The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบ 2 การนำเสนอ Best practice ครูวรรณิษา สพป สพ.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nuipootmum, 2022-09-27 22:31:35

แบบ 2 การนำเสนอ Best practice ครูวรรณิษา สพป สพ.1

แบบ 2 การนำเสนอ Best practice ครูวรรณิษา สพป สพ.1

A

ปก



คำนำ

แบบแบบรายชื่อผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) โครงการเสริมสร้างคุณธรรม
จริยธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศึกษา “โรงเรียนสุจริต” ปีการศึกษา 2565 เล่มนี้ เป็นแบบรายงาน
นวัตกรรมการปฏิบตั ิที่เปน็ เลิศ (Best Practice) ของนางสาววรรณษิ า ธาระมัตร ตำแหน่ง ครู โรงเรียนกฤษณา
เพื่อเสนอพิจารณาคัดเลือกเป็น นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ที่ดีและประสบความสำเร็จ
ตามคุณลักษณะตามโครงการโรงเรียนสุจริต

เพื่อสะท้อนให้เหน็ ถึงกระบวนการของการจัดทำ นวัตกรรมการปฏบิ ัติทีเ่ ปน็ เลิศ (Best Practice) เรื่อง
“กิจกรรมจติ ศกึ ษา เพ่ือพัฒนาทกั ษะกระบวนการคดิ และยกระดับผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนดว้ ย KAR Model”
โดยเป็นผู้จัดทำผลงานที่มีผลต่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน พัฒนาทักษะกระบวนการคิด ซื่อสัตย์
สุจรติ มีวินยั อย่อู ย่างพอเพยี ง และมีจติ สาธารณะ จึงหวังเปน็ อยา่ งยงิ่ ว่า รายงานฉบบั บนจี้ ะสะท้อนคุณสมบัติ
ดังกล่าวได้ดี และได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนในการนำเสนอ นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)
ของสำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษา สพุ รรณบรุ ี เขต 1 ตอ่ ไป

วรรณษิ า ธาระมตั ร

ตำแหนง่ ครู



สารบัญ

คำนำ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. หน้า

สารบญั ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ก

แบบ 2 แบบรายงานผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบตั ทิ เ่ี ป็นเลศิ (Best Practice)........................................ ข

๑. ความสำคญั ของผลงาน/นวตั กรรมการปฏิบัติทเ่ี ปน็ เลศิ (Best Practice)……………………………… ๑
๒. วัตถุประสงคแ์ ละเปา้ หมายของผลงาน/นวตั กรรมการปฏิบตั ทิ ่เี ป็นเลิศ………………………………….
๓. กระบวนการผลติ ผลงานหรือขน้ั ตอนการดำเนินงาน…………………………………………………………… ๑
๔. ผลการดำเนนิ งาน/ผลสัมฤทธ์ิ / ประโยชน์ท่ีได้รับ………………………………………………………………. ๔
๕. ปจั จัยความสำเร็จ……………………………………………………………………………………………………………. 5
๖. บทเรียนทีไ่ ด้รับ ( Lesson Learn)………………………………………………………………………………….... ๑๑
๗. การเผยแพร/่ การไดร้ ับการยอมรับ/รางวัลท่ีได้รับ……………………………………………………………….. ๑๔
๘. ขอ้ เสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………….. ๑๕
๑๖
ภาคผนวก............................................................................................................................. .................... ๒๒

๒๓

1

แบบที่ 2 แบบรายงานผลงาน/นวตั กรรมการปฏบิ ตั ทิ เี่ ป็นเลิศ (Best Practice) แบบ ๒

โครงการเสรมิ สร้างคณุ ธรรม จริยธรรมและธรรมาภบิ าลในสถานศึกษา “โรงเรียนสจุ ริต”

ปกี ารศกึ ษา 2565

ช่ือผลงาน “กจิ กรรมจิตศึกษา เพื่อพัฒนาทกั ษะกระบวนการคดิ และยกระดับผลสัมฤทธิท์ างการเรียน

ด้วย KAR Model”

ชอื่ เจา้ ของผลงาน นางสาววรรณษิ า ธาระมตั ร

โรงเรยี นกฤษณา

สังกดั สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา สุพรรณบุรี เขต 1

โทรศพั ท์มือถอื 081-4595801 e-mail [email protected]

ประเภทผลงาน

 ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา

 ครู

 นกั เรียน

 บคุ ลากรทางการศึกษา/ผู้รับผิดชอบโครงการโรงเรียนสุจริต

ผลงานสอดคล้องกับคณุ ลกั ษณะโรงเรียนสจุ รติ

 ทักษะกระบวนการคิด

 มีวินยั

 ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต

 อยอู่ ย่างพอเพียง

 จิตสาธารณะ

รายละเอียดเอกสารการนำเสนอผลงาน/นวตั กรรมการปฏิบัตทิ เ่ี ป็นเลิศ (Best Practice)

1. ความสำคญั ของผลงาน/นวตั กรรมการปฏิบัติที่เปน็ เลิศ (Best Practice)

ครูผู้สอนเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความคิดของผู้เรียน องค์ประกอบที่จะพัฒนา

ความคิดในตัวผู้เรียนอยู่ที่เทคนิคและวิธีการสอนของครูผู้สอน ที่จะช่วยกระตุ้น ส่งเสริม และพัฒนาความคิด

ของผเู้ รียนให้งอกงามขนึ้ ครกู ็ควรจัดกจิ กรรมใหส้ อดคล้องกบั ความเหมาะสม ความต้องการของผเู้ รียน โดยหา

เทคนคิ วธิ กี ารสอนใหม่ ๆ แปลก ๆ มงุ่ ใหผ้ ู้เรียนได้ลงมือปฏบิ ัติด้วยตนเอง คอยติดตามให้กำลังใจพร้อมท้ังเปิด

โอกาสให้ผู้เรยี นได้มีอิสระในการแสดงออกดว้ ยการพูด หรือการกระทำตามจินตนาการและความพงึ พอใจของ

ผเู้ รยี น กจ็ ะช่วยพัฒนาความคดิ ของผ้เู รียนได้เป็นอย่างดี

ปญั หา

ปัญหาหนึ่งของการศึกษา คือ การที่เด็กไทยไม่เก่งในเรื่องการคิดวิเคราะห์ เราให้ความรู้ด้านวิชาการ

กนั เตม็ ท่ี แต่เราไม่ค่อยไดใ้ หค้ วามรู้ทีเ่ ป็นการส่งเสรมิ กระบวนการคิดวิเคราะห์เท่าไหร่ เด็กไทยต้องเสียเวลาใน

การอ่านหนังสือเรียนมากมาย แต่สุดท้ายผลลัพธ์ออกมาก็ยังมีเด็กหลายคนที่ยังไม่สามารถนำความรู้นั้นไป

ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ ได้ การคดิ (Thinking skill) เปน็ กิจกรรมที่ใชใ้ นการประมวลผลข้อมูลแก้ปัญหาตัดสินใจ

และสร้างแนวคิดใหม่ ๆ เรามักจะใช้ทักษะการคิดเมื่อพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับประสบการณ์ การจัด

ระเบียบข้อมูล การเช่ือมต่อคำถาม การคิดวางแผนหรือตัดสนิ ใจว่าจะทำอะไร

2

ดังนั้นครูผู้สอนจึงมีความท้าทายอย่างยิ่งที่จะต้องทำสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
และสามารถพัฒนาทักษะกระบวนการคิดของนักเรียนให้ได้ เนอื่ งจากทกั ษะการคิด (Thinking skill) มรี ปู แบบ
ต่างๆ ได้แก่

1. การคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) หมายถึง กระบวนการคิดในรูปแบบใหม่ๆ ความสามารถ
ในการรับรู้ความคิดใหม่ ๆ และนวัตกรรมโดยแยกออกจากความคดิ ทฤษฎีกฎและข้ันตอนการทำงานเกี่ยวข้อง
กับการวางสิ่งต่างๆด้วยกันในรูปแบบใหม่และจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์มักเรียกกันว่า "การคิดนอก
กรอบ"

2. การคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical thinking) หมายถึง กระบวนการคิดในรายละเอยี ด ความสามารถ
ในการแยกแยะส่วนต่างๆออกเป็นส่วนพื้นฐาน หรือส่วนย่อย ๆ เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์ความเชื่อมโยง
หรือความสัมพันธ์ของสว่ นประกอบต่างๆ เปน็ การคิดในเชิงตรรกะทลี ะขั้นตอนเพ่ือแบง่ ระบบข้อมูลขนาดใหญ่
ออกเปน็ ส่วน ๆ เพอื่ มาวิเคราะห์หาสาเหตุ หรือเป้าหมายทต่ี ้องการ

3. การคดิ เชงิ อยา่ งมีเหตุผล (Critical thinking) หมายถงึ กระบวนการคดิ โดยใช้วิจารณญาณหรือการ
ตัดสินอย่างมีเหตุผลรอบด้าน โดยใช้เหตุผลในการวิเคราะห์ประเด็น รวมทั้งการรวบรวมข้อมูลต่างๆรอบด้าน
การสำรวจองค์ประกอบอื่น ๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อข้อสรุป เพื่อตรวจสอบพิจารณา ตัดสินและประเมินความ
ถกู ต้อง หรอื สิ่งทีเ่ ป็นประเด็นในขณะนัน้ ๆ ให้แมน่ ยำ

4. การคิดเชิงกลยุทธ์ (strategic thinking) หมายถึง กระบวนการคิด โดยการวิเคราะห์และประเมิน
เหตกุ ารณท์ ี่เก่ยี วข้อง และแนวทางการปฏิบัติ เพื่อตัดสนิ ใจใหบ้ รรลุเป้าหมายท่ีต้องการอย่างมปี ระสิทธิภาพสูง
ทส่ี ุด โดยเฉพาะในปัจจบุ ันทส่ี ถานการณ์ของโลกมกี ารเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็

5. การคิดเชิงบวก (Positive thinking) หมายถึง กระบวนการคิดและเข้าใจในสิ่งที่เป็นทั้งด้านบวก
และด้านลบ แล้วหาเรื่องราวดีๆ หรือมุมบวก ในเหตุการณ์หรือสิ่งต่างๆ ที่ได้พบเจอ เพื่อยอมรับ เรียนรู้
ปรับปรงุ แก้ไข และใหเ้ ราเติบโตข้ึน

6. การคิดเชิงนวัตกรรม (Innovative thinking) หมายถึงกระบวนการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆและ
นวตั กรรม จากทักษะและกระบวนการคิดแบบตา่ งๆ ท่ีมีประโยชน์ต่อผูค้ น สงั คม โลก ออกมาเป็นรูปธรรม

