บันทกึ ข้อความ
สว่ นราชการ โรงเรียนกฤษณา อำเภอบางปลาม้า จังหวดั สุพรรณบรุ ี
ท่ี พเิ ศษ/2565 วันที่ 29 สงิ หาคม 2565
เร่อื ง รายงานการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย
ระดบั ประถมศกึ ษา
เรียน ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นกฤษณา จำนวน 1 ฉบบั
ส่งิ ที่สง่ มาดว้ ย แบบรายงานผลการอบรม
ตามท่ีข้าพเจ้า นางสาววรรณิษา ธาระมัตร ตำแหน่ง ครู ได้รับมอบหมายให้เข้ารับการ
อบรมเชิงปฏิบตั ิการตามโครงการบ้านนกั วิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับประถมศึกษา ในวันที่ 26
-27 สิงหาคม 2565 ณ ห้องประชุมสโมสรข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานเขตพ้ืนท่ี
การศึกษาประถมศกึ ษาสุพรรณบรุ ี เขต 1
บัดน้ี การอบรมตามโครงการดังกล่าว ได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าจึงขอนำส่ง
รายงานการอบรมมาพรอ้ มกบั หนังสอื ฉบบั นี้
จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบ
ลงชื่อ ...............................................
(นางสาววรรณษิ า ธาระมตั ร)
ตำแหน่ง ครู
แบบรายงานผลการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ ารโครงการบา้ นนกั วิทยาศาสตร์นอ้ ยประเทศไทย
ระดบั ประถมศกึ ษา
*******************************************************************************************
1. โครงการ
ช่อื โครงการ อบรมเชิงปฏิบัติการโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย
ระดบั ประถมศึกษา
จัดโดย สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสุพรรณบรุ ี เขต 1
2. ความร้คู วามสามารถ ประสบการณ์ ทักษะ หรอื อื่น ๆ ที่ไดร้ บั ในการอบรมนำมาเพื่อพฒั นางาน
ของหนว่ ยงาน ดังนี้
❖ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางของโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย เป็น
กระบวนการเรียนรู้ร่วมกันการรู้คิดการเรียนรู้ผ่านโครงงานใช้กระบวนการสืบเสาะความรู้ ท่ีจะสามารถ
ช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทักษะในศตวรรษท่ี 21 ท้ังยังส่งเสริมกระบวนการคิด
ให้กับนักเรียนและพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระดับประถมศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ข้ันพื้นฐานพุทธศักราช 2551 มีการขยายผลโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย ระดับ
ประถมศึกษา โดยเริ่มจากระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1-3 ช่วงชน้ั ท่ี 1 และขยายผลตอ่ เนอื่ งไปในปีต่อๆไป
ดำเนินการตามรูปแบบการบริหารโครงการ เช่นเดียวกับ โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย
ระดับปฐมวัย โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างโอกาสทางการศึกษาระดับให้กับเด็กประถมศึกษา ให้มี
คุณภาพตามมาตรฐานสากลเพิ่มขึ้นมีทักษะที่จำเป็นของโลกในศตวรรษท่ี 21 สามารถแก้ปัญหาปรับตัว
ส่ือสารและทำงานร่วมกบั ผ้อู นื่ ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิผลเพ่ิมขึน้ มนี สิ ยั ในการเรียนรอู้ ย่างตอ่ เน่ืองตลอดชีวิต
