The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงการ เล่าขานประวัติศาสตร์นครราชสีมา ผ่านนามสกุลคนโคราช

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kwannnn2542, 2022-04-04 02:25:38

โครงการ เล่าขานประวัติศาสตร์นครราชสีมา ผ่านนามสกุลคนโคราช

โครงการ เล่าขานประวัติศาสตร์นครราชสีมา ผ่านนามสกุลคนโคราช

๙๘

คุณพ่อกลุ ชาติ กุลกลางดอน
คณุ พ่อวฒั นา พงษ์ศริ ิ
ผอ.นิคม คมพทิ ยากุล
ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นพนั ชนะ
ผเู้ ลา่ เร่อื งราว

นางสาวแฉลม้ วรรณารกั ษ์
นางมธรุ นิ แผลงจนั ทกึ
ผเู้ กบ็ ขอ้ มูล/สมั ภาษณ์

นายกติ ตกิ ร คมพทิ ยากลุ
นางสาวเมวกิ า เปลย่ี นขุนทด
ครูโรงเรยี นบา้ นพนั ขนะ
ผบู้ นั ทกึ ขอ้ มลู

๙๙

๑๐๐

พระราชกิจจานุเบกษา

๑๐๑

พระราชกิจจานุเบกษา

๑๐๒

บา้ นกิจจารกั ษ์

๑๐๓

บา้ นกิจจารกั ษ์

๑๐๔

คณุ พ่อกลุ ชาติ กลุ กลางดอน
ให้ขอ้ มูลนามสกลุ กลุ กลางดอน กบั กิจจา

รกั ษ์
และภาพตระกลู กิจจารกั ษ์ กบั กลุ กลาง

ดอน

๑๐๕

เอกสารอ้างอิงนามสกลุ พงษศ์ ิริ
และสมุดหมายเหตทุ ี่มาของนามสกลุ

๑๐๖

เอกสารอ้างอิงนามสกลุ พงษ์ศิริ
และสมดุ หมายเหตุที่มาของ

นามสกลุ

๑๐๗

คณุ พ่อวฒั นา พงษศ์ ิริ
ผ้ใู ห้ขอ้ มลู นามสกลุ พงษศ์ ิริ
และสมุดหมายเหตุท่ีมาของนามสกลุ

๑๐๘

ผอ.นิคม คมพิทยากลุ
คอื ผใู้ ห้ข้อมูลนามสกลุ ลงท้ายดว้ ยขนุ ทดและพนั

ชนะ
ภาพสมดุ ขอ่ ยท่ีอ้างถงึ การตงั้ อาเภอด่านขนุ ทด

๑๐๙

ผอ.นิคม คมพิทยากลุ
คอื ผใู้ ห้ข้อมูลนามสกลุ ลงท้ายดว้ ยขนุ ทดและพนั

ชนะ
ภาพสมดุ ขอ่ ยท่ีอ้างถงึ การตงั้ อาเภอด่านขนุ ทด

๑๑๐

ภาพการออกสมั ภาษณ์
แหล่งขอ้ มลู

นางสาวแฉลม้ วรรณารกั ษ์, นางมธรุ ิน แผลงจนั ทึก สมั ภาษณ์ สบื ข้น
ขอ้ มลู

๑๑๑

เล่าขานประวตั ิศาสตร์
นครราชสีมาผา่ นนามสกลุ คนโคราช

“ประวตั ิอาเภอบวั ใหญ่”

๑๑๒

แบบสารวจขอ้ มูล

คาถามในการสมั ภาษณ์ : โครงการเล่าขานประวตั ิศาสตรน์ ครราชสีมาผ่านนามสกลุ คน
โคราช

ส่วนท่ี ๑ ขอ้ มลู ของผทู้ ท่ี ่านไปสมั ภาษณ์และคาถามทใ่ี ช้ในการสมั ภาษณ์ ระบุขอ้ มลู ของผทู้ ท่ี ่านไป
สมั ภาษณ์ : ช่ือ – สกลุ นายเขต สอนนอก ตาแหน่ง ทอ้ งถน่ิ อาเภอบวั ใหญ่ อาชพี รบั ราชการ
วนั เดือน ปี ท่ีสมั ภาษณ์ 2 พฤศจกิ ายน 2564 ผใู้ หส้ มั ภาษณ์

