ชาวนากับงูเห่า ภาพและเรื่องโดย ด.ช.ชัยมงคล ละม่อม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 โรงเรียนพระพุทธบาทวิทยา
นิทานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่องชาวนากับงูเห่า ซึ่ง นิทานเรื่องนี้มีเนื้อหามาจาก https://baby.kapook.com/view204072.html ผู้จัดทำ ได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำ นิทาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่า สนใจและ ต้องขอขอบคุณ คุณครู วราภรณ์ สลีอ่อน ผู้ให้ความรู้และ แนวทางการศึกษา เพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ผู้จัดทำ หวังว่านิทานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน ทุก ๆ ท่าน ลงชื่อ ด.ช.ชัยมงคล ละม่อม ผู้จัดทำ คำ นำ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในฤดูหนาว ณ กระท่อมเล็กกลางป่ากว้าง ชาวนาวัยชรา คนหนึ่งกำ ลังจะเข้าเมืองเพื่อซื้อเสบียง อาหาร แต่ก่อนเดินทางเขากลับเจอ งูเห่าตัวหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่หน้า น้ บ้านเสีย ก่อน
"นี่คืองูเห่าที่มีพิษร้ายแรงน่ะรึ ? ทำ ไม ถึงนอนไม่ขยับอย่างนี้ล่ะ" ชาวนาพูด พึมพำ กับตัวเอง ก่อนสังเกตเห็นว่า ตามตัวของเจ้างูเห่านั้นมีหยดน้ำ แข็ง เล็ก ๆ เกาะไปทั่ว
"อ๋อ.. ปกติงูไม่ถูกกับอากาศ หนาว ๆ สินะ ช่างน่าสงสาร เสียจริง" แต่ถึงแม้ชาวนา เฒ่าจะรู้สึกเวทนาแค่ไหน ก็ ยังลังเลว่าจะช่วยงูเห่าตัวนี้ไว้ ดีหรือไม่ เพราะกลัวจะเป็น อันตรายต่อตัวเอง
"แต่ฉันคงปล่อยให้เจ้างูตัวนี้ตาย ไปต่อหน้า น้ ต่อตาไม่ได้.. " เมื่อคิดได้ ดังนั้นชาวนาเฒ่าจึงถอดเสื้อคลุม ของตัวเอง เอาไปห่อตัวของงูเห่า อย่างแน่นหนา แล้วอุ้มขึ้นมาไว้ แนบอกหวังให้เจ้างูรู้สึกอบอุ่นมาก ขึ้น
เมื่องูเห่ารู้สึกดีขึ้นจากความอบอุ่นที่ได้รับ พละกำ ลังก็กลับคืนมาในที่สุด แต่ทันทีที่เห็น ชาวนามันก็เกิดอาการตกใจ แล้วฉกไปยัง แขนทันทีตามสัญชาตญาณก่อนเลื้อยหนี เข้าป่าไป ชาวนาเฒ่าพยายามห้ามเลือดตัว เองให้หยุดไหล ทว่าพิษร้ายแรงกลับซึม เข้าไปในร่างกายเสียแล้ว หลังจากนั้นไม่ นาน ชาวนาเฒ่าก็สิ้นใจลงอย่างน่าเวทนา..
การรู้จักสงสารและมีจิตใจเมตตาต่อคนอื่นนั้นเป็นเรื่องที่ ดี แต่เด็ก ๆ ควรสังเกตก่อนว่าคนคนนั้นมีนิสัยเป็น อย่างไร ถ้าเป็นคนพาล คนเลว นิสัยไม่ดี ต้องจำ ไว้เลยนะ คะว่าเราไม่ควรข้องเกี่ยวด้วยจะดีที่สุด เพราะเราไม่ สามารถรู้เลยว่าสุดท้ายแล้ว คนเหล่านั้นจะหันกลับมา ทำ ร้ายเราเหมือนที่เจ้างูเห่าทำ กับชาวนาเฒ่าในนิทานหรือ ไม่ เพราะฉะนั้นเด็ก ๆ ต้องเลือกคบหาแต่เพื่อน ๆ ที่มี นิสัยดี น่ารัก รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกันแบบไม่หวังผล ตอบแทน ที่สำ คัญต้องรู้จักหลีกเลี่ยงสังคมที่มีแต่คนที่ ชักชวนให้เราทำ อะไรไม่ดีด้วยนะคะ เพียงเท่านี้ชีวิตของ เราก็ปลอดภัย ไม่ทำ ให้คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงแล้วล่ะครับ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :