The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sirikanya Arkaruan, 2022-10-01 09:49:12

การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา

คอมพิวเตอร์ ๒ชั้นประถมศึกษาปีที่

เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
จัดทำโดย 64413837 สิริกัญญา อะกะเรือน

เสนอ อาจารย์ราชการ สังขวดี

คำนำ

หนังสือเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนนึงของอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษาเพื่อ
ศึกษาในเรื่องของการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษาเรื่องรู้จักกับส่วน
ประกอบคอมพิวเตอร์ โดยได้ศึกษาและรวบรวมจากแหล่งความรู้ต่างๆ อาทิ
เช่น หนังสือ เว็บไซต์ต่างๆ โดยรายงานเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การพัฒนาสื่อ
มัลติมีเดียเพื่อการศึกษา การวัดผลประเมินผล การสุ่มตัวอย่างผู้เรียน เป็นต้น

ผู้จัดทำหวังว่า รายงายเล่มนี้จะเป็นประโยคแก่ผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้า
ที่ต้องการข้อมูลเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หากมีข้อแนะนำหรือข้อผิดพลาดประการ
ใด ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย






สิริกัญญา อะกะเรือน
ผู้จัดทำ

สารบัญ ก
1
คำนำ 4
บทคัดย่อ 5
บทที่ 1 6
7
วัตถุประสงค์ 10
ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า 13
ประโยชน์ที่ได้รับ 16
เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 17
ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ 18
แบบประเมินคุณภาพของสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ 20
บทที่ 3 25
บทที่ 4 26
ตาราง 4.1 27
ตาราง 4.2 28
ตาราง 4.3 29
บทที่ 5 30
ภาคผนวก 31
สื่อมัลติมีเดียรูปแบบวิดีโอ
สื่อมัลติมีเดียรูปแบบflandcard
เฉลย flandcard
สื่อมัลติมีเดียรูปแบบเกม
เฉลยเกม

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1)พัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เรื่องส่วนประกอบของ
คอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
2)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนและหลัง
เรียน ด้วยสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์
3)ประเมินความพึงพอใจของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ
นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 20 คน




ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย
1)สื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เรื่อง ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
2)แบบประเมินคุณภาพ
3)แบบสอบถามความพึงพอใจ




1 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพวิเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทที่ 1 บทนำ

บทนำ
วัตถุประสงค์
ขอบเขตการศึกษาวิจัย
ประโยชน์ที่ได้รับ

2 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทที่ 1 บทนำ



การจัดการเรียนการสอนในวิชาคอมพิวเตอร์ ระดับชั้นประถม
ศึกษาปีที่ 2 จากการสอบถามครูผู้สอนในเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้นจาก
การจัดการเรียนการสอน ซึ่งได้รับทราบปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากผู้เรียน
ไม่รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ทำให้ไม่เข้าใจในบางคำสั่งในการ
ปฏิบัติของผู้สอน หรือการใช้งานที่ถูกต้อง และไม่สามารถอธิบายหน้าที่
ของส่วนประกอบได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนลด
ลง ดังนั้นการสร้างสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความรู้ความเข้าใจในแก่ผู้เรียน

จากปัญหาดังกล่าวทางผู้วิจัยได้ทำการพัฒนาสื่อมัลติมีเดีย
คอมพิวเตอร์ในรายวิชาคอมพิวเตอร์ เรื่อง รู้จักส่วนประกอบ
คอมพิวเตอร์ ในระดับประถมศึกษาปีที่ 2 โดยผู้วิจัยได้นำเนื้อหาการ
เรียนสร้างเป็นสื่อมัลติมีเดียขึ้นซึ่งประกอบด้วยวิดีโอ การ์ดคำ และเกม
เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนได้ดีขึ้น
และอีกทั้งผู้เรียนยังสามารถเข้าใจในเนื้อหามากขึ้นอีกด้วย




3 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

วัตวถัุตปถุรปะรสะงสค์งค์



1. เพื่อพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เรื่องส่วนประกอบ
คอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้งก่อนและหลังเรียนด้วย

สื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เรื่อง รู้จักกับส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์

เรื่อง รู้จักกับส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถม

ศึกษาปีที่ 2




4 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพวิเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

ขอบเขวัตตกถุาปรรศะึกสษงคา์วิจัย



1.ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

ประชากรคือนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 60 คน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือกลุ่มนักเรียนระดับชั้นประถม

