หนังสืออ่านเสริมชุดวรรณกรรมท้องถิ่น
ทวด
เทวดาอารักษ์ประจำถิ่น
พรพิมล พิรัตน ์
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒
ทวด
ั
เทวดาอารกษ์ประจำถิ่น
พรพิมล พิรัตน
์
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓
คำนำจากผู้เขียน
ื่
หนังสือเล่มนี้มุ่งนำเสนอแง่มุมของความเชื่อ ซึ่งความเชอ
(Belief) เป็นสิ่งที่ฝังรากลึกอยู่คู่กับมวลมนุษยชาติมาเป็นระยะเวลาอัน
เนิ่นนานแล้ว โดยในระยะแรกเริ่มเดิมทีมนุษย์ล้วนเชื่อกันว่ามีดวง
วิญญาณแฝงเร้นสถิตอยู่ในธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ก้อนหิน แม่น้ำ
หรือแม้แต่ป่าเขาก็ล้วนมีดวงวิญญาณสิงสถิตอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่ง
แนวความคิด และความเชื่อดังกล่าวมีลักษณะสอดคล้องสัมพันธ์ในรูป
ของ ‘’วิญญาณนิยม’’ (animism) หรือ ‘’คติถือผีสางเทวดา’’ อัน
หมายถึงความเชื่อที่ว่ารูปวัตถุบางสิ่งบางอย่างมีชีวิต ต่อมาดวงวิญญาณ
้
เหล่านี้ไดรับการยกระดับหรือยกสถานะให้สูงขึ้นเป็นผีฟ้า หรือ เทวดา
กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพสักการบูชาสืบเนื่องมาจวบจนยุค
ปัจจุบันความเชื่อเหล่านี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่อย่างมากมาย
ความเชื่อที่กล่าวถึงคือ ความเชื่อเกี่ยวกับทวดหรือเทวดาอารักษ์
ิ
ประจำถิ่นอำเภอสงหนคร จังหวัดสงขลา ผ่านการรวบรวมและเรียบเรียง
สู่หนังสือเล่มนี้ที่ได้นำเสนอในหัวข้อเรื่องเล่า ตำนาน และคติทางความ
เชื่อของชาวบ้านที่มีต่อทวดในท้องถิ่นของตน ผู้เขียนได้แบ่งประเภทของ
ทวดออกเป็นทวดประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทวดในรูปคน ทวดในรูป
สัตว์และทวดในรูปต้นไม้ เพื่อง่ายต่อการศึกษาค้นคว้า ผู้เขียนหวังเอาไว้
่
อย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะให้เนื้อหาสาระแก่ทานผู้อ่านไดเรียนรู้ และได ้
้
ซึมซับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นภายใต้ตำนานและความเชื่อ
เกี่ยวกับ ‘’ทวด’’ ในฐานะเทวดาอารักษ์ประจำถิ่นในเขตอำเภอ
ั
สิงหนคร จงหวัดสงขลา
พรพิมล พิรัตน์
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔
สารบัญ
_______________________________________
ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับทวด 1
ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับทวดในรูปคน ๘
ทวดม่วงหวาน ๙
ทวดตาหลวงคง ๑๑
ทวดตาโคดำ ยายกิ้มทอง ๑๓
ทวดภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหร ๑๖
ทวดพังทวด ๒๑
ทวดบ่อกลอง ๒๓
ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับทวดในรูปสัตว ์ ๒๕
ทวดรอง หรือทวดตาหลวงรอง ๒๖
ทวดหัวเขาแดง ๓๒
ทวดเสือ ๓๗
ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับทวดในรูปต้นไม ้ ๓๙
ทวดนางไม้ หรือทวดแม่ม่วงทอง ๔๐
บรรณานุกรม ๔๕
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๕
ี่
ื่
ต ำนำนและควำมเชอเกยวกับทวด
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๖
ั
มนุษย์ทุกสังคมส่วนใหญ่จะมีความเชื่อเกี่ยวกับอำนาจลึกลบ
เหนือธรรมชาติหรือภูตผีวิญญาณที่สามารถให้คุณหรือให้โทษแก่มนุษย์ได ้
ดังที่ อมรา พงศาพิชญ์ (๒๕๓๘ : ๗) ภิญโญ จิตต์ธรรม (๒๔๒๒: ๔)
และศิราพร ฐิตะฐาน (๒๕๓๓: ๗) ได้กล่าวไว้ว่า ‘’ในสมัยโบราณเมื่อ
ั
มนุษย์ประสบภยธรรมชาติไม่สามารถต้านทานได้ก็นึกเอาว่าเป็นเพราะผ ี
หรือเทวดาซึ่งมีอำนาจอยู่เหนือตนเป็นผู้ดลบันดาลให้เกิดผลดี ผลร้าย จึง
ั
กลัวอำนาจลึกลบนั้น และคิดว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกลงโทษ ทำอย่างไร
จึงจะเกิดผลดีและเกิดความสุขแก่ตนเอง
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันวิทยาการด้านต่าง ๆ นั้นได้ถูกคิดค้นและ
พัฒนาจนทำให้มนุษย์สามารถเข้าใจและอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาต ิ
ได้แล้วก็ตาม แต่มนุษย์ก็ยังคงมีความเชื่อเกี่ยวกับอำนาจศักดิ์สิทธิ์เหนือ
้
ธรรมชาติ เช่น ผีสาง เทวดา เจ้าป่า เจ้าเขา อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ เป็นตน
ุ
สังคมไทยก็เป็นสังคมหนึ่งที่ประชาชนทกภูมิภาคยังคงยอมรับนับถือ
์
อำนาจเหนือธรรมชาติหรือภูตผีปีศาจ ดังที่ ฉลาดชาย รมิตานนท
(๒๕๒๗ : ๒๑-๒๖) ได้กล่าวถึงความเชื่อเกี่ยวกับผีเจ้านายในจังหวัด
เชียงใหม่ไว้ สรุปได้ว่า การนับถือจะดำรงอยู่คู่กับความเชื่อแบบพุทธและ
่
พราหมณ์ มีสัมพันธภาพที่ปรากฏให้เห็นในรูปการจัดสถานภาพสูงตำ
และแบ่งแยกหน้าที่กันอย่างมีระบบ ซึ่งระบบความเชื่อทางศาสนามี
ความสัมพันธ์กับระบบเศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง และการบริหาร
ในสังคมไทย นอกจากนี้ ธวัช ปุณโณทก (๒๕๓๘ : ๓๖๙-๓๘๖) ได ้
กล่าวถึงความเช่อเกี่ยวกับผีในสังคมอีสานไว้ สรุปได้ว่าความเชื่อในเรือง
่
ื
ภูตผีในสังคมอีสานนั้นยังคงฝังแน่นอยู่กับวิถประชาของสังคม และความ
ี
่
เชื่อเรื่องภูตผีนี้เองก่อให้เกิดพิธีกรรมตาง ๆ ผีที่มีผู้คนให้ความเคารพนับ
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๗
ั
ั
ถือ เช่น ผีแถน ผีปู่ตา วิญญาณบรรพบุรุษประจำหมู่บ้าน ผีมเหสกข์หลก
เมือง เป็นต้น
ี่
สังคมภาคใต้ก็มีการนับถือสิ่งทมีอำนาจเหนือธรรมชาต ิ
เช่นเดียวกัน โดยจะพบในตำนานและความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับผีบรรพ
บุรุษหรือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า ‘’ทวด’’ ซึ่งสุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์
(๒๕๒๙ : ๔๖๗-๔๖๘) ได้กล่าวถึงความหมายของทวดไว้ สรุปได้ว่า ทวด
หมายถึง วิญญาณที่มีเดชานุภาพสูง ต้องมีการปฏิบัติบูชาเอาใจจึงจะให้
คุณและให้โทษหากมีการล่วงละเมิด ทวดปรากฏในหลายรูป คือ ทวดท ี่
่
เป็นครึ่งสัตว์ครึ่งเทพ เช่น ทวดงู ทวดจระเข้ ทวดที่ปรากฏในรูปคน เชน
ทวดหุม (ประจำหัวเขาแดง จังหวัดสงขลา) หลวงพ่อทวด (วัดช้างให้
จังหวัดปัตตานี และวัดพะโคะ จังหวัดสงขลา) แต่ถ้าเป็นหญิงจะเรียก ‘’
เจ้าแม่’’ เช่น เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (จังหวัดปัตตานี) เจ้าแม่ไทรทอง
(จังหวัดนราธิวาส) เป็นต้น
ตำนานและความเชื่อที่เกี่ยวกับทวดที่คนในภาคใต้ได้ยึดถือสืบ
ทอดต่อ ๆ กันมา มีเป็นจำนวนมากและกระจายอยู่ในหลายจังหวัด ดงท ี่
ั
ทิพวัลย์ พิยะกูล (๒๕๒๙ : ๑๔๔๕) ได้กล่าวถึงตำนานของทวดขันของ
ชาวบ้านในตำบลพญาขันธ์ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง สรุปได้ว่า
ชาวบ้านเชื่อว่าทวดขันเป็นพญางูที่เฝ้าสมบัติในสระน้ำกลางเมืองพัทลุง
(เก่า) ในสมัยกรุงธนบุรี และทิพวัลย์ พิยะกูล (๒๕๒๙ : ๑๔๔๕-๑๔๔๖)
ยังได้กล่าวถึงตำนานทวดโหม ของชาวบ้านตำบลชรัด อำเภอกงหรา
ู
จังหวัดพัทลุง สรุปได้ว่า ทวดโหมเป็นชาวเมืองสตลและเป็นผู้มีวิชาอาคม
จึงได้รับอาสาเจ้าเมืองสุโขทัยไปทำศึกจนได้รับชัยชนะ และได้รับ
่
่
พระราชทานยศถาบรรดาศกดิ์จากเจาเมืองสโขทยมากมาย แตตอมามีผ ู้
ุ
ั
้
ั
ใกล้ชิดให้ร้ายและทรยศทวดโหมจึงได้หนีกลับมาอยู่เมืองพัทลุง ส่วนสา
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๘
นิตย์ พรทัศน์ (๒๕๒๙ : ๑๒๗๗) ได้กล่าวถึงตำนานทวดที่ถ้ำน้ำผุด ตำบล
น้ำผุด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา สรุปได้ว่า ชาวบ้านเชื่อว่าที่ถ้ำน้ำ
ผุด มีทวดเป็นชายแก่ นุ่งขาวห่มขาวถือไม้เท้า สถิตอยู่ในถ้ำและจะมีพิธี
