The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดที่ 4 เรื่องลิพิด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yupin soichit, 2020-06-12 00:53:41

ชุดที่ 4 เรื่องลิพิด

ชุดที่ 4 เรื่องลิพิด

ชดุ การเรียนรู้

หนว่ ยการเรียนรู้ เรอ่ื ง เคมที ่ีเป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4

ชดุ ท่ี 4
เร่อื ง ลพิ ดิ

นางยุพนิ สรอ้ ยจติ ร
ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นช้างบญุ วทิ ยา
สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 33
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน

ชุดการเรียนรู้ ชุดที่ 4

เร่อื ง ลพิ ิด

รายวชิ า ชีววทิ ยา 1 ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 2 ชว่ั โมง

ข้อแนะนาสาหรบั นักเรยี น
1. ใหน้ กั เรยี นเลอื กหวั หนา้ กลมุ่ สมาชกิ กล่มุ และเลขานุการกลมุ่ มอบหมายหน้าท่ี
ความรับผิดชอบ
2. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ข้อ
3. นกั เรียนศึกษาชุดการเรียนรู้ และทากจิ กรรมตา่ งๆ ในชดุ นี้ตามลาดับให้ครบโดยใช้
เวลา 2 ช่ัวโมง
4. ขณะทากจิ กรรมภายในกลุ่ม นักเรยี นต้องช่วยกนั อภิปรายและรว่ มกันหาคาตอบ
รว่ มกัน และร่วมกนั สรปุ องค์ความรู้
5. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น จานวน 10 ข้อ
6. นักเรยี นตรวจสอบคาตอบ ของแบบทดสอบก่อน - หลงั เรยี น และกจิ กรรม
ในชุดการเรียนรู้
7. นักเรียนสรุปคะแนนที่ได้ลงในแบบบนั ทึกคะแนนเพอ่ื ทราบผลการเรยี น
8. นักเรยี นท่ดี ตี อ้ งมคี วามซื่อสตั ย์ต่อตนเองและผอู้ นื่ ไม่ควรดเู ฉลยกอ่ นทากิจกรรม
ในชุดการเรยี นรู้ และแบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น

ผลการเรียนรู้ สำรวจ ตรวจสอบ วิเครำะห์ อภปิ รำย อธิบำยเกีย่ วกับโครงสรำ้ งและหนำ้ ที
ของสำรเคมใี นเซลลข์ องส่งิ มชี ีวิต

2

รายวิชา ชีววิทยา 1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
รหัสวิชา ว31241

เรอื่ ง ลพิ ดิ

คาช้แี จง
1. แบบทดสอบน้ีเป็นแบบทดสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ หำ้ มเขยี น

ข้อควำมลงในกระดำษคำถำม
2. ห้ำมนำแบบทดสอบออกจำกหอ้ งสอบโดยเด็ดขำด
3. ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกท่สี ดุ เพียงข้อเดียว แล้วกำเคร่อื งหมำยกำกบำท (X) ลงในชอ่ ง

กระดำษคำตอบท่ีต้องกำร
ตวั อยา่ ง

ข้อ ก ข ค ง

ABCD

0X

4. ถ้ำนกั เรียนเปล่ียนคำตอบใหข้ ดี เส้นทับตวั เดมิ แล้วเลอื กคำตอบใหม่ ดังตัวอยำ่ ง
ข้อ ก ข ค ง
ABCD
0XX

5. ให้นักเรยี นเร่มิ ทำแบบทดสอบ เมอ่ื กรรมกำรคุมสอบอนญุ ำตเท่ำนนั้
6. เมื่อมีข้อสงสยั เกีย่ วกบั แบบทดสอบให้นักเรยี นถำมกรรมกำรคุมสอบเท่ำนั้น
7. เวลำในกำรทำแบบทดสอบ 10 นำที

กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตร์ โรงเรยี นชำ้ งบญุ วิทยำ
อำเภอท่ำตมู จังหวัดสรุ ินทร์

3

แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอื่ ง ลพิ ดิ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คาช้แี จง นักเรียนเลอื กคำตอบทีถ่ กู ต้องท่ีสดุ เพยี งขอ้ เดียว (10 คะแนน)

1. คุณสมบัติของไขมันและน้ำมนั ในข้อใดถกู ต้อง
ก. ไขมนั มจี ดุ เดือดสงู กวำ่ นำ้ มัน
ข. น้ำมันและไขมนั มีควำมหนำแนน่ สงู กวำ่ นำ้
ค. น้ำมนั มแี รงยึดเหน่ยี วระหวำ่ งโมเลกุลนอ้ ยกว่ำไขมัน
ง. ไขมนั มสี ่วนกรดไขมนั อ่ิมตัวนอ้ ยกว่ำกรดไขมันไม่อ่ิมตวั

2. นำ้ มันและไขมนั แตกต่ำงกันอย่ำงไร
ก. มีองคป์ ระกอบทต่ี ่ำงกนั
ข. มีจำนวนของกรดไขมันไม่เทำ่ กัน
ค. มโี ครงสรำ้ งของกลีเซอรอลต่ำงกัน
ง. มสี ถำนะท่ีอุณหภูมิห้องไม่เหมอื นกนั

3. สำรใดต่อไปนี้ เป็นกรดไขมันไม่อ่ิมตวั
ก. กรดปำล์มมิติก กรดสเตียรกิ
ข. กรดโอเลอกิ กรดสเตยี รกิ
ค. กรดไลโนเลอิก กรดปำลมติ กิ
ง. กรดไลโนเลอิก กรดอะรำชโิ นดกิ

4. กรดสเตียริกเปน็ กรดไขมันชนิดอมิ่ ตัวมจี ดุ หลอมเหลว 70 องศำเซลเซยี สกรดโอเลอิกเป็นกรดไขมัน
ชนดิ ไมอ่ ่ิมตวั มจี ุดหลอมเหลว 16 องศำเซลเซยี สที่อุณหภูมิหอ้ งกรดทงั้ สองจะอยใู่ นลกั ษณะใด

ก. กรดทั้งสองจะอยู่ในสถำนะของเหลว
ข. กรดทงั้ สองจะอยู่ในสถำนะของแข็ง
ค. กรดสเตยี รกิ จะอยูใ่ นสถำนะของเหลวและกรดโอเลอิกจะอยู่ในสถำนะของแขง็
ง. กรดสเตยี ริกจะอยู่ในสถำนะของแข็งและกรดโอเลอกิ จะอย่ใู นสถำนะของเหลว

5. ไตรกลีเซอไรดป์ ระกอบด้วย
ก. กรดไขมนั 2 โมเลกุล กลเี ซอรอล 1 โมเลกุล
ข. กรดไขมัน 1 โมเลกลุ กลีเซอรอล 1 โมเลกุล
ค. กรดไขมัน 2 โมเลกลุ กรดอะมิโน 1 โมเลกุล
ง. กรดไขมัน 3 โมเลกลุ กลีเซอรอล 1 โมเลกุล