ศึกษาปีที่ 2 โดยคัดเลือกจากการสุ่มเลขที่ 30 คน จากทั้งหมด 20 คน

ซึ่งจัดการเรียนการสอนด้วยสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้น

2.เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัย

เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี

ที่ 2 ตามหลักสูตรการเรียนรู้แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551




ประโยชน์ที่ได้รับ

1.สื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ที่พัฒนามีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก มีค่า
เฉลี่ย 4.18 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.83
2.นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี
นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5
3.นักเรียนมีความพึงพอใจต่อสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นอยู่
ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.14 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.70




5 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพวิเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทที่ 2 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
- ฮาร์ดแวร์ ( Hardware )
1.หน่วยรับข้อมูลหรืออินพุต
2.ระบบประมวลผลกลางหรือซีพียู
3.หน่วยเก็บข้อมูล

แบบประเมินคุณภาพของสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ที่พัฒนา
ขึ้น มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (rating scale)

6 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทที่ 2 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1 ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์


คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างเป็นระบบ (System) หมายถึงภายใน
ระบบงานคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยที่มีหน้าที่เฉพาะ
ทำงานประสานสัมพันธ์กัน เพื่อให้งานบรรลุตามเป้าหมาย ในระบบงาน
คอมพิวเตอร์ การที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว จะยังไม่
สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหากจะให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่าง
เป็นระบบและมีประสิทธิภาพแล้ว ระบบคอมพิวเตอร์ควรจะประกอบไป
ด้วยองค์ประกอบคือ บุคลากร (Peopleware) ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
ซอฟต์แวร์ (Software) ข้อมูล(Data) สารสนเทศ(Information) และ
กระบวนการทำงาน ( Procedure )
1. ฮาร์ดแวร์ ( Hardware ) ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบของตัวเครื่องที่
สามารถจับต้องได้ ได้แก่ วงจรไฟฟ้า ตัวเครื่อง จอภาพ เครื่องพิมพ์ คีร์
บอร์ด เป็นต้นซึ่งสามารถแบ่งส่วนพื้นฐานของฮาร์ดแวร์เป็น 4 หน่วย
สำคัญ
1.1 หน่วยรับข้อมูลหรืออินพุต ( Input Unit) ทำหน้าที่รับข้อมูลและ
โปรแกรมเข้า เครื่อง มีโครงสร้างดังรูป 1.3 ได้แก่ คีย์บอรืดหรือแป้น
พิมพ์ เมาส์ เครื่องสแกน เครื่องรูดบัตร Digitizer เป็นต้น

7 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

1.2 ระบบประมวลผลกลางหรือซีพียู (CPU : Central Processing
Unit) ทำหน้าที่ในการทำงานตามคำสั่งที่ปรากฏอยู่ในโปรแกรม ปัจจุบัน
ซีพียูของเครื่องพีซี รู้จักในนามไมโครโปรเซสเซอร์ ( Micro Processor)
หรือ Chip เช่นบริษัท Intel คือ Pentium หรือ Celelon ส่วนของ
บริษัท AMD คือ K6,K7(Athlon) เป็นต้นไมโครโปรเซสเซอร์ มีหน้าที่ใน
การประมวลผลข้อมูล ในลักษณะของการคำนวณและเปรียบเทียบ โดย
จะทำงานตามจังหวะเวลาที่แน่นอน เรียกว่าสัญญาณ Clock เมื่อมีการ
เคาะจังหวะหนึ่งครั้ง ก็จะเกิดกิจกรรม 1 ครั้ง เราเรียกหน่วย ที่ใช้ในการ
วัดความเร็วของซีพียูว่า “เฮิร์ท”(Herzt) หมายถึงการทำงานได้กี่ครั้งใน
จำนวน 1 วินาที เช่น ซีพียู Pentium4 มีความเร็ว 2.5 GHz หมายถึง
ทำงานเร็ว 2,500 ล้านครั้ง ในหนึ่งวินาที กรณีที่สัญญาณ Clock เร็วก็
จะทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องนั้น มีความเร็วสูง และ ซีพียูที่ทำงานเร็วมาก
ราคาก็จะแพงขึ้นมากตามไปด้วย
1.3 หน่วยเก็บข้อมูล ( Storage ) ซึ่งสามารถแยกตามหน้าที่ได้เป็น 2
ลักษณะ คือ
1.3.1 หน่วยเก็บข้อมูลหลักหรือความจำหลัก ( Primary Storage หรือ

