การจดั การแสดงแต่ละครงั้ จะต้องมีองค์ประกอบด้านต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง
เพ่ือเสริมให้ตวั ละครมีความชดั เจนยิ่งขึ้น ส่ิงต่างๆ ที่นามาช่วยเสริม ได้แก่ ฉาก แสง
สี เสียง อปุ กรณ์ สถานท่ีและเครอ่ื งแต่งกาย
ฉาก หมายถึง สถานการณ์หรือตอนในการดาเนินเร่อื ง บริเวณการแสดงท่ีเหมาะสม
รวมถึงอุปกรณ์ประดบั ฉาก และวสั ดตุ ่างๆ ท่ีนามาประกอบ
เพ่ือสรา้ งเป็นสถานท่ีต่างๆ
๑. ประเภทของฉาก แบง่ ออกเป็น ๗ ประเภท คือ
๑.๑ ฉากของจริง คือ ฉากที่เป็นสถานที่จริง
๑.๒ ฉากสมจริง คือ มีเจตนาจดั สร้างให้ดเู หมือน
ของจริงเพียงด้านท่ีมองเหน็ เท่านัน้
๑.๓ ฉากคล้ายจริง คือ ใช้วสั ดแุ ละเทคนิคพิเศษ ลดความอนั ตรายจากของจริง
๑.๔ ฉากสงั เขป คือ ฉากท่ีใช้เฉพาะบางส่วนที่สามารถแสดงให้คนดเู ข้าใจว่าฉากนัน้
คือที่ใด
๑.๕ ฉากนามธรรม คือ ฉากท่ีผ้อู อกแบบนาศิลปะของจิตรกรรมและประติมากรรม
มาประยกุ ตเ์ ป็นฉาก
๑.๖ ฉากจินตนาการ คือ ฉากท่ีเป็นสถานท่ีซึ่งไม่ปรากฏอย่ใู นโลกนี้
๑.๗ ฉากอเนกประสงค์ คือ ทาด้วยชิ้นส่วนง่าย ประกอบเป็นรปู แบบอ่ืนๆ ได้
๒. การออกแบบฉาก มีหลกั ๖ ประการ คือ
๒.๑ หน้าท่ีใช้สอย
๒.๒ รปู แบบ ฉากจะต้องมีรปู ลกั ษณ์ท่ีสมั พนั ธก์ บั การแสดง
๒.๓ เวที เวทีมี ๕ แบบ คือ
- เวทีแบบดดู ้านเดียว
- เวทีแบบดสู องด้าน
- เวทีแบบดสู ามด้าน
- เวทีแบบดสู ่ีด้าน
- เวทีแบบประเพณีนิยม
๒.๔ การก่อสรา้ งฉาก ส่ิงที่คานึงในการสร้างฉาก คือ
- จะต้องมีน้าหนักเบา ทนทาน
- โครงสร้างแขง็ แรง
- การถอดประกอบ สามารถแยกชิ้นถอดในเวลาอนั รวดเรว็
๒.๕ การจดั ฉาก คานึงถึงความสะดวกรวดเรว็ ไม่เป็นอปุ สรรคทาให้การแสดงต้องหยุดรอ
๒.๖ การประหยดั ร้จู กั ดดั แปลงของเก่ามาใช้อีก
๓. หน้าท่ีของฉาก มี ๔ ประเภท คือ
๓.๑ กาหนดว่าบริเวณที่ใช้เพ่ือเป็นการแสดงคือส่วนใด
๓.๒ บง่ ชี้ยคุ สมยั
๓.๓ ให้บรรยากาศแก่การแสดง
๓.๔ เป็นการสนับสนุนการแสดงให้มีความน่าชมยิ่งขึน้
๑. แสง ทาให้การแสดงเกิดความงดงามและสรา้ งบรรยากาศ มีส่วนสาคญั คือ
๑.๑ ให้ความสว่าง
๑.๒ บอกเวลา
๑.๓ สรา้ งอารมณ์
๑.๔ การออกแบบแสง จะต้องคานึ งถึง
สิ่งต่อไปนี้
- พื้นท่ีให้แสง ไม่ควรจะสว่างเท่ากนั จะ
เน้นความสว่างในพนื้ ที่ที่ต้องการให้ดเู ด่น
- ความเข้มของแสง ต้องมีความสมั พนั ธ์
กบั อารมณ์ในการแสดง
- ทิศทางของแสง เน้นให้เกิดภาพท่ีมี
แสงเงาสมดลุ กนั
๒. สี การแสดงท่ีเป็นแบบสมจริงจะไมใ่ ช้สีของแสงมาก
๓. เสียง เป็ นการทาเสียงเฉพาะ เช่น ฟ้าร้อง ฝนตก เสียงปื น แต่เดิมมีการใช้วสั ดุต่างๆ
มาทาให้เกิดเสียง เช่น ฝนตกใช้เมลด็ ถวั่ เขียวมาโปรยลงบนถาดสงั กะสี ปัจจุบนั สร้าง