4

6. เม่ือนำนำ้ มนั หรือไขมันมำผสมรวมกับนำ้ จะไดผ้ ลอยำ่ งไร เพรำะเหตุใด
ก. รวมเปน็ เน้อื เดยี วกนั เพรำะมีโมเลกลุ มีขั้วเหมือนกนั
ข. รวมเป็นเนื้อเดยี วกัน เพรำะมีโมเลกลุ ไม่มีขว้ั เหมือนกนั
ค. ไขมันและน้ำมันไมล่ ะลำยน้ำ เพรำะโมเลกุลของไขมนั และน้ำมันเปน็ โมเลกุลไมม่ ีข้วั
แต่น้ำเป็นโมเลกลุ มีขวั้
ง. ไขมนั และน้ำมันไม่ละลำยนำ้ เพรำะโมเลกลุ ของไขมนั และนำ้ มันเป็นโมเลกุล มีขว้ั แตน่ ้ำ
เปน็ โมเลกลุ ทไี่ มม่ ขี ั้ว

7. กรดไขมันชนิดใดมจี ดุ หลอมเหลวสูง
ก. กรดไขมันอม่ิ ตวั
ข. กรดไขมันจำเป็น
ค. กรดไขมนั ไม่อ่ิมตวั
ง. ข้อ ข และ ค ถูกต้อง

8. ข้อใดไม่ถกู ต้องเก่ยี วกบั สำรพวกลพิ ิด
ก. เนย น้ำมนั มะกอก และขีผ้ ึง้ เปน็ สำรพวกลิพิด
ข. ลิพิดเกดิ กำรไฮโดรไลซิสไดก้ รดไขมนั และกลเี ซอรอล
ค. ไขมันเป็นสำรพวกเอสเทอรเ์ พรำะมหี ม่แู อลคอกซีคำรบ์ อนลิ เปน็ หมู่ฟังช่นั
ง. ลพิ ิดเป็นสำรอนิ ทรีย์ท่ีมีจดุ เดือดต่ำกว่ำกรดอินทรยี ์ทัว่ ไปทีม่ มี วลโมเลกุลใกลเ้ คียงกัน

9. จำกตำรำงบนั ทกึ ผลกำรทดสอบปรมิ ำณกรดไขมันในนำ้ มนั พชื 3 ชนิด ข้อใดสรุปผลกำรทดลอง
ไดถ้ ูกตอ้ ง

ชนดิ นำ้ มันพืช จำนวนหยดของไอโอดีน
A7
B 15
C 13

ก. น้ำมัน A มีกรดไขมันอิ่มตัวน้อยท่สี ุด
ข. น้ำมัน C มีกรดไขมนั อิ่มตวั มำกท่ีสุด
ค. น้ำมนั A มกี รดไขมันท่มี ีจำนวนอะตอมของ C ท่มี ีพนั ธะคมู่ ำกทีส่ ดุ
ง. น้ำมัน B มกี รดไขมนั ท่มี ีจำนวนอะตอมของ C ที่มีพันธะคู่มำกทส่ี ุด

10. นักเรยี นควรเลอื กปฏบิ ตั ิแบบใด จึงจะเปน็ กำรเพ่ิม HDL ในรำ่ งกำย
ก. รบั ประทำนเบคอนผดั กบั นำ้ มนั หมู กล้วยบวช และไอติมจำกกะทิ
ข. รบั ประทำนแซนวิชอกไก่พร้อมผักรวมมิตร 7 ชนดิ น้ำเตำ้ หู้ใส่เมล็ดธัญพชื
ค. รบั ประทำนผัดหมสู ำมช้นั ตม้ จดื เครื่องในหมู ข้ำวร้อนๆ 2 จำน บัวลอยไขห่ วำน
ง. รบั ประทำนหมพู ะโล้ไขเ่ ค็ม ไสอ้ ่อนย่ำง ผดั คะน้ำกบั หมสู ำมชนั้ กรอบ ขนมช้ัน ขนมเขง่

5

กระดาษคาตอบ

ชอื่ ..............................นำมสกุล................................ชั้น.........เลขท.ี่ .........

ทดสอบกอ่ นเรียน ทดสอบหลงั เรียน

ขอ้ ท่ี ก ข ค ง ขอ้ ท่ี ก ข ค ง

1. 1.

2. 2.

3. 3.

4. 4.

5. 5.

6. 6.

7. 7.

8. 8.

9. 9.

10. 10.

รวม....................คะแนน รวม....................คะแนน

มพี ฒั นาการ.......................คะแนน

6

อา่ นเพื่อการเรยี นรู้
เพอ่ื ให้เกดิ กำรเรียนรู้เกิดประสิทธิภำพ ควรเนน้ จดุ ท่ีสำคัญดว้ ยกำรระบำยสี

องคป์ ระกอบและหน้าท่ขี องลิพิด

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นักเรยี นอธบิ ำยองค์ประกอบของลิพดิ ได้

ลพิ ดิ เปน็ สำรชีวโมเลกุลท่ีมีธำตุคำรบ์ อน เอสเทอร์ที่เป็นไขมนั และน้ำมนั
ไฮโดรเจน และออกซเิ จน เป็นองค์ประกอบหลกั เรียกกนั ทวั่ ๆ ไปว่ำ กลเี ซอไรด์ (glyceride)
พบได้ท้ังในพชื และสัตว์ ทำหนำ้ ทเ่ี ปน็ โครงสร้ำง ไขมนั และนำ้ มัน เปน็ สำรท่มี บี ทบำทต่อ
ของผนงั เซลลแ์ ละเป็นแหล่งพลังงำนสำคญั ชีวติ ของเรำเปน็ อย่ำงย่งิ เป็นสำรที่นยิ มใชใ้ น
ให้พลังงำนประมำณ 37.7 kJ/g กำรประกอบอำหำรเพือ่ เพ่ิมรสชำติของอำหำร
1. ไขมนั และนา้ มนั (Fat and Oil) ทำให้อำหำรมกี ล่ินหอมน่ำรับประทำน พบได้
ไขมันและน้ำมันเปน็ เอสเทอร์ชนดิ หนง่ึ ซึ่งมีอยู่ใน ท้งั ในพชื และสตั ว์ โดยในพชื มกั จะพบใน
ธรรมชำติ จดั เป็นสำรอนิ ทรยี ์ประเภทเดียวกบั ไข ส่วนของเมลด็ เชน่ มะพร้ำวมะกอก ปำล์ม
(Wax) เรียกวำ่ ลิพดิ (Lipid) ลพิ ดิ เปน็ เอสเทอร์ ถ่ัวเหลืองงำ เมลด็ ฝำ้ ย เป็นต้น ส่วนในสตั ว์จะ
ท่โี มเลกุลมีขนำดใหญ่ไมม่ ขี ้วั จึงไม่ละลำยน้ำ มีกำรสะสมไขมันไวต้ ำมเนอ้ื เยื่อใตผ้ วิ หนัง
แต่ละลำยได้ในตัวทำละลำยไม่มขี ว้ั คือตัวทำละลำย บรเิ วณชอ่ งท้องและ ส่วนอืน่ ๆ เชน่ ไขมันโค
อินทรยี ์ เชน่ คลอโรฟอร์ม อเี ทอร์ โพรพำโนน ไขมนั หมู ไข่แดง เป็นต้น
เบนซนี เป็นต้น
ลพิ ดิ แบ่งเปน็ ไขมันและน้ำมนั โดยอำศัยสถำนะ ลิพิด ประกอบด้วยธำต.ุ .................................
เปน็ เกณฑ์ หน้ำท่ขี องลิพดิ ...............................................
1)ไขมันจะเป็นของแข็งท่ีอณุ หภมู ิห้อง 2)น้ำมนั จะ ......................................................................
เป็นของเหลว ท้งั ไขมันและน้ำมันมโี ครงสร้ำง ลิพิดให้พลังงำน..............................................
อยำ่ งเดยี วกนั คือ เปน็ เอสเทอร์ทเ่ี กิดจำก กำรแบ่งลิพิด อำศัยสถำนะ แบง่ ได.้ ..............
ปฏิกริ ิยำระหว่ำงกลีเซอรอลกับกรดไขมนั ......................................................................