๑. หลกั การตงั้ นามสกลุ ของคนหมู่บ้าน (ช่ือหมู่บ้าน)
คาว่า "นอก" ในอดตี มฐี านะเป็นด่าน ชอ่ื ว่า "ดา่ นนอก" เช่น นามสกุล จนั ทรน์ อก,กล

นอก, สอนนอก,พรมมานอก,ศรนี อก,ศรศี กั ดนิ์ อก เป็นต้น ต่อมาปี พ.ศ. 2499 ได้รบั การยกฐานะ
เป็นอาเภอ ช่อื ว่า อาเภอด่านนอก พ.ศ. 2455 ได้ยา้ ยทว่ี ่าการอาเภอด่านนอก มาตงั้ อยู่ท่บี า้ นบวั
ใหญ่ และไดเ้ ปลย่ี นช่อื จาก อาเภอด่านนอกมาเป็นอาเภอบวั ใหญ่

๒. นามสกลุ นี้มีมาแต่ดงั้ เดิมหรือไม่
ใช่ นามสกุล “สอนนอก” มมี าตงั้ แต่ดงั้ เดมิ โดยเท่าทจ่ี าความได้ ไดส้ บื ทอดนามสกุล

“สอนนอก” มาจากร่นุ คณุ ปู่

๓. นามสกลุ นี้ตงั้ ขน้ึ ใหมห่ รือไม่
ไมใ่ ช่นามสกลุ ทต่ี งั้ ขน้ึ มาใหม่ นามสกลุ “สอนนอก” มตี งั้ แตด่ งั้ เดมิ แลว้

๔. นามสกลุ ของท่านมที ี่มาหรอื ประวตั ิความเป็นมาอยา่ งไร
นามสกลุ “สอนนอก” อา้ งองิ มาจากคาว่า เมอื งด่านนอก ซงึ่ คาว่าเมอื งด่านนอกปรากฏ
อยู่ในคา ขวั ญ อาเภอบวั ใหญ่ “นามเดมิ ดา่ นนอก เมอื งดอกบวั ไหม ชมุ ทางรถไฟ บงึ ใหญง่ ดงาม ลอื
นามโตะ๊ จนี ถน่ิ หลาน ย่าโม”

๑๑๓

๕. นามสกลุ นี้มาจากบรรพบรุ ษุ ท่านใดในตระกลู
๕.๑ บรรพบรุ ษุ ท่านนนั้ มภี มู ิลาเนาเดิมมาจากไหน
บรรพบุรุษของขา้ พเจา้ ไดอ้ าศยั อยใู่ นพน้ื ทโ่ี คราชตงั้ แต่ดงั้ เดมิ จนถงึ ปัจจบุ นั
๕.๒ บรรพบุรษุ ท่านนนั้ ท่านประกอบอาชีพใดหรือรบั ราชการใด
หากท่านประกอบอาชพี คอื อาชพี รบั ราชการ หากท่านรบั ราชการ ทา่ นรบั ราชการ

ประเภท ขา้ ราชการพลเรอื น

๖. นามสกลุ ของท่านบ่งบอกชาติพนั ธใ์ุ ด
ไทย ลาว จนี เขมร กยุ และอ่นื ๆ นามสกลุ “ดา่ นนอก” บง่ บอกชาตพิ นั ธุ์ ไทย

๗. นามสกลุ ของท่านมีความหมายอยา่ งไร
นามสกุล “สอนนอก” มที ่มี า และความหมายมาจากประวตั ิเมอื งด่านนอก คาว่า