วตั ถปุ ระสงค์
1. ส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เด็กในระดับชั้นประถมศึกษาได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ในการ
เรียนรู้วิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ตรงตามเป้าหมาย
ของหลักสูตร
2. พัฒนาทักษะด้านวิทยาศาสตร์ของเด็กประถมศึกษาได้ฝึกการสังเกตรู้จักคิดตั้งคำถามและ
คน้ หาคำตอบดว้ ยตนเองโดยมีครเู ป็นผู้อำนวยการการเรยี นร้แู ละจัดบรรยากาศการเรียนรทู้ ่เี หมาะสม
3. พัฒนาครรู ะดับประถมศึกษาให้สามารถจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เชงิ ปฏิบัตกิ ารตามปรัชญา
การเรียนร้ขู องโครงการซง่ึ ไดแ้ กก่ ารเรยี นรู้ร่วมกันและการรูค้ ิด
3. การเผยแพร่ความรู้ ประสบการณ์ ทกั ษะ และอื่นๆ แก่ผู้ทีเ่ ก่ียวข้อง คอื
1. นำเอาความร้ทู ี่ได้มาถ่ายทอดแก่ครรู ะดับช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1-3 จัดการเรียนร้ใู หน้ ักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1-3 ด้วยกระบวนการสืบเสาะ 8 กิจกรรม
2. สรา้ งองค์ความรู้ และกระบวนการเรียนรู้ทท่ี ำให้นกั เรียนได้มีการสบื เสาะแบบอิสระ โดย
นักเรยี นเป็นคนต้งั ประเดน็ ปัญหาดว้ ยตวั เอง และสรปุ ผลด้วยตนเอง
4. ปญั หา / อุปสรรค ในการเขา้ ร่วมประชมุ / อบรม /สมั มนา
ไมม่ ี
5. เอกสารประกอบการอบรม (ภาคผนวก ก)
5.1 คู่มือการจดั กิจกรรมตามแนวทางทีไ่ ด้รบั การอบรม
5.2 เอกสารรายละเอยี ดที่ตอ้ งใช้ในการอบรม
ความเห็นผู้อำนวยการโรงเรยี น
ทราบ
อืน่ ๆ .............................................................................................................................
(นางดารณี ไตรยสุทธ์ิ)
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นกฤษณา
………../…………………./………….….
ภาคผนวก ก
คู่มือการอบรม
ตารางการวิเคราะห์กิจกรรมการสืบเสาะเกยี่ วกับร่างกาย
คาชี้แจง วเิ คราะห์แนวคดิ และทกั ษะท่เี กี่ยวขอ้ งกบั กิจกรรมและทาเครื่องหมาย ✓ ลงในตารางตามความคิดของทา่ น
แนวคดิ และทกั ษะ กิจกรรม
กจิ กรรมการสบื เสาะเกีย่ วกบั
1. ไม่เห็น 2. ลาย 3. โครง 4. การปรงุ 5. การ 6. ความสูง 7. มอื ยาง 8. การได้รบั
ร่างกาย
ไม่ไดย้ ิน น้ิวมือ กระดูก รส ทดสอบ ของฉนั กล่ิน
ความรู้สกึ
1. แนวคดิ เกีย่ วกับร่างกายและทกั ษะท่ีเก่ยี วข้อง
1.1 สังเกตสว่ นต่าง ๆ ของโครง
กระดกู มนุษย์
1.2 สังเกตโครงสร้างและหนา้ ท่ีของ
กระดกู มอื
1.3 ตรวจสอบและกำหนดวธิ กี ารวัด
เพ่อื บอกความยาวของ
ส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายมนษุ ย์
1.4 เรียนรู้รปู แบบและ
ลักษณะเฉพาะของลายน้ิวมอื
1.5 สะท้อนความสำคญั ของการใช้
ประสาทสัมผสั ไดแ้ ก่ การสมั ผัส
การมองเห็น การได้ยนิ การได้
กล่นิ การชิมรสในวติ ประจำวนั
1.6 เปรยี บเทียบความแตกต่างของ
การตอบสนองตอ่ ส่ิงเร้าของ
สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย
1.7 กำหนดและเปรยี บเทยี บท่มี า
หรือต้นกำเนดิ ของกล่ินดว้ ย