กลีเซอรอล(glycerol)เป็นสำรประเภท
แอลกอฮอล์

กรดไขมนั (fatty acid)เปน็ สำรประเภท
กรดอนิ ทรีย์

7

กิจกรรมที่ 15 ทาแผนผงั ให้สมบรู ณ์

5 คะแนน

คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถำมในแผนผังต่อไปน้ใี หถ้ ูกต้อง

สำรชีวโมเลกลุ

ธำตุหลกั .…………….….. ลพิ ิด Wax
ไขมนั และน้ำมนั Colesteral

ลักษณะ มวลโมเลกลุ ขนำดใหญไ่ ม่มีขว้ั ไม่ละลำยในนำ้ แตล่ ะลำยใน.......................

ไขมนั ....................

.............................. มสี ถำนะเป็นของเหลว

เกดิ จากกลเี ซอรอล + กรดไขมนั

เรยี กวำ่ ........................

พบในพชื พบท่เี มลด็ ของพืช เชน่ มะพร้ำว มะกอก ถัว่ เหลอื ง

พบในสตั ว์ สะสมใต้ช้ันของผิวหนงั

8

อ่านเพอื่ การเรยี นรู้
เพ่อื ใหเ้ กิดกำรเรยี นร้เู กดิ ประสิทธิภำพ ควรเนน้ จดุ ทีส่ ำคญั ด้วยกำรระบำยสี

จุดประสงค์การเรียนรู้
นักเรียนอธบิ ำยองคป์ ระกอบของไขมันและนำ้ มันได้

องค์ประกอบและโครงสรา้ งของไขมันและน้ามนั

ไขมันและน้ำมนั มลี ักษณะเป็นสำรประกอบ

ท่ีเรยี กว่ำ ไตรกลีเซอไรด์ (triglycerides) เกิดจำก

กลเี ซอรอล (glycerol) 1 โมเลกุล เขา้ ทาปฏกิ ิรยิ า

กับกรดไขมัน (fatty acids) 3 โมเลกุล โดยมีตวั เรง่

ปฏิกริ ิยำและควำมรอ้ นรว่ มด้วย มีลกั ษณะดังต่อไปน้ี ไตรกลเี ซอไรด์ เกิดจำก
1.1 กลีเซอรอลเป็นสำรจำพวกแอลกอฮอล์ ไม่มีสี .........................................................................
ไม่มีกล่ิน และมรี สหวำน มีสตู รโมเลกลุ เป็น C3H8O3 จงบอกคณุ สมบัติของ
1.2 กรดไขมนั เป็นกรดอินทรียป์ ระเภทหน่งึ มีลักษณะ กลเี ซอรอล
เปน็ โมเลกลุ ที่เกิดจำกอะตอมของธำตุคำร์บอน .........................................................................
และไฮโดรเจนมำเชื่อมต่อกนั เป็นสำยโซย่ ำว กรดไขมัน
มีปลำยขำ้ งหน่ึงเปน็ หมู่ – COOH (หม่คู ำร์บอกซิล) .........................................................................
กรดไขมันมีกปี่ ระเภท อะไรบ้ำง
สญั ลกั ษณ์ R หมำยถงึ หมไู่ ฮโดรคำร์บอน คือ .......................................................................
สว่ นท่เี ป็นสำยโซท่ เี่ กิดจำกอะตอมของธำตุคำร์บอน
และไฮโดรเจนมำเชือ่ มตอ่ กนั ซง่ึ สว่ นทเี่ ปน็ หมู่

ไฮโดรคำร์บอนนเี้ ป็นสว่ นท่มี ผี ลทำใหเ้ กดิ เปน็ กรดไขมนั

ท่ีมีสมบัตแิ ตกตำ่ งกันโดยกรดไขมนั สำมำรถแบ่งได้เปน็

2 ประเภท คือ กรดไขมันอ่ิมตัว และกรดไขมัน

ไมอ่ ่ิมตัว

a. กรดไขมนั

b. Glyceral + fatty acid 3 โมเลกุล

c. หมูไ่ ฮโดรคำร์บอน

1. ไตรกลเี ซอไรด์ d. สูตรโมเลกุลเป็น C3H8O3
2. กลเี ซอรอล e. กรดไขมันอ่ิมตวั

3. คำรบ์ อน,ไฮโดรเจน,หมูค่ ำรบ์ อกซิล จบั คคู่ รบั จำกกรอบไข่ 2 กรอบน้ี
4. ตัวแปรท่ีทำใหก้ รดไขมนั แตกตำ่ งกัน ข้อ 1 คู่กบั ....... ข้อ 2 คู่กับ........
5. ประเภทของกรดไขมนั ข้อ 3 คู่กบั ........ ขอ้ 4 คูก่ ับ.......

ขอ้ 5 คู่กบั ......

9

อา่ นเพอ่ื การเรียนรู้
เพือ่ ให้เกดิ กำรเรยี นรู้เกดิ ประสิทธิภำพ ควรเน้นจดุ ทสี่ ำคญั ด้วยกำรระบำยสี

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรยี นระบชุ นิดของกรดไขมันได้
2. นักเรยี นเปรียบเทียบองค์ประกอบและโครงสร้ำงของกรดไขมนั อม่ิ ตัว และกรดไขมันไมอ่ ิ่มตวั

กรดไขมนั แบ่งได้ 2 ชนิด คือกรดไขมันอิ่มตวั (Saturated fatty acids) และ
กรดไขมนั ไมอ่ ิ่มตวั (Unsturated fatty acids)

