ประวัวั วัติวัติศติ ศติ าสตร์ร์ ร์ร์ ญี่ญี่ ญี่ปุ่ญี่ปุ่ปุ่ น ปุ่ ปุ่ น ปุ่ ในยุยุยุ ค ยุ คเอโดะ
คำคำ คำคำ นำนำ นำนำ คณะผู้จัดทำ 1/01/2566 หนังสืออีเล็กทรอนิกส์ (E-Book)เล่มนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านที่สนใจ ใน ประวัติศาสตร์สมัยเอโดะ และในหนังสือเล่มนี้จะรวบรวมข้อมูลจากแหล่ง ข้อมูลต่างๆ และจะสรุปเนื้อหาจากแหล่งข้อมูลเหล่านั้น คณะผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เล่มนี้จะสามารถ ให้ความรู้ครบถ้วยกับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในยุคเอโดะ หากผิดพลาดประการใด คณะผู้จัดทำ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
สารบับั บั ญ บั ญ เรื่อง หน้า คำ นำ ยุคเอโดะ การเมือง เศรษฐกิจ วัฒธรรม วิถีชีวิต เอกสารอ้างอิง ก 1 3 5 10 11 12
ยุยุ ยุ ค ยุ คเอโดะ ยุคเอโดะ หรือยุคที่เรียกว่ายุคโทกูงาวะ ค.ศ. 1603 - ค.ศ. 1868 คือ ยุคที่มีไดเมียวตระกูลโทกูงาวะเป็นโชกุน เริ่มเมื่อโทกูงาวะ อิเอยาซุ ได้ รวบอำ นาจและตั้งรัฐบาลโชกุนขึ้นที่เอโดะ ใน ค.ศ. 1603 และหลัง จากนั้นอีก 260 ปี การปกครองทั้งหลายก็ตกอยู่ในอำ นาจของตระกูล โทกูงาวะ รัฐบาลเอโดะได้ลิดรอนอำ นาจจากจักรพรรดิ เชื้อพระวงศ์ และพระสงฆ์จนหมดสิ้น และปกครองเกษตรกรไปทีละเล็กละน้อย เมื่อเกษตรกรอันเป็นฐานอำ นาจของรัฐบาลเอโดะยากจนลงจนเดือด ร้อน การปกครองของตระกูลโทกูงาวะก็เริ่มสั่นคลอนลงตั้งแต่เข้า ศตวรรษที่ 19
ยุคนี้เป็นยุคที่วัฒนธรรมของราษฎรสามัญเจริญจนถึงที่สุด ตั้งแต่ปลาย ศตวรรษที่ 17 จนถึงต้นศตวรรษที่ 18 เป็นยุคของวัฒนธรรมเก็นโรกุ ซึ่ง เป็นของนักรบผสมกับราษฎรสามัญ มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองใหญ่ ๆ อย่าง เกียวโตหรือโอซากะ เอกลักษณ์คือละครหุ่น ละครคาบูกิ และหัตถกรรม ต่าง ๆ มีศิลปินกำ เนิดจากราษฎรสามัญมากมาย เช่น นักเขียนอย่างอิฮา ระ ไซกากุ นักกลอนไฮกุอย่างมัตสึโอะ บาโช นักแต่งบทละครหุ่น ละคร คาบูกิอย่างชิกามัตสึ มนซาเอมง จนเมื่อศตวรรษที่ 19 ศูนย์กลางของ วัฒนธรรมได้ย้ายไปอยู่เอโดะ เป็นยุคของวัฒนธรรม คะเซ ซึ่งเป็น วัฒนธรรมของชนชาวเมือง อันได้แก่ นวนิยาย ละครคาบูกิ ภาพอูกิโยะ บุนจิงงะ เป็นต้น
การเมืมือ มื อ มื งสมัมัย มั ย มั นั้นั้ นั้ น นั้ นั้ น นั้ รัฐบาลเอโดะหรือรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ เป็นฝ่ายที่บริหารประเทศญี่ปุ่นโดยการใช้ ระบบศักดินาสวามิภักดิ์โดย ที่มีโทกูงาวะ อิเอยาซุ เป็นโชกุนผู้ปกรองสูงสุด ซึ่งต้อง มาจากตระกูล โทกูงาวะ เท่านั้น ในสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นถูกปกครอง ด้วยรัฐบาล โชกุนหรือว่ายุคเอโดะที่ตั้งตามชื่อเมืองเอโดะ ซึ่งได้เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่โดย รัฐบาลเป็นผู้จัดตั้งขึ้นมา หรือถ้า เปรียบในปัจจุบันคือ โตเกียว โดยมีปราสาทเอโดะ เป็นศูนย์กลางการปกครอง ตั้งแต่ค.