ตวั เองและเทยี บกบั เดก็ คนอ่ืน ๆ
1.8 ทดสอบแกร้ สชาติอาหารด้วย
วธิ กี ารทตี่ ่าง ๆ
1.9 สะท้อนให้เห็นถงึ ความแตกตา่ ง
ของการรบั รูท้ างประสาทสมั ผสั
2. ทักษะทางสังคม
2.1 รบั ฟงั บคุ คลอื่นและ
แลกเปลยี่ นความคดิ เห็นซงึ่ กัน
และกนั
2.2 ช่วยเหลอื และให้ความเคารพ
ซ่งึ กนั และกนั
3. ทักษะกระบวนการ
3.1 การคาดการณ์หรอื การ
แนวคิดและทกั ษะ กจิ กรรม
กิจกรรมการสบื เสาะเกีย่ วกบั
1. ไมเ่ ห็น 2. ลาย 3. โครง 4. การปรงุ 5. การ 6. ความสูง 7. มือยาง 8. การไดร้ ับ
รา่ งกาย
ไมไ่ ดย้ นิ นวิ้ มอื กระดูก รส ทดสอบ ของฉัน กล่ิน
พยากรณ์
ความรู้สึก
3.2 การทำความเข้าใจและ
ตงั้ สมมตฐิ านการทดลอง และ
ส่งต่อไปยังสมมติฐาน
การทดลองอน่ื ๆ
3.3 การบนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรม
3.4 การสร้างผลข้อมลู ทางสถิติ
3.5 การสังเกตและการอธิบาย
ความแตกตา่ ง
3.6 การทำกจิ กรรมโดยใช้
แบบจำลองและสรา้ ง
แบบจำลอง การสะท้อนความ
เข้าใจเก่ยี วกับกิจกรรม
4. ทักษะส่วนบุคคล
4.1 เข้าใจและยอมรบั เอกลกั ษณ์
ของรา่ งกาย
4.2 วางแผนและดำเนินกจิ กรรม
ด้วยตนเองอยา่ งอิสระ
4.3 เรียนรู้การทำงานใหส้ ำเรจ็
ด้วยความสามารถของตนเอง
โดยอาศัยความรู้ทไ่ี ดม้ าจาก
การลงมือปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเอง
บนั ทกึ เพมิ่ เตมิ
แบบบันทึกกจิ กรรม
คาชี้แจง 1. พิมพล์ ายนิ้วมอื ท้งั 10 นิ้วของตนเองลงในตาราง จากน้นั สงั
2. สงั เกตลายนิ้วมือ จากน้นั ระบรุ ูปแบบของลายนิ้วมือแต่ละ
“บัตรประจำตวั ” ช่ือ ............
มือซา้ ย นิว้ หัวแม่มอื นวิ้ ชี้
รูปแบบ มดั หวาย มดั หวาย
มือขวา กน้ หอย กน้ หอย
โคง้ โค้ง
นว้ิ หวั แม่มือ นวิ้ ชี้
รูปแบบ มดั หวาย มัดหวาย
ก้นหอย ก้นหอย
โค้ง โคง้
ม “บัตรประจาตวั ”
งเกตและเปรียบเทียบลายนิ้วมือแตล่ ะนิ้ว
ะนิ้ว
.....................................
นว้ิ กลาง นว้ิ นาง น้ิวกอ้ ย
มัดหวาย มดั หวาย มดั หวาย
ก้นหอย กน้ หอย กน้ หอย
โค้ง โค้ง โค้ง
น้วิ กลาง นิ้วนาง นิ้วกอ้ ย
มดั หวาย มัดหวาย มัดหวาย
ก้นหอย ก้นหอย กน้ หอย
โคง้ โคง้ โคง้
รูปแบบของลายนิว้
ภาพตัวอย่างรูปแบ
มดั หวาย (loop) ก้นหอย
วมือ 3 ประเภทหลกั
บบของลายนิว้ มือ
ย (whorl) โค้ง (arch)
แบบบนั ทึกกจิ กรรมโครงกระดกู 1/2
คำชี้แจง บนั ทกึ สง่ิ ท่ีพบจากการสงั เกตกระดกู แขนและมือ และระบุหนว่ ยที่ใชว้ ดั ความยาว
รูปร่างและความยาวของกระดูกแขน รูปร่างและความยาวของกระดูกมือ
(ระบุหน่วยท่ีใชว้ ดั ) (ระบุหน่วยทใี่ ชว้ ดั )
แบบบนั ทึกกิจกรรมโครงกระดกู 2/2
คำช้ีแจง วาดแบบร่างของแบบจำลองโครงกระดูกแขนและมอื ระบุวสั ดทุ ่ีจะใชท้ ำและความยาวของแต่
ละ
สว่ นลงในช่องว่าง
แบบรา่ งแบบจำลองโครงกระดกู แขนและมือ
(ระบุวสั ดทุ ีใ่ ช้ทำและความยาวของแตล่ ะส่วน)
ภาพโครงกระดกู (image by sjrankin via flickr)
แบบบันทกึ กิจกรรม
คำถามของวา่ น จะแก้ปัญหาความเค็มของซุปได้อย่างไร
วิธีการที่ใช้ แก้ปญั หาความเค็มของซปุ โดยใช้ ......................................................................................
วิธกี ารทดลอง
บนั ทึกผลการทดลอง
สรุปผลการทดลอง
............................................................................................................................. ......................................
............................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .....................................
ฐานกิจกรรมการทดสอบความรสู้ ึก
ระยะเวลา 20 นาที
จุดประสงค์ สงั เกตและเปรยี บเทียบการรบั ความรูส้ ึกของผิวหนังบริเวณต่าง ๆ ท่ีฝ่ามือและนวิ้ มอื
ส่อื และอปุ กรณ์
1. แบบบันทกึ กจิ กรรมการทดสอบความรสู้ ึก 1 ชดุ /คน
2. ดินสอ 1 แท่ง/คน
3. ไมบ้ รรทัด 1 อัน/คู่ (ใช้สำหรับวัดระยะห่างของดนิ สอ)
ข้นั ตอนการทำกจิ กรรม
1. ผูเ้ ขา้ รับการอบรมจบั คเู่ พ่อื ทำกจิ กรรมรว่ มกนั
2. แตล่ ะครู่ ่วมกันตอบคำถามต่อไปนี้
- จะมีความรสู้ ึกอย่างไรเมอ่ื มีดนิ สอปลายแหลม 1 แท่ง มาจมิ้ ทฝ่ี า่ มอื หรอื น้ิวมอื
- จะมคี วามร้สู ึกอย่างไรเมอ่ื มีดินสอปลายแหลม 2 แทง่ ที่ถอื ไว้ชิดติดกันมาจ้ิมทฝี่ า่ มอื หรอื น้วิ มือ
- จะมีความรู้สกึ อย่างไรเม่อื มดี ินสอปลายแหลม 2 แทง่ ทีเ่ วน้ ระยะห่างจากกนั มาจม้ิ ที่ฝ่ามอื หรือน้วิ มอื
3. แต่ละคผู่ ลัดกนั ทำกจิ กรรม ดงั น้ี
3.1 ทำความเข้าใจถงึ วิธกี ารต่าง ๆ ในการจมิ้ ดินสอ ดังน้ี
-วิธกี ารท่ี 1 ใช้ดนิ สอ 1 แท่ง
-วิธกี ารที่ 2 ใชด้ นิ สอ 2 แทง่ ทอ่ี ย่ชู ดิ ตดิ กัน
-วิธีการที่ 3 ใชด้ ินสอ 2 แทง่ ท่ีมรี ะยะห่าง.......เซนตเิ มตร (กำหนดระยะห่างเอง)
3.2 รว่ มกันกำหนดจดุ ทจี่ ม้ิ ดนิ สอบนบรเิ วณตา่ ง ๆ ของฝ่ามือและนิว้ มือใหต้ รงกันในแต่ละวิธี
3.3 คนที่ถูกจ้ิมด้วยดินสอต้องหลับตา เพ่ือสังเกตและบอกความรู้สึกท่ีถูกดินสอจ้ิมในแต่ละบริเวณ
บนฝา่ มอื และนว้ิ มอื และบอกวา่ ถกู ดนิ สอจ้ิมจำนวน 1 หรือ 2 แท่ง
ส่ิงทต่ี ้องควบคมุ ให้เหมือนกันขณะจม้ิ ดินสอ
1. ปลายแหลมของดนิ สอ
2. ตง้ั แท่งดนิ สอใหต้ รงขณะจิ้ม
3. บริเวณท่ีจิ้มบนฝ่ามือและนว้ิ มือตามทีแ่ ต่ละคู่กำหนด
4. แรงทใ่ี ช้จ้ิม
3.4 คนที่จิ้มดินสอจิ้มดินสอลงบนบริเวณที่กำหนดของคนท่ีถูกจ้ิม โดยใช้วิธีการท่ี 1 2 หรือ 3
โดยไม่บอกว่าใช้วิธีการใดในการจ้ิมดินสอในแต่ละคร้ัง และช่วยบันทึกผลลงในแบบบันทึกกิจกรรม
โดยเขียนจุดตามจำนวนดินสอที่ผู้ถูกจิ้มดินสอบอกว่าถูกจิม้ ด้วยดินสอ 1 หรือ 2 แท่ง ในบริเวณต่าง
ๆ ดงั รปู
รปู ตัวอย่างการบันทึกผล
