The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ข้อมูล 9 ประการ แนวตั้ง2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kokonug232526, 2024-05-29 23:10:17

ข้อมูล 9 ประการ แนวตั้ง2566

ข้อมูล 9 ประการ แนวตั้ง2566

๕๘ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อาคาร ๑๐ ชั้น ๑ -ห้องงานทวิภาคี,ทวิศึกษา ชั้น ๒ -ห้องเรียน ชั้น ๓ -ห้องเรียนสาขาวิชาการบัญชี อาคารโรงแรมใหม่ ขนาด 5 ชั้น พร้อมลิฟท์ งบประมาณ ๓๗,๔๐๓,๘๐๐.๐๐ บาท


๕๙ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ ส่วนที่ ๙ ข้อมูลจังหวัดพิษณุโลก


๖๐ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ ข้อมูลจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เป็นจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทย หรือภาคเหนือตอนล่าง มีประชากรในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๘๖๓,๔๐๔ คน มีพื้นที่ ๑๐,๘๑๕.๘๕๔ ตารางกิโลเมตร มีเทศบาลนครพิษณุโลกเป็น เมืองศูนย์กลางของจังหวัดและเป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัด เป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัย ขอม โดยมีชื่อเรียกต่าง ๆ กันในศิลาจารึก ตำนาน นิทาน และพงศาวดาร เช่น สองแคว, สองแควทวิสาขะ และไทยวนที เดิมเมืองพิษณุโลกเป็นเมืองเก่าสมัยขอม อยู่ห่างจากที่ตั้งเมืองปัจจุบันลงไปทางทิศใต้ประมาณ ๕ กิโลเมตร เรียกว่า "เมืองสองแคว" ที่เรียกเช่นนี้ เพราะตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสาย คือ แม่น้ำน่าน กับแม่น้ำ แควน้อย แต่ปัจจุบันแม่น้ำแควน้อยเปลี่ยนทางเดินออกห่างจากตัวเมืองไปประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ที่ตั้งตัวเมืองเก่าในปัจจุบันคือ บริเวณวัดจุฬามณี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของพิษณุโลก แต่เมื่อประมาณ พุทธศักราช ๑๙๐๐ พระมหาธรรมราชาที่ ๑ (ลิไท) ได้โปรด ให้ย้ายเมืองสองแคว มาตั้งอยู่ ณ บริเวณตัวเมือง ในปัจจุบัน และยังคงเรียกกันติดปากว่า เมืองสองแคว เรื่อยมา ศัพท์มูลวิทยา ชื่อของจังหวัดมาจากคำว่า พิษณุ หมายถึง "พระวิษณุ" เทพตามความเชื่อของชาวฮินดู รวมกับคำว่า โลก ทำให้มีความหมายเป็น "โลกแห่งพระวิษณุ" ในสมัยที่ยังปกครองด้วยระบบมณฑลเทศาภิบาล ชื่อ ของจังหวัดนั้นสะกดว่า พิศณุโลก


๖๑ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ สัญลักษณ์ประจำจังหวัด ตราประจำจังหวัด: พระพุทธชินราช ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกนนทรี (Peltophorum pterocarpum) ต้นไม้ประจำจังหวัด: ปีบ (Millingtonia hortensis)


