- แบบร่าง -
สูจิบัตร พิธีกระท าสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ของหน่วยทหารในเขตพื้นที่ มณฑลทหารบกที่ ๑๖ ประจ าปี พุทธศักราช 2567 18 มกราคม 2567
ใครรานใครรุก ด้าวแดนไทย ไทยรบจนสุดใจ ขาดดิ้น เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล ยอมสละ สิ้นแล เสียชีพไป่เสียสิ้น ชื่อก้องเกียรติงาม
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุข แห่งอาณาราษฎรตลอดไป พระปฐมบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ วันที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก
พลโท มนิต ศิริรัตนากูล เจ้ากรมการทหารช่าง
พลตรี ประยุทธ ผดุงพจน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๑๖
พลตรี พิจิตร บุญญสุวรรณ ผู้บัญชาการกองพลทหารช่าง
พลตรี ณัฏฐพงศ์ อัศวินวงศ์ ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ ๑
ล าดับพิธีกระท าสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖7 เวลา ๑๓๓๐ ก าลังพลเข้าที่รวมพลพักคอย ๑๕๐๐ ผู้ร่วมพิธีและแขกรับเชิญพร้อมบริเวณพิธี ๑๕๐๐ การแสดงก่อนเวลา - การแสดง "ภารกิจกวาดล้างพื้นที่และสิ่งปลูกสร้าง " โดย แผนก วิชา สงครามทุ่นฯ ร่วมกับ กส.ทบ. - การแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบ า” หรือ “Hop To The Bodies Slams” โดย ช.11 ๑๕๕๐ ยิงพลุสัญญาณเริ่มพิธี ๑๕๕๕ หน่วยทหารออกเดินจากที่รวมพล ๑๖๐๐ หน่วยทหารเข้าที่พร้อม ณ บริเวณพิธี ๑๖๐๕ จก.กช./ประธานในพิธีถึงบริเวณพิธี ผู้บังคับกองผสมบอกแถวแสดงความเคารพ, รายงาน, เชิญตรวจพลสวนสนาม ประธานตรวจพลสวนสนาม ๑๖๑๕ เชิญธงชัยเฉลิมพลเข้าสู่ปะร าพิธี ๑๖๒๐ พิธีสงฆ์ ๑๖๓๕ เชิญธงชัยเฉลิมพลประจ าบนแท่นรับการเคารพ ๑๖๔๐ ประธานขึ้นแท่นรับการเคารพ, กล่าวน าปฏิญาณ, อ่านโอวาท ผบ.ทหารสูงสุด
๑๖๔๕ เชิญธงชัยเฉลิมพลกลับประจ าแถว ๑๖๕๐ ประธาน และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ขึ้นแท่นรับการเคารพ แถวทหารออกเดินสวนสนาม ตามล าดับหน่วยผ่าน ประธาน และ รับประพรม น้ าพระพุทธมนต์ แล้วกลับเข้าประจ าที่ ๑๗๓๐ ประธานเดินทางกลับ ผู้บังคับกองผสมบอกแถวแสดงความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ ทหารเปล่งเสียง ไชโย ๓ ครั้ง หน่วยสวนสนามน าแถว กลับที่รวมพล จบพิธี ********************************************
การนั่งรถตรวจพลสวนสนามของประธาน และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ คันที่ ๑ คันที่ ๒ คันที่ ๓ คันที่ ๔ คันที่ ๕ คันที่ ๖ กองรักษาการณ์ W E S N จก.กช ทส.จก.กช. ผบ.กองผสมปี ๖7 ผบ.ช.๑1 ผบ.พล.ช. ผบ.ช.๒๑ ผบ.มทบ.๑๖ ผบ.กรม พัฒนา ๑ ผบ.พล.พัฒนา ๑ ผบ.ช.๑ รอ. จก.กส.ทบ. หน.ผ.๖ คส.สพ.ทบ.
นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ยืนบนแท่น รับการเคารพขณะหน่วยทหารเดินสวนสนาม แท่นรับการเคารพ แถวทหาร ๑. รอง จก.กช.(๑) ๒. รอง จก.กช.(๒) ๓. เสธ.กช. ๔. ผบ.พล.ช. ๕. ผบ.มทบ.๑๖ ๖. ผบ.พล.พัฒนา ๑ ๗. จก.กส.ทบ. ๘. ที่ปรึกษา จก.กช. ๙. รอง ผบ.รร.ช.กช. ๑๐. ผบ.ช.๒๑ ๑๑. ผบ.กรม พัฒนา ๑ ๑๒. ผบ.ช.๑ รอ. ๑๓. หน.ผ.๖ คส.สพ.ทบ. จก.กช. ๗ ๕ ๓ ๑ ๒ ๔ ๖ ๘ ๑๓ ๑๑ ๙ ๑๐ ๑๒
ค าปฏิญาณตนของทหาร ต่อธงชัยเฉลิมพล ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า (กล่าว ยศ -ชื่อ -นามสกุล ของผู้ปฏิญาณตน) ขอถวายค าสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้า จักยอมตาย เพื่อเทิดทูนและรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ แห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพระพุทธเจ้า จักจงรักภักดี และถวายความปลอดภัย ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทตราบชีวิตจะหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้า จักพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ข้าพระพุทธเจ้า จักดูแล ช่วยเหลือเป็นที่พึ่งของประชาชน และจักปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความยุติธรรม ข้าพระพุทธเจ้า จักตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมของศาสนา และจริยธรรม ข้าพระพุทธเจ้า จักรักษาค าถวายสัตย์ปฏิญาณนี้ ด้วยเกียรติยศ และเกียรติศักดิ์ของทหาร-ต ารวจ ทั้งจักปฏิบัติตนปฏิบัติภารกิจให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการ ตลอดไป ข้าพระพุทธเจ้าข้าขอรับด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
โอวาทของ พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในโอกาสวันกองทัพไทย ประจ าปี ๒๕๖7 วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖7 **************************************** เพื่อนทหารที่รักทุกท่าน วันที่ ๑๘ มกราคม เป็นวันส าคัญยิ่งวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นวันที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงน าเหล่าทหารกล้าประกอบมหาวีรกรรมอันกล้าหาญ ในการ ปกป้องรักษาเอกราชอธิปไตย นับว่าเป็นเหตุการณ์อันส าคัญยิ่ง เป็นวันแห่งเกียรติยศ และ ความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ที่ได้ระลึกถึงเหล่าบรรพชนไทยที่ได้สละชีวิตและเลือดเนื้อ เป็นชาติพลี เพื่อความอยู่รอดและความมั่นคงปลอดภัยของบ้านเมืองอย่างยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน อันเป็นแบบอย่างที่เราเหล่าทหารทั้งหลายควรจักยึดถือสืบทอดเจตนารมณ์ดังกล่าวนี้สืบไป ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพไทยมีหน้าที่พิทักษ์ปกป้องรักษาชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ ช่วยเหลือประชาชนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของชาติเพื่อให้ประชาชนอยู่ อย่างร่มเย็นเป็นสุข ผมขอให้เพื่อนทหารทุกนาย มีความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติงานด้วยความอดทน เสียสละ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม สนับสนุนภารกิจของรัฐบาล ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของชาติจนเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน และขอให้เพื่อน ทหารทุกท่านด ารงรักษาความดีนี้ไว้สืบไป ในโอกาสส าคัญนี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ในสากลโลก พระบรมเดชานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชรวมทั้งเดชะพระบารมี แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้โปรด ดลบันดาลพระราชทานพรให้เพื่อนทหารที่รักทั้งหลาย ตลอดจนครอบครัว ประสบแต่ความสุข สิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผลด้วยจตุรพิธพรชัยสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เป็นก าลังส าคัญของกองทัพไทย ในการธ ารงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์สืบไปชั่วกาลนาน ********************************************
รายนามนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ประจ าแท่นรับการเคารพ ๑. ประธาน พลโท มนิต ศิริรัตนากูล เจ้ากรมการทหารช่าง ๒. ผู้ติดตาม พลตรี สิรภพ ศุภวานิช รองเจ้ากรมการทหารช่าง (๑) พลตรีธีรพล ศรีเกษม รองเจ้ากรมการทหารช่าง (๒) พลตรี อนวัช พจนวรพงษ์ เสนาธิการกรมการทหารช่าง พลตรี ประยุทธ ผดุงพจน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๑๖ พลตรีพิจิตร บุญญสุวรรณ ผู้บัญชาการกองพลทหารช่าง พลตรี ณัฏฐพงศ์ อัศวินวงศ์ ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ ๑ พลตรีรณรงค์ โรจนเสน เจ้ากรมการสัตว์ทหารบก พลตรี วิริยะ เกิดสุข ที่ปรึกษาพิเศษกรมการทหารช่าง พันเอก จารึก แก้วผลึก รอง ผู้บัญชาการโรงเรียนทหารช่าง กรมการทหารช่าง พันเอก จิระเดช ขจายแสง ผู้บังคับการกรมทหารช่างที่ ๒๑ พันเอก กฤษฎา จินเลิศ ผู้บังคับการกรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ พันเอก ชุติภัทร วรรณทอง ผู้บังคับการกรมพัฒนา ๑ พันเอก ชัยรัตน์ หยกสุริยันต์ หัวหน้าคลังแสง ๖ กองคลังแสง กรมสรรพวุธทหารบก
ล าดับริ้วขบวนการเดินสวนสนามใน พิธีกระท าสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ๑. วงโยธวาทิต จัดจากหมวดดุริยางค์มณฑลทหารบกที่ ๑๖ ร้อยตรีไพโรจน์ แย้มพงษ์ ผู้ควบคุมวงดุริยางค์ ๒. กองบังคับการกองผสม จัดจาก กรมทหารช่างที่ ๑๑ พันเอก พิเชษฐ์ เพ็ชร์อินทร์ ผู้บังคับกองผสม ๓. กรมสวนสนามที่ ๑ จัดจาก กรมทหารช่างที่ ๑ รักษาพระองค์ พันเอก ยุทธศักดิ์ สุวรรณภา ผู้บังคับการกรม ๓.๑ กองพันที่ ๑ จัดจาก กองพันทหารช่างที่ ๑๑๒ กรมทหารช่างที่ ๑ รักษาพระองค์ พันเอก ธวัชชัย จันทร์วิลัย ผู้บังคับกองพัน ๓.๒ กองพันที่ ๒ จัดจาก กองพันทหารช่างที่ ๕๒ กรมทหารช่างที่ ๑ รักษาพระองค์ พันโท ภาณุพงษ์ จุนปาน ผู้บังคับกองพัน ๔. กรมสวนสนามที่ ๒ จัดจาก กรมทหารช่างที่ ๑๑ พันเอก มนต์รวี อินทรศิริ ผู้บังคับการกรม ๔.๑ กองพันที่ ๓ จัดจาก กองพันทหารช่างที่ ๑๑๑ กรมทหารช่างที่ ๑๑ พันเอก อภิรักษ์ วงษ์เพ็ชร์ ผู้บังคับกองพัน ๔.๒ กองพันที่ ๔ จัดจาก กองพันทหารช่างที่ ๖๐๒ กรมทหารช่างที่ ๑๑ และ กรมการสัตว์ทหารบก พันเอก ธีร์รัฐ เกียรติอภิวสุ ผู้บังคับกองพัน