- วิธีการท่ี 2 ใช้ดนิ สอ 2 แท่ง ทอี่ ยู่ชิดตดิ กนั
4. แต่ละคเู่ ปรียบเทียบผลการสังเกตจากการทำกจิ กรรมและร่วมกนั ตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
- ความรสู้ ึกจากการใช้ดนิ สอจ้ิมแตล่ ะครง้ั เหมอื นหรือแตกตา่ งกันอยา่ งไร
- บริเวณใดทีร่ ับความร้สู กึ ไดด้ ีกวา่ กนั รูไ้ ด้อย่างไร
- จะทำอย่างไรให้คนอน่ื ๆ รบั ร้สู มั ผสั ไดว้ า่ ดินสอทมี่ าจมิ้ มี 2 แท่ง
- ในการจมิ้ ผิวหนงั ด้วยดินสอ 2 แทง่ ถ้าระยะหา่ งระหวา่ งดนิ สอมากขึน้ จะรู้สกึ อยา่ งไร
ใช้ขอ้ มลู ใดมาสนบั สนุนความคดิ
5. แต่ละครู่ ว่ มกันอภิปรายและสะทอ้ นสงิ่ ท่ีได้เรียนรู้จากการทำกจิ กรรมน้ี
แบบบนั ทึกกจิ กรรมการทดสอบความร้สู กึ
คำช้ีแจง เขียนจำนวนจุดตามความร้สู ึกวา่ ถกู ดนิ สอจ้มิ 1 หรอื 2 แท่ง ลงบนตำแหนง่ ตา่ ง ๆ ท่ถี กู ดินสอจิ้ม
- วธิ กี ารที่ 1 ใชด้ นิ สอ 1 แทง่
- วธิ ีการท่ี 2 ใชด้ นิ สอ 2 แท่ง ท่อี ยู่ชิดติดกนั
- วธิ กี ารท่ี 3 ใชด้ ินสอ 2 แทง่ ที่มรี ะยะห่าง.......เซนตเิ มตร (กำหนดระยะหา่ งเอง)
ใบฐานกจิ กรรม การสืบเสาะเกย่ี วกบั ความสูงของฉัน
ระยะเวลา 30 นาที
จดุ ประสงค์ วดั และเปรียบเทียบความยาวของเทา้ กบั ความสูงของร่างกายตนเองโดยใชห้ น่วยวดั ท่ีไมใ่ ช่
หน่วยมาตรฐาน (เทา้ ) และหน่วยวดั ท่ีเป็นมาตรฐาน
ส่ือและอุปกรณ์ ตอนที่ 1 กระดาษขนาดใหญ่ ดินสอ/สี/ปากกา กรรไกร กาว/เทปใส และแบบบนั ทึกกิจกรรม
ตอนที่ 2 เครื่องมือในการวดั เช่น ไมบ้ รรทดั สายวดั ตลบั เมตร และแบบบนั ทึกกจิ กรรม
ข้นั ตอนการทากจิ กรรม
ตอนที่ 1 ความสูงของฉัน (เวลา 12-15 นาที)
1. จบั คู่กบั เพอ่ื น และร่วมกนั อภปิ รายว่าเห็นดว้ ยกบั ขอ้ ความต่อไปน้ีหรือไม่ อยา่ งไร
“คนเรามกั มีความสูงประมาณ 7 เทา่ ของความยาวของเทา้ ตนเอง”
2. สังเกตความยาวของเทา้ ของตนเอง และคดิ ว่าตอ้ งมีจานวนเทา้ (ตามความยาว) เทา่ ใดจึงจะเท่ากบั ความสูงของ
ตนเอง จากน้นั บนั ทึกขอ้ มลู “ชื่อ” และ “จานวนเทา้ ตามความคดิ ” ในแบบบนั ทึกกิจกรรม
3. สังเกตอปุ กรณ์ท่ีจดั เตรียมไว้ ไดแ้ ก่ กระดาษขนาดใหญ่ ดินสอ/สี/ปากกา กรรไกร เทปใส
จากน้นั ร่วมกนั อภิปรายวิธีการและวางแผนการตรวจสอบจานวนเทา้ ท่ีคดิ ไวเ้ มื่อเทียบกบั ความสูงของตนเอง และ
แบง่ หนา้ ที่สมาชิกในคขู่ องตนเอง
4. ทาการตรวจสอบตามวิธีที่คดิ และบนั ทึกผล “จานวนเทา้ ท่ีนบั ได”้ ในแบบบนั ทึกกิจกรรม