Main Memory ) ทำหน้าที่เก็บโปรแกรมหรือข้อมูลที่รับมาจากหน่วย
รับข้อมูลเพื่อเตรียมส่งให้หน่วยประมวลผลกลางทำการประมวลผล และ

รับผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลเพื่อส่งออกหน่วยแสดงข้อมูลต่อไป

8 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

1.3.2 หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง ( Secondary Storage ) เป็น
หน่วยที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูล หรือโปรแกรมที่จะป้อนเข้าสู่หน่วยความ
จำหลักภายในเครื่องก่อนทำการประมวลผลโดยซีพียู รวมทั้งเป็นที่เก็บ
ผลลัพธ์จากการประมวลผลด้วย ปัจจุบันรู้จักในนามฮาร์ดดิสก์ (Hard
disk) หรือแผ่นฟร็อปปีดิสก์ (Floppy Disk) ซึ่งเมื่อปิดเครื่องข้อมูลจะยัง
คงเก็บอยู่

1.4 หน่วยแสดงข้อมูลหรือเอาต์พุต ( Output Unit ) ทำหน้าที่ใน
การแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล ได้แก่ จอภาพ และ
เครื่องพิมพ์ เป็นต้น ทั้ง 4 ส่วนจะเชื่อมต่อกันด้วยบัส




9 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

2 แบบประเมินคุณภาพของสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้น

มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (rating scale)
มาตรประมาณค่า (Rating Scale) เป็นระบบตัวเลข(มาตร) ที่
นิยมใช้กันมากรายการหนึ่งในการวิจัย ไม่ว่าจะนำมาพัฒนาเป็น
แบบสอบถามแบบสัมภาษณ์แบบวัดเจตคติ/แบบวัดคุณลักษณะต่างๆ
ซึ่งควรให้ความสำคัญการพัฒนาเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้
เทคนิคมาตรประมาณค่า ซึ่งเป็นข้อสรุปประเด็นหลักดังนี้
1.มาตรประมาณค่า เป็นมาตรในระดับ “อันดับ”(Ordinal Scale)
ในการเลือกใช้วิธีการทางสถิติ หรือการแปลผลการวิจัยจะต้อง
ระมัดระวัง
2.การพัฒนามาตรประมาณค่าเพื่อใช้ในการวัดเจตคติ ทัศนคติ และ
ความคิดเห็นประเภทที่ใช้ข้อความเป็นสิ่งเร้า แล้วให้ผู้ตอบแสดงความ
คิดเห็นว่า เห็นด้วยกับข้อความนั้นๆ มากน้อยเพียงใดซึ่งมีทั้งข้อความเชิง
บวก(ให้คะแนนแบบ 5 43 2 และ 1 ในกรณีที่ผู้ตอบเห็นด้วยมากที่สุด
จนถึง เห็นด้วยน้อยที่สุด) และ ให้คะแนนแบบกลับทิศ (1 2 3 4 และ 5
)ในกรณีที่เป็นข้อความเชิงลบ....คำถามที่มักจะถูกถามคือ ในแบบ
ประเมินฉบับนั้น ๆ ควรมีข้อความเชิงลบสักกี่ข้อ

10 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

หรือกี่เปอร์เซ็นต์ ของข้อความทั้งหมด....ตำตอบ คือมีผู้วิจัยแล้ว โดย
ทดลองบรรจุข้อคำถามเชิงลบไว้ 10 2030 40 60และ 60 %...ผลการ
วิจัย พบว่า “มีคุณภาพในด้าน “ความเที่ยง(Reliability) ไม่แตกต่าง
กัน”แต่ผู้วิจัยได้สรุปอย่างชัดเจนว่า“ควรมีข้อความเชิงลบคละไว้ส่วน
หนึ่ง”และในการแปลผล จะต้องเน้นการแปลผลคะแนนรวมมากกว่า
การแปลผลเป็นรายข้อผลการวิจัย พบว่า “มีคุณภาพในด้าน “ความ
เที่ยง(Reliability) ไม่แตกต่างกัน”แต่ผู้วิจัยได้สรุปอย่างชัดเจนว่า“ควรมี
ข้อความเชิงลบคละไว้ส่วนหนึ่ง”และในการแปลผล จะต้องเน้นการแปล
ผลคะแนนรวมมากกว่าการแปลผลเป็นรายข้อ