ไหว้ทวดกันในเดือน ๓ ของทุกปี โดยเวียน ชนะกุล (๒๕๒๙ : ๒๘๘)
ได้กล่าวถึงตำนานทวดเขาล้อน ตำบลห้วยงู อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัด
กระบี่ สรุปได้ว่า ชาวบ้านเชื่อว่าเขาล้อนเป็นที่สิงสถิตของทวดที่เป็น
เทวดาเรียกว่าทวดล้อน ซึ่งจะคอยปกปักรักษาช่วยเหลือชาวบ้าน และ
้
ตำนานทวดหินชางหรือพ่อตาหินช้างเป็นเทพจำนวน ๗ องค์ ทแตละวัน
ี่
่
จะหมุนเวียนมาสถิต ณ ศาลพ่อตาหินข้างเพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้
บูชา และจัดให้มีงานประเพณีเป็นประจำทุกปีในระหว่างวันที่ ๒๒ – ๒๓
ของเดือนสิงหาคม
จังหวัดสงขลาถือเป็นจังหวัดที่มีเรื่องราวหรือตำนานของความ
เชื่อที่เกี่ยวกับทวดอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับจังหวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะ
บริเวณคาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งประกอบด้วยอำเภอระโนด
อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ และอำเภอสิงหนคร เป็นบริเวณท่มี
ี
้
ประวัติการตั้งชุมชนมายาวนานและลวนแตมีการแพร่กระจายของความ
่
เชื่อเกี่ยวกับทวดต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคืออำเภอสิงหนคร อำเภอสิงหนคร
แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็นตำบลต่าง ๆ ๑๑ ตำบล คือ ตำบลจะทง ิ้
หม้อ (สทิ้งหม้อ) ตำบลหัวเขา ตำบลทำนบ ตำบลรำแดง ตำบลวัดขนุน
ตำบลป่าแค ตำบลปากรอ ตำบลม่วงงาม ตำบลบางเขียด ตำเชียงโค และ
ตำบลชะแล้ ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ อีกทั้งเกือบทุกตำบล
ี่
ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับทวดที่แตกต่างกัน สอดคล้องกับท
์
ณรงค์ ชื่นนิรันด (๒๕๕๓ : ๗) ได้กล่าวถึงตำนานและความเชื่อทวดเขา
แดง ตำบลหัวเขา ซึ่งเป็นตำนานทวดที่ปรากฏในรูปคน สรุปได้ว่า
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๙
ชาวบ้านเชื่อว่าทวดหัวเขาแดงเป็นชาวจีนทเดินทางมากับเรือสำเภาและ
ี่
นำทรัพย์สินมาเพื่อร่วมสร้างพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช แต่เรือ
ได้มาล่มที่ปากน้ำเมืองสงขลา วิญญาณท่านจึงได้กลายเป็นจระใหญ่เฝ้า
ปากน้ำเมืองสงขลาและคอยปกป้องชาวบ้านจากอันตรายที่เกิดขึ้นในน้ำ
เช่น สัตว์ร้าย คลื่นลมในทะเล ให้กับชาวบ้าน ดังนั้นก่อนที่จะออกเรือหา
ปลา หรือลงน้ำเพื่อดักจับสัตว์จึงต้องบอกกล่าวขอความคุ้มครองจากทวด
ุ
โดยการลอยหมากลอยพลูหรือจดประทดเสียก่อน ส่วน สุภาคย์ อินทอง
ั
คง ( ๒๕๒๙ : ๑๔๔๖-๑๔๔๗) ได้กล่าวถึงตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับ
ทวดภควัม ทวดคำแก้ว และขุนโหร ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร ซึ่ง
เป็นทวดที่เชื่อว่ามีรูปเป็นคน สรุปได้ว่า ชาวบ้านเชื่อว่าทวดภควัม ทวด
คำแก้วนั้น เป็นเทพที่เป็นพระภูมิเจ้าที่คอยปกปักรักษาแผ่นดิน ส่วนขุน
โหร เป็นทวดที่มีความรู้ความสามารถในการทำนายทายทัก ทุกท่านจะ
คอยช่วยเหลือชาวบ้านที่มาบนบานขอความช่วยเหลือ และจะมีงาน
ี่
ประจำปีที่ทวดจะมารับเครื่องบูชาจากลูกหลานและบุคคลทนับถือในวัน
แรม ๑ ค่ำเดือน ๖ เป็นต้น จากตำนานทวดดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ทวด
ได้กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเป็นเทวดาอารักษ์ประจำถิ่นตามความเชื่อ
ของคนในชุมชนนั้น ๆ ทวดปรากฏอยู่ทั้งในรูปคน และรูปสัตว์ ความเชอ
ื่
่
ในเรื่องทวดจึงมีส่วนส่งผลให้ทุกคนในหมู่บ้านนับถือทวด ในหมู่บานสวน
้
ใหญ่จะมีศาลาไหว้ทวดที่เกิดจากความเชื่อว่าทวดเป็นผู้ดแลปกปักรักษา
ู
ลูกหลานภายในหมู่บ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข หากลูกหลานมีความเดอดร้อน
ื
หรือปรารถนาสิ่งใดก็จะไปบนบานให้ทวดช่วยคลายความเดือดร้อนหรือ
้
้
ี่
ู้
ดลบันดาลให้ผที่ไปบนบานไดในสิ่งทปรารถนา เมื่อได้สิ่งทตองการแลวผ ู้
้
ี่
ที่บนบานไว้ก็จะต้องนำสิ่งที่บนบานไว้มาแก้บนต่อทวด หากละเลยและ
ื
ไม่มาตั้งของบูชาแก้บนก็จะได้รับความเดอดร้อนเพราะทวดจะลงโทษแก่
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๑๐
ผู้ทีไม่ประพฤติปฏิบัติตามที่ได้บนบานไว้ อีกทั้งการศึกษาตำนานทวดของ
ื
ชาวบ้านในอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา สะท้อนให้เห็นว่าความเช่อท ี่
ชาวบ้านมีต่อทวดนั้นเกิดขึ้นในหลาย ๆ ด้านและเป็นความเชื่อที่ถูกสบ
ื
ทอดมาจนถึงปัจจุบันและความเชื่อเหล่านั้นนำมาซึ่งประเพณี วัฒนธรรม
และความเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลาจวบจนถึง
ปัจจุบัน
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๑๑
ต ำนำนและควำมเชื่อที่เกี่ยวกับทวด
ของชำวบ้ำนในอ ำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลำ
ต ำนำนและควำมเชื่อ ต ำนำนและควำมเชื่อ ต ำนำนและควำมเชื่อ
เกี่ยวกับทวดในรูปคน เกี่ยวกับทวดในรูปสัตว ์ เกี่ยวกับทวดในรูปต้นไม้
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๑๒
ตำนานและความเชื่อ
เกี่ยวกับทวดในรูปคน
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๑๓
ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับทวดในรูปคน ที่ปรากฏตามความ
เชื่อของชาวบ้านในอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา มีจำนวน ๖ ทวดดังนี้
่
๑. ทวดมวงหวาน
ทวดม่วงหวาน เป็นทวดที่สถิตอยู่ที่ หมู่ที่ ๓ ตำบลทำนบ อำเภอ
สิงหนคร จังหวัดสงขลา เป็นทวดที่มีตำนานและความเชื่อของชาวบ้านใน
ื่
บริเวณนี้มายาวนานเป็นที่ทราบและมีความเชอถือกันอย่างแพร่หลาย มี
รายละเอียดดังนี้
๑.๑ ตำนานทวดม่วงหวาน มีอยู่ว่าทวดม่วงหวานเป็นคนในสมัย
ิ
๒๐๐ – ๓๐๐ ปีมาแล้ว และเป็นเศรษฐีใหม่เป็นเจาที่บริเวณนี้ เดมเป็นผ ู้
้
ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ ต่อมาเมื่อทวดม่วงหวานเสียชีวิตลง
วิญญาณได้สถิตอยู่ที่บริเวณต้นมะม่วงเพื่อเฝ้าทรัพย์สมบัติคือที่ดินของ
ตน ชาวบ้านเชื่อว่าทวดม่วงหวานอยู่ในรูปผู้ชายร่างสูงใหญ่พูดเสียงดง
ั
่
มาก ซี่โครงห่าง ตาโตเท่ากับไห ฟันซี่ใหญ่เท่ากับจอบและชาวบ้านก็ตาง
มีความเชื่อเกี่ยวกับทวดม่วงหวานว่าท่านกลายเป็นทวดแล้วคอยดูแล
คุ้มครองลูกหลานหรือคนในหมู่บ้านเรื่อยมา
๑.๒ ความเชื่อที่เกี่ยวกับทวดม่วงหวาน
๑.๒.๑ ด้านโชคลาภ มีเรื่องเล่าว่าชาวบ้านภายใน
หมู่บ้านเดือดร้อนเรื่องเงินทองเพราะเป็นหนี้สินมาขอโชคลาภให้ถูกหวย
ใต้ดินเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ทวดม่วงหวานได้ไปเข้าฝันบอกเลขให้ซื้อหวยใต ้
ดิน แต่ให้ได้รับเงินรางวัลแค่พอชำระหนี้ ชาวบ้านคนนั้นก็ถูกหวยใต้ดิน
และนำเงินไปชำระหนี้ได้ และครั้งหนึ่งชาวบ้านจากจังหวัดยะลานำคน
ทรงมาเข้าทรงทวดม่วงหวาน ทวดม่วงหวานเขาทรงและบอกใบ้เลขหวย
้
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๑๔
ใต้ดินหลายคนในขณะนั้นไปซื้อหวยใต้ดินถูกได้เงินรางวัลมากมาย
ชาวบ้านที่นี่จึงเชื่อว่าทวดม่วงหวานจะให้โชคลาภ นอกจากนี้ยังมีผู้ท่จะ
ี
สอบเข้าทำงาน เรียนต่อ ก็จะมีความเชื่อว่าทวดม่วงหวานสามารถดล
บันดาลให้สมประสงค์ได้จึงมาบนบานขอให้ทวดม่วงหวานช่วยด้วย
เช่นกัน
๑.๒.๒ ด้านคมครองความปลอดภัย ชาวบ้านภายใน
ุ้
หมู่บ้านมีความเชื่อว่าทวดม่วงหวานจะให้ความคุ้มครองความปลอดภัย
ได้ มีเรื่องเล่าว่า ลูกชายของนายแปลก (ไม่ทราบนามสกุล) ชาวบ้าน
