The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

service profile ปี 2567 พร้อมส่ง_231106_073619 (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chalermwan, 2023-11-18 02:08:54

service profile ปี 2567 พร้อมส่ง_231106_073619 (1)

service profile ปี 2567 พร้อมส่ง_231106_073619 (1)

51 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 6. ผลลัพธ์: ตัวชี้วัด เป้าหมาย ปีงบประมาณ 2566 1.อุบัติการณ์เลื่อนหลุดของ tracheostomy tube จากต าแหน่งเดิม 0 ครั้ง 0 ครั้ง (n=20) 2.อุบัติการณ์การเกิดแผลกดทับจากเชือกผูกยึด tracheostomy tube 0 ครั้ง 0 ครั้ง (n=20) 3.อัตราความพึงพอใจของผู้ใช้นวัตกรรม > 80% 90% 7. บทเรียนเพื่อการแบ่งปัน: การผูกยึดสาย tracheostomy tube ที่พอเหมาะกับล าคอของผู้ป่วยมีความส าคัญอย่างยิ่งในการป้องกัน การเกิดแผลกดทับที่เกิดจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งการดูแลเรื่องความสะอาดไม่เกิดความสกปรกและ ความอับชื้น เพิ่ความสุขสบายให้กับผู้ป่วยและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดการติดเชื้อได้ 1. เรื่องที่3 ปีงบประมาณ 2565 2. ชื่อผลงาน โครงการพัฒนากระบวนการวางแผนจ าหน่ายผู้ป่วยเพชรรัตน์ 14 A 3. ค าส าคัญ พัฒนา, วางแผนจ าหน่าย 4. ปัญหา เป้าหมาย ปัญหา การวางแผนจ าหน่ายเป็นกระบวนการเตรียมผู้ป่ วยให้พร้อมในการดูแลตนเอง รวมถึงการ เตรียมผู้ดูแล และชุมชนให้พร้อมในการดูแลช่วยเหลือเพื่อดูแลการเจ็บป่วย และพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ปวย อย่างต่อเนื่อง การวางแผนจ าหน่ายมีความจ าเป็นส าหรับผู้ป่ วยใน เพื่อให้ผู้ป่ วยกลับบ้านได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยหากการจ าหน่ายล่าช้า จะท าให้ระยะเวลานอนโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และเกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยรอเตียง ที่ห้องฉุกเฉิน ท าให้การเข้าถึงการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพล่าช้า รวมทั้งโอกาสเกิดภาวะเสี่ยงกับผู้ป่ วย นอกจากนี้ผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาลนานมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาลมากขึ้น และยังส่งผลต่อ สุขภาพจิตของผู้ป่วย และญาติเพิ่มความเครียดและความวิตกกังวล เป้าหมาย ผู้ป่ วยที่รับไว้รักษาภายในหอผู้ป่ วยเพชรรัตน์ 14 A ร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพในการ ก าหนดแผนการดูแล เตรียมความพร้อมผู้ป่วยและญาติเพื่อวางแผนการจ าหน่ายผู้ป่วยตั้งแต่แรกรับลดระยะเวลา ในการพักรักษาในโรงพยาบาล ลดการกลับมารักษาซ ้าด้วยโรคเดิมจาก 5. สาระส าคัญของการพัฒนา การวางแผนการจ าหน่ายมีความจ าเป็นเพื่อให้ผู้ป่ วยกลับบ้านได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่งต้อง อาศัยความร่วมมือของทีมทีมสหสาขาวิชาชีพ โดยเฉพาะแพทย์เจ้าของไข้และพยาบาล ที่ดูแลผู้ป่วยใกล้ชิดต้อง มีการปรึกษาหารือ เพื่อประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการพัฒนาการวางแผนการจ าหน่ายโดย


