The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ลิขสิทธิ์คืออะไร 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tarathipsompol, 2021-03-19 03:21:09

ลิขสิทธิ์คืออะไร 2

ลิขสิทธิ์คืออะไร 2

]



คานา

หนงั สอื เลม่ เลก็ เลม่ นีเ้ป็นสว่ นหนง่ึ ของวิชาวทิ ยาการคานวณ จดั ทาขนึ ้

เพอ่ื ให้ผ้อู า่ นหรือผ้ทู ี่สนใจมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั เรื่องงานลขิ สทิ ธิ์
ความหมายของลขิ สทิ ธ์ิ ประเภทของลขิ สทิ ธิ์ ส่งิ ท่ีไมเ่ ป็นลิขสทิ ธิ์ การใช้
งานลขิ สทิ ธ์ิอยา่ งเป็นธรรม หลกั เกณฑ์การพิจารณาการใช้งานลขิ สทิ ธ์ิ
อยา่ งเป็นธรรม วตั ถปุ ระสงค์และลกั ษณะการใช้งานลขิ สทิ ธ์ิ ผ้จู ดั ทา
หวงั วา่ หนงั สอื เลม่ เลก็ เลม่ นีจ้ ะเป็ นประโยชน์ตอ่ ผ้อู า่ นหรือผ้ทู ี่สนใจไม่

มากก็น้อย หากมขี ้อผิดพลาดประการใดของอภยั มา ณ โอกาสนี ้

คณะผ้จู ดั ทา



สารบญั

เรื่อง หน้า

ลิขสทิ ธิ์คืออะไร 1

ประเภทของงานลขิ สทิ ธิ์ 2-4

การใช้งานลขิ สทิ ธ์ิอยา่ งเป็นธรรม 5

สง่ิ ที่ไมเ่ ป็นลขิ สิทธ์ิ 6

หลกั เกณฑ์การพจิ ารณาการใช้ลขิ สทิ ธิ์อยา่ งเป็ นธรรม 7

วตั ถปุ ระสงค์และลกั ษณะการใช้งานลขิ สทิ ธิ์ 8

การใช้งานโดยธรรม 9

ข้อยกเว้นการละเมดิ ลขิ สทิ ธิ์ 10

การพจิ ารณาการใช้ลขิ สทิ ธิ์อยา่ งเป็นธรรม 11-12

1

ลขิ สิทธ์ิคืออะไร?

ลขิ สทิ ธ์ิ ตามพจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ได้ให้
ความหมายวา่ ลขิ สทิ ธ์ิ หมายถงึ สทิ ธิแตผ่ ้เู ดยี วท่ีกฎหมายรับรองให้ผ้สู ร้าง
สรรค์กระทาการใด ๆ เก่ียวกบั งานประเภทวรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม
ดนตรีกรรม โสตทศั นวสั ดุ ภาพยนตร์ ส่งิ บนั ทกึ เสียง งานแพร่เสียงแพร่ภาพ
หรืองานอ่ืนใดในแผนกวรรณคดี แผนกวทิ ยาศาสตร์ หรือแผนกศลิ ปะ ที่ตน
ได้ทาขนึ ้ อนั ได้แก่ สิทธิท่จี ะทาซา้ ดดั แปลง หรือนาออกโฆษณา รวมทงั้
อนญุ าตให้ผ้อู ื่นนางานนนั้ ไปทาเช่นวา่ นนั้ ด้วย ทางด้านกรมทรัพย์สินทาง
ปัญญา กลา่ ววา่ ลิขสทิ ธิ์ คอื สิทธิแตเ่ พียงผ้เู ดียวท่จี ะกระทาการใด ๆ
เกี่ยวกบั งานท่ผี ้สู ร้างสรรค์ได้ริเริ่มโดยการใช้สตปิ ัญญาความรู้
ความสามารถ และความวิริยะอตุ สาหะของตนเองในการสร้างสรรค์ โดยไม่
ลอกเลียนแบบงานของผ้อู นื่ โดยงานทีส่ ร้างสรรค์ต้องเป็นงานตามประเภท
กฎหมายลขิ สิทธ์ิให้ค้มุ ครอง โดยผ้สู ร้างสรรค์จะได้รับความค้มุ ครองทนั ทที ี่
สร้างสรรค์โดยไม่ต้องจดทะเบยี น

