The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทที่ 5 ประวัติเซิ้งกระติ๊บข้าว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by supatchaya.oho, 2023-03-19 07:37:25

บทที่ 5 ประวัติเซิ้งกระติ๊บข้าว

บทที่ 5 ประวัติเซิ้งกระติ๊บข้าว

๑๐๗ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาพที่ 5.1 กลองยาว,กระติ๊บข้าว,การแต่งกายเซิ้งกระติ๊บข้าว ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562. บทที่ 5 ประวัติเซิ้งกระติ๊บข้าว


๑๐๘ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มาตรฐานการเรียนรู้ ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและ สากล ตัวชี้วัด ศ ๓.๒ (ป๓/๑) การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน หรือท้องถิ่นของตนเอง สาระสำคัญ เซิ้งกระติ๊บข้าว เป็นการแสดงพื้นเมืองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ในสมัยก่อนนิยมแสดงกันแพร่หลาย มีจังหวะเร็ว ให้ความรู้สึกสนุกสนาน และแสดงถึงวิถีชีวิต ของชาวอีสาน เป็นการแสดงที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์สืบไปยังเยาวชนรุ่นหลัง สาระการเรียนรู้ เซิ้งกระติ๊บข้าว ประวัติความเป็นมา ลักษณะการแสดง เครื่องดนตรีและ จังหวะ ลักษณะการแต่งกาย อุปกรณ์ที่ใช้แสดง โอกาสที่ใช้แสดง จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเซิ้งกระติ๊บข้าว ลักษณะการแต่งกาย อุปกรณ์การแสดง และโอกาสของการแสดงได้ได้(K) ๒. เขียนลักษณะการแต่งกายเซิ้งกระติ๊บข้าวได้(P) ๓. เห็นคุณค่าและประโยน์ของการแสดงนาฏศิลป์พื้นเมืองเซิ้งกระติ๊บข้าว(A)


๑๐๙ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แผนผังสาระการเรียนรู้ ประวัติเซิ้งกระติ๊บข้าว เครื่องแต่งกาย ที่ใช้ในการแสดงเซิ้งกระติ๊บข้าว ลักษณะการแสดง เครื่องดนตรี ที่ใช้ในการแสดงเซิ้งกระติ๊บข้าว ประวัติเซิ้งกระติ๊บข้าว


๑๑๐ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เซิ้งกระติ๊บข้าว เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวภูไท ซึ่งเป็นชาวไทยเผ่าหนึ่งที่มี เชื้อสายสืบต่อกันมาช้านานในดินแดนทางภาคอีสานของไทย เช่น ในเขตจังหวัดสกลนคร และจังหวัดข้างเคียง เซิ้งกระติ๊บข้าวนี้ นิยมแสดงกันในโอกาสรื่นเริงวันนักขัตฤกษ์ต่างๆ การแสดง จะเริ่มด้วย ชาวภูไทฝ่ายชายนำเอาเครื่องดนตรีและเครื่องประกอบจังหวะ หลายอย่าง มีแคน (เครื่องดนตรีชนิดหนึ่งใช้ปากเป่าเป็นทำนองเพลง) กรับ กลองเถิดเทิง กลองเต๊ะ โหม่ง และฉาบ มาร่วมกันบรรเลงเพลงที่มีทำนองและจังหวะรุกเร้า ต่อจากนั้น เหล่าสตรีชาวภูไท วัยต่างๆ ซึ่งมีกระติ๊บข้าว (กล่องใส่อาหาร) แขวนสะพายอยู่ข้างตัว จะออกมาเซิ้งแสดงอากัปกิริยา ของสตรีชาวภูไท ขณะเมื่อสะพายกระติ๊บข้าวใส่ข้าว เพื่อนำอาหารไปส่งให้ แก่สามีและญาติ พี่น้องที่ออกไปทำงานอยู่นอกบ้าน การรำ “เซิ้งกระติ๊บข้าว” ที่เริ่มแพร่หลายไปในจังหวัดอื่นๆ และเป็นที่นิยมกันใน กรุงเทพมหานครนั้นสืบเนื่องมาแต่กรมศิลปากร ได้เรียนขอร้องท่านพลโทแสวง เสนาณรงค์ ซึ่งเวลานั้นเป็นเลขาธิการทำเนียบนายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยติดต่อกับหัวหน้าหมู่บ้าน ในจังหวัด สกลนครให้นำคณะผู้เล่น “เซิ้งกระติ๊บข้าว” ของชาวจังหวัดนั้นเข้ามาฝึกสอน ศิลปินของ กรมศิลปากร เพื่อเตรียมไว้แสดงต้อนรับพระราชอาคันตุกะที่เข้ามาเยือน ประเทศไทยแล้ว กรมศิลปากรได้จัดให้ศิลปินของกรมศิลปากรฝึกหัดไว้และนำออกแสดง ต้อนรับพระราชอาคัณตุกะ ณ โรงละคร ๒ ครั้ง คือ แสดงต้อนรับ ฯพณฯ นายพล ปาร์ก จุงฮี ประธานาธิบดี แห่งสาธารณรัฐเกาหลีใต้ และภริยา เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๙ และแสดงถวาย ต้อนรับ สมเด็จพระเจ้าไฮเล เซลาสซีที่ ๑ พระจักรพรรดิแห่งเอธิโอเปีย เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๑๑ ภาคอีสานนั้น มีภูมิอากาศที่แห้งแล้งแล้ว ดังนั้น ประชาชนจึงต้องทำงานแข่งกับธรรมชาติ ศิลปะที่แสดงออก จะอยู่ในเรื่องของการทำมาหากินแข่งกับเวลา ด้วยเหตุนี้ศิลปะจึงไม่ช้า เนิบนาบ จังหวะค่อนข้างเร็ว ดนตรีที่ใช้เป็นพวกที่ให้จังหวะเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ กลองยาวกรับ แคน ฉาบ ฆ้อง ฉิ่ง เพลงที่ใช้ จะมีท่วงทำนองรวดเร็ว จังหวะกระชับ เข้ากับลีลาของหนุ่มสาว ที่กำลังมีความสุขในหมู่เพื่อนฝูง ประวัติเซิ้งกระติ๊บข้าว