7. การคดิ เชิงระบบ (System thinking) หมายถึง กระบวนการคิดอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน การมองภาพรวม
อย่างเป็นระบบ มีส่วนประกอบย่อย ๆ มีขั้นตอน และรายละเอียดแยกย่อยออกมา และเชื่อมโยงกับระบบ
ตา่ งๆ

ความต้องการ
การคิดเป็นกระบวนการทางสมองในการนำข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่ได้รับไปเชื่อมโยงกับข้อมูลหรือ
ประสบการณ์เดิม เพื่อสร้างความหมายให้แก่ตน เกิดเป็นความรู้ความเข้าใจที่สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์
ต่าง ๆ การคิดเป็นงานเฉพาะตนเป็นกระบวนการภายในที่แต่ละบุคคลต้องดำเนินการเอง ไม่มีผู้ใดทำแทนไ ด้
แต่บุคคลอืน่ รวมท้ังสภาพแวดลอ้ มและประสบการณต์ า่ ง ๆ สามารถกระตุ้นให้บคุ คลเกดิ การคดิ ได้
อันที่จริงคนเราทุกคนมีปกติวิสัยที่จะคิดอยู่แล้ว แต่การคิดที่กระบวนการศึกษามุ่งพัฒนานี้ หมายถึง การ
คิดที่มีจุดมุ่งหมาย มีคุณภาพ มิใช่การคิดไปเรื่อย ๆ แต่เป็นการคิดที่กระทำอย่างจงใจ เพื่อให้ได้บทสรุปหรือ
คำตอบทดี่ ี ทีส่ ามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้

3

เนื่องจากจุดมุ่งหมายในการคิดมีหลากหลาย เช่น การคิดเพื่อแก้ปัญหา การคิดเพื่อการปฏิบัติ หรือ
กระทำสงิ่ ใดสิง่ หนึ่งให้ถูกตอ้ งและเกิดผลดี การคิดเพือ่ สร้างสิ่งใหม่ทดี่ ีกว่าเดิม การคดิ เพือ่ ใหเ้ กิดความเข้าใจใน
เรอื่ งหรือสถานการณต์ ่าง ๆ กระบวนการคิดทจี่ ะทำให้จุดมุ่งหมายของการคิดนั้น ๆ บรรลผุ ลจึงแตกต่างกันทำ
ใหเ้ กดิ คำหรอื ศัพท์ท่ีใช้เรียกการคิดทมี่ ีลักษณะแตกต่างกันจำนวนมากดงั ตัวอย่างคำทีผ่ ู้ใหญ่มักชอบสอนเด็ก ๆ
หรือพอ่ แม่สอนลูกหลานท่ีมักได้ยินบ่อย ๆ เช่น “คิดให้รอบคอบ” “อย่าคิดสั้น คิดให้ยาว ๆ” “อย่าเป็นคนคิด
แคบ คิดให้กว้าง ๆ “ให้รู้จักคิดอย่างมีวิจารณญาณ”“อย่าเชื่ออะไรง่าย ๆ ควรคิดวิเคราะห์ให้ดี” “จะทำงาน
ให้ดีต้องรู้จักคิดอย่างเป็นระบบ” ดังนั้น การพัฒนาการคิดของนักเรียน จึงเป็นเรื่องจะต้องพัฒนาทักษะ
กระบวนการให้หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนแสดงออกมาได้อย่างหลากหลาย พัฒนาความคิดได้หลายด้าน ทั้ง
ยงั ตอ้ งสรา้ งสรรค์ ใบงานยังตอ้ งมีสสี ัน รปู แบบท่ีนา่ สนใจ และเปดิ โอกาสให้นกั เรียนได้แสดงออก นอกกรอบได้
และไมย่ ดึ ตดิ กบั กรอบความรู้เดมิ ๆ หรือ กรอบความร้ทู ีแ่ คบจนเกินไป

แนวคดิ หลกั ของผลงาน
การออกแบบการเรียนการสอน เป็นทักษะสำคัญที่ครูควรมี เนื่องจากเป็นทักษะที่แสดงให้เห็นถึง
ศกั ยภาพ ความร้คู วามสามารถ และความตั้งใจในการสอนของครู การออกแบบการเรียนการสอนมหี ลากหลาย
รูปแบบและแนวคิดที่ครูสามารถเลือกใช้ได้หรือนำมาออกแบบการเรียนการสอนด้วยตนเอง ผลการออกแบบ
การเรียนการสอน อาจเป็นรูปแบบการสอน วิธีสอน สื่อการเรียนการสอน และแผนการจัดการเรียนการสอน
ครูควรมคี ณุ ลกั ษณะเชิงวิชาการ และการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อพฒั นาทักษะการออกแบบการเรยี นการสอนให้
ประสบผลสำเรจ็ ตามเป้าหมายการสอนที่ตอ้ งการ
ดังนั้น แนวคิดในการออกแบบผลงานนั้นจึงเน้นไปที่การพัฒนาแนวความคิดของนักเรียนผ่านใบงาน
ซึ่งใบงานนั้นจะต้องแฝงไปด้วยความรู้ ความเข้าใจ ส่งเสริมทักษะกระบวนการคิดที่หลากหลาย เปิดกว้างให้
นักเรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีกระบวนการ ขั้นตอน และสอดคล้องกับเน้ือหาสาระในหน่วยการ
เรียนรู้ เรื่อง อาหาร และระบบย่อยอาหาร ทำให้นักเรียนได้ทำใบงานและฝึกทักษะกระบวนการคิดไปด้วย
รวมทั้งกิจกรรมในการส่งเสริมทักษะกระบวนการคิด เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้ได้ตามตัวชี้วัดที่ควรมีคือ กิจกรรม
จติ ศึกษา ในเวลากอ่ นชว่ั โมงเรียนตอนเชา้ หรือชว่ั โมงโฮมรูม เพื่อส่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนมีทักษะกระบวนการคิด มี
วินัย ซื่อสัตย์ สุจริต อยู่อย่างพอเพียง และมีจิตสาธารณะ ทั้งนี้ ถ่ายทอดผ่านการทำโครงงานคุณธรรมประจำ
ช้ันเรียน
ในด้านการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีการเสริมด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยจิตวญิ ญาณ
ความเป็นครู โดยเรียนรู้รับผิดชอบต่อการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาที่รับผิดชอบ มีการจัดทำนวัตกรรม
การจดั การเรยี นรู้ทม่ี แี นวทางสนับสนุนให้ผเู้ รยี นได้เกดิ กระบวนกการเรียนรู้ โดยมีการสนับสนุนใหม้ กี ารคดิ ทำ
ถาม สะท้อน ด้วยการมีทักษะกระบวนการตามแผนภาพ ดังต่อไปนี้ ศึกษาปัญหาของการจาการเรียนรู้ท่ี
นักเรียนยังขาดทักษะกระบวนการคิด
1. ต้ังสมมติฐานทางการเรียนรู้ ควบคู่กบั การศกึ ษาทฤษฎเี กี่ยวกับกระบวนการคดิ
2. ออกแบบการจดั ทำนวตั กรรม
3. ทดลองใช้นวัตกรรม กับนักเรียน
4. ประเมนิ ผลนวัตกรรม
5. เผยแพร่ให้ไดร้ บั การยอมรับในการใชน้ วัตกรรม

4

โดยนวัตกรรมที่คิดเพื่อการจัดการเรียนรู้และเกิดผลงานเชิงประจักษ์คือ การจัดการกระบวนการ
เรียนรดู้ ้วยรูปแบบ KAR Model ซงึ่ มีความหมายและกระบวนการประยุกต์ใชจ้ ริงดังนี้ คอื

K : Know Deeply คือตอ้ งมีความรู้จรงิ ท้งั ครูผูเ้ ป็นโคช้ และนักเรียน
Active Learning : ครูต้องจดั การเรียนรูใ้ นชั้นเรียนใหเ้ ปน็ รูปแบบ Active Learning
Regularly : ครตู อ้ งมคี วามสมำ่ เสมอในการนำเอานวตั กรรมไปใช้ และพัฒนาตนเองอยูเ่ สมอ
ทง้ั นี้ ใชก้ ระบวนการ Deming Cycle : PDCA ชว่ ยในการจัดการเรยี นรู้ใหเ้ ป็นไปตามรปู แบบของ
KAR Model

2. จดุ ประสงคแ์ ละเปา้ หมายของผลงาน/นวัตกรรมการปฏิบตั ิทเ่ี ปน็ เลิศ (Best Practice)
จดุ ประสงค์ของนวตั กรรมการปฏบิ ตั ทิ ีเ่ ป็นเลศิ (Best Practice)
จากนโยบายหลักของโรงเรียน คือเน้นการพัฒนาทางวิชาการ และพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ประกอบกับโรงเรียนกฤษณา เป็นโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนสุจริต จึงต้องพัฒนาให้นักเรียนมีคุณลักษณะตาม
ตัวชี้วัดของโรงเรียนสุจริต ควบคู่กับการพัฒนาทักษะทางอาชีพ จึงมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนานวัตกรรมการ
ปฏบิ ตั ทิ ่เี ปน็ เลศิ (Best Practice)ดังต่อไปน้ี

1. นำเอากิจกรรมจติ ศกึ ษา มาพัฒนาผู้เรยี นให้มีทักษะกระบวนการคดิ
2. นักเรยี นมีโครงงานคุณธรรมประจำชนั้ เรยี น เพ่ือสรา้ งความซือ่ สัตย์ สุจรติ และ อยู่อยา่ งพอเพยี ง
และมวี ินัย และมีจติ สาธารณะ
3. ใช้นวตั กรรม KAR Model ในการจดั การเรยี นรูเ้ พอื่ เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั และพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิ
ทางการเรยี นของผูเ้ รียน
เป้าหมาย
ตวั ช้ีวัดเชิงปริมาณ
3.1 นกั เรยี นชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 ของโรงเรียนกฤษณา จำนวน 11 คน ทำกจิ กรรมจิตศกึ ษา และ
มีการพัฒนาทักษะกระบวนการคิด
3.2 นกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 ของโรงเรียนกฤษณา จำนวน 11 คน รอ้ ยละ 85 ผา่ นเกณฑ์
การประเมินตามคณุ ลกั ษณะของโรงเรยี นสุจริต ในระดับ ดี
ตวั ชีว้ ัดเชิงคณุ ภาพ
3.3 นักเรียนไดม้ ีทกั ษะกระบวนการคดิ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และหลากหลายผ่านการใช้ทำกิจกรรม
จิตศกึ ษา โครงงานคุณธรรม ภายใต้ KAR Model

