The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานภาษาไทย.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รายงานภาษาไทย.1

รายงานภาษาไทย.1

46 2. ทักษะการอ่าน ความหมายการอ่าน คือ การรู้ สังเกตและทำความเข้าใจความหมาย ของทั้งวัจนภาษาและอวัจนภาษา ความสำคัญ - ช่วยสร้างองค์ความรู้ - ช่วยพัฒนาด้านอารมณ์ - ช่วยส่งเสริมความคิด - ช่วยหาคำตอบ 3. ทักษะการพูด ความหมายการพูด คือ การส่งสารโดยใช้วัจนภาษาและอวัจนภาษาเพื่อให้ผู้ฟังได้รับสารแล้วเกิดความ เข้าใจในสารนั้นๆ ความสำคัญ - ช่วยให้ข้อมูล - ช่วยโน้มน้าว - ช่วยสร้างความบันเทิง - ช่วยสร้างสรรค์ - ช่วยให้รู้สึกดี


47 4. ทักษะการเขียน ความหมายการเขียน คือ การใช้ภาษาเพื่อสื่อสารถึงความรู้ ความคิด ความรู้สึก และอารมณ์ต่างๆ จาก ผู้เขียนไปยังผู้อ่าน ความสำคัญ - ช่วยถ่ายทอดและบันทึกข้อมูล - ช่วยพัฒนาสติปัญญาและอารมณ์ - ช่วยสร้างความเข้าใจ - ช่วยอธิบาย - ช่วยเล่าเรื่อง


48 บทที่ 9 ลักษณะคำประพันธ์ไทย ความหมายของคำประพันธ์ คำประพันธ์ หมายถึง ถ้อยคำที่เรียบเรียงให้เป็นระเบียบตามบัญญัติแห่งฉันทลักษณ์ โดยมีกำหนด ข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้เกิดความครึกครื้นและมีความไพเราะ แตกต่างไปจากถ้อยคำธรรมดา ฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ ฉันทลักษณ์ หมายถึง ลักษณะบังคับของคำประพันธ์ไทย ซึ่งกำชัย ทองหล่อให้ความหมายไว้ว่า ฉันท ลักษณ์ คือตำราที่ว่าด้วยวิธีร้อยกรองถ้อยคำหรือเรียบเรียงถ้อยคำให้เป็นระเบียบตามลักษณะบังคับและ บัญญัติที่นักปราชญ์ได้ร่างเป็นแบบไว้ ถ้อยคำที่ร้อยกรองขึ้นตามลักษณะบัญญัติแห่งฉันทลักษณ์ เรียกว่า คำประพันธ์ ๑. คำ คำประพันธ์นับคำด้วยจำนวนพยางค์ เช่น ชีวิต มี ๒ พยางค์ นับเป็น ๒ คำ ๒. คณะ คือ จำนวนคำบังคับในคำประพันธ์แต่ละประเภท ๓. สัมผัส คือ คำที่คล้องจองกัน มี ๒ ประเภท ได้แก่ สัมผัสนอก และสัมผัสใน ๓.๑ สัมผัสนอก เป็นสัมผัสบังคับหรือสัมผัสสระอยู่ระหว่างวรรค ระหว่างบาท และระหว่างบท รู้วิชาก็ให้รู้เป็นครูเขา จึ่งจะเบาแรงตนเร่งขวนขวาย มีข้าไทใช้สอยค่อยสบาย ตัวเป็นนายโง่เง่าบ่าวไม่เกรง การวิชาหาประดับสำหรับร่าง อย่าเอาอย่างหญิงโกงที่โฉงเฉง การมิดีที่ชั่วจงกลัวเกรง อย่าครื้นเครงขับร้องคะนองใจ


