The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โรงฟักไข่ปักธงชัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by waraphorn.r, 2024-06-30 11:19:15

โรงฟักไข่ปักธงชัย

โรงฟักไข่ปักธงชัย

รายงานการฝึกงานทางสัตวศาสตร์ 3 ธุรกิจสัตว์ปีกไก่พ่อแม่พันธุ์ โรงฟักไข่ปักธงชัย จัดท าโดย นางสาววราภรณ์ เรียบร้อย 643030272-9 เสนอ ผศ.ดร.ยุพิน ผาสุข รศ.ดร.สจี กัณหาเรียง รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา AG173798 การฝึกงานทางสัตวศาสตร์ 3 ภาคการเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 สาขาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น


ก ค าน า รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา AG173798 การฝึกงานทางสัตวศาสตร์ 3 มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ศึกษาได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องการจัดการโรงฟักไข่ และธุรกิจไก่พ่อแม่พันธุ์ ผู้จัดท าหวังว่ารายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักศึกษาที่ก าลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หากมี ข้อแนะน าหรือผิดพลาดประการใด ผู้จัดท าขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ผู้จัดท า


ข สารบัญ เรื่อง หน้า ค าน า ก ข้อมูลโรงฟัก 1 ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ 2 - การปูองกันโรคก่อนเข้าโรงฟัก 2 - ขั้นตอนการฆ่าเชื้อยานพาหนะก่อนเข้าโรงฟัก 2 - การปูองกันโรคภายในโรงฟัก 2 กระบวนการรับไข่ 3 การค านวณปริมาณการใช้น้ ายาฆ่าเชื้อไข่ฟัก 3 การควบคุมสภาพแวดล้อมในห้องเย็นให้เหมาะสมต่อการจัดเก็บ 4 อุณหภูมิและความชื้นที่ใช้เก็บไข่ในห้องเย็นเก็บไข่ 4 การเซทไข่ฟัก 4 การคัดคุณภาพไข่ฟัก 5 ประเภทของตู้ฟัก 6 - Multi Stage System 6 - Single Stage System 6 - เปรียบเทียบตู้ฟักทั้ง 2 ระบบ 7 การจัดการอุ่นไข่ฟัก 7 องค์ประกอบภายในตู้ฟัก 11 กระบวนการย้ายไข่ 11 ประเภทไข่คัดออกในห้องย้าย 12 องค์ประกอบภายในตู้เกิด 13 การสอบเทียบอุณหภูมิในตู้เกิด 13 การวัดอุณหภูมิผิวฟองไข่ 14 การตรวจเช็ค Hatch Window 14 การคัดคุณภาพลูกไก่ 15


ค สารบัญ เรื่อง หน้า การคัดแยกเพศลูกไก่ 16 การให้วัคซีน 16 การผสมวัคซีน 17 การจัดเก็บลูกไก่ 17 ขั้นตอนการส่งมอบลูกไก่ 18 เอกสารที่ใช้ในการส่งมอบลูกไก่ 18 สิ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติม 18 ปัญหาและอุปสรรค 19 เอกสารอ้างอิง 20


ง สารบัญตาราง เรื่อง หน้า ตารางที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของไข่ฟักและน้ าหนักของลูกไก่ 5 ตารางที่ 2 คุณภาพไข่กับเปอร์เซ็นต์การฟัก 5 ตารางที่ 3 เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างตู้ฟักแบบ Multi Stage System 7 และ Single Stage System ตารางที่ 4 Profile ตู้ฟัก Single Stage System ของ Jamesway 8 ตารางที่ 5 Profile ตู้ฟัก Single Stage System ของ Chick Master 9 ตารางที่ 6 Profile ตู้ฟัก Single Stage System ของ Hatchtech 10 ตารางที่ 7 องค์ประกอบภายในตู้ฟัก 11 ตารางที่ 8 องค์ประกอบภายในตู้เกิด 13


1 ข้อมูลโรงฟัก โรงฟักไข่ปักธงชัย ตั้งอยู่เลขที่ 444 หมู่ 1 ต าบลบ่อปลาทอง อ าเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา รหัสไปรษณีย์ 30150 ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2543 มีพื้นที่ทั้งหมด 32 ไร่ ภาพที่ 1 โรงฟักไข่ปักธงชัย อาคารผลิตแบ่งออกเป็นอาคารย่อย 2 อาคาร โดยอาคารที่ 1 จะมีห้องเย็นจัดเก็บไข่ฟักห้องที่ 1 และ 2 มีตู้ฟักประเภท Multi Stage System จ านวน 12 ตู้ฟัก ตู้ฟักประเภท Single Stage System (Hatchtech) จ านวน 8 ตู้ฟัก ส่วนอาคารที่ 2 จะมีห้องเย็นจัดเก็บไข่ฟักห้องที่ 3 และ 4 มีตู้ฟักประเภท Single Stage System (Jamesway) จ านวน 16 ตู้ฟัก และตู้ฟักประเภท Single Stage System (Chick Master) จ านวน 8 ตู้ฟัก ก าลังการผลิตลูกไก่อยู่ที่ 2 ล้านตัว/สัปดาห์ ภาพที่ 2 แผนผังอาคารผลิต