52 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช การประยุกต์ใช้ “การบริหารประจ าวัน” (Daily management) ท าให้การพูดคุยเรื่องการวางแผนจ าหน่ายผู้ป่วย กลายเป็นกิจวัตร มีการปรับปรุงกระบวนการด าเนินงาน อย่างต่อเนื่อง มีการใช้ case management board ( กระดาน V care ) เป็นการสื่อสารข้อมูลผู้ป่วยเพื่อวางแผนการจ าหน่าย 6. ผลลัพธ์ ตารางแสดงผลลัพธ์โครงการพัฒนากระบวนการวางแผนจ าหน่าย ตัวชี้วัด เป้าหมาย (%) ปี งบประมาณ 2563 2564 2565 2566 อัตราการวางแผนจ าหน่ายผู้ป่วยสามารถ กล้บบ้านก่อนเวลา 12.00 น. ≥ 60 77.8 65.20 54.29 76.10 7. บทเรียนเพื่อการแบ่งปัน 7.1 การสื่อสารแผนการดูแลรักษาระหว่างทีมอย่างต่อเนื่องสม ่าเสมอ ปรับปรุงแผนการจ าหน่ายเป็น ระยะจะช่วยให้การวางแผนการจ าหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 7.2 การวางแผนจ าหน่ายจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วย และญาติ/ผู้ดูแลผู้ป่วย 1. เรื่องที่4 ปี งบประมาณ 2564 2. ชื่อผลงาน พัฒนาการดูแลผู้ป่วยมะเร็งที่เข้ารับยาเคมีบ าบัด 3. ค าส าคัญ ผู้ป่วยมะเร็ง,ยาเคมีบ าบัด 4. ปัญหา เป้าหมาย ปัญหา หอผู้ป่วยเพชรรัตน์ ๑๔A เป็นหอผู้ป่วยที่ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังทางอายุรกรรม และมะเร็งเป็นโรคที่พบ บ่อยอันดับต้นๆ จากสถิติปีงบประมาณ ๒๕๖๓ พบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งที่รักษาด้วยยาเคมีบ าบัดมีจ านวนทั้งสิ้น ๕๓ ราย ซึ่งมี ทั้งผู้ป่วยที่ได้รับยาครั้งแรกและเคยได้รับยาเคมีบ าบัดมาแล้ว แต่ยังพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติ ตัวขณะได้รับยาและการจัดการอาการข้างเคียงภายหลังได้รับยาเคมีบ าบัดเมื่อกลับไปอยู่บ้าน การให้ความรู้ผู้ป่วย ก่อนการ ให้ยาเคมีบ าบัด และการเฝ้าระวังอาการข้างเคียงจากยาเคมีบ าบัดจึงมีความส าคัญอย่างยิ่งส าหรับผู้ป่ วย หากผู้ป่ วยมี ความรู้ที่ถูกต้องจะท าให้ผู้ป่วยและสามารถจัดการกับอาการข้างเคียงที่เกิดจากยาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมและมี คุณภาพชีวิตที่ดี เป้าหมาย เพื่อให้ผู้ป่วยมีความรู้และสามารถจัดการอาการข้างเคียงจากยาเคมีบ าบัดได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 5. สาระส าคัญของการพัฒนา ผู้ป่ วยที่มะเร็งที่เข้ารับยาเคมีบ าบัดครั้งแรก ได้รับความรู้เรื่องการปฏิบัติตัว การจัดการกับอาการ ข้างเคียงจากยาเคมีบ าบัด และมีการติดตามอาการขณะได้รับยาและหลังการจ าหน่าย