์
้
ตำบลทำนบ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ไดขี่รถจักรยานยนตไปเทยว
ี่
ู
กับเพื่อนในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายแปลกเป็นห่วงลกชายจง
ึ
ุ้
ได้มาบนบานต่อทวดม่วงหวานให้คมครองลกชายของตนดวย ปรากฏว่า
้
ู
รถจักรยานยนต์ของลูกชายนายแปลกประสบอุบัติเหตุ รถพังยับเยินแต ่
็
ลูกชายของนายแปลกบาดเจบแค่เคลดขัดยอกเล็กน้อย นายแปลกเชอว่า
็
ื่
ที่ลูกชายของตนปลอดภัยเพราะอำนาจของทวดม่วงหวาน นอกจากนี้
เมื่อจะต้องเดินทางไปไหนมาไหนชาวบ้านคนอื่น ๆ ที่มีความเชื่อว่าทวด
ม่วงหวานจะคุ้มครองความปลอดภัยให้ได้ก็จะบนบานขอให้ทวดม่วง
หวานคุ้มครองตนเสมอ
๑.๒.๓ ด้านโรคภัยไข้เจ็บ ชาวบ้านภายในหมู่บ้านมี
ความเชื่อว่าทวดม่วงหวานสามารถดลบันดาลให้หายจากโรคภัยต่าง ๆ
ได้ มีเรื่องเล่าว่า นายรัตน์ แก้วรัตน์ บิดาของนางสุณีย์ แก้วรัตน์ ชาวบ้าน
ั้
ในหมู่บ้านป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง ทง
ยังชรามากแล้ว ลูกหลานต่างก็สิ้นหวังในการนำไปรักษาตามโรงพยาบาล
ต่าง ๆ ดังนั้น สุณีย์ แก้วรัตน์และครอบครัวจึงมีบนบานต่อทวดม่วงหวาน
ขอให้ช่วยดลบันดาลให้บดาของนางสณย์ แก้วรัตน์ก็หายจากอาการป่วย
ี
ุ
ิ
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๑๕
จากนั้นประมาณ ๑ เดือน อาการป่วยของบิดาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะไม่
หายขาด แต่ก็อยู่มาได้ประมาณ ๑๐ กว่าปีโดยไม่ได้เจ็บปวดทรมาน เมื่อ
สิ้นใจก็ตายอย่างสงบ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านที่มี
็
ญาติพี่น้องเจ็บป่วยและมีความเชื่อว่าทวดสามารถรักษาโรคภัยไข้เจบได ้
ี่
ก็จะมาบนบานต่อทวดม่วงหวาน ซึ่งเชื่อว่าหากคนททำบุญมามากก็หาย
หรืออาการดีขึ้น ส่วนผู้ที่ไม่หายหรือตาย ชาวบ้านก็เชื่อว่าก็เป็นไปตาม
กรรมเก่า
นอกจากนี้ชาวบ้านต่างมีความเชื่อกันว่าผู้ที่มาบนบานต่อทวด
ม่วงหวานไม่ว่าจะในจุดประสงค์ใด ๆ ได้แล้วเมื่อได้ตามความประสงค ์
แล้วก็จะต้องแก้บนด้วยสิ่งที่บอกกล่าวไว้ เช่น ตั้งเครื่องเซ่นเป็นอาหาร
คาวหวาน จุดประทัด รำแก้บน เป็นต้น
๒. ทวดตาหลวงคง
ทวดตาหลวงคง เป็นทวดที่สถิตอยู่ที่ หมู่ที่ ๔ ตำบลทำนบ
อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เป็นทวดที่มีตำนานและความเชื่อของ
ชาวบ้านในบริเวณนี้มายาวนานและมีความเชื่อกันอย่างแพร่หลาย มี
รายละเอียดดังนี้
๒.๑ ตำนานทวดตาหลวงคง แต่เดิมทวดตาหลวงคงเป็นคนใน
สมัยเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว เป็นเจ้าของที่ในบริเวณนี้ (ซึ่งปัจจุบันเป็นวัด
สลักป่า (เก่า) ตาหลวงคงเป็นผู้ทมีความรู้ในเรื่องไสยศาสตร์ มีอำนาจใน
ี่
ึ
การสะกดและกำจัดวิญญาณที่มาทำร้ายชาวบ้าน ดังนั้นตาหลวงคงจง
เป็นผู้ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือและเกรงกลัวมาก เมื่อตายไปแล้ว
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๑๖
ิ
ุ
หลวงตาคงก็ยังสถิตอยู่ในบริเวณเดมของตน คอยดูแลควบคมวิญญาณท ี่
ญาตินำร่างกายมาเผาที่เปลววัดสลักป่า (เก่า) หมู่ ๓ ตำบลทำนบ อำเภอ
สิงหนคร จังหวัดสงขลาไม่ให้เป็นวิญญาณเร่ร่อน ชาวบ้านเชื่อว่าทวด
ี่
หลวงตาคงอยู่ในรูปของชายรูปร่างสูงเท่าเพดานบ้าน แต่เมื่อเดินไปท
ี
ต่าง ๆ ไปในรูปของผเสื้อตัวเท่าฝ่ามือ ชาวบ้านภายในหมู่บ้านมีความเชอ
ื่
ต่อทวดตาหลวงคงมาจนถึงปัจจุบัน
ี่
ื่
๒.๒ ความเชอทเกี่ยวกับทวดตาหลวงคง
๒.๒.๑ ด้านโชคลาภ ชาวบ้านภายในหมู่บ้านเชื่อว่า
ทวดตาหลวงคงสามารถดลบันดาลให้โชคลาภได้ มีเรื่องเล่าว่าหากใครพบ
ทวดตาหลวงคงซึ่งบ้านเชื่อว่าอยู่ในรูปของชายแก่หลังค่อมมาขอหมาก
ื่
พลูและน้ำดื่มจากชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านคนนั้นนำหมาก พลูและน้ำดมมา
ให้ ทวดตาหลวงคงก็จะบอกให้ชาวบ้านคนนั้นขอโชคลาภ และทวดตา
หลวงคงก็จะดลบันดาลให้ได้ตามต้องการ เช่น ขอให้สอบเข้าทำงานได ้
ขอให้มีลาภจากหวยใต้ดิน
ุ้
๒.๒.๒ ด้านคมครองความปลอดภัย ชาวบ้านภายใน
หมู่บ้านเชื่อว่าทวดตาหลวงคงจะให้ความคุ้มครองให้ปลอดภัยได้ เชน
่
หากผู้ใดจะต้องเดินเข้าหมู่บ้านในตอนดึก ๆ และเกรงกลัวอันตรายเมื่อ
เดินผ่านบริเวณศาลาที่สถิตตาหลวงคงก็ให้บนบานขอให้ทวดตาหลวงคง
ไปส่งทีบ้าน ทวดตาหลวงคงก็จะคุ้มครองให้เดินทางถึงบ้านโดยปลอดภัย
แต่เมื่อถึงบ้านแล้วก็จะต้องบอกให้ทวดกลับไปเสียเพราะมิเช่นนั้นทวดจะ
ยังคงคอยวนเวียนอยู่ที่บ้าน หรือเมื่อเดินทางออกจากหมู่บ้านก็ให้นึกถึง
้
ทวดขอให้คุ้มครองความปลอดภัยทวดก็จะดูแลเภทภัยต่าง ๆ มิให้มากลำ
กลาย
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๑๗
๓. ทวดตาโคดำ ยายกิ้มทอง
ฌาปนสถานบ้านป่าขาด ที่สถิตของทวดตาโคดำ ยายกิ้มทอง
หมู่ที่ ๔ ตำบลทำนบ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
ทวดตาโคดำ ยายกิ้มทอง เป็นทวดที่สถิตอยู่ที่ฌาปนสถานบ้าน
ป่าขาด หมู่ที่ ๔ ตำบลป่าขาด อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เปนทวดท ี่
็
มีตำนานและความเชื่อของชาวบ้านบริเวณนี้มายาวนาน เป็นที่ทราบและ
มีความเชื่อถือกันอย่างแพร่หลาย มีรายละเอียดดังนี้
๓.๑ ตำนานทวดโคดำ ยายกิ้มทอง มีอยู่ว่าทวดตาโคดำ
ยายกิ้มทองเป็นสองสามีภรรยาในบริเวณตำบลป่าขาด ตั้งบ้านเรือนอยู่
บริเวณนี้ (ปัจจุบันเป็นฌาปนสถานป่าขาด) ทวดทั้งสองไม่มีบุตรธิดา เป็น
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๑๘
ผู้ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมเป็นที่นับถือของชาวบ้านทั่วไปโดยเฉพาะ
เรื่องของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนยากจน แม้ทวดทั้งสองมิได้มีฐานะ
ร่ำรวยแต่ไม่เคยปฏิเสธเมื่อมีผู้มาขอความช่วยเหลือ มีเรื่องเล่าว่ามีชาย
ยากจนเดินทางมาขอที่อยู่อาศัยจากทวดโคดำยายกิ้มทอง ทวดโคดำ
ยายกิ้มทองก็แบ่งห้องในกระต๊อบเล็ก ๆ ของท่านให้ชายยากจนคนนั้น
พักอาศัย โดยตาโคดำและยายกิ้มทองออกมานอนนอกห้อง และครั้ง
หนึ่งมีหญิงแม่ลูกอ่อนมาขอข้าวยายกิ้มทอง ในวันนั้นยายกิ้มทองมีข้าว
เหลืออยู่เพียงจานเดียวก็ได้ให้หญิงแม่ลูกอ่อนกิน ตำนานความเอื้อเฟื้อ
ของตาโคดำยายกิ้มทองเป็นที่เล่าขานกันมาอย่างต่อเนื่องของชาวบ้านป่า
ขาด จนเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๙ ชาวบ้านคนหนึ่งที่ตำบลป่าขาดได้ฝันว่ามีคน
แก่ชายหญิงสองคนมาบอกว่าชื่อ ตาโคดำและยายกิ้มทอง ได้อาศัยอยู่
บริเวณนี้ (ฌาปนสถานบ้านป่าขาด) มานานแล้ว ชาวบ้านคนนั้นก็ได้บอก
ต่อ ๆ กันไปซึ่งเรื่องราวสอดคล้องกับตำนานที่รู้กันมาชาวบ้านจึงได ้
ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ถมทะเลสาบเป็นเขื่อนกั้นป้องกันน้ำทะเลเซาะ
ั
ตลิ่ง และสร้างรูปปั้นชายร่างสันทด นุ่งผ้าโสร่งสวมเสื้อคอกลม และหญิง
รูปร่างท้วมนุ่งผาลายสวมเสื้อแขนกระบอกอยู่ภายในศาล เป็นตัวแทน
้
ของทวดตาโคดำและยายกิ้มทอง
ี่
๓.๒ ความเชื่อทเกี่ยวกับทวดตาโคดำ ยายกิ้มทอง
๓.๒.๑ ด้านโชคลาภ ชาวบ้านภายในหมู่บ้านมีความ
เชื่อว่าทวดตาโคดำและยายกิ้มทองสามารถดลบันดาลให้โชคลาภได้ มี
เรื่องเล่าว่าชายคนหนึ่งจากจังหวัดนครศรีธรรมราชทำนากุ้งขาดทุนเป็น
หนี้หลายแสนบาทจึงเหมารถมาที่ศาลตาโคดำยายกิ้มทองมาบนบานขอ
โชคลาภจากทวดทั้งสองเพื่อให้หมดหนี้สินจะได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
หลังจากนั้นประมาณ ๑๐ วัน ชายคนนั้นขายที่ดินซึ่งประกาศขายมานาน