2 ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) เป็นระบบการปูองกันหรือลดโอกาสในการน าเชื้อโรคเข้าและออกจากโรงฟัก เป็นวิธีการควบคุมโรคที่ ดีที่สุด และระบบ Biosecurity จ าเป็นต้องมีการแยกส่วนระหว่างบริเวณที่ไม่ปลอดเชื้อและบริเวณที่ปลอดเชื้อ โรคออกจากกันอย่างชัดเจน เนื่องจากการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อโรคที่เข้ามาในโรงฟักซึ่งมาได้ทั้งทางบก ทางน้ าและทางอากาศ หรืออาจปนเปื้อนเข้ามากับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ยานพาหนะ คน ฝุุนละออง หรือแม้แต่ สัตว์พาหะที่เข้ามาสู่โรงฟัก ดังนั้นจะต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวดและถูกต้องตามระบบ Biosecurity ดังนี้ 1. การป้องกันโรคก่อนเข้าโรงฟัก 1.1 น าสิ่งของเข้าตู้ UV 5 นาที 1.2 สเปรย์แอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อโรค 1.3 วัดอุณหภูมิร่างกาย (ไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส) 1.4 บันทึกการเข้า – ออก 1.5 ผ่านสเปรย์ฆ่าเชื้อบุคคล น้ ายาที่ใช้ฆ่าเชื้อ คือ เดทตอล อัตราส่วน 1:80 1.6 เปลี่ยนรองเท้าภายนอกเป็นรองเท้าภายใน 1.7 ล้างมือและสเปรย์แอลกอฮอล์ 2. ขั้นตอนการฆ่าเชื้อยานพาหนะก่อนเข้าโรงฟัก 2.1 เปลี่ยนแผ่นยางรองพื้น 2.2 สเปรย์แอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่พวงมาลัย เบาะรถ และพื้นวางเท้า 2.3 ผ่านบ่อจุ่มล้อ ใช้น้ ายาฆ่าเชื้อ GLUTEX อัตราส่วน 1:80 2.4 พ่นโฟมเพื่อฆ่าเชื้อภายนอก ใช้น้ ายาฆ่าเชื้อ Virocid อัตราส่วน 1:60 2.5 ฉายแสง UV 5 นาที 2.6 ผ่านโรงสเปรย์ 5 นาที 2.7 ท าความสะอาดและพ่นน้ ายาฆ่าเชื้อ ใช้น้ ายาฆ่าเชื้อ GLUTEX อัตราส่วน 1:80 3. การป้องกันโรคภายในโรงฟัก 3.1 น าสิ่งของเข้าตู้ UV 5 นาที 3.2 เปลี่ยนรองเท้า 3.3 เข้าสู่ขั้นตอนการผ่านสเปรย์และฆ่าเชื้อโรค โดยจะต้องท าการเปลี่ยนชุดภายนอก ผ่าน ห้องสเปรย์ฆ่าเชื้อ อาบน้ าสระผม และเปลี่ยนชุดเป็นยูนิฟอร์มของโรงฟัก ซึ่งชุดยูนิฟอร์มของโรงฟัก ซึ่งจะ แบ่งเป็น 2 สี ชุดสีน้ าเงินจะท างานอยู่ในโซน Low risk ชุดสีฟูาจะท างานอยู่ในโซน High risk 3.4 สวมแมส สวมหมวกทางการแพทย์ สวมถุงเท้าและสวมรองเท้าบู๊ท 3.5 การจะผ่านเข้าออกห้องหรือโซนแต่ละโซนในอาคารผลิตจะต้องท าการจุ่มรองเท้าบู๊ทใน อ่างจุ่มรองเท้าหน้าห้องทุกครั้ง


3 กระบวนการรับไข่ฟัก 1. หลังจากที่รถขนส่งไข่ฟักผ่านระบบ Biosecurity แล้ว รถขนส่งไข่จะน าไข่มาเทียบที่ชานรับไข่ 2. พนักงานรับไข่ฟักจะท าการรับไข่ฟักและเช็คจ านวนไข่ 3. ตรวจสอบเอกสาร ซึ่งจะประกอบด้วย 3.1 รายงานการขนส่งและการรับไข่ฟัก 3.2 ใบอนุญาตให้น าหรือเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ เข้า ออก ผ่านหรือภายในเขตโรค ระบาดชั่วคราว เขตโรคระบาด หรือเขตเฝูาระวังโรคระบาด 3.3 ใบอนุญาตท าการค้าหรือหาก าไรในลักษณะคนกลางซึ่งสัตว์ 3.4 หนังสือรับรองของแต่ละฟาร์ม 3.5 รายงานผลการวิเคราะห์ ทดสอบ และชันสูตรโรคสัตว์ 4. จัดเรียงไข่ฟักในห้องฆ่าเชื้อไข่ฟัก ให้มีระยะห่างจากผนังไม่น้อยกว่า 15 เซนติเมตร 5. ท าการสเปรย์ฆ่าเชื้อ 20 นาที (ฆ่าเชื้อ 15 นาทีและระบายอากาศออก 5 นาที) แรงดันลมที่ใช้ใน การสเปรย์ 80 psi การค านวณปริมาณการใช้น้ ายาฆ่าเชื้อไข่ฟัก การใช้น้ ายาฆ่าเชื้อต่อพื้นที่ห้องจากประกาศสัตวแพทย์ในการใช้น้ ายา CID2000 ในการฆ่าเชื้อ อัตราส่วนต่อ 1 ลบ.ม. = CID 2000 3 cc : น้ า 9 cc พื้นที่ห้องสเปรย์ฆ่าเชื้อไข่ฟัก กว้าง 4.5 เมตร ยาว 5.0 เมตร สูง 3.5 เมตร ซึ่งคิดเป็น 80 ลบ.ม. จากอัตราส่วน 3:9 ดังนั้นจะใช้ CID2000 240 cc : น้ า 720 cc ภาพที่ 3 ขนาดห้องฆ่าเชื้อไข่ฟัก


