยใชว้ ิธีแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ (Practice) คะแนน(Rubric)

นอืน่ 1.ขน้ั การนาโดยครูโดยสอบถามถงึ สภาพรา่ งกาย 2. ตวั อยา่ งของเน้ือหา

ก ของแตล่ ะคน

2.ครสู อนทกั ษะโดยเรมิ่ จากการยกตวั อยา่ งง่าย

ไปยาก

3.ครูสาธิตทักษะจากการยกตัวอยา่ งแบบงา่ ยไป

ยาก และเร่มิ ทกั ษะทซี่ ับซ้อน

4.ครใู หน้ กั เรยี นไดฝ้ ึกปฏบิ ตั ิรว่ มกนั โดยการนา

ของครู

5.ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ทกั ษะร่วมกนั ในจดุ

ท่ีตอ้ งการแกไ้ ขและพัฒนา

3 9, หนว่ ยที่ 3 พ 3.2 ม. - จาแนก ใหผ้ ูเ้ รียนปฏิบัตดิ งั นี้

11-13ทกั ษะการเสริ ์ฟและทา 3/4 - เลือก 1.ฝึกปฏบิ ัตทิ ักษะการเสิร์ฟ

คะแนนหน้าตา จาแนก รายบคุ คล

ขา่ ย กลวธิ กี าร 2.ฝึกปฏิบตั ทิ กั ษะการเลน่

รุก การ หนา้ ตาขา่ ยรายบคุ คล

ป้องกัน

และใช้ใน

การเล่น

กฬี าทเ่ี ลอื ก

และ

ตดั สินใจ

เลอื กวิธีท่ี

เหมาะสม

กบั ทีม ไป

ใชไ้ ดต้ าม

สถานการ

ณข์ องการ

เลน่

4 14-15 หนว่ ยทพี่ 43.2 ม.3/3 ปฏบิ ตั ิ - ปฏิบตั ิ ใหผ้ ู้เรยี นปฏบิ ัตดิ งั น้ี

กติกาและการ ตนตามกฎ - นา -แสดงท่าทางสัญญาณมอื ผู้

ตัดสนิ กีฬาเซปกั กติกา และ ตัดสนิ และตดั สนิ การแข่งขนั

ตะกรอ้ ข้อตกลง ภายในห้องเรียนและระหวา่

ในการเลน่ หอ้ งเรียน

ตามชนิด

กฬี าทเ่ี ลอื ก

ทกั ษะการเสริ ์ฟและทาคะแนนหน้าตาข่าย 1. แบบฝกึ ทักษะ เกณฑ์การให้ 4
จัดการเรยี นรโู้ ดยใชว้ ิธีแบบฝึกปฏบิ ัติ (Practice) คะแนน(Rubric)
1.ขัน้ การนาโดยครโู ดยสอบถามถึงสภาพรา่ งกาย 2. ตัวอย่างของเนือ้ หา
ของแต่ละคน
2.ครูสอนทักษะโดยเร่มิ จากการยกตวั อยา่ งงา่ ย
ไปยาก
3.ครสู าธิตทักษะจากการยกตวั อยา่ งแบบง่ายไป
ยาก และเรมิ่ ทกั ษะทีซ่ ับซ้อน
4.ครูใหน้ กั เรยี นไดฝ้ กึ ปฏิบตั ิรว่ มกนั โดยการนา
ของครู
5.ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ ทกั ษะรว่ มกันในจดุ
ท่ีต้องการแก้ไขและพฒั นา

กตกิ าและการตัดสินกฬี าเซปกั ตะกร้อ 1. แบบฝึกทกั ษะ เกณฑ์การให้ 2

จดั การเรียนรโู้ ดยใชว้ ิธีแบบฝึกปฏบิ ัติ (Practice) คะแนน(Rubric)

น 1.ขน้ั การนาโดยครโู ดยสอบถามถงึ สภาพรา่ งกาย 2. ตวั อยา่ งของเนอ้ื หา

าง ของแต่ละคน

2.ครสู อนทกั ษะโดยเริม่ จากการยกตัวอยา่ งง่าย

ไปยาก

และนา

แนวคิดท่ี

ได้ไป

พฒั นา

คณุ ภาพ

ชวี ิตของ

ตนในสังคม

5 16-17 หนว่ ยทพี่ 53.2 ม.3/2 ออก - เล่น ใหผ้ ้เู รียนปฏบิ ตั ดิ ังน้ี

การแข่งขนั กาลงั กาย กีฬา แสดงการแข่งขนั ประเภททมี

ภายในห้องเรยี น และเล่น - นา ภายในหอ้ งตนเองตามกตกิ า

กีฬา อยา่ ง การแข่งขัน

สม่าเสมอ

และนา

แนวคิด

หลกั การ

จากการ

เล่นไป

พัฒนา

คณุ ภาพ

ชวี ิตของ

ตนดว้ ย

ความ

ภาคภูมิใจ

3.ครูสาธิตทักษะจากการยกตัวอยา่ งแบบง่ายไป
ยาก และเรมิ่ ทกั ษะทซี่ บั ซอ้ น
4.ครใู หน้ กั เรียนไดฝ้ กึ ปฏิบตั ิรว่ มกนั โดยการนา
ของครู
5.ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปทกั ษะรว่ มกันในจดุ
ทตี่ อ้ งการแกไ้ ขและพัฒนา

