7
ใบความรูท้ ่ี 2
เรอื่ ง การตงั้ สมมตฐิ าน
1. สมมตฐิ าน หมายถึง ความเช่ือของบคุ คลใดบคุ คลหน่ึง หรือ ของกลุ่มใดกลุ่มหน่ึงหรืออาจกล่าวไดว้ า่
สมมตฐิ านเป็นสิ่งท่ีบุคคลหรือกล่มุ บุคคลคาดวา่ จะเกิดข้นึ โดยทีค่ วามเช่ือหรือส่ิงทคี่ าดน้นั จะเป็ นจริงหรือไม่
ก็ได้ เช่น
-เจา้ ของรา้ นคา้ ปลีกคาดวา่ จะมีกาไรสุทธิจากการขายสินคา้ ต่อปี ไม่ต่ากวา่ 500,000 บาท
-หวั หนา้ พรรคการเมือง A …..คาดวา่ การเลือกต้งั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร ในคราวหนา้ พรรคอ่ืนๆ
จะไดท้ ่ีนง่ั ในสภาต่ากวา่ 50% ของท้งั หมด
-คาดวา่ รายไดเ้ ฉลี่ยตอ่ เดือนของประชากรในจงั หวดั พษิ ณุโลกเท่ากบั 15,000 บาท
2. ความแตกต่างของสมมตฐิ านกับการพยากรณ์
การต้งั สมมตฐิ าน คอื การทานายผลล่วงหนา้ โดยไม่มีหรือไม่ทราบ ความสมั พนั ธเ์ ก่ียวขอ้ งระหวา่ ง
ขอ้ มูล
การพยากรณ์ คือ การทานายผลล่วงหนา้ โดยการมีหรือทราบความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ มูลทเ่ี กี่ยวขอ้ ง
ในการทานายล่วงหนา้
3. หลักการต้ังสมมตุ ฐิ าน
1) สมมตฐิ านตอ้ งเป็นขอ้ ความทีบ่ อกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ตวั แปรตน้ กบั ตวั แปรตาม
2) ในสถานการณ์หน่ึง ๆ อาจต้งั หน่ึงสมมติฐานหรือหลายสมมตฐิ านกไ็ ด้ สมมติฐานท่ตี ้งั ข้ึนอาจจะ
ถูกหรือผดิ กไ็ ด้ ดงั น้นั จาเป็ นตอ้ งมีการทดลองเพอ่ื ตรวจสอบวา่ สมมตฐิ านท่ตี ้งั ข้ึนน้นั เป็นที่ยอมรับหรือไม่
ซ่ึงจะทราบภายหลงั จากการทดลองหาคาตอบแลว้
ตวั อยา่ งการต้งั สมมติฐาน
อะไรมีผลตอ่ ความเร็วรถ (ความเร็วรถข้นึ อยกู่ บั ปัจจยั อะไรบา้ ง)
สมมติวา่ นกั เรียนเลือกขนาดของยางรถยนต์ เป็นตวั แปรท่ตี อ้ งการทดสอบ ก็อาจต้งั สมมตฐิ านไดว้ า่
เม่ือขนาดของยางรถยนตใ์ หญข่ ้นึ ความเร็วของรถยนตจ์ ะลดลง
(ตวั แปรตน้ : ขนาดของยางรถยนต)์ (ตวั แปรตาม : ความเร็วของรถยนต)์
8
ใบความรู้ที่ 2
เร่ือง การตงั้ สมมตฐิ าน
4. การต้งั สมมตฐิ านทีด่ ี ควรมีลกั ษณะดงั น้ี
1) เป็ นสมมตฐิ านที่เขา้ ใจง่าย มกั นิยมใชว้ ลี “ถา้ …ดงั น้นั ”
2) เป็ นสมมติฐานทแ่ี นะลู่ทางที่จะตรวจสอบได้
3) เป็นสมมตฐิ านทีต่ รวจไดโ้ ดยการทดลอง
4) เป็ นสมมติฐานท่สี อดคลอ้ งและอยใู่ นขอบเขตขอ้ เทจ็ จริงทีไ่ ดจ้ ากการสงั เกตและสมั พนั ธก์ บั
ปัญหาทตี่ ้งั ไว้
สมมติฐานที่เคยยอมรับอาจลม้ เลิกไดถ้ า้ มีขอ้ มูลจากการทดลองใหม่ๆ มาลบลา้ ง แตก่ ม็ ีบาง
สมมตฐิ านที่ไม่มีขอ้ มูลจากการทดลองมาคดั คา้ นทาใหส้ มมติฐานเหล่าน้นั เป็นท่ียอมรบั วา่ ถูกตอ้ ง เช่น
สมมติฐานของเมนเดลเกี่ยวกบั หน่วยกรรมพนั ธุ์ ซ่ึงเปล่ียนกฎการแยกตวั ของยนี หรือสมมตฐิ านของอโวกา
โดรซ่ึงเปลี่ยนเป็ นกฎของอโวกาโดร
ตวั อย่างการต้งั สมมติฐาน
ข้อสงสัย/ข้อสังเกต/ปัญหา “ทาไมหญา้ บริเวณใตต้ น้ ไมจ้ ึงไม่งอกงามเทา่ หญา้ ที่อยกู่ ลางแจง้ ”
ประเด็นปัญหา “แสงแดดมีส่วนเก่ียวขอ้ งกบั การเจริญงอกงามของตน้ หญา้ หรือไม่”
สมมตฐิ าน “ถ้าแสงแดดมีส่วนเก่ียวขอ้ งกบั การเจริญงอกงามของตน้ หญา้ ดงั น้ัน
“ตน้ หญา้ บริเวณทไี่ ม่ไดร้ ับแสงแดดจะไม่งอกงามหรือตายไป”
หรือ “ถ้าแสงแดดมีส่วนเกี่ยวขอ้ งกบั การเจริญงอกงามของตน้ หญา้
ดงั น้ัน
“ตน้ หญา้ บริเวณท่ไี ดร้ ับแสงแดดจะเจริญงอกงาม”
ข้อสงสัย/ข้อสังเกต/ปัญหา “ความเร็วรถข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั อะไรบา้ ง”
ประเด็นปัญหา “ขนาดของยางรถยนตม์ ีผลตอ่ ความเร็วของรถยนตห์ รือไม่”
สมมตฐิ าน “เมื่อขนาดของยางรถยนตใ์ หญข่ ้ึน ความเร็วของรถยนตจ์ ะลดลง”
ข้อสงสัย/ข้อสังเกต/ปัญหา “นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2/…..ชอบอ่านหนงั สือประเภทใด”
9
ใบความรู้ที่ 2
เรอ่ื ง การตงั้ สมมตฐิ าน
ประเดน็ ปัญหา “ศึกษาพฤติกรรมการเลือกอ่านหนงั สือของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี
ที่ ...”
สมมติฐาน
ดังน้ัน “ถา้ นกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี ……. มีนิสยั ชอบเพอ้ ฝัน
“นกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี…..ชอบอ่านหนงั สือนวนิยาย”
(การวิจยั เชิงสารวจไม่ต้องต้งั สมมตฐิ านกไ็ ด้)