"บวั ใหญ่" น้ีมา จากช่อื ของหมบู่ า้ น คอื หมู่บา้ นบวั ใหญ่ สนั นิษฐานว่าเป็นช่อื ของหนองนํา้ แห่งหนึ่ง
ในหมู่บา้ น ซ่งึ มลี กั ษณะเป็น หนองนํา้ ขนาดใหญ่ มผี ูเ้ ล่าว่ามบี วั พนั ธใุ์ หญ่เกดิ ขน้ึ ในหนองนํา้ เตม็ ไป
หมด จนมผี ตู้ งั้ ชอ่ื ว่า บงึ บวั ใหญ่ และเป็นชอ่ื ของหมบู่ า้ นน้ดี ว้ ย จงึ ไดช้ ่อื วา่ "บวั ใหญ่" มาจนถงึ บดั น้ี
ก่อนทจ่ี ะไดร้ บั การยกฐานะเป็นอาเภอบวั ใหญ่ เดมิ มฐี านะ เป็นด่านช่อื ว่า "ด่านนอก" มหี วั หนา้ ดา่ น
เกบ็ ส่วยภาษีอากร จดั ส่งทางราชการเป็นประจาทุกปี เดมิ ตงั้ ท่ที าการ ด่าน อยู่ท่บี ้านทองหลาง
ใหญ่ ตาบลกุดจอก (ปัจจุบนั ข้นึ กับ ตาบลโนประดู่ อาเภอสดี า) ต่อมาได้รบั การยกฐานะเป็น
อาเภอช่อื ว่า "อาเภอนอก" และได้ยา้ ยทว่ี ่าการอาเภอไปตงั้ อยู่ทบ่ี ้าน ทองหลางน้อย ตาบลดอนตะ
หนินต่อมาในปี พ.ศ. 2455 ไดย้ ้ายทว่ี ่าการอาเภอด่านนอก มาตงั้ อยู่ทบ่ี า้ นบวั ใหญ่ และในปี พ.ศ.
2455 ไดเ้ ปลย่ี นชอ่ื จาก อาเภอดา่ นนอกมาเป็น "อาเภอบวั ใหญ"่ ตามชอ่ื ของหมูบ่ า้ น สาเหตทุ ่ี ยา้ ย
ทว่ี า่ การอาเภอมาตงั้ อยู่แห่งใหม่ เพอ่ื ความสะดวกในการปกครอง และการปฏบิ ตั ริ าชการ หลงั จากท่ี
ได้เปล่ยี นช่อื จากอาเภอด่านนอกมาเป็น "อาเภอบวั ใหญ่" ชาวบ้านในพ้นื ท่กี ็ได้นิยมตงั้ ช่อื หรือ
นามสกุล ใหส้ อดคลอ้ ง กบั คาวา่ เมอื งด๋านนอก เช่น นามสกลุ ของขา้ พเจา้ บรรพบรุ ษุ กเ็ คยเล่าให้
ฟังวา่ ทต่ี งั้ นามสกลุ มาจากคาวา่ ดา่ นนอก

๑๑๔

๘. ท่านภาคภมู ิใจในนามสกลุ นี้อย่างไร มคี วามภมู ิใจอย่างท่ีสดุ
อย่างแรกเลยคอื นามสกุล “สอนนอก” ได้มคี าว่านอก ซ่ึงเป็นส่วนหน่ึงใน คาขวญั

ประจาอาเภอบวั ใหญ่ โคราชบ้านเรา เวลาเราไปไหนมาไหน ก็บ่งบอกถึงความเป็นมาของเรา
โดยส่วน ใหญ่เขาก็จะรูว้ ่านามสกลุ น้ี ตอ้ งใช่คนบวั ใหญ่ คนโคราชแน่ๆ คาว่า “สอนนอก” ยงั มี
ความหมายแฝงไว้ คาวา่ สอน ซง่ึ แปลความหมายไดว้ า่ บอกวชิ าความรใู้ ห้, แสดงใหเ้ ขา้ ใจโดย
วิธีบอกหรือทาให้เห็นเป็นตัวอย่างเพ่ือให้รู้ดี ชวั่ เป็นต้น คุณปู่จะบอกและสอนตลอดว่า
นามสกุลน้ี เป็นการสรา้ งความภาคภูมใิ จในเกียรติประวตั ิของ ครอบครวั อนั เป็นรากฐานของ
ความรกั ชาติบ้านเมืองในพ้นื ท่แี ห่งน้ี และเหล่าสมาชกิ ในครอบครวั สอนนอก ก็ได้ สืบทอด
นามสกุลน้รี ุ่นสรู่ ่นุ เป็นแบบอย่างทด่ี แี ละดารงไวซ้ ง่ึ เกยี รตแิ ละศกั ดศิ์ รขี องสกลุ สบื ไป

