The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิชากลศาสตร์เครื่องกล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนการสอนวิชากลศาสตร์เครื่องกล

แผนการสอนวิชากลศาสตร์เครื่องกล

แผนการสอน/การจดั การเรียนรู้แบบม่งุ เน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
รหสั 20101 - 2007 วชิ า กลศาสตร์เคร่ืองกล

หลกั สูตร .....ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ.... ปี พ.ศ. .....2562...
ประเภทวชิ า ...ช่างยนต.์ ..

จัดทำโดย

นายเกยี รติศกั ด์ิ บ่อคำเกดิ

ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563
วิทยาลยั เทคนิคสว่างแดนดนิ

สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

แบบคำขออนุมตั ใิ ชแ้ ผนการสอน
แผนการสอน/การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพ

และบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
วชิ า งานพน่ สรี ถยนต์ รหัสวิชา 20101 – 2007

.....................................................
(นายเกยี รตศิ ักดิ์ บ่อคำเกิด)
ครูพเิ ศษสอน

ความเหน็ หัวหน้าแผนกวิชาชา่ งยนต์ ความเหน็ หวั หน้างานพัฒนาหลกั สตู รฯ

ว่าทีร่ .ท............................................... ลงชอ่ื ...............................................
( นเรศ สุรยิ ะชยั ) (นายคุมดวง พรมอินทร)์
หวั หน้างานพัฒนาหลักสูตรฯ
หวั หนา้ แผนกวชิ าช่างยนต์

ความเหน็ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ

ลงชื่อ……………………………………...
(นายทนิ กร พรหมอนิ ทร)์
รองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ

ความเห็นผอู้ ำนวยการวิทยาลัยเทคนคิ สว่างแดนดิน

ลงช่ือ............................................
(นางวรรณภา พ่วงกลุ )

ผูอ้ ำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสว่างแดนดิน

คำนำ

แผนการสอนวิชางานพ่นสีรถยนต์ รหัสวิชา 20101 – 2007 ฉบับนี้จัดทำข้ึน
ตามหลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ของกรมอาชีวศกึ ษา โดยแผนการสอนฉบบั นี้
จัดทำขึ้นเพือ่ ใช้เป็นแนวทางในการสอนวิชางานพ่นสีรถยนต์ สำหรับแผนกวิชาชา่ งยนต์ มีการจัดเน้อื หา
ของรายวิชาออกเป็น 8 หน่วย เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจของผูเ้ รียนแล้วสามารถประมวลผลการ
เรยี นรขู้ องผู้เรียนในแต่ละหนว่ ยไดอ้ ยา่ งถูกต้อง

ผ้จู ัดทำหวงั เปน็ อย่างยง่ิ ว่า แผนการสอนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนทไี่ ดศ้ ึกษา
จดุ ประสงค์การเรียนรขู้ องรายวชิ านี้ แล้วสามารถนำไปปฏิบัตไิ ด้ และหากมีข้อเสนอประการใด ผู้จดั ทำ
ยินดนี อ้ มรับไวด้ ว้ ยความขอบคุณย่งิ

นายเกยี รติศกั ดิ์ บอ่ คำเกิด
ผจู้ ัดทำ

วันท่ี ....... เดอื น..............พ.ศ...........

วัตถุประสงค์
แผนการสอน การเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เล่มน้ี

จัดทำขึ้นมาเพื่อใช้ประกอบในการเรียน การสอนในวิชางานพ่นสีรถยนต์ รหัสวิชา 20101 – 2007
ตามหลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี พทุ ธศักราช 2562 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขายานยนต์ แผนก
วิชาชา่ งยนต์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา (สอศ.) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
รายละเอียดของแผน

แผนการสอนการเรียนร้มู งุ่ เนน้ สมรรถนะอาชพี และบรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง
ประกอบไปด้วยสาระการเรียนรซู้ งึ่ แบ่งออกเปน็ 8 หน่วยการเรยี น โดยจัดแผนการการจดั การเรยี นร/ู้
แผนการสอนแตล่ ะหน่วยท่ีมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี และมีการบรู ณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและ
ในแตล่ ะหน่วยการเรยี นเนน้ ให้ผ้เู รยี นมีสว่ นร่วมในการเรยี นรู้ใหม้ ากที่สดุ ท้งั ในดา้ นความรู้ ทักษะ คุณธรรม
จริยธรรมตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงและเน้นการสร้างองค์ความรู้แกผ่ ู้เรียน
ขอบคณุ

ผจู้ ัดทำแผนเลม่ นี้หวังว่าคงให้ประโยชน์และคณุ ค่าทางการศกึ ษาแก่ผู้เรียนและศกึ ษาวชิ าน้ี
หากมีสิ่งใดที่เป็นความดีจากการใช้แผนการสอนการเรียนรูเ้ ลม่ นีท้ ัง้ หลายทงั้ ปวงขอมอบความดีนแี้ ก่ บิดา-
มารดา ครู-อาจารย์ ผมู้ พี ระคุณ ขอบคณุ คณะผบู้ ริหาร คณะครู –อาจารย์ วทิ ยาลัยเทคนคิ สว่างแดนดนิ
โดยเฉพาะครู แผนกวชิ าเครื่องกลท่ใี ห้การสนับสนุนเอกสารข้อมูลและกำลังใจในการจัดทำแผนการสอน
การเรยี นรเู้ ล่มนี้

นายเกยี รตศิ กั ด์ิ บ่อคำเกิด
ผจู้ ดั ทำ

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 1 หน่วยท่ี 1
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ช่อื หน่วย ระบบของแรงและการสมดลุของแรง

แนวคิด

ระบบของแรงในกลศาสตรเ์ คร่อื งกลมี 2 ประเภท คอื แรงกริ ยิ าและแรงปฏกิ ริ ยิ า ชนิดของแรงไดแ้ ก่
แรงในระนาบเดยี วกนั และแรงต่างระนาบซงึ่ แรงดงั กล่าวจะกระทากบั วตั ถใุ หเ้ คลอ่ื นทไ่ี ป
สาระการเรยี นรู้

1. ธรรมชาตขิ องแรง
2. ประเภทของแรงและชนดิ ของแรง
3. หน่วยของแรงและความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งหน่วยของแรง
ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายธรรมชาตขิ องแรงไดถ้ ูกตอ้ ง
2. อธบิ ายประเภทและชนดิ ของแรงไดถ้ ูกตอ้ ง
3. อธบิ ายหน่วยของแรงไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขนั้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น