5. เปรียบเทียบขอ้ มลู ของตนเองและเพ่อื นในกลมุ่ โดยบนั ทึก “ช่ือ” และ “จานวนเทา้ ท่ีนบั ไดเ้ มื่อเปรียบเทียบกบั ความ
สูงของร่างกาย” ลงในแบบบนั ทึกกิจกรรม
6. ร่วมกนั อภิปรายผลจากการทากิจกรรมเพ่ือตอบคาถามวา่ “คนเรามกั มีความสูงประมาณ 7 เทา่ ของความยาวของเทา้
ตนเองจริงหรือ”
ตอนท่ี 2 เท่ากนั หรือไม่ (เวลา 5-8 นาที)
1. รว่ มกันอภปิ รายว่า “คิดว่าสว่ นใดของรา่ งกายของเราท่นี า่ จะมคี วามยาวเท่ากนั บ้าง”
2. สงั เกตเครื่องมือในการวดั เช่น ไมบ้ รรทดั สายวัด ตลบั เมตร และวางแผนวิธีการหาคำตอบ
3. ดำเนนิ การรวบรวมข้อมลู ตามวธิ กี ารทค่ี ิด หรอื สำรวจและเปรียบเทียบความยาวของส่วนตา่ ง ๆ ของ
รา่ งกายของตนเอง โดยใช้เคร่ืองมือวดั เป็นเซนตเิ มตร และบันทกึ ผลลงในตาราง
4. อภิปรายผลร่วมกันในกลุ่มว่า “ส่วนใดของรา่ งกายทีม่ ีความยาวเท่ากันบา้ ง”
แบบบันทึกกจิ กรรม ตอนที่ 1 ความสูงของฉัน
คาชีแ้ จง บนั ทึกช่ือ และจานวนเทา้ เม่ือเทียบกบั ความสูงของตนเองตามความคิด และผลการนบั
ชอื่ จำนวนเท้าตามความคดิ จำนวนเท้าที่นบั ได้
............................................... ............................................... ...............................................
คาชี้แจง บนั ทึกชื่อ และจานวนเทา้ ท่ีนบั ไดเ้ ม่ือเปรียบเทียบกบั ความสูงของร่างกายของตนเองและเพื่อนในกลุ่ม
ชอ่ื จำนวนเท้าที่นับได้
เมอ่ื เปรียบเทยี บกับความสงู ของรา่ งกาย
............................................... ...............................................
............................................... ...............................................
............................................... ...............................................
............................................... ...............................................
............................................... ...............................................
............................................... ...............................................
แบบบันทึกกจิ กรรม ตอนที่ 2 เท่ากนั หรือไม่
คาชี้แจง บนั ทึกความยาวของส่วนของร่างกายที่นามาเปรียบเทียบกนั และผลการ
เปรียบเทียบ
ความยาวของ ความยาวของ ผลการเปรยี บเทยี บ
...................................... ......................................
