The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เกล็ดหิมะในสายหมอก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูรษิกา วงศ์นคร, 2020-11-07 08:48:10

เกล็ดหิมะในสายหมอก

เกล็ดหิมะในสายหมอก

เกลด็ หมิ ะในสายหมอก

พระราชนพิ นธล์ ำดับที่ ๒๗ ท่ที รงบันทกึ ไวเ้ มื่อคร้ังเสด็จพระราชดำเนนิ เยือนสาธารณรัฐประชาชนจนี ระหวา่ ง
วันที่ ๔-๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๗ ซง่ึ ในพระราชนิพนธ์กล่าวนำ ไดท้ รงเล่าไวว้ ่า

“ถึงแม้ขา้ พเจา้ จะเคยเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีนหลายครง้ั แต่คร้งั ท่ีถือวา่ เป็นการเดนิ ทางเพื่อ
ประโยชน์ในด้านจนี ศกึ ษาอย่างแท้จรงิ นน้ั คร้ังนี้ถอื วา่ เปน็ ครัง้ ท่ีสาม กล่าวคือ ในคร้งั แรกเดินทางเพื่อทำความรู้จัก
กับประเทศจีนโดยรวมในพ.ศ. ๒๕๒๔ ครั้งทส่ี อง พ.ศ. ๒๕๓๓ เพอื่ ศึกษาภาคตะวนั ตกของจีน หรือทีร่ ้จู ักกันว่า
เสน้ ทางแพรไหมในสมัยโบราณ ครั้งท่สี ามคือคร้งั นี้ ตงั้ ใจไปศึกษาเร่ืองภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ของจนี คือ มณฑล
เหลยี วหนงิ จี๋หลนิ และเฮยหลงเจียง ซง่ึ เปน็ ดินแดนถิ่นกำเนดิ ของพวกแมนจู ภาษาจีนเรียกวา่ พวกหม่านโจว
ต่อมาไดร้ วมตัวกนั ตั้งราชวงศช์ ิง เข้าบุกปกั กง่ิ และใช้เป็นราชธานตี อ่ มาจนสน้ิ ราชวงศ์ ดนิ แดนตะวันออกเฉยี งเหนือ
ยังเป็นดนิ แดนสำคัญในประวัติการก่อต้ังสาธารณรฐั ประชาชนจีน ในปัจจุบันก็มีบทบาทในด้านเศรษฐกจิ สงั คม
และการเมอื งของจนี เนื่องจากมที รัพยากรอยมู่ าก เปน็ แหล่งอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ท้ังยงั มที ัศนียภาพที่
งดงาม สภาพภูมศิ าสตร์ทนี่ า่ ศึกษาเป็นอยา่ งย่ิง ...”

เกลด็ หมิ ะในสายหมอก จัดพิมพ์เป็นชุด ชดุ หน่งึ มี ๕ เล่ม ได้แก่
เล่ม ๑ ปกั ก่งิ
เล่ม ๒ เหลียวหนิง
เลม่ ๓ จ๋หี ลนิ
เลม่ ๔ เฮยหลงเจียง
เล่ม ๕ ภาคผนวก
เล่ม ๑ “ปักกงิ่ ” วันท่ี ๔-๖ มกราคม ๒๕๓๗
เสดจ็ พระราชดำเนนิ โดยเคร่อื งบินพระท่นี ่ังไปยังกรงุ ปักกิง่ สาธารณรฐั ประชาชนจีน เสดจ็ ฯ ไปยงั เรือนรับรอง
ท่ีประทับเตย้ี วหยูวไ์ ถ อาคาร ๑๒ ในช่วงคำ่ นายซง่ เจ้ียน มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรวี า่ การคณะกรรมาธกิ าร
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จดั งานเล้ียงพระกระยาหารคำ่ ถวาย ณ เรอื นรบั รองเตยี้ วหยวู ไ์ ถ อาคาร ๑๐
เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรหอสมุดแหง่ ชาติปักกง่ิ เป็นท่ีเกบ็ หนงั สอื เกา่ ท่ีสำคัญของประเทศ มหี นังสอื อายุถงึ
๓,๕๐๐ กวา่ ปี รวมทง้ั หนังสือทมี่ ีคุณค่าทางประวตั ิศาสตรแ์ ละวัฒนธรรมจีน หนังสืออา้ งอิง จดหมายเหตุทาง
ประวัตศิ าสตร์ท้องถิ่นต่างจังหวดั ระดบั อำเภอขึน้ ไป ซึ่งเป็นข้อมลู พฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศจีนดว้ ย
ทอดพระเนตรหนังสือเก่าและหนงั สือหายาก งานซอ่ มแซมหนงั สือโบราณ ภาพเขยี นและเอกสารโบราณ แผนก
ไมโครฟลิ ์ม จากน้ัน เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรสวนจำลองนานาชาตปิ ักกิง่ เปน็ สวนสาธารณะใหญร่ วมสิ่งก่อสร้าง
จากประเทศตา่ ง ๆ สร้างตามตำแหนง่ ในแผนท่โี ลก ในช่วงคำ่ นายหลีเ่ ผงิ นายกรฐั มนตรีและภรยิ า จัดงานเลย้ี ง
พระกระยาหารค่ำถวาย

