เด็กพิเศษ 9 ประเภท

มารู้จักเดก็ พเิ ศษกันเถอะ!

คานา สารบญั

การศกึ ษาพเิ ศษ เป็นการเรยี นการสอน เรอ่ื ง หนา้
สาหรบั บคุ คลท่ีมีความบกพรอ่ งทางดา้ นรา่ งกาย
จิตใจ สตปิ ัญญา การส่อื สาร หรอื มีรา่ งกายพกิ าร บคุ คลทีม่ ีความบกพรอ่ งทางการเห็น 2
ซง่ึ เดก็ กลมุ่ นีม้ กั จะไมไ่ ดร้ บั การศกึ ษาอยา่ งเตม็ ท่ี
ทาใหต้ อ้ งมีระบบและกระบวนการสอนแตกตา่ ง บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางการไดย้ ิน 5
จากเดก็ ท่วั ไป ทงั้ ในดา้ นการสอน อปุ กรณต์ า่ ง ๆ
และสง่ิ อานวยความสะดวก เพ่ือใหเ้ ดก็ ไดร้ บั บคุ คลท่ีมคี วามบกพร่องทางสตปิ ัญญา 8
ประโยชนจ์ ากการเรยี นรูม้ ากท่ีสดุ
บุคคลท่มี ีความบกพรอ่ งทางรา่ งกาย 10

หรือการเคล่อื นไหว หรือสขุ ภาพ

บคุ คลทีม่ ีความบกพร่องทางการเรียนรู้ 13

บุคคลทม่ี ีความบกพรอ่ งทางการพดู และภาษา 15

บคุ คลที่มีความบกพรอ่ งทางพฤตกิ รรมหรืออารมณ์ 17

บคุ คลออทสิ ตกิ 19

บุคคลพิการซ้อน 21

1 1.บุคคลทีม่ คี วามบกพร่อง
ทางการเหน็
ประเภทคนพกิ ารทางการศึกษา 9 ประเภท
บคุ คลทส่ี ญู เสยี การเหน็ ต้งั แต่ระดับเลก็ น้อย
1.บุคคลทมี่ ีความบกพรอ่ งทางการเหน็ จนถงึ บอดสนทิ ซง่ึ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท
2.บคุ คลที่มคี วามบกพร่องทางการได้ยนิ
3.บคุ คลที่มีความบกพร่องทางสตปิ ัญญา 1. คนตาบอด
4. บุคคลทม่ี ีความบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคลือ่ นไหว 2. คนเหน็ เลือนราง
หรอื สุขภาพ
5. บคุ คลทม่ี ีความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ 2
6. บคุ คลทม่ี คี วามบกพร่องทางการพูดและภาษา
7. บุคคลทม่ี คี วามบกพร่องทางพฤตกิ รรมหรืออารมณ์
8. บุคคลออทสิ ติก
9.บคุ คลพกิ ารซ้อน

3 คนเห็นเลือนราง

คนตาบอด สูญเสยี การเหน็ 4
แต่ยังสามารถอา่ น
สูญเสยี การ อักษรตัวพมิ พใ์ หญ่
เหน็ มากจนต้อง ดว้ ยอปุ กรณ์เครอ่ื ง
ใชส้ ือ่ สัมผัส ชว่ ยความพกิ าร
และส่อื เสียง

5 คนหนวก

2.บุคคลทม่ี ีความบกพรอ่ ง บคุ คลที่สญู เสียการไดย้ ินมากจนไมส่ ามารถ
ทางการได้ยิน เข้าใจการพูดผา่ นทางการไดย้ นิ ไม่ว่าจะใส่หรือ
ไม่ใสเ่ ครื่องชว่ ยฟงั มกี ารสูญเสยี รการไดย้ ิน
บุคคลที่สญู เสียการได้ยนิ ตงั้ แตร่ ะดับหูตงึ 90 เดซเิ บลข้ึนไป
นอ้ ยจนถงึ หูหนวก ซึง่ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท

1.คนหูหนวก
2.คนหูตงึ

6

7 3.บุคคลทีม่ ีความบกพรอ่ ง
ทางสตปิ ัญญา
คนหูตงึ
บุคคลท่ีความจากัดอยา่ งชดั เจนในการ
บุคคลทมี่ กี ารได้ยนิ เหลืออยเู่ พียงพอ
ท่จี ะไดย้ ินการพูดผ่านทางการไดย้ ิน โดยทัว่ ไป ปฏิบัติตนในชวี ิตประจาวนั ซึง่ มลี ักษณะเฉพาะ
จะใส่เครื่องชว่ ยฟัง มกี ารสูญเสยี รการได้ยิน
น้อยกวา่ 90 เดซเิ บลลงมาถงึ 26 เดซิเบล คอื ความสามารถทางสตปิ ัญญาตา่ กวา่ เกณฑ์