1. ปฐมนเิ ทศ นักศกึ ษาฟังคาชแ้ี จง โครงร่างรายวชิ า จดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า
คาอธบิ ายรายวชิ า เกณฑก์ ารวดั ประเมนิ ผลและงานทม่ี อบหมายระหว่างเรยี น

2. นักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
3. ครูตงั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกยี่ วกบั เร่อื งระบบของแรง
4. ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รถู ามและใหน้ ักศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เติม
ขนั้ สอน

5. ครใู หเ้ นอ้ื หาเกยี่ วกบั ธรรมชาตขิ องแรง ประเภทและชนดิ ของแรง หน่วยของแรงและ
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งหน่วยของแรง

6. ครตู งั้ คาถามใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื ง ธรรมชาตขิ องแรง ประเภทและชนดิ ของ
แรง หน่วยของแรงและความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งหน่วยของแรง

7. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานทเ่ี กยี่ วกบั แรงต่าง ๆ
8. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กยี่ วกบั ธรรมชาตขิ องแรง ประเภทและชนิดของแรง

หน่วยของแรงและความสมั พนั ธร์ ะหว่างหน่วยของแรง

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์

9. นักศกึ ษานาไปประยกุ ตใ์ นงานช่างทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
10. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอ่ื สรุปผลความกา้ วหนา้ ของการเรยี นรู้
สอื่ การเรียนการสอน

หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานักพมิ พ์เอมพนั ธ์ จากดั
การวดั ปละการประเมินผล

วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมอื วดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 1
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี น

ร่วมกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ ่านกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1 เกณฑผ์ า่ น ทาถูกตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 2 หน่วยท่ี 1
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล

ช่อื หน่วย ระบบของแรงและการสมดลุ ของแรง

แนวคิด

กฎข้อท่ีหน่ึงของนิวตัน กล่าวไว้ว่าถ้าแรงลัพธ์ท่ีกระทาต่อวตั ถุเป็นศูนย์ วตั ถุจะหยุดนิ่งหรือ
เคล่อื นทด่ี ว้ ยความเรว็ คงท่ี การสมดลุ ของวตั ถุไดแ้ ก่ สมดุลสถิต และสมดลุ จลน์ การหาแรงลพั ธ์และแรงย่อย
หาไดจ้ ากการสรา้ งรูปและการคานวณ
สาระการเรยี นรู้

1. สมดลุ
2. สมดุลต่อการเคลอ่ื นท่ี
3. การหาแรงลพั ธแ์ ละการรวมเวกเตอรโ์ ดยการสรา้ งรูป
4. การหาแรงยอ่ ยและแรงลพั ธโ์ ดยการคานวณ
ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายการสมดลุ ของวตั ถไุ ดถ้ ูกตอ้ ง
2. คานวณหาแรงลพั ธแ์ ละการหาแรงยอ่ ยไดถ้ กู ตอ้ ง
3. อธบิ ายการรวมเวกเตอรโ์ ดยการสรา้ งรูปไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรียนการสอน

ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครูตงั้ ปัญหาถามนกั ศกึ ษาเกย่ี วกบั เร่อื ง การสมดุลของแรง
3. ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รูถามและใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครใู หเ้ น้อื หาเกย่ี วกบั การสมดลุ การหาแรงลพั ธ์ แรงยอ่ ย และการรวมเวกเตอรโ์ ดยการสรา้ ง
รูป

5. ครตู งั้ คาถามใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามเกยี่ วกบั เรอ่ื ง สมดุล การหาแรงลพั ธ์ แรงย่อย และการ
รวมเวกเตอรโ์ ดยการสรา้ งรปู

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานทเ่ี กย่ี วกบั การสมดลุ ของวตั ถุ
7. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั สมดลุ การหาแรงลพั ธ์ แรงยอ่ ย และการ

รวมเวกเตอรโ์ ดยการสรา้ งรปู
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

8. นักศกึ ษานาไปประยกุ ต์ในงานชา่ งทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
9. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพ่อื สรุปผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้

สือ่ การเรียนการสอน
หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครอ่ื งมอื วดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 1
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนกั เรยี น

ร่วมกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

.

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 3 หน่วยท่ี 1

รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล

ช่อื หน่วย ระบบของแรงและการสมดุลของแรง จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.

แนวคิด
การสมดุลของวตั ถสุ มั บูรณ์จะเกดิ ขน้ึ ใน 2 ลกั ษณะ คอื สมดลุ ตอ่ การเลอ่ื นทแ่ี ละสมดุลต่อการหมุน

เสถยี รภาพของการสมดุลของวตั ถไุ ดแ้ กส่ มดลุ เสถยี รสมดุลไม่เสถยี รและสมดลุ สะเทนิ
สาระการเรียนรู้

1. สมดลุ ตอ่ การหมนุ
2. สมดุลสมั บรู ณ์
3. เสถยี รภาพของสมดุล
4. การนาหลกั การสมดลุ ไปประยกุ ตใ์ ชง้ าน
ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั
1. อธบิ ายการสมดลุ ต่อการหมนุ ไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายการสมดลุ สมั บรู ณไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง
3. อธบิ ายการเสถยี รภาพของสมดลุ ไดถ้ ูกตอ้ ง
4. อธบิ ายการนาหลกั การสมดุลไปประยกุ ตใ์ ชง้ านไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรยี นการสอน
ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน
1. นักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครตู งั้ ปัญหาถามนกั ศกึ ษาเกย่ี วกบั เรอ่ื ง การสมดุลตอ่ การหมนุ
3. ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รถู ามและใหน้ ักศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
ขนั้ สอน
4. ครใู หเ้ น้อื หาเกยี่ วกบั สมดลุ ตอ่ การหมนุ สมดุลสมั บูรณ์ เสถยี รภาพของสมดุล และ การนา

หลกั การสมดุลไปประยุกตใ์ ชง้ าน
5. ครูตงั้ คาถามใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื ง สมดลุ ตอ่ การหมนุ สมดุลสมั บูรณ์

เสถยี รภาพของสมดุล และ การนาหลกั การสมดลุ ไปประยกุ ต์ใชง้ าน
6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยุกตใ์ ชเ้ กย่ี วกบั การสมดุลตอ่ การหมนุ ของวตั ถุ
7. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กยี่ วกบั การสมดุลตอ่ การหมนุ สมดลุ สมั บูรณ์

