สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศกึ ษำพังงำ
สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขัน้ พน้ื ฐำน กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร
คำนำ
โครงงานเล่มน้ีจัดทำขึ้นเพ่ือปรับเปล่ียนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนให้มีความรอบคอบและ
รับผิดชอบต่องานท่ีได้รับมอบหมาย ตลอดจนมีความเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ต่อเพ่ือนและบุคคลต่าง ๆ ในสังคม
โดยได้ดำเนินโครงงานจากการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดข้ึนในห้องเรียนของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปี
การศึกษา 2563 ร่วมกับครูประจำชั้น ซ่ึงได้จัดทำข้อมูลในหัวข้อต่าง ๆ ประกอบด้วย การวิเคราะห์สภาพ
ปัญหาสาเหตุของปัญหา วัตถุประสงค์ เป้าของการแก้ปัญหา วิธีการแก้ปัญหา หลักธรรม/พระราชดำรัส/
พระราชดำร/ิ คำสอนคณุ ธรรม/พฤติกรรมบ่งชี้ ตัวชว้ี ัดและการประเมินผล
ในการดำเนินโครงงานให้ประสบความสำเร็จ ท้ังนี้ขอขอบพระคุณคณะผู้เกี่ยวข้องที่มีส่วนร่วมในการ
ดำเนินโครงงาน ซ่ึงได้ทำการรวบรวมเอกสารรายงานผลการดำเนินโครงงานคุณธรรมไว้เป็นรูป เล่ม
เพ่อื ใช้รายงานผลการดำเนนิ งาน และเพอ่ื เปน็ ประโยชนใ์ นดา้ นการเผยแพรส่ าระความรแู้ กผ่ ู้ท่สี นใจต่อไป
โสรญา ฉิมฤทธิ์ และ คณะ
สารบัญ หนา้
ก
คำนำ ข
สารบญั 1
ชื่อโครงงาน 1
ความสำคญั ของปัญหา 2
วตั ถุประสงค์ 2
กลมุ่ เป้าหมาย 2
แผนการดำเนนิ งานโครงการ 3
หลักธรรม/พระราชดำรัส/พระราชดำริ/คำสอนท่ีนำมาใช้ 4
ความเชื่อมโยงส่คู ุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน 4
วิธีการวัดและประเมนิ ผล 4
ผลทีค่ าดว่าจะไดร้ ับ 4
ทีป่ รกึ ษาโครงงานคุณธรรม 5
ภาคผนวก 6
13
- รปู ภาพการดำเนินโครงงาน
- สรปุ ผลการดำเนินโครงงาน
โครงงานคณุ ธรรม
โรงเรยี นบา้ นคอกช้าง ตำบลบางเหรียง อำเภอทับปดุ จังหวัดพังงา 82180
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพงั งา
*****************************************************************
๑. ชือ่ โครงงานคณุ ธรรม
ชื่อภาษาไทย เพือ่ นสอนเพ่ือน
ชอื่ ภาษาอังกฤษ Friend Itends Me.