1. กรดไขมนั อิ่มตวั (Saturated fatty acids) เป็น 2. กรดไขมนั ไม่อ่มิ ตัว (Unsturated fatty
กรดไขมนั ที่ในหมู่ไฮโดรคำร์บอนมีพันธะระหวำ่ ง acids) คอื กรดไขมนั ท่ีในหมู่ไฮโดรคำร์บอน
อะตอมคำร์บอนท้งั หมดเป็นพันธะเด่ยี ว จงึ ไมส่ ำมำรถ มีพันธะระหวำ่ งอะตอมคำรบ์ อนบำงพนั ธะ
รบั ไฮโดรเจนได้อีก มอี ะตอมคำร์บอนตัง้ แต่ 4 - 24 เป็นพนั ธะคู่ ซงึ่ อำจมีพันธะคู่แหง่ เดยี วหรือ
อะตอม มสี ตู รท่วั ไปคือ CH3(CH2)nCOOH พบไดม้ ำก หลำยแหง่ ก็ได้ ทำใหโ้ มเลกุลมีจำนวนอะตอม
ในไขมันสตั ว์ และนำ้ มนั มะพร้ำว ตัวอยำ่ งไดแ้ ก่ ไฮโดรเจนนอ้ ยกว่ำกรดไขมันอิม่ ตัว มสี ตู รท่ัวไป
กรดสเตียรกิ (มีมำกทสี่ ุด) กรดปำลม์ มิตกิ กรดลอริก CnH2n–1COOH พบได้จำกพืช ตัวอย่ำงของ
เปน็ ตน้ มสี มบัติแข็งตัวงำ่ ย มีจุดหลอมเหลวสูง กรดไขมันไมอ่ ิ่มตวั ได้แก่ กรดไลโนเลอิก
ไมเ่ หมน็ หนื เนื่องจำกไม่ทำปฏิกริ ยิ ำกับออกซเิ จนที่มี กรดโอเลอิก (มีมำกท่สี ดุ ) เป็นตน้ มสี มบัติ
อยู่ในอำกำศ แต่มผี ลเสยี คือหำกรับประทำนเขำ้ ไป แขง็ ตวั ยำก มีจุดหลอมเหลวต่ำ เมอื่ ต้งั ทิ้งไว้
มำกอำจทำใหเ้ กิดกำรอุดตนั ของหลอดเลือดได้ ให้สัมผัสกับอำกำศเปน็ เวลำนำนจะเกิดกล่นิ
เหม็นหนื ได้
กรดไขมนั ท่รี ่ำงกำยสงั เครำะห์ขึน้ เองไม่ได้ เรียกวำ่
กรดไขมันจำเป็น(Essential faty acids ; EFAs) เชน่ กรดไขมนั บำงชนิดรำ่ งกำยสงั เครำะหข์ ้ึนได้
กรดไลโนเลอิก กรดแกมมำไลโนเลนิก เป็นต้น โดย แตบ่ ำงชนิดร่ำงกำยก็ไม่สำมำรถสังเครำะห์ขึ้นได้
มนษุ ยจ์ ำเป็นต้องรับประทำนกรดไขมันจำเป็น ตอ้ งรับจำกอำหำรทรี่ บั ประทำนเขำ้ ไปเท่ำน้ัน
ประมำณวันละ 2-4 กรัมอยู่เสมอ ถ้ำหำกรำ่ งกำยของ เรำเรยี กกรดไขมันที่ร่ำงกำยสังเครำะห์ข้นึ เอง
เรำได้รบั ปริมำณกรดไขมันไม่เพยี งพอ อำจจะมผี ลทำ ไมไ่ ด้วำ่ กรดไขมนั จำเป็น (Essential faty
ให้ร่ำงกำยชะงกั กำรเจริญเติบโต มอี ำกำรอกั เสบและ acids ; EFAs) เช่น กรดไลโนเลอกิ
ตดิ เชือ้ ง่ำย กรดแกมมำไลโนเลนิกเปน็ ต้น โดยมนษุ ย์
จำเป็นต้องรบั ประทำนกรดไขมันจำเป็น
ประมำณ วันละ 2-4 กรัมอยเู่ สมอ ถำ้
หำกรำ่ งกำยของเรำไดร้ ับปริมำณกรดไขมนั ไม่
เพียงพอ อำจจะมีผลทำใหร้ ่ำงกำยชะงักกำร
เจรญิ เติบโต มอี ำกำรอักเสบและติดเช้ือง่ำย

“แสดงโครงสร้างของกรดไขมนั อิ่มตัวและไม่อิ่มตวั ” [Online]. เขำ้ ถึงไดจ้ ำก :
http://www.tudodesenhos.com/d/cadeia-de-lipideos

10

กจิ กรรมท่ี 16 ระบฉุ ันให้ถกู ตอ้ ง
10 คะแนน

คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนระบชุ นิดของกรดไขมันอมิ่ ตวั และกรดไขมนั ไม่อมิ่ ตวั จำกภำพตัวอย่ำงต่อไปน้ี
โดยกำเครื่องหมำยถูก ( ) หนำ้ สัญลักษณด์ ำวในช่องวำ่ งต่อไปน้ใี หถ้ ูกต้อง

กรดไขมนั อิ่มตัว กรดไขมนั ไมอ่ ิ่มตัว

……… ………
….. …..

……… ………
….. …..

……… ………
….. …..

……… ………
….. …..

……… ………
….. …..

11

อ่านเพื่อการเรียนรู้
เพ่อื ให้เกิดกำรเรยี นรเู้ กิดประสทิ ธิภำพ ควรเนน้ จุดท่สี ำคัญด้วยกำรระบำยสี

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนระบชุ นดิ กรดไขมนั อม่ิ ตัว และกรดไขมันไม่อม่ิ ตวั ได้
คาชี้แจง นักเรียนทำควำมเข้ำใจเกี่ยวกบั ชนิดของกรดไขมันอิ่มตวั และกรดไขมันไม่อมิ่ ตัว

กรดไขมันอ่ิมตัว หมู่ไฮโดรคำรบ์ อนมพี นั ธะระหวำ่ งอะตอมคำรบ์ อนทั้งหมด

เปน็ พันธะเดย่ี ว เช่น

ชือ่ C อะตอม โครงสรำ้ ง

1.Luaric acid 12 CH3(CH2)10COOH
2.Myristic acid 14 CH3(CH2)12COOH
3.Palmitic acid 16 CH3(CH2)14COOH
4.Stearic acid 18 CH3(CH2)16COOH
5.Arachidic acid 20 CH3(CH2)18COOH

หมู่ไฮโดรคำรบ์ อนมีพันธะระหว่ำงอะตอมคำร์บอนบำงพันธะ

เป็นพนั ธะคู่ ซึ่งอำจมีพันธะคู่แหง่ เดยี วหรือหลำยแห่งก็ได้ เชน่

ชือ่ C โครงสร้ำง

อะตอม

กรดไขมันไมอ่ ่ิมตวั 1.Palmitoleic 16 CH3(CH2)5CH=CH(CH2)7 COOH
acid

2.Oleic acid 18 CH3(CH2)7CH=CH(CH2)7 COOH
3.Linoleic acid 18 CH3(CH2)4(CH=CHCH2)2 (CH2)6

COOH(cis)

4.Linoleic acid 18 CH3(CH2CH=CH)3(CH2)7 COOH(cis ,
cis)

5.Arachidonic 20 CH3(CH2CH=CHCH2)4(CH2)2
acid COOH(all cis)

กิจกรรมที่ 17 ตอบคาถามให้ถกู ต้อง 12
ชนิด
10 คะแนน
คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนระบุประเภทและช่ือของกรดไขมันต่อไปนี้ใหถ้ ูกตอ้ ง

กรดไขมนั โครงสร้ำง ชื่อ

CH3(CH2)10COOH ………………………...


………………………….

CH3(CH2)14COOH ………………………...


………………………….

CH3(CH2)5CH=CH …………………………. ………………………...
(CH2)7 COOH …

CH3(CH2)7CH=CH ………………………...
(CH2)7 COOH …

………………………….

CH3(CH2)18COOH ………………………...


………………………….