4 การควบคุมสภาพแวดล้อมในห้องเย็นให้เหมาะสมต่อการจัดเก็บ 1. การควบคุมอุณหภูมิ เพื่อชะลอการเจริญเติบโตของเอ็มบริโอและรักษาคุณลักษณะในฟองไข่ให้ เปลี่ยนแปลงช้าลง ท าให้ประสิทธิภาพการฟักไม่ลดลงมากจนเกินไป 2. การควบคุมความชื้น เพื่อรักษาการสูญเสียน้ าออกจากฟองไข่ 3. การหมุนเวียนอากาศภายในห้องเย็นเก็บไข่ เพื่อให้อุณหภูมิและความชื้นทุกจุดในห้องมีความ ใกล้เคียงกัน อุณหภูมิและความชื้นที่ใช้เก็บไข่ในห้องเย็นเก็บไข่ อุณหภูมิ ความชื้น 1 – 4 วัน 18 – 20 °C 1 – 7 วัน 75 – 80 %RH 5 – 9 วัน 16 – 18 °C 7 – 14 วัน 80 – 85 %RH 10 – 14 วัน 14 – 15 °C มากกว่า 14 วัน 85 – 90 %RH มากกว่า 14 วัน 12 – 14 °C การเซทไข่ฟัก 1. Multi Stage System จะท าการเซทไข่ในเซทที่ 8 ถึง 15 และย้อนกลับไปเซทที่เซท 1 ถึง 7 มี การสุ่มชั่งไข่ในเซทที่ 8 คอลัมน์ที่ 2 2. Single Stage System ของ Jamesway และ Chick Master จะท าการเซทไข่ในเซทที่ 1 ถึง 15 สุ่มชั่งในเซทที่ 8 คอลัมน์ที่ 2 ส่วนของ Hatchtech จะท าการเซทไข่ในเซทที่ 1 ถึง 16 สุ่มชั่งในเซทที่ 8 จ านวน 1 ถาด ภาพที่ 4 ลักษณะการเซทไข่ขึ้นรถแร็คในแต่ละประเภทตู้ฟัก


5 การคัดคุณภาพไข่ฟัก เหตุผลที่ต้องท าการคัดคุณภาพไข่ฟัก เพราะคุณภาพของไข่ฟักส่งผลโดยตรงต่อเปอร์เซ็นต์การฟัก และคุณภาพของลูกไก่ โดยในการพิจารราคุณภาพไข่ฟักมีหลักการ ดังนี้ 1. ขนาดและน้ าหนักไข่ฟัก น้ าหนักไข่ฟักที่เหมาะสมจะต้องมีน้ าหนัก 48 กรัมขึ้นไป เพื่อให้ได้ น้ าหนักลูกไก่ที่ฟักออก 32 กรัมขึ้นไป ตามมาตรฐานของไก่กระทง ตารางที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของไข่ฟักและน้ าหนักลูกไก่ ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของไข่ฟักและน้ าหนักลูกไก่ น้ าหนักไข่ฟัก (กรัม) 50.0 52.0 54.0 56.0 58.0 60.0 62.0 64.0 66.0 68.0 70.0 น้ าหนักลูกไก่ (กรัม) 32.5 33.8 35.1 36.4 37.7 39.0 40.3 41.6 42.9 44.2 45.5 ที่มา : คู่มือปฏิบัติงาน การจัดการโรงฟักไข่พ่อ - แม่พันธุ์เนื้อ : 2018 2. รูปทรง ไข่ฟักต้องมีรูปทรงปกติ ถ้ามีบิดเบี้ยว ทรงกลม ยาวรี ต้องคัดออก 3. สีของเปลือกไข่ เปลือกไข่สีน้ าตาลมีความสัมพันธ์ต่อการฟักออกที่ดีกว่าเปลือกไข่ที่มีสีเปลือกจาง 4. คุณภาพของเปลือกไข่ มีผลต่อการฟักออก โดยเปลือกหนาปกติจะฟักออกดีกว่าไข่เปลือกบาง เพราะไข่เปลือกบางมีโอกาสในการสูญเสียความชื้นในระหว่างการฟักสูง ความหนาของเปลือกไข่ที่เหมาะสม คือ 0.33 – 0.35 mm 5. ไข่ไม่สกปรก เนื่องจากไข่สกปรกอาจเกิดการแทรกซึมของจุลินทรีย์เข้าไปแล้วส่งผลท าให้เกิด ไข่เน่า 6. ไข่ไม่มีการบุบรูหรือบุบร้าว เนื่องจากมีโอกาสท าให้เชื้อเข้าท าลายเอ็มบริโอได้ง่าย และสูญเสีย ความชื้นเร็วกว่าปกติ ตารางที่ 2 คุณภาพไข่กับเปอร์เซ็นต์การฟัก ชนิดของไข่ % Fertility % Hatch % Dead in shell ผิดรูปเล็กน้อย 87 65 22 ทรงกลมเล็กน้อย 88 63 25 ไข่เล็กกว่ามาตรฐาน 83 62 21 ไข่เปลือกขาวมาก 89 49 40 ไข่ทรงกลมมาก 90 48 42


6 ไข่ที่ผิดขรุขระมาก 83 19 64 ไข่ที่มีรอยย่นมาก 78 13 65 ไข่ทรงกลม , หัวจุก 87 8 79 ที่มา : คู่มือปฏิบัติงาน การจัดการโรงฟักไข่พ่อ - แม่พันธุ์เนื้อ : 2018 ประเภทของตู้ฟัก 1. Multi Stage System ตู้ฟักระบบ MS คือ การฟักไข่หลายอายุภายในตู้เดียวกัน กล่าวคือตั้งแต่ 1 – 18 วัน ภายในตู้เดียวกัน มีการน าเอาความร้อนที่ผลิตจากฟองไข่ที่มีอายุการฟักมากไปเพิ่มให้กับไข่ที่มีอายุ ฟักน้อย มีการน าไข่เข้าฟักไม่พร้อมกันและออกไม่พร้อมกัน เรียกว่า FIFO (First In First Out) ภาพที่ 5 ตัวอย่างตู้ฟัก Multi Stage Sysytem 2. Single Stage System ระบบตู้ฟัก SS คือ ตู้ฟักมีการน าไข่เข้าฟักพร้อมกันและย้ายไข่ออกพร้อม กัน เรียกว่า All In All Out อายุเดียวกันภายในตู้ฟักเดียวกัน ซึ่งระบบการฟักของตู้ SS จะมีการจัดการที่ง่าย ต่อการใช้งาน สามารถจัดการอุณหภูมิความชื้น การหมุนเวียนอากาศให้เหมาะสมต่อความต้องการของ เอ็มบริโอมากที่สุด ภาพที่ 6 ตัวอย่างตู้ฟัก Single Stage System