๒. ความสำคญั ของปัญหา
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีการลอกการบ้านกันเพราะแต่ละคนถนัดแต่ละวิชาต่างกัน ไม่เข้าใจในวิชาน้ันๆ
และขาดความซื่อสัตย์สุจริตในการเรียนทำให้เกิดการลอกกันในเกือบทุกวิชาเพราะนักเรียนแต่ละคนไม่เข้าใจในวิชาที่ตนเอง
ไม่ถนัด และทำไม่เป็นเมื่อกลับบ้านไปก็ไม่สามารถให้ผู้ปกคอรงสอนการบ้านได้ แต่เมื่อถึงเวลากำหนดต้องส่งครู จึงหาวิธีที่
จะต้องทำกฎกติกาคือ ต้องส่งการบ้านจึงใช้วิธีที่สามารถส่งการบ้านได้คือ การลอกของเพ่ือนที่สามารถทำการบ้านวิชาน้ัน
ได้ ด้วยเหตุน้ีจึงเห็นว่า การให้เพ่ือนในห้องได้สอนกันในวิชาที่ตนถนัดจะสามารถทำให้นักเรียนที่ไม่เข้าใจวิชา นั้น ๆ
เกิดความเข้าใจเนื้อหา และเกดิ ความภาคภมู ิใจในตนเอง มคี วามซอ่ื สัตยส์ จุ รติ และเออ้ื เฟือ้ เผอ่ื แผก่ ันในห้องเรียน
ความเปน็ มา
“เพื่อนช่วยเพื่อน” (Peer Assist) เป็นเครื่องมือที่ได้รับการพัฒนาข้ึนใช้คร้ังแรกท่ีบริษัท BP-Amoco
ซ่ึงเป็น บริษัทนำ้ มันยักษ์ใหญ่ของประเทศอังกฤษ โดยการสร้างให้เกิดกลไกการเรียนรู้ประสบการณ์ผู้อ่ืน
ซึ่งเป็นเพ่ือนร่วม อุดมการณ์หรือร่วมวิชาชีพ (peers) ก่อนที่จะเร่ิมดำเนินกิจกรรมหรือโครงการใดๆ
ทงั้ นี้ความหมายของ “เพอ่ื นช่วย เพือ่ น” จะเก่ยี วขอ้ งกบั
- การประชุมหรือการปฏิบัติการร่วมกันโดยมีผู้ท่ีได้รับเชิญจากทีมภายนอก หรือทีมอ่ืน (ทีมเยือน)
เพ่ื อมาแบ่ งป ัน ป ระสบ การณ์ ความรู้กับ ที มเจ้าบ้ าน (ที ม เห ย้า) ที่ เป็ น ผู้ร้องขอควา มช่วยเห ลือ -
เครอ่ื งมือสำหรบั แบง่ ปน๎ ประสบการณ์ ความเข้าใจ ความรู้ ในเรอ่ื งตา่ งๆ
- กลไกสำหรับแลกเปลย่ี นความรูผ้ ่านการเชอื่ มโยงติดตอ่ ระหวา่ งบุคคลสำหรับข้อดีของการทำ Peer Assist
นัน้ ไดแ้ ก่
-- เป็นกลไกการเรยี นรู้กอ่ นลงมือทำกจิ กรรม (Learning Before Doing)
ผ่านประสบการณ์ผู้อ่ืนเพ่ือให้รู้ว่าใครรู้อะไร และไม่ท ำผิดพลาดซ้ำในสิ่งท่ีเคยมีผู้ทำผิดพลาด
ตลอดจนเรียนลัดวิธีการทำงานต่าง ๆ ทีเ่ ราอาจไม่เคยรู้มาก่อนจากประสบการณ์ของทมี ผู้ช่วยภายนอก
-- ช่วยให้ทีมเจ้าบ้านได้ความช่วยเหลือ ความคิดเห็น และมุมมองจากทีมผู้ช่วยภายนอก
ซึง่ อาจนำไปสู่ แนวทางในการแก้ปญั หาหรือการทำงานใหม่ๆ
๓. วัตถุประสงค์
๓.๑ เพื่อใหเ้ พ่ือนไดช้ ว่ ยเหลอื กนั ในแตล่ ะวชิ า
๓.๒ เพอ่ื ให้เพื่อนได้เข้าใจวิชาทเี่ รียน
๓.๓ เพอื่ ใหเ้ พ่ือนไดท้ ำการบ้านดว้ ยตนเอง มีความภาคภูมิใจในตนเอง
๔. กลุม่ เป้าหมาย
๔.๑ เชงิ ปรมิ าณ
- นักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ โรงเรียนบา้ นคอกชา้ ง จำนวน 19 คน
๔.๒ เชงิ คณุ ภาพ
- นักเรียนเอื้อเฟ้อื เผื่อแผช่ ว่ ยเหลือกันและมคี วามซอ่ื สตั ย์สุจรติ
๕. แผนการดำเนนิ งานโครงการ