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๑๙
เป็นปี ๆ แล้วได้เงินมาใช้หนี้สินจนหมดและยังมีชาวบ้านมากมายท้งใน
ั
บ้านป่าขาดและต่างถิ่นมาบนบานขอโชคลาภจากทวดทั้งสองอยู่เสมอ
๓.๒.๒ ด้านคุ้มครองความปลอดภัย ชาวบ้านเชื่อว่า
ี่
สามารถให้ความคุ้มครองปลอดภัยได้ โดยเชื่อว่าเมื่อจะเดินทางไปทใดไม่
ว่าทางบกหรือทางทะเลให้รำลึกบอกกล่าวต่อทวด ทวดก็จะให้ความ
คุ้มครองแก่ผู้นั้นให้เดินทางไปไหนมาไหนด้วยความปลอดภัย
และนอกจากนี้ชาวบ้านยังเชื่อว่าผู้ที่มาบนบานกับทวดโคดำ
่
ยายกิ้มทองนั้น ไม่ว่าจะบนบานด้วยเรื่องอะไร ซึ่งขึ้นอยู่กับความเชื่อสวน
บุคคล เมื่อผู้ที่มาบนบานแก่ทวดได้ตามความประสงค์แล้วก็จะแก้บน
ตามที่ได้บอกกล่าวกับทวดไว้ และจะต้องแก้บนด้วยลายผ้า (ผ้านุ่ง
สำหรับสตรี) สำหรับยายกิ้มทองทุกครั้ง
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒๐
๔. ทวดภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหร
ทวดภควม ทวดคำแก้วละขุนโหร (ตามลำดับ)
ั
หมู่ที่ ๔ ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒๑
ทวดภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหร เป็นทวดที่สถิตอยู่ท
ี่
หมู่ที่ ๔ ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ทวดภควัม ทวด
คำแก้วและขุนโหร เป็นทวดที่มีตำนานและความเชื่อของชาวบ้านบริเวณ
นี้มายาวนานโดยเป็นที่ทราบและมีความเชื่อถือกันอย่างแพร่หลาย มี
รายละเอียดดังนี้
๔.๑ ตำนานทวดภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหร สุภาคย์ อิน
ื่
ทองคง (๒๕๒๙ : ๑๔๔๖ – ๑๔๔๗) ได้กล่าวถึงตำนานและความเชอ
เกี่ยวกับทวดภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหรไว้ในสารานุกรมวัฒนธรรม
ภาคใต้ พ.ศ.๒๕๒๙ ไว้ดังนี้ ‘’ตามตำนานเล่าว่าทวดภควัม ทวดคำแก้ว
เป็นทวดเจ้าบ้านที่คอยปกปักรักษาแผ่นดินคล้ายพระภูมิเจ้าที่ ส่วนขุน
โหรเป็นทหารของทวดทั้งสอง ทวดภควัมนั้นตามตำนานเล่าว่าเป็นชายมี
รูปร่างสูงใหญ่ในมือถือกระบองเป็นอาวุธ ทวดคำแก้วเป็นหญิง และขุน
โหรเป็นชายในมือถือกระดานชนวน ทวดทั้งสามสถิตอยู่ที่นี่มานานแล้ว
ตั้งแต่ครั้งมีคนมาอยู่ในสมัยแรก ๆ โดยจะคอยดูแลทุกข์สุขของชาวบ้าน
ซึ่งถือว่าเป็นลูกหลานทวด ในสมัยก่อนนั้นมีคนเห็นทวดภควัมเดนลากไม้
ิ
กระบองเดินตรวจตราความเรียบร้อยของหมู่บ้านในคืนวันเพ็ญอยู่เสมอ’’
คนในหมู่บ้านหมู่ที่ ๔ ตำบลสทิงหม้อต่างก็มีความเชื่อเกี่ยวกับทวดภควัม
ทวดคำแก้วและขุนโหร บ้างเรียกกันในนามว่า ‘’พ่อทวด’’ ‘’แม่คำ
แก้ว’’ และ ‘’ตาโหน’’ และจากการสัมภาษณ์ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ได ้
เล่าตำนานซึ่งมีส่วนคล้ายคลึงกับที่ตำนานจากเอกสารของสุภาคย์ อิน
ิ
ทองคง (๒๕๒๙ : ๑๔๔๖ – ๑๔๔๗) นอกจากนี้ชาวบ้านในตำบลสทง
หม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อและให้ความ
เคารพนับถือต่อทวดทั้งสามนานมาแล้ว ตั้งแต่สมัยรุ่นปู่รุ่นย่า และรุ่นพ่อ
รุ่นแม่ก็ปรากฏความเชื่อเกี่ยวกับทวดทั้งสามแล้ว
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒๒
๔.๒ ความเชื่อเกี่ยวกับทวดภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหร
๔.๒.๑ ด้านโชคลาภ สรุปได้ว่า ชาวบ้านภายในหมู่บ้าน
เชื่อว่าทวดภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหรสามารถดลบันดาลให้โชคลาภ
ได้ มีเรื่องเล่าว่า บุตรสาวของนางลัดดา ทองเจริญ ชาวบ้านตำบล
สทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา จบการศึกษามา ๓ – ๔ ปีแลว
้
ยังหางานทำไม่ได้ นางลัดดาจึงมาบนบานต่อทวดภควัม ทวดคำแก้วและ
ขุนโหรขอให้บุตรสาวของตนได้งานทำปรากฏว่าบริษัทแห่งหนึ่งได้เรียก
ตัวบุตรสาวของนางลัดดาไปทำงาน แทนคนที่สอบได้แต่สละสิทธิ์และมี
ชาวบ้านอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำการค้าขาดทุนเป็น
หนี้สินหลายแสนบาทมาบนบานต่อทวดทั้งสาม หลังจากนั้นประมาณ ๑
เดือน ชาวหัวไทรคนนั้นก็กลับมาแก้บนด้วยอาหารคาว-หวาน จ้างคณะ
หนังตะลุงมาเล่นแก้บน เมื่อมีชาวบ้านได้สอบถามชาวหัวไทรคนนั้น ได ้
ความว่าชาวหัวไทรคนนั้นถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ ๒ จึงมีเงินไป
ชำระหนี้สิน ในปัจจุบันยังมีชาวบ้านในพื้นที่และต่างถิ่นมาบนบานขอโชค
ลาภจากทวดทั้งสามเสมอ
๔.๒.๒ ด้านคุ้มครองความปลอดภัย มีตำนานเล่าว่าใน
สมัยก่อนทวดภควัมจะเดินลากกระบองตรวจตราความปลอดภัยของ
หมู่บ้านมิให้มีภัยอันตรายจากโจรผู้ร้ายและไสยศาสตร์ในคืนวันเพ็ญเสมอ
นอกจากนี้ชาวบ้านแถวนี้ยังมีความเชื่อว่าก่อนที่จะเดินทางไกลไปยัง
ต่างจังหวัดหรือไปยังอำเภอใดก็จะมาสกการบูชาทวดภควัม ทวดคำแก้ว
ั
และขุนโหรให้ช่วยคุ้มครองให้เดินทางปลอดภัยทั้งขาไปและขากลบ โดย
ั
มีหตุการณ์เล่าว่า นายนิรันดร์ นิ่มนวล ชาวบ้านตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิง
หนคร จังหวัดสงขลาได้ขับรถยนต์ไปที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ก่อนที่จะ
เดินทาง นายนิรันดร์ได้มาบอกกล่าวบนบานขอความคุ้มครองจากทวด
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒๓
ภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหร ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำแต ่
นายนิรันดร์ปลอดภัย โดยนายนิรันดร์เชื่อว่าเป็นเพราะทวดทั้งสามให้
ความคุ้มครอง ในปัจจุบันชาวบ้านที่นี่ยังเชื่อว่าทวดภควัม ทวดคำแก้ว
่
และขุนโหรยังคงคอยคุ้มครองความปลอดภัยจากเหตุร้ายตาง ๆ เช่น โจร
ผู้ร้าย ไสยศาสตร์ เป็นต้น ให้กับลูกหลานหรือชาวบ้านภายในหมู่บ้านสบ
ื
ต่อมา
๔.๒.๓ ด้านโรคภัยไข้เจ็บ มีเรื่องเล่าว่า ทวดภควัม
ทวดคำแก้วและขุนโหรจะคอยป้องกันมิให้เกิดโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนจำ
นานมาก ๆ เช่น โรคห่า โรคที่เกิดจากเวทย์มนตร์ เป็นต้น มาทำร้ายคน
ในหมู่บ้าน ในปัจจุบันก็ยังมีผู้คนมาบนบานขอให้ทวดทั้งสามช่วยเรื่อง
โรคภัยไข้เจ็บอยู่เสมอ ซึ่งบางคนก็หายแต่บางคนไม่หาย
ั
๔.๒.๔ ด้านความแคล้วคลาดปลอดภย ชาวบ้านภายใน
หมู่บ้านเชื่อว่าทวดภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหรจะดลบันดาลให้เกิด
์
ความแคล้วคลาดจากเหตุการณร้าย ๆ ได้ มีเรื่องเล่าว่า เมื่อประมาณปี
พ.ศ.๑๕๓๕ นางเฉลิม ทองมุณี เป็นคนจากท้องที่อื่นเข้ามาทำนากุ้งใน
เขตหมู่ที๋ ๔ ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา นางเฉลิมเป็น
ผู้หนึ่งที่ศรัทธาในทวดทั้งสามมากจะกราบไหว้บูชาและนำอาหารคาว
ิ
้
ิ
หวานไปถวายทวดเสมอ ต่อมานางเฉลมไดถูกคนลอบยิง แต่นางเฉลมได ้
ยินเสียงเรียกชื่อตนจึงได้หันหลังกลับไปดูคนที่ทำให้ยิงยิงพลาด นางเฉลิม
ได้รับบาดเจ็บแค่กระสุนถากต้นแขนเล็กน้อย นางเฉลิมเชื่อว่าเป็นเพราะ
ทวดทั้งสามดลบันดาลให้แคล้วคลาดจากการถูกยิง นอกจากนี้ชาวบ้าน
ที่นี่มีความเชื่อว่าหากปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ในศีลธรรมแล้วทวดจะ
คุ้มครองให้แคล้วคลาดจากเหตุการณ์ร้าย ๆ ได ้
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒๔
เมื่อผทมาบนบานต่อทวดภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหรได้รับ
ู้
ี่
ี่
ความช่วยเหลือตามทบนบานไว้ โดยมีความเชื่อว่าเป็นการดลบันดาลมา
จากอำนาจของทวดก็จะต้องแก้บนตามที่ได้บอกกล่าวไว้ เช่น ตง
ั้
เครื่องเซ่นเป็นอาหารคาวหวาน จัดการแสดงหนังตะลุง มโนราห์ เป็นตน