เสถยี รภาพของสมดลุ และ การนาหลกั การสมดุลไปประยุกต์ใชง้ าน
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
8. นกั ศกึ ษานาไปประยุกต์ในงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั งานเครอ่ื งกล
9. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอ่ื สรปุ ผลความกา้ วหนา้ ของการเรยี นรู้

สือ่ การเรียนการสอน
หนังสอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 1
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 4 หน่วยท่ี 2
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
ช่อื หน่วย การเคลอ่ื นทใ่ี นแนวเสน้ ตรงและแนวโคง้

แนวคิด

การเคล่อื นท่ขี องวตั ถุมลี ักษณะท่แี ตกต่าง การเคล่อื นท่เี ป็นการเปล่ยี นแปลงตาแหน่งของวตั ถุ
เกย่ี วขอ้ งกบั ระยะทางและเวลาทว่ี ตั ถุเคลอ่ื นท่ี การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุนนั้ อยนู่ นั้ ภายใตแ้ รงดงึ ดดู ของโลก
สาระการเรยี นรู้

1. การบอกตาแหน่งของวตั ถุสาหรบั การเคลอ่ื นทแ่ี นวตรง
2. ระยะทางและการกระจดั
3. ระยะทางในช่วงวนิ าทหี น่ึงวนิ าทใี ด
4. การเคล่อื นทข่ี องวตั ถุภายใตแ้ รงดงึ ดดู ของโลก
ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายการบอกตาแหน่งของวตั ถสุ าหรบั การเคล่อื นทแ่ี นวตรงไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายระยะทางและการกระจดั ไดถ้ ูกตอ้ ง
3. อธบิ ายระยะทางในช่วงวนิ าทหี นง่ึ วนิ าทใี ดไดถ้ กู ตอ้ ง
4. อธบิ ายการเคล่อื นทข่ี องวตั ถุภายใตแ้ รงดงึ ดดู ของโลกไดถ้ กู ตอ้ ง
5. คานวณหาระยะทางและการกระจดั ไดถ้ ูกตอ้ ง
กิจกรรมการเรียนการสอน

ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น

1. นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครตู งั้ ปัญหาถามนกั ศกึ ษาเกย่ี วกบั เรอ่ื ง การบอกตาแหน่งของวตั ถสุ าหรบั การเคลอ่ื นทแ่ี นว

ตรง
3. ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รถู ามและใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครูใหเ้ นอ้ื หาเกย่ี วกบั การบอกตาแหน่งของวตั ถุ ระยะทาง การกระจดั ระยะทางในช่วงวนิ าที
หน่ึงวนิ าทใี ด และ การเคล่อื นทข่ี องวตั ถภุ ายใตแ้ รงดงึ ดดู ของโลก

5. ครตู งั้ คาถามใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามเกยี่ วกบั เรอ่ื ง การบอกตาแหน่งของวตั ถุ ระยะทาง การ
กระจดั ระยะทางในชว่ งวนิ าทหี น่งึ วนิ าทใี ด และ การเคล่อื นทข่ี องวตั ถุภายใตแ้ รงดงึ ดูดของโลก

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยุกตใ์ ช้ในงานทเ่ี กยี่ วกบั การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุ
7. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั การบอกตาแหน่งของวตั ถุ ระยะทาง การ

กระจดั ระยะทางในช่วงวนิ าทหี น่งึ วนิ าทใี ด และ การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถภุ ายใตแ้ รงดงึ ดดู ของโลก
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

8. นักศกึ ษานาไปประยกุ ตใ์ นงานช่างทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
9. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอ่ื สรุปผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้

สอ่ื การเรยี นการสอน
หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 2
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม เกณฑผ์ ่าน 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 5 หน่วยท่ี 2
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ช่อื หน่วย การเคล่อื นทใ่ี นแนวเสน้ ตรงและแนวโคง้

แนวคิด

การเคล่อื นทใ่ี นสองมติ ิแยกเป็นการเคลอ่ื นทใ่ี นหนงึ่ มติ ใิ นสองทศิ ทต่ี งั้ ฉากกนั ตามแนวแกน x และ y
การเคล่อื นทใ่ี นสามมติ แิ ยกเป็นการเคล่อื นทใ่ี นหนงึ่ มติ ิตามแกนตงั้ ฉากกนั และกนั สามแกนตามตามแนวแกน x
y และ z

การเคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์เป็นการเคล่อื นทข่ี องวตั ถุอยา่ งอสิ ระและการเคล่อื นทแ่ี บบวงกลมแรง
มที ศิ ทางตงั้ ฉากกบั ความเรว็ ตลอดเวลา
สาระการเรียนรู้

1. การเคล่อื นทใ่ี นสองมติ แิ ละสามมติ ิ
2. การเคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์
3. ลกั ษณะการเคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์
4. การเคล่อื นทแ่ี บบวงกลม
ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายการเคลอ่ื นทใ่ี นสองมติ แิ ละสามมติ ิไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายการเคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ไดถ้ ูกตอ้ ง
3. อธบิ ายการเคล่อื นทแ่ี บบวงกลมไดถ้ กู ตอ้ ง
4. คานวณหาการเคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ไดถ้ กู ตอ้ ง
5. คานวณหาการเคลอ่ื นทแ่ี บบวงกลมไดถ้ ูกตอ้ ง
กิจกรรมการเรียนการสอน

ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น

1. นักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครตู งั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกย่ี วกบั เรอ่ื ง การเคล่อื นทแ่ี บบต่าง ๆ
3. ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รูถามและใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครูใหเ้ น้อื หาเกยี่ วกบั การเคล่อื นทใ่ี นสองมติ แิ ละสามมติ ิ การเคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์
ลกั ษณะการเคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ และ การเคลอ่ื นทแ่ี บบวงกลม

5. ครตู งั้ คาถามใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามเกยี่ วกบั เรอ่ื ง การเคลอ่ื นทใ่ี นสองมติ แิ ละสามมติ ิ การ
เคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ ลกั ษณะการเคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ และ การเคล่อื นทแ่ี บบวงกลม

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยกุ ตใ์ ช้ในงานทเ่ี กยี่ วกบั การเคล่อื นทข่ี องวตั ถแุ บบโพรเจก
ไทล์

7. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั การเคล่อื นทใ่ี นสองมติ แิ ละสามมติ ิ การ
เคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ ลกั ษณะการเคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ และ การเคล่อื นทแ่ี บบวงกลม

ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

8. นกั ศกึ ษานาไปประยุกตใ์ นงานช่างทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
9. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพ่อื สรุปผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้
สอื่ การเรยี นการสอน

หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั
การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครื่องมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 2
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ ่านกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2 เกณฑผ์ า่ น ทาถูกตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 6 หน่วยท่ี 3
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ชอ่ื หน่วย ความเสยี ดทาน

แนวคิด

ผลกั วตั ถทุ ว่ี างอยู่บนพน้ื ราบในแนวระดบั ถ้าแรงกระทาไมม่ ากพอวตั ถจุ ะไมเ่ คลอ่ื นทด่ี งั นนั้ ถา้ ออก
แรงกระทากบั วตั ถุมากพอวตั ถุจะเคล่อื นท่ไี ด้และเม่อื หยุดออกแรงกระทากบั วตั ถุ วตั ถุจะหยุดการเคล่อื นท่ี
เพราะทพ่ี น้ื มแี รงตา้ นทานการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุ
สาระการเรยี นรู้

1. แรงเสยี ดทานของวตั ถุ
2. การหาค่าสมั ประสทิ ธคิ์ วามเสยี ดทานบนพน้ื ราบ
3. การหาคา่ สมั ประสทิ ธคิ์ วามเสยี ดทานจากพน้ื เอยี ง
ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายแรงเสยี ดทานของวตั ถุไดถ้ ูกตอ้ ง
2. คานวณหาคา่ สมั ประสทิ ธคิ์ วามเสยี ดทานไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรียนการสอน

ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน

1. นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครตู งั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกยี่ วกบั เร่อื ง ความเสยี ดทานของวตั ถุ
3. ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รูถามและใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครูใหเ้ นอ้ื หาเกย่ี วกบั แรงเสยี ดทานของวตั ถุ การหาคา่ สมั ประสทิ ธคิ์ วามเสยี ดทานบนพน้ื ราบ
และ พน้ื เอยี ง

5. ครตู งั้ คาถามใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื ง แรงเสยี ดทานของวตั ถุ การหาคา่
สมั ประสทิ ธคิ์ วามเสยี ดทานบนพน้ื ราบและพน้ื เอยี ง

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยุกตใ์ ชใ้ นงานทเ่ี กย่ี วกบั แรงเสยี ดทานของวตั ถุ
7. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กยี่ วกบั แรงเสยี ดทานของวตั ถุ การหาคา่

สมั ประสทิ ธคิ์ วามเสยี ดทานบนพน้ื ราบและพน้ื เอยี ง
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

8. นักศกึ ษานาไปประยุกต์ในงานช่างทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
9. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพ่อื สรุปผลความกา้ วหนา้ ของการเรยี นรู้
สอื่ การเรยี นการสอน

หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล(2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 3
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 7 หน่วยท่ี 3
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ช่อื หน่วย ความเสยี ดทาน

แนวคิด

แรงเสยี ดทานกลง้ิ เกดิ จากวตั ถุกลง้ิ ไปบนอกี วตั ถุหน่งึ โดยไมม่ กี ารลน่ื ไถลค่าสมั ประสทิ ธคิ์ วามเสยี ด
ทานกลง้ิ มคี ่าเท่ากบั แรงเสยี ดทานกล้งิ ต่อแรงกดในแนวตงั้ ฉากกบั ผวิ สมั ผสั กฎแรงดงึ ดูดระหว่างมวลของนวิ ตนั
วตั ถทุ งั้ หลายในเอกภพจะออกแรงดงึ ดดู ซงึ่ กนั และกนั สามารถหามวลของโลกได้
สาระการเรยี นรู้

1. แรงเสยี ดทานกลง้ิ
2. การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถบุ นพน้ื เอยี ง
3. กฎแรงดงึ ดดู ระหว่างมวลของนิวตนั
4. มวลของโลก
ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั

1. อธบิ ายแรงเสยี ดทานกล้งิ ไดถ้ ูกตอ้ ง
2. อธบิ ายการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถบุ นพน้ื เอยี งไดถ้ กู ตอ้ ง
3. คานวณหาแรงดงึ ดดู ระหวา่ งมวลของนวิ ตนั ไดถ้ กู ตอ้ ง
4. อธบิ ายมวลของโลกไดถ้ ูกตอ้ ง
กิจกรรมการเรียนการสอน
กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น

1. นักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครูตงั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกยี่ วกบั เรอ่ื ง แรงเสยี ดทานกลง้ิ การเคล่อื นทข่ี องวตั ถบุ นพน้ื เอยี ง

กฎแรงดงึ ดดู ระหว่างมวลของนวิ ตนั และมวลของโลก
3. ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รูถามและใหน้ ักศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครูใหเ้ น้อื หาเกยี่ วกบั แรงเสยี ดทานกล้งิ การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุบนพน้ื เอยี ง กฎแรงดงึ ดดู
ระหว่างมวลของนิวตนั และมวลของโลก

5. ครูตงั้ คาถามใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื ง แรงเสยี ดทานกลง้ิ การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถบุ น
พน้ื เอยี ง กฎแรงดงึ ดดู ระหว่างมวลของนิวตนั และมวลของโลก

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยกุ ตใ์ ช้ในงานเกยี่ วกบั แรงเสยี ดทานกลง้ิ ของวตั ถุ
7. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั แรงเสยี ดทานกล้งิ การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถบุ น

พน้ื เอยี ง กฎแรงดงึ ดดู ระหวา่ งมวลของนวิ ตนั และมวลของโลก

ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

8. นกั ศกึ ษานาไปประยกุ ตใ์ นงานช่างทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
9. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพ่อื สรปุ ผลความกา้ วหนา้ ของการเรยี นรู้

สอื่ การเรียนการสอน

หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั
การวดั ปละการประเมินผล

วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 3
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี น

ร่วมกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมินผล

1. เกณฑผ์ ่านกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3 เกณฑผ์ า่ น ทาถูกตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 8 หน่วยท่ี 4
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ช่อื หน่วย ความเรว็

แนวคิด

การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถจุ ะเกย่ี วขอ้ งกบั ความเรว็ อตั ราเรว็ ความเร่ง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ระยะทาง
กบั เวลา ความเรว็ กบั เวลา อตั ราเร่งกบั เวลาและสมการสาหรบั คานวณหาปรมิ าณต่าง ๆ ของการเคล่อื นทใ่ี น
แนวตรงดว้ ยความเร่งคงตวั
สาระการเรยี นรู้