53 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 6. ผลลัพธ์ ตารางแสดงผลลัพธ์โครงการ พัฒนาผู้ป่วยมะเร็งที่เข้ารับยาเคมีบ าบัดปีงบประมาณ2566 ตัวชี้วัด เป้าหมาย (%) 2565 2566 1. อัตราผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ที่ได้รับยาเคมีบ าบัดมีคะแนน ความรู้ในการดูแลตนเอง และจัดการกับอาการข้างเคียงผ่าน เกณฑ์ (ร้อยละ100) 100 80 90 2. อัตราผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ที่ได้รับยาเคมีบ าบัดสามารถเฝ้า ระวัง และจัดการกับอาการข้างเคียงได้ด้วยตนเองภายหลัง จ าหน่าย 80 90 90 7.บทเรียนเพื่อการแบ่งปัน เน้นการให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยเพื่อเพิ่มสมรรถนะการดูแลตนเองภายหลังจ าหน่ายโดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับ ยาเคมีบ าบัดเป็นครั้งแรก และนอกจากการติดตามเยี่ยมผู้ป่วยทางโทรศัพท์แล้ว ควรเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยสามารถ โทรศัพท์มาปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อมีปัญหา (Two way communication) 1. เรื่องที่5 ปี งบประมาณ 2563 2. ชื่อผลงาน Vajira QR Code : นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ 3. ค าส าคัญ Vajira QR Code, นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ 4. ปัญหา เป้าหมาย ปัญหา หอผู้ป่วยเพชรรัตน์ 14 A เป็นหอผู้ป่วยอายุรกรรมที่ให้การดูแลผู้ป่วยที่เจ็บป่วยด้วยกลุ่มโรค เรื้อรัง นอกจากการรักษาพยาบาลที่ได้รับขณะอยู่โรงพยาบาลแล้ว ผู้ป่วยต้องได้รับความรู้ในการพัฒนาศักยภาพ การดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมอาการและอาการแสดง ยับยั้งความก้าวหน้าของโรค ลดภาวะแทรกซ้อน จากการเจ็บป่วย ผู้ป่วยจ าเป็นต้องได้รับค าแนะน าในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพพร้อมเอกสารความรู้ เช่น ความรู้เรื่องโรค วิธีการรักษาที่ได้รับ ค าแนะน าการปฏิบัติตัว ในรูปแบบที่เป็นแผ่นพับ หรือคู่มือต่างๆ ซึ่งผู้ป่วยแต่ละรายมีปัญหาการเจ็บป่วยที่ซับซ้อนหลายโรค หลายสภาวะ ท าให้บางครั้งเกิดปัญหาความไม่พร้อม ใช้ของเอกสารแผ่นพับ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งด้านปริมาณ ความสอดคล้องเหมาะสมของเนื้อหากับปัญหาสุขภาพ ของผู้ป่ วย นอกจากนี้เอกสารความรู้บางประเภท มีการบรรยายด้วยภาพประกอบ ซึ่งถ้าต้องการให้มีความ ชัดเจนและสวยงามเหมือนต้นฉบับ ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการจัดพิมพ์ ด้วยเหตุผลดังกล่าว กอปรกับปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีอย่างแพร่หลาย ซึ่งท าให้สามารถเข้าถึง และรับข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว หอผู้ป่วยเพชรรัตน์ 14 A จึงได้จัดท าโครงการภายใต้แนวคิด Green, Lean ในชื่อโครงการ “Vajira QR Code : นวตักรรมสร้างเสริมสุขภาพ” โดยการรวบรวมสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีเนื้อหา ความรู้เกี่ยวกับโรค ภาวการณ์เจ็บป่ วยต่างๆ แนวทางการดูแลรักษา ที่พบบ่อยในหน่วยงาน บรรจุลงใน๑ หน้ากระดาษถ่ายเอกสาร A 4 ซึ่งผู้ป่วยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วผ่านการสแกน QR code ด้วย