2

กฎหมายลขิ สิทธิ์ให้ความค้มุ ครองแก่งานสร้างสรรค์ 9 ประเภทตามที่กฎหมาย
กาหนด ได้แก่

งานวรรณกรรม เชน่ หนงั สอื จลุ สาร สิ่งเขียน สงิ่ พิมพ์ คาปราศรัย โปรแกรม
คอมพิวเตอร์

งานนาฏกรรม เชน่ งานท่ีเก่ียวกบั การรา การเต้น การทาท่า หรือการแสดง
ประกอบขนึ ้ เป็นเร่ืองราว รวมถงึ การแสดงโดยวิธีใบ้ด้วย

3

งานศลิ ปกรรม เช่น งานจิตรกรรม งานประตมิ ากรรม ภาพพิมพ์ งาน
สถาปัตยกรรม ภาพถ่าย ภาพประกอบ หรืองานสร้างสรรค์รูปทรงสามมิติ
เกี่ยวกบั ภมู ปิ ระเทศ หรือวิทยาศาสตร์ งานศลิ ปะประยกุ ต์ ซงึ่ รวมถงึ
ภาพถ่ายและแผนผงั ของงานดงั กลา่ วด้วย

งานดนตรีกรรม เช่น คาร้อง ทานอง การเรียบเรียงเสยี งประสานรวมถงึ
โน้ตเพลงทแ่ี ยกและเรียบเรียงเสียงประสานแล้ว
งานส่งิ บนั ทกึ เสยี ง เชน่ เทปเพลง แผ่นคอมแพค็ ดสิ ก์ (ซดี ี) ที่บนั ทกึ ข้อมลู
เสียง ทงั้ นีไ้ มร่ วมถงึ เสียงประกอบภาพยนตร์ หรือเสียงประกอบโสตทศั นวสั ดุ
อย่างอืน่

4

งานโสตทศั นวสั ดุ เชน่ วีดีโอเทป วซี ีดี ดวี ีดี แผ่นเลเซอร์ดสิ ก์ท่ีบนั ทกึ ข้อมลู
ประกอบด้วยลาดบั ของภาพหรือภาพและเสยี งอนั สามารถที่จะนามาเลน่ ซา้
ได้อกี

งานภาพยนตร์ เช่น ภาพยนตร์ รวมทงั้ เสียงประกอบของภาพยนตร์นนั้ ด้วย
(ถ้ามี)

งานแพร่เสยี งแพร่ภาพ เช่น การกระจายเสยี งวิทยุ การแพร่เสียง หรือภาพทาง
โทรทศั น์

5

การใช้งานลขิ สิทธ์ิอย่างเป็ นธรรมคืออะไร

การใช้งานลขิ สทิ ธ์ิท่เี ป็ นธรรม (Fair Use) เป็ นหลกั ข้อยกเว้นของ
กฎหมายลขิ สทิ ธ์ิ (Copyright Act) มวี ตั ถุประสงค์เพ่อื ให้เกดิ
ความสมดุลระหว่างการปกป้ องผลประโยชน์อันชอบธรรมของ
เจ้าของลขิ สทิ ธ์ิ กับการรักษาประโยชน์ของสาธารณชนท่จี ะได้รับจาก
การใช้งานอนั มีลขิ สทิ ธ์ิ กฎหมายของประเทศต่าง ๆ ท่วั โลก
กาหนดให้บุคคลท่วั ไปมีสทิ ธิใช้วัสดุหรือเนือ้ หาของงานอันมีลขิ สทิ ธ์ิ
ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของลขิ สทิ ธ์ิและไม่ต้องเสยี
ค่าธรรมเนียมใด ๆ หากการใช้งานดงั กล่าวเป็ นการใช้งานอย่าง
ยุตธิ รรมและเป็ นธรรม ใช้ในขอบเขตอนั สมควรและสมเหตุสมผล ไม่
เก่ยี วข้องกับการพาณิชย์ ไม่ทาให้กระทบกระเทอื นสทิ ธิอนั ชอบด้วย
กฎหมาย และไม่ก่อให้เกดิ ความเสียหายต่อการแสวงหาผลประโยชน์
จากงานอนั มีลขิ สทิ ธ์ิของเจ้าของลขิ สทิ ธ์ิ การรักษาสมดลุ ของ
กฎหมายดงั กล่าว เป็ นไปเพ่อื สนับสนุนให้เกดิ การสร้างงานท่มี ีคุณค่า
ส่งเสริมความก้าวหน้าทางการศกึ ษา ซ่งึ เป็ นประโยชน์ต่อสงั คม
ส่วนรวม

