The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pornpimol Kongsue, 2022-12-20 05:07:11

น้ำพริกปลาย่างเห็ดหอม

ที่มา

น้ำพริกสมุนไพร ก้าวไกลสู่อาชีพ

น้ำพริกปลาย่าง
&

เห็ดหอม

ระดับประถมศึกษา

โรงเรียนวัดถ้ำตะโก อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลพบุรี เขต 1


คำนำ

เอกสารฉบับนี้ คณะผู้จัดทำได้ดำเนินการจัดทำน้ำพริกสมุนไพร ก้าว
ไกลสู่อาชีพ น้ำพริกปลาย่าง เห็ดหอม ผักสดเครื่องเคียง ระดับชั้นประถมศึกษา ซึ่ง
ได้บอกรายละเอียดของน้ำพริกปลาย่างเห็ดหอมผักสดเครื่องเคียงซึ่งเป็นที่รู้จักกัน
โดยทั่วไป มีเนื้อหาเกี่ยวกับ แนวคิด วิธีทำ ส่วนผสม เคล็ดลับ ในการปรุงน้ำพริก
ช่วยให้ผู้ที่สนใจการทำน้ำพริกดังกล่าวสามารถนำไปเป็นแนวทางการประกอบ
อาหารในชีวิตประจำวันได้

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับนี้ จะเป็นแหล่งข้อมูลที่ให้ความ
รู้เกี่ยวกับการทำน้ำพริกปลาย่างเห็ดหอม ผักสดเครื่องเคียง สำหรับผู้ที่สนใจไม่
มากก็น้อย

คณะผู้จัดทำ


แนวความคิด

น้ำพริก - เมนูคู่ครัวคนไทยเพิ่มรสชาติให้กับมื้ออาหาร
เห็ดหอม - เป็นสมุนไพรที่หาทานง่ายมีสรรพคุณมากมาย
ปลาย่าง - เป็นการแปรรูปเพื่อเพิ่มการถนอมอาหารของคนในชุมชน

++ น้ำพริกปลาย่าง & เห็ดหอม ++

เมนูน้ำพริกผัดที่มีคุณค่าสมุนไพร ดีต่อสุขภาพ
สามารถเก็บได้นานและเป็นการเสริมรายได้


ความเป็นมา




น้ำพริก

เป็นอาหารหลักคู่ครัวไทยมาตั้งแต่ในอดีต ซึ่งมักจะขาดไม่ได้ในสำรับ
อาหารไทยๆ จัดเป็นอาหารสุขภาพฉันเยี่ยม เพราะทั้งส่วนผสมและวิธี
การกินคู่กับผักเคียงที่ให้รสชาติ และได้ประโยชน์ทั้งโปรตีน วิตามินสาร
อาหาร ครบถ้วน

ส่วนผสมหลักของน้ำพริกนั้นส่วนมากจะใช้พืชผักสมุนไพรที่นิยมปลูก
เป็นผักสวนครัวที่หาได้ง่ายมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กระเทียม พริก
มะขาม และของที่มีติดครัวอยู่แล้วอย่าง กะปิ เกลือ น้ำตาล น้ำพริกยังใช้
ปลาแห้งต่างๆ มาทำได้อีก เช่นปลาช่อนแห้ง ปลาสลิดหรือแม้แต่พืชผัก
อื่นๆ เป็นต้น

ที่มาของน้ำพริก

น้ำพริก เป็นอาหารคู่ครัวคนไทยมานานหลายร้อยปี ช่วงแรกๆ ที่น้ำพริก
เข้ามาในเมืองไทย ถูกใช้เพื่อการดับกลิ่นคาวในอาหารและกินพร้อม
อาหาร สำหรับวิธีการทำน้ำพริกก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแค่มีรสเผ็ดของ
พริก รสเปรี้ยวของผลไม้ รสหวานจากน้ำตาล รสเค็มจากเกลือและ
น้ำปลา เอามาผสมรวมๆ กันเท่านี้ก็เรียกว่า น้ำพริก ได้แล้ว


ความเป็นมา (ต่อ)