๑๑๑ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 การแต่งกาย ฝ่ายหญิงนุ่งซิ่นแบบมีเชิง นุ่งค่อนข้างสั้น (ต่ำกว่าเข่าเล็กน้อย นุ่งป้าย ธรรมดา) สวมเสื้อแขนกระบอกคอกลมผ่าหน้า ผ้าสไบ สวมสร้อยคอทำด้วยโลหะกลม ๆ แขวนเป็น พวงห้อยระย้า มีกำไลมือ กำไลเท้า หรือต่างหูด้วย เกล้าผมเป็นมวย เซิ้งกระติ๊บข้าว เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวภูไทที่เล่นสืบต่อกันมาช้านาน นิยม แสดงในโอกาสรื่นเริง หรือวันนักขัตฤกษ์ต่าง ๆ เครื่องดนตรีและเครื่องให้จังหวะ มีแคน กรับ กลอง ยาว ฆ้องโหม่ง ฉิ่งและฉาบ มาร่วมกันบรรเลงเพลง ที่มีทำนอง และ จังหวะรุกเร้า ต่อจากนั้นสตรีชาวภูไทวัยต่าง ๆ ซึ่งมีกระติ๊บข้าวแขวนสะพายอยู่ข้าง ตัวออกมา เซิ้งอากัปกิริยาของสตรีชาวภูไทในการเดินด้วยความร่าเริง ทั้งนี้เพื่อการแสดง ถึงการนำอาหาร ไปส่งให้แก่สามีหรือญาติพี่น้องที่ออกไปทำงานนอกบ้าน ท่ารำเซิ้ง มีกระบวนท่ารำ 17 ท่ารำ ได้แก่ ท่าเดิน ท่าไหว้ ท่าสนุกสนาน ท่าสลัดมือ ท่าขยำ สะโพก ท่านั่งเกี้ยว ท่ายืนเกี้ยว ท่ารำส่าย ท่าปั้นข้าวเหนียว ท่าล้างมือ ท่าตั้งวง ท่าเช็ดมือ ท่าดีดข้าวเหนียว ท่าสอดสร้อยมาลาแปลง ท่าบังสุริยา ท่าแยกวง และท่าโปรยดอกไม้ ท่ารำเซิ้งกระติ๊บข้าว ได้แก่ ท่าเดิน ท่าไหว้ ท่าสลัดมือ ท่าขยำสะโพก ท่าปั้นข้าวเหนียว ท่าล้างมือ ท่าตั้งวงท่าเช็ดมือ ท่าดีดข้าวเหนียว ท่าสอดสร้อยมาลัยแปลง ท่าบังสุริยา จังหวะรำเซิ้ง ป๊ะ เท่ง ป๊ะ เท่งป๊ะ เท่งป๊ะ ป๊ะ เท่ง ป๊ะ เท่งป๊ะ เท่งป๊ะ รูปแบบและการแสดงเซิ้งกระติ๊บข้าว เซิ้งกระติ๊บข้าวเป็นการรำหมู่ประกอบด้วยผู้แสดง 6 คน ท่ารำประดิษฐ์ขึ้นโดย เลียนแบบจากกิริยาท่าทางที่เป็นธรรมชาติของหญิงสาว การแสดงจะเริ่มด้วยชาวภูไทฝ่าย ชายนำเครื่องดนตรีและเครื่องประกอบจังหวะ เช่น แคน กรับ กลองยาว กลองเต๊ะ โหม่ง และฉาบ มาร่วมบรรเลง ท่วงทำนองเพลงมีจังหวะรุกเร้าชวนให้สนุกสนาน จากนั้นฝ่ายหญิง ที่แต่งกายพื้นเมืองออกมาร่ายรำประกอบดนตรีด้วยท่าทางที่กระฉับกระเฉงโดยฝ่ายหญิง สะพายกระติ๊บข้าวอยู่ข้างตัวออกมารำเซิ้งเข้ากับทำนองเพลงและจังหวะเพื่อนำกระติ๊บ ใส่ข้าวเหนียวไปส่งให้แก่สามีและญาติพี่น้องที่ออกไปทำงานนอกบ้าน ความสวยงามของ การรำอยู่ที่กระบวนท่าที่มีลักษณะกิริยาท่าทางการเดินของหญิงสาวทั้งแบบช้าเหมือนการ