เสดจ็ ฯ ไปทรงร่วมงานแนะนำหนังสือพระราชนิพนธแ์ ปล ณ โรงแรมแชงกรลี า ผจู้ ัดพมิ พ์พระราชนิพนธแ์ ปล
คือ สำนกั พิมพซ์ านเหลยี น เป็นสำนักพมิ พท์ ี่จัดตั้งมากว่า ๖๐ ปแี ล้ว มหี น้าที่เชอ่ื มความสัมพนั ธแ์ ละแลกเปลย่ี น
วฒั นธรรมกบั ชาติต่าง ๆ ในการดำเนนิ การแปลได้ทรงมอบหมายใหม้ าดามก้หู ยา่ จงแปลเร่ืองตา่ ง ๆ เชน่ บันทกึ
ประจำวันในขณะเสด็จ ฯ เยือนประเทศจนี บทความเรื่องอื่น ๆ ทไ่ี ด้ทรงแสดงพระราชทัศนะไว้ เชน่
พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัวกบั การปฏริ ูปบ้านเมือง การศึกษากับการพฒั นาประเทศ ทรงมี
พระราชดำริว่าการแปลและการพมิ พห์ นงั สือเล่มนีเ้ ป็นการสรา้ งสรรคท์ างปัญญา และเป็นการแลกเปลี่ยน
วฒั นธรรมระหวา่ งกันดว้ ย

เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรวดั เจดียพ์ ระเขยี้ วแก้ว เรียกอีกช่ือวา่ วัดหลิงกวง หมายถงึ แสงสวา่ งแห่งจิตวญิ ญาณ
หรือแสงปาฏหิ าริย์ มีวหิ ารพระพุทธรปู ที่สมเด็จพระสงั ฆราช วัดราชบพิธ ประทาน สมเดจ็ พระสงั ฆราชองค์ปัจจบุ นั
เสดจ็ มาเบกิ พระเนตร มีพระนามวา่ พระพุทธปฏมิ าวาสนมุนินทร์ หรือหลวงพอ่ ปักกิ่ง มีเจดยี ์ทองทป่ี ระดิษฐานพระ
เขยี้ วแก้ว ต่อจากนั้น เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรยา่ นการคา้ ในกรุงปักก่งิ และทรงซื้อหนังสือทีร่ า้ นหนังสือถนนหวังฝู
จิ่ง จากน้นั ประทับเครอ่ื งบินพระทีน่ ั่งของบรษิ ัทนอร์ธเธริ ์น ไชนา่ เสด็จพระราชดำเนนิ ไปยังทา่ อากาศยานเสิน่
หยาง มณฑลเหลียวหนงิ