๖๒ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ ประวัติศาสตร์ สมัยสุโขทัย วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เมืองสองแควอยู่ในอำนาจของราชวงศ์ผาเมือง จนกระทั่งในรัชกาลพ่อขุนรามคำแหงมหาราชจึงได้ยึด เมืองสองแคว ครั้นสมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (ลิไท) ได้เสด็จมาประทับที่เมืองสองแคว พระองค์ได้เอาพระทัยใส่ ทำนุบำรุงนำความเจริญเป็นอย่างยิ่ง เช่น การสร้างเหมืองฝาย สนับสนุนให้มีการขยายพื้นที่เพาะปลูก สร้าง ทางคมนาคมจากเมืองพิษณุโลกไปเมืองสุโขทัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มีการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชิน สีห์และพระศรีศาสดา เพื่อประดิษฐานไว้ใน พระวิหารวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดใหญ่) สมัยอยุธยา เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จกรีธาทัพมาหมายจะชิงสุโขทัยซึ่งพระยายุ ทธิษฐิระ (พระอนุชาของพระองค์) ได้ไปสวามิภักดิ์ต่อพระเจ้าติโลกราชแห่งล้านนา พระองค์จึงทรงสร้างเมือง ใหม่บริเวณเมืองสองแควและเมืองชัยนาท ขนานนามว่า เมืองพระพิษณุโลกสองแคว สำหรับการที่เรียกว่าพระ พิษณุโลกสองแควนั้น คาดว่าสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงแปลงคำจาก สรลวงสองแคว, สรลวง มี ความหมายว่า สรวง คือ พระวิษณุ (พระนารายณ์) โดยทรงหมายมั่นให้เป็นราชธานีฝ่ายเหนือคู่กับกรุงเทพ ทวารวดีศรีอยุธยา พิษณุโลกสมัยอยุธยามีความสำคัญยิ่งทางด้านการเมืองการปกครอง ยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจ ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม พิษณุโลกเป็นราชธานีในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๐๐๖-พ.ศ. ๒๐๓๑ รวม ๒๕ ปี นับว่าระยะนี้เป็นยุคทองของพิษณุโลก ในสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราช ณ เมืองพิษณุโลก ระหว่าง พ.ศ. ๒๑๑๒-พ.ศ. ๒๑๓๓ ได้ทรงปลุกสำนึกให้ชาวพิษณุโลกเป็นนักกอบกู้เอกราชเพื่อชาติไทย ทรง สถาปนาพิษณุโลกเป็นเมืองเอก เป็นการประสานต่อความเจริญรุ่งเรืองจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน


๖๓ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ ด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากพิษณุโลกตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่างรัฐ คือ อาณาจักรล้านนาทางเหนือกับกรุงศรีอยุธยา ในทางใต้ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐทั้งสองบางครั้งเป็นไมตรีกันบางครั้งขัดแย้งกัน ทำสงครามต่อกัน มีผลให้ เมืองพิษณุโลกได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมประเพณีทั้ง ๒ รัฐ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจพิษณุโลกเป็นเส้นทาง สินค้าของป่า และผลิตผลทางการเกษตร รวมทั้งเครื่องถ้วย โดยอาศัยการคมนาคมผ่านลำน้ำน่านสู่กรุงศรี อยุธยา ซึ่งขณะนั้นเป็นศูนย์กลางของการค้านานาชาติแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปัจจุบันที่พิษณุโลก มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นแหล่งผลิตเครื่องถ้วยคุณภาพดี ซึ่งมีอยู่ทั่วไปบริเวณฝั่ง แม่น้ำน่านและแม่น้ำแควน้อย โดยเฉพาะที่วัดตาปะขาวหาย พบเตาเผาเครื่องถ้วยเป็นจำนวนมาก พร้อม เครื่องถ้วยจำพวกโอ่ง อ่าง ไห ฯลฯ เครื่องถ้วยเหล่านี้ นอกจากจะใช้ในท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นสินค้าส่งออกไปขาย ต่างประเทศด้วย วินิจฉัยว่าน่าจะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถนับว่า เมืองพิษณุโลกมีความสำคัญยิ่งทางเศรษฐกิจ คือเป็นแหล่งทรัพยากรของกรุงศรีอยุธยา