้
ิ
นอกจากนี้จากความเชื่อและศรัทธาของชาวบ้านหมู่ที่ ๔ ตำบลสทงหม้อ
อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลาจึงไดร่วมกันจดให้มีงานสมโภชทวดภควัม
ั
้
ทวดคำแก้วและขุนโหรขึ้นในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ เป็นประจำทุกปีท ี่
บริเวณศาลากลางหมู่บ้าน ภายในงานจะนิมนต์พระสงฆ์มาฉันภัตราหาร
เพล ตั้งเครื่องเซ่น ไก่ หัวหมู เหล้า ผลไม้ เป็นต้น จากนั้นร่างทรงก็จะ
้
เชิญทวดภควัม ทวดคำแก้วและขุนโหรมาเข้าทรง เมื่อเข้าทรงแลว
ชาวบ้านที่มีความศรัทธาก็จะมาบนบานหรือแก้บนต่อทวดทั้งสาม
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒๕
๕. ทวดพังทวด
ทวดพังทวด เป็นทวดที่สถิตอยู่ที่หมู่ที่ ๑ ตำบลม่วงงาม อำเภอ
สิงหนคร จังหวัดสงขลา เป็นทวดที่มีตำนานและความเชื่อของชาวบ้าน
บริเวณนี้มายาวนานเป็นที่ทราบและมีความเชื่อกันอย่างแพร่หลาย
๕.๑ ตำนานพังทวด สรุปได้ว่ามีตำนานเล่าว่า มีชายหญิงค่หนึ่ง
ู
ั
เป็นคนในสมัยโบราณเมื่อประมาณ ๑๐๐ กว่าปีมาแล้ว อาศยอยู่บริเวณ
เป็นพังทวด เมื่อเสียชีวิตลงวิญญาณยังคงวนเวียนคอยดูแลทรัพย์สนของ
ิ
ั้
ตนและน้ำในพังอยู่ ต่อมาเมื่อมีชาวบ้านอพยพมาอยู่มากขึ้น ทวดทงสอง
ึ
ได้ไปเข้าฝันแม่ลูกคู่หนึ่งว่ามีทวดสถิตอยู่ที่รูปแกะสลักฝังอยู่ใต้ดินลก
ประมาณ ๑ ศอก อยู่ทางทิศเหนือของบ้านแม่ลูกคู่นั้น เมื่อตื่นขึ้นสองแม่
ลูกจึงได้ไปขดตามตำแหน่งทฝันเจอรูปแกะสลักเป็นรูปชาย ๑ รูปและรูป
ุ
ี่
ผู้หญิง ๑ รูป จึงนำมาไว้ที่ต้นโพธิ์ (ไม่สามารถระบุได้ว่าในปัจจุบันอยู่
บริเวณใด) ซึ่งมีศาลาพักคนเดินทาง ชาวบ้านก็มากราบไหว้บูชา ต่อมา
้
ศาลาพังลง ชาวบ้านจึงไดย้ายรูปสลักไปเก็บไว้ที่วัดปะโอ ตำบลม่วงงาม
อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เพื่อให้ชาวบ้านหมู่ที่ ๑ และชาวบ้านใน
หมู่อื่น ๆ ที่ความเชื่อและนับถือต่อทวดได้สักการบูชาและเป็นที่ยึด
เหนี่ยวทางจิตใจ
๕.๒ ความเชื่อเกี่ยวกับทวดพังทวด
๕.๒.๑ ด้านโชคลาภ ชาวบ้านภายในหมู่บ้านมีความ
เชื่อว่าทวดพังทวดสามารถดลบันดาบให้มีโชคลาภได้ มีเรื่องเล่าว่ามี
ชาวบ้านที่มีหนีสินมาบนบานขอโชคลาภจากทวดพังทวด ทวดพังทวดก็
ดลบันดาสลให้พบหนทางแก้ไข เช่น ขายที่ดินได้ และนำเงินไปใช้หนี้
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒๖
หรือถูกหวยใต้ดิน ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล ดังนั้นจึงมีผู้มีบนบานขอโชค
ลาภจากทวดพังทวดเสมอ
๕.๒.๒ ด้านโรคภัยไข้เจ็บ ชาวบ้านที่นี่เชื่อว่าพังทวด
ู้
สามารถดลบันดาลให้คนและสัตว์หายจากการเจ็บป่วยได้ โดยญาติผป่วย
ื
ุ
ี่
หรือเจ้าของสัตว์ป่วยไปจดธูปทต้นโพธิ์ บอกกล่าวขอความช่วยเหลอจาก
ทวด ๆ จะดลบันดาลให้คนหรือสัตว์นั้นหายจากการเจ็บป่วย มีเรื่องเล่า
ุ
ว่าในสมัยก่อนเมื่อสัตว์เลี้ยงเช่น วัว ควาย ล้มเจ็บป่วย เจ้าของก็จะมาจด
ธูปบนบานต่อทวดพังทวดขอให้สัตว์หายจากอาการป่วย ทวดพังทวดก็จะ
ดลบันดาลให้ได้ ในปัจจุบันยังคงมีชาวบ้านที่มีญาติพี่น้องเจ็บป่วยและ
เชื่อในอำนาจของทวดพังทวดมาบนบานขอความช่วยเหลือจากทวดพัง
ทวดเสมอ
ิ
นอกจากนี้ชาวบ้านยังมีความเชื่อว่าพังทวดเป็นพังศกดสทธิ์ห้าม
ั
ิ์
ลงไปเล่นน้ำในพังเพราะทวดไม่ชอบ ถ้าลงไปจะเกิดเหตุร้ายได้ เชน
่
จมน้ำตาย ไม่สบายโดยหาสาเหตุไม่ได้ เป็นต้น
และในการสักการบูชาทวด หรือมีการบนบานสิ่งใดต่อทวดแล้ว
นั้น เมื่อมาบนบานต่อทวด แล้วเกิดได้ตามความปรารถนาแล้วก็ให้แก้บน
ด้วยขนมต้มขาว ขนมต้มแดง พร้อมกับสิ่งที่อธิษฐานบนบานไว้กับทวด
เช่น เครื่องเซ่น จุดประทัดถวาย เป็นต้น
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒๗
๖. ทวดบ่อกลอง
ทวดบ่อกลอง เป็นทวดที่สถิตอยู่ที่ ๕ ตำบลม่วงงาม อำเภอสง
ิ
หนคร จังหวัดสงขลา เป็นทวดที่มีตำนานและความเชื่อของชาวบ้านใน
บริเวณนี้มายาวนานเป็นที่ทราบและมีความเชื่อถืออย่างแพร่หลาย มี
รายละเอียดดังนี้
๖.๑ ตำนานทวดบ่อกลอง สรุปได้ว่ามีตำนานเล่าว่าที่บ่อน้ำ
สาธารณะซึ่งชาวบ้านเรียกว่าบ่อกลอง มีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มีรูปเป็นชาย
สถิตอยู่เพื่อดูแลรักษาบ่อน้ำ ซึ่งชายที่เสียชีวิตแล้วสิงสถิตในบ่อน้ำนั้น
ชาวบ้านว่ากันว่าเป็นคนภายในหมู่บ้านแล้วเสียชีวิตลง และในวันพระ
ชาวบ้านจะได้ยินเสียงกลองดังมาจากก้นบ่อ จึงเรียกว่าบ่อกลอง และ
เรียกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าสถิตอยู่ในบ่อว่าทวดบ่อกลอง เดิมบ่อ
ี่
้
กลองเป็นบ่อทมีปากเสมอกับพื้นดินรอบ ๆ บริเวณมีต้นยางหัวโต ๔ ตน
ิ
ประจำอยู่ ๔ ทิศ ต่อมาเจ้าอาวาสวัดม่วงงาม ตำบลม่วงงาม อำเภอสง
หนคร จังหวัดสงขลา ให้สร้างปากบ่อให้สูงจากพื้นดินประมาณ ๗๐
เซนติเมตร ปัจจุบันบ่อน้ำสาธารณะนั้นถูกถม เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยแล้ว
๖.๒ ความเชื่อเกี่ยวกับทวดบ่อกลอง
๖.๒.๑ ด้านโชคลาภ ชาวบ้านเชื่อว่า ทวดบ่อกลอง
สามารถดลบันดาลให้มีโชคลาภทางการเงินได้ ดังนั้นในเมื่อใกล้วันท ี่
สลากกินแบ่งรัฐบาลและหวยใตดินออกรางวัล จะมีคนมาบนบานขอเลข
้
เด็ดจากทวดบ่อกลองอยู่เสมอ นอกจากนี้ชาวบ้านยังได้บนบานเรื่องอื่น
อีกด้วย เช่น การสอบเข้าเรียน สอบเข้าทำงานให้ได้ เป็นต้น
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒๘
ื่
๖.๒.๒ ด้านโรคภัยไข้เจ็บ สรุปได้ว่า ชาวบ้านเชอว่าน้ำ
ในบ่อกลองกลายเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ของทวดบ่อกลอง สามารถรักษาอาการ
เจ็บป่วยได้ หากมีคนป่วยญาติพี่น้องจะจดธูป เทียน บนบานให้หายจาก
ุ
การเจ็บป่วย แล้วตักน้ำในบ่อไปให้คนป่วยกินหรืออาจจะทำให้หายจาก
การเจ็บป่วยได้
แต่เดิมบริเวณรอบ ๆ บ่อกลองมีต้นยาง ๔ ต้น ต่อมาถูกชาวบ้าน
โค่นและคนที่โค่นต้นยางตายลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ชาวบ้านที่นี่จึงมี
ความเชอว่าเป็นเพราะไปทำลายต้นไม้สมบัติของทวด ดังนั้นเมื่อมีต้นไทร
ื่
งอกขึ้นแทนที่ต้นยางจึงไม่มีใครกล้าไปทำลายต้นไทรอีกเลย
เมื่อผู้บนบานต่อทวดบ่อกลองได้ตามความประสงค์แล้วก็จะแก้
บนตามที่อธิษฐานไว้เช่น ตั้งเครื่องเซ่น ทำบุญเลี้ยงพระ เป็นต้น ชาวบ้าน
ชาวบ้านที่นับถือทวดบ่อกลองจะจัดให้มีการทำบุญเลยงพระและอาบน้ำ
ี้
ต้นไทรเป็นประจำทุกปีในเดือนห้า จะนัดหมายวันใดก็จะตกลงกันเป็นปี
ๆ ไป ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการทำบุญและอาบน้ำให้บรรพบุรุษของตน
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๒๙
ตำนานและความเชื่อ
เกี่ยวกับทวดในรูปสัตว์
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓๐
ั
ี่
ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับทวดในรูปสตว์ทปรากฏตามความ
เชื่อของชาวบ้านในอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา มีจำนวน ๒ ทวดดังนี้
๑. ทวดรอง หรือพ่อตาหลวงรอง
รูปปั้นทวดรอง หรือพ่อตาหลวงรองในรูปของงูทวด
วัดโลการาม หมู่ที่ ๔ ตำบลสทิงหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓๑
ทวดรองหรือพ่อตาหลวงรอง เป็นทวดที่สถิตอยู่หมู่ที่ ๔ ตำบล
สทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เป็นทวดที่มีตำนานและความ
เชื่อของชาวบ้านในบริเวณนี้มายาวนานเป็นที่ทราบและมีความเชื่อกัน
อย่างแพร่หลาย
๑.๑ ตำนานทวดรอง หรือพ่อตาหลวงรอง เล่ากันว่าแตเดิมเคย
่
มีตำนานเล่าว่า ทวดรองหรือพ่อตาหลวงรองเป็นพระธุดงค์เดินทางมา