13

กจิ กรรมท่ี 18
เปรียบเทยี บปริมาณกรดไขมันไม่อม่ิ ตัวในน้ามันพชื และน้ามันสัตว์

12 คะแนน

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
นกั เรยี นสำมำรถทดสอบปริมำณกรดไขมนั อมิ่ ตัวและกรดไขมนั ไม่อ่ิมตัวในนำ้ มนั ได้

กจิ กรรมเปรยี บเทียบปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตวั ในน้ามันพชื และน้ามนั สตั ว์
อปุ กรณแ์ ละสารเคมี นำ้ มันพืช น้ำมนั หมู บกี เกอร์ แท่งแก้วคนสำร ชุดตะเกยี งแอลกอฮอล์
หลอดหยด ทิงเจอร์ไอโอดีน
วธิ ีดาเนินการทดลอง

1. นำนำ้ มนั พชื และน้ำมันหมู ชนดิ ละ 10 cm3 ใส่ลงในบีกเกอร์ขนำด 50 cm3 ชนดิ ละ 1 ใบ

นำไปอ่นุ ใหร้ อ้ น

2. หยดทงิ เจอร์ไอโอดีนลงในนำ้ มันจำกข้อ 1 ทลี ะหยดและคนดว้ ยแทง่ แก้ว รอจนสขี องทิงเจอร์

ไอโอดีนหำยไป แล้วจงึ เตมิ หยดต่อไป จนกระทงั่ หยดสดุ ทำ้ ยสไี มเ่ ปล่ยี น นับจำนวนหยดของ

ทงิ เจอร์ไอโอดีน บันทกึ ผล 1.นำ้ มันพืชและน้ำมันหมูใชจ้ ำนวนหยด5
3. อภปิ รำยและสรปุ ผลกำรทดลอง

ตารางบนั ทกึ ผล ทงิ เจอร์ไอโอดนี อย่ำงละเท่ำไหร่
ชนิดของน้ำมนั 2 จำนวนหยดของไอโอดนี ................................................................
2.นำ้ มันชนดิ ใดใชจ้ ำนวนหยดทงิ เจอร์
น้ำมันพชื 2 ไอโอดีนมำกกวำ่ กัน
................................................................
….หยด

3.จำกขอ้ 2 เหตใุ ดจึงเป็นเช่นนั้น

.................................................

น้ำมันหมู ….หยด 4.นำ้ มันชนิดใดมีกรดไขมันไม่อิ่มตวั มำก
.................................................

5.นักเรยี นควรเลือกบริโภคนำ้ มันชนิดใด

.................................................

สรปุ ผลการทดลอง 5

ไอโอดนี เป็นสำรเคมที ่ีสำมำรถทำปฏิกริ ยิ ำกบั .....................ระหว่ำงอะตอมคำรบ์ อน

กบั คำรบ์ อน เกิดเป็นสำรใหม่ท.ี่ .................... ดงั นั้นในกรดไขมันท่ีมีพันธะคู่มำกกว่ำ

กจ็ ะใชจ้ ำนวนหยดของไอโอดีน............................ จำกกำรทดลองพบวำ่ จำนวนหยด

ของทงิ เจอร์ไอโอดีนท่ีใชใ้ นน้ำมันสตั ว.์ ........................ในมันมนั พชื แสดงวำ่ ในนำ้ มนั สัตวม์ ี

กรดไขมันไม่อ่ิมตัว.............................ในน้ำมันพชื

14

กจิ กรรมท่ี 19 ทดสอบความไมอ่ ่ิมตวั ของกรดไขมัน
10 คะแนน

จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ นกั เรียนสำมำรถทดสอบควำมไม่อ่ิมตัวของกรดไขมนั

กจิ กรรมการทดสอบความไม่อิ่มตัวของกรดไขมนั

กรดไขมนั แบ่งไดเ้ ป็นกรดไขมันอมิ่ ตวั และกรดไขมนั ไม่อ่มิ ตัว ซึ่งมีพนั ธะคู่ในโครงสรำ้ ง ไขมัน
ทีม่ ำจำกสตั ว์มักประกอบดว้ ยกรดไขมันอิ่มตวั แตใ่ นไขมันจำกพืชมักพบเป็นกรดไขมันไม่อ่ิมตวั
และพืชบำงชนดิ จะให้กรดไขมนั ไม่อ่มิ ตัวท่ีมีพันธะคู่หลำยตำแหนง่ (polyunsaturated fatty acids
หรือ PUFAs) ในกำรวิเครำะหค์ วำมไม่อิ่มตวั ของกรดไขมันสำมำรถใชส้ ำรพวกฮำโลเจนได้ เชน่ โบรมีน
(bromine) หรอื ไอโอดนี (iodine) โดยสำรเหล่ำน้ีสำมำรถทำปฏกิ ริ ยิ ำกบั พนั ธะคูใ่ นกรดไขมนั ไม่อิม่ ตัว
สำหรบั กำรทดลองน้ีจะใช้ไอโอดนี ปริมำณท่ีกำหนดไวท้ ำปฏิกิรยิ ำกับตวั อย่ำงลิพดิ ถำ้ ลิพิดนั้นมีกรดไขมนั
ไม่อิ่มตัวเป็นองคป์ ระกอบ ไอโอดนี จะถูกใช้จนหมด เม่ือมีกำรเติมนำ้ แป้งลงไปภำยหลงั ก็จะไม่มีไอโอดีน
เหลือพอท่ีจะเกิดโครงสรำ้ งเชิงซอ้ นกับแป้งจนสำรละลำยเปลยี่ นเป็นสีนำ้ เงิน

สารเคมใี ช้
1. ตวั อยำ่ งลิพิด ได้แก่ กรดโอเลอกิ นำ้ มันถัว่ เหลือง น้ำมนั มะพร้ำว นำ้ มันหมู น้ำมันปำล์ม
โอเลอิน
2. กรดแอซตี ิก
3. โพวิโดน – ไอโอดีน (povidone - iodine)
4. น้ำแป้ง

วธิ ที ดลอง
1. เตรียมหลอดทดลอง 5 หลอด หยดตัวอยำ่ งลิพดิ ลงในแต่ละหลอด ๆ ละ 1 ชนิด ปริมำณ

15 หยด
2. เติมกรดแอซตี ิกลงในหลอดทดลองทกุ หลอด ๆ ละ 2 มลิ ลิลิตร เขยำ่ แรงๆ ให้เข้ำกัน
3. หยด โพวโิ ดน – ไอโอดีนลงในหลอดทดลองทุกหลอด ๆ ละ 1 หยดเท่ำๆ กัน เขย่ำแรง ๆ

ให้เขำ้ กันแลว้ ต้งั ทงิ้ ไว้ในทีม่ ืดเป็นเวลำ 1 ช่วั โมง นำออกมำเขยำ่ แรงๆ ให้เขำ้ กันเป็นระยะๆ
4. เมอื่ ครบเวลำ สังเกตสขี องไอโอดีน บันทึกผลแลว้ นำมำเติมนำ้ แปง้ ลงในหลอดทดลอง

ทกุ หลอด ๆ ละ 2 มลิ ลิลิตร เขย่ำแรงๆ ให้เขำ้ กนั สังเกตว่ำสีของสำรละลำยมกี ำร
เปล่ยี นแปลงไปหรือไม่

15

ตารางบันทึกผลการทดลอง

ลกั ษณะท่ีปรำกฏ 5

ตวั อย่ำงลพิ ิด ไอโอดนี ในสำรละลำย สขี องสำรละลำย

เมือ่ ครบเวลำ หลงั เติมน้ำแปง้

กรดโอเลอิก

นำ้ มันปำล์ม

โอเลอิน

นำ้ มนั ถ่วั เหลือง

น้ำมันมะพรำ้ ว

น้ำมนั หมู

ใหเติมเคร่ืองหมำย + หรือ – ลงในตำรำงทำยผลสีของสำรละลำยที่บันทึกไว
กรณีทเ่ี กิดปฏกิ ิริยำกับพนั ธะคูในกรดไขมนั ใหใส + และใส - กรณีท่ไี มเกดิ ปฏกิ ิรยิ ำกบั พันธะคู
ในกรดไขมัน

สรปุ ผลกำรทดลอง

5
…………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….