7 3. เปรียบเทียบตู้ฟักทั้ง 2 ระบบ ตารางที่ 3 เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างตู้ฟัก Multi Stage System และ Single Stage System Description Multi Stage System Single Stage System 1. การจัดฝูงไก่ - จ าเป็นต้องเข้าไข่ให้ต่อเนื่องจาก จ านวนเดิม - สามารถฟักได้ตามจ านวนที่ ต้องการ 2. ความยืดหยุ่นในการฟัก - ต้องพิจารณาค่าต่างๆ จากไข่ ทั้งหมดที่อยู่ในตู้ฟัก - ไม่สามารถตั้งโปรแกรมการฟัก ล่วงหน้าได้ - รบกวนอุณหภูมิ ความชื้นของตู้ ฟักในวันเข้าไข่และย้ายไข่ฟัก - สามารถตั้งค่าการฟัก ตามอายุ และสายพันธุ์ - สามารถตั้งโปรแกรมการฟักได้ - ไม่มีการรบกวนตู้ระหว่างการฟัก 3. การน าไข่เข้าฟัก - น าไข่เข้าหน้าตู้ฟัก - ย้ายไข่ออกทางหลังตู้ฟัก - น าไข่เข้าหน้าตู้ฟัก - ย้ายไข่ออกทางหลังตู้ฟัก 4. ลักษณะการฟักไข่ - First In First Out - All In All Out 5. การสุขาภิบาล - ท าความสะอาดค่อนข้างยุ่งยาก - เน้นการปูองกันโดยการคัด คุณภาพไข่เข้าฟัก และฆ่าเชื้อในตู้ - ท าความสะอาดได้ง่าย - ระบบปูองกันโรคดี สามารถตัด วงจรได้ ที่มา : คู่มือปฏิบัติงาน การจัดการโรงฟักไข่พ่อ - แม่พันธุ์เนื้อ : 2018 การจัดการอุ่นไข่ฟัก การอุ่นไข่ฟักเป็นการน าไข่ฟักออกมาจากห้องเย็นมายังห้องอุ่นไข่ฟัก การอุ่นไข่ฟักมีวัตถุประสงค์เพื่อ เตรียมความพร้อมให้กับเอ็มบริโอ ก่อนจะน าเข้าสู่ตู้ฟักที่อุณหภูมิที่สูงแตกต่างจากอุณหภูมิห้องเย็น ดังนั้นการ อุ่นไข่จะท าให้เอ็มบริโอเริ่มการเจริญเติบโตในเวลาที่ใกล้เคียงกันมากกว่าการน าไข่เข้าฟักโดยไม่มีการอุ่นไข่ฟัก และนอกจากนี้การอุ่นไข่ฟักยังมีวัตถุประสงค์เพื่อ ปูองกันการตายของเอ็มบริโอช่วงแรกของการฟัก (Early mortality) การอุ่นไข่ฟักโดยทั่วไปใช้เวลา 12 – 14 ชั่วโมง การอุ่นไข่ต้องมีการจัดโปรไฟล์อุณหภูมิและสภาพห้องที่สามารถปูองกันการเกิดหยดน้ าบนผิวฟองไข่ เพื่อปูองกันการแทรกซึมของจุลินทรีย์เข้าสู่ภายในไข่ฟัก ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มจ านวนการตายของเอ็มบริโอ และไข่เน่าเสียหายระหว่างการฟักด้วย ถ้าการอุ่นไข่ฟักแบบเดิมที่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต เอ็มบริโอที่ อ่อนแอจะไม่สามรถพัฒนาต่อได้ และเกิดการตายในระยะแรก นอกจากอุณหภูมิไม่เหมาะสมแล้วยังมีอีก สาเหตุ คือ การติดเชื้อจุลินทรีย์ และสาเหตุหลักที่น าพาเชื้อจุลินทรีย์แทรกซึมเข้าฟองไข่ คือ การเกิดหยดน้ า


8 บนผิวฟองไข่ ดังนั้น การอุ่นไข่ที่สามารถควบคุมได้ จะสามารถปูองกันการตายของเอ็มบริโอในระยะแรกได้ทั้ง สองทาง การอุ่นไข่ฟักเป็นกระบวนที่มีความส าคัญและเป็นหลักปฏิบัติสากลในการฟักไข่ของตู้ฟักทั้ง 2 ระบบ ส่งผลต่อความสม่ าเสมอในการฟักออกและสามารถเลือกใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของ เอ็มบริโอ ท าให้ได้ทั้งประสิทธิภาพและคุณภาพลุกไก่พร้อมๆ กัน 1. การอุ่นไข่ฟักของตู้ฟักแบบ Multi Stage System (Jamesway) จะท าการอุ่นไข่ในห้อง Chamber ซึ่งจะท าการอุ่นไข่ทั้งหมด 12 – 14 ชั่วโมง จากนั้นจะน าไข่เข้าตู้ฟัก โดยอุณหภูมิ Out put ของตู้ ฟักจะตั้งไว้ที่ 100.0 °F 2. การอุ่นไข่ฟักของตู้ฟักแบบ Single Stage System (Jamessway & Chick Master) จะท าการอุ่น ไข่ในตู้ฟัก 12 – 14 ชั่วโมง โดยมีการจัดตั้งตามโปรไฟล์การฟัก อุณหภูมิเริ่มต้นในการอุ่นไข่ฟักของ Jamesway จะอยู่ที่ 75.0 °F และอุณหภูมิเริ่มต้นในการอุ่นไข่ฟักของ Chick Master จะอยู่ที่ 90.0 °F เมื่อถึง ชั่วโมงการฟักอุณหภูมิ set point จะอยู่ที่ 100.3 °F ตารางที่ 4 Profile ตู้ฟัก Single Stage System ของ Jamesway PROFILE Jamesway Day Step TEMP SP HUMIDITY SP DAMPER 0 1 100.3 75 0 1 2 100.3 80 0 2 3 100.2 80 0 3 4 100.1 80 0 4 5 100.0 80 10 5 6 99.9 75 20 6 7 99.8 70 30 7 8 99.7 65 50 8 9 99.6 60 60 9 10 99.4 55 80 10 11 99.1 45 80 11 12 98.8 40 90 12 13 98.5 40 90 13 14 98.2 40 100 14 15 97.9 40 100 15 16 97.6 40 100 16 17 97.3 40 100