๙. คนที่ใช้นามสกลุ นี้สว่ นมากประกอบอาชีพใด
รบั ราชการ เกษตรกร ทาไร่ทาสวน ทานา

๑๐. คนที่ใช้นามสกลุ นี้มีจานวนประมาณเท่าใดในหมู่บ้านของท่าน นามสกุล “สอน
นอก” คิดเป็นร้อยละ 20 ของพ้นื ท่ี ส่วนท่ี ๒ สมั ภาษณ์เกี่ยวกบั เอกลักษณ์โดดเด่นทาง
วฒั นธรรม (พน้ื ทท่ี ไ่ี ปสมั ภาษณ์) พรอ้ มภาพถา่ ย

๑.ประวตั ิความเป็นมา
คาวา่ “บวั ใหญ่” น้มี าจากช่อื ของหมู่บา้ นคอื หม่บู า้ นบวั ใหญ่ สนั นิษฐานวา่ เป็นชอ่ื

หนองน้า ขนาดใหญ่แห่งหน่ึงในหมบู่ า้ น มผี เู้ ล่าว่าบวั พนั ธใุ์ หญเ่ กดิ ขน้ึ ในหนองน้าเตม็ ไปหมด จนมผี ู้
ตงั้ ช่อื วา่ บงึ บวั ใหญ่ และเป็นช่อื ของหม่บู า้ นน้ดี ว้ ย ก่อนทจ่ี ะไดร้ บั การยกฐานะเป็นอาเภอบวั ใหญ่เดมิ
มฐี านะเป็นดา่ นช่อื ว่า “ดา่ น นอก” มหี วั หน้าดา่ นเกบ็ สว่ ยภาษอี ากรจดั ส่งทางราชการเป็นประจาทุก
ปี ทท่ี าการด่านอยูท่ บ่ี า้ นทองหลางใหญ่ ตาบลกดุ จอก ตอ่ มาเมอ่ื ปี พ.ศ. 2429 จงึ ไดร้ บั การยกฐานะ
เป็นอาเภอชอ่ื ว่า “อาเภอด่านนอก” และไดย้ า้ ย ทว่ี า่ การอาเภอไปตงั้ อยูท่ บ่ี ้านทองหลางนอ้ ย ตาบล
ดอนตะหนนิ ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2455 ไดย้ า้ ยทว่ี ่าการอาเภอ ดา่ นนอกมาตงั้ อยูท่ บ่ี า้ นบวั ใหญ่ และในปี
เดยี วกนั นัน้ ไดเ้ ปล่ยี นช่อื จาก อาเภอด่านนอก มาเป็น “อาเภอบวั ใหญ่” ตามช่อื ของหมู่บ้าน ในปี
พ.ศ. 2470 ทางราชการไดก้ ่อสร้างเสน้ ทางรถไฟสาย นครราชสมี า – ขอนแก่น และ ไดต้ งั้ ชุมทาง
สถานีบวั ใหญ่ข้นึ ทาให้อาเภอบัวใหญ่ได้กลายเป็นย่านสถานีรถไฟ ย่านตลาดการค้า ชุมชนจงึ
หนาแน่นขน้ึ พรอ้ มกบั ความเจรญิ กา้ วหน้าตามลาดบั ใน ปี พ.ศ. 2480 ได้เปิดใช้ทางหลวงแผ่นดนิ
สาย บวั ใหญ่ – ชยั ภูมิ ความเจรญิ ได้เกดิ ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ และใน ปี พ.ศ. 2494 ได้ยา้ ยทว่ี ่า