๑๑๒ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เดินทอดน่อง และการเดินแบบเร่งรีบ การดีดข้าวเหนียว การปั้นข้าวเหนียว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแปรแถวในลักษณะต่าง ๆ เช่น แถวปากพนัง แถวตอนลึก แถววงกลม แถวเฉียง


๑๑๓ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แต่งกายแบบพื้นเมืองภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) นุ่งผ้าซิ่น มีเชิงยาว คลุมเข่าเล็กน้อย สวมเสื้อแขนกระบอก คอกลมหรือคอปิด ห่มสไบทับเสื้อ ภาพที่ 5.2 การแต่งกายเซิ้งกระติ๊บข้าว ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562. เครื่องแต่งกายที่ใช้ในการแสดงเซิ้งกระติ๊บข้าว เครื่องประดับ ๑. เกล้าผมมวยสูงทัดดอกไม้ด้านซ้าย 2. ต่างหู 3. สร้อยคอทำด้วยโลหะ แขวนเป็นพวงระย้า 4. กำไลข้อมือทำด้วยโลหะสีเงิน (ลูกปัด) 5. กำไลข้อเท้าทำด้วยโลหะสีเงิน (ลูกปัด) ๒ ๑ ๓ ๕ ๔


๑๑๔ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาพที่ 5.3 เสื้อแขนกระบอก ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562. ภาพที่ 5.4 ผ้าซิ่นมีเชิง ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562.


๑๑๕ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาพที่ 5.5 ผ้าสไบ ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562. ภาพที่ 5.6 สร้อยคอ ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562.


๑๑๖ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาพที่ 5.7 ต่างหู ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562. ภาพที่ 5.8 ดอกไม้ทัด ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562.


๑๑๗ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาพที่ 5.9 กำไลข้อมือ กำไลข้อเท้า ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562. ภาพที่ 5.10 กระติ๊บข้าว ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562.


๑๑๘ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ๑. เริ่มด้วยฝ่ายชายจะนำเอาเครื่องดนตรีพื้นเมืองและเครื่องประกอบหลากหลายชนิด มาร่วมกันมาบรรเลงทำนองเพลงในจังหวะที่รวดเร็ว รุกเร้าและสนุกสนาน ๒. ฝ่ายหญิงซึ่งมีกระติ๊บข้าว กล่องใส่อาหารทำด้วยไม้ไผ่แขวนสะพายอยู่ข้างตัว โดยออกมา เซิ้งแสดงอากัปกิริยาในการเดินด้วยความร่าเริง สนุกสนาน ท่าของการรำ ได้แสดงให้เห็น ถึงศิลปะกับการดำรงชีวิต เพราะลีลาท่ารำเลียนแบบการทำงาน และท่าทางในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินด้วยความเร่งรีบ โดยมีกระติ๊บข้าวสะพายอยู่ เพื่อจะนำไปให้กับญาติพี่น้อง ที่กำลังทำนาอยู่ โดยจะเดินกันไปเป็นหมู่ มีการหยอกล้อกันไปตลอดทางอย่างสนุกสนาน โอกาสที่ใช้แสดงเซิ้งกระติ๊บข้าว นิยมแสดงในงานเทศกาลต่างๆ เช่น วันสงกรานต์ บุญบั้งไฟ ทอดกฐิน หรือ วันนักขัตฤกษ์ต่างๆ จังหวะเซิ้งกระติ๊บข้าว จังหวะกลอง ป๊ะ เท่ง ป๊ะ เท่งป๊ะ เท่งป๊ะ จังหวะการรำ ๑ ๒ ๓ ๔ หมายเหตุ การใช้เท้าประกอบจังหวะ ผู้รำจะต้องย่ำเท้าตามจังหวะกลอง ๑ ห้อง ลักษณะการแสดง


๑๑๙ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบจังหวะ ทำนองเพลงเซิ้งกระติ๊บข้าว ประกอบด้วย กลองยาว แคน ฆ้องโหม่ง ฉิ่ง ฉาบ กรับ เป็นต้น ภาพที่ 5.11 กลองยาว ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562. เครื่องดนตรีที่ใช้ในการแสดงเซิ้งกระติ๊บข้าว


๑๒๐ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาพที่ 5.12 แคน ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562. ภาพที่ 5.13 ฆ้องโหม่ง ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562.