๕.๑ วธิ กี ารดำเนนงาน
ที่ ช่อื กจิ กรรม วิธีการดำเนินงาน
1 เพอ่ื นเขา้ ใจเพือ่ น ๑. ประชมุ ปรึกษาหารือ และแบ่งกลุ่มเพอ่ื นออกเป็น 2 กลุ่ม
๑.๑ กล่มุ ท่ีถนดั วิชาการ แบง่ เป็นวิชาภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย,
สงั คมศึกษา
๑.๒ กลมุ่ ท่ถี นัดส่งเสรมิ วิชาการ แบ่งเปน็ วิชาพลศึกษา, เกษตร,
การงานอาชีพ, ศิลปะและดนตรี
๒. คดั เลือกนกั เรียนแกนนำในวิชานั้น โดยเป็นแกนนำอธิบาย
ในแตล่ ะวิชาท่ีตนถนัดใหเ้ พ่ือนเข้าใจ ช่วยเหลือกัน
๓. แจ้งจดุ ประสงคข์ องโครงการเนน้ ยำ้ ความซ่ือสัตย์สุจริตไม่
ลอกการบ้านเพื่อน
๒ กจิ กรรมเพอ่ื นสอนเพ่ือนย้ำ ๑. แจง้ วัตถุประสงคก์ ารร่วมกนั ในการวางแผนรบั ชมส่อื
เตอื น คุณธรรม ออนไลน์วิชาตา่ งๆ
๒. จดั ปฏิทนิ การสอนของนักเรยี นท่ใี หเ้ พ่ือนสอนเพ่ือนใน คาบพัก
เทย่ี งของทุกวันพธุ และพฤหัสบดี และช่องทางการเรียนรผู้ า่ นสื่อตา่ งๆ
และสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรมในด้านความ
ซ่อื สตั ยส์ จุ ริตตอ่ ต้านการทจุ ริตทุกรูปแบบ
๓. ประเมินผลการดำเนนิ การจัดกจิ กรรมโดยมแี บบทดสอบ
ทางการเรียน
๕.๒ ปฏิทนิ การดำเนนงาน
ที่ กิจกรรมดำเนนิ งาน ระยะเวลาดำเนินงาน หมายเหตุ
๑. แบ่งกลมุ่ นักเรนี ท่ีมีความสามรถทางการเรียนออกเปน็ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ –
2 กล่มุ กลมุ่ แรกคือ กลุ่มถนัดวิชาการ กลุ่มสองคือ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔
กลุม่ ถนัดส่งเสริมวิชาการ
๒. การจดั ปฏิทินการสอนเพ่ือน ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ –
ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ได้สอน เพือ่ นในคาบวา่ ง ๓๑ มนี าคม ๒๕๖๔
- กำหนดวนั เวลาในการสอน
- กำหนดการเรียนรูผ้ ่านส่ือ
๓ ประเมนิ ผลการจดั กจิ กรรมโดยมแี บบ ๒๓-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔
- วัดผลทดสอบทางการเรียน
๕.๓ งบประมาณ ( - บาท) -
แหลง่ งบประมาณ
๖. หลักธรรม/พระราชดำรัส/พระราชดำร/ิ คำสอนทนี่ ำมาใช้ : หลักธรรมสังคหวัตถุ ๔
อธิบายหลกั ธรรม/พระราชดำรสั /พระราชดำร/ิ คำสอนที่นำมาใช้
สังคหวัตถุ แปลว่า ธรรมทเี่ ปน็ ท่ตี ง้ั แห่งการสงเคราะหก์ นั , ธรรมเปน็ เครอ่ื งยดึ เหน่ยี วน้ำใจกัน หมายถงึ
หลักการ ครองใจคน, หลักยดึ เหนยี่ วใจกนั ไว้, วธิ ีทำให้คนรกั , หลกั สงั คมสงเคราะห์
ซ่ึงเปน็ เครื่องประสานใจและเหนีย่ วร้ังใจคนให้ เป็นอนั หนึง่ อนั เดียวกนั ได้ และทำ
ใหอ้ ยกู่ ันด้วยความรกั ความปรารถนาดตี อ่ กนั เหมือนล่มิ สลักรถท่ีตรงึ ตัวรถไว้มใิ หช้ ้นิ ส่วน กระจายไป ทำ
ให้รถแลน่ ไปได้ตามท่ีต้องการ
สังคหวัตถมุ สี ่ปี ระการ คือ