๑๑๕

การอาเภอจากบา้ นบวั ใหญ่ มาตงั้ อยู่ ทว่ี า่ การอาเภอปัจจุบนั ประวตั ศิ าสตรส์ าคญั เกย่ี วกบั อาเภอคอื
เม่อื วนั ท่ี 5 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2498 พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
มหาราช บรมนาถบพติ รและสมเด็จ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนีพนั ปี
หลวง เสด็จพระราชดาเนินเยย่ี มพสกนิกรในจงั หวดั ต่างๆ ทางภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ได้ทรง
เสด็จประทบั ณ พลบั พลา หน้าสถานีรถไฟบวั ใหญ่ ทรงใหพ้ สกนิกรชาวอาเภอบวั ใหญ่และอาเภอ
ใกลเ้ คยี ง เขา้ เฝ้ารบั เสดจ็ (ขอ้ มลู จากหนงั สอื ประวตั ชิ าวอาเภอดา่ นนอก)

๒. คาขวญั ของอาเภอ
“นามเดมิ ด่านนอก เมอื งดอกบัวไหม ชุมทางรถไฟ บึงใหญ่งดงาม ลอื นามโต๊ะจีน ถ่ิน

หลานยา่ โม”

๑๑๖

สส. จาลอง ครฑุ ขนุ ทด

กลา่ ว จงึ เกดิ ความคดิ วา่ ถา้ เราเอาสง่ิ ทเ่ี รามเี ป็นประโยชน์ ไดม้ ากทส่ี ดุ เรากจ็ ะไดว้ ฒั นธรรม

ไดค้ วามเจรญิ เตบิ โต ความสุขของพน่ี ้องประชาชนเนย่ี ะ ออกมาจากสงั คมคนโคราชไดม้ ากขน้ึ ผม

คดิ วา่ คนโคราชมากทส่ี ุด ปีน้ี 2 ลา้ นกว่าแต่ถา้ นับรวมคนทเ่ี กดิ คนทต่ี าย ลกู หลานไปอยูท่ อ่ี ่นื แลว้ มี

นามสกุลของโคราช ถา้ รวมเฉพาะคนโคราชรวมทงั้ ประเทศไทย หรอื ตา่ งประเทศทมี ี เอามารวมกนั

ทางานให้มบี า้ นเมอื ง เอามา ส่วู ฒั นธรรม เขาจะดใี จเม่อื รู้ว่าใครเป็นญาตใิ ครฝรงั เขากท็ ากนั

เรยี กว่าตน้ สาแหรกนามสกลุ บางทนี ามสกลุ น้ี แตง่ กบั นามสกุลน้ี แล้วจะเป็นนามสกุลอน่ื ญาตจิ ะ

กวา้ ง พอรคู้ วามเป็นญาตมิ นั จะเกดิ ความสามคั คี ความรกั ความเอ้อื อาทรกนั จะมากขน้ึ ถา้ เรารกั ษา

ไวใ้ นอนาคตทาใหม้ นั เกดิ กลวั จะไมเ่ หน็ สง่ิ เหล่าน้ี เรามาเรม่ิ ตน้ กนั ภาษากอ่ สรา้ งเรยี กว่าฟาส

แตรด ทาไปวจิ ยั ไป อะไรไปอยา่ งน้ี ฉะนนั้ จงึ มคี วามคดิ วา่ ในปี 2566 หลวงพอ่ คณู ปรสิ ทุ ฺโธ

ถา้ มชี วี ติ ิจะมอี ายคุ รบ 100 ปี ปีทแ่ี ลว้ ตงั้ ใจว่าจะทาใหค้ นเหน็ ว่าจะจดั งานใหญ่ชาตกิ าลใหญ่จดั งาน

หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ 100ปี ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้คุยกนั แล้วรบั รู้กนั หลายฝ่ ายแล้ว

ถา้ เป็นทส่ี ภาพฒั น์เขา้ เนน้ วธิ งี บประมาณ ไม่ไดเ้ น้นเป้าหมายเท่าไร เป้าหมายกระตนุ้ เศรษฐกจิ และ

ตวั จดี พี ี ให้ได้ 3.4 เขาเลยลมื เร่อื งพวกน้ีทงั้ น้ี ประธานสภาวฒั นธรรมได้พยายามพูดว่าปี 2566