ศ. 1603 จนถึง 1868 จนต่อมาโดน จักพรรดิเม จิล้มล้างและฟื้นฟูเมจิ ต่อมาหลังจากยุคเซ็งโงกุ[ยุคไฟสงคราม โอดะ โนบูนางะ และ โทโยโตมิฮิเดโยชิได้ ร่วมมือกันรวมอำ นาจสู่ศูนย์กลาง และ ได้ก่อตั้งตัวเป็นรัฐบาล กลางขึ้นอีกครั้งในยุคยุคอาซูจิ– โมโมยามะ ซึ่งเป็นยุคสั้นๆ ก่อนสมัยของเอโดะ และต่อมาหลังจากยุทธการที่เซกิงาฮาระ ซึ่งเป็นการรบครั้งยิ่งใหญ่ในปีค.ศ. 1600 การปกครองและ อำ นาจทั้งหมด จึงตกอยู่ในมือโทกูงาวะอิเอยาซุเป็นที่เรียบร้อย
และ ยังได้สถาปนาตนเองเป็นโชกุนในปีค.ศ. 1603 เป็นไปตาม ประเพณีซึ่งโชกุนต้องมีการสืบทอดเชื้อสายจากต้นตระกูลมินาโมโตะ ในยุคของโทกูงาวะเป็นยุคที่แตกต่างจากยุค ของโชกุนคนอื่นๆมีการนำ ระบบชนชั้นมาใช้เริ่มต้นโดนโทโยโตมิฮิเดโยชินำ มาใช้อย่างเข้มงวดโดย ชนชั้นนักรบหรือซามูไร อยู่บนสุด ต่อด้วยชาวนา ช่างฝีมือ และ พ่อค้า ต่างๆ การที่ใช้ระบบชนชั้นอย่างเข้มงวดและไม่มีความยืดหยุ่นทำ ให้ เกิดการ จลาจลเกิดขึ้นอยู่ตลอด ภาษี
ปัปัญ ปั ญ ปั หาเศรษฐกิกิ กิ จกิ จสัสั สั ง สั งคมและการปฏิฏิรูฏิ รูฏิ รู ป รู ป ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่สิบแปดประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหาภาวะค่าเงินแข็ง ตัวอันเนื่องมาจากเงินทองที่หมุนเวียนอยู่ภายในประเทศญี่ปุ่นรั่วไหลออกไป ทางการค้ากับต่างประเทศ คนสนิทของโชกุนได้แก่ อาราอิ ฮากูเซกิ และ มานา เบะ อากิฟูสะ ออกนโยบายเพิ่มปริมาณเงินในระบบด้วยการออกเงินกษาปณ์ ชุดใหญ่ชุดใหม่ในค.ศ. 1714 และกำ จัดการนำ เงินไปใช้จ่ายในการค้ากับต่าง ประเทศ หลังจากที่โชกุน โทกูงาวะ อิเอ็ตสึงุ ถึงแก่กรรมโดยปราศจากทายาท ในค.ศ. 1716 ทำ ให้ตระกูลโทกูงาวะสาขาหลักต้องสูญสิ้นไป และ โทกูงาวะ โย ชิมูเนะ ไดเมียวแห่งแคว้นคีอิจากสาขาย่อยของตระกูลโทกูงาวะได้ขึ้นครอง ตำ แหน่งโชกุน โชกุนโทกูงาวะ โยชิมูเนะ ออกนโยบาย การปฏิรูปปีเคียวโฮ เศรษฐกิกิจ กิ จ กิสมัมัย มั ย มั เอโดะ
ขึ้นในค.ศ. 1721 เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ตัดรายจ่ายที่ไม่จำ เป็นส่งเสริม บทบาทของข้าวไว้ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าแทนเงิน รวมทั้งการ ผ่อนคลายความเข้มงวดของลัทธิขงจื้อทำ ให้ชนชั้นพ่อค้ามีบทบาทมากขึ้นและ ผ่อนคลายการปิดประเทศทำ ให้สื่อและองค์ความรู้ตะวันตกเข้ามาในญี่ปุ่นได้มาก ขึ้นเกิดเป็นรังงากุ หรือศิลปศาสตร์ตะวันตก ในสมัยของโชกุน โทกูงาวะ อิเอฮารุ ซึ่งเข้ารับตำ แหน่งในค.ศ. 1760 อำ นาจการปกครองในรัฐบาลโชกุนเป็นของ ทานู มะ โอกิตสึงุ เป็นสมัยที่รัฐบาลโชกุนมีความเสรีนิยมมากขึ้น ชนชั้นพ่อค้ามีอำ นาจ มากขึ้นและศิลปศาสตร์รังงากุเจริญรุ่งเรือง แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่มีความเสื่อมถอย ของคุณธรรมเกิดการทุจริตติดสินบนขึ้นอย่างกว้างขวางโดยมีทานูมะ โอกิตสึงุ เป็นศูนย์กลางของความฉ้อฉลเหล่านั้น