๖๔ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ ด้านศาสนา พระพุทธชินราช แม้ว่าเมืองพิษณุโลกจะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสงครามระหว่างอยุธยากับล้านนาและอยุธยากับ พม่ามาตลอด แต่การศาสนาก็มิได้ถูกละเลย ดังปรากฏหลักฐานทางโบราณวัตถุและโบราณสถานชี้ให้เห็น ชัดเจนว่า พระพุทธรูปและวัดปรากฏในปัจจุบันเช่น พระพุทธชินราช พระพุทธชินศรีพระศรีศาสดา วัดพระศรี รัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) วัดจุฬามณีวัดอรัญญิก วัดนางพญา วัดราชบูรณะ วัดสระแก้วปทุม ทอง วัดเจดีย์ยอดทอง วัดสุดสวาสดิ์และวัดวังหิน ล้วนเป็นศิลปวัฒนธรรมสมัยกรุงศรีอยุธยา หรือมิฉะนั้นก็ได้ มีการบูรณปฏิสังขรณ์ของเดิมที่มีมาครั้งกรุงสุโขทัย แสดงว่าด้านพระศาสนาได้มีการบำรุงมาโดยตลอด ในปัจจุบัน ทั้งพระพุทธชินศรีและพระศรีศาสดาได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานที่กรุงเทพมหานคร มีเรื่อง เล่ากันว่า จากเดิมจะอัญเชิญพระพุทธชินราชมาด้วย แต่เมื่อเอาลงแพ เตรียมที่จะล่องลำน้ำน่านนั้น แพก็ไม่ ยอมเคลื่อนที่ แม้จะตรวจเท่าไร ก็ไม่พบว่าแพติดอะไร แต่แพที่ใช้ในการย้ายก็ไม่ยอมไหลตามน้ำ จึงทำการ บวงสรวงขอขมา แล้วนำขึ้นมาประดิษฐานไว้ตามเดิมจนถึงปัจจุบัน ว่ากันว่า ท่านเป็นห่วงเมืองของท่าน จะอยู่ ปกป้อง ในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างอาคารวัดจุฬามณีขึ้นในปี พ.ศ. ๒๐๐๗ และพระองค์ได้ทรงสละราชสมบัติออกผนวช ณ วัดจุฬามณี อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เมื่อปี พ.ศ. ๒๐๐๘ เป็นเวลา ๘ เดือน ๑๕ วัน มีข้าราชบริพารตามเสด็จออกบวชถึง ๒,๓๔๘ คน และในปี พ.ศ. ๒๐๒๕ มีพระบรมราชโองการให้บูรณะวัดพระศรีรัตนมหาธาตุและให้มีการสมโภชถึง ๑๕ วัน พร้อมกันนั้นได้ โปรดให้นักปราชญ์ราชบัณฑิตแต่งมหาชาติคำหลวง จบ ๑๓ กัณฑ์บริบูรณ์ด้วย ต่อมาในสมัยรัชกาลสมเด็จพระ นารายณ์มหาราชได้ทรงสร้างรอยพระพุทธบาทจำลองเมื่อ พ.ศ. ๒๒๒๒ และโปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานไว้ ณ วัดจุฬามณี พร้อมทั้งจารึกเหตุการณ์สำคัญทางศาสนาในสมัยพระบรมไตรโลกนาถไว้บนแผ่นศิลาด้วย


