1 การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง นาฏยศัพท์โดยการสอนแบบเกมการศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่5 Development of learning activities on dance vocabulary by teaching with educational games of students in grade 5 นายบุญญฤทธิ์ ภูกองไชย Mr.Bunyarti Phukongchai สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี Department of Dance Studies, Faculty of Education, Udon Thani Rajabhat University [email protected] บทคัดย่อ จากการจัดทำวิจัยเรื่องการ การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง นาฏยศัพท์ โดยการสอนแบบ เกมการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนปฏิบัตินาฏยศัพท์ ได้ในรายวิชา นาฏศิลป์มากขึ้น โดยมีการนำสอนแบบเกมการศึกษาเข้ามาใช้ในการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดแรงจูงใจกับ นักเรียน และได้ผลวิจัยไปตามที่คาดหวังไว้นักเรียนมีการเข้าเรียนมากยิ่งขึ้น - คำสำคัญ ผู้เรียนมักมีการขาดเรียนและไม่ชอบเข้าเรียนในรายวิชานาฏศิลป์ จึงได้หาทางแก้ไขโดยการใช้ การสอนแบบเกมการศึกษาเข้ามาใช้ ผู้เรียนจะได้มีความสนใจในการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดแรงจูงใจใน การเรียน เพื่อที่จะให้เกิดความไม่เคว้งขว้างและน่าเบื่อ และอยากเข้าเรียนนาฏศิลป์ยิ่งขึ้น
2 บทนำ จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับการศึกษาทักษะปฏิบัติในรายวิชานาฏศิลป์ เรื่อง นาฏย ศัพท์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนศรีขวัญเมือง พบว่านักเรียนยังขาดทักษะปฏิบัติในเรื่อง นาฏยศัพท์ เป็นอย่างมาก ไม่มีพื้นฐานความรู้ ไม่มีทักษะปฏิบัติเกี่ยวกับท่านาฏยศัพท์ และยังมีความเบื่อ หน่ายในรายวิชานาฏศิลป์อีกด้วย ผู้วิจัยจึงนำเอาการเรียนการสอนแบบเกมการศึกษา มาใช้เพื่อให้ นักเรียนสามารถปฏิบัติ เรื่อง นาฏยศัพท์ ได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ เกมการศึกษาเป็นวิธีการสอนชนิดหนึ่งที่สอดคล้องกับทฤษฎีการเรียนของเด็กให้เด็กได้เรียนรู้ จากการเล่นเกมเรียนรู้จากสิ่งที่เป็นรูปธรรม ฝึกกระทำด้วยตนเองและฝึกกระทำหลายๆ ครั้ง ฉะนั้นเกมจึง เป็นกิจกรรมการเล่นที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ครูควรส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ร่วมกับเพื่อนและเกมนั้นควรเป็น เกมง่ายๆ ที่เหมาะสมกับเด็ก ครูสามารถนำเกมมาใช้ฝึกทักษะต่างๆ แก่เด็กได้เป็นอย่างดีพร้อมทั้งปลูกฝัง นิสัยที่ดีให้แก่เด็กได้ด้วยการเล่นเกมทำให้เด็กสนุกสนานเพลิดเพลิน ได้ฝึกทักษะการเคลื่อนไหว และ เสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ (กุลยาตันติผลาชีวะ, 2547, หน้า 72) และเกมเป็นกิจกรรมการเล่นที่มีคุณค่าแก่ เด็กทั้งทางร่างกาย อารมณ์สังคมและสติปัญญา เป็นกิจกรรมที่เด็กพอใจ ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการ ช่วยทำให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีและช่วยผ่อนคลายความเครียดในการเรียน ทำให้การเรียนรู้ดำเนินไปอย่าง รวดเร็ว ทำให้เด็กสนใจไม่เบื่อหน่าย ครูจึงควรนำเกมมาใช้ในการเรียนการสอนเพื่อให้การเรียนการสอน บรรลุตามจุดมุ่งหมายที่วางไว้ได้ง่ายยิ่งขึ้น (พัชรีผลโยธิน, 2548, หน้า 26) นอกจากนี้เยาวพา เดชะคุปต์(2546, หน้า 46) กล่าวว่า การเล่นเกมเป็นวิธีการหนึ่ง ที่ส่งเสริมให้เด็กเกิดการเรียนรู้ช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ ช่วย ให้เด็กเกิดความคิดรวบยอด รวมทั้งการส่งเสริมกระบวนการทำงาน ดังนั้นการเล่นเกมร่วมกับผู้อื่นจึง สามารถส่งเสริมพฤติกรรมร่วมมือให้กับเด็กได้ เพราะการเล่นเกมสามารถช่วยให้เด็กรู้จักการรักษากติกา การเล่นเกมร่วมกัน เรียนรู้การร่วมมือกันซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นฐานพฤติกรรมทางสังคมดังนั้นการจัด กิจกรรมและการเล่นสำหรับเด็ก นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีทักษะด้าน ร่างกาย คือ เด็กสามารถเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายได้หลายๆ อิริยาบถเช่น การยิ้ม การทรงตัว เกร่ งกล้ามเนื้อ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้จะทำให้เกิดการพัฒนาระบบกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรง คล่องแคล่ว ว่องไว การประสานกันในระบบประสาทสัมพันธ์การเล่นยังช่วยให้มีพละกำลังที่มากเกินในแต่ละวัยได้ถูก ใช้ออกไป ทำให้ลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ ด้านจิตใจ อารมณ์ การเล่นเกมจะช่วยให้เด็กได้แสดงออก ในการเล่นลักษณะต่างๆ ทำให้คลายความรู้สึกเขินอาย ขจัดความเครียดในการเรียนให้หายไป และช่วยให้ เด็กปรับอารมณ์ของตนเองได้เป็นอย่างดีเด็กได้ตื่นตัวรู้จักค้นคว้าแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