16

รายวชิ า ชีววิทยา 1 แบบทดสอบหลังเรยี น ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
รหสั วชิ า ว31241

เร่อื ง ลพิ ดิ

คาช้ีแจง
1. แบบทดสอบเป็นแบบทดสอบแบบปรนัย 4 ตวั เลอื ก จำนวน 10 ข้อ ห้ำมเขียน

ขอ้ ควำมลงในกระดำษคำถำม
2. ห้ำมนำแบบทดสอบออกจำกห้องสอบโดยเด็ดขำด
3. ให้นักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกทีส่ ุดเพยี งข้อเดยี ว แล้วกำเครอ่ื งหมำยกำกบำท (X) ลงในชอ่ ง

กระดำษคำตอบท่ีตอ้ งกำร
ตัวอยา่ ง

ข้อ ก ข ค ง

ABCD

0X

4. ถ้ำนักเรียนเปลีย่ นคำตอบให้ขีดเส้นทบั ตัวเดมิ แลว้ เลือกคำตอบใหม่ ดังตวั อย่ำง
ข้อ ก ข ค ง
ABCD
0XX

5. ใหน้ กั เรียนเรมิ่ ทำแบบทดสอบ เมือ่ กรรมกำรคมุ สอบอนุญำตเทำ่ นนั้
6. เมอื่ มีข้อสงสัยเก่ยี วกบั แบบทดสอบใหน้ ักเรียนถำมกรรมกำรคุมสอบเท่ำน้นั
7. เวลำในกำรทำแบบทดสอบ 10 นำที

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์ โรงเรียนชำ้ งบุญวิทยำ
อำเภอท่ำตูม จังหวดั สรุ นิ ทร์

17

แบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง ลพิ ดิ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คาชแ้ี จง นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถกู ต้องทีส่ ุดเพียงขอ้ เดยี ว(10 คะแนน)

1. คณุ สมบัตขิ องไขมันและน้ำมนั ในข้อใดถกู ต้อง
ก. ไขมันมีจดุ เดอื ดสงู กวำ่ นำ้ มัน
ข. น้ำมันและไขมันมีควำมหนำแน่นสูงกวำ่ นำ้
ค. น้ำมนั มีแรงยดึ เหน่ยี วระหว่ำงโมเลกลุ นอ้ ยกว่ำไขมัน
ง. ไขมนั มสี ว่ นกรดไขมนั อ่มิ ตัวนอ้ ยกวำ่ กรดไขมนั ไม่อมิ่ ตัว

2. นำ้ มนั และไขมนั แตกตำ่ งกันอยำ่ งไร
ก. มีองค์ประกอบทต่ี ่ำงกนั
ข. มีจำนวนของกรดไขมันไม่เท่ำกนั
ค. มโี ครงสร้ำงของกลีเซอรอลตำ่ งกนั
ง. มสี ถำนะที่อณุ หภูมหิ ้องไม่เหมอื นกนั

3. สำรใดตอ่ ไปน้ี เป็นกรดไขมันไม่อิม่ ตวั
ก. กรดปำล์มมิติก กรดสเตียรกิ
ข. กรดโอเลอิก กรดสเตียรกิ
ค. กรดไลโนเลอิก กรดปำลมิติก
ง. กรดไลโนเลอิก กรดอะรำชโิ นดกิ

4. กรดสเตียรกิ เปน็ กรดไขมันชนดิ อิม่ ตวั มจี ุดหลอมเหลว 70 องศำเซลเซียส กรดโอเลอิกเป็นกรดไขมนั
ชนิดไมอ่ ่ิมตวั มจี ุดหลอมเหลว 16 องศำเซลเซียสที่อณุ หภมู ิห้อง กรดทั้งสองจะอยู่ในลกั ษณะใด

ก. กรดทัง้ สองจะอยู่ในสถำนะของเหลว
ข. กรดทั้งสองจะอยู่ในสถำนะของแข็ง
ค. กรดสเตียรกิ จะอยใู่ นสถำนะของเหลวและกรดโอเลอิกจะอยู่ในสถำนะของแข็ง
ง. กรดสเตยี รกิ จะอยูใ่ นสถำนะของแข็งและกรดโอเลอิกจะอยู่ในสถำนะของเหลว

5. ไตรกลีเซอไรด์ ประกอบด้วย
ก. กรดไขมนั 2 โมเลกุล กลเี ซอรอล 1 โมเลกลุ
ข. กรดไขมัน 1 โมเลกุล กลเี ซอรอล 1 โมเลกุล
ค. กรดไขมนั 2 โมเลกลุ กรดอะมิโน 1 โมเลกลุ
ง. กรดไขมนั 3 โมเลกุล กลีเซอรอล 1 โมเลกุล

18

6. เมื่อนำน้ำมนั หรือไขมนั มำผสมรวมกบั นำ้ จะไดผ้ ลอยำ่ งไร เพรำะเหตใุ ด
ก. รวมเปน็ เนื้อเดยี วกนั เพรำะมโี มเลกุลมีขั้วเหมือนกัน
ข. รวมเป็นเนอ้ื เดยี วกัน เพรำะมโี มเลกุลไมม่ ีข้วั เหมือนกัน
ค. ไขมนั และน้ำมันไมล่ ะลำยน้ำ เพรำะโมเลกุลของไขมันและน้ำมนั เป็นโมเลกุล
ไม่มขี ัว้ แตน่ ำ้ เปน็ โมเลกุลมีขั้ว
ง. ไขมันและน้ำมันไมล่ ะลำยนำ้ เพรำะโมเลกลุ ของไขมนั และนำ้ มนั เป็นโมเลกุล
มีข้ัวแตน่ ำ้ เป็นโมเลกุลท่ีไมม่ ขี วั้

7. จำกตำรำงบนั ทกึ ผลกำรทดสอบปริมำณกรดไขมนั ในน้ำมนั พชื 3 ชนิด ข้อใดสรปุ ผลกำรทดลองได้
ถูกต้อง

ชนิดน้ำมนั พชื จำนวนหยดของไอโอดีน
A7
B 15
C 13

ก. น้ำมัน A มกี รดไขมันอิ่มตวั นอ้ ยท่สี ดุ
ข. น้ำมนั C มกี รดไขมนั อ่มิ ตวั มำกท่สี ดุ
ค. น้ำมัน A มกี รดไขมนั ท่มี ีจำนวนอะตอมของ C ท่ีมพี นั ธะคู่มำกทีส่ ุด
ง. น้ำมัน B มกี รดไขมันทมี่ จี ำนวนอะตอมของ C ทมี่ พี ันธะคู่มำกทสี่ ุด