๖๕ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ ในส่วนของวัดสุดสวาทดิ์นั้น ว่ากันว่าเป็นวัดที่เก่าแก่สร้างในสมัยเดียวกับวัดนางพญา โดยวัดสุดสวาท ดิ์นั้นเป็นวัดที่กษัตริย์ผู้ปกครองเมืองพิษณุโลกสร้างให้กับมเหสีที่รักมากที่สุด จึงตั้งชื่อให้ว่า "สุดสวาท" และมี การสร้างพระนางสุดสวาสดิ์ขึ้นมาด้วย พุทธคุณเท่ากับพระนางพญา วัดนางพญา ในส่วนของวัดวังหินนั้น ถือว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญทางด้านการทหารในสมัยสมเด็จพระนเรศวร มหาราชอย่างมาก เนื่องจากเป็นวัดที่ใช้ในการจัดทัพและปลุกขวัญกำลังใจให้กับทหาร กำลังพลก่อนที่จะทำ การออกศึก โดยวัดนี้ ก็มีการจัดสร้างพระเครื่องที่เชื่อกันว่าถูกสร้างโดยพระนเรศวรด้วย คือ ลีลาวังหิน โดด เด่นทางด้าน คงกระพันชาตร สมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเห็นว่าพิษณุโลกเป็นเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ควรมีผู้ที่เข้มแข็งที่มี ความสามารถเป็นเจ้าเมือง จึงทรงแต่งตั้งเจ้าพระยายมราช (กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท) เป็น เจ้าพระยาสุรสีห์พิษณุวาธิราชสำเร็จราชการเมืองพิษณุโลกโดยขึ้นต่อกรุงธนบุรี เมื่อได้ทรงแต่งตั้งผู้ปกครองหัว เมืองฝ่ายเหนือจนครบถ้วนแล้ว จึงเสด็จกลับไปยังกรุงธนบุรี พ.ศ. ๒๓๑๘ อะแซหวุ่นกี้ แม่ทัพพม่าผู้ชำนาญการรบ ได้วางแผนยกทัพมาตีหัวเมืองฝ่ายเหนือของ ไทย ตีได้เมืองตาก เมืองสวรรคโลก บ้านกงธานี และมาพักกองทัพอยู่ที่กรุงสุโขทัย ขณะนั้นเจ้าพระยาจักรีและ เจ้าพระยาสุรสีห์กำลังยกกองทัพขึ้นไปตีเชียงแสน เมื่อทราบข่าวข้าศึก จึงรีบยกทัพกลับมารับทัพพม่าที่เมือง พิษณุโลก ก่อนที่อะแซหวุ่นกี้ยกทัพมาตั้งค่ายล้อมเมืองพิษณุโลก กองทัพพม่าพยายามเข้าตีค่ายไทยหลายครั้ง แต่เจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์ได้ช่วยป้องกัน เมืองเป็นสามารถ ทั้งที่ทหารน้อยกว่าแต่ไม่สามารถชนะกันได้ อะแซหวุ่นกี้ถึงกับกล่าวยกย่องแม่ทัพฝ่ายไทย เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงทราบข่าวอะแซหวุ่นกี้ยกกองทัพใหญ่มาตีหัวเมืองฝ่ายเหนือของไทย จึงทรง ยกทัพใหญ่ขึ้นไปช่วยทันที ฝ่ายอะแซหวุ่นกี้ทราบข่าวว่ากองทัพไทยมาตั้งค่ายเพื่อช่วยเหลือเมืองพิษณุโลก จึง แบ่งกำลังพลไปตั้งมั่นที่วัดจุฬามณีฝั่งตะวันตก อะแซหวุ่นกี้เห็นว่าถ้าชักช้าไม่ทันการณ์จึงสั่งให้ทัพพม่าที่กรุง สุโขทัยไปตีเมืองกำแพงเพชร ส่วนกองทัพเมืองกำแพงเพชรไปตีเมืองนครสวรรค์ และสั่งให้กองทัพพม่าอีก กองทัพหนึ่งยกไปตีกรุงธนบุรี การวางแผนของอะแซหวุ่นกี้เช่นนี้ เป็นการตัดกำลังฝ่ายไทยไม่ให้ช่วยเมือง พิษณุโลกและต้องการให้กองทัพไทยระส่ำระสาย ในที่สุดสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมีพระราชดำริเห็นว่า ไทยเสียเปรียบเพราะมีกำลังทหารน้อยกว่า จึง ควรถอยทัพกลับไปตั้งมั่นรับทัพพม่าที่กรุงธนบุรี เจ้าพระยาจักรีเห็นว่าไทยขาดเสบียงอาหารและใกล้จะหมด ทางสู้ จึงตัดสินใจพาไพร่พลและประชาชนชายหญิงทั้งหมด ตีหักค่ายพม่าออกจากเมืองพิษณุโลกไปทางทิศ ตะวันออกได้สำเร็จ พาทัพผ่าน บ้านมุง บ้านดงชมพู ข้ามเขาบรรทัด ไปตั้งรวมรี้พลอยู่ที่เมืองเพชรบูรณ์


๖๖ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ พม่าล้อมเมืองพิษณุโลกนานถึง ๔ เดือน เมื่อเข้าเมืองได้ ก็พบแต่เมืองร้าง อะแซหวุ่นกี้จึงสั่งเผาผลาญ ทำลายบ้านเมืองพิษณุโลกพินาศจนหมดสิ้น คงเหลือเฉพาะวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเท่านั้น สมัยรัตนโกสินทร์ เมืองพิษณุโลกมีฐานะเป็นเมืองเอกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหัวเมืองฝ่ายเหนือของไทย มีประชากร ประมาณ ๕๕,๐๐๐ คน เป็นชาวจีนประมาณ ๑,๑๑๒ คน และมีเมืองต่าง ๆ อยู่ในอำนาจการปกครองดูแล หลายหัวเมืองด้วยกัน เช่น เมืองนครไทย ไทยบุรี ศรีภิรมย์ พรหมพิราม ชุมสรสำแดง ชุมแสงสงครามพิพัฒน์ นครชุมทศการ นครพามาก เมืองการ เมืองคำ ประชาชนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพสำคัญ คือ ทำนา ทำไร่ หา ของป่า และทำไม้ พ.ศ. ๒๔๐๙ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระอุตสาหะเสด็จประพาสเมืองเหนืออีกครั้ง หนึ่ง โดยเสด็จทางเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะนั้นกำลัง ผนวชเป็นสามเณรก็ได้ตามเสด็จมาด้วย เมื่อเสด็จถึง ก็ได้ทรงประทับและทรงสมโภชพระพุทธชินราชอยู่ ๒ วัน จึงเสด็จกลับ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งยังดำรงพระยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช) ได้เสด็จ ประพาสเมืองพิษณุโลกทุกพระองค์ ได้ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องต่าง ๆ ที่พระองค์ได้เสด็จไปทอดพระเนตรใน ระหว่างเสด็จประพาส เช่น เรื่องเที่ยวเมืองพระร่วง พระราชปรารภเรื่องพระพุทธชินราชและเรื่องลิลิตพายัพ เป็นต้น เอกสารดังกล่าวเหล่านี้ปัจจุบันมีคุณค่าอย่างยิ่งทางด้านประวัติศาสตร์ ส่วนรัชกาลที่ ๕ นั้น พระองค์ ทรงประทับพระทัยในความศักดิ์สิทธิ์และความสวยงามขององค์พระพุทธชินราช ถึงกับโปรดเกล้าฯ ให้จำลอง พระพุทธรูปพระพุทธชินราชไปเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร ซึ่งพระองค์ทรงสร้างขึ้นในสมัย นั้น ครั้งเมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง สะพานข้ามแม่น้ำน่านหน้าวัดใหญ่ก็ถูกทิ้งระเบิด แต่ทิ้งเท่าไหร่ก็ไม่ถูก เป้าหมาย ทั้ง ๆ ที่ในอดีต เป็นสะพานไม้ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดพิษณุโลก ภูมิศาสตร์