3.จำนวนช่อง/จำนวนระดับของมาตร เช่นมี 5 ช่อง คือ มากที่สุด
มากปานกลาง น้อยน้อยที่สุด(อาจจะเปลี่ยนคำคุณศัพท์เป็นอย่างอื่น)
หรือจะทำเป็น 6 ช่อง มากที่สุดมาก ค่อนข้างมาก ค่อนข้างน้อยน้อย
น้อยที่สุด หรือ7 ช่อง/ระดับ หรือ 4 ช่อง หรือ 3 ช่อง....จำนวน
ระดับมาตร/ช่องระดับการประเมินเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมที่สุด “ช่อง
จำนวนคู่ คือ 4 หรือ 6”หรือ “ช่องจำนวนคี่ 3 5 หรือ 7
ช่อง”....อย่างใดเหมาะสมมากกว่ากัน....ผลการวิจัย ยืนยันว่า จำนวน
ช่องที่เป็นคู่(4 หรือ 6) มีแนวโน้มให้ค่าความเที่ยงมากกว่า จำนวนช่อง
เลข คี่...แต่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

11 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

4.การกำหนดสัญลักษณ์ หรือให้ความหมายระดับมาตร5=มาก
ที่สุด 4 = มาก 3= ปานกลาง2= น้อย 1=น้อยที่สุด หรือจะ กลับเลข
เป็น 1= มากเป็นอันดับหนึ่งหรือมากที่สุดจนถึง 5= มากเป็นอันดับที่
5(หรือน้อยที่สุด) หรือให้สัญลักษณ์เป็น ก ขค ง และ จแทนมาก
ที่สุด ถึง น้อยที่สุด หรือ การใช้คำคุณศัพท์ประเภท Bipolar( 2 ขั้วเช่น
ชัดเจน----------คลุมเครือ, มาก----------น้อย, ดี----------เลว) จัดทำเป็น
มาตรประมาณค่าแบบ กราฟิก (Graphic Rating Scale)......ผลการวิจัย
พบว่า มาตรแบบกราฟิก มีแนวโน้มให้ค่าความเที่ยงสูงสุดสำหรับการ
กำหนดแบบอื่น ๆ ไม่แตกต่างกันในกรณีที่ปรับเป็นมาตรประมาณค่าเชิง
พฤติกรรม(Behaviorally-Anchored Rating Rating Scale)ก็จะให้ค่า
ความเที่ยง และความตรงมากขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

5.จำนวนข้อคำถามแต่ละประเด็นต้องมากเพียงพอต่อการวัด
พร้อมทั้งควรมีมิติการวัดอย่างครบถ้วนทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

12 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทที่ 3 การดำเนินงาน

ในการดำเนินงานจัดทำสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา เรื่อง
รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถม
ศึกษาปีที่ 2 มีดังนี้

การวางแผน โดยกำหนดปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเรียน
การสอน
การวิเคราะห์ ผู้วิจัยกำหนดปัญหาโดยทำการรวบรวม
ข้อมูลต่างๆ ภายในหนังสือเรียนเพื่อจัดสัดส่วนของ
เนื้อหาให้เหมาะสม
การออกแบบการจัดทำสื่อมัลติมีเดีย
การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรม

13 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทที่ 3 การดำเนินงาน

ในการดำเนินงานจัดทำสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา เรื่อง รู้จักกับส่วน

ประกอบคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีดังนี้

1.การวางแผน โดยกำหนดปัญหาเกี่ยวกับการจัดการ
เรียนการสอนเนื่องจากนักเรียนไม่เข้าใจเนื้อหาบทเรียน
ที่ครูสอนโดยวิธีการบรรยายในเนื้อหาตามหนังสือเรียน
ทางผู้วิจัยจึงได้จัดทำสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา "เรื่อง
รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 2 " โดยใช้ในการจัดการเรียนการสอน
เพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าใจในเนื้อหาบทเรียนได้ง่าย
ขึ้นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นและเกิดความ
สนุกสนานในการเรียน

