ฐานการเล้ียงปลานำ้ จืด
สอดคล้องกับ สาระการประกอบอาชีพ วชิ า ช่องทางการขยายอาชพี (อช๓100๑)
ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย
เรือ่ ง ชอ่ งทางการขยายอาชพี (ความจำเปน็ ในการเหน็ ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ)
วิเคราะหค์ วามสอดคล้องกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2 เงอ่ื นไข 3 หลักการ 4 มติ )ิ
หลกั การเหตผุ ล
สภาพพื้นที่ด้านหลัง กศน.อำเภอควนกาหลง มีบ่อดินขนาด 15 X ๔๐ เมตร ซึ่งมีน้ำขังตลอดทั้งปี
นกั ศกึ ษา กศน.อำเภอควนกาหลงเล็งเหน็ ถงึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎใี หม่ จงึ พฒั นา
ปรับปรุงพื้นที่บ่อให้เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงปลา และนำปลาน้ำจืดหลากหลายชนิดมาปล่อยในบ่อ ได้แก่
ปลาดุก ปลาทับทิม ปลาหมอ ปลานิล ปลายี่สก ปลาตะเพียนขาว ซึ่งพันธุ์ปลาได้รับความอนุเคราะห์มาจาก
ภาคเี ครอื ข่าย กศน.อำเภอควนกาหลง
วัตถปุ ระสงค์
1.เพ่ือนำปลาไปบริโภคในครัวเรอื น แจกจ่าย และจำหน่ายเปน็ รายได้
กลุ่มเปา้ หมาย
นกั ศกึ ษา ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย
วสั ดุอุปกรณ์
๑.มุ้งไนลอ่ นสฟี ้า
๒.เสาไมข้ นาด ๑.๓ เมตร
๓.ตะปู
๔.พนั ธป์ ลาน้ำจืด
๕.ปยุ๋ คอก
๖.อาหารปลา(เศษพืช ผกั )และอาหารสำเร็จรปู
กระบวนการขัน้ ตอนการเลี้ยงปลาแบบผสมผสานในบอ่ ดิน
1.เตรียมพนื้ ท่บี ่อใหเ้ หมาะสมสำหรับการเลยี้ งปลา
๒.ลอ้ มรอบขอบบริเวณบ่อเล้ียงปลากับมุ้งในลอ่ นสฟี ้า
๓.ปล่อยพันธ์ุปลานำ้ จดื ไมเ่ กนิ ๑,000 ตวั
๔.เลี้ยงปลาแบบผสมผสาน อิงธรรมชาติ ให้อาหารเสริมสัปดาหล์ ะ ๑ คร้งั
ความสำเร็จ
เราได้รับความรู้ความเขา้ ใจในการเลย้ี งปลานำ้ จดื นำไปปริโภค และจำหน่ายเป็นอาชีพ ได้
การถอดบทเรียนหลกั คดิ ๓ หลักการ ๒ เงอ่ื นไข สู่ ๔ มิติ
มีเหตผุ ล พอประมาณ มีภูมคิ มุ้ กนั
-มีบอ่ นำ้ ว่างเปล่า -จำนวนปลาเหมาะสมกับขนาดของ -มกี ารวางแผนในการเลีย้ งปลา
-มพี นั ธปุ์ ลาทีไ่ ด้ครบั อนุเคราะหจ์ าก บ่อ 15 X ๔๐ เมตร ไม่เกิน ๑,๐๐๐ -ดูแลในเรอ่ื งการบรหิ ารจดั การน้ำ
ภาคเี ครอื ข่าย ตวั
-นำปลาไปบริโภค แจกจ่าย และ -ให้ปรมิ าณอาหารและเวลาท่ี
จำหน่ายได้ เหมาะสม
ความรู้ คุณธรรม
-มคี วามรใู้ นการเลย้ี งปลาน้ำจืด โดยการเลยี้ งแบบอิง -ขยนั -มีความรับผดิ ชอบ
ธรรมชาติ -มวี ินยั -ประหยัด
-มีความรู้ในการใหอ้ าหารเสริม -อดทน -ซอื่ สตั ย์
-มีความร้เู กี่ยวกบั การเจริญเติบโต
มติ วิ ตั ถ/ุ เศรษฐกจิ มติ สิ ังคม มติ ิสง่ิ แวดลอ้ ม มิตวิ ัฒนธรรม
1. ไดป้ ลาน้ำจดื ไวบ้ ริโภค 1. มกี ารทำงานเปน็ ทีม ๑.นำ้ ทใี่ นบ่อปลา สามารถ 1. สืบสานภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ
2. ลดรายจา่ ย เพ่มิ รายได้ ๒ .มีการแบง่ ปัน นำมารดนำ้ ต้นไมไ้ ด้ อนุรกั ษภ์ มู ิปัญญาท้องถิ่น
แจกจ่าย ๒.เพื่อรักษาสมดุลระบบนิเวศ 2. เป็นแหลง่ เรยี นรู้และ
ในบ่อนำ้ ถ่ายทอดความรู้สู่ชมุ ชน