๖๗ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ ที่ตั้งและอาณาเขต จังหวัดพิษณุโลกตั้งอยู่ภาคเหนือตอนล่างและอยู่ในเขตภาคกลางตอนบนสุดของประเทศไทย เรียกกัน ว่า "เหนือล่างกลางบน" ห่างจากกรุงเทพมหานคร ๓๖๘ กม. มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๑๐,๘๑๕ ตร.กม. หรือ ๖,๗๕๙,๙๐๙ ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับ อำเภอพิชัย อำเภอทองแสนขัน และอำเภอน้ำปาด (จังหวัดอุตรดิตถ์) และ แขวงไชยบุรี ประเทศลาว ทิศใต้ ติดต่อกับ อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอวชิรบารมี อำเภอสามง่าม และอำเภอสากเหล็ก (จังหวัดพิจิตร) ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอหล่มสัก อำเภอเขาค้อ อำเภอวังโป่ง (จังหวัดเพชรบูรณ์) อำเภอ ด่านซ้าย และอำเภอนาแห้ว (จังหวัดเลย) ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอกงไกรลาศ อำเภอศรีสำโรง (จังหวัดสุโขทัย) และอำเภอลานกระบือ (จังหวัดกำแพงเพชร) ภูมิประเทศและภูมิอากาศ ทางตอนเหนือและตอนกลางเป็นเขตเทือกเขาสูงและที่ราบสูง โดยมีเขตภูเขาสูงด้าน ตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งอยู่ในเขตอำเภอวังทอง อำเภอวัดโบสถ์ อำเภอเนินมะปรางอำเภอนครไทย และอำเภอ ชาติตระการ พื้นที่ตอนกลางมาทางใต้เป็นที่ราบ และตอนใต้เป็นที่ราบลุ่ม โดยเฉพาะบริเวณลุ่มแม่น้ำน่านและ แม่น้ำยม ซึ่งเป็นแหล่งการเกษตรที่สำคัญที่สุดของจังหวัดพิษณุโลก อยู่ในเขตอำเภอบางระกำ อำเภอเมือง พิษณุโลก อำเภอพรหมพิราม อำเภอเนินมะปราง และบางส่วนของอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลกมีลมมรสุมพัดผ่านจากทะเลจีนใต้และมหาสมุทรอินเดีย และแบ่งฤดูกาลออกได้เป็น ๓ ฤดู ฤดูร้อน ประมาณเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ ๓๒ องศาเซลเซียส ฤดูฝน จะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ปริมาณน้ำฝน เฉลี่ยประมาณปีละ ๑,๓๗๕ มิลลิเมตร ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ ๑๙ องศาเซลเซียส