เสียงจากสื่ออิเลก็ ทรอนิกสห์ รอื เสียงท่ีบนั ทึกจากของจริง
เคร่ืองแต่งกาย หมายถึง เคร่ืองแต่งกายท่ีสวมใส่ในการแสดง เพ่ือความงดงาม
และบง่ บอกบคุ ลิกลกั ษณะของตวั ละคร
๑. ประเภทของเครอ่ื งแต่งกาย มี ๔ ประเภท คือ
๑.๑ เคร่ืองแต่งกายปกติ คือ เคร่ืองแต่งกาย
ทวั่ ไปท่ีแต่งเพื่อแสดงให้เห็นการดาเนิ นชีวิตของแต่
ละบคุ คล
๑.๒ เคร่ืองแต่งกายประยุกต์ คือ เครื่องแต่งกาย
ที่เลียนแบบเครอื่ งแต่งกายปกติ แต่ดดั แปลงให้เหมาะสม
กบั การแสดง
๑.๓ เคร่ืองแต่งกายประเพณี คือ เครื่องแต่งกาย
ท่ีได้รบั การพฒั นาเป็ นรูปแบบตายตัว เช่น ชุดยืน
เครอ่ื งพระนาง
๑.๔ เคร่ืองแต่งกายสร้างสรรค์ คือ เครื่องแต่งกาย
ที่ออกแบบเฉพาะกรณีเพื่อให้เกิดความแปลกตาและ
สนองความคิดจินตนาการ
๒. การออกแบบเครอ่ื งแต่งกาย มีหลกั ๖ ประการ คือ
๒.๑ หน้าท่ีใช้สอย
๒.๒ รปู แบบเครอื่ งแต่งกาย ให้กลมกลืนกบั บรรยากาศของการแสดงโดยรวม
และต้องคานึงถงึ ยคุ สมยั ของการแสดง
๒.๓ บคุ ลิกตวั ละคร บง่ บอกถงึ ฐานะและบทบาทของตวั ละคร
๒.๔ การสรา้ งเครอ่ื งแต่งกาย สิ่งที่คานึงในการสรา้ งเครอ่ื งแต่งกาย คือ
๒.๔.๑ วสั ดุ แบง่ เป็น ๒ ประเภท คือ เครอ่ื งนุ่งห่มและเครอื่ งประดบั
๒.๔.๒ โครงสรา้ งของเครอื่ งแต่งกาย มี ๓ แบบ คือ
- เครอื่ งแต่งกายแบบสาเรจ็ รปู สามารถสวมใส่ด้วยตนเอง
- เครอ่ื งแต่งกายแบบก่ึงสาเรจ็ รปู
- เครอ่ื งแต่งกายแบบแยกชิ้นส่วน
๒.๕ การถอดเปลี่ยน ต้องคานึ งถึงความสะดวกรวดเร็วในการสวมใส่และ
การเปลี่ยนด้วย
๒.๖ การประหยดั เพื่อเป็นการลดต้นทนุ ในการจดั การแสดง
๓. ความสาคญั ของเครอ่ื งแต่งกาย มี ๘ ประการ คือ
๓.๑ เป็นการแสดงบคุ ลิกภาพของตวั ละคร
๓.๒ เป็นการแสดงสถานภาพของตวั ละคร
๓.๓ แสดงอาชีพของตวั ละคร
๓.๔ แสดงวฒั นธรรมของตวั ละคร
๓.๕ แสดงยคุ สมยั ในการแสดง
๓.๖ แสดงเหตกุ ารณ์ในท้องเรื่อง
๓.๗ เป็นส่วนเสริมการเคล่ือนไหวหรอื ฟ้อนรา
๓.๘ เป็นส่วนสาคญั ที่ขาดมิได้ในการแสดง
อปุ กรณ์การแสดง แบง่ ออกเป็น ๕ ประเภท ดงั นี้
๑. อาวุธ ใช้อาวุธเทียมมีน้าหนักเบา สะดวกและปลอดภยั ในการร่ายรามีการตกแต่ง
ให้งดงามรบั กบั เครอ่ื งแต่งกาย
๒. เครื่องมือเครื่องใช้ มาจากเครื่องมือประกอบอาชีพและเครื่องมือที่ใช้ใน
ชีวิตประจาวนั
๓. เครอื่ งดนตรี จะใช้ของจริงซึ่งจะใช้บรรเลงในระหว่างการแสดงหรอื ให้ผแู้ สดงจบั ถอื
๔. พฤกษชาติ เป็ นการนากิ่งไม้ ใบไม้ ดอกไม้ทงั้ ของจริงและของเทียมมาใช้ประกอบ
ในการแสดง
๕. เบด็ เตลด็ เป็นอปุ กรณ์ท่ีไม่สามารถจดั หมวดหม่ขู า้ งต้นได้
หน่วยก่อน สารบญั หน่วยต่อไป