๕. กรมสวนสนามที่ ๓ จัดจาก กรมพัฒนาที่ ๑ พันเอก ชีระชัย พึ่งยอด ผู้บังคับการกรม ๕.๑ กองพันที่ ๕ จัดจาก กองพันทหารช่างเครื่องมือพิเศษ และ มณฑลทหารบกที่ ๑๖ พันเอก ปรัชญา คุ้มฉายา ผู้บังคับกองพัน ๕.๒ กองพันที่ ๖ จัดจาก กองพันพัฒนาที่ ๑ พันโท ณัฐพงษ์ เสริมสุข ผู้บังคับกองพัน ๖. กรมสวนสนามที่ ๔ จัดจาก กรมทหารช่างที่ ๒๑ พันเอก ธนวรรธ์ ฉลาดการณ์ ผู้บังคับการกรม ๖.๑ กองพันที่ ๗ จัดจาก กองพันทหารช่างที่ ๕๑ และ กรมการทหารช่างที่ ๒๑ พันโท วีระพงษ์ อวยพร ผู้บังคับกองพัน ๖.๒ กองพันที่ ๘ จัดจาก กองพันนักเรียนโรงเรียนทหารช่าง กรมการทหารช่าง และ กองพันบริการ กองบริการ กรมการทหารช่าง พันโท อภินันท์ ผลค า ผู้บังคับกองพัน
ประวัติธงชัยเฉลิมพล ธงชัยเฉลิมพล คือ เครื่องหมายแห่งชัยชนะประจ าหน่วยทหาร ผืนธง หมายถึง ชาติบนยอดคันธง บรรจุพระพุทธรูป หมายถึง พระพุทธศาสนา และ พระกรัณฑ์เส้นพระเจ้าของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวซึ่งหมายถึง พระมหากษัตริย์ โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชด าเนินไปทรง ประกอบพิธีตรึงหมุดธงและพระราชทานธงชัยเฉลิมพลให้แก่หน่วย ทหารต่างๆด้วยพระองค์เอง เมื่อหน่วยทหารใดได้สร้างเกียรติประวัติใน การรบ จะได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้ าโปรดกระหม่อม พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกล้าหาญประดับธงชัย เฉลิมพล เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่หน่วยทหารนั้นด้วย ดังนั้น ธงชัยเฉลิมพล จึงเป็นสิ่งที่ทหารทุกคนจะต้องรักษาไว้ยิ่ง ชีวิตและเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่บุคคลซึ่งเข้ารับราชการทหารทุกคน จะต้องผ่านพิธีกระท าสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลจึงจะถือว่าเป็น ทหารอย่างสมบูรณ์แท้จริง ********************************************
ธงจุฑาธุชธิปไตยนับเป็นธงชัยเฉลิมพลประจ ากองทัพธงแรก ของไทยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้สร้างขึ้น พระราชทานแก่กองทัพไทยเมื่อพุทธศักราช ๒๔๑๘ เพื่อแทนพระองค์ ไปในกองทัพที่ยกไปปราบพวกฮ่อที่เข้ามาก่อการจลาจลในแคว้นหัวพัน ทั้งห้าทั้งหก และสิบสองปันนา ธงมหาไพชยนต์ธวัชนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นในพุทธศักราช ๒๔๕๕เพื่อพระราชทาน ให้เป็นธงชัยเฉลิมพลประจ ากองทัพบก อีกธงหนึ่งคู่กับธงจุฑาธุชธิปไตย
ธงชัยเฉลิมพลทหารบก ธงชัยเฉลิมพลทหารเรือ ธงชัยเฉลิมพลทหารอากาศ
ประมวลภาพชุด พิธีกระท าสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ของหน่วยทหารในเขตพื้นที่ มณฑลทหารบกที่ ๑๖ 18 มกราคม 2566