๖๘ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ รายนามผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ชื่อ ระยะเวลาทำงาน ๑. พระบริรักษ์โยธี (ทองอยู่ สุวรรณบาตร์) ๒. พระไชยศิรินทรภักดี ๒๔๕๖-๒๔๕๗ ๓. พระพิษณุโลกบุรี (สวัสดิ์ มหากายี) ๒๔๕๗-๒๔๕๘ ๔. พระเกษตรสงคราม ๒๔๕๘-๒๔๕๙ ๕. พระสวรรคโลกบุรี ๒๔๕๙-๒๔๖๑ ๖. พระยากัลยาวัฒนาวิศิษฐ์ (เชียร กัลยาณมิตร) ๒๔๖๑-๒๔๗๐ ๗. พระยาสุนทรพิพิธ (เชย มัฆวิบูลย์) ๒๔๗๐-๒๔๗๖ ๘. พระยาศิรีชัยบุรินทร์ ๑๒ มีนาคม ๒๔๕๖ – ๑ กรกฎาคม ๒๔๗๖ ๙. พระสาครบุรานุรักษ์ (เปลื้อง สุวรรณนานนท์) ๒๐ มีนาคม ๒๔๗๘ – ๑๘ พฤษภาคม ๒๔๘๑ ๑๐. พระยาสุราษฎร์ธานีศรีเกษตรนิคม ๑๐ มิถุนายน ๒๔๘๑ – ๑๘ มิถุนายน ๒๔๘๒ ๑๑. พระหลวงยุทธสารประสิทธิ์ (เมี้ยน โรหิตเสรนี) ๒๔ มิถุนายน ๒๔๘๒ – ๗กรกฎาคม ๒๔๘๓ ๑๒. พ.อ.พระศรีราชสงคราม (ศรี ศุขะวาที) ๗ กันยายน ๒๔๘๓ – ๗ พฤษภาคม ๒๔๘๔ ๑๓. พ.ต.หลวงยุทธสารประสิทธิ์ (เมี้ยน โรหิตเสรนี) ๑๖ มิถุนายน ๒๔๘๔-๒๗ กรกฎาคม ๒๔๘๕ ๑๔. หลวงวิเศษ ภักดี (ชื่น วิเศษภักดี) ๒๘ เมษายน ๒๔๘๕ – ๓ มกราคม ๒๔๘๗ ๑๕. หลวงศรีนราศัย (ผิว จันทิมาคม) ๑๑ พฤษภาคม ๒๔๘๗ – ๗ กรกฎาคม ๒๔๘๘ ๑๖. นายพรหม สูตรสุคนธ์ ๗ กรกฎาคม ๒๔๘๘ – ๗ ตุลาคม ๒๔๘๙ ๑๗. ขุนคำนวณวิจิตร (เชย บุนนาค) ๑๘ พฤศจิกายน ๒๔๘๙ – ๖ ธันวาคม ๒๔๙๐ ๑๘. ขุนจรรยาวิเศษ (เที่ยง บุณยนิต) ๖ ธันวาคม ๒๔๙๐ – ๓๑ ธันวาคม ๒๔๙๓ ๑๙. นายพ่วง สุวรรณรัฐ ๑ มกราคม ๒๔๙๔ – ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๔ ๒๐. พต.ขุนทะยานราญรอน (วัชระ วัชรบูล) ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๔ – ๑ พฤศจิกายน ๒๑. พระบรรณศาสตร์สาทร ๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๗ – ๑ สิงหาคม ๒๔๙๗ ๒๒. นายปรง พระหูชนม์ ๑ สิงหาคม ๒๔๙๗ – ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๑ ๒๓. นายพ่วง สุวรรณรัฐ (รักษาการในตำแหน่ง ผ.ว.ก.จว.) ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๑ – ๓ มีนาคม ๒๕๐๑ ๒๔. นายเยียน โพธิสุวรรณ ๒๗ มีนาคม ๒๕๐๑ – ๓ เมษายน ๒๕๐๗ ๒๕. นายเจริญ ภมรบุตร ๙ เมษายน ๒๕๐๗ – ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๙ ๒๖. นายนิรุต ไชยกูล ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๙ – ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๐ ๒๗. นายพล จุฑางกูล ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๐ – ๒ ตุลาคม ๒๕๑๓ ๒๘. นายพัฒน์ บุณยรัตพันธุ์ ๒ ตุลาคม ๒๕๑๓ – ๒๑ กันยายน ๒๕๑๔ ๒๙. นายจำรูญ ปิยัมปุตระ ๑ ตุลาคม ๒๕๑๔ – ๑ ตุลาคม ๒๕๑๕