2.การวิเคราะห์ ผู้วิจัยกำหนดปัญหาโดยทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ภายใน
หนังสือเรียนเพื่อจัดสัดส่วนของเนื้อหาให้เหมาะสมกับนักเรียนเพราะการสร้างสื่อ
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจะเน้นที่ข้อมลเชิงตอบโต้กับผู้เรียน ซึ่งจะใช้วิดีโอ
การ์ดคำ เกม และแบบทดสอบจากเนื้อหา และการวิเคราะห์จากผู้วิจัยทำการ
ศึกษาสังเกตข้อมูลของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ถึงระดับความรู้ความเข้าใจ
พื้นฐาน ความสนในต่อการเรียนรู้

14 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

3.การออกแบบการจัดทำสื่อมัลติมีเดียช่วยสอนต้องมีการ
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของคอมพิวเตอร์หลักจากได้ข้อมูลแล้ว
จัดทำโครงสร้างสื่อเป็นสตอร์บอร์ดเพื่อใช้เป็นแนวทางการจัดทำสื่อบท
เรียนคอมพิวเตอร์

4.การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ เรื่อง รู้จักกับส่วน
ประกอบคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรม CANVA ,INSHOT,WORD

15 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทที่ 4 สรุปผล

ผลการพัฒนาสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง รู้จักกับส่วนประกอบ
คอมพิวเตอร์ สำหรับชั้นประถมศึกปีที่ 2
ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง
เรียนด้วยสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมิเดียเรื่อง รู้จักกับส่วน
ประกอบของคอมพิวเตอร์
ผลการประเมินค่าความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อสื่อ
มัลติมิเดียคอมพิวเตอร์เรื่อง รู้จักกับส่วนประกอบของ
คอมพิวเตอร์

16 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทที่ 4 สรุปผล

ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้สร้างสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เรื่อง

รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดย
มีผลการวิจัยดังนี้

4.1.ผลการพัฒนาสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ตาราง 4.1 ผลการประเมินคุณภาพสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้น

จากตารางที่ 1ผลการประเมินคุณภาพสื่อมัลติมิเดียคอมพิวเตอร์ที่พัฒนา
พบว่า มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับมาก (x̅ = 4.18, S.D. = 0.83) เมื่อ
พิจารณารายด้านข้อคำถาม พบว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก
ที่สุดคือด้านเนื้อหาอยู่ในระดับมาก (x̅ = 4.28, S.D. = 0.89)รองลงมา คือ
ด้านการใช้ภาษาอยู่ในระดับมาก (x̅ =4.25, S.D. = 0.75) และต่ำที่สุด คือ
ด้านการใช้ตัวอักษร และสีอยู่ในระดับมาก (x̅ = 4.00, S.D. = 0.85)

17 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

4.2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน
ด้วยสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมิเดียเรื่อง รู้จักกับส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์

ตารางที่ 4.2 แสดงการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน

*p < .05 t (.05, df29) t = 1.70
จากตารางที่ 2พบว่าผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลัง
เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5

18 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

4.3ผลการประเมินค่าความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อสื่อมัลติมิเดีย
คอมพิวเตอร์เรื่อง รู้จักกับส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ดังตารางที่ 3
ตารางที่ 4.3 แสดงผลการประเมินค่าความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ

สื่อมัลติมิเดียคอมพิวเตอร์











ตารางที่ 3เมื่อพิจารณาในภาพรวม พบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อสื่อ
มัลติมิเดียคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับมาก (x̅ = 4.14, S.D. = 0.70) และเมื่อ
พิจารณารายข้อคำถามโดยพิจารณาจากล าดับของค่าเฉลี่ย พบว่า
นักเรียนมีความพึงพอใจในข้อที่ 1จำนวนคอมพิวเตอร์มีเพียงพอต่อการใช้
งาน และข้อที่ 9นักเรียนชอบใช้สื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ในการเรียน มี
ค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ ข้อที่ 7ขนาดตัวอักษร ภาพชัดเจน และข้อที่
10 บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีประโยชน์สำหรับนักเรียนตามลำดับ

19 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอ
ร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทที่5 อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

การอภิปรายผล

อภิปรายผลการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ เรื่อง
รู้จักกับส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ระดับชั้นประถม
ศึกษาปีที่2
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยสื่อ
มัลติมีเดียคอมพิวเตอร์พัฒนาขึ้น
ความพึงพอใจของผู้เรียนสื่อมัลติมีเดียเรื่องรู้จักกับส่วน
ประกอบของคอมพิวเตอร์

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะจากการจัดพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์