ประวัติความเป็นมา กรมการทหารช่าง ในปี พ.ศ. ๒๓๖๐ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้ย้ายเมืองราชบุรี ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งขวาของ แม่น้ าแม่กลองไปอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ า และโปรดเกล้า ให้สร้างก าแพง เมืองล้อมรอบทั้งนี้เพื่อให้ข้าศึกเข้าถึงตัวเมืองได้ยากขึ้น และมีทางถอย เมื่อเสียเปรียบครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงปรับปรุงการปกครองเป็นมณฑลต่าง ๆ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้าย ตัวเมืองกลับไปอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ า เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๐ โดยย้ายศาลา กลางจังหวัดมาอยู่รวมกันกับศาลาว่าการมณฑลทางฝั่งขวา ส่วนเมืองเก่า บนฝั่งซ้ายก็คงเป็นที่อยู่อาศัยของพวกเจ้าเมืองกรมการเก่าๆ จนถึงปี พ.ศ.๒๔๔๒ ได้มีการจัดตั้งกองทหารบกตามหัวเมืองต่างๆ เพื่อสะดวกใน การวางก าลังไว้ตามพื้นที่ ที่มีความส าคัญทางยุทธศาสตร์ ดังนั้น ในปี พ.ศ. ๒๔๔๖ จึงได้ย้ายกองบัญชาการกองพลทหารบกที่ ๔ และ กรมทหารบกที่ ๔ จากสวนดุสิต มาตั้งอยู่ในก าแพงเมืองราชบุรีบนฝั่ง ซ้ายของแม่น้ าแม่กลองอันเป็นที่ตั้งของค่ายทหารในปัจจุบัน
ในปี พ.ศ.๒๔๕๔ จอมพลสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ซึ่งด ารง ต าแหน่งเป็น " นายทหารพิเศษ " อยู่ในกรมทหารหน้า อันเป็นต้นราก ของกรมทหารบกราบที่ ๔ ราชบุรี มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๒๑ ทรงได้รับโปรด เกล้าฯ ให้ด ารงต าแหน่งผู้บังคับการกรมทหารบกราบที่ ๔ ค่ายทหาร ราชบุรี พระองค์ทรงท านุบ ารุงหน่วยให้เจริญก้าวหน้ามากมาย ท าให้ ทหารมีโรงกินอยู่หลับนอนสะดวกสบาย ทันสมัยและ ได้ทรงมีความ อุตสาหะเสด็จมาฉลองโล่ และ พระราชทานพระราโชวาทด้วยพระองค์ เองเกือบทุกปี เว้นแต่ปีที่มีพระราชภาระอย่างอื่นมาขัดขวางจนกระทั่ง เสด็จทิวงคต เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ ซึ่งรวมเวลาที่ทรงเป็นนายทหารผู้ใหญ่อยู่ ในกรมนี้ถึง ๕๐ ปีเต็ม จึงเป็นการเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่ได้ขอพระราชทานนามค่ายทหาร ราชบุรีแห่งนี้ว่า "ค่ายภาณุรังษี" เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2507 เพื่อเป็น อนุสรณ์ส าหรับพระองค์ผู้ทรงเป็นอุปถัมภก หน่วยทหารในค่ายนี้มาเป็น เวลานาน
ประวัติความเป็นมา มณฑลทหารบกที่ ๑๖ (16th Militaly District) ตั้งขึ้นครั้งแรกปรากฏตามหลักฐานข้อบังคับทหารว่าด้วย การแบ่งเขตมณฑลและจังหวัดทหารที่ ลง ๓๐ เม.ย. ๘๔ ได้ก าหนด ไว้ในมาตรา ๒ ข้อ (๕) จึงถือเอาวันที่ ๓๐ เมษายน ของทุกปี เป็นวัน ครบรอบวันสถาปนา จังหวัดทหารบกราชบุรีและในปี ๒๕๓๑ ได้ปรับ การจัดหน่วยตามอัตราการจัดยุทโธปกรณ์ หมายเลข ๕๑ – ๓๐๑ ลง วันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๑ โดยเป็นหน่วยขึ้นตรงของมณฑลทหารบก ที่ ๑๑ เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๑ จังหวัดทหารบกราชบุรีได้ ย้ายจากที่ตั้งเดิมภายในบริเวณกรมการทหารช่างมายังที่ตั้งปกติถาวร แห่งใหม่ริมถนนเพชรเกษมสายเก่า เลขที่ ๑๕๘ หมู่ ๑ ต.โคกหม้อ อ.เมือง จว.ราชบุรี ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ ๑๙ ไร่ ๘ ตารางวา เป็นที่ตั้ง หน่วยในปัจจุบัน ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๕๒ กระทรวงกลาโหมได้ออกกฎกระทรวง จัดตั้งหน่วยใหม่ ได้แก่ มทบ.๑๕ ซึ่งแปรสภาพหน่วยมาจาก จทบ.พ.บ. ตาม อจย. หมายเลข ๕๑ – ๒๐๑ (๕ ส.ค.๓๑) มีส่วนราชการที่ขึ้นตรง ได้แก่ จทบ.พ.บ. และ จทบ.ร.บ. ซึ่งได้ประกาศใช้
และให้มีผลในทางปฏิบัติตั้งแต่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นต้นไป และเพื่อให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับการบรรจุก าลังพลตามระดับ ความพร้อมรบโดย จทบ.ร.บ. ซึ่งมีการจัดหน่วย ตาม อจย.ฯ หมายเลข ๕๑ – ๓๐๑ ลงวันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๑ จังหวัดทหารบก ชั้น ๑ พร้อมทั้งปรับอัตราชั้นยศของ ผบ.จทบ.ร.บ. จากต าแหน่งเดิม พันเอก พิเศษ สูงขึ้นเป็นต า แหน่ง พ ล ต รีและเป็นหน่วยขึ้นต รงของ มณฑลทหารบกที่ ๑๕ โดยมีพื้นที่ รับผิดชอบ ๒ จังหวัด คือ จังหวัด ราชบุรี และ จังหวัดสมุทรสงคราม ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จังหวัดทหารบกราชบุรีได้ แปรสภาพเป็น มณฑลทหารบก ตามค าสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ ๓๖/๕๘ ลง ๒๔ ก.ย.๕๘ เรื่องแก้อัตราการจัดและยุทโธปกรณ์กองทัพบก (ครั้งที่๑ ) โดยให้หน่วยจังหวัดทหารบกราชบุรี เปลี่ยนนามหน่วยใหม่เป็น มณฑล ทหารบกที่ ๑๖ ตั้งแต่ ๑ ต.ค. ๕๘ เป็นต้นไป โดยมีพื้นที่รับผิดชอบ ๓ จังหวัด คือ จังหวัดราชบุรีจังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดสมุทรสาคร
ประวัติความเป็นมา กองพลพัฒนาที่ ๑ (พล.พัฒนา ๑) (1st Development Division) ที่ตั้งหน่วย : ค่ายศรีสุริยวงศ์ เลขที่ ๘๐ หมู่ ๘ ต าบลดอนตะโก อ าเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ๗๐๐๐๐ วันสถาปนาหน่วย : ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๓๒ ประวัติความเป็นมาของหน่วย กล่าวทั่วไป กองพลพัฒนาที่ ๑ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๒ ตาม ค าสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ลับ ที่ ๑๑๖/๓๒ ลง ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๓๒ เรื่อง การจัดตั้งกองพลพัฒนาที่ ๑ และ กองพลพัฒนาที่ ๓ ซึ่งเป็นไปตาม อนุมัติหลักการของผู้บัญชาการทหารบก ที่ด าริให้จัดตั้งกองพลพัฒนาขึ้น จ านวน ๔ กองพล ก าหนดให้เป็นหน่วย ขึ้นตรงในแต่ละกองทัพภาค โดย มีความมุ่งหมาย เพื่อให้มีหน่วยงานพัฒนาของกองทัพบกขึ้นรับผิดชอบ งานด้านการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นการแยกบทบาทและ ความรับผิดชอบของหน่วยทหารในการป้องกันประเทศ
