The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทนุตา มงคล, 2023-01-27 01:11:58

มหาเวสสันดรชาดก

pdf_20230127_130622_0000

มมหหาาเเววสสสัสัสั สั นสั นสั นดดรรชชาาดดกก กักักั กั ณกั ณกั ณฑ์ฑ์ฑ์ ฑ์ มั ฑ์ มั ฑ์ มั มั ทมั ทมั ทรีรีรี รีรีรี นางสาวทนุตา มงคล เลขที่39 ม.5/3


เมื่อ มื่ พระพุทธเจ้า จ้ ศัต ศั รูแ รู ล้ว ล้ พระองค์เ ค์ สด็จ ด็ ไป กรุง รุ กบิล บิ พัส พั ดุ์ เพื่อ พื่ โปรดพระราชบิด บิ า และ พระประยูร ยู ญาติ เหล่า ล่ พระประยูร ยู ญาติไติ ม่ มีค มี วามเคารพ พระพุทธองค์จึ ค์ ง จึ ทรงแสดง ยมกปาฏิห ฏิ าริย์ ริย์ เสด็จ ด็ ขึ้น ขึ้ สู่ท้ สู่ อ ท้ งฟ้า ฟ้ พระเหล่า ล่ นั้น นั้ จงละทิฐิ ทิ แ ฐิ สดงความเคารพจากนั้น นั้ เกิด กิ ฝนโบกขรพรรษตกลงมา ที่ที่ ที่ มที่ มาของมหาเวชสัสั สั นสั นดรชาดก


ที่ที่ที่ที่ ม ที่ ม ที่ มาาขขอองงมมหหาาเเววชชสัสัสัสั น สั น สั นดดรรชชาาดดกก พระทรงสาวกทั้ง ทั้ หลายเห็น ห็ เป็น ป็ อัศ อั จรรย์จึ ย์ ง จึ กราบทูล ทู ถามพระพุทธองค์ พระพุทธองค์จึ ค์ ง จึ ตรัส รั ตอบว่า ว่ ฝนนี้เ นี้ คยตกลงมาครั้ง รั้ หนึ่ง นึ่ แล้ว ล้ ในสมัย มั พระองค์เ ค์ สวยพระธาตุเ ตุ ป็น ป็ พระเวสสัน สั ดรพระสงฆ์เ ฆ์ หล่า ล่ นั้น นั้ จึง จึ อารธนาให้เ ห้ หล่า ล่ จาก นั้น นั้ พระองค์จึ ค์ ง จึ แสดงเรื่อ รื่ งมหาเวชสัน สั ดรชาดก


ทศชาติชาดก 1.เตมียชาดก เนกขัมมบารมี 2.มหาชนกชาดก วิริยบารมี 3.สุวรรณสามชาดก เมตตาบารมี 4.เนมิราชชาดก อธิษฐานบารมี 5.มโหสถชาดก ปัญญาญาณมี


ทศชาติชาดก 6.ภุริทัตตชาดก ศีลบารมี 7.จันทชาดก ขันติบารมี 8.นารทชาดก อุเบกขาบารมี 9.วิทูรชาดก สัจจบารมี 10.เวสสันดรชาดก ทานบารมี


การเรียกชื่อ "ประเพณีเทศน์มหาชาติ" ภาคกลาง,ภาคใต้ เทศน์มหาชาติ ภาคเหนือ ตั้งทำ หลวง ภาคอีสาน งานบุญพระเวส


เทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ 1.กัณฑ์ท ฑ์ ศพร = พร 10 ประการของพระอินทร์ 2.กัณฑ์หิมพานต์ = พระเวสสันดรประสูติจนถึงเนรเทศออกจากเมือง 3.กัณฑ์ทานกัณฑ์ = การบริจาคสัตตสดกมหาทาน(การทำ ทานครั้งยิ่ง ใหญ่ก่อนออกจากเมือง 4.กัณฑ์วนประเวศน์ = พระเวสสันดรบำ เพ็ญพรตกกลางป่า 5.กัณฑ์ชูชก = ชูชกเดินทางไปขอ 2 กุมาร 6.กัณฑ์จุ ฑ์ จุ ลพน = พรานเจตบุตรต้อนรับชูชก