ในสมัยเอโดะมีการอพยพของชาวญี่ปุ่นเข้าไปตั้งถิ่นฐานบนเกาะเอโซะ หรือเกาะ ฮกไกโด ในปัจจุบัน ทำ ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างฝ่ายรัฐบาลโชกุนและชาว ญี่ปุ่นกับฝ่ายชาวไอนุ (Ainu) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมบนเกาะเอโซะ ชาวไอนุ พื้นเมืองลุกฮือขึ้นต่อต้านการปกครองของรัฐบาลโชกุนในปีค.ศ. 1669-1672 กบฎของชากูชาอิน (Shakushain's revolt) และในค.ศ. 1789 กบฎเมนาชิ-คูนา ชีร์ (Menashi-Kunashir rebellion) ในสมัยของทานูมะเป็นสมัยที่ชนชั้นพ่อค้าเรืองอำ นาจ แม้วัตถุเจริญรุ่งเรืองแต่ สังคมกลับถดถอยลง เมื่อโชกุนอิเอฮารุถึงแก่กรรมในค.ศ. 1786 ทำ ให้ทานูมะ โอกิตสึงุสูญสิ้นอำ นาจไป โชกุนคนต่อมาคือโทกูงาวะ อิเอนาริ อำ นาจการ ปกครองอยู่ที่ โรจู มัตสึไดระ ซาดาโนบุ มัตสึไดระ ซาดาโนบุ มีความยึดมั่นใน ลัทธิขงจื้อและต้องการที่จะฟื้นฟูความเรียบร้อยในสังคมญี่ปุ่นให้เป็นไปอย่างถูก ต้องตามธรรมนองเดิม นำ ไปสู่การปฏิรูปปีคันเซ ในค.ศ. 1790 เน้นย้ำ ความ สำ คัญของหลักการลัทธิขงจื้อในสังคมโดยการประกาศให้ลัทธิขงจื้อของจูซื่อเป็น ศาสนาประจำ ชาติ ลดอำ นาจของชนชั้นพ่อค้าและปราบปรามอิทธิพลของรังงากุ ในค.ศ. 1842 โรจู มิตซูโนะ ทาดากูนิ ออกนโยบายการปฏิรูปปีเทมโป ลดความ ฟุ่มเฟือยต่างๆในสังคม
ในค.ศ. 1792 ญี่ปุ่นมีการติดต่อกับจักรวรรดิรัสเซียเป็นครั้งแรก เรือของรัสเซีย ซึ่งนำ โดยนายอดัม แลกซ์แมน (Adam Laxman) มาเทียบท่าเมืองมัตสึมาเอะ บนเกาะฮกไกโดเพื่อเจรจาขอทำ การค้าขายกับญี่ปุ่น โรจูมะสึไดระ ซะดะโนะบุ ปฏิเสธที่จะให้รัสเซียค้าขายที่ฮกไกโดแต่ให้อนุญาตให้เรือสินค้ารัสเซียไปเทียบ ท่าที่นางาซากิแทน การยอมให้สิทธิการค้าแก่รัสเซียทำ ให้มะสึไดระ ซะดะโนะบุ ถูกโจมตีอย่างหนักจนพ้นจากอำ นาจไปในค.ศ. 1793 หลังจากนั้นมีเหตุการณ์ เรือของชาติตะวันตกหยั่งเชิงเข้าเทียบท่าที่ญี่ปุ่นหลายครั้งเพื่อท้าทายนโยบาย การปิดประเทศและเปิดโอกาสการทำ สนธิสัญญาการค้า แต่รัฐบาลโชกุนเพิกเฉย ไม่สนใจต่อชาวตะวันตกเหล่านั้น ในค.ศ. 1837 เรือของสหรัฐอเมริกาชื่อว่ามอร์ริ สัน (Morrison) ได้เข้าเทียบท่าที่เมืองคาโงชิมะและอ่าวอูรางะใกล้เมืองเอโดะ ฝ่ายรัฐบาลโชกุนทำ การตอบโต้อย่างรุนแรงด้วยการยิงปืนใหญ่เรียกว่า เหตุกา รณ์มอร์ริสัน (Morrison Incident)