น่าจะมงี บประมาณเพ่อื จดั งานใหญ่ ปี 2566 ฉะนนั้ ปี 2566 เป็นปีสาคญั ของคนโคราชจรงิ แลว้ ไม่

ใช้ประโยชน์ของคนโคราช แต่เป็นประโยชน์ของบา้ นเมอื งเราเจา้ ภาพจดั หา ถา้ เราทางานของเรา

วนั น้ี เร่อื งนามสกุลได้ วนั ขา้ งหน้า หรอื ในปี 2566 น้ี เราจะรวมพลคนโคราช ไปจดั งานใหญใ่ ห้

หลวงพ่อคูณ ปรสิ ุทฺโธ ของเรา กจ็ ะเป็นโอกาสท่ี จะทาใหค้ นรูจ้ กั เพราะคนจะมาทุกสารทศิ พลงั

ของคนโคราช แลว้ ต่อไปจะรวมพลคนสนั เทยี ะ แล้วก็จะไปทางานรวมพลคนกระโทก แต่ละท่เี ขาก็

จะจดั แต่ละอาเภอในกลุ่มของญาติพ่นี ้อง ซ่ึงอยู่ในกลุ่มเด่ยี วกนั กลุ่มจงั หวดั คอื ญาติจงั หวดั

เพราะฉะนนั้ เป้าหมายทท่ี าเพ่อื ใหเ้ กดิ ความภูมใิ จทไ่ี ดเ้ กดิ ในยุคทเ่ี ราทางานผมกอ็ ยากเหน็ ว่าใน ปี

2566 น้เี ราจะรวมพลได้ ผมทดลองดู ทดลองทางานทด่ี า่ นขุนทด รวบรวมสว่ นของนามสกุล ขนุ

ทด เฉพาะในอาเภอ เฉพาะในอาเภอใหร้ วู้ ่ามกี ชี่ ่อื ตน้ ๆ เพราะดา่ นขุนทดใชต้ วั ตน้ ๆ เป็นขอ่ื ตาบล ต

สมมุติ ตาบลด่านนอก ตาบลดา่ นขุนทด เป็น ด เดก็ ไปเลย ตากดุ พมิ าน กจ็ ะเป็น ก ไก่ สระจระเข้

กจ็ ะเป็น ส เสอื ทงั้ หมดเลยเพราะฉะนัน้ นามสกุลคนดา่ นขนุ ทด คนนัน้ คอื ทอดผ้าป่า เอาไปดแู ล

สาธารณสุข สถานศกึ ษา อนั น้ีกบ็ อกให้ท่านทราบว่า เป้าหมายท่จี ะทาถ้าทาไปเป็นเล่มๆ แล้ว