จากภาคเหนือมาปักกลดบริเวณที่เป็นวัดโลการามในปัจจุบันและ
มรณภาพที่นั่น ในเวลากลางคืนชาวบ้านจะเห็นงูตัวใหญ่มีหงอนนอนอยู่
้
บริเวณที่ท่านมรณภาพ จึงเชื่อว่าวิญญาณของท่านได้กลายเป็นงูใหญ่เฝา
บริเวณนั้นอยู่ และเมื่อมีผู้เดือดร้อนเรื่องต่าง ๆ ไปบนบานขอความ
ช่วยเหลือสำเร็จ โดยเชื่อว่าเกิดจากอำนาจของทวดหรือพ่อตาหลวงรอง
ช่างภายในหมู่บ้านชื่อนาย จูห้วน สุวรรณรัตน์ ได้ปั้นรูปงูใหญ่มีหงอนอยู่
บนแท่นสูงจากพื้นดินประมาณ ๑ เมตรดังรูปประกอบข้างต้น สำหรับให้
ชาวบ้านภายในหมู่บ้านหรือคนที่มีความเชอต่อทวดรองหรือพ่อตาหลวง
ื่
ได้สักการบูชา
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓๒
นายจู้ห้วย สุวรรณรตน์ อายุ ๙๕ ปี (ขวา)
ั
ผู้ปั้นรูปงูทวด ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓๓
๑.๒ ความเชื่อเกี่ยวกับทวดรองหรือพ่อตาหลวงรอง
้
๑.๒.๑ ดานโชคลาภ ชาวบ้านต่างมีความเชื่อว่าทวด
รองหรือพ่อตาหลวงรองจะดลบันดาลให้มีโชคลาภได้ เช่น คนททำนากุ้ง
ี่
บริเวณหมู่ที่ ๔ ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ก็จะมา
บนบานขอโชคลาภจากทวดก่อนที่จะมีการจับกุ้งไปขาย หรือแม้กระทั่ง
ชาวบ้านคนอื่น ๆ ก็มักจะมาขอโชคขอลาภจากทวดรอง ทวดงู หรือทวด
ตาหลวงรองตามความเชื่อของชาวบ้านหมู่ที่ ๔ ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสง
ิ
หนคร จังหวัดสงขลา ชาวบ้านบางคนก็มีโชคลาภจากการซื้อหวยตางก็มี
่
ความเชื่อว่าทวดตาหลวงรองให้โชคลาภ และนำเงินที่ได้ไปปลดหนี้ปลด
สินที่ตนเองมีอยู่ และลูกหลานภายในหมู่บ้านบางคนเมื่อจะไปสมัครเรียน
ต่อ หรือว่าไปสมัครทำงานก็มาบนบานแก่ทวดตาหลวงรองให้ช่วยดล
บันดาลให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
๑.๒.๒ ด้านโรคภัยไข้เจ็บ ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเมื่อ
ญาติพี่น้องเจ็บป่วยโดยเฉพาะเด็ก ๆ ให้มาบนบานบอกกล่าวขอความ
ช่วยเหลือจากทวดรองหรือพ่อตาหลวงรอง ทวดรองหรือพ่อตาหลวงรอง
ก็จะดลบันดาลให้หายจากการเจบป่วยนั้น ๆ หรือบางความเชื่อกล่าวว่า
็
หากบ้านใดมีเด็กทารกแรกเกิดก็จะพามาฝากเนื้อฝากตัวกับทวดตาหลวง
รองให้ทวดตาหลวงรองรับเป็นลูกเป็นหลาน จะส่งผลให้เด็กคนนั้นเล้ยง
ี
ง่าย โดยวิธีการตั้งของไหว้แก่ทวดตาหลวงรองก็ถือว่าแล้วแต่จะตั้งของ
ไหว้อะไรตามแต่กำลังศรัทธา โดยบางคนจะต้มข้าวต้มไปถวายแก่ทวด
พ่อตาหลวงรองก็ได้ หรือจะถวายเป็นอาหารคาวหวานประเภทอื่น ๆ
ก็แล้วแต่เคยบนบานไว้
ื่
๑.๒.๓ ด้านคุ้มครองอันตราย ชาวบ้านมีความเชอว่า
เมื่อญาติพี่น้องเสียชีวิตและนำศพมาเผาที่วัดโลการาม ให้ตั้งอาหารคาว
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓๔
หวานบอกกล่าวแก่ทวดตาหลวงรอง เนื่องด้วยมีความเชื่อกันต่อ ๆ มาว่า
ทวดจะคุ้มครองทำให้วิญญาณของผู้ตายไปสู่ภพภูมิที่ด ี
และผู้ที่มาบนบาน หรือขอความช่วยเหลือต่อทวดรองหรือตา
หลวงรองได้รับความช่วยเหลือโดยเชื่อว่ามาจากอำนาจของทวดรองหรือ
พ่อตาหลวงรองแล้วก็จะมาแก้บนด้วยการตั้งข้าวเหนียวกับน้ำผึ้งเป็น
เครื่องเซ่นไหว้
ิ
ทวดรอง หรือทวดตาหลวงรอง สถตที่วัดโลการาม
หมู่ที่ ๔ ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓๕
‘’ทวดรอง หรือทวดตาหลวงรอง แต่เดิมแกเป็นคนถือศีลมาจาก
ทางเหนือฮั้นแหละ ถึงก้ามามรณภาพที่วัดโลกาฯ ทิ้งหม้อ กลายเป็นงู
้
หรือจะเรียกว่าทวดในรูปงูก้าได ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นงูบอง หรืองู
บองหลา’’
พระครูปัญญาวรกจ (อ่วม) เจ้าอาวาสวัดโลการาม
ิ
หมู่ที่ ๔ ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓๖
๒ . ทวดหัวเขา แดง
ศาลปู่ทวดหัวเขาแดง
ั
หมู่ที่ ๑ ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวดสงขลา
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓๗
ทวดหัวเขาแดงในรูปปั้นของจระเข้ทวด
หมู่ที่ ๑ ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓๘
ทวดหัวเขาแดง เป็นทวดที่สิงสถิตอยู่ที่หมู่ที่ ๑ ตำบลหัวเขา
อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ตามความเชื่อของชาวบ้าน มีตำนาน
พื้นบ้านเล่าขานสืบต่อกันอย่างแพร่หลาย
ี
่
๒.๑ ตำนานของทวดหัวเขาแดง แตเดิมเป็นชายชราชาวจน
เดินทางมาจากผืนแผ่นดินใหญ่มุ่งสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเรือ
สำเภาขนาดใหญ่ ด้วยเป็นคนมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา
ิ
ยิ่งจึงนำทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลตดมาด้วย เพื่อนำมาร่วมบรรจุลงใน
ี
พระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช แต่โชคไม่ดทเรือสำเภามาลมบริเวณ
ี่
่
ปากน้ำทางเข้าเมืองสงขลาเสียก่อน ดวงวิญญาณของท่าน เมื่อตายไปก็
มิได้หนีหายไปไหนยังคงวนเวียนอยู่ในบริเวณดังกล่าวในรูปของจระเข้
ใหญ่ ชาวบ้านเรียก “จระเข้ทวด” หรือ “ทวดจระเข้” และเชื่อกันว่า
ทวดหัวเขาแดงในรูปของจระเข้ใหญ่จะคอยมาเฝ้าปากน้ำเมืองสงขลา
คอยดูแลชาวบ้านมิให้เกิดอันตรายจากสัตว์ร้ายต่างๆ ได้ รวมทั้งป้องกัน
คลื่นลมในทะเลให้กับชาวบ้านยามออกเรือหาปลา ดังนั้นก่อนทชาวบ้าน
ี่
ในบริเวณดังกล่าวจะออกเรือจับปลาหรือสัตว์น้ำใด ๆ ก็ตามจึงต้องบอก
ุ้
กล่าวขอความคมครองจากทวดหัวเขาแดงก่อนเสมอ ด้วยการลอยหมาก
พลู บ้างก็จุดประทัดก่อนออกเรือ
๒.๒ ความเชื่อเกี่ยวกับทวดหัวเขาแดง
๒.๒.๑ ด้านโชคลาภ ชาวบ้านภายในหมู่บ้านตำบลหัว
เขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลาส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพประมง ซึ่ง
ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อว่าทวดหัวเขาแดงสามารถดลบันดาลให้เกิดโชค
้
ลาภได ไม่ว่าจะเป็นโชคลาภในด้านเงินทอง หรือการออกเรือออกทะเล
้
้
๒.๒.๒ ด้านความแคลวคลาดปลอดภัย สรุปไดว่า ทวด
หัวเขาแดง คอยดูแลชาวบ้านมิให้เกิดอันตรายจากสัตว์ร้ายต่าง ๆ ได ้
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๓๙
รวมทั้งป้องกันคลื่นลมในทะเลให้กับชาวบ้านยามออกเรือหาปลา ดังนั้น
ก่อนที่ชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวจะออกเรือจับปลาหรือสัตว์น้ำใดๆก็
ตามจึงต้องบอกกล่าวขอความคุ้มครองจากทวดหัวเขาแดงก่อนเสมอ
ด้วยการลอยหมากพลู บ้างก็จุดประทัดก่อนออกเรือ” ดังที่ได้หยิบยกบท
์
สัมภาษณของชาวบ้านที่ประกอบ
อาชีพประมง ความว่า
“คนที่ออกเรือประมงใน
จังหวัดนี้เค้าเชื่อกันหมดแหละ
ร้อยทั้งร้อย เวลาออกเรือลุงก็ไหว้
ขอพรช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาด
่
ไม่มีพายุไม่มีฝน ลมทะเล หากินคล่อง และแตก่อนย้อนอดีตเมื่อประมาณ
๕ ปี มีลมพายุหางหมูเข้ามาถึงหัวเขื่อน พอได้ยกมือไหว้นึกถึงทวดเขา
แดงว่าให้ขาดเคียงหัวเขื่อนเสีย หลังจากไม่กี่นาทีพายุก็ขาดหายไปในท ี่
ตรงนั้น””
์
(วิรัตน์ สว่าง, ผู้ให้สัมภาษณ)
“ในความเชื่อของผม ส่วนใหญ่คนท ี่
ทำประมงในชุมชนนี้เวลาที่เค้าออกไปหา
ปลาข้างนอกก็จะจุดประทัดเสมอ เพื่อ
ขอให้ทำการประมงอย่างปลอดภัยและ
ขอให้ได้ปลามาก ๆ”
์
(ประมูล รัตนพันธ์, ผู้ให้สัมภาษณ)
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔๐
ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงในตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร
ื่
่
จังหวัดสงขลาตางมีความเชอเป็นไปในทศทางเดียวกันว่าทวดหัวเขาแดง
ิ