น้ำพริกภาคกลาง

จะมีรสชาติกลมกล่อม ไม่มีรสชาติใดรสชาติหนึ่งดูดออกมาจนเกินไป คือ มีทั้ง
เผ็ด เค็ม เปรี้ยว และหวาน ที่ผสมกันพอเหมาะ น้ำพริกของภาคกลางส่วนมาก
เป็นตำรามาจากในวังที่เน้นเรื่องความสวยงาม เช่น น้ำพริกลงเรือ น้ำพริกกะปิ
น้ำพริกปลาทู น้ำพริกเผา เป็นต้น

น้ำพริกภาคเหนือ

สำหรับเครื่องปรุงน้ำพริกของคนเหนือ ต้องเอาไปย่างหรือเผาให้สุกก่อน เพื่อ
จะช่วยเพิ่มความหอมและอร่อยให้มากขึ้น แต่ถ้าเป็นน้ำพริกสูตรดั้งเดิมจะปรุง
ด้วยเกลือเป็นหลัก ส่วนผสมของน้ำพริกส่วนใหญ่ได้มาจากท้องถิ่นนั้นๆ เช่น
เนื้อสัตว์ พืช ผัก แมลง และที่ขาดไม่ได้ คือ ถั่วเน่า (ถั่วเหลืองที่เอามาหมัก
แล้วทำเป็นแผ่นตากแห้ง) แทนการใช้กะปิ จึงทำให้มีกลิ่นและรสเฉพาะตัวไม่
เหมือนใคร น้ำพริกที่ขึ้นชื่อและถือเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือ เช่นน้ำพริก
อ่อง น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกปู๋ น้ำพริกข่า เป็นต้น

น้ำพริกอีสาน

ได้แก่ แจ่ว ป่น ซึ่งต้องกินกับข้าวเหนียวและอาหารพวก นึ่ง ปิ้ง ทอด ถ้าเอามา
ตำรวมกับเครื่องปรุงอย่าง ปลา เห็ด ก็จะเรียกว่า ป่น น้ำพริกอีสานส่วนมากจะมี
รสชาติเผ็ดนำ เค็มตามส่วนความหวาน และความเปรี้ยวได้รสชาติตาม
ธรรมชาติของเครื่องปรุงเท่านั้น แต่ที่ขาดไม่ได้ คือ ปลาร้า สำหรับน้ำพริกของ
คนอีสานที่ทุกคนรู้จัก เช่นทปลาร้าบอง น้ำจิ้มแจ่ว น้ำพริกปลาร้า เป็นต้น

น้ำพริกใต้

วิธีการทำมีหลายแบบ เช่น ใช้คลุกเคล้ารวมกันด้วยมือเรียก น้ำชุบหยำ หรือ
น้ำชุบโจร แต่ถ้าตำและปรุงให้เข้ากันเรียก น้ำชุบผัด น้ำพริกคนใต้ ส่วนมาก
จะมีพริก หัวหอมแดง กระปิ น้ำพริกใต้รสชาติจะเผ็ดร้อนและจัดจ้านได้จาก
พริกสด พริกแห้ง พริกไทย รสเค็มจากกะปิ เกลือ รสเปรี้ยวจากส้มแขก ตะลิง
ปลิง มะนาว มะขามเปียก หรือมะขามสด น้ำพริกของคนใต้ที่รู้จักกันดี เช่น น้ำ
พริกไตปลาแห้ง น้ำพริกโจร น้ำพริกกุ้งเสียบ น้ำพริกพริกไทย เป็นต้น


ความเป็นมา (ต่อ)

ประเภทของน้ำพริก

1.น้ำพริกสดๆ เป็นน้ำพริกที่ไม่ใช้ความร้อนเลย วิธีทำง่ายๆ เพียงแค่เอา
ส่วนผสมทั้งหมดใส่ในครก แล้วโขลกๆ ตำๆ เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วก็
ปรุงรสชาติให้ถูกใจคนกิน เช่นน้ำพริกกะปิ น้ำพริกมะม่วง น้ำพริกมะอึก น้ำ
พริกมะดัน และยังมีน้ำปลาพริกมะนาวกับกระเทียมซอย ที่หลายคนบอกว่า
มันก็คือน้ำพริกเหมือนกันไหม
2.น้ำพริกประเภทที่ต้องเผาส่วนผสม อย่าง พริก กระเทียม กะปิ หัวหอมแดง
ไปคั่วหรือไปเผาไฟให้หอมก่อน แล้วจึงนำมาโขกหรือตำ เช่นน้ำพริกเผา
น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกปลาทู น้ำพริกหนุ่ม เป็นต้น
3.น้ำพริกประเภทผัด วิธีการคือ ต้องตามส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันก่อนแล้ว
จึงนำลงไปผัดกับน้ำมันให้สุกจนเหลืองน้ำขลุกขลิก หรือจนแห้ง และมีกลิ่น
หอม เช่น น้ำพริกมะขามสด น้ำพริกลงเรือ น้ำพริกเผา เป็นต้น

กุศโลบายอย่างหนึ่งของคนโบราณที่ทำให้เราได้กินผักก็คือ น้ำพริก เพราะ
ด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อนของน้ำพริก เราจึงไม่สามารถที่จะกินน้ำพริกกับข้าว
เปล่าๆ ได้วิธีการกินน้ำพริกแต่ละชนิดต้องกินคู่กับผักชนิดต่างๆ ที่แตกต่าง
กันไป เช่น ผักสด ผักต้ม ผักทอด ผักผัด เป็นต้น เมื่อเรากินน้ำพริกแนมผัก
จะได้รสชาติอร่อยและคุณค่าทางอาหารเพิ่มขึ้น รวมถึงเส้นใยผักยังช่วยใน
ระบบการย่อยอาหารได้อีกด้วย และสิ่งที่สำคัญที่สุดการกินน้ำพริกยังเป็นการ
อนุรักษ์รักษาพืชพันธุ์พื้นถิ่นไม่ให้สูญหายไป และทุกครั้งที่เรากินน้ำพริก
แนมผักหรือเครื่องเคียงต่างๆ จึงเป็นการอนุรักษ์ผักพื้นบ้านของแต่ละท้อง
ถิ่นไม่ให้สูญพันธุ์ ดังนั้นน้ำพริก จึงเป็นการสนับสนุนให้คนทั่วไปนิยมกิน
ผักนั่นเอง


ความเป็นมา (ต่อ)

น้ำพริกปลาย่าง

เป็นน้ำพริกยอดนิยมอันดับต้นๆ เป็นที่รู้จักของผู้ที่ชอบกินน้ำพริกพอๆ
กับน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาทู น้ำพริกปลาร้า และน้ำพริกหนุ่ม แต่น้ำ
พริกปลาย่างของเราจะเพิ่มสมุนไพรเห็ดหอม ทำให้น้ำพริกของเรามี
รสชาติกลมกล่อมมีครบทั้ง เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และเผ็ด แต่ก็จะไม่
เผ็ดมากจนเกินไปทำให้ใครๆก็กินได้

สำหรับเครื่องปรุงและส่วนผสมไม่ยุ่งยาก วิธีการก็ทำง่ายๆ ขอแค่มีปลา
ย่างเห็ดหอม เอามาตำๆ รวมกับพริก หัวหอมแดง กระเทียม กะปิ แล้ว
เอาไปผัดๆไม่นาน ปรุงรสตามใจชอบ ก็จะได้น้ำพริกปลาย่างเห็ดหอม
ที่สามารถเก็บไว้กินได้นานหลายวัน

เห็ดหอม

มีประโยชน์ต่อร่างกายและเต็มไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย ประโยชน์
เห็ดหอม ได้แก่ ลดระดับคอเลสเตอรอล สารอิริตาดีนีนเป็นกรดอะมิโนที่มี
ในเห็ดหอม สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ และยังมีสารสเต
อรอล ที่จะช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้ได้ดี เสริมสร้างระบบ
ภูมิคุ้มกัน ช่วยบำรุงสมอง กระตุ้นการทำงานของสมองเสริมสร้างความจำได้
อย่างดีเยี่ยม เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก โดยในเห็ดหอมมีวิตามินดี
ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับ
กระดูกและรักษาโรคมะเร็ง มีการศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งที่รับประทานสาร
สกัดจากเห็ดหอมร่วมกับการรักษาด้วยเคมีบำบัดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ช่วยยับยั้ง
การเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็ง และช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งทำ
หน้าที่ทำลายเซลล์มะเร็งด้วย