การแข่งขันภายในหอ้ งเรยี น 1. แบบฝกึ ทกั ษะ เกณฑก์ ารให้ 2

ม จดั การเรยี นรโู้ ดยใช้วธิ แี บบฝึกปฏบิ ตั ิ (Practice) คะแนน(Rubric)

า 1.ข้นั การนาโดยครโู ดยสอบถามถงึ สภาพรา่ งกาย 2. ตัวอยา่ งของเน้อื หา

ของแตล่ ะคน

2.ครูสอนทักษะโดยเรม่ิ จากการยกตวั อยา่ งง่าย

ไปยาก

3.ครสู าธิตทักษะจากการยกตวั อยา่ งแบบง่ายไป

ยาก และเร่มิ ทักษะทีซ่ ับซอ้ น

4.ครูให้นักเรียนไดฝ้ กึ ปฏบิ ตั ิรว่ มกนั โดยการนา

ของครู

5.ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปทักษะรว่ มกันในจดุ

ทต่ี ้องการแก้ไขและพัฒนา

6 18-19 หน่วยทพี่ 63.2 ม.3/1 มี - มี ใหผ้ เู้ รียนปฏิบตั ดิ ังนี้

การแข่งขันกฬี า มารยาทใน มารยาท -ดาเนนิ การจดั การแขง่ ขนั

เซปักตะกรอ้ การเล่น - มนี า้ ใจ ระหวา่ งหอ้ งเรยี นแบบแพค้ ดั

ระหวา่ ง และดกู ีฬา ออก ตามกติกาสมาคมเซปกั

ห้องเรยี น ดว้ ยความมี ตะกร้อ

นา้ ใจ

นักกฬี า

หมายเหตุ สปั ดาห์ท่ี 10 ดาเนินการสอบกลางภาคเรียน จานวน 1 ชวั่ โมง
สปั ดาหท์ ี่ 20 ดาเนนิ การสอบปลายงภาคเรยี น จานวน 1 ชวั่ โมง

การแข่งขนั กีฬาเซปักตะกร้อระหวา่ งหอ้ งเรยี น 1. เกณฑก์ ารให้คะแนน(Rubric) 2

จัดการเรยี นรู้โดยใช้วิธีแบบมอบหมายงานหรอื ของงาน

ด ช้ินงาน ( Task ) 2. ตวั อย่างของเน้ือหา

ก 1.ข้นั การนาโดยครูโดยสอบถามถึงความพร้อม

ของแตล่ ะคน

2.ครูสอนเน้อื หาทอ่ี อกแบบและจดั เตรียมชิ้นงาน

ทีส่ าเร็จแลว้ ใหด้ เู ปน็ ตัวอยา่ ง

3.ครูสาธติ การทางานจากเน้ือหาทอี่ อกแบบไว้

4.ครูมอบหมายงาน

5.ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ร่วมกนั

สรุปการวัดและประเมนิ ผล

-------------------------------------------------

1. เปา้ หมายการจดั การเรียนรู้

1.1. ผู้เรียนมผี ลการเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน ร้อยละ 90

1.2. มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นเฉลย่ี 3.50

2. การให้คะแนน 100 คะแนน

2.1 อตั ราส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = 100 : (ไมม่ ีการสอบปลายภาค)

2.2 คะแนนระหวา่ งเรียน

2.2.1 ประเมนิ วดั ความรู้ 10 คะแนน (พุทธิพิสัย)

2.2.2 ประเมนิ ด้านทกั ษะ 70 คะแนน (ทกั ษะพสิ ยั )

2.2.3 ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 10 คะแนน (จิตพิสัย)

2.2.4 ประเมนิ สมรรถนะท่ีสาคญั 10 คะแนน (จิตพิสยั )

3. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ที่ประเมนิ คอื

3.1 ซื่อสัตย์สจุ รติ

3.2 มีวนิ ยั

3.3 ใฝ่เรียนรู้

3.4 มุง่ มน่ั ในการทางาน

3.5 มจี ติ สาธารณะ

4. สมรรถนะสาคัญท่ีไดร้ บั การพัฒนาจากการเรียนร้รู ายวชิ านค้ี ือ

4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร

4.2 ความสามารถในการคิด

4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา

4.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version