9 ตารางที่ 5 Profile ตู้ฟัก Single Stage System ของ Chick Master PROFILE Chick Master PROFILE TEMP SP HUMIDITY SP DAMPER 1 75.0 50 0 2 90.0 50 10 3 100.3 75 0 4 100.3 80 0 5 100.2 80 0 6 100.1 80 0 7 100 80 0 8 99.9 75 30 9 99.8 70 40 10 99.7 65 50 11 99.6 60 60 12 99.4 55 70 13 99.1 50 80 14 98.8 45 90 15 98.5 40 100 16 98.2 40 100 17 97.9 40 100 18 97.6 40 100 19 97.3 40 100 20 97.0 40 100 17 18 97.0 40 100 18 19 97.0 40 100 19 20 97.0 40 100


10 3. การอุ่นไข่ฟักของตู้ฟักแบบ Single Stage (Hatchtech) จะท าการอุ่นไข่ในตู้ฟัก 10 ชั่วโมง โดยมี การจัดตั้งตามโปรไฟล์การฟัก อุณหภูมิเริ่มต้นในการอุ่นไข่ฟักจะอยู่ที่ 75.0 °F เมื่อถึงชั่วโมงการฟักอุณหภูมิ set point จะอยู่ที่ 100.4 °F ตารางที่ 6 Profile ตู้ฟัก Single Stage System ของ Hatchtech PROFILE Hatchtech Day TEMP SP HUMIDITY SP 0 100.4 85.0 1 100.4 85.0 2 100.2 80.0 3 100.2 80.0 4 100.0 50.0 5 100.0 50.0 6 99.9 50.0 7 99.9 50.0 8 99.8 50.0 9 99.8 50.0 10 99.7 45.0 11 99.7 45.0 12 99.5 45.0 13 99.5 45.0 14 99.2 45.0 15 99.2 45.0 16 99.0 45.0 17 99.0 45.0 18 98.8 45.0 19 98.8 45.0


11 องค์ประกอบภายในตู้ฟัก ตารางที่ 7 องค์ประกอบภายในตู้ฟัก องค์ประกอบภายในตู้ฟัก MS (Jamesway) SS (Jamesway & Chick Master) SS (Hatchtech) สายลมกลับไข่ สายลมกลับไข่ มอเตอร์กลับไข่ Heater Heater แผงน้ าร้อนและน้ าเย็น Damper Damper Damper พัดลม พัดลม พัดลม คอยล์น้ าเย็น คอยล์น้ าเย็น Sensor วัดอุณหภูมิแต่ละ Section ปรอทแบ็คอัพ ปรอทแบ็คอัพ ปรอทแบ็คอัพ Sensor วัดอุณหภูมิภายในตู้ Sensor วัดอุณหภูมิภายในตู้ Sensor วัดอุณหภูมิภายในตู้ ถังน้ า Sensor วัดความชื้น Sensor วัดความชื้น ผ้าม่านหลังตู้และผ้าม่านด้านข้าง สายสัญญาณกลับไข่ สายสัญญาณกลับไข่ ที่ครอบล้อ Profile ตู้ฟัก Profile ตู้ฟัก Sensor วัดอุณหภูมิที่ผ่านฟองไข่ ผ้าม่านหลังตู้ สเปรย์ท าความชื้น Ultrasonic ถาดรองน้ า Sensor Carbon ผ้าวิกและกล่องใส่ผ้าวิก Out Put Controller กระบวนการย้ายไข่ การย้ายไข่ฟัก ปัจจุบันมีการย้าย 18 – 19 วัน ตามการจัดการตู้เกิด การย้ายวันที่ 19 ควรระมัดระวัง เป็นพิเศษ เนื่องจากจะมีเอ็มบริโอบางส่วนเริ่มใช้จงอยปากเจาะ internal piping หากได้รับการ กระทบกระเทือน จะท าให้เอ็มบริโอตายได้ การย้าย 19 วันความร้อนสะสมในตู้ฟักจะมากกว่าการย้ายไข่ฟักที่ 18 วัน ซึ่งจะท าให้เกิด Over heat ในตู้ฟักได้ การย้ายไข่ฟักที่ไม่ถูกต้องสามารถเพิ่มจ านวนไข่ตายโคมได้ โดยเฉพาะการท าให้เปลือกไข่ฟักร้าว เมื่อน าเข้าตู้เกิดน้ าจะระเหยออกจากฟองไข่อย่างรวดเร็วจนเยื่อหุ้ม เปลือกไข่ชั้นใน (Inner shell membrane) รัดเอ็มบริโอจนตาย การควบคุมอุณหภูมิในตู้เกิดระบบ Single Stage System จะสะดวกกว่าระบบ Multi Stage System เนื่องจากเราสามารถตั้งค่าโปรไฟล์ตั้งแต่เริ่มฟักในตู้เกิดจนออกลูกไก่ แต่ก็ต้องมีการติดตามดูว่าการ ออกลูกไก่สัมพันธ์กับค่าอุณหภูมิในโปรไฟล์หรือไม่ ส่วนการควบคุมอุณหภูมิในตู้เกิดระบบ Multi Stage