ในช่วงปลายยุคเอโดะในขณะที่ชนชั้นซามูไรและรัฐบาลโชกุนให้การสนับสนุนแก่ ลัทธิขงจื้อของจูซื่อและชื่นชมวัฒนธรรมจีนโบราณ เกิดแนวความคิดที่หันกลับมา ศึกษาและชื่นชมวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม เรียกว่า "โคกูงากุ" นักปราชญ์ในปลาย ยุคเอโดะได้แก่ โทกูงาวะ มิตสึกูนิ ไดเมียวแห่งแคว้นมิโตะ และโมโตโอริ โมรินา กะ เป็นผู้ริเริ่มแนวความคิดโคกูงากุ โดยที่นักปราชญ์สำ นักนี้ให้ความสำ คัญแก่ ศาสนาชินโต และยกย่องสถาบันพระจักรพรรดิซึ่งอยู่คู่ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมา ตั้งแต่โบราณ แนวความคิดแบบโคกูงากุจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเมืองในช่วง ปลายยุคเอโตะในสมัยต่อมา
วัฒนธรรม วัฒนธรรมญี่ปุ่นในยุคเอโดะราวศตวรรษที่17ถึง18 เริ่ม ขึ้นเมื่อโชกุนโทกูงาวะสั่งปิดประเทศและในช่วงนี้เป็นยุคของวัฒน ธรรมเก็นโรกุ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของนักรบผสมกับราษฎรมี เอกลักษณ์คือละครคาบูกิ และงานเขียนต่างๆมีนักเขียนชื่อดัง มากมายที่เคยเป็นแค่ราษฎรเช่น นักเขียนอย่างอิฮาระ ไซกากุ นัก กลอนไฮกุอย่างมัตสึโอะ บะโช นักแต่งบทละครหุ่นคาบูกิ ชิกามั ตสึ มนซาเอมอน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมอื่นๆอีกที่เกิด ขึ้นในยุคเอโดะและในปัจจุบันหลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี เช่น การทำ ซูชิและการชงชา เป็นต้น วัวัฒ วั ฒ วั นธรรมสมัมัย มั ย มั เอโดะ
วิถีชีวิต สังคมญี่ปุ่นในยุคเอโดะแตกต่างจากสังคมญี่ปุ่นในยุคอื่น ๆ เนื่องจาก ลัทธิขงจื๊อใหม่เข้ามามีอิทธิพล สังคมยุคเอโดะแบ่งออกเป็นสี่ชนชั้นเรียกว่าชิโน โกโช ประกอบด้วย ชนชั้นซามูไร ชนชั้นชาวนา ชนชั้นช่างฝีมือ และชนชั้น พ่อค้า แต่ละชนชั้นมีบทบาทและหน้าที่ของตนเองอย่างชัดเจนเคร่งครัด ชนชั้นทั้งสี่ •ชนชั้นซามูไร เป็นชนชั้นอภิสิทธิ์ชนผู้ปกครองประเทศ และเป็นตัวอย่างใน ทางจริยธรรมให้แก่ชนชั้นอื่น โดยมีจำ นวนเป็นส่วนน้อยของประชากร ชนชั้น ซามูไรได้รับอภิสิทธิ์ในการถือครองอาวุธต่างๆเช่น ดาบ ปืน •ชนชั้นชาวนา เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ มีหน้าที่เพาะปลูกเก็บเกี่ยว ผลผลิตเพื่อเลี้ยงตนเองและมอบให้แก่ชนชั้นซามูไร •ชนชั้นช่างฝีมือ และ ชนชั้นพ่อค้า มีศักดิ์ต่ำ กว่าชนชั้นชาวนาตามหลักของ ลัทธิขงจื๊อ เนื่องจากชนชั้นช่างฝีมือผลิตสิ่งที่เป็นไปเพื่อความสวยงามเท่านั้น และชนชั้นพ่อค้าหารายได้จากผลผลิตของผู้อื่นเพียงอย่างเดียว แต่ในทาง ปฏิบัติในยุคเอโดะชนชั้นช่างฝีมือและชนชั้นพ่อค้ามีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี วิวิถี วิ ถี วิ ชีถี ชีถีวิ ชี วิ ชีต วิ ต วิ สมัมัย มั ย มั เอโดะ
ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาประวัติศาสตร์สมัยเอโดะ https://th.wikipedia.org/wiki/ยุคเอโดะ https://th.wikipedia.org/wiki/รัฐบาลเอโดะ https://hmong.in.th/wiki/Edo_perio