1. ความเรว็
2. อตั ราเรว็
3. ความเร่ง
4. กราฟความสมั พนั ธร์ ะหว่าง s-t , v-t และ a-t
ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั

1. อธบิ ายความหมายของความเรว็ ไดถ้ ูกตอ้ ง
2. อธบิ ายอตั ราเรว็ และความเรง่ ไดถ้ กู ตอ้ ง
3. อธบิ ายกราฟความสมั พนั ธร์ ะหว่าง s-t , v-t และ a-t ไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน

1. นักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครตู งั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกย่ี วกบั ความเรว็ ของวตั ถุ
3. ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รูถามและใหน้ ักศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครูใหเ้ น้อื หาเกย่ี วกบั ความเรว็ อตั ราเรว็ ความเรง่ และกราฟความสมั พนั ธร์ ะหว่าง s-t , v-t
และ a-t

5. ครูตงั้ คาถามใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื ง ความเรว็ อตั ราเรว็ ความเร่ง และกราฟ
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง s-t , v-t และ a-t

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยกุ ตใ์ ช้งานทเ่ี กย่ี วกบั ความเรว็ อตั ราเรว็ ความเร่งของวตั ถุ
7. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กยี่ วกบั ความเรว็ อตั ราเรว็ ความเร่ง และกราฟ

ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง s-t , v-t และ a-t
8. ขนั้ สรปุ และการประยุกต์

9. นกั ศกึ ษานาไปประยุกตใ์ นงานช่างทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
10. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอ่ื สรุปผลความกา้ วหนา้ ของการเรยี นรู้
สอ่ื การเรยี นการสอน

หนังสอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 4
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 9 หน่วยท่ี 4
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ชอ่ื หน่วย ความเรว็

แนวคิด

การหาความเรว็ จากกราฟจะหาได้จากความสมั พนั ธ์ระหว่างระยะทางกบั เวลา และการหา
ความเร่งจากกราฟหาได้จากความสมั พนั ธ์ระหว่างความเรว็ กบั เวลา สมการสาหรบั คานวณกาปรมิ าณต่าง ๆ
ของการเคล่อื นทข่ี องวตั ถทุ าใหท้ ราบค่าอตั ราเร่ง ความเรว็ และเวลาทใ่ี ชใ้ นการเคล่อื นทข่ี องวตั ถุ
สาระการเรียนรู้

1. การหาความเรว็ และความเร่งจากกราฟ
2. การหาพน้ื ทใ่ี ตก้ ราฟของความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความเรว็ กบั เวลา
3. สมการสาหรบั คานวณหาปรมิ าณตา่ งๆ ของการเคลอ่ื นทใ่ี นแนวตรงดว้ ยความเร่งคงตวั
4. ความเรว็ สมั พทั ธ์
ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั

1. อธบิ ายการหาความเรว็ และความเร่งจากกราฟไดถ้ ูกตอ้ ง
2. อธบิ ายการหาพน้ื ทใ่ี ตก้ ราฟของความสมั พนั ธร์ ะหว่างความเรว็ กบั เวลาไดถ้ กู ตอ้ ง
3. คานวณหาปรมิ าณตา่ ง ๆของการเคล่อื นทใ่ี นแนวตรงดว้ ยความเรง่ คงตวั ไดถ้ ูกตอ้ ง
กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น

1. นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครตู งั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกย่ี วกบั เรอ่ื ง การหาความเรว็ และความเรง่ จากกราฟ
3. ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รถู ามและใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครูใหเ้ น้อื หาเกยี่ วกบั การหาความเรว็ และความเร่งจากกราฟ การหาพ้นื ทใ่ี ตก้ ราฟ สมการ
สาหรบั

5. คานวณหาปรมิ าณตา่ งๆ และ ความเรว็ สมั พทั ธ์
6. ครูตงั้ คาถามให้นักศึกษาตอบคาถามเก่ียวกบั เร่อื งการหาความเร็วและความเร่งจากกราฟ

การหาพน้ื ทใ่ี ตก้ ราฟ สมการสาหรบั คานวณหาปรมิ าณต่างๆ และ ความเรว็ สมั พทั ธ์
7. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยุกตใ์ ช้งานทเ่ี กย่ี วกบั ความเรว็ สมั พทั ธข์ องวตั ถุ
8. ให้นักศึกษาทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้เกยี่ วกับ การหาความเรว็ และความเร่งจากกราฟ

การหาพน้ื ทใ่ี ตก้ ราฟ สมการสาหรบั คานวณหาปรมิ าณต่างๆ และ ความเรว็ สมั พทั ธ์
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

9. นักศกึ ษานาไปประยกุ ตใ์ นงานชา่ งทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเครอ่ื งกล
10. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอ่ื สรุปผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้

ส่อื การเรียนการสอน
หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 4
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 10 หน่วยท่ี 5
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ชอ่ื หน่วย งานและพลงั งาน

แนวคิด

งานตามความหมายในวชิ าฟิสกิ ส์ จะต่างจากงานทค่ี นทวั่ ไปเขา้ ใจกนั ดงั นัน้ งาน หมายถึง แรง
กระทากบั วตั ถุและวตั ถุตอ้ งเปลย่ี นตาแหน่งขณะถูกแรงกระทา และพลงั งาน คอื สมบตั อิ ย่างหนง่ึ ของวตั ถุหรอื
ระบบทแ่ี สดงถงึ ความสามารถในการทางาน พลงั งานเปลย่ี นรูปได้ เช่น พลงั งานความรอ้ นเปลย่ี นเป็นพลงั งาน
กล
สาระการเรยี นรู้

1. งาน
2. งานจากแรงเสยี ดทาน
3. การหางานดว้ ยวธิ คี านวณจากพน้ื ทใ่ี ตก้ ราฟ
4. กาลงั และพลงั งาน
ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั

1. อธบิ ายความหมายของงานไดถ้ ูกตอ้ ง
2. อธบิ ายการหางานดว้ ยวธิ คี านวณจากพน้ื ทใ่ี ตก้ ราฟไดถ้ กู ตอ้ ง
3. คานวณหากาลงั และพลงั งานไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรยี นการสอน
กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น

1. นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครูตงั้ ปัญหาถามนกั ศกึ ษาเกยี่ วกบั เรอ่ื ง งาน กาลงั และพลงั งาน
3. ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รถู ามและใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครใู หเ้ น้อื หาเกยี่ วกบั งาน งานจากแรงเสยี ดทาน การหางานดว้ ยวธิ คี านวณจากพน้ื ทใ่ี ตก้ ราฟ
กาลงั และพลงั งาน

5. ครูตงั้ คาถามใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื ง งาน งานจากแรงเสยี ดทาน การหางานดว้ ย
วธิ คี านวณจากพน้ื ทใ่ี ตก้ ราฟกาลงั และพลงั งาน

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยกุ ตใ์ ช้งานทเ่ี กยี่ วกบั กาลงั และพลงั งานของวตั ถุ
7. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กยี่ วกบั งาน งานจากแรงเสยี ดทาน การหางานดว้ ย

วธิ คี านวณจากพน้ื ทใ่ี ตก้ ราฟ กาลงั และพลงั งาน
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

8. นกั ศกึ ษานาไปประยุกต์ในงานชา่ งทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเครอ่ื งกล
9. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอ่ื สรุปผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้
สื่อการเรียนการสอน

หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 5
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

ร่วมกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 11 หน่วยท่ี 5
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล

ช่อื หน่วย งานและพลงั งาน

แนวคิด

กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน หมายความวา่ ในการเคล่อื นทข่ี องวตั ถุภายใตแ้ รงโนม้ ถ่วงของโลก โดย
ไม่มแี รงอน่ื มากระทาตอ่ วตั ถแุ ลว้ พลงั งานกลรวมของวตั ถุมคี า่ คงทเ่ี สมอ
สาระการเรยี นรู้

1. กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน
2. การใชพ้ ลงั งานและเคร่อื งกล
3. ประสทิ ธภิ าพของเครอ่ื งกล
ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายกฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งานไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายการใชพ้ ลงั งานและเคร่อื งกลไดถ้ ูกตอ้ ง
3. อธบิ ายประสทิ ธภิ าพของเคร่อื งกล ไดถ้ ูกตอ้ ง
กิจกรรมการเรียนการสอน

ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน

1. นักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครตู งั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกย่ี วกบั เร่อื ง การอนุรกั ษ์พลงั งาน และการใชพ้ ลงั งาน
3. ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รถู ามและใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครใู หเ้ น้อื หาเกยี่ วกบั กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน การใชพ้ ลงั งานและเคร่อื งกล และประสทิ ธภิ าพ
ของเคร่อื งกล

5. ครตู งั้ คาถามใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามเกยี่ วกบั กฎการอนุรกั ษ์พลงั งาน การใชพ้ ลงั งานและ
เครอ่ื งกล และประสทิ ธภิ าพของเคร่อื งกล

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยกุ ตใ์ ช้งานทเ่ี กย่ี วกบั พลงั งานของวตั ถุ
7. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้เกยี่ วกบั กฎการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน การใชพ้ ลงั งานและ

เคร่อื งกล และประสทิ ธภิ าพของเครอ่ื งกล
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์

8. นักศกึ ษานาไปประยกุ ต์ในงานช่างทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั งานเครอ่ื งกล
9. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพ่อื สรปุ ผลความกา้ วหนา้ ของการเรยี นรู้
สือ่ การเรียนการสอน

หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์
จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 5
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

ร่วมกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 12 หน่วยท่ี 6
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล

ช่อื หน่วย ความเคน้ และความเครยี ด

แนวคิด

วตั ถุเม่อื มแี รงมากระทาจะทาใหเ้ กดิ ความเคน้ และความเครยี ดขน้ึ ในวตั ถุ ความเคน้ หมายถงึ แรง
ต้านทานภายในต่อหนึ่งหน่วยพ้นื ท่ีหน้าตดั ของวตั ถุเน่ืองจากมีแรงมากระทาภายนอก ส่วนความเครียด
หมายถงึ การเปลย่ี นแปลงขนาดของวตั ถอุ นั เน่อื งมาจากมแี รงมากระทาต่อขนาดเดมิ ของวตั ถุนนั้
สาระการเรยี นรู้

1. ความเคน้
2. ความเคน้ ดงึ และ อดั และ เฉอื น
3. ความเครยี ด
4. ความเครยี ดดงึ อดั และเฉือน
ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายความหมายของความเคน้ ชนดิ ต่าง ๆไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายความเครยี ดชนดิ ต่าง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง
3. คานวณหาความเคน้ ชนดิ ตา่ ง ๆไดถ้ ูกตอ้ ง
4. คานวณหาความเครยี ดชนดิ ตา่ ง ๆไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรียนการสอน

ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น

1. นักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครูตงั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกย่ี วกบั ความเคน้ และความเครยี ดของวสั ดุ
3. ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รูถามและใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครูใหเ้ น้อื หาเกยี่ วกบั ความเคน้ และความเครยี ดของวสั ดุ
5. ครูตงั้ คาถามใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามเกยี่ วกบั ความเคน้ และความเครยี ดของวสั ดุ
6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยกุ ตใ์ ชง้ านทเ่ี กย่ี วกบั ความเคน้ และความเครยี ดของวสั ดุ
7. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กยี่ วกบั ความเคน้ และความเครยี ดของวสั ดุ
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์

8. นักศกึ ษานาไปประยุกตใ์ นงานชา่ งทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
9. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพ่อื สรุปผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้
ส่ือการเรยี นการสอน

หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล(2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 6
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

ร่วมกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 13 หน่วยท่ี 6
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ช่อื หน่วย ความเคน้ และความเครยี ด

แนวคิด

ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความเคน้ กบั ความเครยี ดจากการทดลองจะไดค้ า่ ตา่ ง ๆ ดงั น้ีขดี จากดั สดั สว่ น
จุดจากดั ยดื หยุ่น จดุ คราก วตั ถจุ ะยดื ออกจากกนั อยา่ งถาวร ความเขง็ แรงสงู สดุ และจดุ แตกหกั
สาระการเรยี นรู้