3 ผู้วิจัยจึงนำรูปแบบการเรียนแบบเกมการศึกษามาใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนกับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนศรีขวัญเมือง จะทำให้ผู้เรียนมีทักษะในการปฏิบัติในรายวิชานาฏศิลป์เรื่อง นาฏยศัพท์ เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาการเรียนนาฏยศัพท์ ของนาฏศิลป์ไทย หลังการจัดการเรียนการสอน โดยใช้วิธีแบบ เกมการศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้วิธีแบบเกมการศึกษา สมมุติฐานของการวิจัย 1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยวิธีการสอนแบบเกมการศึกษามีทักษะปฏิบัติ นาฏยศัพท์ ของนาฏศิลป์ไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยวิธีการสอนแบบเกมการศึกษา มีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ขอบเขตของการวิจัย 1. ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนศรีขวัญเมือง ตำบลศรีสุทโธ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานีปีการศึกษา 2566 จำนวนนักเรียน 1 ห้อง รวม 16 คน 2. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนศรีขวัญเมือง ตำบลศรีสุทโธ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานีปีการศึกษา 2566 จำนวนนักเรียน 1 ห้อง รวม 16 คน 3. การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ 1 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา ดังนี้ 1. ตัวแปรอิสระ ได้แก่ วิธีการสอนแบบเกมการศึกษา เรื่องนาฏยศัพท์ ของนาฏศิลป์ไทย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
4 2. ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบเกม การศึกษาเรื่องนาฏยศัพท์ ของนาฏศิลป์ไทยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นิยามศัพท์เฉพาะ นาฏยศัพท์หมายถึง ศัพท์ที่ใช้เกี่ยวกับลักษณะท่ารำ ที่ใช้ในการฝึกหัดเพื่อแสดงโขน ละคร เป็นคำที่ใช้ในวงการนาฏศิลป์ไทย สามารถสื่อความหมายกันได้ทุกฝ่ายในการแสดงต่างๆ “นาฏย” หมายถึง เกี่ยวกับการฟ้อนรำ เกี่ยวกับการแสดงละคร “ศัพท์” หมายถึง เสียง คำ คำยากที่ต้องแปล เรื่อง เมื่อนำคำสองคำมารวมกัน ทำให้ได้ความหมายขึ้นมาในเรื่องของการแสดงนาฏศิลป์ไทยนั้น ไม่ว่าจะเป็น การแสดงโขน ละคร หรือระบำเบ็ดเตล็ดต่างๆ การเคลื่อนไหว ลีลา ท่าทางต่างๆที่แสดงออกมานั้น ล้วน แต่มีความหมายเฉพาะ ซึ่งหากผู้แสดงได้ศึกษาในเรื่องของนาฏยศัพท์ย่อมส่งผลให้มีความเข้าใจในการ แสดงนั้นมากขึ้น และผลงานการแสดง ก็จะออกมาสมบูรณ์แบบนั่นเอง ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เข้าใจในท่านาฏยศัพท์และมีทักษะในการปฏิบัติ ท่านาฏย ศัพท์ของนาฏศิลป์ไทยได้ 2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่านาฏยศัพท์ของนาฏศิลป์ไทยสู กว่าก่อนเรียน กรอบแนวความคิด ตัวแปรต้น การเรียนการสอน แบบเกมส์การศึกษา ตัวแปรตาม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นาฏศิลป์ที่สูงขึ้น วิธีการศึกษา สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนที่ไม่ชอบการปฏิบัติท่าทางนาฏยศัพท์ในการเข้าเรียน และ สอบถามจากกลุ่มเพื่อนของนักเรียนในห้องเรียนเพื่อที่จะนำไปหาวิธีการแก้ไขได้ตรงจุด
5 ผลการศึกษา ผลการวิเคราะห์ข้อมูล บทเรียน เดี่ยว แบบเกมการศึกษา สรุปผล การปฏิบัติท่านาฏย ศัพท์ ไม่มีความสนใจ และไม่อยากเข้าเรียน ให้ความสนใจและ ปฏิบัติตามและให้ความ สนใจมากขึ้น การใช้เกมการศึกษา ได้ผลสำเร็จ อภิปรายผลการวิจัย สรุปผลการวิจัย 1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง นาฏยศัพท์ของ นาฏศิลป์ไทย หลังจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบ การจัดการเรียนการสอนแบบเกมการศึกษา ไม่น้อย กว่าร้อยละ 70 ( % = 89.45) 2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชานาฏศิลป์ เรื่อง นาฏยศัพท์ของ นาฏศิลป์ไทย หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบเกมการศึกษา ( X = 17.89, S.D. = 1.70) สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัด การเรียนการสอนแบบเกมการศึกษา ( X = 8.85, S.D. = 2.38) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กิตติกรรมประกาศ งานวิจัยในชั้นเรียนเรื่อง การพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏยศัพท์ของนาฏศิลป์ไทย ด้วยการเรียนแบบ เกมการศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนศรีขวัญเมือง อำเภอบ้านดุง อุดรธานี สำเร็จ ลุล่วงได้ด้วยความกรุณา ให้คำปรึกษา แนะนำอย่างดี จากอาจารย์ที่ปรึกษา ดร.