สามารถดลบันดาลโชคลาภและปกป้องให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัย
ร้ายอันตรายต่าง ๆ ให้แก่คนที่เคารพนับถือ ซึ่งการยกมือไหว้อธิฐานขอ
พรหรือการจุดประทัดถือได้ว่าเป็นการให้ความเคารพนับถือทวดหัวเขา
แดงและจะทำให้เป็นมงคลต่อการประกอบอาชีพ มีความสุข ปลอดภัย
ทำให้มีโชคลาภ รวมถึงเรื่องการทำมาคาขาย มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือดวย
้
้
เช่นกัน การปฏิบัติเช่นนี้เป็นมาอย่างยาวนานสืบทอดมาตั้งแตสมัยบรรพ
่
บุรุษจนกลายเป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งของชาวประมงพื้นบ้านชุมชนหัว
เขาแดงไปแล้ว
๒.๒.๓ ด้านโรคภัยไข้เจ็บ ชาวบ้านภายในหมู่บ้านมักจะ
บนบานแก่ทวดหัวเขาแดงเมื่อครอบครัวหรือคนใกล้ชิดเกิดเจ็บไข้ไม่
ุ
สบายโดยไม่มีสาเหตชาวบ้านมักเชื่อกันว่าเกิดจากอำนาจการกระทำของ
ทวดหัวเขาแดง หรือผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยโดยทางการแพทย์แผนปัจจุบัน
ไม่สามารถรักษาได้ก็จะหันมาพึ่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างทวดหัวเขาแดงให้
ตนเองเกิดความสบายใจและหายจากอาการเจ็บป่วยเหล่านั้น เพื่อให้มี
กำลังใจต่อสู้โรคร้ายต่อไปดังคำกล่าวของชาวบ้านภายในตำบลหัวเขา
ดังนี้
“มีครั้งหนึ่งทั้งลูกทั้งเมียพี่ไข้หนัก ก็ไปบน
กับทวดขอให้หายไข้ส่วนใหญ่คนแถวนี้เวลามีอะไรก็นึกถึง
ทวดก่อน ของพันนี้เป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นแต่ว่าเวลาทำ
แล้วมันบายใจครับ”
(สุทธิศักดิ์ พันสนิท, ผู้ให้สัมภาษณ)
์
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔๑
๓. ทวดเสือ
ี่
ทวดเสือ เป็นทวดที่สิงสถิตอยู่ทหมู่ที่ ๑๐ ตำบลม่วงงาม อำเภอ
่
สิงหนคร จังหวัดสงขลา ตามความเชื่อของชาวบ้าน มีตำนานพื้นบ้านเลา
ขานสืบต่อกันอย่างแพร่หลาย
‘’ทวดเสือ’’ หรือ ‘’เสือทวด’’ จัดเป็นดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ท ี่
ซึ่งเป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านในท้องถิ่นภาคใต้ของประเทศไทยมาชา
้
นาน โดยดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวจัดเป็นกึ่งเทพกึ่งสัตว์ แสดง
รูปลักษณ์ของพญาเสือขนาดใหญ่ มีอำนาจให้คุณให้โทษแก่ผู้ทำการ
สักการะและลบหลู่ดูหมิ่นได้ ซึ่งคุณาพร ไชยโรจน์ (๒๕๓๕ : ๑๖๕) ได ้
ให้ความหมายของคำว่า ทวดเสือว่า ทวดเสือหรือเสือทวด หมายถึงเสอท ี่
ื
มีอายุมาก ตัวใหญ่ หรือมีลักษณะพิเศษ เชื่อกันว่าเป็นพญาสัตว์ ชาวบ้าน
ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังปรากฏว่าในพิธีกรรมของโนราโรงครูตาม
สถานที่ต่าง ๆ นั้นยังมีความเชื่อกันว่าเป็นที่ชุมนุมของเหล่าเทวดา สง
ิ่
ื
ศักดิ์สิทธิ์อันหมายรวมทั้งทวดในรูปเสือ เรียกว่า ‘’ทวดเสือ’’ หรือ ‘’เสอ
ทวด’’ ด้วย โดยทวดเสือหรือเสือทวดเป็นทวดที่สถิตอยู่ที่บ้านเสื้อเมือง
ี่
ล่าง หมู่ที่ ๑๐ ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เป็นทวดทมี
ตำนานและความเชื่อของชาวบ้านในบริเวณนี้มายาวนานเป็นที่ทราบและ
มีความเชื่อกันอย่างแพร่หลาย
๓.๑ ตำนานทวดเสือ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานว่าวัดภายใน
หมู่บ้านวัดหนึ่งแต่เดิมไม่ได้ชื่อ ‘’วัดเสื้อเมือง’’ แต่ชื่อ ‘’วัดเสือเมือง’’
เนื่องด้วยในสมัยก่อนนั้นบริเวณดังกล่าวเคยเป็นขุมเสือมาก่อน และมีเสือ
อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากรวมถึงดุร้ายมากด้วย ซึ่งชาวบ้านบางกลุ่มเชอ
ื่
กันว่ามีเสืออาศัยอยู่เป็นจำนวนมากรวมถึงดุร้ายมากด้วย ซึ่งชาวบ้านบาง
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔๒
กลุ่มเชื่อกันว่าเสือที่มีอายุมากหรือแก่กล้าอายุจะมีลักษณะพิเศษที่สง่า
ื
งามและน่ายำเกรงกว่าเสือโดยปกติธรรมดาโดยทวไป เรียกว่า ‘’เสอ
ั่
ทวด’’ หรือ ‘’ทวดเสือ’’ จัดเป็นพญาสัตว์อันมีดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
สถิตอยู่ภายใน ทวดเสือจะไม่เกรงกลัวคนแต่ก็ไม่ทำอันตรายคน
๓.๒ ความเชื่อเกี่ยวกับทวดเสือ
๓.๒.๑ ด้านโชคลาภ ชาวบ้านภายในหมู่บ้านมีความ
เชื่อว่าทวดเสือสามารถดลบันดาลให้มีโชคลาภหรือได้เลื่อนขั้นเลื่อน
ตำแหน่งในหน้าที่การงานได้ ลูกหลานของคนในหมู่บ้านเมื่อจะไปสมัคร
งานยังสำนักงานหรือสถานที่ต่าง ๆ ก็จะมากราบไหว้หรือระลึกถึงทวด
เสือให้ช่วยดลบันดาลให้ตนเองได้งาน เมื่อได้สมดังความปรารถนาก็จะมา
กลับมาแก้บนที่เคยกล่าวไว้
๓.๒.๒ ด้านโรคภัยไข้เจ็บ ชาวบ้านภายในหมู่บ้านมี
ความเชื่อว่าทวดเสือสามารถดลบันดาลให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ โดย
เมื่อคนในหมู่บ้านมีอาการเจ็บป่วยหรือเด็กภายในหมู่บ้านไดรับอุบัตเหต ุ
ิ
้
พ่อแม่หรือญาติพี่น้องก็จะมาสักการบูชาและขอให้ทวดเสือดลบันดาลให้
เขาหายจากอาการเจ็บป่วยหรือมีอาการดีขึ้นในเร็ววัน
๓.๒.๓ ด้านคุ้มครองความปลอดภัย ชาวบ้านภายใน
หมู่บ้านมีความเชื่อว่าก่อนจะเดินทางไกลหรือคนจากต่างถิ่นเข้ามายังวัด
เสื้อเมืองก็จะมาเข้ามาสักการทวดเสือและขอให้คุ้มครองอันตรายต่างๆ
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔๓
ตำนานและความเชื่อ
เกี่ยวกับทวดในรูปต้นไม้
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔๔
ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับทวดในรูปต้นไม้ ที่ปรากฏตาม
ความเชื่อของชาวบ้านในอำเภอสิงหนคร ปรากฏเพียง ๑ ทวดดังนี้
่
ทวดนางไม้ หรือทวดแม่มวงทอง
่
ทวดนางไม้ หรือทวดแม่มวงทอง
หมู่ที่ ๔ ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔๕
ทวดนางไม้ หรือทวดแม่ม่วงทองเป็นทวดที่สถิตอยู่ที่หมู่ที่ ๔
ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลาเป็นทวดที่ชาวบ้านมีความ
เชื่อกันจนก่อเกิดเป็นพฤติกรรมของสังคมที่เรียกว่า ประเพณีแตงงานกับ
่
นางไม้ หรือไหว้ต้นไม้ใหญ่
๑.๑ ตำนานทวดแม่ม่วงทอง สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต ้
(๒๕๒๙ : ๑๓๕๙) ได้กล่าวถึงประเพณีแต่งงานกับนางไม้ว่า ‘’
แต่งงานกับนางไม้เป็นพิธีท้องถิ่นของชาวบ้านมะม่วงหมู่ หมู่ที่ ๔ ตำบล
สทิงหม้อ อำเภอเมือง (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอำเภอสิงหนคร) จังหวัด
สงขลา จัดขึ้นตามคำบนบานให้นางไม้ช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ
ของชีวิต เมื่อสมประสงค์แล้วก็จะตอบสนองด้วยการแต่งงานด้วย
การแต่งงานกับนางไม้ มีความเป็นมาอย่างไรไม่แน่ชัด ทราบแต ่
ว่า นางไม้ท่เชื่อถือกันนี้สถิตอยู่ในต้นมะม่วงใหญ่ ที่บริเวณวัดมะม่วงหมู่
ี
ศูนย์กลางทางศาสนาของชุมชน ต่อมาต้นมะม่วงนั้นตายลง จึงย้ายไป
สถิตที่ต้นไม้ใหญ่อีกต้นหนึ่งนอกเขตวัดใกล้ตลาดนัดของชาวบ้านแต่ท ี่
ึ
ดังกล่าวสกปรก รุกขเทวดาไม่ชอบจงย้ายไปสถิตที่ต้นไม้ใหญ่อีกต้นหนึ่ง
็
ใกล้ ๆ กัน หน้าวัดมะม่วงหมู่ ซึ่งเปนสถานที่สถิตในปัจจุบัน
ื
ชาวบ้านเช่อกันว่า รุกขเทวดาดังกลาวเป็นหญิงสาวรูปงาม เคย
่
้
้
ปรากฏนิมิตให้เห็นหลายครั้ง ครั้นปี พ.ศ.๒๕๕๓ ชาวบ้านไดปันรูปหญิง
สาวแต่งกายงามขนาดเท่าคนจริง เป็นรูปเคารพไว้ ที่ศาลก่ออิฐเล็ก ๆ ใต ้
โคนต้นไม้นั้น เรียกกันว่า ‘’เจ้าแม่ม่วงทอง’’
อีกกระแสหนึ่งเล่ากันต่อมาว่า มีธิดาของเจ้าเมือง
นครศรีธรรมราชถูกโจรจับตัวมาเพื่อปล้นทรัพย์และถูกฆ่าตาย ศพถูก
ซ่อนไว้ในโพรงมะม่วงใหญ่ ต่อมาได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏเนือง ๆ จน