1. ความสมั พนั ธร์ ะหว่างความเคน้ กบั ความเครยี ด
2. กฎของฮคุ
3. การหาค่าความปลอดภยั
4. ความเคน้ และความเครยี ดทเ่ี กดิ ขน้ึ เน่อื งจากอณุ หภมู เิ ปลย่ี นแปลง
ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างความเคน้ กบั ความเครยี ดไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายกฎของฮคุ ไดถ้ กู ตอ้ ง
3. คานวณหาค่าความปลอดภยั ไดถ้ ูกตอ้ ง
4. คานวณหาความเคน้ และความเครยี ดเน่อื งจากอณุ หภมู เิ ปลย่ี นแปลงไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. นักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครูตงั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกย่ี วกบั เรอ่ื ง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความเคน้ กบั ความเครยี ด
3. ใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รถู ามและใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครใู หเ้ น้อื หาเกยี่ วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความเคน้ กบั ความเครยี ด กฎของฮคุ การหาคา่
ความปลอดภยั ความเคน้ และความเครยี ดทเ่ี กดิ ขน้ึ เน่อื งจากอุณหภูมิ

5. ครูตงั้ คาถามใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามเก่ยี วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหว่างความเคน้ กบั ความเครยี ด
กฎของฮุค การหาคา่ ความปลอดภยั ความเคน้ และความเครยี ดทเ่ี กดิ ขน้ึ เน่ืองจากอณุ หภมู ิ

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยุกตใ์ ชง้ านเกย่ี วกบั คา่ ความปลอดภยั ของวสั ดุ
7. ให้นักศึกษาทาแบบประเมินผลการเรียนรู้เกี่ยวกับ ความสมั พันธ์ระหว่างความเค้นกับ

ความเครียด กฎของฮุค การหาค่าความปลอดภัย ความเค้นและความเครียดท่ีเกิดข้นึ
เน่อื งจากอุณหภมู ิ
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

8. นกั ศกึ ษานาไปประยุกตใ์ นงานช่างทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั งานเครอ่ี งกล
9. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอ่ื สรปุ ผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้

สอื่ การเรยี นการสอน

หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั
การวดั ปละการประเมินผล

วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 6
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี น

ร่วมกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมินผล

1. เกณฑผ์ ่านกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑ์ผ่าน 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6 เกณฑผ์ า่ น ทาถูกตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 14 หน่วยท่ี 7
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ชอ่ื หน่วย สมบตั ขิ องของไหล

แนวคิด

สมบตั กิ ารไหลของของไหลจาเป็นอย่างยง่ิ ตอ้ งศกึ ษาให้เขา้ ใจเกย่ี วกบั คาจากดั ความต่าง ๆ เช่น
ความหนาแน่น น้าหนักจาเพาะ และปรมิ าตรจาเพาะ
สาระการเรยี นรู้

1. ของไหล
2. องศา เอพไี อ
3. ความหยุ่น
4. ความหนาแน่น
5. น้าหนกั จาเพาะ
6. ปรมิ าตรจาเพาะ
ผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายความหมายของไหลไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายองศา เอพไี อและความหยนุ่ ไดถ้ กู ตอ้ ง
3. อธบิ ายความหนาแน่น น้าหนกั จาเพาะและปรมิ าตรจาเพาะไดถ้ กู ตอ้ ง
4. คานวณหา ความหนาแน่น น้าหนักจาเพาะและปรมิ าตรจาเพาะไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรียนการสอน

ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน

1. นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครตู งั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกย่ี วกบั เรอ่ื งของไหล
3. ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รถู ามและใหน้ กั ศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครใู หเ้ น้อื หาเกย่ี วกบั ของไหล องศาเอพไี อ ความหยุน่ ความหนาแน่น น้าหนกั จาเพาะและ
ปรมิ าตรจาเพาะ

5. ครูตงั้ คาถามใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามเกยี่ วกบั ของไหล องศาเอพไี อ ความหยุ่น ความหนาแน่น
น้าหนกั จาเพาะและปรมิ าตรจาเพาะ

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยุกตใ์ ชง้ านทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ของไหล
7. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กยี่ วกบั ของไหล องศาเอพไี อ ความหยนุ่ ความ

หนาแน่น น้าหนกั จาเพาะและปรมิ าตรจาเพาะ
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

8. นักศกึ ษานาไปประยุกตใ์ นงานช่างทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
9. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอ่ื สรปุ ผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้
สือ่ การเรียนการสอน

หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 7
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7 เกณฑผ์ า่ น ทาถูกตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 15 หน่วยท่ี 7
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล

ชอ่ื หน่วย สมบตั ขิ องของไหล

แนวคิด

สมการบอกสภาวะของกา๊ ซอดุ มคติ เกย่ี วขอ้ งกบั ความดนั ปรมิ าตร และอุณหภมู ขิ องสารนนั้ ความ
หนดื ความตงึ ผวิ และความดนั ไอมคี วามสมั พนั ธก์ บั ของไหลชนดิ ตา่ ง ๆ ทอ่ี ยู่ในรูปของเหลวและกา๊ ซ
สาระการเรยี นรู้

1. สมการบอกสภาวะของกา๊ ซอดุ มคติ
2. ความหนืด
3. ความตงึ ผวิ
4. ความดนั ไอ
5. หน่วยทใ่ี ชใ้ นกลศาสตรข์ องไหล
ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั

1. อธบิ ายสมการบอกสภาวะของกา๊ ซอดุ มคตไิ ดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายความหนืด ความตงึ ผวิ และความดนั ไอไดถ้ ูกตอ้ ง
3. อธบิ ายหน่วยทใ่ี ชใ้ นกลศาสตรข์ องไหลไดถ้ ูกตอ้ ง
4. คานวณหา ความหนืด ความตงึ ผวิ และความดนั ไอไดถ้ ูกตอ้ ง
กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น

1. นักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครูตงั้ ปัญหาถามนกั ศกึ ษาเกยี่ วกบั เรอ่ื งสมการบอกสภาวะของกา๊ ซอุดมคติ
3. ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รถู ามและใหน้ ักศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครูใหเ้ น้อื หาเกย่ี วกบั สมการบอกสภาวะของกา๊ ซอดุ มคติ ความหนดื ความตงึ ผวิ ความดนั ไอ
และหน่วยทใ่ี ชใ้ นกลศาสตรข์ องไหล

5. ครตู งั้ คาถามใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามเกย่ี วกบั สมการบอกสภาวะของกา๊ ซอุดมคติ ความหนดื
ความตงึ ผวิ ความดนั ไอ และหน่วยทใ่ี ชใ้ นกลศาสตรข์ องไหล

6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยุกตใ์ ชง้ านทเ่ี กย่ี วกบั ความหนืดของของไหล
7. ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั สมการบอกสภาวะของก๊าซอุดมคติ ความ