5

3.4 นกั เรยี นมคี วามสขุ มพี ฒั นาการสมวัย และมีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามตัวช้วี ดั ของโรงเรยี น

สุจรติ

3. กระบวการผลิตผลงานหรอื ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน

3.1 การออกแบบผลงาน/นวตั กรรม

ตารางวเิ คราะห์ Best Practice

ผลงานท่ีภาคภมู ิใจ/สำเร็จ ขอ้ มูลยนื ยนั ความสำเรจ็ วิธกี ารปฏิบัติ

1. ผลการทดสอบระดับชาติ O- 1. เกยี รติบัตรจากสำนักงานเขต 1. จัดการเรยี นการสอน

Net ของนกั เรยี นช้นั พน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา ตามนวัตกรรม KAR Model

ประถมศึกษาปที ี่ 6 รายวิชา สุพรรณบุรี เขต 1 2. ใช้กระบวนการ PDCA

วทิ ยาศาสตร์ สงู กว่า

ระดับประเทศ 2 ปีต่อเนื่อง

2. ครูได้รบั รางวลั ระดับประเทศ 2. เกียรติบัตรจาก สำนักงาน 2. สง่ เสริมกิจกรรมด้วยโครงงาน
รางวัลดี ระดบั ประเทศ โครงงาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้นั คุณธรรมประจำชัน้ เรียน
คณุ ธรรมเฉลมิ พระเกยี รติ พน้ื ฐาน 2.2 มีการจดั กิจกรรมจติ ศกึ ษา
เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง ทุกวนั ในชั่วโมง Homeroom

3. ได้รับรางวัลผู้จัดทำสื่ อ 3. เกยี รตบิ ตั รจากสำนกั งานเขต 1. ครพู ฒั นาตนเองภายใต้
นวัตกรรมและเทคโนโลยี Learn พ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษา นวตั กรรม KAR Model มกี าร
at Home ได้ระดับรางวลั ดี สพุ รรณบรุ ี เขต 1 จัดทำสื่อ และเผยแพร่
เรื่อง ชนิดและลักษณะของพืช 2. ใชก้ ระบวนการ PDCA
ดอก จากสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษา
สุพรรณบรุ ี เขต 1

6

ผลงานทภี่ าคภูมิใจ/สำเรจ็ ข้อมูลยืนยันความสำเร็จ วิธีการปฏบิ ตั ิ

4. ผลการปฏิบัติท่เี ปน็ เลิศ (Best 4.เกียรตบิ ัตรจากสำนกั งานเขต 1. ครพู ัฒนาตนเองภายใต้
นวัตกรรม KAR Model มีการ
Practice)โครงการขบั เคลื่อนการ พืน้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษา จัดทำสอ่ื และเผยแพร่
2. ใช้กระบวนการ PDCA
จดั การเรยี นรดู้ ว้ ยสือ่ เทคโนโลยี สพุ รรณบุรี เขต 1

ดิจิทัล ระดบั การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน

ประเภท ครผู ู้สร้างและพัฒนาสอ่ื

เทคโนโลยี ระบบ OBEC

Content Center มีผลงานระดับ

ดมี าก

3.๒ การออกแบบผลงาน/นวัตกรรม

การออกแบบนวัตกรรมเริ่มต้นจากการศึกษาสภาพปัญหา เนื่องจากโรงเรียนกฤษณา ในปีการศึกษา
2560 – 2561 มผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นต่ำ โดยผลการทดสอบระดับชาติ O-Net ในระดบั ชัน้ ประถมศึกษา
ปีที่ 6 รายวิชาวิทยาศาสตร์มีผลค่าเฉลี่ย ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ จึงได้วิเคราะห์ตา มแนวทาง SWOT
analysis พบว่าปัจจัยภายในทที่ ำใหเ้ กดิ ปญั หาดังกลา่ วคอื ครผู ู้สอนยงั ขาดประสบการณใ์ นการจัดกระบวนการ
เรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และครูผู้สอนยังขาดทักษะในการเป็นโค้ชชิ่ง ให้นักเรียนเรียนรู้แบบ Active
Learning ทำให้นักเรียนมีความรู้ในทางทฤษฎีไม่ครบตามตัวชี้วัด และความสม่ำเสมอของครูยังไม่เพียงพอใน
การถ่ายทอดประสบการณ์

นักเรียนขาดทักษะกระบวนการคิดในการตอ่ ยอดความรู้ กระบวนการเรียนรู้ของนกั เรียนยังเป็นแบบ
ทำตามครู อยู่ในกรอบความคิดแบบเดิม ๆ จึงทำให้เกิดแนวความคิดที่ว่า ครูต้องพัฒนานวัตกรรม รวมทั้ง
เทคนิควิธีการ เพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้ให้นักเรียนได้เรียนรู้แบบ Active Learning และส่งเสริมทักษะ
กระบวนการคดิ อย่างสมำ่ เสมอ จงึ เกดิ นวัตกรรม KAR Model เพอ่ื มาแกป้ ัญหาดงั กล่าว

7

3.3 การดำเนินงานตามกจิ กรรม
3.3.1 ศกึ ษาสภาพปญั หา

ปัญหาหนึ่งของการศึกษา คือ การที่เด็กไทยไม่เก่งในเรื่องการคิดวิเคราะห์ เราให้ความรู้ด้านวิชาการ
กันเตม็ ท่ี แตเ่ ราไม่ค่อยได้ใหค้ วามรู้ทเี่ ป็นการส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์เท่าไหร่ เด็กไทยต้องเสียเวลาใน
การอ่านหนังสือเรียนมากมาย แต่สุดท้ายผลลัพธ์ออกมาก็ยังมีเด็กหลายคนที่ยังไม่สามารถนำความรู้นั้นไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริงได้ การคดิ (Thinking skill) เปน็ กิจกรรมทใ่ี ชใ้ นการประมวลผลข้อมูลแก้ปญั หาตัดสินใจ
และสร้างแนวคิดใหม่ ๆ เรามักจะใช้ทักษะการคิดเมื่อพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับประสบการณ์ การจัด
ระเบียบขอ้ มลู การเช่ือมตอ่ คำถาม การคิดวางแผนหรอื ตัดสินใจวา่ จะทำอะไร

ดังนั้นครูผู้สอนจึงมีความท้าทายอย่างยิ่งที่จะต้องทำสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
และสามารถพฒั นาทกั ษะกระบวนการคิดของนักเรียนให้ได้ เนื่องจากทักษะการคิด (Thinking skill) มรี ปู แบบ
ต่างๆ ได้แก่

1. การคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) หมายถงึ กระบวนการคดิ ในรูปแบบใหม่ๆ ความสามารถ
ในการรบั รคู้ วามคิดใหม่ ๆ และนวตั กรรมโดยแยกออกจากความคิดทฤษฎีกฎและข้ันตอนการทำงานเก่ียวข้อง
กับการวางสิ่งต่างๆด้วยกันในรูปแบบใหม่และจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์มักเรียกกันว่า "การคิดนอก
กรอบ"

2. การคิดเชงิ วิเคราะห์ (Analytical thinking) หมายถงึ กระบวนการคิดในรายละเอยี ด ความสามารถ
ในการแยกแยะส่วนต่างๆออกเป็นส่วนพื้นฐาน หรือส่วนย่อย ๆ เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์ความเชื่อมโยง
หรือความสมั พันธ์ของส่วนประกอบตา่ งๆ เป็นการคดิ ในเชงิ ตรรกะทลี ะขัน้ ตอนเพื่อแบ่งระบบข้อมูลขนาดใหญ่
ออกเปน็ สว่ น ๆ เพื่อมาวิเคราะห์หาสาเหตุ หรือเปา้ หมายทต่ี ้องการ

3. การคิดเชิงอย่างมีเหตผุ ล (Critical thinking) หมายถงึ กระบวนการคดิ โดยใชว้ จิ ารณญาณหรอื การ
ตัดสินอย่างมีเหตุผลรอบด้าน โดยใช้เหตุผลในการวิเคราะห์ประเด็น รวมทั้งการรวบรวมข้อมูลต่างๆรอบด้าน
การสำรวจองค์ประกอบอื่น ๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อข้อสรุป เพื่อตรวจสอบพิจารณา ตัดสินและประเมินความ
ถกู ต้อง หรือสิ่งทเี่ ป็นประเดน็ ในขณะนน้ั ๆ ให้แมน่ ยำ

8

4. การคิดเชิงกลยุทธ์ (strategic thinking) หมายถึง กระบวนการคิด โดยการวิเคราะห์และประเมิน
เหตกุ ารณ์ทเ่ี ก่ียวข้อง และแนวทางการปฏิบัติ เพอ่ื ตดั สินใจให้บรรลุเปา้ หมายท่ีต้องการอย่างมีประสิทธิภาพสูง
ทีส่ ดุ โดยเฉพาะในปจั จุบนั ทส่ี ถานการณข์ องโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเรว็

5. การคิดเชิงบวก (Positive thinking) หมายถึง กระบวนการคิดและเข้าใจในสิ่งที่เป็นทั้งด้านบวก
และด้านลบ แล้วหาเรื่องราวดีๆ หรือมุมบวก ในเหตุการณ์หรือสิ่งต่างๆ ที่ได้พบเจอ เพื่อยอมรับ เรียนรู้
ปรบั ปรุงแก้ไข และใหเ้ ราเติบโตข้ึน

6. การคิดเชิงนวัตกรรม (Innovative thinking) หมายถึงกระบวนการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆและ
นวัตกรรม จากทักษะและกระบวนการคิดแบบตา่ งๆ ที่มีประโยชนต์ อ่ ผูค้ น สงั คม โลก ออกมาเปน็ รปู ธรรม

7. การคิดเชงิ ระบบ (System thinking) หมายถงึ กระบวนการคิดอย่างเปน็ ขนั้ ตอน การมองภาพรวม
อยา่ งเป็นระบบ มสี ว่ นประกอบยอ่ ยๆ มขี ้ันตอน และรายละเอียดแยกย่อยออกมา และเชอื่ มโยงกับระบบตา่ งๆ

ข้าพเจ้าศึกษาสภาพปญั หาภายในโรงเรยี นกฤษณาในเรื่องผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นปี
การศึกษา 2562 พบว่าคะแนนผลสอบระดบั ชาติ O-net รายวิชาวิทยาศาสตร์ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
ตำ่ กว่าคะแนนเฉลย่ี ระดบั ชาติ ดงั น้ี

ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ ั้นพ้ืนฐาน ปีการศกึ ษา 2561 - 2562
ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6

คะแนนเฉ ่ลีย 60.00
50.00
40.00 ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ คะแนนรวมเฉลย่ี
30.00 53.71 36.73 34.23 36.65 40.33
20.00 50.32 28.93 30.71 30.21 35.04
10.00 -3.39 -7.80 -3.52 -6.44 -5.29
0.00
-10.00
-20.00

2561

2562

ผลการพัฒนา

ทัง้ นสี้ าเหตุของปญั หา จะมีการวิเคราะห์ด้วย SWOT analysis ต่อไป
3.3.2 หาแนวทางแก้ไขโดย SWOT analysis
SWOT Analysis คอื อะไร มีส่วนช่วยในการวิเคราะหส์ าเหตุของปัญหา ซึง่ ก่อนการเร่มิ ต้นทำ
นวตั กรรมเราจะต้องวเิ คราะห์ข้อมลู ตา่ งๆเพ่ือนำมาประกอบการตัดสนิ ใจก่อนเรม่ิ ต้นออกแบบ เครื่องมือที่ถกู

9

นำมาใชบ้ อ่ ยๆ เพราะสามารถวเิ คราะห์ได้อยา่ งครอบคลมุ ไม่ว่าจะภายใน ภายนอกโรงเรียน

3.3.3 เลอื กนวตั กรรม
ต่อเนื่องจาก SWOT analysis พบสาเหตุมาจากองค์ความรขู้ องครู และนกั เรียนเปน็ ส่าวนใหญ่ ซ่งึ
เปน็ จดุ อ่อน จงึ ทำให้ครผู ูส้ อนต้องพฒั นาด้านน้ีอย่างเข้มขน้ และจรงิ จงั จงึ พฒั นาเปน็ นวัตกรรม KAR Model
เพอื่ พฒั นาจุดอ่อนดังกล่าว โดยดำเนินการตามกระบวนการ PDCA ดงั นี้
ขนั้ เตรียมการ (Plan)
1) ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลาง ตัวชวี้ ดั และ สาระการเรียนรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
การงานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
2) ศึกษาคณุ ลกั ษณะตามโครงการโรงเรียนสจุ ริต 5 ตวั ช้วี ดั
2) วิเคราะห์ผู้เรยี น โดยใช้แบบสอบถามและแบบทดสอบความรู้และทักษะทางดา้ นความคิด
3) วิเคราะห์สภาพปัญหา จาก

(1) บันทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้
(2) ศึกษาและเขา้ อบรมวธิ ีการสรา้ งและออกแบบจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน และออกแบบ
สอ่ื เทคโนโลยี
ขนั้ ดำเนนิ การ (DO)
1) จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ดว้ ยรูปแบบสบื เสาะ เพ่ือเน้นกระบวนการ Active Learning
2) จัดกิจกรรมจิตศึกษาพัฒนาทักษะกระบวนการคดิ ในชัว่ โมง Homeroom
3) จัดกระบวนการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ และใช้แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง
KAR Model
ขั้นการตรวจสอบประเมนิ ผล ( Check )
1) ใช้แบบทดสอบกอ่ นเรียน หลงั เรยี น และคำถามหลงั กิจกรรมจติ ศกึ ษา
2) ประเมนิ จากการใช้นวตั กรรมดว้ ยการประเมินตามสภาพจริง และประเมินคณุ ลักษณะตาม
โครงการโรงเรยี นสุจริต
3) ประเมินผลการเรยี นรู้โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น และแบบประเมนิ ทักษะ
กระบวนการคิด

10

4) ประเมนิ ผลการจดั การเรียนรู้ดว้ ยแบบสอบถามวดั ความพึงพอใจในการทำกจิ กรรมจติ ศึกษา
ขัน้ การปรับปรงุ พฒั นา (Action)

1) ปรับปรุงนวตั กรรมให้สสอดคล้องกับบรบิ ทของครแู ละนักเรียน
2) ปรับปรงุ นวตั กรรมใหส้ อดคลอ้ งกับ มาตรฐาน ตัวช้วี ัดและสาระการเรียนร้แู กนกลาง
3) นำขอ้ เสนอแนะในการนำไปใช้และการศกึ ษาคน้ ควา้ คร้งั ต่อไปจากนวัตกรรมเดิมไปพัฒนา
4) ปรับปรงุ พัฒนาแผนการจดั การเรยี นรู้ โดยนำขอ้ เสนอแนะและข้อควรปรับปรงุ พฒั นาให้
สอดคล้องกับนวัตกรรมท่ีปรับปรุง
5) ขยายเครอื ข่ายโดยการเผยแพรผ่ า่ นเว็บไซต์หอ้ งเรยี นส่วนตัว และช่อง Youtube
3.3.4 นำนวัตกรรมไปใช้
1. จดั กิจกรรมจิตศกึ ษาโดยใช้ KAR Model เปน็ ตนั แบบ และแนวทาง การแกป้ ัญหานักเรยี น
2. จัดกิจกรรมโครงงานคุณธรรมประจำห้องเรียน เช่น ในปีการศกึ ษา 2565 นักเรยี นทำโครงงาน
คณุ ธรรมเรอ่ื ง “ครูไมอ่ ยู่ หนรู ับผดิ ชอบ”
3. จัดกจิ กรรมการประดิษฐข์ องเหลอื ใช้
4. จดั การเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยเนน้ กระบวนการสืบเสาะ และ Active Learning
5. ประเมนิ ผลนวัตกรรมทใ่ี ช้ด้วยการวดั ผล ตามคุณลักษณะโรงเรียนสจุ ริต และผลสมั ฤทธ์ทิ างการ
เรยี น และแบบบันทึกผลการสงั เกตพฤติกรรม
3.4 ประสทิ ธิภาพของการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์หลักของนวัตกรรม “กิจกรรมจิตศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด และยกระดับ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วย KAR Model” ที่ข้าพเจ้าได้จัดทำขึ้นนี้คือ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิดของ
นกั เรียนช้นั ปที ี่ 4 ของโรงเรียนกฤษณา และยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของผ้เู รียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6
และสะท้อนผ่านผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ O-Net โดยเน้นผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการพัฒนา
ศักยภาพด้านการอ่านเขียนของนักเรียน และนักเรียนมีเจตคติที่ดีในการเรียนรู้แท้จริงผ่านประสบการณ์ด้วย
ตนเอง โดยใชก้ ระบวนการจดั การเรยี นรผู้ า่ นกระบวนการ KAR Model ซง่ึ
K : Know Deeply คือต้องมีความรจู้ ริง ท้งั ครแู ละนักเรียน
1. ครูมีการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และมีการศึกษาหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐานปี พ.ศ. 2551 และหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ให้ตรงตาม
หลกั สตู รกำหนด
2. ครูมีการออกแบบหนว่ ยการเรียนรทู้ เี่ น้นกระบวนการสืบเสาะ และเนน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคญั
3. ครูเป็นโค้ช ในการจัดการเรียนรู้เน้นให้นักเรียนเรียนรู้และตกผลึกความรู้ด้วยตนเอง มีทักษะ
กระบวนการคดิ ทด่ี ี และมกี ารสะทอ้ นคดิ อย่เู สมอ
Active Learning : ครูต้องจัดการเรียนรูใ้ นชั้นเรียนให้เป็นรูปแบบ Active Learning
ครูจัดการเรยี นรทู้ ่ีใหน้ ักเรยี นได้ คิด ทำ ถาม สะทอ้ น และปฏบิ ัติจริง
Regularly : ครูต้องมคี วามสมำเสมอในการนำเอานวัตกรรมไปใช้
ครูไม่หยุดพัฒนาตนเอง และมีการสอนเสริม ทั้งในและนอกเวลาเรียน และแม่สถานการณ์โควิด-19
จะสง่ ผลให้โรงเรียนต้องมีการจัดการเรียนแบบ On-line ก็ได้นำเอานวตั กรรมเทคโนโลยี มาจัดการเรียนรู้เสริม

11

ผ่านระบบ Line Meeting , ทำใบงานออนไลน์ โดยใช้ Liveworksheet และการทำข้อสอบ ออนไลน์ ผ่าน

Google From

ทั้งนี้ ใช้กระบวนการ Deming Cycle : PDCA ช่วยในการจัดการเรียนรู้ให้เป็นไปตามรูปแบบของ

KAR Model การใช้กจิ กรรมเสริม เพ่อื ใหน้ กั เรยี นได้มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เป็นไปตามโครงการโรงเรียน

สุจริต คือ ทักษะกระบวนการคิด มีวินัย ซื่อสัตย์ สุจริต อยู่อย่างพอเพียง และมีจิตสาธารณะ ซึ่งมีเป็นการ

สะทอ้ นผ่าน โครงงานคณุ ธรรม และกิจกรรมต่าง ๆ

3.5 การใช้ทรพั ยากร และงบประมาณ

ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานด้วยความอุตสาหะ ขยัน

อดทน มุ่งมั่นและรับผิดชอบต่อผลสัมฤทธิ์ของงาน

ปฏิบัติงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบตามคำสั่งและงานอื่น ๆ ท่ี

ได้รับมอบหมาย มีความตั้งใจในการปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุ

ตามวัตถุประสงค์ เอาใจใส่ในการปฏิบัติหน้าที่ หมั่นฝึกฝน

ตนเองให้มีความรู้มาถ่ายทอดแก่ลูกศิษย์ และชุมชน

มคี วามคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์ในการปรับปรุงงานอยู่เสมอมีความ

กระตือรือร้นในการปฏิบัติหน้าที่จนสำเร็จและเกิดประโยชน์ รูปภาพใบงานออนไลนเ์ พ่อื ประหยัดกระดาษ

กับนักเรียน และสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักประหยัด

คุ้มคา่ มีประสิทธภิ าพ ดังนี้

ยึดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใน

การทำงานทุกครง้ั ข้าพเจา้ จะใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด

เช่น การใช้กระดาษข้าพเจ้าจะใช้กระดาษ ให้ครบทั้ง 2 หน้า

การทำแบบประเมินในรูปแบบออนไลน์ และการลดใช้กระดาษ

ในการเลือกจัดทำ ใบงานออนไลน์ด้วย Liveworksheet การ
ใช้วสั ดุ-อุปกรณ์ และครุภัณฑด์ ว้ ยการถนอมรกั ษา เพ่อื ให้ใช้งาน รปู ภาพข้อสอบออนไลน์ผ่าน Google Form