7.กัณฑ์มหาพล = ชูชกพบพระอัตจุตฤาษี 8.กัณฑ์กุมาร = พระเวสสันดรยกสองกุมารให้ชูชก 9.กัณฑ์มัทรี = พระนางมัทรีตามหาสองกุมาร 10.กัณฑ์สักกบรรพ = พระอินทร์แปลงมาขอนางมัทรี 11.กัณฑ์มหาราช = พระเจ้ากรุงสัญชัยไถ่ตัวสองกุมาร 12.กัณฑ์ฉ ฑ์ กษัตริย์ = กษัตริย์ทั้ง 6 พระองค์ได้พบกัน 13.กัณฑ์น ฑ์ ครกัณฑ์ = พระเวสสันดรเสด็จกลับไปครองกรุงสราษฎ์ ด้วยทศพิธราชธรรม


หากตั้งใจฟังเทศน์มหาชาติจบ เพียงวันเดียวทั้ง 13 กัฑณ์จะส่งผลให้ 1.เกิดในยุคพระศรีอาริย์พุทธเจ้า 2.ถ้าตายจะเกิดในยุคสุขคติโลก สวรรค์ 3.ไม่ตกนรก 4.ได้ฟังธรรมเทศนา บรรลุมรรค ผลและนิพพาน


ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี ผู้ผู้ผู้ผู้แผู้ผู้แต่ต่ต่ ต่ ง ต่ ง ต่ ง เจ้าพระยาพระคลัง (หน) กวีชั้นเยี่ยมในสมัยรัตนโกสินทร์ มีความ สามารถเชิงอักษรศาสตร์ • ดำ รงตำ แหน่งสนาบดีกรมท่า มีหน้าที่ ควบคุมบังคับบัญชากิจการหัวเมืองชายทะเล ทั้งหมด • งานประพันธ์อื่นๆ เช่น บทมโหรีกากี อิเหนาคำ ฉันท์ สามก๊ก ราชาธิราช ฯลฯ •


กัณฑ์ทศพร,กัณฑ์หิมพานต์,กัณฑ์มหาราช, กัณฑ์ฉกษัตริย์และนคากัณฑ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส กัณฑ์วนปเวศน์,กัณฑ์จุลพล,กัณฑ์สักรบรรพ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กัณฑ์กุมาร,กัณฑ์มัทรี เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ทานกัณฑ์ กวีสำ นักวัดถนน กัณฑ์ชูชก กวีสำ นักวัดสังขจาย กัณฑ์มหาพน พระเทพโมลี (กลิ่น)


ร่ร่ ร่ า ร่ ายยาวมหาเวสสัสั สั นสั นดรชาดก กักั กั ณกั ณฑ์ฑ์ ฑ์ มั ฑ์ มั มั ทมั ทรีรี รีรี ลักษณะคำ ประพันธ์ ประเภทร่ายยาว (นิยมนำ มาแต่งเป็นเทศน์ บทสวด) มีลักษณะบังคับดังนี้ ร่ายยาว 1บท นิยมแต่ง 5 วรรคขึ้นไป ไม่จำ กัดจำ นวนวรรค และไม่จำ กัดจำ นวนในวรรค คำ สุดท้ายของวรรคหน้าสัมผัสสระไปยังคำ ใดคำ หนึ่งของวรรคต่อไป การเริ่มต้นของร่ายยาว มีภาษาบาลีขึ้นนำ ก่อน แล้วต่อด้วยภาษาไทย • • •


ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดกกล่าวถึง ประชิาตสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ก่อนที่ จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าถือเป็นชาติที่ยิ่ง ใหญ่เพราะได้บำ เพ็ญทานบารมีอย่างสูงสุด ปัจจุบันพระพุทธศาสนามีการเทศน์เรื่อง พระเวสสันดร เรียกว่า "เทศน์มหาชาติ"


1.กัณฑ์ทศพร ในอดีตชาติพระนางผุสดีเป็นอัครมเหสีของพระอินทร์ เมื่อ พระนางผุสดีจะจุติจากสวรรค์ พระอินทร์ให้พระนางขอพร 10 ปรการ ดังนี้ 1.ขอให้เป็นอัครมเหสีของพระราชาแห่งกรุงสิวิราษฎร์ 2.ขอให้มีจักษุสีดำ เหมือนตาของมฤคี 3.ขอให้มีขนคิ้วดำ 4.ขอให้มีพระนามว่าผุสดี 5.ขอให้มีพระโอรส ที่ทรงพระเกียรติยศยิ่งกว่ากษัตริย์อื่นๆ ในโลก


6.ขออย่าให้พระอุทรนูนเมื่อทรงครรภ์ 7.ขอให้พระถันงามไม่หย่อนคล้าย 8.ขอให้เส้นเกศาสีดำ ขลับสวยงาม 9.ขอให้มีผิวละเอียด 10.ขอให้มีโอกาสช่วยนักโทษ ให้พ้นจากการประหารชีวิตได้


2.กัณฑ์หิมพาน • พระนางผุสดีจุติจากสวรรค์มาเกิดในโลกมนุษย์ พระชนม์ได้สิบหกพรรษาก็ได้เป็นอัครมเหสีของพระเจ้ากรุงสญชัย • เมื่อทรงพระครรภ์ครบ 10 เดือน ทรงปรารถนาจะไปประพาสชม พระนคร • เสด็จถึงท่ามกลางถนนพ่อค้าก็ทรงประสูติพระโอรส • พระนามว่า "พระเวสสันดร" (เวสส=พ่อค้า , อันดร=ระหว่าง รวมหมายถึง ประสูติในตรอกพ่อค้า)


มีลูกช้างขาวทั้งตัวเกิด เรียกว่า "ช้างปัจจัยนาค" ช้างปัจจัยนาคเคนทร์=ช้างคู่บารมี


พระเวสสันดรพระชนมพรรษา 16ปี ทรงอภิเษกกับ พระนางมัทรี • พระโอรสทรงพระนามว่า ชาลี และพระราชบิดาทรงพระนามว่า กัณหา • ณ เมืองกลิงคราษฐ์เกิดภัยแล้ง ชาวบ้านเดือนร้อน พระราชาจึงทรง สมาทานศีลแต่ฝนก็ไม่ตก จึงทรงพราหมณ์ 8 คนไปขอปัจจัยนาค ชาวเมืองสีวิราษฎ์ไม่พอใจ จึงไปตีเตียนทีประตูหวังเพื่อกราบทูล พระเจ้าทรงสญชัย • • พระเวสสันดรถูกเนรเทศออกจากเมือง •


ก่อนออกจากเมืองพระเวชสันดรได้บริจาค • "สัตตสดกมหาทาน" การทำ ทานครั้งใหญ่ 7 สิ่ง สิ่งละ 700 ได้แก่ 1. ช้าง 700 เชือก 2. ม้า 700 เชือก 3. รถ 700 คัน 4. สตรี 700 คน 5. โคนม 700 ตัว 6. ทาสหญิง 700 คน 7. ทาสชาย 700 คน