จิราพรรณ เอี่ยมแก้ว และ นางสาวอรวรรณ วิเชียรเครือ คุณครูพี่เลี้ยงที่ให้คำปรึกษาแนะนำอ่านและตรวจแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ตลอดจนให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์ และดูแลให้กำลังใจแก่ผู้วิจัยด้วยความเอาใจใส่อย่างดีเสมอมา ผู้วิจัย รู้สึกซาบซึ้งในความกรุณา และขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้
6 บรรณานุกรม กิ่งกาญจน์ สิรสุคนธ์. (2550). รูบริคหรือรูบริคการให้คะแนน. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศไทย. กมลรัตน์หล้าสุวงษ์. (2524). จิตวิทยาการศึกษา. กรุงเทพฯ: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร วิโรฒ ประสานมิตร.กรมวิชาการ. (2545). หลักการพื้นฐานการสอนระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: ของซิมพ์ซัน. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี). ชาตรีเกิดธรรม.(2545). เทคนิคการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ.กรุงเทพฯ: สถาพรบุคส์. ชุติกาญจน์รุ่งเรือง.(2552).การเปรียบเทียบความรู้ทักษะปฏิบัติและความคิดสร้างสรรค์ วิชา วสันต์อติทรัพย์“แนวคิดของการจัดการสอนด้วยคอมพิวเตอร์” วารสารวิทยบริการ สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์สงขลา 2538 หน้า 52 สมนึกภัททิยธนี.(2546).การวัดผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์. .(2549).การวัดผลการศึกษา. กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์. สมพงษ์สิงหะพล. (2543). รูปแบบการสอน. นครราชสีมา: สถาบันราชภัฏนครราชสีมา. สมศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์. (2544). เทคนิคการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช. ส.วาสนาประวาลพฤกษ์. (2537). การวัดผลการศึกษา. กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ. สมชาย สุทธิพันธุ์“ผลการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนจาก บทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย” วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต(เทคโนโลยีทางการศึกษา) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บัณฑิตวิทยาลัย 2542 สถาบันส่งเสริมการสอนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกรุงเทพฯ 2536 สุพล วังสินธ์. (2536). การจัดทำแผนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ. สารพัฒนาหลักสูตร. 12(114): 5; เมษายน – พฤษภาคม. ผู้เรียนเป็นสำคัญ. กรุงเทพฯ: พัฒนาศึกษา. ไสว ฟักขาว.(2542). การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ: เอมพันธ์. อมรา กล่ำเจริญ. (2535). วิธีสอนนาฏศิลป์. กรุงเทพฯ: โอ.เอส.พริ้นติ้งเฮ้าส์. อรวรรณ บรรจงศิลป์.(2545). การใช้กิจกรรมที่เน้นกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อการเพิ่มระดับ แรงจูงใจภายในของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์ มหาบัณฑิตสาขาประถมศึกษา, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่). อุษา สบฤกษ์. (2536). การศึกษาพฤติกรรมการสอนนาฏศิลป์ไทยในวิทยาลัยนาฏศิลป์
7 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).. (2545). การศึกษาพฤติกรรมการสอน นาฏศิลป์ไทยในวิทยาลัยนาฏศิลป์.(วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (อุดมศึกษา), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย). บุญเตือน ลาไวย. (2547). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนนาฏยสรรค์ที่ส่งเสริมความคิด สร้างสรรค์ทางนาฏศิลป์ของผู้เรียนนาฏศิลป์ไทยในระดับอุดมศึกษา . (วิทยานิพนธ์ครุศาสตร ดุษฎีบัณฑิต (อุดมศึกษา), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).