ได้นานขึ้น การนำเอาวัสดุที่เหลือใช้มาประยุกต์ใช้ให้เกิด

ประโยชน์ต่อทั้งการเรียนการสอน และการทำงานในเกือบทุก

ด้าน และยังถ่ายทอดให้ผู้เรียน โดยฝึกให้ผู้เรียนรู้จักใช้

ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยประดิษฐ์กระถางต้นไม้จากขวด รูปภาพกิจกรรมการประดษิ ฐ์กระถางตันไม้จากขวด

พลาสติกเหลอื ใช้ เปน็ ตน้ พลาสติก

ใช้ทรัพย์สินของทางราชการ เช่น น้ำ ไฟฟ้า โทรศัพท์ หรือวัสดุสำนักงาน ฯลฯ เพื่อประโยชน์

ของทางราชการเท่าที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานและต้องไม่ให้เกิดรั่วไหลหรือสูญเปล่า ช่วยลดค่าใช้จ่ายใน

โรงเรียนดว้ ยการปิดไฟและเครื่องใชไ้ ฟฟา้ ทุกคร้งั ที่ไม่ได้ใชง้ าน รวมถึงการรณรงค์และปลูกจติ สำนึกนกั เรียน

ในการชว่ ยกนั ประหยัดไฟฟา้ ทุกครั้งก่อนออกจากห้องเรยี นหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ใชน้ ำ้ หรือไฟ เสร็จ

4. ผลการดำเนินการ/ผลสมั ฤทธ์ิ/และประโยชน์ท่ีไดร้ บั

4.1 ผลทีเ่ กิดตามวัตถุประสงค์

1. ได้นำเอากจิ กรรมจิตศึกษา มาพฒั นาผ้เู รียนใหม้ ีทกั ษะกระบวนการคดิ ในชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4

จรงิ 100 % และขยายผลไปยงั ช้นั อนื่ ๆ โดยระดบั ชัน้ อนุบาลปที ่ี 2 – ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 มีกจิ กรรมจิต

12

ศกึ ษาในชว่ งเชา้ ในชั่วโมง Homeroom เช่นกัน

2. นกั เรียนมีโครงงานคุณธรรมประจำชัน้ เรียน เพ่ือสร้างความซ่อื สัตย์ สจุ รติ และ อยู่อย่างพอเพยี ง

และมวี นิ ยั และมีจิตสาธารณะ โดยนักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 มีโครงงานคุณธรรมประจำชน้ั เรยี น คอื

โครงงาน “ครูไมอ่ ยู่ หนรู บั ผดิ ชอบ”

3. ใชน้ วตั กรรม KAR Model ในการจัดการเรยี นรู้เพอ่ื เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ และพัฒนาผลสัมฤทธ์ิ

ทางการเรียนของผูเ้ รยี น โดยผูเ้ รยี นชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ของโรงเรยี นกฤษณามผี ลการสอบระดับชาติ O-

Net รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ สงู กว่าค่าเฉลีย่ ระดบั ประเทศ 2 ปกี ารศึกษาต่อเนื่อง

4.2 ผลสัมฤทธ์ขิ องงาน

ผลสมั ฤทธ์ิเชงิ ปริมาณ

1 นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 ของโรงเรียนกฤษณา จำนวน 11 คน ไดท้ ำกจิ กรรมจิต

ศกึ ษา และมีการพัฒนาทกั ษะกระบวนการคดิ ตามแบบพัฒนาทักษะกระบวนการคิด และลงมือปฏบิ ตั จิ รงิ

อยา่ งต่อเนื่อง

2 นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 ของโรงเรียนกฤษณา จำนวน 11 คน รอ้ ยละ 85 ผา่ น

เกณฑ์การประเมินตามคณุ ลักษณะของโรงเรยี นสจุ รติ ในระดบั ดี

ผลสมั ฤทธิ์เชิงคุณภาพ

3 นักเรยี นมที ักษะกระบวนการคดิ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ และหลากหลายผา่ นการใช้ทำ

กิจกรรม จิตศึกษา โครงงานคุณธรรม ภายใต้ KAR Model อยา่ งมีคณุ ภาพ มีผลงานนกั เรียนเชิงประจักษ์

4 นักเรยี นมีความสุข มีพฒั นาการสมวยั และมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ตามตัวชีว้ ดั ของ

โรงเรยี นสจุ ริต โดยนกั เรยี นมคี วามสุขทุกคร้งั ท่ีได้ทำกิจกรรม4.2.1 Best Practice สอดคลอ้ งกบั

คุณลักษณะ 5 ประการของโครงการโรงเรยี นสจุ รติ

คุณลักษณะ กจิ กรรม/วิธีการ ท่สี อดคล้อง ผลท่เี กดิ ขึน้

ทักษะกระบวนการคิด กจิ กรรมจิตศึกษา นักเรียนมที ักษะกระบวนการ

โดย จดั กจิ กรรมในช่วงเช้าใน คิด โดยสามารถสะท้อนออกมา

ช่วั โมงโฮมรูม ไดจ้ ากการตอบคุถามขณะทำ

กจิ กรรม จติ ศึกษา และสมุดจิต

ศกึ ษา

มีวนิ ัย กจิ กรรม โครงงานคุณธรรม นกั เรยี นปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ภี ายใต้

โครงงาน “ครไู ม่อยหู่ นู โครงงานคุณธรรมได้ โดยไม่

รับผิดชอบ” ต้องบอก แม้ไม่มีครูอยกู่ ็

สามารถดำเนินกิจกรรม และ

ทำหนา้ ทไ่ี ปได้

ซอื่ สัตย์ สุจรติ กิจกรรมออมเงนิ ดำเนนิ การ นักเรียนมเี งินออม และไม่มี

โดยนกั เรียน การลักขโมย บรหิ ารงาน

กิจกรรม ออม ได้โดยครูไม่ต้อง

ชว่ ยเหลอื หรอื ลงบญั ชีให้

อยู่อย่างพอเพียง กจิ กรรมการประดิษฐ์ของเหลือ นกั เรยี นรจู้ กั ใชว้ ัสดุอย่างคมุ้ ค่า

ใช้ เชน่ ขวดพลาสติก มาทำ และมคี วามพอเพยี ง

กระถางตนั ไม้

13

คณุ ลกั ษณะ กิจกรรม/วิธกี าร ท่ีสอดคล้อง ผลทีเ่ กดิ ขึ้น

ท้ังออมเงินตามหลักการ

มีเหตผุ ล และมีภมู คิ ุ้มกนั

จิตสาธารณะ กจิ กรรมตามโครงการจิตอาสา นกั เรยี นมีจิตอาสาและใสใ่ จ

วยั ใส ใส่ใจผู้สงู อายุ ผู้สงู อายุ มคี วามเสยี สละ และ

มีจิตสาธารณะ

4.2.2 กจิ กรรมทีส่ อดคล้องกับปฏิญญาโรงเรียนสุจรติ ไดแ้ ก่

ปฏิญญา กจิ กรรม/วิธีการ ทสี่ อดคลอ้ ง ผลที่เกดิ ขึน้

การปลูกฝงั กจิ กรรมจติ ศกึ ษา นกั เรียนได้รบั การปลูกฝัง ให้มี

โดย จดั กจิ กรรมในช่วงเช้าใน สมาธิ และมกี ารเตรียมความ

ช่ัวโมงโฮมรูม โดยแบง่ เป็น 3 พร้อมอยเู่ สมอ ในการทีจ่ ะรับ

ขนั้ คือ ขน้ั เตรียมความพร้อม ส่ิงใหม่ พัฒนาทักษะ

ข้นั นำ ข้ันใคร่ครวญ กระบวนการคดิ ได้ดี ท้ังน้ี ฝึก

วินัยได้อกี ด้วย

การป้องกนั กิจกรรม โครงงานคณุ ธรรม การทำโครงงานคุณธรรม

โครงงาน “ครไู มอ่ ยหู่ นู สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนไดม้ ี

รบั ผิดชอบ” แนวความคิดท่ีดี มีวนิ ยั

ขัน้ ตอนการดำเนินการ คือ ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ทำให้เป็นการ

1. กำหนดปัญหา ปอ้ งกันการทุจรติ โดย

2. กำหนดวตั ถุประสงค์ กระบวนการเรียนรู้ได้ ผ่าน

3. กำหนดวิธีการ รูปแบบโครงงาน

4. นกั เรียนลงมือปฏิบตั ิ

5. ประเมนิ ผล

การสรา้ งเครอื ขา่ ย มกี ารเผยแพร่ นวตั กรรม ท้งั ใน มเี ครอื ข่ายโรงเรียนสุจริต ท้งั

และนอกโรงเรยี น รวมท้งั สื่อ ในและนอกโรงเรยี นและ

ออนไลน์ และเว็บไซต์ที่เขา้ ถงึ สามารถขยายผลคุณลกั ษณะท่ี

ได้งา่ ยอีกด้วย ดีไปยังโรงเรียนขา้ งเคียงได้อีก

ด้วย

4.3 ประโยชนท์ ไี่ ด้รบั
ผลงานส่งผลใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุดต่อผู้เรยี น
นวัตกรรม“กจิ กรรมจิตศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคดิ และยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน
ดว้ ย KAR Model” น้ี สามารถพัฒนาผ้เู รยี นให้มีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนวชิ าวทิ ยาศาสตร์ระดับช้นั
ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 สูงขนึ้ ต่อเนอื่ ง 2 ปกี ารศึกษา และนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ของโรงเรียนกฤษณา
พัฒนาคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจรติ ได้ดี ผ่านกิจกรรม จิตศึกษา และโครงงานคุณธรรมประจำ
ช้นั เรียน