๖๙ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ ๓๐. พล.ต.ต.สามารถ วายวานนท์ ๑ ตุลาคม ๒๕๑๕ – ๓๐ กันยายน ๒๕๑๗ ๓๑. นายสิทธิเดช นรัตถรักษา ๑ ตุลาคม ๒๕๑๗ – ๓๐ กันยายน ๒๕๑๙ ๓๒. นายชาญ กาญจนาคพันธุ์ ๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ – ๓๐ กันยายน ๒๕๒๓ ๓๓. นายยง ภักดี ๑ ตุลาคม ๒๕๒๓ – ๓๐ กันยายน ๒๕๒๕ ๓๔. นายสืบ รอดประเสริฐ ๑ ตุลาคม ๒๕๒๕ – ๓๑ ตุลาคม ๒๕๒๘ ๓๕. นายนพรัตน์ เวชชศาสตร์ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๒๘ – ๓๐ กันยายน ๒๕๓๒ ๓๖. นายไพฑูรย์ สุนทรวิภาต ๑ ตุลาคม ๒๕๓๒ - ๓๐ กันยายน ๒๕๓๔ ๓๗. นายอภัย จันทนจุลกะ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๔ – ๓๐ กันยายน ๒๕๓๖ ๓๘. นายสวัสดิ์ ส่งสัมพันธ์ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๖ – ๓๐ กันยายน ๒๕๓๙ ๓๙. นายนิธิศักดิ ราชพิตร ๑ ตุลาคม ๒๕๓๙ – ๓๐ กันยายน ๒๕๔๒ ๔๐. นายวิจารณ์ ไชยนันท์ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๒ – ๓๐ กันยายน ๒๕๔๕ ๔๑. นายพิพัฒน์ วงศาโรจน์ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๕ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐ ๔๒. นายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๐ - ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๒ ๔๓. นายปรีชา เรืองจันทร์ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒ - ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ๔๔. นายชัยโรจน์ มีแดง ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ - ๗ ตุลาคม ๒๕๕๕ ๔๕. นายปรีชา เรืองจันทร์ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ๔๖. นายระพี ผ่องบุพกิจ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ๔๗. นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ๔๘. นายชูชาติ กีฬาแปง ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ ๔๙. นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ๕๐. นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ๕๑. นายรณชัย จิตรวิเศษ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ - ปัจจุบัน


๗๐ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ การศึกษา จังหวัดพิษณุโลกเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาคภาคเหนือตอนล่าง มีสถานศึกษามากมายทุก ระดับตั้งแต่อนุบาลจนถึงระดับมหาวิทยาลัยทั้งรัฐบาล และเอกชนดังนี้ อุดมศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตพิษณุโลก


๗๑ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ วิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยทองสุข ศูนย์การศึกษาพิษณุโลก วิทยาลัย


๗๒ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ พยาบาลบรมราชชนนี วิทยาลัย การ สาธารณสุขสิรินธร วิทยาลัย


๗๓ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ แคมบริดจ์ ประเทศไทย


๗๔ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ศูนย์จังหวัดพิษณุโลก อาชีวศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษา จังหวัดพิษณุโลก


๗๕ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก วิทยาลัยเทคนิคสองแคว


๗๖ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ วิทยาลัยพณิชยการบึงพระพิษณุโลก วิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก


๗๗ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ วิทยาลัยการอาชีพนครไทย วิทยาลัยบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีพิษณุโลก


๗๘ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพณิชยการพิษณุโลก


๗๙ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ การขนส่ง จากลักษณะทางภูมิศาสตร์ทำให้จังหวัดพิษณุโลกเป็นจุดศูนย์กลางในด้านคมนาคมของ ภูมิภาคอินโด จีน โดยเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภาคกลางกับภาคเหนือ รวมทั้งภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย จังหวัดพิษณุโลกจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองบริการสี่แยกอินโดจีน" โดยสามารถเดินทางได้โดยทาง หลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒ (แม่สอด-มุกดาหาร) ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๑๑ (อินทร์บุรี-เชียงใหม่) และ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๗ (พิษณุโลก-นครสวรรค์) โดยทางหลวงทั้ง ๓ สายเชื่อมโยงกันด้วยโครงข่าย ถนนวงแหวนรอบเมืองพิษณุโลก โดยทั้งนี้จังหวัดพิษณุโลกมีสถานีขนส่งผู้โดยสาร ๒ แห่งด้วยกัน สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ ๑ ตั้งอยู่ภายในตัวเมือง สำหรับรถโดยสารที่วิ่งบริเวณจังหวัดที่ ใกล้เคียง สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ ๒ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกอินโดจีน เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารที่มีขนาด ใหญ่ ที่สุดในภาคเหนือ ก่อสร้างบนเนื้อที่ ๑๐ ไร ๑๒ ตารางวา รองรับรถโดยสารที่มีเส้นทางผ่านจังหวัดพิษณุโลก รวม ๒๐ เส้นทาง มีชานชาลาสำหรับจอดรถโดยสารทั้งหมด ๔๐ ช่อง แบ่งเป็นอาคารสถานีฯ หลังใหญ่ จำนวน ๒๐ ช่อง อาคารสถานีฯหลังเล็ก จำนวน ๒๐ ช่อง มีช่องจำหน่ายตั๋ว ๒๗ ช่อง มีสถานที่จอดรถสำหรับ ประชาชน จำนวน ๑๐๐ ช่อง มีการจัดสถานที่นั่งรอรถ สำหรับพระภิกษุและประชาชนอย่างเพียงพอ นอกจากการคมนาคมทางรถยนต์แล้ว การเดินทางมาจังหวัดพิษณุโลกยังสามารถมาด้วย รถไฟ หรือ เครื่องบิน โดยที่ท่าอากาศยานพิษณุโลก มีเครื่องบินมีสายการบินนกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย และ กานต์แอร์ มี เที่ยวบินมาลงท่าอากาศยานพิษณุโลกทุกวัน ส่วนการเดินทางภายในตัวจังหวัดนั้น จะมีรถโดยสารสองแถวสีม่วง กับรถโดยสารประจำทาง มินิบัสสี ม่วง วิ่งให้บริการหลายสาย สาธารณสุข จังหวัดพิษณุโลกมีสถานบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่สถานีอนามัย ศูนย์สุขภาพชุมชน คลินิก โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลทหาร โรงพยาบาลเอกชน และโรงพยาบาลระดับมหาวิทยาลัย โดยมีโรงพยาบาล ศูนย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุขประจำจังหวัดและประจำภูมิภาคภาคเหนือตอนล่างคือ โรงพยาบาลพุทธชิน ราช พิษณุโลก และมีโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ขั้นสูงของภูมิภาคภาคเหนือตอนล่างก็คือ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลใน สังกัดกระทรวงกลาโหม คือ โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และโรงพยาบาลกองบิน ๔๖


๘๐ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สวนเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา (แยกเรือนแพ) พิษณุโลก เซ็นทรัลปาร์ค (บริเวณสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก) (โครงการก่อสร้าง)


๘๑ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อำเภอเมืองพิษณุโลก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พระราชวังจันทน์ (ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช) มหาวิหารสมเด็จองค์ปฐม (วัดจันทร์ตะวันตก)


๘๒ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี (จ่าสิบเอกทวี-พิมพ์ บูรณเขตต์) โรงหล่อ พระบูรณะไทย


๘๓ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ สวนนกไทยศึกษา


๘๔ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ เซ็นทรัลพลาซาพิษณุโลก วัดจุฬามณี


๘๕ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ วัดนางพญา อำเภอบางระกำ สวนน้ำสแปลชฟันปาร์ค (สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ)


๘๖ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อำเภอวังทอง สวนสาธารณะบึงราชนก (ส่องนกชมดาว) สวนรุกขชาติสกุโณทยาน (น้ำตกวังนกแอ่น)


๘๗ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ น้ำตกปอย น้ำตกแก่งซอง


๘๘ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ น้ำตกแก่งโสภา อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง


๘๙ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ วนอุทยานเขาพนมทอง ตำบลพันชาลี วัดราชคีรีหิรัญยาราม


๙๐ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อุทยานแห่งชาติภูแดงร้อน วัดพระพุทธบาทเขาสมอแคลง


๙๑ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ โรงเจไซทีฮุกตึ้ง พระมหาธาตุเจดีย์ศรีบวรชินรัตน์


๙๒ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ วัดวังทองวราราม สถูปพระยาสาลีรัฐวิภาค


๙๓ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อำเภอนครไทย อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า


๙๔ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อนุสาวรีย์พ่อขุนบางกลางท่าว (หาว) อำเภอวัดโบสถ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน


๙๕ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่


๙๖ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อำเภอชาติตระการ อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ น้ำตกนาจาน


๙๗ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว น้ำตกตาดปลากั้ง


๙๘ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อำเภอเนินมะปราง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล ถ้ำเดือน ถ้ำดาว


๙๙ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖ อำเภอพรหมพิราม สวนนํ้าพรหมพิรามรีสอร์ท


๑๐๐ ข้อมูลสถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ปี ๒๕๖๖


Click to View FlipBook Version