ออกมาเฉยๆ ยังไม่ตอบโจทย์ ผมอยากฟ้ืนฟู ใครจะว่าผมโบราณ ผมอยากฟ้ืนฟูวฒั นธรรม

ครอบครวั วฒั นธรรมชมุ ชนบา้ นนาไปสกู่ ารพฒั นา

๑๑๗

การเสวนา ประวตั ิศาสตรน์ ครราชสีมา ผ่านนามสกลุ คนโคราช

นายนิคม คมพิทยากลุ ผ้อู านวยการโรงเรียนบา้ นพนั ชนะ
รฐั มนตรไี ด้มอบให้โรงเรียนบ้านพนั ชนะ ทายุววจิ ยั ข้นึ มา 1 เล่ม บ่งบอกได้หลายอย่าง
เฉพาะ ในอาเภอด่านขุนทด และพันชนะต้องขอขอบคุณท่าน ในส่วนของหวั ข้อหลักฐาน
ประวตั ศิ าสตร์นครราชสมี า ผ่านนามสกุลคนโคราช ทจ่ี รงิ ตอ้ งเรมิ่ ตน้ ว่าคนโคราชมาจากจุดไหน
สายสมั พนั ธ์ นามสกุลกาเนดิ บางสว่ นมาจากกลมุ่ คนจนี บางสว่ นมาจากทางโซนนอก หรอื ลาวนอก
สมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช พระยาเดโชชยั มาจนถึงสมยั สมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ และพระเจา้
ลูกยาเธอ ช่วงสมยั สมเด็จพระเจ้าตากสินกรมหม่นื เทพพิพิตร พระเจ้ากรุงแขกมาตงั้ ชุมชนอยู่
ท่พี มิ าย และมขี า้ หลวงทเ่ี ราเสยี กรงุ อยุธยา ครงั้ ท่ี 2 ขน้ึ มาอย่กู รมหม่นื เทพพพิ ติ รเป็นโอรสของ
พระเจา้ อยู่หวั บรมโกศ ดงั นนั้ ตวั เมอื งพมิ ายเป็นคนอยธุ ยา ตอ่ จากนนั้ คนในนครราชสมี าสมยั พระ
นารายณ์ อพยพครอบครวั 1,000 คน กระจายคนออกมานับว่าเป็นแสนแล้ว คนอยุธยา ส่วน
หนงึ่ อย่กุ ระโทก อาเภอเมอื ง กระโทก ดา่ นขนุ ทด โนนไทย สนั เทยี ะ และพระทองคา เทพรกั ษ์ สว่ น
น้ีจะเป็นคนเชอ้ื สายจากอยุธยาดูไม่ยาก ตวั ดาๆ จมูกโด่งๆ นี่คอื คนอยุธยา ดงั นัน้ นามสกุลจรงิ ๆ
มาท่หี ลังจากประวตั ิศาสตร์ จะเช่อื โยงประวตั ิศาสตร์ได้อย่างไร รชั กาลท่ี 6 มกี ารพระราชทาน
นามสกุล เม่อื วนั ท่ี 22 มนี าคม 2455 โดยมกี ารพระราชทานนามสกุลให้แก่บุคคลท่ไี ด้รับ
นามสกุลพระราชทาน จากรชั กาลท่ี 6 จานวน 6.432 นามสกุล ทเ่ี หลอื ใหต้ งั้ นามสกลุ ตามเมอื ง
ตามจงั หวดั ไป มเี อกลกั ษณ์เดยี ว ของนครราชสมี า ตามทท่ี ่านจาลองพดู ถงึ เป็นเอกลกั ษณ์เด่น
นครราชสมี าใชน้ ามสกุลบ่งบอกได้ อย่างนอกไปทางบวั ใหญ่ กลางอยู่แถวโนนสงู กลางกน็ ่าสนใจ
เดิมท่ีเรียกว่ามณฑลลากลาง มาตัง้ อยู่ท่ีอาเภอ เปล่ียนเป็นอาเภอโนนวดั ต่อมาอาเภอกลาง
เปลย่ี นเป็นอาเภอโนนสงู อย่างหน่ึงเป็นตน้ กระโทกเป็นช่อื ตน้ ไมช้ นิดหนึ่ง เป็นตน้ ไม้ประจาถนิ่
คนสมยั นนั้ เลยใชช้ ่อื ว่ากระโทก ต่อมาเปลย่ี นเป็นโชคชยั โชคชยั กม็ ที ม่ี าจนั ทกึ เมอื งสคี ว้ิ มาว่าถงึ
ด่านขุนทด ด่านขุนทดทาไหมต้องมีด่านขุนทด ทุกคนต้องเขา้ ใจประวิติศาสตร์ ด่านขุนทดใหม่
ทเ่ี ราตงั้ พอ่ ขนุ ทดไว้ ประวตั ิศาสตรต์ รงน้เี ขยี นผดิ เพราะในสมยั สมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ ปราบเมอื งพิ
มาย ให้พระราชบดี และมหามนตรเี ขา้ ตดี ่านขนุ ทดไม่ไดต้ พี ่อขนุ ทด พ่อขุนทดไดร้ บั แตง่ ตงั้
สมยั พระนารายณ์ เป็นนายด่านคมุ้ ครองเมอื งบนเมอื งล่าง เมอ่ื เขยี นแบบน้แี ลว้ ทาใหพ้ อ่ ขนุ ทด
เป็นกบฏกบั พระเจา้ ตาก
……………………………………………………………………………………………………………


Click to View FlipBook Version