8. นักเรียนควรเลอื กปฏบิ ตั ิแบบใด จึงจะเป็นกำรเพิ่ม HDL ในรำ่ งกำย
ก. รับประทำนเบคอนผัดกบั นำ้ มันหมู กลว้ ยบวช และไอตมิ จำกกะทิ
ข. รบั ประทำนแซนวชิ อกไก่พรอ้ มผักรวมมติ ร 7 ชนิด น้ำเต้ำหใู้ สเ่ มลด็ ธญั พืช
ค. รบั ประทำนผดั หมสู ำมชนั้ ต้มจืดเคร่ืองในหมู ข้ำวร้อนๆ 2 จำน บัวลอยไขห่ วำน
ง. รบั ประทำนหมพู ะโล้ไข่เค็ม ใส้ออ่ นยำ่ ง ผัดคะน้ำกบั หมูสำมชนั้ กรอบ ขนมชัน้ ขนมเข่ง

9. กรดไขมันชนิดใดมีจุดหลอมเหลวสงู
ก. กรดไขมนั อมิ่ ตัว
ข. กรดไขมันจำเปน็
ค. กรดไขมันไม่อิม่ ตัว
ง. ขอ้ ข และ ค ถูกต้อง

10. ขอ้ ใดไม่ถูกต้องเก่ยี วกับสำรพวกลพิ ิด
ก. เนย น้ำมันมะกอก และขผ้ี ึง้ เป็นสำรพวกลิพดิ
ข. ลพิ ดิ เกดิ กำรไฮโดรไลซิสไดก้ รดไขมันและกลเี ซอรอล
ค. ไขมันเปน็ สำรพวกเอสเทอร์เพรำะมหี มแู่ อลคอกซีคำร์บอนลิ เป็นหมฟู่ ังช่ัน
ง. ลพิ ดิ เปน็ สำรอนิ ทรยี ท์ ่ีมจี ดุ เดือดต่ำกว่ำกรดอินทรียท์ ่ัวไปทม่ี ีมวลโมเลกุลใกล้เคียงกัน

เฉลย
ชดุ การเรยี นรู้ ชดุ ท่ี 4

21

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หลงั เรียน

ชือ่ ..............................นำมสกุล................................ช้ัน.........เลขที.่ .........

ทดสอบก่อนเรียน ทดสอบหลังเรียน

ข้อที่ ก ข ค ง ข้อท่ี ก ข ค ง

1. 1.

2. 2.

3. 3.

4. 4.

5. 5.

6. 6.

7. 7.

8. 8.

9. 9.

10. 10.

รวม....................คะแนน รวม....................คะแนน

มพี ฒั นาการ.......................คะแนน

22

กิจกรรมท่ี 15 ทาให้แผนผังสมบูรณ์

5 คะแนน

คาชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคำถำมในแผนผงั ต่อไปนใ้ี ห้ถูกต้อง
สำรชีวโมเลกุล

ธำตหุ ลกั C, H, O ลพิ ดิ Wax
ไขมันและน้ำมัน Colesteral

ลักษณะมวลโมเลกลุ ขนำดใหญไ่ ม่มีขว้ั ไม่ละลำยในน้ำ แต่ละลำยในสำรละลำยอนิ ทรีย์

ไขมนั นำ้ มัน
มีสถำนะเปน็ ของแข็ง มสี ถำนะเปน็ ของเหลว

เกดิ จำกกลีเซอรอล + กรดไขมนั

กลีเซอไรด์

พบในพชื พบทีเ่ มล็ดของพชื เชน่ มะพรำ้ ว มะกอก ถัว่
พบในสตั ว์ เหลือง

สะสมใตช้ น้ั ของผิวหนัง

23

กจิ กรรมท่ี 16 ระบุฉนั ให้ถกู ตอ้ ง

10 คะแนน

คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนระบชุ นิดของกรดไขมันอิม่ ตัว และกรดไขมันไม่อ่มิ ตัวจำกภำพตัวอยำ่ งต่อไปนี้
โดยกำเครอ่ื งหมำยถูก( ) หนำ้ สัญลกั ษณด์ ำวในช่องว่ำงต่อไปน้ใี หถ้ ูกต้อง

กรดไขมนั อิ่มตัว กรดไขมันไม่อิ่มตัว

………
…..

………
…..

………
…..

………
…..

………
…..

24

กิจกรรมที่ 17 ตอบคาถามใหถ้ กู ต้อง

10 คะแนน
คาช้แี จง ให้นักเรียนระบปุ ระเภทและช่ือของกรดไขมนั ต่อไปนใ้ี หถ้ ูกต้อง

กรดไขมัน ชนิด
กรดไขมันอ่ิมตัว
โครงสร้ำง ชอื่ กรดไขมนั อิ่มตวั
กรดไขมนั ไมอ่ ิ่มตวั
ขอ้ 1 CH3(CH2)10COOH Luaric acid
กรดไขมนั ไม่อิ่มตัว
ขอ้ 2 CH3(CH2)14COOH Myristic acid กรดไขมันอ่ิมตัว

ขอ้ 3 CH3(CH2)5CH=C Palmitoleic acid

H(CH2)7 COOH …………………

……….

ขอ้ 4 CH3(CH2)7CH=C Oleic acid
H(CH2)7 COOH

ขอ้ 5 CH3(CH2)18COOH Arachidic acid

25

กจิ กรรมท่ี 18
เปรยี บเทยี บปริมาณกรดไขมันไมอ่ ิม่ ตัวในน้ามันพืชและน้ามันสตั ว์

12 คะแนน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
นกั เรียนสำมำรถทดสอบปริมำณกรดไขมนั อิ่มตวั และกรดไขมันไมอ่ ่ิมตวั ในนำ้ มนั ได้

กิจกรรมเปรยี บเทยี บปริมาณกรดไขมนั ไม่อ่ิมตวั ในน้ามนั พืชและนา้ มันสตั ว์

อุปกรณแ์ ละสารเคมี น้ำมนั พืช นำ้ มันหมู บีกเกอร์ แท่งแก้วคนสำร ชุดตะเกยี งแอลกอฮอล์

หลอดหยด ทิงเจอร์ไอโอดีน

วธิ ีดาเนินการทดลอง

1. นำน้ำมนั พชื และน้ำมันหมูชนิดละ 10 cm3 ใส่ลงในบกี เกอรข์ นำด 50 cm3ชนดิ ละ 1 ใบนำไปอุ่น

ให้รอ้ น

2. หยดทงิ เจอร์ไอโอดนี ลงในนำ้ มนั จำกข้อ 1 ทลี ะหยดและคนด้วยแท่งแกว้ รอจนสีของทงิ เจอร์

ไอโอดนี หำยไป แลว้ จึงเติมหยดตอ่ ไป จนกระทั่งหยดสุดท้ำยสีไม่เปล่ยี น นบั จำนวนหยดของ
5
ทงิ เจอร์ไอโอดีน บนั ทึกผล 1. นำ้ มนั พชื และน้ำมันหมูใช้จำนวน
3. อภิปรำยและสรุปผลกำรทดลอง หยดทงิ เจอร์ไอโอดีนอย่ำงละเท่ำไหร่

ตารางบนั ทกึ ผล 2 จำนวนหยดของไอโอดนี นำ้ มันพชื ใชจ้ ำนวนหยดมำกกวำ่
ชนดิ ของน้ำมนั น้ำมันหมู

2. นำ้ มันชนดิ ใดใชจ้ ำนวนหยดทงิ เจอร์

นำ้ มันพืช ….หยด ไอโอดีนมำกกวำ่ กนั .....นำ้ มันพชื ...........
จำนวนมำกกว่ำ 3. จำกขอ้ 2 เหตุใดจึงเป็นเช่นน้ัน
..กรดไขมนั ไม่อม่ิ ตวั มีมำกทำปฏิกิริยำ

น้ำมนั หมู กับไอโอดีน.........