54 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช โทรศัพท์มือถือ โดยสามารถเลือกข้อมูลที่ต้องการ และจ าเป็นในการดูแลสุขภาพ โดยนวัตกรรมดังกล่าว จะ จัดเตรียมไว้ภายในห้องผู้ป่วย และสามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้สอดคล้องกับภาวะการเจ็บป่วยของผู้ป่วยแต่ละราย เป้าหมาย เพื่อพัฒนาคุณภาพวิธีการให้ความรู้ในการดูแลตนเองส าหรับผู้ป่วย 5. สาระส าคัญของการพัฒนา 5.1 เข้าถึงข้อมูลความรู้เพื่อการดูแลสุขภาพได้สะดวกและรวดเร็ว 5.2 ประหยัดทรัพยากรในการจัดท าเอกสาร ลดภาวะโลกร้อน 5.3 บุคลากรพยาบาลมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในการน าเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ ในการพัฒนา งานการดูแลผู้ป่วย 6. ผลลัพธ์ (Results) ตารางแสดงอัตราความพึงพอใจของผู้ใช้นวัตกรรม Vajira QR Code ตัวชี้วัด เป้าหมาย (%) ร้อยละ อัตราความพึงพอใจต่อการใช้นวัตกรรม 85 100 7. บทเรียนเพื่อการแบ่งปัน QR code เป็ นบาร์โค๊ด 2 มิติ สามารถน ามาประยุกต์ใช้ในรหัสครุภัณฑ์ แบบสอบถาม และงานการพัฒคุณภาพ ได้หลายรูปแบบ เช่น คู่มือให้ความรู้ 1. เรื่องที่6 ปี งบประมาณ 2562 2. ชื่อผลงาน อุปกรณ์ป้องกันแผลกดทับบริเวณร่องหู 3. ค าส าคัญ แผลกดทับ, ร่องหู 4. ปัญหา เป้าหมาย ปัญหา จากอุบัติการณ์การเกิดแผลกดทับ ปีงบประมาณ 2562แม้จะมีการเฝ้าระวังการเกิดแผลกดทับ ตามแนวทางปฏิบัติแต่ยังคงพบการเกิดแผลกดทับบริเวณร่องหูจากเชือกผูกยึดท่อช่วยหายใจ นอกจากนี้ยังพบการเกิด แผลกดทับจากอุปกรณ์ส าหรับให้ออกซิเจนชนิดต่างๆ ส่งผลกระทบต่อ ผู้ป่ วยท าให้ป่ วยรู้สึกเจ็บบริเวณแผลกดทับ ส่งผลให้ไม่พึงพอใจต่อผู้ป่วยและญาติ ขณะเดียวกันภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สามารถป้องกันได้ หอผู้ป่วยเพชรรัตน์ 14A เล็งเห็นถึงความส าคัญในการป้องกันการเกิดแผลกดทับที่มีสาเหตุจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Device Related Pressure Injury: MDRPI) โดยการใช้ “อุปกรณ์ป้องกันการเกิดแผลกดทับบริเวณร่องหู” เป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับบริเวณร่องหูที่เกิดจากอุปกรณ์ส าหรับให้ออกซิเจน 5. สาระส าคัญของการพัฒนา ผู้ป่วยที่ใส่ท่อหายใจและมีการผูกยึดท่อด้วย hernia tape ต้องรองบริเวณร่องหูทั้งสองข้างด้วย “อุปกรณ์ป้องกันการ เกิดแผลกดทับบริเวณร่องหู”