ส่วนผสม น้ำพริกปลาย่าง&เห็ดหอม

1.พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด
2.พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 เม็ด
3.หอมแดง 8 หัว
4.กระเทียม 8 กรีบ
5.ปลาย่างแห้งป่น 5 ช้อนโต๊ะ
6.เห็ดหอมแห้ง 10 ดอก
7.น้ำตาลปี๊บ 1.5 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
9.เนื้อมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
10.เกลือ 1.5 ช้อนชา
11.กระปิ 1 ช้อนโต๊ะ
11.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
12.น้ำ 15 ช้อนโต๊ะ


ขั้นตอนวิธี
น้ำพริกปลาย่าง&เห็ดหอม

1.แช่เห็ดหอม ปอกหัวหอม ปอกกระเทียม

2.นำพริกขี้หนูแห้ง พริกเม็ดใหญ่ไปคั่วให้สุกหอม

3.นำหัวหอม กับกระเทียม ไปคั่วให้สุก

4.นำปลาย่าง ไปตำหรือปั่นให้ป่นละเอียด

5.นำเห็ดหอมหั่น คั่วให้สุกหอม ไปตำหรือปั่นละเอียด

6.โขลก หัวหอม กระเทียม พริกขี้หนูแห้ง พริกเม็ดใหญ่ เนื้อมะขาม
เปียกให้เข้ากัน

7.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เทน้ำพริกที่ตำลงผัด ให้สุกหอม ใส่น้ำอุ่นเล็ก
น้อย

8.ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ ปลาย่างป่น เห็ดหอมป่น
ผัดให้เข้ากันจนสุก

9.จัดเสิร์ฟ คู่กับเครื่องเคียงและตกแต่งให้สวยงาม


ประโยชน์ที่ได้รับ
น้ำพริกปลาย่าง&เห็ดหอม


ประโยชน์ที่ได้รับ

-ผักสด เครื่องเคียง-

ถั่วฝักยาว เครื่องเคียง

บำรุงกระดูกและฟัน ป้องกัน ของกินที่เอามาตั้งเทียบข้างเพื่อกิน
กระดูกพรุน ช่วยเผาผลาญ ประกอบกับอาหารบางชนิดเป็นกับแกล้มที่
คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และ รับประทานกับน้ำพริก มีทั้งเนื้อสัตว์และ
โปรตีนป้องกันโรคหวัด ผัก ผักที่นิยมมารับประทานด้วย จะเป็นผัก
เลือดออกตามไรฟัน พื้นบ้าน เนื่องจากราคาถูกมาร์คปลูกกิน
กันเองเพราะปลอดสารพิษ และขึ้นเอง
ผักกาดหอม มะเขือเปราะ ตามธรรมชาติ มีให้กินทุกฤดูกาลอุดมไป
ด้วยสารอาหารที่ต้านโรคเช่นปลาทอด ไข่
กระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันมะเร็ง ช่วยแก้อาการปวดกระเพาะอาหาร ต้ม และผักต่างๆ
มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ขับพยาธิ ช่วยย่อยอาหาร และช่วย
ช่วยปกป้องเซลล์จากสารพิษทำ ในการขับถ่าย กะหล่ำปลี
ให้เซลล์แข็งแรง
แตงกวา ขัดขวางการเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นไขมัน
บำรุงกระดูกและฟัน ช่วยย่อยอาหารลด
ลดความร้อนภายในร่างกาย รักษา ความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยทำให้
สมดุลภายในร่างกาย ทำให้ระบบ เส้นผมเล็บ และเนื้อเยื่อมีความแข็งแรง
ภูมิคุ้มกันอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมยิ่ง บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้นอนหลับสนิท
ขึ้น กระตุ้นการพัฒนาสมองของทารกใน
ครรภ์
มะเขือเทศ
แครอท
ช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับ
โรคหืดหอบได้มาก ป้องกันอัล บำรุงสายตา เพราะในแครอทมีสารเบต้า
ไซเมอร์ ช่วยรักษาโรคลักปิดลัก แคโรทีนซึ่งเป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกาย
เปิดช่วยป้องกันการแข็งตัวของ ต้องการ อีกทั้งมีประโยชน์ที่ช่วยในเรื่อง
หลอดเลือด การบำรุงสายตาของเราด้วย