1. ทาน การให้ การเสียสละ การแบง่ ปันเพอ่ื ประโยชนแ์ ก่คนอ่นื
ชว่ ยปลูกฝงั ให้เป็นคนท่ไี มเ่ ห็นแกต่ วั แบ่งปนั กัน (แบ่งปนั ไปมา)
2. ปิยะวาจา การพดู จาดว้ ยถ้อยคำไพเราะออ่ นหวาน จริงใจ ไม่พูดหยาบคายก้าวรา้ ว
พดู ในส่ิงทีเ่ ป็นประโยชน์ เหมาะ กบั กาลเทศะ พดู ดีตอ่ กัน (พูดจาจบั ใจ)
3. อตั ถจริยา ชว่ ยเหลอื กนั (ช่วยกิจกันไป)
4. สมานัตตตา การเป็นผมู้ คี วามสม่ำเสมอ โดยประพฤติตวั ใหม้ คี วามเสมอตน้ เสมอปลาย
วางตัวดตี อ่ กนั (นิสยั เป็น กนั เอง)
๗.ความเชื่อมโยงสคู่ ุณธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรยี น
๗.๑ คุณธรรมเปา้ หมาย
นักเรียนมคี วามใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น มคี วามซ่ือสตั ย์สุจรติ
๗.๒ พฤตกิ รรมบ่งช้เี ชงิ บวก
นักเรยี นรอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไปมีการไม่ลอกการบ้านเพื่อนหรอื ไมท่ า
๘.วิธกี ารวดั และประเมินผล
๘.๑ ตวั ชว้ี ดั
นกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ รอ้ ยละ ๘๐ ไม่ลอกการบ้านกนั และมีพฤติกรรมใฝ่เรยี นรู้
๘.๒ วธิ ีการประเมิน
เพอ่ื นสอนเพ่ือน และมีนักเรียนแกนนำคอยสงั เกต บันทกึ
๘.๓ เครอื่ งมอื ในการประเมนิ
แบบสงั เกตและแบบสงั เกตพฤตกิ รรมเพือ่ นในชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓
๘.๔ ชว่ งเวลาในการประเมนิ
ตลอดภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓
๙.ผลที่คาดว่าจะไดร้ ับ
๙.๑ นกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ โรงเรียนบา้ นคอกช้าง มีความเขา้ ใจในการเรียนการสอนมากข้นึ
๙.๒ นกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านคอกชา้ ง มีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นสูงข้ึนและมีผลการเรยี นดีขึ้น
๙.๓ นกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านคอกชา้ ง มีความสามัคคีกันในหมคู่ ณะ
๙.๔ นกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ โรงเรยี นบ้านคอกช้าง ไดช้ ่วยเหลือซึง่ กันและกนั
๑๐.ท่ปี รกึ ษาโครงงานคุณธรรม ครูทป่ี รกึ ษาช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรยี นบ้านคอกช้าง
10.1 นายอดสิ ิทธิ์ โกยกอบกาญจน์ ครทู ่ปี รกึ ษาโครงการโรงเรียนคณุ ธรรม โรงเรยี นบ้านคอกชา้ ง
10.2 นางสาวสภุ าพร เสมอภาค
ภาคผนวก
( รูปภาพประกอบการดำเนินโครงงาน )
รปู ภาพประกอบการดำเนินโครงงาน
รปู ภาพประกอบการดำเนินโครงงาน
รปู ภาพประกอบการดำเนินโครงงาน
รปู ภาพประกอบการดำเนินโครงงาน
รปู ภาพประกอบการดำเนินโครงงาน
รปู ภาพประกอบการดำเนินโครงงาน
รปู ภาพประกอบการดำเนินโครงงาน
สรุปโครงงานคุณธรรม
เรอ่ื ง เพ่อื นสอนเพื่อน : Friend Itends Me.