หนดื ความตงึ ผวิ ความดนั ไอ และหน่วยทใ่ี ชใ้ นกลศาสตรข์ องไหล
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์

8. นักศกึ ษานาไปประยุกต์ในงานชา่ งทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
9. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพอ่ื สรปุ ผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้

สื่อการเรียนการสอน
หนังสอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 7
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 16 หน่วยท่ี 8
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ช่อื หน่วย สมบตั ทิ างเทอรโ์ มไดนามกิ สเ์ บอ้ื งตน้

แนวคิด

เทอรโ์ มไดนามกิ ส์ หมายถงึ การเคล่อื นทข่ี องความรอ้ น ดงั นนั้ กลา่ วถงึ ความสมั พนั ธข์ องความรอ้ น
และงาน รวมถงึ คณุ สมบตั ขิ องสารว่าดว้ ยกฎเกณฑก์ ารแปลงรูปของพลงั งาน
สาระการเรียนรู้

1. มวล แรง และน้าหนกั
2. น้าหนกั จาเพาะ ความหนาแน่น ปรมิ าตรจาเพาะและความถว่ งจาเพาะ
3. ความรอ้ น งานและกาลงั งาน
ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายมวล แรงและน้าหนกั ไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายน้าหนกั จาเพาะ ความหนาแน่น ปรมิ าตรจาเพาะและความถว่ งจาเพาะไดถ้ กู ตอ้ ง
3. อธบิ ายความรอ้ น งานและกาลงั งานไดถ้ กู ตอ้ ง
4. คานวณหา มวล แรง น้าหนกั ปรมิ าตรจาเพาะ ความรอ้ น และกาลงั งานไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน

1. นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครตู งั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกยี่ วกบั เร่อื ง มวล น้าหนกั ความรอ้ น และกาลงั งานงานของวตั ถุ
3. ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รูถามและใหน้ ักศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครูใหเ้ นอ้ื หาเกย่ี วกบั มวล น้าหนกั ความรอ้ น งานและกาลงั งานของวตั ถุ
5. ครูตงั้ คาถามใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามเกยี่ วกบั เกยี่ วกบั มวล น้าหนัก ความรอ้ น งานและกาลงั

งานของวตั ถุ
6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยกุ ตใ์ ชง้ านทเ่ี กยี่ วกบั กาลงั งานของวตั ถุ
7. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั มวล น้าหนกั ความรอ้ น งานและกาลงั งาน

ของวตั ถุ
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์

10. นกั ศกึ ษานาไปประยกุ ตใ์ นงานชา่ งทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
11. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพ่อื สรปุ ผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้
สือ่ การเรยี นการสอน

หนงั สอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ ครอ่ื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 8
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)

แผนการจดั การเรยี นการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 17 หน่วยท่ี 8
จานวนชวั่ โมง 3 ช.ม.
รหสั วชิ า 20101-2007 วชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล

ช่อื หน่วย สมบตั ทิ างเทอรโ์ มไดนามกิ สเ์ บอ้ื งตน้

แนวคิด

อุณหภมู ิ ความดนั ของสารตวั กลางจะเก่ยี วขอ้ งกบั สภาวะ กระบวนการวฎั จกั รและระบบ สมการ
พน้ื ฐานทางเทอรโ์ มไดนามกิ ส์ สามารถหาค่าปรมิ าตร ความดนั และอณุ หภูมขิ องสารนนั้
สาระการเรยี นรู้

1. อณุ หภมู แิ ละความดนั
2. สารทางานสถานะคุณสมบตั ิ สภาวะ กระบวนการวฎั จกั รและระบบ
3. สมการพน้ื ฐานทางเทอรโ์ มไดนามกิ ส์
4. หน่วยทใ่ี ชท้ างเทอรโ์ มไดนามกิ ส์
ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั

1. อธบิ ายอณุ หภูมแิ ละความดนั ไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายสารทางาน สถานะ คุณสมบตั ิ สภาวะ กระบวนการวฎั จกั รและระบบไดถ้ กู ตอ้ ง
3. คานวณหาค่าตา่ ง ๆ จากสมการพน้ื ฐานทางเทอรโ์ มไดนามกิ สไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง
4. อธบิ ายหน่วยทใ่ี ชง้ านเทอรโ์ มดานามกิ ส์ไดถ้ กู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรยี นการสอน

ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน

1. นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. ครตู งั้ ปัญหาถามนักศกึ ษาเกยี่ วกบั เร่อื ง อุณหภมู ิ ความดนั และสมการพน้ื ฐานทางเทอรโ์ ม

ไดนามกิ ส์
3. ใหน้ กั ศกึ ษาตอบคาถามทค่ี รถู ามและใหน้ ักศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ
ขนั้ สอน

4. ครใู หเ้ น้อื หาเกย่ี วกบั อุณหภมู ิ ความดนั และสมการพน้ื ฐานทางเทอรโ์ มไดนามกิ ส์
5. ครูตงั้ คาถามใหน้ ักศกึ ษาตอบคาถามเกย่ี วกบั อุณหภมู ิ ความดนั และสมการพน้ื ฐานทางเทอร์

โมไดนามกิ ส์
6. นาเน้อื หาทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาไปประยุกต์ใชใ้ นเกย่ี วกบั อณุ หภมู ิ ความดนั และสมการพน้ื ฐาน

ทางเทอรโ์ มไดนามกิ ส์ของวตั ถุ
7. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั อณุ หภมู ิ ความดนั และสมการพน้ื ฐานทาง

เทอรโ์ มไดนามกิ ส์
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

8. นกั ศกึ ษานาไปประยุกตใ์ นงานช่างทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานเคร่อื งกล
9. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบหลงั เรยี นเพ่อื สรุปผลความกา้ วหน้าของการเรยี นรู้
สอื่ การเรยี นการสอน

หนังสอื เรยี นประกอบการสอนวชิ า กลศาสตรเ์ คร่อื งกล (2101 – 2007) ของ บรษิ ทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั

การวดั ปละการประเมินผล

วิธีวดั ผล

1. ตรวจกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล

1. กจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรหู้ น่วยท่ี 8
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น

ร่วมกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑ์การประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นกจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรคู้ อื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50 % ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50 % ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
บนั ทึกหลงั การสอน

(ดภู าคผนวก ฌ และ ญ)


Click to View FlipBook Version