........................... เซนตเิ มตร ........................... เซนติเมตร เท่ากนั
ไมเ่ ทา่ กนั
ใบฐานกิจกรรมมือยาง
ระยะเวลา 20 นาที
จดุ ประสงค์
1. สังเกตและอธบิ ายหนา้ ที่ของกระดกู มือของมนษุ ย์
2. สร้างแบบจำลองและเปรยี บเทยี บแบบจำลองมือกับมือจริง
3. สงั เกตและอธบิ ายความสัมพันธ์ของลกั ษณะและหน้าทข่ี องกระดูกมือ
สอื่ และอปุ กรณ์
1. ถงุ มือยางเบอร์ S หรือ M กลุ่มละ 1 คู่ 5. เทปกาว
2. ทรายละเอยี ด 6. ฟิลม์ เอกซเรยก์ ระดูกมือเมจกิ สีเขม้
3. กิง่ ไม้ ดนิ สอแท่ง หลอดกาแฟ
7. ปากกา Marker หรอื สี
4. ยางรัดของ 8. กระดาษ A4
ขนั้ ตอนการทำกจิ กรรม
1. จับกล่มุ กลุ่มละ 4-6 คน
2. ร่วมกันอภิปรายคำถาม“ถ้าอยากให้เพอื่ นเข้าใจหนา้ ทีข่ องกระดูกมือ จะมีวธิ กี ารสอ่ื สาร
อย่างไร”
3. แต่ละกลุ่มสงั เกตวสั ดอุ ุปกรณ์และชว่ ยกันคิดสร้างแบบจำลองมือทม่ี ีกระดกู กับมือทไี่ ม่มีกระดูก
จากวัสดอุ ุปกรณท์ ่ีมี และร่วมกนั อภปิ รายคำถามดังต่อไปน้ี
3.1 จะเลือกใช้วสั ด/ุ อปุ กรณอ์ ะไรบา้ ง เพราะเหตใุ ด
3.2 จะมีวธิ ีการทดสอบความสามารถในการถอื ส่งิ ของของมือจำลองทีส่ รา้ งข้นึ ได้อยา่ งไร
4. ร่วมกันสร้างมือจำลองตามท่คี ิดไว้ (คำแนะนำเพิ่มเติม-ให้มือจำลองขา้ งหนึ่ง บรรจุทรายเพยี ง
อยา่ งเดยี ว ส่วนอีกข้างหนงึ่ ให้เลอื กใชอ้ ุปกรณ์ตามที่กลมุ่ เลือกและบรรจุทราย และมัดปากถุงมือ
เพอื่ ไม่ให้
ทรายหก) และวาดรูปลงในแบบบนั ทึก
5. ออกแบบการทดสอบความสามารถของมือจำลองทัง้ 2 แบบ เช่น ถือหรอื ยึดส่ิงของ หรือยก
สิ่งของ และบนั ทึกผล
6. ศึกษาภาพกระดูกมอื จากฟิลม์ เอกซเรยเ์ พิ่มเตมิ และวาดรูปลกั ษณะของกระดูกมือลงบนมือ
จำลอง หรือตดั กระดาษมาตดิ บนมือจำลอง หรอื ตดั กระดาษเป็นรปู กระดกู มือ และติดลงบนถงุ
มือขา้ งใด
ขา้ งหนงึ่
7. สังเกตและร่วมกนั อภปิ รายว่าลักษณะมือของตนเองสมั พนั ธก์ บั การหยิบจับสง่ิ ของอยา่ งไร
8. อภปิ รายส่งิ ทีไ่ ดจ้ ากการทำกิจกรรม โดยใชค้ ำถามดังต่อไปนี้
8.1 มือยางจำลองแต่ละข้างเหมอื นหรือแตกต่างกนั อย่างไร
8.2 มอื ยางเหมอื นหรือแตกต่างจากของจริงอย่างไร
8.3 กระดูกมือมหี นา้ ที่อะไร
8.4 ลักษณะของกระดูกมอื สัมพันธก์ บั หน้าทอี่ ย่างไร
แบบบันทึกกจิ กรรมมือยาง
คำชแี้ จง วาดรปู มอื จำลองท้ัง 2 ขา้ ง พร้อมเขียนชว้ี ัสดุท่ีใช้ในรปู มอื จำลอง พร้อมกับระบุว่าแบบใด
บรรจวุ ตั ถ/ุ วสั ดุใด
ผลการทดสอบและการเลือกใช้วสั ดุ
ภาพมอื จำลองขา้ งที่ 1 ภาพมอื จำลองขา้ งที่ 2
ผลการถือหรือยดึ สง่ิ ของของมือยาง ผลการถือหรือยึดสิ่งของของมือยาง
ถอื หรือยดึ สิ่งของได้ ถอื หรือยึดส่ิงของได้
ถือหรือยึดสิ่งของไม่ได้ ถือหรือยึดสง่ิ ของไมไ่ ด้
1. วสั ดุที่ใช้
1.1 (ถุงมอื ยาง) ใชแ้ ทน .............................................................................