6

1. ข่าวประจาวัน และข้อเทจ็ จริงต่าง ๆ ท่มี ลี กั ษณะเป็ นเพยี ง
ข่าวสาร อันมใิ ช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวทิ ยาศาสตร์ หรือ
แผนกศลิ ปะ
2. รัฐธรรมนูญและกฎหมาย
3. ระเบียบ ข้อบงั คบั ประกาศ คาส่งั คาชแี้ จง และหนังสอื
โต้ตอบของหน่วยงานงานของรัฐ
4. คาพพิ ากษา คาส่งั คาวนิ ิจฉัย และรายงานของทางราชการ
5. คาแปลและการรวบรวมคาส่งั ต่าง ๆ ตาม ข้อ 1 ถงึ ข้อ 4 ท่ี
กระทรวง ทบวง กรม หรืองานอ่นื ใดของรัฐหรือของท้องถ่นิ จดั ทาขนึ้

7

พระราชบญั ญตั ลิ ขิ สทิ ธิ์ พ.ศ.2537 ได้บญั ญตั เิ รื่องข้อยกเว้นการละเมดิ
ลขิ สทิ ธ์ิไว้ในมาตรา 32 โดยกาหนดให้การใช้งานลขิ สทิ ธ์ิในบาง
ลกั ษณะสามารถทา ได้โดยไมต่ ้องขออนญุ าตจากเจ้าของลขิ สทิ ธ์ิ
เพราะถือวา่ เป็นการใช้ที่เป็นธรรม เชน่ การใช้งานในการเรียนการสอน
การเสนอรายงานข่าว หรือการใช้งานโดยบรรณารักษ์ห้องสมดุ แตก่ าร
ใช้งานลขิ สทิ ธ์ิดงั กลา่ วตามท่ีพระราชบญั ญตั กิ าหนดไว้จะต้องอยอู่ าศยั
ใต้หลกั การสาคญั 2 ประการ ประกอบกนั คอื
1. ต้องไมข่ ดั ตอ่ การแสวงหาประโยชน์จากงานอนั มีลขิ สทิ ธิ์
ตามปกติของเจ้าของลขิ สทิ ธิ์

2. ต้องไมก่ ระทบกระเทือนถึงสทิ ธิอนั ชอบด้วยกฎหมายของ
เจ้าของลขิ สทิ ธิ์เกินสมควร

8

1. การใช้งานลขิ สทิ ธ์ิของบคุ คลอื่นจะต้องไมม่ ลี กั ษณะเป็นการกระทา
เพอ่ื การค้าหรือหากาไร โดยปกติการใช้งานลิขสิทธ์ิของบคุ คลอื่นเพอื่ การค้า
หรือหากาไร ผ้ใู ช้จะต้องจ่ายคา่ ลขิ สิทธิ์ให้แก่เจ้าของลิขสทิ ธ์ิ
2. การใช้งานลขิ สิทธ์ิของบคุ คลอื่นจะต้องไมม่ เี จตนาทจุ ริต เช่นการนา
งานลิขสิทธ์ิมาใช้โดยไมอ่ ้างอิงที่มา หรือใช้ในลกั ษณะท่ที าให้คนเข้าใจวา่
เป็นงานของผ้ใู ช้งานลขิ สทิ ธิ์นนั้ เอง
3. หากการใช้งานลิขสิทธิ์ของบคุ คลอื่น ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สงั คม
โดยเป็นการนางานลิขสิทธิ์มาใช้โดยปรับเปลีย่ น ให้ตา่ งไปจากงานลิขสทิ ธ์ิ
เดิมหรือการเพิ่มเติมสงิ่ ใหมเ่ ข้าไป ก็อาจเป็นการใช้ลขิ สทิ ธ์ิทเ่ี ป็นธรรม

9

การใช้งานโดยธรรม (Fair Use)

คือ ความชอบธรรมทางกฎหมายที่อนญุ าตให้ใช้ผลงานที่มีลขิ สทิ ธิ์บน
พืน้ ฐานที่จากดั เพ่ือวตั ถปุ ระสงค์เฉพาะโดย "ไมไ่ ด้รับการอนญุ าตจาก
เจ้าของลขิ สทิ ธิ์" และการใช้งานนนั้ จะต้องไมน่ าไปสกู่ ารขดั
ผลประโยชน์ท่ีเจ้าของลขิ สทิ ธ์ิควรจะได้รับ