เล่ม ๒ “เหลยี วหนิง” วนั ท่ี ๗-๘ มกราคม ๒๕๓๗
มณฑลเหลียวหนงิ เปน็ มณฑลขนาดกลางแต่อดุ มดว้ ยทรัพยากร มีการพฒั นาทางเศรษฐกิจสงู มีฝ่งั ทะเลยาวถึง
๒,๒๐๐ กิโลเมตร เปน็ อันดบั ๒ ของจีน มีเมืองสำคญั เช่น ต้าเหลียน หยิงโขว่ ตานตง และจนิ่ โจว มีนโยบายเปิด
ประตูสโู่ ลก (ใช้ระบบเศรษฐกิจพิเศษ) คือมีนโยบายให้สิทธิประโยชน์แก่ผูม้ าลงทนุ ในมณฑล และมีการลงทุน
รว่ มกับต่างประเทศมาก
เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรพิพธิ ภณั ฑป์ ระวัตศิ าสตร์แห่งมณฑลเหลียวหนงิ เป็นพิพธิ ภณั ฑท์ ีส่ ำคัญที่สดุ ของภาค
ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ สร้างตงั้ แต่ค.ศ. ๑๙๓๐ เป็น ๑ ใน ๘ พิพธิ ภณั ฑ์สำคญั ของจีน เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตร
สุสานตงหลิง ใกลเ้ มอื งเสิน่ หยาง สุสานน้มี ีอีกช่ือหนึง่ วา่ "ฝหู ลงิ " ฝู แปลว่า โชคดี หรอื มคี วามสุข เปน็ สุสานของ
พระเจ้าหนูเออ่ ร์ฮาชือ่ ปฐมกษตั ริย์แหง่ ราชวงศ์ชงิ หรือเช็ง และพระมเหสีในราชนกิ ลู เย่เฮ้อนาลาซอื สร้างในค.ศ.
๑๖๒๙ เสร็จในค.ศ. ๑๖๕๑ ไดท้ รงเลา่ พระราชทานเรื่องการเสด็จ ฯ เยอื นสสุ านน้ี ความตอนหนง่ึ วา่
“...ขน้ึ บันได เขาเรียกวา่ บนั ไดร้อยแปดขน้ั เท่าจำนวนดาวสำคัญในท้องฟา้ (ดาวบนฟ้า ๓๖ ดวง ดาวบนพ้นื ดิน
๗๒ ดวง) แตพ่ ระเจ้าหนเู อ่อร์ฮาชือ่ ยังสงู กว่าดาวทง้ั หมดน้ี ทางเดินนเ้ี รียกวา่ ไตเ้ ทยี นเฉียง แปลวา่ สะพานสวรรค์
คนท่ีข้นึ ไปกจ็ ะเป็นเซียน เป็นทางเฉพาะพระจักรพรรดิเช่นเดยี วกนั เมือ่ หลังการปฏวิ ัตจิ งึ ใหใ้ คร ๆ ขึน้ ได้ เลข
๑๐๘ เป็นเลขมงคล ลกู ประคำมกั จะมี ๑๐๘ ลกู ...”
เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรพิพธิ ภัณฑ์ซนิ เล่อ เป็นทเ่ี กบ็ โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ท่ีขดุ พบในบรเิ วณ
หมู่บา้ นซึ่งปัจจบุ ันอยู่ในตำบลซินเล่อ จากน้นั เสดจ็ ฯ ไปทรงร่วมงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ ผ้วู า่ ราชการมณฑล
เหลยี วหนงิ จัดถวาย นอกจากนี้ ณ มณฑลเหลียวหนงิ เสดจ็ ฯ ไปยังสถาบันแพทยศาสตรแ์ ผนจีนแหง่ มณฑล

เหลยี วหนงิ ทอดพระเนตรการรักษาโรคโดยวธิ กี ารฝงั เข็ม แผนกนวด ห้องยา และเสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรวงั
โบราณกูก้ ง และสุสานเปย่ หลงิ