14

ผลงานสง่ ผลใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ต่อเพื่อนครู
นวัตกรรม“กิจกรรมจิตศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด และยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ด้วย KAR Model” นี้ ได้ถูกนำเสนอผลการดำเนินงาน วิธีการนำไปใช้ และการปรับประยุกต์ให้เหมาะกับ
บริบทของแต่ละโรงเรียน โดยเผยแพร่ในเพจ Facebook เพ่อื การศกึ ษา และชอ่ งทาง Youtube ทำให้เพื่อครู
ได้เรียนรู้แนวทางการดำเนินกิจกรรมการจัดการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหา การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ตลอดจนสร้างแรงบนั ดาลใจใหค้ รไู ด้พัฒนากจิ กรรมลักษณะ Active learning ทเี่ หมาะกบั บริบทของตนเอง
ผลงานสง่ ผลให้เกดิ ประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริหารสถานศึกษา
นวัตกรรม“กิจกรรมจิตศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด และยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ด้วย KAR Model” นี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ร่วมทำกิจกรรม ส่งผลให้ผู้อำนวยการรู้ถึงสาเหตุของปัญหาท่ี
แทจ้ รงิ และสงั เกตเหน็ ประโยชน์ของกิจกรรมในลักษณะ Active learning โดยผบู้ รหิ ารเขา้ รนิเทศการสอนทั้ง
แบบ Online และ On-Site ส่งผลให้ผู้อำนวยการได้ให้แนวทางและกระตุ้นครูในโรงเรียนให้ตระหนักถึง
ความสำคัญของการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมลักษณะ active learning และการพัฒนานักเรียนตามคุณลักษณะ
โรงเรยี นสุจรติ มากขน้ึ
ผลงานส่งผลให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ตอ่ สถานศึกษา

นวตั กรรม“กจิ กรรมจิตศึกษา เพื่อพฒั นาทักษะกระบวนการคิด และยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรยี นดว้ ย KAR Model” น้เี ป็นประโยชนต์ ่อสถานศึกษาในด้านตา่ งๆ ต่อไปน้ี

๑) ดา้ นวชิ าการ ทำใหภ้ าพรวมด้านวิชาการของโรงเรยี นในรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดี
ข้นึ ท้ังน้ีเนอ่ื งจากนวัตกรรมสามารถพฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรยี นในช้ัน
ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 พฒั นาข้นึ มากกวา่ เดิมตดิ ต่อกันถงึ 2 ปีการศึกษา และสามารถทำให้
นกั เรียนมีความชืน่ ชอบในการเรยี นรู้ มที กั ษะกระบวนการคิด และนักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่
4 ทีไ่ ดท้ ำกจิ กรรมจติ ศกึ ษา ไดพ้ ฒั นาด้านความคิด และเรียนรู้ได้ดีขน้ึ

๒) ด้านบคุ ลากร การดำเนินกจิ กรรมตามนวตั กรรมนี้ มสี ่วนกระตนุ้ ให้ครูในสถานศึกษาสนใจการ
จดั กจิ กรรมลักษณะ active learning แนวทางกจิ กรรมจิตศึกษา และสนใจนำนวัตกรรมนไี้ ปปรบั ใช้ในช้ัน
เรียนของตนเอง

5.ปัจจยั ความสำเร็จ
การจัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนมีกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย ครูจัดการ

เรียนรู้ให้เป็นไปตามศักยภาพของผู้เรียน และเป็นไปตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตร มีการออกแบบ
การจัดการเรียนรู้ ที่เหมาะสมกับผู้เรียน โดยเน้นการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ทั้งรูปแบบ
กระบวนการทำงานกลุ่ม แบบลงมือปฏิบัติจริง แบบร่วมมือกันเรียนรู้ และยึดหลักทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้
(Constructivism) ใช้กระบวนการคดิ กระบวนการใชป้ ญั หาเปน็ หลกั และเน้นกิจกรรมการเรียนรู้ท่เี น้นผู้เรียน
เป็นสำคัญ โดยมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนทุกคน มีความสามารถในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนรู้ ซึ่งครูผู้สอน
เองได้พฒั นากระบวนการจัดการเรยี นรู้และ เทคนิควิธีการสอนให้ตรงตามศักยภาพของผู้เรยี น ใชส้ ือ่ เทคโนโลยี
ที่หลากหลายในการจัดการเรียนการสอน เช่น การใช้ VR 360 องศา ใช้สื่อที่สร้างขึ้นเอง ได้แก่ Microsoft
PowerPoint , Canva การใช้สื่อจากเครือข่ายออนไลน์ ได้แก่ YouTube , กลุ่มเครือข่ายการเรียนรู้
Facebook เวบ็ ไซต์ทางการศึกษาต่างๆที่มีความนา่ เชื่อถือ ทง้ั ในและต่างประเทศ

15

มีการทดสอบความรู้พื้นฐานก่อนเรียน โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน แล้วสอนตาม
แผนการจัดการเรียนรู้ ตามกิจกรรม ใบงาน ใบความรู้ มีการสังเกต การสัมภาษณ์ การวัดผลระหว่างเรียน
ประเมินตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ และประเมนิ พฤติกรรมขณะทำกิจกรรม โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ตรวจ
ผลการปฏิบัตงิ าน ตรวจผลงาน แฟ้มสะสมผลงาน การวัดผลหลังเรยี น ไดท้ ำการประเมินผลหลังจากสิ้นสุดการ
เรียนในเนื้อหา มีความรู้ความเข้าใจ และมที ักษะด้านต่างๆ มากน้อยเพียงใด โดยนำผลมาเปรียบเทียบกับการ
ทดสอบก่อนเรียน ซึ่งเป็นการใช้แบบทดสอบชุดเดียวดันกับแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อดูความก้าวหน้าของ
นักเรียน และวางแผนการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนทีผ่ ลการประเมินต่ำ หรอื ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน จัดทำ
แฟ้มสะสมผลงานของผู้เรียนเป็นรายบุคคล จัดทำบอร์ดแสดงผลงานนักเรียน เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจให้
ผู้เรียน และไดช้ ่ืนชมผลงานของตนเอง และมีการวดั ผลตามสภาพจรงิ

การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ จะมีการดำเนินการวัดและประเมินผลด้วยเครื่องมือที่
หลากหลาย เช่น การสังเกต การจดบันทึกพฤติกรรม การสัมภาษณ์ การตรวจผลงาน การประเมินจากสภาพ
จรงิ ของผู้เรยี นเมื่อจบการเรียนการสอนแตล่ ะแผนการจัดการเรยี นรู้จะมีการบันทึกหลังสอนทุกครั้ง เพ่ือนำเอา
ปญั หาท่ีพบมาวเิ คราะหเ์ พือ่ หาแนวทาง หรอื วิธกี ารแก้ไข เพื่อใช้ในการทำวจิ ัยในชัน้ เรยี นตอ่ ไป

6. บทเรียนที่ไดร้ บั
จากตาราง พบว่า ปีการศึกษา ๒๕๖4 เด็กประพฤตปิ ฏิบตั ิตนตามคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ทีเ่ ป็น

จดุ เนน้ ของสถานศึกษา ครบทกุ ข้อ คดิ เปน็ ร้อยละ ๑๐๐
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผเู้ รียน

ผู้เรียนร้อยละ 85 ขึ้นไปมีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้รายวิชา
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 อยู่ในระดับดี และสง่ ผลถงึ ผลการทดสอบระดับชาติ
O-Net สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ 2 ปี ต่อเนื่อง แม้มีสถานการณ์ โควิด-19 เข้ามาเป็นอุปสรรคในการ
จดั การเรยี นรู้

ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพนื้ ฐาน (O-NET) ปี 2564 ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6

ผลการทดสอบระดับชาติของผู้เรยี น

ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 6

ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ (O-Net) ประจาปีการศึกษา 2564
63.39
70.00
60.00 54.7510.33893.683.3376.8438.2135.3375.3517.5398.3397.22 524.211.71
50.00 40.44
40.00

30.00

20.00

10.00

0.00

ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ เฉลย่ี รวม 4

วิชา

ระดับโรงเรยี น ระดบั เขตพ้ืนท่ี ระดบั ประเทศ

16

ระดบั /วชิ า ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เฉลี่ยรวม 4
ระดับโรงเรยี น 63.39 39.63 48.21 57.59 วิชา
ระดับเขตพื้นที่ 54.71 38.37 35.37 38.37
ระดับประเทศ 50.38 36.83 35.31 39.22 52.21

41.71

40.44

ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ัน้ พนื้ ฐาน (O-NET) ปี 2563 ยอ้ นหลัง 3 ปรี ะดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

เ ป รี ย บ เ ที ย บ ผ ล ก า ร ท ด ส อ บ ท า ง ก า ร ศึก ษ า ร ะ ดั บ ช า ติ ( O - N E T )
ป ร ะ จา ปี ก า ร ศึ ก ษ า 2 5 6 2 - 2 5 6 4
ร ะ ดั บ ชั้ น ป ร ะ ถ ม ศึ ก ษ า ปี ท่ี 6

O-net ปี 2562 O-net ปี 2563 O-net ปี 2564
50.32
60.61
63.39

30.71
22.22

39.63
30.21

39.80
48.21

28.93
41.67
57.59

35.04
41.08

52.21

ภาษาไทย คณิตศา สตร์ วิทย า ศา สตร์ ภ า ษ า อั งก ฤ ษ เฉ ล่ีย รว ม 4
วิ ช า

รายป/ี รายวิชา ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ เฉลีย่ รวม 4
O-net ปี 2562 50.32 30.71 30.21 28.93 วชิ า
O-net ปี 2563 60.61 22.22 39.80 41.67
O-net ปี 2564 63.39 39.63 48.21 57.59 35.04

41.08

52.21

7. การเผยแพร่ / การไดร้ บั การยอมรับ /รางวัลทไ่ี ด้รบั
7.1 การเผยแพร่
จากความรู้ที่ได้รับการพัฒนา ได้นำความรู้ตลอดจนผลงานต่าง ๆ ที่สร้างขึ้น รวบรวมไปสร้างเว็บไซต์

https://shorturl.asia/69ytj และสร้างFan page “ครูรุ่นใหม่ สื่อวิทย์นวัตกรรม” ซึ่งภายในจะมีเนื้อหา
ความรู้ มกี ารเช่อื มโยงเทคโนโลยสี ารสนเทศ ต่าง ๆ ทมี่ ีอยู่บนเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตมาใช้ประโยชน์ในด้านการ
จัดการเรยี นรู้ เพือ่ ให้นกั เรียนรู้จกั ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตใหเ้ กิดประโยชน์

17

รูปภาพ แสดงแหล่งเผยแพร่ความร้ผู า่ นเวบ็ ไซต์ https://shorturl.asia/69ytj
และFan page “ครรู ุ่นใหม่ ส่ือวิทย์นวัตกรรม”

จากความรู้ที่ข้าพเจ้าได้รับการพัฒนาและนำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้นั่นเอง ทำให้มีเพื่อนครู
ให้ความสนใจ และต้องการได้รับความรู้ จึงได้เผยแพร่ให้ความรู้กับเพื่อนครูทั้งในโรงเรียน และโรงเรียนใน
สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 1 รวมท้งั เพ่ือนครูทีต่ ดิ ตามเพจ 34,399 คน ด้วย