๑๒๑ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาพที่ 5.14 ฉิ่ง ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562. ภาพที่ 5.15 ฉาบ ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562.


๑๒๒ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาพที่ 5.16 กรับ ที่มา : ศุภัชญา รักนุ่ม, 2562.


๑๒๓ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นาฏศิลป์ไทยเป็นศิลปะประจำชาติที่แสดงถึงความเป็นวัฒนธรรมที่งดงามและ อ่อนช้อย สมควรให้เยาวชนและคนไทยได้เรียนรู้ เพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ และช่วย เผยแพร่นาฏศิลป์ไทย ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก การศึกษานาฏศิลป์ไทยควรศึกษา ประวัติความเป็นมา ของชุดการแสดงรวมไปถึงองค์ประกอบต่างๆ ในการแสดงทั้งนี้เพื่อสามารถนำไปใช้และ เผยแพร่ได้อย่างถูกต้อง ประวัติการแสดงเซิ้งกระติ๊บข้าว เซิ้งกระติ๊บข้าว เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวภูไท ซึ่งเป็นชาวไทยเผ่าหนึ่ง ที่มีเชื้อสายสืบต่อกันมาช้านานในดินแดนทางภาคอีสานของไทย เช่น ในเขตจังหวัด สกลนครและจังหวัดข้างเคียง เซิ้งกระติ๊บข้าวนี้ นิยมแสดงกันในโอกาสรื่นเริงวันนักขัตฤกษ์ ต่างๆ โอกาสที่ใช้แสดง เซิ้งกระติ๊บข้าวนิยมแสดงในโอกาสรื่นเริงและวันนักขัตฤกษ์ต่างๆ ดนตรีที่ใช้ เป็นพวกที่ให้จังหวะเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ กลอง แคน ฉาบ ฆ้อง ฉิ่ง เพลงที่ใช้จะมี ท่วงทำนองรวดเร็ว จังหวะกระชับเข้ากับลีลาของหนุ่มสาวที่กำลังมีความสุขในหมู่เพื่อนฝูง การแต่งกาย ฝ่ายหญิงนุ่งซิ่นแบบมีเชิง นุ่งค่อนข้างสั้น (ต่ำกว่าเข่าเล็กน้อย นุ่งป้ายธรรมดา) สวมเสื้อแขนกระบอกคอกลมผ่าหน้า มีผ้าสไบห่มทับ สวมสร้อยคอทำด้วยโลหะกลมๆแขวน เป็นพวง ห้อยระย้า มีกำไลมือ กำไลเท้า หรือต่างหูด้วย เกล้าผมเป็นมวย เครื่องดนตรีและเครื่องให้จังหวะ ประกอบด้วยแคน กรับ กลองยาว ฆ้องโหม่ง ฉิ่งและฉาบ มาร่วมกันบรรเลง เพลงที่มีทำนองและจังหวะรุกเร้า ต่อจากนั้นสตรีชาวภูไทวัยต่างๆ ซึ่งมีกระติ๊บข้าวแขวน สะพายอยู่ข้างตัวออกมาเซิ้ง อากัปกิริยาของสตรีชาวภูไทในการเดินด้วยความร่าเริง ทั้งนี้ เพื่อการแสดงถึง การนำอาหารไปส่งให้แก่สามีหรือญาติพี่น้องที่ออกไปทำงานนอกบ้าน บทสรุป ประวัติเซิ้งกระติ๊บข้าว


๑๒๔ เอกสารประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชานาฏศิลป์ (ศ 13101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ท่ารำเซิ้ง ท่ารำเซิ้งกระติ๊บข้าว ได้แก่ ท่าเดิน ท่าไหว้ ท่าสลัดมือ ท่าขยำสะโพก ท่าปั้นข้าวเหนียว ท่าล้างมือ ท่าตั้งวงท่าเช็ดมือ ท่าดีดข้าวเหนียว ท่าสอดสร้อยมาลัยแปลง ท่าบังสุริยา จังหวะรำเซิ้ง ป๊ะ เท่ง ป๊ะ เท่งป๊ะ เท่งป๊ะ ป๊ะ เท่ง ป๊ะ เท่งป๊ะ เท่งป๊ะ


Click to View FlipBook Version