โรงเรยี นบา้ นคอกชา้ ง สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพังงา
***************************
หลักธรรม/พระราชดำรสั /พระราชดำริ/คำสอนท่นี ำมาใช้
สงั คหวตั ถุ แปลว่า ธรรมทเ่ี ป็นท่ตี ้งั แห่งการสงเคราะหก์ นั , ธรรมเป็นเครื่องยดึ เหนย่ี วน้ำใจกัน หมายถงึ หลักการ
ครองใจคน, หลักยึดเหนย่ี วใจกนั ไว,้ วธิ ีทำให้คนรกั , หลกั สังคมสงเคราะห์ ซึ่งเปน็ เคร่ืองประสานใจและเหนยี่ วรัง้ ใจคนให้
เป็นอนั หน่ึงอนั เดยี วกนั ได้ และทำให้อยกู่ นั ด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกนั เหมือนล่ิมสลักรถที่ตรงึ ตวั รถไวม้ ิให้ชน้ิ ส่วน
กระจายไป ทำให้รถแลน่ ไปได้ตามท่ตี ้องการ
สังคหวตั ถุมสี ปี่ ระการ คือ
1. ทาน การให้ การเสียสละ การแบ่งปนั เพอื่ ประโยชนแ์ ก่คนอ่ืน ช่วยปลูกฝังใหเ้ ปน็ คนท่ไี ม่เห็นแก่ตัว แบ่งปันกนั
(แบ่งปันไปมา)
2. ปิยะวาจา การพดู จาด้วยถ้อยคำไพเราะอ่อนหวาน จรงิ ใจ ไม่พดู หยาบคายก้าวร้าว พูดในสิง่ ทเี่ ป็นประโยชน์
เหมาะ กบั กาลเทศะ พูดดีต่อกัน (พูดจาจับใจ)
3. อตั ถจรยิ า ช่วยเหลอื กนั (ช่วยกจิ กันไป)
4. สมานัตตตา การเปน็ ผู้มีความสม่ำเสมอ โดยประพฤตติ วั ให้มีความเสมอต้นเสมอปลาย วางตัวดตี ่อกัน (นสิ ัยเปน็
กนั เอง)
พระราชดำรสั
“ต่างคนตา่ งมีหน้าที่ แต่ก็ไม่ไดห้ มายความวา่ ทำเฉพาะหน้าทนี่ ัน้ เพราะวา่ ถา้ คนใดทำหน้าท่เี ฉพาะของตัว โดยไม่
มองไม่แลคนอน่ื งานก็ดำเนนิ ไปไม่ได้ เพราะเหตวุ ่างานทุกงานจะตอ้ งพาดพิงกนั จะต้องเกี่ยวโยงกนั ฉะน้ันแต่ละคน จะตอ้ งมี
ความรถู้ ึงงานของผอู้ ่นื แล้วชว่ ยกันทำ”
พระราชดำรัส พระราชทานแก่ คณะบคุ คลตา่ งๆ ทเ่ี ขา้ เฝ้าฯ เนอ่ื งในโอกาสวันเฉลมิ พระชนมพรรษา ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๓
ประเดน็ ปญั หาหลกั
- นกั เรยี นลอกการบ้านกนั ไม่เข้าใจในวชิ าเรยี นทีไ่ ม่ถนัด และขาดความซ่ือสัตยส์ จุ รติ
กลมุ่ เปา้ หมาย
- นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรียนบา้ นคอกช้าง จำนวน 19 คน.
กิจกรรมเดน่
- นักเรยี นทำการบ้านดว้ ยตนเองมากข้นึ และมนี ้ำใจช่วยเหลือกนั ภายในห้องเรียน
ผลที่เกดิ ขึ้น
- มีความเข้าใจในการเรยี นการสอนมากข้นึ มผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นสูงข้ึนและมผี ลการเรียนดีขึ้น นักเรยี นมีความ
สามัคคีกันในหมู่คณะ และได้ช่วยเหลอื ซึง่ กันและกัน
ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ
- นกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 โรงเรยี นบา้ นคอกช้าง จำนวน 19 คน
ท่ปี รกึ ษา ครูที่ปรกึ ษาชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรียนบา้ นคอกช้าง
- นายอดิสิทธิ์ โกยกอบกาญจน์ ครทู ี่ปรกึ ษาโครงการโรงเรียนคุณธรรม โรงเรยี นบา้ นคอกชา้ ง
- นางสาวสภุ าพร เสมอภาค
(ลงช่ือ)...............................................หัวหน้าห้อง
นางสาวโสรญา ฉิมฤทธ์ิ
ผูร้ ับผดิ ชอบโครงงาน
(ลงชื่อ).............................................................ครู
นายอดิสทิ ธ์ิ โกยกอบกาญจน์
ครูท่ีปรกึ ษาโครงงาน
โครงงานคุณธรรม
เพอ่ื นชว ยเพอื่ น : Friend Intends Me
ชน้ั มธั ยมศึกษาปท่ี ๓