1) การนำองคค์ วามรู้จากการไดร้ บั การพฒั นาหรอื การพฒั นาตนเองไปใช้ประโยชน์ นำไปพัฒนา
นักเรยี นแบบองคร์ วมได้ ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ และเจตคติ โดยมขี นั้ ตอนดังนี้

๑) ศึกษาหลักสูตรของโรงเรียน ศึกษาเอกสารประกอบหลักสูตรและวิเคราะห์หลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พ.ศ. 2551

๒) ออกแบบหนว่ ยการเรียนรูแ้ ละจดั ทำแผนการเรยี นรอู้ ย่างชดั เจน ซ่ึงในแผนการ
จัดการเรียนรู้นอกจากจะกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดแล้ว จะกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ท่ี
ครอบคลมุ ทง้ั ๓ ดา้ น คือ ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั ดา้ นจติ พสิ ยั และดา้ นทกั ษะพสิ ยั

๓) ระบเุ ทคนคิ วิธกี ารในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ระบใุ ชส้ ่ือ/นวตั กรรมทใ่ี ช้ จัดกจิ กรรม
การเรยี นรทู้ เี่ หมาะสมสอดคล้องกบั เนอ้ื หาสาระและผเู้ รียน

๔) กำหนดวิธีการวัดและประเมนิ ผลพร้อมเครือ่ งมือการวดั และประเมนิ ผลไว้อย่างชัดเจน
๕) จากน้นั นำแผนการจัดการเรียนรไู้ ปใช้จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ที่เนน้ ผูเ้ รยี น เปน็ สำคญั
ใช้สื่อ/นวัตกรรมอย่างหลากหลายประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รวมทั้งออกแบบและสร้างเครื่องมือวัด
และประเมนิ ผลการเรยี นร้ใู ห้ครอบคลมุ ตามตวั ชวี้ ดั และมาตรฐานการเรยี นรู้
นำไปบูรณาการกับหนว่ ย/เร่อื งอ่นื ๆ ได้
สามารถนำความรู้จากการพัฒนาตนเองไปบูรณาการกับหน่วย/เรื่องอื่นๆ ได้ กล่าวคือ ระหว่างที่
วิเคราะห์หลักสูตรและออกแบบหน่วยการเรียนรู้ จะประยุกต์ใช้องค์ความรู้ที่มีในการเลือกตัวชี้วัดและสาระ
การเรียนรู้ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันในการกำหนดหน่วยการเรียนรู้และกำหนดสาระสำคัญหรือความคิด
รวบยอดได้อย่างลงตวั ในโครงสรา้ งรายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีความเชื่อมโยงสอดคลอ้ งกันต้ังแต่
มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้ ความคิดรวบยอด การกำหนดเวลา (ช่วั โมง) และการกำหนด
น้ำหนักคะแนน รวมทั้งการตั้งชื่อหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งในแต่ละประเด็นมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่าง
กลมกลนื

18

นำไปใช้บรู ณาการกับรายวิชาอน่ื ๆ ได้
ใชอ้ งค์ความรูจ้ ากการพัฒนาตนเอง นำไปพัฒนาผูเ้ รยี นให้เกิดองค์ความรูท้ ีม่ ีการเชอ่ื มโยงกันในทุก
รายวิชา โดยการบรู ณาการกับรายวชิ าอื่นๆ การสอนให้ผู้เรียนมองเห็นความสัมพนั ธ์ของการนำความรดู้ ้าน
วิทยาศาสตร์มาใชก้ ับรายวชิ าภาษาไทย คณติ ศาสตร์ สงั คมศึกษา ภาษาอังกฤษ การงานอาชพี และเทคโนโลยี
ซง่ึ ในแต่ละวิชานั้น ล้วนแล้วแตต่ ้องใช้ทักษะทางวทิ ยาศาสตรร์ ่วมดว้ ย ส่งผลใหม้ ีกระบวนการเรยี นรอู้ ย่างเปน็
ระบบ
นำไปใช้เปน็ ต้นแบบเผยแพร่ขยายผลได้
จากผลการพัฒนาตนเองทำให้ข้าพเจ้าเกิดองค์ความรู้ที่เปน็ กระบวนการ สามารถออกแบบการพัฒนา
ผเู้ รยี นอย่างมรี ะบบและข้นั ตอนตามหลกั วิชาการ มกี ารออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ จัดทำแผนการเรียนรู้ การใช้
สื่อ/นวัตกรรม ตลอดจนการวัดและประเมนิ ผลอยา่ งมีประสิทธิภาพตามสภาพจริงและจัดทำวจิ ัยชั้นเรียนซึ่งได้
เผยแพร่ ดังนี้

๑) เผยแพรเ่ ปน็ เอกสารให้กบั ครใู นโรงเรียน และเพ่ือคนครตู า่ งโรงเรยี น
๒) เผยแพร่ผ่านเวบ็ ไซต์ https://shorturl.asia/69ytj
๓) เผยแพร่ผา่ นสื่อออนไลน์ Facebook เพจ ครรู นุ่ ใหม่ สอ่ื วิทยน์ วัตกรรม

รปู ภาพ แสดงการเผยแพร่ขยายผล
7.2 การไดร้ ับการยอมรับ
จากประสบการณ์การสอนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มา 5 ปี สังเกตพบว่านักเรียนส่วนมาก
จะให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างเบื่อหน่ายไม่มีความสุขและไม่สนุกสนานในการ
เรียนวิชาวิชาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หากไม่ไดล้ งมือปฏิบัติ ขา้ พเจ้าก็พยายามหาวธิ ีการสอน เทคนิคการ
สอนและกระบวนการเรียนการสอนอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้เกม ใช้สื่อ เข้ามาช่วยในการจัดการ
เรียนการสอน ปรับบคุ ลกิ ให้สดช่ืน รืน่ เรงิ อารมณ์ดี น่าเขา้ ใกล้ สอนนักเรียนโดยนำตัวอยา่ งทใี่ กลต้ วั เด็ก เลา่
เรือ่ งสนกุ ๆให้ฟงั บา้ ง ผ่อนคลายบรรยากาศในห้องเรียนใหเ้ ปน็ กันเอง อยา่ ใหด้ หุ รอื เข้มงวดเกนิ ไป

รูปภาพ แสดงการออกแบบการเรยี นรูใ้ หน้ ่าสนใจ
ออกแบบและจัดทำหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามหลกั สูตร ดังนั้นข้าพเจ้า ได้
เลอื กใช้เทคนคิ กระบวนการจัดการเรียนรูท้ ีเ่ หมาะสม เลอื กใชส้ ื่อและแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีจะชว่ ยสนบั สนุนการเรยี นรู้

19

ของผูเ้ รียน และใชว้ ิธกี ารวดั ผลประเมนิ ผลทห่ี ลากหลาย ทง้ั นีโ้ ดยเน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั เพื่อใหผ้ ู้เรยี นได้พัฒนา
เต็มตามศักยภาพของแต่ละคน และสามารถนำสิ่งท่ีได้เรียนรู้ไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ได้

พัฒนารูปแบบกิจกรรมเชิงปฏิบัติการให้ผู้เรียนลงมือปฏิบตั ิ และเรียนรูด้ ้วยวิธหี ลากหลายรูปแบบ
การออกแบบกิจกรรมด้วยการกำหนดสถานการณ์และให้นักเรียนร่วมออกแบบและสร้างชิ้นงานความความ
สนใจให้สอดคล้องการกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ เนื้อหาการจัดกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็น
สำคัญ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายตามความต้องการของผู้เรียน และสอนนักเรียนที่มีความ
บกพร่องทางการเรียนรู้ควบคู่กันไปด้วย รูปแบบการสอน เช่น การเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ การ
เรียนรจู้ ากส่ือท่นี า่ สนใจ การทำแบบฝึกหัด การทำแบบทดสอบ การอภปิ ราย การรายงาน เพอ่ื ฝกึ กระบวนการ
คิด วเิ คราะห์ ฝึกการสังเกต กลา้ แสดงออก กลา้ แสดงความคิดเหน็

รปู ภาพ แสดงกิจกรรมเชงิ ปฏิบตั กิ ารให้ผู้เรยี นลงมือปฏิบตั ิ และเรยี นรดู้ ว้ ยวิธหี ลากหลาย
ซึ่งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะ active learning นี้ ข้าพเจ้าได้ส่งเสริมให้นักเรียนได้
นำเสนอผลงาน และถา่ ยทอดองค์ความรู้ท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้า ทดลองและปฏิบัติการ แล้วสะท้อนผลการ
จัดการเรียนรู้เพื่อนำไปออกแบบและพัฒนาการจัดกิจกรรมในหัวข้อถัดไปให้มีความคล่องตัวและเกิด
ประสิทธผิ ลตอ่ ไป และร่วมกำหนดรปู แบบวิธกี ารในการศึกษาและสรา้ งช้นิ งานในโอกาสถัดไป

รปู ภาพ แสดงการเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นมสี ่วนร่วมในการเรยี นรู้

การจัดการเรยี นรทู้ เี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ

ข้าพเจ้าได้จัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

โดยการวิเคราะห์หลักสูตร วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้ โดยพิจารณาจากมาตรฐานการเรียนรู้

วิเคราะห์บรบิ ทของชุมชน บริบทของโรงเรยี น และวิเคราะห์

ผู้เรยี นเป็นรายบุคคล จัดทำหนว่ ยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับ

ธรรมชาติการเรียนรู้ของนักเรียน กำหนดจำนวนหน่วยการ รูปภาพ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
เรียนรู้ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรยู้ ่อยและจำนวน

ชั่วโมง จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ รูปภาพ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

20

การดำเนนิ การสอนม่งุ ใหเ้ ด็กมีสว่ นรว่ มในการทำกิจกรรมดว้ ยตนเองมากท่สี ุดผ่านกระบวนการกลมุ่ การแสวงหา

ความรู้หลากหลายเน้นทักษะการปฏิบัติทั้งในเวลาเรียนและนอกเวลาเรียนมุ่งเน้นพัฒนาคุณธรรม และ

จรยิ ธรรม เรียนรูแ้ บบบรู ณาการม่งุ พฒั นาใหเ้ ด็กเกิดปญั ญา มีความสขุ

การวัดและประเมนิ พัฒนาการ ได้ดำเนินการวดั และประเมินพัฒนาการตามสภาพจริง โดยได้สรา้ ง

เครื่องมือวัด ได้แก่ แบบสังเกต แบบสังเกตพฤติกรรม ได้วิเคราะห์เด็กรายบุคคล ร่วมกับการใช้บันทึกการ