เฉล่ยี อย่างมนี ัยสาคญั ร่วมกับความจากดั ของ

ทกั ษะการปรบั ตัวอีกอยา่ งน้อย 2 ใน 10 ทกั ษะ

ไดแ้ ก่ การสื่อความหมาย การดูแลตนเองเปน็ ตน้

ท้ังนีไ้ ด้แสดงอาการดังกลา่ วก่อนอายุ 18 ปี 8

9

ดาวน์ซนิ โดรม

4. บคุ คลท่มี คี วามบกพรอ่ งทาง
รา่ งกาย หรือการเคลื่อนไหว

หรือสขุ ภาพ

ซ่ึงแบง่ เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.บคุ คลทมี่ ีความบกพร่องทางรา่ งกาย
หรือการเคลื่อนไหว
2.บคุ คลทม่ี ีความบกพรอ่ งทางสขุ ภาพ

10

11 บคุ คลท่มี คี วามบกพร่องทาง บคุ คลท่ีมีความบกพรอ่ งทาง
สุขภาพ
รา่ งกาย
หรือการเคล่อื นไหว บุคคลท่มี คี วามเจ็บป่วยเรอ้ื รังหรือมีโรค

บุคคลทมี่ อี วัยวะไม่สมสว่ น ประจาตัว ซงึ่ จาเป็นตอ้ งไดร้ ับการรกั ษา
หรือขาดหายไป กระดูก
หรือกล้ามเนื้อผดิ ปกติ มี อย่างต่อเนอื่ งและเปน็ อปุ สรรคตอ่ การศึกษา
อุปสรรคในการเคล่อื นไหว
ทีเ่ กดิ จากโรคทางระบบ ซง่ึ มผี ลทาใหเ้ กดิ ความจาเปน็ ต้องได้รับ 12
ประสาท โรคระบบ การศึกษาพิเศษ
กลา้ มเนื้อและกระดูก การ
ไมส่ มประกอบมาแตก่ าเนิด
อบุ ตั เิ หตุ และโรคตดิ ตอ่

13 14

5.บุคคลทีม่ ีความบกพร่อง
ทางการเรยี นรู้

บุคคลทมี่ คี วามผดิ ปกตใิ นการทางานของ
สมองบางสว่ นที่แสดงถงึ ความบกพร่องใน
กระบวนการเรียนรู้ทอี่ าจเกดิ ข้นึ เฉพาะ
ความสามารถดา้ นใดดา้ นหนง่ึ หรอื หลายดา้ น
คือ การอา่ น การเขียน การเขียน และการคิด
คานวณ ซ่งึ ไมส่ ามารถเรยี นร้ใู นดา้ นทบี่ กพรอ่ ง
ได้ ทง้ั ท่มี ีระดบั สตปิ ญั ญาปกติ

15 16

6. บุคคลทีม่ ีความบกพรอ่ ง
ทางการพูดและภาษา

บคุ คลท่มี คี วามบกพร่องในการเปล่ง
เสยี งพดู เช่น เสียงผดิ ปกติ อัตราความเร็วและ
จงั หวะการพูดผดิ ปกตหิ รอื บคุ คลทมี่ ีความ
บกพรอ่ งในเรอื่ งความเขา้ ใจหรอื การใชภ้ าษาพดู
การเขียนหรือระบบสัญลักษณอ์ ื่นท่ีใชใ้ นการ
ติดตอ่ ส่ือสาร ซึ่งอาจเกี่ยวกับรูปแบบ เนอ้ื หา
และหนา้ ทขี่ องภาษา

17 18

7. บคุ คลที่มคี วามบกพรอ่ ง
ทางพฤติกรรมหรอื อารมณ์

บคุ คลทีม่ พี ฤตกิ รรมเบ่ยี งเบนไปจากปกติ
เป็นอยา่ งมาก และปญั หาทางพฤตกิ รรมนัน้
เปน็ ไปอยา่ งต่อเนื่อง ซงึ่ เป็นผลจากความ
บกพร่องหรือความผดิ ปกติทางจติ ใจหรอื สมอง
ในสว่ นของการรับรู้ อารมณ์
หรือความคดิ เชน่ โรคจติ เภท
โรคซมึ เศร้า และโรคสมอง
เส่อื ม เป็นตน้

19

8. บคุ คลออทิสติก

บุคคลท่ีมคี วามผิดปกตขิ องระบบการทางาน
ของสมองบางสว่ น ซงึ่ ส่งผลต่อความบกพรอ่ งทาง
พัฒนาการด้านภาษา ดา้ นสงั คมและการปฏิสมั พนั ธ์
ทางสงั คม และมีข้อจากดั ดา้ นพฤตกิ รรมหรือมคี วาม
สนใจจากดั เฉพาะเรอ่ื งใดเรื่องหนึ่ง
โดยความผดิ ปกตนิ ้ันค้นพบ
ได้กอ่ นอายุ 30 เดือน

20

21

9.บุคคลพกิ ารซอ้ น

บคุ คลทม่ี ีสภาพความบกพร่องหรือความพกิ าร
มากกว่า 1 ประเภท

22

แลว้ เจอกนั นะ๊ !