20 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บทที่5 อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

จากการศึกษาค้นคว้าเพื่อการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์

เรื่อง รู้จักกับส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่2
สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้

1.ผลการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ พบว่า สื่อมัลติมีเดีย
คอมพิวเตอร์พัฒนาขึ้น ผู้วิจัยมีการดำเนินการสื่อมัลติมีเดียอย่างเป็นระบบและ
เป็นไปตามขั้นตอนที่ได้วางเอาไว้ และผ่านกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็น
ลำดับขั้นตอนและได้ผ่านการปรับปรุงตามข้อแนะนำที่เน้นในเรื่องเนื้อหาและ
กราฟิกมีทั้งภาพภาพเคลื่อนไหว ข้อความ และ เสียงบรรยายประกอบ เพื่อ
สร้างความน่าสนใจของสื่อมัลติมีเดียให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นจึงทำให้สื่อ
มัลติมีเดียที่ได้ถูกปรับปรุงแก้ไขนั้นมีคุณภาพที่มากยิ่งขึ้น การพัฒนาบทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้วยเนื้อหาที่ถูกต้องชัดเจน มีเสียงประกอบ ภาพที่แสดง
ได้อย่างชัดเจน และสื่อความหมายได้ตรง ขนาดตัวอักษรเหมาะสมการนำ
เสนอเนื้อหาของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรียงลำดับจากง่ายไปหายาก
กิจกรรมน่าสนใจสนุกสนานจะทำให้บทเรียนคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นมา
คุณภาพที่ดี

21 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยสื่อมัลติมีเดีย
คอมพิวเตอร์พัฒนาขึ้นหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทาง
สถิติที่ระดับ 0.5 เนื่องจากผู้วิจัยได้ทำการทดสอบโดยให้นักเรียนทำแบบ
ทดสอบก่อนและหลังเรียนเพื่อทำการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนของนักเรียนจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแสดงให้เห็นว่านักเรียนมี
ความรู้และความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับ ทิศนา
แขมมณี(2552) ที่กล่าวไว้ว่า สิ่งใดก็ตามที่มีการฝึกหัดหรือกระทำหลาย
ครั้ง ย่อมทำให้ผู้ฝึกมีความคล่อง มีความสามารถทำได้ดี อีกทั้งในการ
จัดการเรียนรู้ผู้วิจัยมีหน้าที่ให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกแก่ผู้
เรียนสอดคล้องกับงานวิจัยของ พัชราวลัย จีนอนงค์ (2559) ที่ได้พัฒนา
สื่อมัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้ เรื่อง ผ้าขาวม้าร้อยสี สำหรับนักเรียนช่วง
ชั้นที่ 2 พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนด้วยสื่อ
มัลติมีเดียเรื่องผ้าขาวม้าร้อยสีมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า
ก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5

22 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

3. ความพึงพอใจของผู้เรียนสื่อมัลติมีเดียเรื่องรู้จักกับส่วน
ประกอบของคอมพิวเตอร์ พบว่ามีความพึงพอใจในระดับมาก ทั้งนี้เนื่อง
ผู้วิจัยได้จัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนอย่างครบถ้วน อีกทั้งสื่อ
มัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ที่พัฒนามีขนาดตัวอักษร และภาพประกอบที่
เหมาะสม เมื่อผู้เรียนได้เห็นภาพที่คมชัดและเข้ากับเนื้อหาที่ผู้เรียน
ศึกษาอยู่ ทำให้ผู้เรียนได้เข้าใจเนื้อหาได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีเสียงดนตรี
บรรยายเนื้อหา และบรรเลงประกอบทำให้ผู้เรียนไม่เบื่อหน่ายกับการ
เรียนและสามารถนำสื่อมัลติมีเดียกลับมาทบทวนความรู้ได้ตามความ
ต้องการได้สอดคล้องกับงานวิจัยของสิทธิชัย ไตรโยธีและคณะ (2556)
ได้พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมัลติมีเดียกลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ เรื่องปรากฏการณ์ทางลมฟ้าอากาศระดับชั้นมัธยมศึกษาปี
ที่ 1 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

23 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

ผลการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ มีข้อเสนอแนะดังนี้
1. การสร้างสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ที่ดี ผู้สอนควร