….หยด 4. น้ำมันชนิดใดมีกรดไขมนั ไม่อมิ่ ตัว
จำนวนน้อยกวำ่ มำก .....น้ำมนั พืช
5. นกั เรียนควรเลือกบริโภคนำ้ มนั ชนิด

ใด .....นำ้ มนั พืช

สรุปผลการทดลอง ................................................. 5

ไอโอดีนเปน็ สำรเคมที ส่ี ำมำรถทำปฏิกริ ยิ ำกบั ...พนั ธะค.ู่ ........ระหว่ำงอะตอมคำร์บอน

กับคำรบ์ อน เกดิ เป็นสำรใหม่ท่ี..ไม่มีสี.. ดังนน้ั ในกรดไขมันที่มพี นั ธะคมู่ ำกกว่ำ

กจ็ ะใชจ้ ำนวนหยดของไอโอดีน..มำกกว่ำ... จำกทดลองพบวำ่ จำนวนหยด

ของทงิ เจอร์ไอโอดนี ท่ใี ชใ้ นน้ำมนั สัตว์...ใชน้ อ้ ยกว่ำ...ในนำ้ มนั พืช แสดงว่ำ

ในน้ำมนั สตั วม์ ีกรดไขมันไม่อ่ิมตัว..นอ้ ยกวำ่ ...ในนำ้ มนั พชื

26

กิจกรรมที่ 19 ทดสอบความไมอ่ ่มิ ตัวของกรดไขมนั

10 คะแนน

จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ นกั เรียนสำมำรถทดสอบควำมไม่อิ่มตวั ของกรดไขมนั

กจิ กรรมการทดสอบความไม่อ่ิมตัวของกรดไขมัน

กรดไขมันแบง่ ได้เป็นกรดไขมันอิ่มตวั และกรดไขมนั ไม่อมิ่ ตัวซึง่ มพี นั ธะคใู่ นโครงสร้ำง ไขมนั ท่มี ำ
จำกสัตว์มกั ประกอบด้วยกรดไขมนั อม่ิ ตัว แต่ในไขมนั จำกพืชมกั พบเป็นกรดไขมนั ไม่อ่ิมตัว และพชื
บำงชนิดจะใหก้ รดไขมนั ไมอ่ ่ิมตัวท่มี ีพันธะคหู่ ลำยตำแหน่ง (polyunsaturated fatty acids หรอื
PUFAs) ในกำรวิเครำะห์ควำมไม่อิ่มตวั ของกรดไขมันสำมำรถใชส้ ำรพวกฮำโลเจนได้เช่น โบรมนี
(bromine) หรือ ไอโอดนี (iodine) โดยสำรเหล่ำน้ีสำมำรถทำปฏกิ ิรยิ ำกบั พันธะคู่ในกรดไขมันไม่อิ่มตัว
สำหรบั กำรทดลองน้ีจะใช้ไอโอดนี ปรมิ ำณท่ีกำหนดไว้ทำปฏิกริ ิยำกับตวั อยำ่ งลพิ ดิ ถำ้ ลิพิดนน้ั มีกรดไขมัน
ไม่อิ่มตวั เปน็ องค์ประกอบ ไอโอดีนจะถูกใชจ้ นหมด เม่ือมกี ำรเตมิ น้ำแปง้ ลงไปภำยหลัง ก็จะไม่มีไอโอดนี
เหลอื พอทีจ่ ะเกดิ โครงสร้ำงเชิงซ้อนกับแป้งจนสำรละลำยเปลี่ยนเป็นสนี ำ้ เงนิ

สารเคมใี ช้
1. ตัวอยำ่ งลิพดิ ได้แก่ กรดโอเลอกิ นำ้ มนั ถัว่ เหลอื ง น้ำมนั มะพร้ำว น้ำมนั หมู

นำ้ มันปำลม์ โอเลอิน
2. กรดแอซตี ิก
3. โพวโิ ดน - ไอโอดีน (povidone - iodine)
4. น้ำแปง้

วธิ ีทดลอง
1. เตรียมหลอดทดลอง 5 หลอด หยดตวั อยำ่ งลิพดิ ลงในแต่ละหลอดๆ ละ 1 ชนิด ปริมำณ 15
หยด
2. เติม กรดแอซีติกลงในหลอดทดลองทกุ หลอดๆ ละ 2 มิลลิลิตร เขย่ำแรงๆ ใหเ้ ข้ำกนั
3. หยด โพวโิ ดน-ไอโอดีนลงในหลอดทดลองทกุ หลอดๆ ละ 1 หยดเท่ำๆกัน เขย่ำแรงๆใหเ้ ข้ำ
กันแลว้ ตงั้ ท้งิ ไวในที่มดื เปน็ เวลำ 1 ช่ัวโมง นำออกมำเขยำ่ แรงๆใหเ้ ข้ำกนั เปน็ ระยะๆ
4. เมอื่ ครบเวลำ สังเกตสขี องไอโอดนี บนั ทึกผลแลว้ นำมำเติมน้ำแป้งลงในหลอดทดลองทุก
หลอดๆ ละ 2 มิลลิลิตร เขยำ่ แรงๆให้เข้ำกัน สังเกตวำ่ สขี องสำรละลำยมกี ำรเปลี่ยนแปลงไป
หรอื ไม่

27

ตารางบันทกึ ผลการทดลอง

ลักษณะท่ปี รำกฏ 5

ตวั อยำ่ งลิพิด ของไอโอดนี ใน สขี องสำรละลำย

สำรละลำยเม่อื ครบเวลำ หลงั เตมิ นำ้ แป้ง

กรดโอเลอิก +++++ ใส

น้ำมนั ปำล์ม +++++ ใส

โอเลอิน

นำ้ มนั ถว่ั เหลือง +++++ ใส

น้ำมนั มะพร้ำว +++++ ใส

นำ้ มันหมู ------ สนี ำ้ เงนิ

ใหเติมเคร่ืองหมำย + หรอื – ลงในตำรำงทำยผลสีของสำรละลำยทีบ่ ันทึกไว
กรณีทเี่ กดิ ปฏิกิริยำกบั พันธะคูในกรดไขมันใหใส + และใส - กรณีทีไ่ มเกดิ ปฏิกิรยิ ำกบั พันธะคูใน
กรดไขมัน

สรุปผลกำรทดลอง

5

กำรทดลองนี้จะใช้ไอโอดนี ปริมำณท่ีกำหนดไว้ทำปฏกิ ริ ิยำกับตัวอย่ำง
ลพิ ดิ ถำ้ ลพิ ิดนั้นมกี รดไขมนั ไมอ่ ่มิ ตัวเป็นองค์ประกอบ จะเกิด
โครงสรำ้ งเชงิ ซ้อนกับแป้งจนสำรละลำยเปลย่ี นเป็นสนี ้ำเงิน


Click to View FlipBook Version