49 ๓.๒ สัมผัสใน เป็นสัมผัสในวรรค ไม่ใช่สัมผัสบังคับแต่ถ้ามีจะทำให้ไพเราะขึ้น ได้แก่ สัมผัสสระ (คำที่มี เสียงสระและมาตราตัวสะกดเดียวกัน) และ สัมผัสพยัญชนะ (คำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเดียวกัน) ถึงหน้าแพแลเห็นเรือที่นั่ง คิดถึงครั้งก่อนมาน้ำตาไหล เคยหมอบรับกับพระจมื่นไวย แล้วลงในเรือที่นั่งบัลลังก์ทอง เคยทรงแต่งแปลงบทพจนารถ เคยรับราชโองการอ่านฉลอง จนกฐินสิ้นแม่น้ำแลลำคลอง มิให้ข้องเคืองขัดหัทยา คำครุ คำลหุ ครุคือพยางค์ที่มีเสียงหนัก ได้แก่ พยางค์ที่ประกอบด้วย สระเสียงยาว (ทีฆสระ) และ สระเกินทั้ง 4 คือ สระ อำ ใอ ไอ เอา และพยางค์ที่มีตัวสะกดทั้งสิ้น เช่น ตา ดำ หัด เรียน ฯลฯ ลหุคือพยางค์ที่มีเสียงเบา ได้แก่พยางค์ที่ประกอบด้วย สระสั้น (รัสสระ) ที่ไม่มีตัวสะกด เช่น พระ จะ มิ ดุ แกะ ฯลฯ คำเอก คำโท ใช้แต่งโคลง คำเอก คือ คำที่ใช้รูปวรรณยุกต์เอก ใช้คำตายแทนได้ คำโท คือ คำที่ใช้รูปวรรณยุกต์โท คำนำ คำนำ คือคำที่ใช้กล่าวขึ้นต้น สำหรับเป็นบทนำ ในคำประพันธ์ เป็นคำเดียวบ้าง เป็นวลีบ้าง เช่น เมื่อนั้น บัดนั้น โฉมเฉลา น้องเอ๋ยน้องรัก รถเอ๋ยรถทรง ครานั้น สักวา ฯลฯ บางทีก็ใช้คำนามตรงๆ เหมือนอย่าง นามอาลปนะ เช่น สุริยา พระองค์ ภมร ดวงจันทร์ ฯลฯ


50 คำสร้อย คำสร้อย คือคำที่ใช้สำหรับลงท้ายบทหรือท้ายบาทของคำประพันธ์ ซึ่งตามธรรมดา มีคำซึ่งมีความหมาย อยู่ข้างหน้าแล้ว แต่ยังไม่ครบจำนวนคำ ตามที่บัญญัติไว้ ในคำประพันธ์ จึงต้องเติมสร้อย เพื่อให้มีคำ ครบ ตามจำนวน และเป็นการเพิ่มสำเนียงให้ไพเราะ ในการอ่านด้วย คำสร้อยนี้ จะเป็นคำนาม คำวิเศษณ์ คำกริยานุเคราะห์ คำสันธาน หรือคำอุทาน ก็ได้ แต่ถ้าเป็นคำอุทาน ที่มีรูปวรรณยุกต์ ต้องตัดรูป วรรณยุกต์ออก และไม่ต้องมีเครื่องหมายอัศเจรีย์ มิฉะนั้น จะขัดต่อการอ่านทำนองเสนาะ และในการใช้ นั้น ควรเลือกคำที่ท่านวาง เป็นแบบฉบับไว้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ คำนาม เช่น พ่อ แม่ พี่ คำกริยานุเคราะห์ เช่น เทอญ นา คำสันธาน เช่น ฤๅ แล ก็ดี คำอุทาน เช่น ฮา แฮ เฮย เอย เวย รา อา นอ คำวิเศษณ์ เช่น บารนี เลย คำสร้อยนี้ ต้องเป็นคำเป็น จะใช้คำตายไม่ได้ และใช้เฉพาะบทประพันธ์ ชนิดโคลง และร่าย เท่านั้น