12 System ต้องมีการติดตามและปรับลดอุณหภูมิลง เพื่อให้อุณหภูมิไม่สูงเกินไปเมื่อมีลูกไก่ฟักออกจ านวนมาก แล้ว การควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมจะไม่ท าให้ลูกไก่หอบหรือสูญเสียน้ ามากเกินไป อุณหภูมิที่ตั้งหลังการน า ไข่เข้าตู้เกิด 97.0 – 98.0 °F และก่อนการออกลูกไก่จะปรับลดอุณหภูมิให้อยู่ที่ 93.0 – 95.0 °F ขึ้นกับรูปแบบ ตู้และการหมุนเวียนอากาศของตู้เกิดนั้นๆ ปัจจุบันมีการพัฒนาการตรวจเช็คอุณหภูมิในตู้เกิด โดยมีการน าเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิเข้าไปใกล้กับตัว ลูกไก่ให้มากที่สุด เพื่อให้ได้อุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิที่ลูกไก่อยู่มากที่สุด แล้วค่อยมาจัดการเรื่องการลด อุณหภูมิให้เหมาะสม ตู้เกิดระบบ Multi Stage System จะมีการเพิ่มระบบน้ าเย็นเข้าไปในตู้เกิด เพื่อเพิ่ม ความสามารถในการลดอุณหภูมิให้ได้ตามเปูาหมายที่ก าหนด เป็นการรักษาคุณภาพลูกไก่ที่ดีไว้จนกว่าจะมีการ น าลูกไก่ออกจากตู้เกิด และความชื้นเป็นปัจจัยที่ช่วยปูองกันการแห้งน้ า (Dehydrate) ของลูกไก่ ในตู้ฟัก Multi Stage System (Jamesway) จะมีการสลับต าแหน่งของเซทไข่ฟัก เนื่องจากความ แตกต่างของอุณหภูมิในตู้ฟัก ท าให้ไข่ในรถแร็คเซทบน กลาง และล่างได้รับความร้อนไม่เท่ากัน ท าให้ไข่ฟัก ออกไม่สม่ าเสมอ ดังนั้นเมื่อย้ายไข่เข้าตู้เกิดจึงต้องท าการสลับเซทเพื่อให้ลูกไก่ออกอย่างสม่ าเสมอกัน ในตู้ฟัก Single Stage System ไม่ต้องท าการสลับเซทไข่ฟัก เนื่องจากภายในตู้ฟักมีการ Flow ของ อากาศภายในตู้สม่ าเสมอ ท าให้ไข่ฟักได้รับความร้อนที่ใกล้เคียงกันทุกเซท ดังนั้นเมื่อย้ายเข้าตู้เกิดจึงไม่ จ าเป็นต้องสลับเซทของไข่ฟัก ภาพที่ 7 การตักไข่ออกจากรถแร็ค ภาพที่ 8 การคัดคุณภาพไข่ ภาพที่ 9 การน าไข่ใส่ถาดเกิด โรงฟักไข่ปักธงชัยจะมีการเซทอุณหภูมิภายในตู้เกิดไว้อยู่ที่ 97.5 °F ในวันที่ 19 ของการฟัก เวลา 06:00 น. ในวันที่ 20 จะลดลงมา 97.0 °F และหลังจากนี้ทุกๆ 6 ชั่วโมงจะท าการลดอุณหภูมิลงมาเรื่อยๆ ที ละ 0.5 °F ทั้งนี้ทั้งนั้นวันที่ 20 จะเป็นวันที่ต้องตรวจสอบความพร้อมของลูกไก่ก่อนออกด้วยว่าลูกไก่ออกกี่ เปอร์เซ็นต์และจะท าการปรับลดอุณหภูมิตามเปอร์เซ็นต์ลูกไก่ที่ออก ประเภทไข่คัดออกในห้องย้าย 1. ไข่ลม มีลักษณะโปร่งแสง สีชมพูระเรื่อ 2. ไข่เสียหาย 2.1 ไข่เสียหายจากอุปกรณ์ ที่อาจเกิดจากการเคลื่อนย้ายไข่ออกจากตู้ฟัก 2.2 ไข่เน่า เป็นไข่ที่เกิดการ Contaminate แล้วท าให้จุลินทรีย์แทรกซึมเข้าไป


13 ภาพที่ 10 ไข่ลม ภาพที่ 11 ไข่เสียหายจากอุปกรณ์ ภาพที่ 12 ไข่เน่า องค์ประกอบภายในตู้เกิด ตารางที่ 8 องค์ประกอบภายในตู้เกิด องค์ประกอบภายในตู้เกิด ตู้เกิด Jamesway ตู้เกิด Hatchtech ปรอทแบ็คอัพ ปรอทแบ็คอัพ Sensor วัดอุณหภูมิ Sensor วัดอุณหภูมิ Sensor วัดความชื้น Sensor วัดความชื้น พัดลม พัดลม Damper Damper คอยล์น้ าเย็น แผงน้ าร้อนและน้ าเย็น Heater Sensor วัดอุณหภูมิแต่ละ Section ไซโคลนดักขนไก่ Sensor Carbon การสอบเทียบอุณหภูมิในตู้เกิด หลังจากท าการย้ายไข่เข้าตู้เกิดเรียบร้อยแล้ว จะมีการสอบเทียบอุณหภูมิและความชื้นในตู้เกิดทุกครั้ง เพื่อวัดอุณหภูมิและความชื้นที่เกิดขึ้นจริงภายในตู้เทียบกับหน้าจอแสดงผลของตู้นั้นๆ ซึ่งจะใช้เครื่อง Electroterm ในการสอบเทียบ โดยใช้ Prob วัดอุณหภูมิและ Prob วัดความชื้น เสียบเข้ากับรูวัดภายในตู้เกิด จะท าการ Calibrate ก็ต่อเมื่อค่าที่แสดงภายในตู้เกิดกับหน้าจอต่างกันที่ 0.2