ปลาที่มีในฐาน การเลี้ยงปลา กศน.อำเภอควนกาหลง จะมีการเลี้ยงแบบผสมผสาน ปลาหลากหลาย
ชนดิ เลี้ยงในบ่อเดยี วกนั ได้แก่ ปลาดุก ปลาชอ่ น ปลาหมอ ปลานิล ปลาย่สี ก ปลาตะเพียนขาว
ปลาดุก เป็นสกุลของปลาหนังน้ำจืดในสกุล Clarias (คลา-เรียส) ในวงศ์ Clariidae โดยคำ
ว่า Clarias มาจากภาษากรีกคำว่า chlaros หมายถึง "มีชีวิต" มีความหมายถึง การที่ปลาสกุลนี้สามารถใช้
ชวี ิตอยู่ไดบ้ นบกหรอื สภาพทข่ี าดน้ำ
มีการแพร่กระจายพันธุ์ในน้ำจืดและน้ำกร่อยตามแหล่งน้ำของทวีปเอเชียและแอฟริกา เป็นปลาไม่มี
เกล็ด ลำตัวยาว มีหัวที่แบนและแข็ง มีหนวดยาวแปดนิ้ว มีครีบหลังและครีบก้นยาวเกินครึ่งของความยาว
ลำตวั จดุ เร่มิ ต้นของครบี หลังอยู่ล้ำหนา้ จดุ เริ่มตน้ ของครีบท้อง ครีบหลังไม่มีเงี่ยงแข็ง ไม่มีครีบไขมัน ครีบหาง
มนกลม ครีบทั้งหมดเป็นอิสระจากกัน สามารถหายใจและครีบคลานบนบกได้เมื่อถึงฤดูแล้ง เป็นปลาวางไข่
เป็นปลากินเนื้อโดยเฉพาะเมื่อตัวโตเต็มที่ชอบกินปลาอื่นที่ตัวเล็กกว่าเป็นอาหาร รวมถึงกินซากพืชและซาก
สัตว์อีกดว้ ย เปน็ ปลาทรี่ ู้จักกนั ดใี นแงข่ องการเป็นปลาเศรษฐกิจ ที่นยิ มบริโภคกันโดยเฉพาะในทวปี เอเชีย
ปลาช่อน (Snake head fish) เป็นปลานำ้ จืดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกจิ ของไทยมาก เน่ืองจากเป็น
ปลาท่นี ิยมนำมาประกอบอาหารมากชนิดหนงึ่ เพราะเป็นปลาที่ให้เนือ้ สขี าวน่ารับประทาน มเี นือ้ มาก เน้อื นุ่ม
อรอ่ ย สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด ทำใหป้ ัจจุบันมีการเพาะเลยี้ งเพื่อจำหนา่ ยในทอ้ งตลาด ตก
กิโลกรัมละกวา่ 150-200 บาท และหากเป็นปลาชอ่ นนาจะมีราคาท่ีสงู กว่าเล็กน้อย โดยเกษตรกรมีการ
เพาะเล้ียงเพื่อนำหน่ายท้ังในประเทศ และส่งออกตา่ งประเทศ ปลาช่อนได้รับความนยิ มบรโิ ภคอย่างแพร่หลาย
ทั่วทกุ ภาคของประเทศไทย นอกจากน้เี กษตรกรยังหนั มาเลี้ยงปลาช่อนกนั มากขนึ้ อกี ทง้ั ยังมกี ารแปรรปู ปลา
ช่อนเพื่อเพ่ิมมูลค่าปลาช่อน อยา่ งเชน่ ปลาชอ่ นเค็ม ปลาแดดเดียว
ปลาหมอ เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anabas testudineus ในวงศ์ปลา
หมอ (Anabantidae) มรี ปู ร่างป้อม ลำตวั แบนข้าง ตาโต ปากกว้าง ขอบฝาปิดเหงือกหยักแขง็ เกล็ดใหญ่คลุม
ทั้งลำตัว มีขอบเกล็ดแบบหยัก ผิวสาก เส้นข้างลำตัวขาดตอน ครีบหลังยาวเกือบเท่าความยาวลำตัว มีก้าน
ครีบแข็งแหลมคมจำนวนมากเช่นเดียวกับครีบก้น แต่ครีบก้นสั้นกว่า ครีบอกเล็กเป็นรูปไข่ ครีบหางปลายมน
ตวั มสี เี ขยี วมะกอกและมลี ายประสีคลำ้ ทีข่ ้างลำตวั ครบี ใส ลำตวั ดา้ นทอ้ งมีสีเหลอื ง ขอบฝาปดิ เหงอื กตอนบนมี
แต้มสีคล้ำ มีอวัยวะช่วยหายใจเป็นแผ่นริ้วย่น ๆ อยู่ตอนบนของของช่องเหงือก จึงสามารถฮุบอากาศจากบน
ผิวน้ำได้โดยตรงโดยไม่ต้องรอให้ออกซิเจนละลายในน้ำ และสามารถอยู่บนบกหรือพื้นที่ขาดน้ำได้เป็นระยะ
เวลานาน ๆ
ปลานิล อาศัยอยู่ได้ในน้ำจืดและน้ำกร่อย มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ท่ีแม่น้ำไนล์ ทวีปแอฟริกา พบทั่วไปตาม