เล่ม ๓ “จ๋ีหลนิ ” วันที่ ๙-๑๓ มกราคม ๒๕๓๗
ประทบั รถไฟพระทีน่ ง่ั จากสถานีรถไฟเสิ่นหยาง มณฑลเหลยี วหนงิ เสดจ็ ฯ ไปยงั สถานีรถไฟฉางชนุ มณฑลจ๋ี
หลนิ ระหว่างทาง ทอดพระเนตรทวิ ทศั นฤ์ ดหู นาวสองข้างทางรถไฟ ส่วนมากมีหิมะปกคลุม
มณฑลจห๋ี ลิน ตง้ั อย่ทู างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน อยู่เหนือมณฑลเหลียวหนิง มีชายแดนติดต่อกบั
ประเทศเกาหลีและรัสเซยี มีพืชพันธธ์ุ ัญญาหารอุดมสมบรู ณ์ สามารถสง่ ออกได้ มีธรรมชาติทีง่ ดงาม เชน่ เทือกเขา
ฉางไปซ๋ าน ในปี ค.ศ. ๑๖๔๔ สมยั ราชวงศ์ชิงเขา้ สู่ภาคกลาง ไดส้ ถาปนาภเู ขานี้ให้เป็นเขาเทวดาทเ่ี ทดิ ทูนบชู า
เพราะเปน็ แหล่งกำเนิดชาตแิ มนจู จงึ เป็นสถานที่อนุรักษ์มากว่า ๓๐๐ ปี สหประชาชาติประกาศเป็นมรดกโลก มี
ทะเลสาบเทยี นฉอื บนเขา เป็นทีก่ ำเนิดของแมน่ ้ำสำคัญ ๓ สาย คอื ถเู หมินเจียง ยาลู่เจยี ง ซงฮัวเจียง มีน้ำไหล
ออกมาโดยนำ้ ในทะเลสาบไม่แหง้ เลยตลอดปี มีทะเลสาบเซยี งไห่ เป็นดนิ แดนแห่งนกน้ำหลายชนดิ พน้ื ท่แี ถบนี้
เป็นทร่ี าบลุ่มแม่น้ำเพาะปลูกไดด้ ี จงึ ถอื วา่ เป็นฉางข้าวของประเทศชาติ
ณ มณฑลจี๋หลนิ เสดจ็ ฯ ไปยังเรือนรบั รองที่ประทับ อาคาร ๑ ซึ่งเปน็ สว่ นหนึ่งของเรอื นรับรองทีม่ ขี นาดใหญ่
ทีส่ ดุ ในประเทศจนี คือมีพ้นื ที่ถึง ๘๐๐,๐๐๐ ตารางเมตร มี ๒๒ อาคาร ในช่วงค่ำ ผูว้ ่าราชการมณฑลจ๋ีหลิน และ
ภริยา จัดงานเลีย้ งพระกระยาหารคำ่ ถวาย ณ เรอื นรับรอง อาคาร ๑๐
เสดจ็ ฯ ไปยังพระราชวังจักรพรรดิหนุ่ เชิด ทอดพระเนตรนทิ รรศการจัดแสดงภาพเก่ียวกบั ชวี ิตของจกั รพรรดผิ ู่
หยี หรือทเ่ี รยี กกันในภาษาไทยว่าพระเจา้ ปูยี ซึ่งเคยประทับที่วงั นรี้ ะหว่างค.ศ. ๑๙๓๒-๑๙๔๕ จัดแสดงหอ้ งทเี่ คย
ประทบั และสง่ิ ของเคร่ืองใช้ต่าง ๆ ตอ่ จากน้นั เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรพพิ ธิ ภัณฑ์มณฑลจห๋ี ลิน จดั แสดงเรอ่ื ง
ประวตั ิศาสตรข์ องมณฑลแต่ครงั้ โบราณ ทอดพระเนตรหนงั สือโบราณและภาพเขยี นสำคัญ แลว้ เสดจ็ ฯ ไปยัง
มหาวิทยาลยั ฉางชนุ ทรงฟงั การบรรยายเก่ียวกบั กิจการของมหาวิทยาลยั ทอดพระเนตรกจิ การแผนกการสอนคน
พกิ าร การแสดงดนตรีของคนพิการ
ณ เมืองจีห๋ ลนิ ทรงพระดำเนินทอดพระเนตร “อู้ซง”หรอื ชอ่ื เต็ม ๆ ว่า อู้ซงซู่ก้ัว คือเกลด็ นำ้ แขง็ ทเ่ี กาะบน
ต้นไม้ เกาะตน้ หลิวและตน้ หยางบรเิ วณหนา้ เทศบาลเมืองจ๋ีหลนิ เนื่องจากอากาศหนาวจัดและอุณหภูมลิ ดต่ำลง
มากประมาณ - ๒๕ ถงึ - ๒๐ องศาเซลเซยี ส ทำใหม้ เี กลด็ น้ำแขง็ นาน ซ่ึงชาวจีนถือว่าเป็นสิรมิ งคล เสดจ็ ฯ ไป
ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑจ์ ๋ีหลิน จดั แสดงนทิ รรศการเรื่องลูกอุกกาบาต ให้ช่ือว่า “แขกท่ีมาจากสวรรค์”
ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ศาลเจ้าบูชาขงจ้ือ ทีเ่ รียกวา่ เหวนิ เม่ยี ว เปน็ ศาลเจ้าท่ีใหญ่ที่สดุ ในภาค
ตะวนั ออกเฉียงเหนอื มีนิทรรศการชีวประวตั ขิ งจ้ือ ในช่วงค่ำ นายกเทศมนตรีจัดงานเลยี้ งพระกระยาหารค่ำถวาย
ณ เรอื นรับรอง อาคาร ๑ แล้วเสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรการแสดงโคมไฟน้ำแข็ง
เช้าวันตอ่ มา ทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตร “อู้ซง”เกลด็ หิมะทเ่ี กาะตามต้นไมบ้ ริเวณหน้าเรือนรับรองที่
ประทับ แล้วเสด็จ ฯ ไปทรงเยี่ยมโรงไฟฟา้ พลังน้ำเฟิงหมา่ น เป็นโรงไฟฟ้าเกา่ แก่ ๔๐ กวา่ ปีมาแล้ว เสด็จ ฯ ไปยงั