• พระเวสสันดรและพระนางมัทรีทูลลาพระเจ้าสญชัยและพระนางผสุดา เสด็จขึ้นสู่พระที่นั่งเพื่อไปสู่เขาวงกต และให้โอวาสแก่มหาชนที่มาเฝ้า พระราชทานอาภรณ์ และเปลื้องเครื่องประดับเหล่ายาจกถึง 18 ครั้ง ครั้งนั้นมีพราหมณ์ 4 คนมาทูลขอมาที่เทียมรถ งอนรถจึงว่างเปล่า มีเทวบุตร 4 องค์จำ แลงกายเป็นละมั่งทองมารรองรับงอนรถ ต่อมามีพราหมณ์มาทูลขอรถที่นั่ง พระองค์จึงราชทานรถแก่พราหมณ์ • • • • • • พระเวสสันดรเสด็จเข้าสู่โรงทานเพื่อพระราชทานสัตตสดกมหาทาน 3.กัณท์ทานกัณฑ์


4.กัณฑ์วนประเวศน์ เมื่อ พระเวชสันดร พระนางมัทรี ชาลี และกัณหา เสด็จไปเมือง เจตราฐ กษัตริย์แห่งเจตราฐก็ทูลถวายราชสมบัติให้ และขอให้พระเวสสันดร เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติในเจตราฐ แต่พระองค์ก็ปฏิเสธ พระยาเจตราฐจึงสั่งให้ง พรานเจตบุตร ไปรักษาเส้นทางประตูป่า ท้าวสักกเวทราช ให่้ พระวิสสุกรรม ไปสร้างอาศรม ณ เขาวงกต บรรณศาลา 2 หลัง , ที่จงกรมท 2 แห่ง , ที่อยู่ทั้งกลางวัน และกลางคืน กอไม้ ดอกไม้ ดงกล้วย แล้วจารึกอักษรไว้ว่าผู้ใดใคร่จะบวชก็ใช้บริขาร เหล่านี้ • • • • •


เวสสันดรทอดพระเนตรเห็นอักษร ก็รู้ว่ามีผู้ใดทรงประทานให้ -เปลื้องพระขรรค์ พระแสงศร พระภูษา -พาดหนังเสือบนพระอังสา -จับธารพระกร พระเวสสันดร ถือเพศดาบส พระนางมัทรีถือเพศเป็นดาบสินี ชาลี ถือเป็นเพศ ถือเป็นเพศ ดาบสกุมาร กัณหา ดาบสินีกุมารี • • • •


5.กัณฑ์ชูชก พราหมณ์แก่อัปลักษณ์ชื่อว่า "ชูชก" อาศัยอยู่ที่เมืองกลิงคราษฐ์ เที่ยวไปภักขาจาร เมื่อได้ทรัพย์สิน ก็นำ ไปพวกพราหมณ์ด้วยกัน พราหมณ์ยกลูกสาวให้แก่ชูชกชื่อว่า "นางอมิตตดา" • • •


นางอมิตตดาปรนนิบัติชูชกเป็นอย่างดี ภรรยาพราหมณ์จึงคิดจะกำ จัดนาง นางอมิตตดา นางอมิตตดาเล่าให้ชูชกฟัง เทวดาดลใจให้นางอมิตตดาบอกให้ชูชก ไปทูลขอทาสและทาสีให้กับพระเวสสันดร ชูชกเดินทางไปยังเขาวงกต เกิดหลงทาง จึงถูกสุนัขล้อมไว้ จึงขึ้นบนต้นไม้ร่ำ ให้ พรานเจตบุตรได้ยิน จึงคิดว่า ชูชกจะมาขอ พระนางมัทรี พระกูมารทั้ง2 • • • • • •


พรานเจตบุตรจึงคิดจะฆ่าชูชก ชูชกจึงโกหกไปว่า พระชนกและพระชนนี ให้มาเชิญพระเวชสันดรกลับสีวิราษฎ์ พรานเจตบุตร ก็ได้ฟัง ก็จัดที่นั่งให้ ชูชก ได้บริโภคอาหาร • •


6.กัณฑ์จุลพล •พรานเจตบุตรชี้ทางให้ชูชกไปทางทิศอุดรตามเชิงเขาทันทมาทน์ พรานเจตบุตรเกิดมาไม่เคยมีความสุขเลย พรานเจตบุตรส่งชูชกไปตามทางเดิน กล่าวว่าให้ชูชกเดินไปตามทาง นี้จะพบพระอัจจุตฤาษี • •