สนทนา แบบบันทึกพัฒนาการรายบุคคล แบบสำรวจตนเอง ซึ่งมีความหลากหลายสามารถนำไปใช้วัด และ

ประเมินความพร้อมให้สอดคล้องกับที่กำหนดไว้ ทำให้ทราบผลการเรียนรู้ สะท้อนถึงการเรียนของนักเรียน

และผลการจัดประสบการณ์ของครู นำผลดังกล่าวที่ได้ ไป

ปรบั ปรุงการเรียนการสอน

การรายงานผล ต่อเด็ก ผู้ปกครองและผู้บริหาร

สถานศึกษา ได้ดำเนินการวิเคราะห์สรุปผลการวัดและ

ประเมินความพร้อมทุกภาคเรียน แจ้งให้เด็กทราบ เพ่ือ

จะได้นำไปเป็นข้อมูลพัฒนาตนเองและปรับปรุงวิธีการ

เรียนรู้ให้ดีขึ้นแล้วมอบข้อมูลสารสนเทศของผลการ

เรียนรู้แก่ผูป้ กครอง ได้ทราบผลการเรียนของ บุตรหลาน รูปภาพ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ซึ่งเปน็ วิธกี ารทด่ี ี ทที่ ำใหผ้ ูป้ กครองไดร้ ่วมมือกบั โรงเรียน

ในการดูแลเอาใจใส่และร่วมพัฒนาการเรียนรู้ให้กับเด็ก

นอกจากนี้ยังได้รายงานผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ รูปภาพ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

ผู้บริหารสถานศึกษารับทราบ เพื่อนำไปเป็นข้อมูล

กำหนดนโยบายและหาแนวทางพฒั นาครู เพื่อวางแผนการจัดการศกึ ษาของโรงเรียนให้มีคุณภาพต่อไป

มีการใชแ้ ละพฒั นาส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยีเพือ่ การเรียนรู้ รูปภาพ การสรา้ งสอ่ื และนวัตกรรม
ศึกษาค้นคว้าข้อมูลในสาขาวิชาที่สอนทั้งในหนังสือ ระบบ รปู ภาพ การอบรมพัฒนาสอ่ื นวตั กรรมเทคโนโลยี

อินเตอร์เน็ต บทเรียนสำเร็จรูป โปรแกรมสื่อการสอน มา
ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ สร้างและพัฒนาสื่อการสอน
ให้เหมาะสม ทำให้กิจกรรมการเรียนการสอนมีความน่าสนใจ
มากยิ่งขึ้น นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน
มากขึ้น อีกทั้งข้าพเจ้าได้ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี
เพื่อการเรียนรู้ โดยข้าพเจ้าได้ออกแบบการเลือกตั้งในรูปใหม่
เนื่องจากภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 (COVID-
19) ทำใหเ้ กิดการปฏบิ ัตติ นอย่างปกติ

เข้าร่วมอบรม สัมมนา อบรมปฏิบัติการ เพื่อพัฒนา
ตนเอง ศึกษาข้อมูล ความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เพื่อพฒั นาการสอนใหห้ ลากหลายมากข้ึน ซึง่ จะเป็นประโยชน์
ต่อการเรียนรู้ของนักเรียนมากขึ้น ได้เข้าร่วมการอบรม
เสริมสร้างความรู้ เมื่อกลับมา ได้จัดการเรียนการสอนกับ
นักเรียนโดยข้าพเจ้าได้ใช้วิธีการผลิตสื่อวิชาวิทยาศาสตร์และ

21

เทคโนโลยี ซึ่งข้าพเจ้าได้ให้โอกาศนักเรียนได้คิดออกแบบ สร้างสรรค์และพัฒนาสื่อต่างๆ โดยให้นักเรียนได้

เรียนรู้กับเนื้อหาวิชาก่อน และให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้มาช่วยกันคิดและออกแบบสื่อออกมา โดยใช้การตั้ง

คำถามวา่ จะทำอย่างไรถงึ จะใชไ้ ด้ และเปน็ ทย่ี อมรับ ซ่ึงวิธีน้ี นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ตอ้ งไปหาวธิ ีท่ีแตกตา่ งกัน และ

ดำเนินการพฒั นาให้ได้ตามโจทย์ที่ได้รับ นกั เรยี นจะได้ประสบการณ์จากการเรียนรู้โดยครูไม่ต้องสอนมากและ

สามารถเกิดความรู้อย่างแทจ้ ริงและคงทนได้ สามารถตรวจสอบได้ ทั้งการปฏิบัติ การตอบคำถาม ได้แตกต่าง

จากการเรยี นปกติ และนักเรียนมคี วามสนใจมากขน้ึ เกิดทัศนคติทีด่ ีต่อการเรียนมากขน้ึ นำมาสู่นวัตกรรมการ

จัดการเรียนการสอนได้

7.3 รางวลั ทไี่ ด้รับ

ตาราง แสดงผลงานดเี ด่นเป็นท่ีประจักษ์ ของนกั เรยี น

นกั เรยี น รางวลั จากหน่วยงาน/องค์กร

เด็กหญิงปนัดดา ปิน่ สกุ รางวัลดี ระดบั ประเทศ โครงงานคณุ ธรรมเฉลิม สพฐ.
เด็กชายวรวิช เทพณรงค์ พระเกยี รติ เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง

เดก็ หญงิ ณัฐากร ทองแท้

เด็กหญิงอาภัสรา แสงจันทร์

เดก็ หญงิ สุนสิ า สขุ นิรันดร์

ตาราง แสดงผลงานดเี ด่นเป็นทปี่ ระจักษ์ ของครูผู้สอน

ลำดบั ระดบั รางวัล/รายการทไ่ี ดร้ บั หนว่ ยงานทีจ่ ดั หลักฐานอา้ งอิง
ที่

1 ระดับประเทศ รางวลั ดี ระดบั ประเทศ โครงงาน สำนักงานคณะกรรมการ เกียรตบิ ตั ร

คุณธรรมเฉลมิ พระเกยี รติ เยาวชน การศึกษาข้นั พน้ื ฐาน

ไทย ทำดี ถวายในหลวง

๒ ระดับเขต ได้รับรางวัลครูผู้สอน กลุ่มสาระ สำนกั งานเขตพืน้ ท่ี เกียรตบิ ัตร

พื้นท่ี การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ การศึกษาประถมศกึ ษา

การศึกษา เทคโนโลยี สุพรรณบุรี เขต 1

ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6

มีผลสัมฤทธิ์ทางการทดสองสูงกว่า

ระดบั ชาติ ปกี ารศกึ ษา 2563

3 ระดบั เขต ได้รับรางวัลครูผู้สอน กลุ่มสาระ สำนกั งานเขตพื้นท่ี เกยี รตบิ ตั ร

พื้นท่ี การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ การศกึ ษาประถมศกึ ษา

การศึกษา เทคโนโลยี สุพรรณบุรี เขต 1

ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6

มีผลสัมฤทธิ์ทางการทดสองสูงกว่า

ระดับชาติ ปกี ารศึกษา 2564

4 ระดับเขต ได้รับรางวัลผู้จัดทำสื่อ นวัตกรรม สำนกั งานเขตพน้ื ที่ เกียรตบิ ัตร

พื้นท่ี และเทคโนโลยี Learn at Home การศึกษาประถมศกึ ษา

การศกึ ษา ได้ระดบั รางวัล ดี สพุ รรณบรุ ี เขต 1

เรอ่ื ง ชนิดและลักษณะของพืชดอก

22

ลำดับ ระดับ รางวัล/รายการทไ่ี ดร้ บั หนว่ ยงานทจ่ี ดั หลักฐานอ้างอิง
ท่ี

จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ประถมศกึ ษาสุพรรณบุรี เขต 1

8. ข้อเสนอแนะ
1. ควรนำนวัตกรรมไปใชพ้ รอ้ มตรวจสอบและผลักดนั ให้เกดิ การปรับปรงุ พฒั นาอยา่ งต่อเนือ่ ง
2. นวัตกรรมควรเป็นสิ่งที่เกิดจากปัญหา และจัดทำอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้เพื่อการพัฒนาอย่างแท้จริง

จะเกิดกับนักเรยี น
3. นวตั กรรมทด่ี ี ควรได้รบั การยอมรับ และเผยแพร่ เพ่อื นำไปปฏิบัตอิ ย่างถูกต้องเหมาะสม

23

ภาคผนวก

24

รปู ภาพ นกั เรียนทำกจิ กรรมจิตศกึ ษา และสมดุ จติ ศึกษา

25

รูปภาพ แสดงการทำโครงงานคณุ ธรรมประจำห้องชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 เรอ่ื ง ครูไมอ่ ยู่หนูรบั ผดิ ชอบ

26

รปู ภาพ กิจกรรมออมเงินดำเนนิ การโดยนักเรียนเอง
รปู ภาพ นกั เรียนเข้าร่วมกจิ กรรม Student Market
รูปภาพ นกั เรียนประดิษฐส์ ่ือแวน่ จากกล่องนมโรงเรยี น
รปู ภาพ นกั เรยี นประดิษฐ์กระถางตนั ไมจ้ ากขวดพลาสติกเหลอื ใช้

27

ไดร้ ับรางวัลจดั ทำส่ือนวตั กรรมเทคโนโลยี Learn at home ระดับ ดี จากสำนักงาน
เขตพื้นท่กี รศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบรุ ี เขต 1

ไดร้ บั รางวัลครูผสู้ อน กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6

มผี ลสมั ฤทธ์ิทางการทดสองสูงกวา่ ระดับชาติ ปีการศึกษา 2563
จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบรุ ี เขต 1

28

ได้รบั รางวัลครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6

มีผลสมั ฤทธิ์ทางการทดสองสูงกวา่ ระดบั ชาติ ปีการศกึ ษา 2564

ครทู ีป่ รึกษาโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ “เยาวชนไทย ทำดี ถวานในหลวง”
ปีท่ี 16 ปกี ารศกึ ษา 2564 เยาวชนวัยใส ใสใ่ จผู้สูงอายุ
รางวลั ดี ระดับประเทศ
จาก สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน

29

รางวลั ผลงานระดับ ดีมาก ผลการปฏบิ ตั ิท่ีเป็นเลศิ (Best Practice) โครงการ
ขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ด้วยสือ่ เทคโนโลยดี จิ ิทัล ระดบั การศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน
ประเภท ครผู ู้สร้างและพัฒนาสอื่ เทคโนโลยี ระบบ OBEC Content Center

1


Click to View FlipBook Version