55 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 6. ผลลัพธ์ ตารางแสดงผลการประเมินการใช้นวัตกรรม “อุปกรณ์ป้องกันการเกิดแผลกดทับบริเวณร่องหู” ตัวชี้วัด เป้าหมาย ปี งบประมาณ 2562 2563 2564 2565 2//// 2566 อัตราความพึงพอใจของผู้ใช้ อุปกรณ์ป้องกันการเกิดแผลกดทับ บริเวณร่องหู ร้อยละ 80 33.33 (N=30 ราย) 82.88 (N=30 ราย) 100% 100% 100% 7. บทเรียนเพื่อการแบ่งปัน ความเข้าใจการเกิดแผลกดทับจากอุปกรณ์การแพทย์ และแนวทางปฏิบัติการป้องกันการเกิดแผลกด ทับจากอุปกรณ์การแพทย์ที่ถูกต้อง ช่วยให้บุคลากรมีความตระหนักในการป้องกันและสามารถอัตราการเกิดแผล กดทับจากอุปกรณ์การแพทย์ได้ และนวัตกรรม “อุปกรณ์ป้องกันการเกิดแผลกดทับบริเวณร่องหู” เป็นสิ่งจ าเป็นที่จะ ช่วยให้การดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 1. เรื่องที่7 ปีงบประมาณ 2561 2. ชื่อผลงาน โครงการพัฒนาการบันทึกทางการพยาบาล 3. ค าส าคัญ พัฒนา, บันทึกทางการพยาบาล 4. ปัญหา เป้าหมาย ปัญหา จากการทบทวนเวชระเบียนของผู้ป่ วยในหอผู้ป่ วยเพชรรัตน์14 A พบว่าในส่วนของ คะแนนการ ประเมินความสมบูรณ์ในการบันทึกทางการพยาบาลต ่ากว่าเกณฑ์ ( ร้อยละ75) ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่า ปัญหาเกิดจากขาดความรู้ความเข้าใจ ในการเขียนข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล FOCUS LIST การวางแผน การพยาบาลไม่ครอบคลุมขาดการประเมินผลที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการพยาบาล นอกจากนี้บุคลากร


56 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช พยาบาลยังขาดทักษะในการบันทึกกิจกรรมในแผนการจ าหน่ายผู้ป่ วยอย่างต่อเนื่องและเพื่อให้สอดคล้อง กับแผนยุทธศาสตร์ของฝ่ายการพยาบาล ปีงบประมาณ 2559-2561 มีการพัฒนาระบบบริการพยาบาลให้มี คุณภาพได้มาตรฐานและปลอดภัยโดยพัฒนาการใช้กระบวนการพยาบาลและนิเทศงาน เป้าหมาย เพื่อส่งเสริมทักษะของพยาบาลเกี่ยวกับการบันทึกทางการพยาบาลโดยใช้กระบวน การพยาบาลอย่างมีคุณภาพ 5. สาระส าคัญของการพัฒนา การบันทึกทางการพยาบาลที่มีมาตรฐานช่วยให้พยาบาลปฏิบัติการดูแลผู้ป่วย ได้อย่างมีคุณภาพและ ต่อเนื่องให้การดูแลที่เป็นระบบ มีการบันทึกและมีการสื่อสารที่เป็นสากลในทีมการพยาบาลและทีมสหสาขา วิชาชีพ นอกจากนี้การบันทึกทางการพยาบาลที่มีมาตรฐานจะช่วยให้พยาบาลได้ใช้ความรู้เฉพาะทางในการ บันทึกอย่างมีประสิทธิภาพมีการน าข้อมูลที่บันทึกมาใช้ในการแก้ปัญหาในการพยาบาลให้เกิดผลลัพธ์ทางการ พยาบาลที่ชัดเจน มีความสะดวก ประหยัดเวลาในการบันทึกข้อมูลก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านการพยาบาล ทางคลินิกด้านบริหารและการวิจัย 6. ผลลัพธ์ ตารางแสดงผลการประเมินอัตราความสมบูรณ์การบันทึกทางการพยาบาล ตัวชี้วัด เป้าหมาย (%) ปี งบประมาณ 2562 2563 2564 2565 2566 (2ไตรมาส) อัตราความสมบูรณ์การบันทึกทางการ พยาบาล 75 75.93 76.29 76.88 77.19 76.60 7. บทเรียนเพื่อการแบ่งปัน 7.1 ความสมบูรณ์ในการบันทึกทางการพยาบาลยังต้องการการประเมินและการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องให้ บุคลากรเห็นความส าคัญและประโยชน์ของการบันทึกที่ถูกต้องและสมบูรณ์ 7.2 บุคลากรต้องมีความรู้เรื่องโรค อาการ แผนการดูแลรักษา รวมถึงการประเมินความต้องการการดูแล ที่ครอบคลุมทุกมิติ รวมถึงความเสี่ยงทางคลินิกต่างๆ


Click to View FlipBook Version