7.กัณฑ์มหาพน ชูชกพบพระอัจจุตฤาษีและได้สนทนากัน ชูชกออกกลอุบายว่าตนมาขอพบพระเวสสันดรไม่ได้มาขอสิ่งใด พระอัจจุตฤาษีเกิดหลงเชื่อ ก็ชี้ทางพร้อมพรรณนาเขาคันทมาทน์ มีสระโบกขรณีน้ำ สะอาดใสไหลเย็น มีพฤกษาร่มรื่น และมีดอกไม้หอม หวนทั่วทั้งป่า ในสระมีอุบลชาติ 3 ชนิด เขียว ขาว แดง พรรณนาถึงสัตว์ป่า ชูชกก็เดินไปก็สู่อาศรม พระเวสสันดร • • • • • •


8.กัณฑ  กุมาร ชูชกเดินทางไปถึงสระโบกขรณี เมื่อพระนางมัทรีเ รี สด็จไปปาจะไปทูลขอ 2 กุมาร และพาหนีก่อนที่ พระนางมัทรี จะกลับมา คืนนั้นเวลาใกล  รุงเชา พระนางมัทรีพระสุบินว่า มีชายผิวดํานุงหมผา กาสายะสองผืน ทัดดอกไม  สีแดงสองหู ถืออาวุธเดินตะคอกขูเขามาในศาลา จับพระชฎาของ พระนางฯจนลมหงาย แลวควักดวงพระเนตรทั้งสอง จะพระพาหาของ พระนางฯ ซึ่งกำ ลังร้องให้อยู่ ทำ ลายพระอุระเอาเนื้อ พระหทัยที่มีโลหิตไหลอยู่ สะดุงตื่นจากบรรทม แล้วไปเล่าให้ พระเวสสันดรทำ นายฝัน • • • •


ชูชกก็ทูลขอ 2 กุมารไปเป็นทาส พระเวสสันดร ไดฟงคําพูดของชูชกก็ทรงโสมนัสและยกลูกให้ ฝายชาลีและกัณหารู้ว่าชูชก มาขอตนเอง ก็กลัว จึงเสด็จหนีไปซ่อนตัวที่สระโบกขรณี ทั้ง 2 ลงน้ำ เอาใบบัวมาวางที่พระเศียร ชูชก ไม่เห็น 2 กุมารจึ่งพูดว่า พระเวสสันดรมุสา • • • • •


พระเวสสันดรจึงเสด็จไปที่สระโบกขรณี ตามรอยพระบาทของ 2 กุมาร เมื่อเห็นรอยพระบาทลงสู  น้ํา ก็เรียก พระชาลี ใหสมบูรณ  ใหชวยทําบารมีครั้งนี้  ชาลี เสด็จขึ้นจากน้ําและหมอบกราบพระบาทขวา ทรงกอดขอพระบาท และกันแสง • • •


พระเวสสันดรตรัสเรียกพระกัณหา พระกัณหาเสด็จขึ้นจากน้ําและหมอบกราบ พระบาทซาย ทรงกอดขอพระบาทและกันแสง พระเวสสันดรมีพระทัยที่หดหูและปลอบ 2 กุมาร ชูชกเอาเถาวัลยมาผูกพระหัตถของ 2 กุมาร และโบยตีระหวางทางที่กลับ พระเวสสันดรอยากจะไปฆาชูชกเผื่อนําลูกกลับมา แตทรงหวนคิดได จึงตั้งอธิฐานสมาทานศีลตอไป • • • • •