1.2 (ทราย) ใช้แทน .............................................................................
1.3................................................ ใชแ้ ทน ................................................................ .............
ภาพกระดกู มือจากฟลิ ม์ เอกซเรย์ (image by ansik via flickr)
ภาคผนวก ข
ภาพในการอบรม
ใบฐาน กจิ กรรมการได้รับกลิ่น
ระยะเวลา 30 นาที
จดุ ประสงค์
1. สังเกต ทดลอง และอธิบายการใช้ประสาทสัมผสั ในการดมกลิน่
2. สงั เกตและบอกแหล่งท่ีมาหรอื ต้นตอของกลนิ่
วสั ดอุ ุปกรณ์
1. น้ำสะอาด (ไม่มสี ี ไม่มีกลิ่น) 1 ขวด/กลุม่
2. แกว้ ใส 6 ใบ/กลมุ่
3. น้ำสม้ สายชู 1 ขวด/ห้อง
4. หลอดหยด 1 อัน/กล่มุ
5. ช้อนพลาสติก 6 คนั /กลุ่ม
6. กระดาษรปู สเ่ี หลยี่ มจัตรุ สั ขนาดใหญก่ ว่าปากแก้ว 6 แผ่น/กลมุ่
7. กระดาษ A4 1-2 ใบ/กล่มุ
8. ดินสอหรือปากกา 1 แท่ง/กลมุ่
9. น้ำมันหอมระเหยกล่นิ ต่าง ๆ 1 ขวดเล็ก/กลุ่ม
10. เปลอื กผลไม้ที่มีกลิ่น เชน่ เปลือกส้มเขยี วหวาน เปลือกมะกรดู เปลอื กมะนาว ขิง 1-2 ผล/
กล่มุ
ข้ันตอนการทำกิจกรรม
1. ผู้เขา้ รับการอบรมแบ่งกลุ่มย่อยออกเปน็ กลุ่มละ 4-5 คน
2. อ่านใบกิจกรรม การวิจัยเก่ยี วกบั ร่างกาย เร่ือง การไดร้ ับกลนิ่ เพ่อื ทำความเข้าใจเกี่ยว
ความสามารถในการดมกล่นิ และการเตรียมการทดลองการได้รบั กล่นิ
3. แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ ว่า เราสามารถรับกลิ่นไดด้ ีเพียงใด
4. อา่ นการทดลองเร่ืองการได้รับกลนิ่ ตามใบกิจกรรม จากนั้นอภปิ รายกับเพื่อนในกลุ่ม
5. ร่วมกันอภิปรายและออกแบบวธิ ีการทดลอง เพ่ือตอบคำถามวา่ แตล่ ะคนรับกลิ่นได้ดเี ท่ากนั
หรอื ไม่ โดยใหเ้ ลือกที่มาของกลนิ่ ที่กลมุ่ ต้องการทดลอง
6. ทดลองตามวิธีทีไ่ ด้ออกแบบไว้ บนั ทกึ ผล
7. รว่ มกันอภิปรายผลการทดลองและลงข้อสรปุ วา่ แตล่ ะคนมีความสามารถในการรับกล่ินแตกต่าง
กนั หรือไม่ อยา่ งไร
ภาคผนวก ค
เกยี รติบตั รผา่ นการอบรม
ภาคผนวก ค
ภาพกิจกรรมการอบรม