หนอง บึง และทะเลสาบในประเทศซูดาน, ยกู ันดา และทะเลสาบแทนกนั ยกี า ปลานลิ นำเขา้ สู่ประเทศไทยครั้ง
แรกโดยสมเด็จพระจักรพรรดอิ ะกิฮิโตะ เมอ่ื ครง้ั ดำรงพระอสิ รยิ ยศมกฎุ ราชกุมารแห่งญี่ปุน่ ซงึ่ ทรงจัดส่งเข้ามา
ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2508 จำนวน
50 ตัว ครั้งนั้นได้โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในบ่อนํ้าภายในสวนจิตรลดา เป็นหนึ่งโครงการใน
โครงการสว่ นพระองค์ สวนจิตรลดา
ผลการทดลองปรากฏว่าปลานิลที่โปรดเกล้าให้ทดลองเลี้ยงได้เจริญเติบโตและแพร่ขยายพันธุ์ได้เป็น
อย่างดี ต่อมาจึงได้พระราชทานชื่อว่า ปลานิล (โดยมีที่มาจากชื่อแม่น้ำไนล์ (Nile) ที่เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยดั้งเดิม
หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Tilapia nilotica) ส่วนในสื่อมวลชนญี่ปุ่นกล่าวถึงที่มาของชื่อปลานี้ว่า นิล มาจาก
ตัวอักษรคันจติ วั หนึ่งในพระนามอะกิฮิโตะ คือตัว 仁 ตัวอักษรนี้ในภาษาญี่ปุน่ มีวิธอี ่านสองแบบคือฮโิ ตะหรือ
นิน[2] และพระราชทานพันธุ์ปลาดังกล่าวให้กับกรมประมงจำนวน 10,000 ตัว เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.
2509 เพื่อนำไปขยายพันธุ์และแจกจ่ายแก่พสกนิกร เนื่องจากปลานิลมีคุณลักษณะพิเศษหลายอย่าง เช่น กิน
อาหารไดท้ กุ ชนิด
ปลาย่สี กเป็นปลานำ้ จืดขนาดใหญ่ หัวค่อนขา้ งโต มหี นวดสนั้ 1 คู่ อยู่มมุ ปากบน ปากเลก็ ยืดหดได้
อย่คู ลอ้ ยลงมาใต้ส่วนหัว สขี องลำตัวเหลอื ง มีแถบสดี ำ 7 แถบ พาดไปตามความยาวของลำตัว แถบสีดำเหลา่ น้ี
จะพาดอยู่ระหว่างรอยต่อของเกล็ด ตาสแี ดง ครีบทกุ ครบี สชี มพู อยตู่ ามแม่นำ้ ท่ีพน้ื ท่ีเปน็ กรวด หิน หรือทราย
ในฤดผู สมพนั ธุ์ ลำตัวปลาตัวผ้จู ะเปลย่ี นสเี ปน็ สคี ลำ้ อมมว่ งและมีตุ่มสิวขึน้ บรเิ วณขา้ งแก้มและครบี อก วางไขใ่ น
ฤดูหนาว โดยจะอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ฝูงละ 30–40 ตัว บริเวณที่วางไข่อยู่ท้ายเกาะกลางน้ำ กินหอยและตัว
อ่อนแมลงนำ้ ท่อี ยู่บรเิ วณพ้นื ดิน ขนาดใหญท่ ส่ี ดุ เท่าทพ่ี บมีความยาว 1 เมตร และมีน้ำหนักถึง 40 กโิ ลกรมั
ปลาตะเพียนขาว หรือ ปลาตะเพียนเงิน หรือที่นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า ปลาตะเพียน
(ชอ่ื วิทยาศาสตร์: Barbonymus gonionotus) เปน็ ปลานำ้ จดื ชนิดหนึ่ง อยใู่ นวงศป์ ลาตะเพียน (Cyprinidae)
มีรูปร่างเหมือนปลาในวงศ์ปลาตะเพียนทั่วไป ตัวมีสีเงินแวววาว ด้านหลังมสี ีคล้ำเล็กนอ้ ย ด้านท้องสีจาง ครีบ
อืน่ ๆ มีสีเหลืองอ่อน มกี ารผสมพันธ์แุ ละวางไข่ในช่วงฤดูฝน ตวั เมียเมือ่ ถงึ สภาพสมบรู ณ์ ลำตวั จะอวบอ้วนและ
ใหญ่กว่าตัวผู้ถึง 2–3 เท่า ตัวผู้บริเวณข้างแก้มจะมีตุ่มคล้ายสิวอันเป็นเอกลักษณ์ของปลาในวงศ์ปลาตะเพียน
ตัวเมียใช้เวลาอุ้มท้องจนกระทั่งวางไข่ประมาณ 1 เดือน ปัจจุบันมีการเพาะพันธุ์ปลาเพื่อนำไปปล่อยในแหลง่
นำ้ ตา่ ง