51 โวหารหรือภาพพจน์ที่กวีนิยมใช้ โวหาร คือ การใช้ถ้อยคำอย่างมีชั้นเชิง เป็นการแสดงข้อความออกมาในทำนองต่างๆ เพื่อให้ข้อความได้ เนื้อความดี มีความหมายแจ่มแจ้ง เหมาะสมน่าฟัง ในการเขียนเรื่องราวอาจใช้โวหารต่างๆ โวหารภาพพจน์ คือ กลวิธีการนำเสนอสารโดยการพลิกแพลงภาษาที่ใช้พูด หรือเขียนให้แปลกออกไปจาก ภาษาตามตัวอักษรทำให้ผู้อ่านเกิดภาพในใจ เกิดความประทับใจ เกิดความรู้สึกสะเทือนใจ เป็นการ เปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจน อุปมาโวหาร อุปมา คือ การเปรียบเทียบว่าสิ่งหนึ่งเหมือนกับสิ่งหนึ่งโดยใช้คำเชื่อมที่มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า " เหมือน " เช่น ดุจ ดั่ง ราว ราวกับ เปรียบ ประดุจ เฉก เล่ห์ ปาน ประหนึ่ง เพียง เพี้ยง พ่าง ปูน ถนัด ละ หม้าย เสมอ กล อย่าง ฯลฯ อุปลักษณ์ อุปลักษณ์ ก็คล้ายกับอุปมาโวหารคือเป็นการเปรียบเทียบเหมือนกัน แต่เป็นการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็น อีกสิ่งหนึ่ง การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง อธิพจน์ อติพจน์ หรือ อธิพจน์ คือโวหารที่กล่าวเกินความจริง เพื่อสร้างและเน้นความรู้สึกและอารมณ์ ทำให้ผู้ฟัง เกิดความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ภาพพจน์ชนิดนี้นิยมใช้กันมากแม้ในภาษาพูด เพราะเป็นการกล่าวที่ทำให้เห็นภาพ ได้ง่ายและแสดงความรู้สึกของกวีได้อย่างชัดเจน


52 บุคลาธิษฐาน บุคลาธิษฐาน หรือ บุคคลวัต บุคคลสมมติ คือการกล่าวถึงสิ่งต่างๆ ที่ไม่มีชีวิต ไม่มีความคิด ไม่มีวิญญาณ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ อิฐ ปูน หรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น ต้นไม้ สัตว ์ โดยให้สิ่งต่างๆเหล่านี้แสดง กิริยาอาการและความรู้สึกได้เหมือนมนุษย์ ให้มีคุณลักษณะต่างๆ เหมือนสิ่งมีชีวิต ( บุคลาธิษฐาน มาจาก คำว่า บุคคล + อธิษฐานหมายถึง อธิษฐานให้กลายเป็นบุคคล ) สัทพจน์ สัทพจน์ หมายถึง ภาพพจน์ที่เลียนเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงดนตรี เสียงสัตว์ เสียงคลื่น เสียงลม เสียงฝน ตก เสียงน้ำไหล ฯลฯ การใช้ภาพพจน์ประเภทนี้จะทำให้เหมือนได้ยินเสียงนั้นจริง ๆ นามนัย นามนัย คือ การใช้คำหรือวลีซึ่งบ่งลักษณะหรือคุณสมบัติของสิ่งใดสิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่ง คล้ายๆ สัญลักษณ์ แต่ต่างกันตรงที่ นามนัยนั้นจะดึงเอาลักษณะบางส่วนของสิ่งหนึ่งมากล่าวให้หมายถึงส่วน ทั้งหมด หรือใช้ชื่อส่วนประกอบสำคัญของสิ่งนั้นแทนสิ่งนั้นทั้งหมด


53 ประวัติส่วนตัว ข้อมูลพื้นฐานทั่วไป ชื่อ-สกุล นายอภิวัฒน์ สิงห์สนั่น ชื่อ-สกุล Aphiwat Shingsanan สัญชาติ ไทย เชื้อ ไทย ศาสนา พุทธ เกิดวันที่ 16 เดือน เมษายน พ.ศ 2547 คณะศึกษาศาสตร์ .สาขาวิชาการประถมศึกษา ภูมิลำเนา บ้านเหล่ายาว เลขที่ 1 หมู่ที่ 5 ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด 45000 เบอร์โทรศัพท์ 096-047-8536


54 อ้างอิง ที่มา http://portal5.udru.ac.th/ebook/pdf/upload/17531xsbg556c09439xg.pdf https://reg2.crru.ac.th/reg/files/20150928032030_1f93dc44b702fa66f529bf0b01f5c 063.pdf https://thaiforcommunication.weebly.com https://sites.google.com/


Click to View FlipBook Version