ข้าวโพดอ่อน

ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยย่อย
อาหารลดอาการบวมน้ำ รักษาโรค
ไตอักเสบเรื้อรัง โรคเบาหวาน
ความดันโลหิตสูง ปัสสาวะอักเสบ
เรื้อรัง และจมูกอักเสบเรื้อรังบำรุง
หัวใจทำให้เจริญอาหาร


ประโยชน์ที่ได้รับ

-นักเรียน / ผู้เกี่ยวข้อง-

นักเรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ
มีทักษะในการปฏิบัติงาน การทำงานร่วมกัน

ได้สำรวจความถนัดและความสนใจของตนเอง
เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และก่อให้เกิดรายได้

ได้รับความรู้เกี่ยวกับอาหารและประโยชน์จากอาหารเพื่อ
สุขภาพ

มีทักษะในการประกอบอาหาร เป็นพื้นฐานในการใช้ชีวิต
และการประกอบอาชีพ

เป็นแนวทางในการสร้างเสริมสุขภาพในการบริโภคอาหารที่
ถูกต้องและมีประโยชน์


เคล็ดลับ
ความอร่อย

เห็ดหอมแห้ง ควรแช่น้ำให้นุ่ม นำไปผัดไฟให้
สุก หอม

ผัดใช้ไฟอ่อนๆ และผัดนานๆ จะทำให้น้ำพริก
มีความหอมและอร่อย น้ำพริกเก็บได้นาน

กะปิควรเป็นกะปิอย่างดี สีไม่เข้มมาก รสชาติ
ไม่เค็มมาก


การคิดราคาขาย

น้ำพริกปริมาตร 3 ออนซ์ ต่อกระปุก
พร้อมเครื่องเคียงและผักสด
ราคาขายต่อกล่อง กล่องละ 50 บาท

1.พริกขี้หนูแห้ง พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5
บาท
3.หอมแดง 7 บาท
4.กระเทียม 5 บาท
5.ปลาย่างแห้งป่น 8 บาท
6.เห็ดหอมแห้ง 8 บาท
7.น้ำตาลปี๊ บ 1.5 บาท
8.น้ำตาลทราย 1.5 บาท
9.เนื้อมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ 2 บาท
10.เกลือ 1.25 ช้อนชา 0.5 บาท
11.กระปิ 1 ช้อนโต๊ะ 2 บาท
11.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ 3 บาท
12.เครื่องเคียง

ไข่ไก่ต้ม 24 บาท
ปลาทูทอด 60 บาท
13.ผักสด 80 บาท

รวมต้นทุนการผลิต 207.5 บาท
ต้นทุน 207.5 บาท
จัดน้ำพริกได้ 6 ชุด
ราคาขายต่อชุด 50 บาท

6 x 50 = 300 บาท
กำไร 300 - 207.5 = 92.5 บาท


&น้ำเพห็ดริกหปอลมาย่าง

คณะผู้จัดทำ

สนับสนุนการผลิตโดย

นางสาวเบญจวรรณ แสงแก้ว
ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดถ้ำตะโก

ควบคุมการผลิตโดย

1.คุณครูพรพิมล คงเสือ
2.คุณครูสุรีย์พร สอนสืบ

ผลิตโดย

1.เด็กหญิงสุดารัตน์ ศรีใจนาง
2.เด็กหญิงกัลยา แวววิเชียรรัศมี
3.เด็กหญิงกาญจนา สอนซื่อ


Click to View FlipBook Version