14 ภาพที่ 13 อุณหภูมิที่เกิดขึ้นจริง ภาพที่ 14 ความชื้นที่เกิดขึ้นจริง ภาพที่ 15 จอแสดงผลหน้าตู้ การวัดอุณหภูมิผิวฟองไข่ ปัจจุบันมีการวัดอุณหภูมิที่ผิวฟองไข่ (Egg shell temperature) เพื่อน ามาใช้ในการปรับตั้งค่า อุณหภูมิให้เหมาะสมกับการพัฒนาของเอ็มบริโอ โดยจะท าการวัดอุณหภูมิผิวฟองไข่ด้วยเครื่อง ThermoScan ก่อนย้ายไข่และหลังย้ายไข่แล้ว 4 ชั่วโมง เพื่อดูว่าอุณหภูมิหลังย้ายลดลง เพิ่มขึ้น หรือมีค่าเท่ากับอุณหภูมิก่อน ย้าย ถ้าอุณหภูมิหลังย้ายมีค่าเท่ากับหรือมากกว่าก่อนย้ายแสดงว่าความร้อนสะสมในฟองไข่สูง ดังนั้นจึงควร ปรับลดอุณหภูมิในตู้เกิด เพื่อให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของลูกไก่ การตรวจเช็ค Hatch Window เป็นการเช็คเปอร์เซ็นต์การฟักออกของลูกไก่ โดยจะท าการนับจ านวนของลูกไก่ที่ฟักออก จากลูกไก่ ทั้งหมด 100 ตัว ซึ่งเปอร์เซ็นต์การฟักออกที่เหมาะสม เป็นดังนี้ 1. 24 ชั่วโมงก่อนออกลูกไก่ การฟักออกจะอยู่ที่ 25 – 35% 2. 12 ชั่วโมงก่อนออกลูกไก่ การฟักออกจะอยู่ที่ 70 – 80% 3. ตรวจเช็คในวันที่ 21 ก่อนน าลูกไก่ออกจากตู้เกิด การฟักออกต้องอยู่ที่ 100% หากเปอร์เซ็นต์การฟักออกไม่เหมาะสมตามมาตรฐาน จะมีการปรับลดอุณหภูมิเพื่อให้ลูกไก่ฟักออกได้ อย่างสม่ าเสมอ และเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน รวมถึงจะต้องมีการเช็คอาการลูกไก่ที่ฟักออกแล้วว่ามีลักษณะ เป็นอย่างไร เช่น ถ้าลูกไก่มีลักษณะหมอบ อ้าปาก แสดงว่าอุณหภูมิภายในตู้อาจสูงเกินไป หรือถ้าลูกไก่อยู่ รวมตัวกันเป็นกระจุก แสดงว่าอุณหภูมิภายในตู้อาจต่ าเกินไป จึงต้องมีการปรับลดอุณหภูมิให้เหมาะสม เพื่อ ปูองกันการเกิดความเครียดของลูกไก่ แล้วท าให้ลูกไก่เหยียบทับกันจนตาย การตรวจเช็ค Hatch Window ยังเป็นสิ่งที่ช่วยในการจัดล าดับการออกลูกไก่อีกด้วย ซึ่งถ้ามีการ จัดล าดับการออกลูกไก่ที่ไม่เหมาะสม จะท าให้ได้คุณภาพลูกไก่ไม่ดี เช่น ถ้าหากน าลูกไก่ออกช้าจนเกินไปลูกไก่


15 อาจเกิดอาการแห้งน้ า หรือถ้าน าลูกไก่ออกจากตู้เร็วจนเกินไป อาจจะท าให้ได้ลูกไก่ที่ไม่แข็งแรง ขนยังไม่แห้ง หรือสะดือยังปิดไม่สนิท ภาพที่ 16 24 ชั่วโมงก่อนออก ภาพที่ 17 12 ชั่วโมงก่อนออก ภาพที่ 18 ก่อนออกลูกไก่ การคัดคุณภาพลูกไก่ ลักษณะลูกไก่ที่ได้คุณภาพจะมีลักษณะแห้งขนฟู สะดือปิดสนิท แข้งสีส้มอมชมพูไม่แห้ง จงอยปากสี ส้มอมชมพู นัยน์ตากลมสดใส ลูกไก่ตื่นตัวตลอดเวลา ลักษณะลูกไก่คัดทิ้ง จะสังเกตได้จากลักษณะทางกายภาพ เช่น ไก่หลายขา ปากเบี้ยว ตาบอด ข้อบวม สะดือปิดไม่สนิท เป็นต้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ต้องมีการคัดคุณภาพลูกไก่ เนื่องจากลูกไก่ที่มีลักษณะดังกล่าว มักพบ ปัญหาการตาย 2 – 3 สัปดาห์แรกในฟาร์ม มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อไวรัส แบคทีเรียแทรกซ้อนสูง ดังนั้นจึงมีความ จ าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการคัดคุณภาพลูกไก่และท าลายทิ้งโดยให้ทรมานน้อยที่สุดตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ลูกไก่หลายขา ลูกไก่สะดือด า ลูกไก่ปากบิด


16 ลูกไก่คอบิด ลูกไก่ท้องบวม ลูกไก่ตาบอด ลูกไก่นิ้วงอ ลูกไก่สะดือปิดไม่สนิท ลูกไก่ขาถ่าง ภาพที่19ลักษณะลูกไก่คัดทิ้ง การคัดแยกเพศลูกไก่ การคัดแยกเพศลูกไก่จากขนปีก (feather sexing) ลักษณะขนปีกของลูกไก่เพศเมียจะมี 1 ลักษณะ คือ ขนปีกด้านบน (Coverts) จะสั้นกว่าขนปีกด้านล่าง (Primaries) ส่วนลักษณะขนปีกของลูกไก่เพศผู้จะมี 2 ลักษณะ คือ ขนปีกด้านบน (Coverts) จะยาวกว่าขนปีกด้านล่าง (Primaries) และขนปีกด้านบน (Coverts) จะยาวเท่ากันกับขนปีกด้านล่าง (Primaries) ภาพที่ 20ลูกไก่เพศเมีย ภาพที่ 21ลูกไก่เพศผู้ การให้วัคซีน 1. วัคซีนฉีดใต้ผิดหนัง 1.1 Broilermune (เชื้อตาย) ปูองกันโรค Newcastle (Newcastle Disease Kills : NDK) ปริมาตรวัคซีนที่ใช้ 0.1 ml/ตัว 1.2 Gumbohatch (เชื้อเป็น) ปูองกันโรค Gumboro (Infactious Bursal Disease : IBD) ปริมาตรวัคซีนที่ใช้ 0.1 ml/ตัว