10

1. วจิ ยั หรือศกึ ษางานนนั้ อนั มิใช่การกระทาเพอ่ื หากาไร
2. ใช้เพ่ือประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบคุ คลอ่ืนใน
ครอบครัวหรือญาตสิ นิท
3. ตชิ ม วิจารณ์ หรือแนะนาผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลขิ สิทธ์ินนั้
4. เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธ์ิ
ในงานนนั ้
5. ทาซา้ ดดั แปลง นาออกแสดง หรือทาให้ปรากฏ เพ่อื ประโยชน์ในการพิจารณา
ของศาลหรือเจ้าพนกั งาน ซงึ่ มีอานาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการ
พจิ ารณาดงั กลา่ ว
6.ทาซา้ ดดั แปลง นาออกแสดง หรือทาให้ปรากฏโดยผ้สู อนเพื่อประโยชน์ในการ
สอนของตน อนั มิใชก่ ารกระทาเพ่อื หากาไร
7. ทาซา้ ดดั แปลงบางสว่ นของงาน หรือตดั ทอน หรือทาบทสรุปโดยผ้สู อน หรือ
สถาบนั การศกึ ษา เพื่อแจกจ่ายหรือจาหนา่ ยแก่ผ้เู รียนในชนั้ เรียนหรือในสถาบนั
ศกึ ษา ทงั้ นี ้ต้องไม่เป็นการกระทาเพ่ือหากาไร

11

1. วตั ถปุ ระสงค์และลกั ษณะของการใช้งานลิขสิทธ์ิ
- การใช้งานลิขสทิ ธ์ิของบคุ คลอ่ืนจะต้องไมม่ ีลกั ษณะเป็นการกระทาเพอ่ื
การค้าหรือหากาไร
- การใช้งานลิขสทิ ธ์ิของบคุ คลอื่นจะต้องไมม่ ีเจตนาทจุ ริต
- หากการใช้งานลิขสิทธ์ิของบคุ คลอ่ืน ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สงั คม โดยเป็น
การนางานลิขสทิ ธิ์มาใช้โดยปรับเปลี่ยน (Transform) ให้ตา่ งไปจาก
งานลขิ สิทธิ์เดิมหรือมกี ารเพิ่มเตมิ ส่ิงใหมเ่ ข้าไป ก็อาจเป็นการใช้ลขิ สทิ ธ์ิท่ี
เป็ นธรรม
2. ลกั ษณะของงานอนั มีลขิ สทิ ธ์ิ
- พจิ ารณาระดบั ของการสร้างสรรค์งาน
- พิจารณาวา่ เป็นงานท่ีมีการโฆษณาแล้วหรือไม่ หากงานท่นี ามาใช้เป็นงาน
ทยี่ งั ไมม่ ีการโฆษณา จะอ้างวา่ เป็นการใช้ลขิ สิทธิ์ทเ่ี ป็นธรรมไมไ่ ด้

12

ปริมาณและเนอื ้ หาท่เี ป็นสาระสาคญั ท่ถี กู นาไปใช้เม่ือเทียบกบั เนือ้ หา
ทงั้ หมด

-การนางานลขิ สทิ ธิ์ของคนอ่ืนมาใช้ จะต้องคานงึ ถงึ ปริมาณของงานที่
นามาใช้ และสาระสาคญั ทน่ี ามาใช้ด้วย

4.ผลกระทบตอ่ ตลาดหรือมลู คา่ ของงานอนั มลี ขิ สทิ ธ์ิ

- การใช้งานลขิ สทิ ธิ์ของบคุ คลอ่ืนจะต้องไมม่ ีผลกระทบตอ่ ตลาดของงานนนั้

สมาชิกในกลุ่ม
นางสาวกฤษฑริกา รินรส ม.3/6 เลขที่ 12
นางสาวณฐั ภทั ร ชแู ก้วงาม ม.3/6 เลขที่ 20
นางสาวธาราทิพย์ ส้มผล ม.3/6 เลขที่ 22
นางสาวนชุ รี มฤค ม.3/6 เลขที่ 23
นางสาวพทั ธ์ธิรา เสริฐบรุ ี ม.3/6 เลขท่ี 27


Click to View FlipBook Version