ชาวบ้านนับถือและเกิดบวงสรวงบนบานเพื่อความประสงค์ต่าง ๆ
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔๖
พิธีกรรมการบวงสรวงและการใช้บนบานบางครอบครัว บาง
ครอบครัวนับถืออย่างจริงจัง ฝากตัวและบุตรหลานเป็นลูกหลานของเจา
้
ั
แม่ หากครอบครัวได้ฝากตวแล้ว ต้องทำพิธีแต่งงานเสียก่อน เมื่อทำพิธี
ิ
แต่งงานกับเจ้าแม่แล้วต่อไปเข้าพิธีแต่งงานกับหญิงอื่น ๆ ตามปรกตวิสย
ั
ก็ย่อมทำได้ หากชายผู้นั้นมีบุตรชายคนโตก็ต้องทำพิธีแตงงานกับเจาแม่
้
่
สืบแทนบิดาด้วย การแต่งงานกับเจ้าแม่ จึงเป็นเรื่องที่ต้องกระทำสืบทอด
ื
กันไปตลาดสายสกุลชั้นจนถึงรุ่นลูก หลาน เหลน ส่วนผู้ที่ไม่ได้นับถอทั้ง
สกุลวงศ์เมื่อประสบปัญหาเดอดร้อน ขอให้เจ้าแม่ช่วยขจัดปัญหาตาง ๆ
ื
่
เมื่อสมประสงค์แล้วก็แก้บนดวยการทำพิธีแต่งงานกับเจ้าก็กระทำได ้
้
เช่นกัน
พิธีแต่งงานกระทำเช่นเดียวกับการแต่งงานของชาวบ้าน
กล่าวคือมีขันหมาก เงินทอง และเครื่องบูชา เครื่องบูชาที่ใช้ต่างจาก
เครื่องบูชาขันหมากทั่ว ๆ ไป เช่น หัวหมู สุรา เป็ด ไก่ และผลไม้ ฯลฯ
พิธีแต่งงานทำได้เฉพาะวันอังคารและวันเสาร์เท่านั้น เจ้าบ่าวแต่งกาย
เรียบร้อยสวยงามเยี่ยงเจ้าบ่าวทั่วไป และมักเหน็บกริชด้วย มีการจด
ั
ขันหมากเป็นที่ครึกครื้นเช่นเดียวกับพิธีแต่งงานตามปกติ เจ้าพิธีเป็นผทำ
ู้
พิธีให้ โดยปกติในหมู่บ้านมีคนเป็นเจ้าพิธีได้หลายคน โดยเจ้าพิธีจะ
จัดแจงขันหมากและข้าวของต่าง ๆ จัดสถานที่ หมอนรองกราบ และ
หม้อน้ำสำหรับรดน้ำ แล้วจะกล่าวชุมนุมเทวดา บูชาเทวดา เช่นเดยวกับ
ี
พิธีเจริญพระพุทธมนต์โดยทั่วไป อนึ่งหากผู้หญิงต้องการความชวยเหลอ
่
ื
จากเจ้าแม่ก็กระทำได้ และเมื่อสมประสงค์แล้ว ก็แก้บนได้ด้วยการแต่ง
กายเป็นผู้ชายเจ้าพิธีแต่งงานกับเจ้าแม่ การแก้บนโดยไม่ต้องทำพิธี
แต่งงานก็มีบ้าง ปัจจุบันแม้สังคมเจริญขึ้น แต่ประเพณีแต่งงานกับนางไม้
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔๗
ที่หมู่บ้านนี้ยังมิได้เปลี่ยนแปลง พิธีกรรมดังกล่าวยังจัดอยู่เรื่อย ๆ และถือ
เป็นทางแก้ปัญหาอย่างหนึ่งของชีวิตของผู้คนที่เชื่อในเรื่องนี้
โดยชาวบ้านภายในหมู่บ้านต่างก็มีความเชื่อต่อความเป็นมาของ
นางไม้ หรือทวดแม่ม่วงทองสอดคล้องกับที่ตำนานดังกล่าวได้ว่าไว้ว่า
ทวดนางไม้หรือ ทวดแม่ม่วงทองเป็นรุกขเทวดาที่สิงสถิตยังต้นมะม่วง
็
และในสมัยก่อนเคยชวนเด็ก ๆ ภายในหมู่บ้านให้อยู่เล่นกับตนจนเดกไม่
กลับบ้าน แม่ของเดกจึงต้องมากราบไหว้ทวดแม่ม่วงทองขอลูกคืน และ
็
ให้คำสัญญาว่าจะให้ลูกชายบวชให้ และเมื่อบ้านไหนเป็นสายตระกูลและ
มีลูกชายจะต้องให้แต่งงานกับทวดนางไม้ หรือทวดแม่ม่วงทอง ชาวบ้าน
ภายในหมู่บ้านต่างเชื่อกันว่าทวดนางไม้ หรือทวดแม่ม่วงทอง มีความ
ั
ศักดิ์สิทธิ์มาก บางครอบครัวนับถือจนเกิดเป็นพิธีกรรมทางสงคมโดยการ
แต่งงานกับทวดนางไม้และมีการนับถือและปฏบัตสืบทอดกันมาตงแตรุ่น
ั้
่
ิ
ิ
บรรพบุรุษหรืออาจกล่าวได้ว่าสืบทอดกันไปตลอดสายสกุลชั้นจนถึงรุ่น
ลูก หลาน เหลน ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น และหากว่าสายสกุลใดที่ลก
ู
หลาน เหลนไม่ทำการสืบทอดประเพณีแต่งงานกับนางไม้หรือทวดแม่
ม่วงทอง ทวดแม่ม่วงทองจะแสดงอภินิหารโดยการปรากฏกายให้เห็น
หรือไม่ก็ทำให้ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามประเพณีที่สายสกุลสืบทอดกันมามีอัน
เป็นไป มีเรื่องเล่าจากชาวบ้านว่า บุตรของนายขวัญ (นามสมมติ) ถือเป็น
สายสกุลของนายขวัญที่จะต้องเข้าพิธีแตงงานกับทวดนางไม้ หรือทวดแม่
่
ม่วงทอง แต่ปรากฏว่าไม่ยอมเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับทวดนางไม้หรือทวด
แม่ม่วงทองเหมือนที่ปฏิบัติสืบต่อ ๆ กันมา เจ้าแม่ม่วงทองก็ได้ปรากฏ
กายให้เห็น และทำให้บตรของนายขวัญนั้นกลายเป็นคนเสียสติ บ้างก็ว่า
ุ
้
เห็นนั่งกอดต้นไม้ บ้างก็ว่าพูดคุยกับตนไม้ด้วยสติไม่สมประกอบอยู่อย่าง
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔๘
นั้น ชาวบ้านในละแวกนี้จึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะทวดนางไม้ หรือทวดแม่
ม่วงทองเป็นคนกำหนดให้มีอันเป็นไปอย่างที่เห็น
๑.๒ ความเชื่อเกี่ยวกับทวดนางไม้ หรือทวดแม่ม่วงทอง
๑.๒.๑ ด้านโชคลาภ ชาวบ้านภายในหมู่บ้านบางสวนก็
่
นับถือและมีความเชื่อที่นอกจากเหนือจากเรื่องของการประกอบพิธีกรรม
แต่งงานกับนางไม้ คือการขอพรด้านโชคลาภ ชาวบ้านที่ไม่ได้มีคนใน
ครอบครัวเป็นเชื้อสายสกุลที่จะต้องประกอบพิธีแต่งงานกับนางไม้หรือ
ทวดแม่ม่วงทองก็นิยมไปขอหวยหรือขอให้ตัวเองนั้นได้ลาภก้อนโตหรือ
ได้เลื่อนขั้นงาน ปรากฏว่าก็ได้กันดังที่ขอไว้หลังจากนั้นก็มาแก้บนกัน
ตามที่ได้เคยบนบานทวดแม่ม่วงทอง ซึ่งของที่ใช้การแก้บนนั้นก็ขึ้นอยู่กับ
ว่าผู้ที่มาบนบานได้กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ต้น บ้างเป็นหัวหมู บ้างเป็นขนม
หวาน บ้างเป็นไข่ต้มตามแต่กำลังศรัทธา
๑.๒.๒ ด้านโรคภัยไข้เจ็บ สรุปได้ว่า เวลาเจ็บไข้ไม่
ั
สบายก็จะมาสกการแม่ทวดให้ช่วยดลบันดาลให้หายจากอาการเจบป่วย
็
นั้น ๆ การแก้บนก็แล้วแต่ว่าเคยบนบานอะไรไว้ตั้งแต่ตอนต้น
์
ั
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๔๙
บรรณานุกรม
ฉลาดชาย รมิตานนท์. (๒๕๒๗). ผีเจ้านาย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์
พายัพออฟเซทพริ้นท์.
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์. (๒๕๕๓) . ทวดหัวเขาแดง.[ระบบออนไลน์]. สืบค้น
เมื่อ 20 พฤษภาคม ๒๕64. จาก http://narongthai.com/
Kaohuadang.html.
ทิพวัลย์ พิยะกูล. (๒๕๒๙). ‘’ทวดขัน,’’ ใน สารานุกรมวัฒนธรรม
ภาคใต้ พ.ศ.๒๕๒๙ เล่ม ๔. หน้า ๑๔๔๔. สถาบัน
ทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ทิพวัลย์ พิยะกูล. (๒๕๒๙). ‘’ทวดโหม,’’ ใน สารานุกรมวัฒนธรรม
ภาคใต้ พ.ศ.๒๕๒๙ เล่ม ๔. หน้า ๑๔๔๔ – ๑๔๔๕.
สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ธวัช ปุณโณทก. (๒๕๒๘)‘’ความเชื่อพื้นบ้านอันสัมพันธ์กับวิถีชีวิตใน
สังคมอีสาน,’’ ใน วัฒนธรรมบ้าน : คติความเชื่อ. เพ็ญศรี
ดุ๊ก และคนอื่น ๆ บรรณาธิการ. พิมพ์ครั้งที่ ๔. หน้า
๓๕๐ - ๓๙๒. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ภิญโญ จิตต์ธรรม. (๒๕๒๒). ความเชื่อ. สงขลา : โรงพิมพ์มงคลการ
พิมพ์.
เวียน ชนะกุล. (๒๕๒๙). เขาล้อม. สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้.
เล่ม ๑. ม.ป.ท.
สานิตย์ พรทัศน์. (๒๕๒๙). ‘’ตำนานถ้ำน้ำผุด,’’ ใน สารานุกรม
วัฒนธรรมภาคใต้ พ.ศ.๒๕๒๙ เล่ม ๓ หน้า ๑๒๒๗.
สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ั
์
ท ว ด เ ท ว ด า อ า ร ก ษ ป ร ะ จ ำ ถิ่ น | ๕๐
่
สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์. (๒๕๒๙). ‘’ความเชื่อเนื่องแตลัทธิศาสนาของชาว
้
ใต,’’ ใน สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้พ.ศ.๒๕๒๙ เล่ม ๔.
หน้า ๔๖๗ – ๔๖๘. สถาบันทักษิณคดศึกษา มหาวิทยาลัย-
ี
ศรีนครินทรวิโรฒ.
สุภาคย์ อินทองคง. ‘’ทวดภควัม ทวดคำแก้ว และขุนโหร,’’ ใน
้
สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต พ.ศ.๒๕๒๙ เล่ม ๔. หน้า
๔๔๖ – ๑๔๔๗. สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยศรี
นครินทรวิโรฒ, ๒๕๒๙.
อมรา พงศาพิชญ์. (๒๕๑๔). วัฒนธรรม ศาสนา และชาติพันธุ์ :
วิเคราะห์สังคมไทยแนวมานุษยวิทยา. กรุงเทพฯ :
คลังวิทยา.