9.กัณฑ  มัทรี เทพบุตร 3 องค์จำ แลงกายเป็น ราชสีห เสือโครง เสือเหลือง กั้นทางเสด็จพระนางมัทรีไรี วจนกวาดวงอาทิตยจะลับขอบฟา เกิดลางรายในปา -เสียมหลุดจากพระหัตถ์ -กระเชาหลุดจากพระอังสา -พระเนตรขวาเขม่น -พฤกษชาติไม  มีผล พระนางมัทรี ไมสามารถกลับอาศรมไดเนื่องจากมีสัตว  ทั้ง 3 ตัว นอนขวางทางอยู่ • • •


"พญาพาฬมฤคราช" พญาไกรสรราชสีห์ พญาเสือโครง พญาเสือเหลือง • • •


พระเวสสันดรคิดว่าพระนางมัทรีสิ้นพระชนม  พระองคทรงวางพระหัตถชอนพระเศียรของพระนางวางบน พระเพลา พรมน้ํา ลูบพระพักตรและที่ตรงพระหทัย พระนางมัทรี ฟนขึ้นไดสติก็กราบพระเวสสันดร พระเวสสันดรตอบวายกใหเปนทาสแก ชูชกไปแลว ทรงปลอบพระทัยพระนางฯ พระนางมัทรี จึงทรงอนุโมทนาปิตบุตร • • • • • • ทาน


การวิเคราะห  คุณคา เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑมัทรี 


สำ นวนโวหาร บรรยายโวหาร=อธิบาย พรรณนาโวหาร=ทำ ให้เห็นภาพ เทศนาโวหาร=การสั่งสอน สาวกโวหาร=การยกตัวอย่าง อุปมาโวหาร=การเปรียบเทียบ


ขอคิดที่ไดจากมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ  มัทรี ความรักของแม  ยิ่งใหญ  ที่สุด ยอมลําบากทุกอยางเพื่อลูก ทุกคนลวนสูญเสียสิ่งอันเปนที่รัก จึงตองเตรียมใจและยอมรับ สามี ภรรยาที่ดี ควรรวมทุกขรวมสุขกัน และสงเสริมซึ่งกันและกัน เราควรเปนผูใหมากกวาผู  รับ ควรหมั่นทําความดี เพราะความดีจะทําใหเรามีความสุข • • • • •


10.กัณฑ สักกบรรพ ทาวสักกเทวราชแปลงเปนพราหมณ  ไปทูลพระนางมัทรี ทาวสักกเทวราชทรงอนุโมทนาในทานของ พระเวสสันดร ทาวสักกเทวราชถวาย พระนางมัทรีคื รีคื น ถวายพร 8 ประการแดพระองค  พระเวสสันดร ทรงขอพร 8 ประการ • • • • •


11.กัณฑ์มหาราช มีเทพบุตร เทพธิดา แปลงรางกายคลายพระเวสสันดร และพระนางมั อาบน้ําให 2 กุมาร ให  กินอาหารทิพย และใหนอนตัก กลอมใหหลับสนิท พราหมณ ชูชก พา 2 กุมารผานหนาเมือง สีวิราษฎ์ เจ้ากรุงสญชัยทอดพระเนตรเห็น 2 กุมาร จึงสั่งให  อํามาตย  นําตัวมาให  พระเจ้ากรุงสญชัยไมเชื่อวาพระเวชสันดร จะยกบุตรให  ชาลี จึงพรรณนาอาศรมของพระเวชสันดรวาไม  มีสิ่งใดเลย และพรรณ นานมาถึงพระหทัยที่เรารอน พระเนตรแดงก่ํา พระอัสสุชลไหล • • • • • •


12.กัณฑฉกษัตริย  พระเจากรุงสญชัย พระนางผุสดี พระชาลี และพระกัณหาเสด็จไปเขาวงกต ทั้ง 6 พระองค์ได้พบกัน พระนางมัทรี เห็นลูกก็ทรงค่ําครวญพระวรกายสั่นจนหมดสติ พระเวสสันดร พระชนก พระชนนี เปนลมลมลง เหลาอํามาตย  ขาราชบริพารเห็นก็เปนลมเชนกัน ทาวสักกเทวราช บันดาลใหเกิด ฝนโบกขรพรรษตกลงมา (ผูใดตองการใหเปยกก็เปยก ผูใดไมตองการใหเปยกก็จะไมเปยก) ทั้ง 6 พระองคและขาราชบริพารก็ฟนขึ้น มหาชนเห็นความอัศจรรยของฝนโบกขรพรรษ จึงวิงวอนให้ พระเวสสันดร ครองราชสมบัติ • • • • • • •