ทะเลสาบซงฮวั หู นำ้ ในทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง เสดจ็ พระราชดำเนินกลับเมืองฉางชุน ทอดพระเนตรการแสดง
ทางวฒั นธรรมและดนตรีในโรงละครใหญ่ของเมืองฉางชุน ต่อมา เสดจ็ ฯไปยังโรงถา่ ยภาพยนตร์เมืองฉางชุน
ทอดพระเนตรวงั โบราณจำลอง จากนน้ั เสด็จพระราชดำเนินไปยังเมืองฮารบ์ นิ มณฑลเฮยหลงเจยี ง โดยรถไฟพระ
ทน่ี ั่งทรี่ ัฐบาลสาธารณรฐั ประชาชนจนี จัดถวาย

เล่ม ๔ “เฮยหลงเจียง” วนั ท่ี ๑๔-๑๗ มกราคม ๒๕๓๗
มณฑลเฮยหลงเจียง เป็นมณฑลท่ีอย่เู หนือทส่ี ุดของจีน มีพรมแดนติดกบั ประเทศรัสเซยี มแี ม่นำ้ เฮยหลงเจยี ง
กั้น มณฑลน้เี ป็นฐานทส่ี ำคญั ที่สดุ ในดา้ นอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมของจนี มีอตุ สาหกรรมปิโตรเคมี เคร่ืองจักร
เคร่ืองอเิ ล็กทรอนิกส์ ถา่ นหิน ปา่ ไม้ อาหารต่าง ๆ นำ้ มนั ดิบทีน่ ่ีมปี ระมาณคร่ึงหนง่ึ ของน้ำมนั ทว่ั ประเทศ ด้าน
ประวตั ิศาสตร์ ได้มกี ารพบมนุษย์ก่อนประวตั ศิ าสตรห์ ลายแหลง่ เช่น ท่อี งั๋ อ๋งั ซี เมอื งฉฉี ีฮาเออ่ ร์ เปน็ มนุษย์ดึกดำ
บรรพ์
เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรพพิ ิธภัณฑ์เฮยหลงเจยี ง มนี ิทรรศการเก่ยี วกับประวตั ศิ าสตร์ วฒั นธรรม และแผนก
สตั ว์ ทอดพระเนตรวัดรสั เซีย มชี ่ือเรยี กเป็นภาษาจนี ว่า ตงเจิ้งเจย้ี ว ภาษาองั กฤษว่า Eastern Orthodox Church
เหตุทเ่ี มอื งฮาร์บินมวี ัดรสั เซยี เนื่องจากมีชาวรสั เซยี อพยพมาอย่มู าก ปจั จบุ นั คนเช้อื สายรัสเซยี อยู่ในบา้ นพกั คนชรา
เป็นส่วนใหญ่ ทอดพระเนตรวัดจี๋เลอ่ แปลวา่ ความสุขอย่างยิ่ง ทอดพระเนตรวัดเหวนิ เม่ยี ว หรอื วดั ขงจอ้ื จัดแสดง
นิทรรศการพิพธิ ภณั ฑค์ นกลุ่มนอ้ ยในมณฑลเฮยหลงเจียง ซ่ึงมีท้งั หมด ๔๘ ชนเผ่า แตพ่ ิพิธภัณฑ์จัดมาแสดง ๘ ชน