มีการจัดบทเรียนที่เหมาะสมกับผู้เรียนทั้งด้านเนื้อหาที่ควรสอดคล้องกับ
ระดับความรู้ ความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนมีการประเมินผลการเรียน
อย่างเหมาะสมเลือกใช้คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์อย่างชาญฉลาด
สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนได้มากที่สุด

2. ควรนำสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เรื่อง รู้จักกับส่วนประกอบ
คอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่2 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นไป
ทดลองหาค่าประสิทธิภาพสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์กับกลุ่มนักเรียน
กลุ่มอื่นเพื่อใช้ผลการวิจัยให้กว้างขวางมากขึ้น

3. ควรมีการสร้างสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์กลุ่มสาระวิชาการงาน
อาชีพและเทคโนโลยีในเนื้อหาอื่น ๆ และในกลุ่มสาระวิชาอื่น ๆ

4. ควรมีการนำเอาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการศึกษาวิจัย
ในลักษณะต่าง ๆ เช่นการเปรียบเทียบสื่อระหว่างสื่อมัลติมีเดีย
คอมพิวเตอร์กับสื่อการสอนอื่น ๆ เป็นต้น

24 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

ภาคผนวก

สื่อมัลติมีเดียที่พัฒนาขึ้น
มีทั้งหมด 3 รูปแบบ ดังนี้
สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบวีดีโอ
เรื่อง"รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์"
สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบ flashcard
เรื่อง"รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์"
สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบ เกม
เรื่อง"รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์"

25 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบวีดีโอ
เรื่อง "รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์"

สื่อการสอนในรูปแบบวีดีโอ โดยเนื้อหาเกี่ยวกับส่วนประกอบของ
คอมพิวเตอร์ การแบ่งประเภทการทำงาน หน้าที่ และวิธีการใช้งาน

สแกน qr cord วีดีโอ ลิ้งค์วีดีโอ :
https://youtu.be/j3K

DxyeXpDk
ชื่อคลิป "ส่วนประกอบ

คอมพิวเตอร์"

26 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบflashcard
เรื่อง "รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์"

สื่อการสอนในรูปแบบflashcard โดยเนื้อหาเกี่ยวกับส่วนประกอบ
ของคอมพิวเตอร์ การแบ่งประเภทการทำงาน หน้าที่ และวิธีการใช้งาน สา
มารถปริ้นเพื่อใช้ในการประกอบการสอนได้

ตัวอย่างแฟลชการ์ดชื่ออุปกรณ์ ตัวอย่างแฟลชการ์ดหน้าที่อุปกรณ์

สแกน qr cord แฟลชการ์ด ลิ้งค์ไฟล์แฟลชการ์ด :
https://drive.google.com/file/d/1

evdJvA0iuq2BdJLDS9gs-
MUNZhjxM4nk/view?usp=sharing




27 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

28 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
เฉลย

ลิ้งค์สำหรับเฉลย :
https://drive.google.com/file/d/1QTxmnjvbRMFEQMe3q7r7XU1nVkTj7meh/view?usp=sharing

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบเกม
เรื่อง "รู้จักกับส่วนประกอบคอมพิวเตอร์"

สื่อการสอนในรูปแบบเกม สร้างเกมที่มีชื่อว่า รู้จักกับส่วนประกอบ
คอมพิวเตอร์ เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาของนักเรียน

ตัวอย่างบอร์ด

สแกน qr cord บอร์ด ลิ้งค์ไฟล์บอร์ด:
https://drive.google.com/fil
e/d/1khasD2fJdo14dgJfagYc

TfSkag1myxys/view?
usp=sharing

29I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาเฉลย

30 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ลิ้งค์สำหรับเฉลย :
https://drive.google.com/file/d/1NTShzE6I0Ll2Jmvtq9BNP4qqZo0qplik/view

รายงาน : การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา

บรรณานุกรม

กิดานันท์ มลิทอง. (2542). เทคโนโลยีการศึกษาและนวัตกรรม.
กรุงเทพฯ :จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นิชรัตน์ ราชบุรี. (2545). คอมพิวเตอร์เบื้องต้นและอินเทอร์เน็ต.
กรุงทพฯ : คุรุสภา.

วิโรจน์ ชัยมูล และสุพรรษา ยวงทอง. (2552). ความรู้เบื้องต้น
เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ. กรุงเทพฯ : โปรวิชั่น

31 I วิชาคอมพิวเตอร์ เรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์


Click to View FlipBook Version