13.กัณฑนครกัณฑ์ พระเวสสันดร และ พระนางมัทรีเสด็จกลับพระนคร พระเวสสันดร ตองการใหทานแกยาจกในวันรุงขึ้น ทาวสักกเทวราชเนรมิตพื้นขางหนาและขาง หลังใหเต็มไปดวยแกวรัตนะ สูงขนาดเอว, ให  มีฝนแกว 7 ประการตกลงมา พระเวสสันดร ทรงบําเพ็ญทานบารมี จนพระชนมพรรษาได้ 120 พรรษา เสด็จสวรรคตไปจุติเปน สันดุสิตเทวราช ในขั้นดุสิต • • • • •


ข้อสอบ1-10?


ว่าได้ทานบุตรทั้งสองให้แก่ชูชกไปแล้ว ก.กลัวพระนางทำ ใจไม่ได้ ข.ไม่มีความจำ เป็นต้องบอก ค.กลัวพระนางตามเอาคืน ง.กลัวพระนางหนีไป 1.เหตุใดพระเวสสันดร จึงไม่บอกพระนางมัทรีให้ทราบตั้งแต่แรก


2.มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี เป็นผลงานของใคร ก.พระเทพโมลี (กลิ่น) ข.เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ค.พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ง.กรมพระปรมานุชิตชิโนรส


ก.เพื่อใช้เป็นบทเทศน์ ข.เพื่อให้เป็นวรรณคดีฉบับรัตนโกสินทร์ ค.เพื่อใช้สั่งสอนประชาชนให้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ง.เพื่อใช้เป็นตำ ราให้ภิกษุสามเณรในสมัยนั้นใช้ฝึกเทศน์ 3.จุดมุ่งหมายในการแต่งมหาเวสสันดรชาดก คืออะไร


ก.มีสีแดง ใครอยากให้เปียกก็จะเปียก ใครไม่อยากให้เปียกก็ไม่เปียก ข.มีสีน้ำ เงิน ใครอยากให้เปียกก็จะเปียก ใครไม่อยากให้เปียกก็ไม่เปียก ค.มีสีแดง ใครอยากให้เปียกก็ไม่เปียก ใครไม่อยากให้เปียกก็เปียก ง.มีสีน้ำ เงิน ใครอยากให้เปียกก็ไม่เปียก ใครไม่อยากให้เปียกก็เปียก 4.ฝนโบกขรพรรษมีลักษณะเป็นอย่างไร


ก.เขาวงกต ข.เมืองเจตรัฐ ค.แคว้นกลิงครัฐ ง.สวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ 5.สถานที่เป้าหมายที่พระเวสสันดรจะออกไปบำ เพ็ญพรตออกผนวช คือข้อใด


6.มหาชาติมีทั้งหมดกี่กัณฑ์ ก.๑๐ กัณฑ์ ข.๑๑ กัณฑ์ ค.๑๒ กัณฑ์ ง.๑๓ กัณฑ์


7.ช้างเผือกมงคลคู่บุญของพระเวสสันดรชื่อว่าอะไร ก.พญานาเคนทร์ ข.พญาฉัตรฑัณต์ ค.ปัจจัยนาเคนทร์ ง.ปัจจัยฉัตรฑัณต์


8.ชาดกเรื่อง “มหาเวสสันดรชาดก” ให้แนวคิดสำ คัญในเรื่องใด ก.ความเห็นแก่ตัว ข.ความสันโดษ ค.ความหลงตัว ง.ทานบารมี


Click to View FlipBook Version