เผ่า เชน่ เผา่ หม่าน เผา่ มองโกล เผ่าตาเวอ่ ร์ เปน็ ตน้ จากน้ัน เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรความเปน็ อยู่ของชาวตำบล
ย่ฉู วน ประทบั เสวยพระกระยาหารกลางวันแบบพืน้ เมอื ง รายการอาหารมอี าทิ ซุปหูกวาง หางกวาง เลือดกวาง
หวั ใจกวาง ผัดกระต่ายป่า นกไก่ฟา้ ยา่ ง เป็นต้น ในช่วงค่ำ เสดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรการแสดงโคมน้ำแข็งและ
นำ้ แข็งแกะสลกั ทีอ่ ุทยานน้ำแขง็ เจาหลิน นำ้ แข็งทใี่ ช้สลักคัดมาจากแม่น้ำซงหัว สลกั เป็นรปู ตา่ ง ๆ เช่น รปู บคุ คล
ในประวัตศิ าสตร์ รปู อาคาร สถานที่สำคญั ต่าง ๆ มีการแข่งขันแกะน้ำแขง็ นานาชาติ
ตอ่ จากน้นั ประทับเครอื่ งบนิ พระท่นี ั่งไปยังเมืองเฮยเหอ ตงั้ อยูร่ ิมแม่นำ้ เฮยหลงเจยี ง ริมแม่นำ้ ฝ่งั ตรงข้ามเป็น
ประเทศรัสเซยี น้ำในแม่น้ำกลายเปน็ น้ำแข็ง ไมส่ ามารถเดินเรอื ได้ แตผ่ ู้คนเดินขา้ มมาจากฝัง่ รสั เซียได้ เสด็จ ฯ ไป
ยังหมู่บ้านคุนเหอ ทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของชนเผ่าตาเว่อร์ ชาวบา้ นสว่ นใหญ่ทำนา ปลูกผัก เล้ยี งสัตว์ เช่น
เป็ด ไก่ หมู เสดจ็ ฯ ทว่ี า่ การอำเภออา้ ยฮยุ พวกแมนจูเรยี กชอ่ื เมืองอ้ายฮุยวา่ ซาฮาเลียนอูลาฮัวทง แปลว่า เมือง
แมน่ ำ้ ดำ ตรงกับความหมายคำวา่ เมืองเฮยเหอในภาษาจีน ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ประวตั ศิ าสตรเ์ มอื งอ้ายฮุย
เสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรพพิ ธิ ภัณฑ์เฮยเหอ เขตพัฒนาความร่วมมอื ทางเศรษฐกจิ ทรงพระดำเนิน
ทอดพระเนตรตลาด มกี ารซ้ือขายสนิ คา้ ระหวา่ งชาวจนี และชาวรัสเซีย จากนั้น ประทบั เครอื่ งบนิ พระทีน่ ่ังเสดจ็ ฯ
กลบั มายังเมืองฮารบ์ ิน เสด็จ ฯ ไปยงั สวนสาธารณะสตาลิน มหาวทิ ยาลยั ปา่ ไม้


Click to View FlipBook Version