17 2. วัคซีนสเปรย์เมื่อลูกไก่ผ่านตัว Sensor เครื่องสเปรย์จะสั่งการพ่นสเปรย์ไปยังกล่องลูกไก่ ซึ่งจะ ฉีดพ่นสเปรย์อยู่ที่ 7 ml/กล่อง หรือ 0.07ml/ตัว 2.1 Avinew NeO (เชื้อเป็น) ปูองกันโรค Newcastle (Newcastle Disease : ND) 2.2 Bioral H120 (เชื้อเป็น) ปูองกันโรคหลอดลมอักเสบ (Infactious Bronchitis : IB) 2.3 Poulvac IB QX (เชื้อเป็น) ปูองกันโรคหลอดลมอักเสบสายพันธุ์ Q - like (Infactious Bronchitis : IB QX) การผสมวัคซีน 1. วัคซีนฉีดใต้ผิวหนัง จะใช้ Normal Saline Solution 1 ถุง 500 ml ผสมกับ IBD (Gumbohatch) 1 ขวด 5,000 dose ใช้ฉีดลูกไก่ได้ทั้งหมด 5,000 ตัว 2. วัคซีนสเปรย์ จะใช้ Sterile water (blue diluent) 7 ขวด ขวดละ 60 ml ใช้ ND (Avinew NeO) 5 เม็ด เม็ดละ 2,000 dose ใช้ IB (Bioral H120) 2 ขวด ขวดละ 5,000 dose ใช้ IB QX (Poulvac IB QX) 1 ขวด ขวดละ 10,000 dose และใช้ Sterile water 280 ml จะได้สารละลายทั้งหมด 700 ml ใช้ สเปรย์ลูกไก่ได้ทั้งหมด 100 กล่อง ภาพที่ 22การผสมวัคซีนฉีดใต้ผิวหนัง ภาพที่ 23การผสมวัคซีนสเปรย์ การจัดเก็บลูกไก่ การจัดเก็บลูกไก่จะต้องน าลูกไก่ใส่กล่องที่แห้งและสะอาด จากนั้นล าเลียงลูกไก่ไปจัดเก็บในห้อง จัดเก็บลูกไก่ โดยอุณหภูมิในห้องจัดเก็บลูกไก่จะอยู่ที่ 25 – 30 °C ความชื้นอยู่ที่ 50 – 60 %RH เปิดไฟบลูไลท์ (ความเข้มแสง ≤ 5 lux) และท าการสุ่มวัดอุณหภูมิลูกไก่ ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสม คือ 39.5 – 40.5 °C


18 ภาพที่ 24วัดอุณหภูมิลูกไก่ ภาพที่ 25จัดเก็บลูกไก่ในห้องจัดเก็บลูกไก่ ขั้นตอนการส่งมอบลูกไก่ 1. ให้พนักงานขับรถสเปรย์แอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อโรค 2. ตรวจเช็คอุณหภูมิลูกไก่ อุณหภูมิที่เหมาะสม คือ 39.5 – 40.5 °C 3. ตรวจเช็คจ านวนลูกไก่ 4. ตรวจเช็คความสะอาดของรถ และตรวจเช็คปูายทะเบียนของรถให้ตรงกับเอกสาร 5. ตรวจเช็คอุณหภูมิภายในรถรับลูกไก่ 6. ทวนสอบอุณหภูมิภายในรถ 7. จัดเรียงลูกไก่และตรวจสอบความเรียบร้อย 8. ติด Seal ประตูรถ เอกสารที่ใช้ในการส่งมอบลูกไก่ 1. รายงานการขนส่งและตรวจสอบคุณภาพลูกไก่ 2. ใบโอนสินค้า 3. ใบอนุญาตให้น าหรือเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ เข้า ออก ผ่านหรือภายในเขตโรคระบาดชั่วคราว เขตโรคระบาด หรือเขตเฝูาระวังโรคระบาด 4. ใบรับรองมาตรฐานของโรงฟักไข่ สิ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติม 1. ทักษะการวิเคราะห์ไข่แต่ละประเภท 2. เรียนรู้ระบบประปาที่ใช้ในอาคารผลิต 3. เรียนรู้ระบบซิลเลอร์ที่ใช้ในตู้ฟักและตู้เกิด 4. เรียนรู้ระบบไฟฟูา การใช้หม้อแปลง และเครื่องก าเนิดไฟฟูา


19 ปัญหาและอุปสรรค 1. ปัญหา : เมื่อผู้จัดการตรวจรูปใน ppt แล้วรูปไม่ผ่านต้องไปแก้ใหม่ ค่อนข้างกลับไปแก้รูปยา เพราะต้องย้ายแผนกทุกๆ 2 สัปดาห์ แนวทางการแก้ปัญหา : ใช้เวลาวันหยุดวันอาทิตย์ขึ้นไปถ่ายรูปใหม่บนโรงฟัก 2. ปัญหา : อาหารที่โรงฟักค่อนข้างเผ็ดจนเกินไป แนวทางการแก้ปัญหา : แจ้งผู้จัดการ


20 เอกสารอ้างอิง อัฐกร ค าภักดี, นิกร หาญสูงเนิญ, พีรเศรษฐ์สายชล, อลงกรณ์ปรีชาศิลป์, ศราวุธ เจนถนอมม้า. (2562). การจัดการโรงฟักไข่พ่อ-แม่พันธุ์เนื้อ. ม.ป.ป. : ม.ป.ป.


Click to View FlipBook Version