และการพัฒนาประเทศออกจากกันอย่างเด่นชัด โดยได้บรรจุ มอบกองพลพัฒนาที่ ๑ ให้กับกองทัพภ าคที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๓๒ เป็นต้นมา ซึ่งในการก่อตั้งครั้งแรกก าหนดให้มีที่ตั้ง ชั่วคราวอยู่ในพื้นที่ของ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ ๑ กรุงเทพมหานคร ต่อมาได้เคลื่อนย้าย หน่วยเข้าที่ตั้งปกติถาวร ณ ค่ายศรีสุริยวงศ์ อ าเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ตั้งแต่วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๔ ซึ่งแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ บนเนื้อที่ ๑,๒๘๕ ไร่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๓๒-๓๒๔๙๓๐ ค าสั่งการจัดตั้งหน่วย ค าสั่ง กองทัพบก (เฉพาะ) ลับ ที่ ๑๑๖/๓๒ ลง ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๓๒ การเปลี่ยนแปลงของหน่วย การย้ายที่ตั้งหน่วย : เดิมมีที่ตั้งชั่วคราวอยู่ในพื้นที่ของ กองบัญชาการ กองทัพภาคที่ ๑ กรุงเทพมหานคร ต่อมาได้เคลื่อนย้ายหน่วยเข้าที่ตั้ง ปกติถาวร ณ ค่ายศรีสุริยวงศ์ อ าเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ตั้งแต่วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๔ ซึ่งแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๔ บนเนื้อที่ ๑,๒๘๕ ไร่ หมายเลข อจย. : อจย.๔๑ - ๒ บก. และ ร้อย.บก.พล.พัฒนา ๑ (๑๔ ก.ค. ๓๒) เกียรติประวัติหน่วย : ค่ายศรีสุริยวงศ์ เป็นนามค่ายที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ (รัชกาลที่ ๙) ทรงพระราชทานให้เป็นนามค่ายของ กองพลพัฒนาที่ ๑ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ ต าบลดอนตะโก อ าเภอเมือง จังหวัดราชบุรีก าเนิดค่ายเมื่อวันที่ ๑๙ สิงห าคม ๒๕๔๒ กองทัพบกได้ออกปร ะก าศกองทัพบก เรื่อง พระราชทานชื่อค่ายทหาร ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๔๑ โดยให้กอง พลพัฒนาที่ ๑ ซึ่งมีที่ตั้งปกติถาวรอยู่ที่ ต าบลดอนตะโก อ าเภอเมือง จังหวัดราชบุรี มีนามค่ายว่า "ค่ายศรีสุริยวงศ์"
ประวัติความเป็นมากองพลทหารช่าง กองพลทหารช่าง จัดตั้งขึ้นตามค าสั่งกองทัพบก(เฉพาะ) ที่ ๑๖๙/๓๒ ลง ๒๕ กันยายน ๒๕๓๒ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๒ มีที่ตั้ง ณ ค่ายบุรฉัตร ต าบลเกาะพลับพลา อ าเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งนามค่ายบุรฉัตร นั้น มาจากบุรฉัตรไชยากร พระนามเดิมของ พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระก าแพงเพชรอัครโยธิน พระบิดาของเหล่าทหารช่างแห่งกองทัพบกไทย เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ผู้บัญชาการ ทหารบก ในขณะนั้นได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการจัดตั้ง กองพลทหารช่าง หน่วยจึงถือเป็นวันส าคัญ และก าหนดให้วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กองพลทหารช่าง มีหน่วยขึ้นตรงจ านวน ๓ หน่วย ได้แก่ กองร้อย กองบัญชาการกองพลทหารช่าง, กรมทหารช่างที่ ๑๑ , และกองพันทหารช่าง เครื่องมือพิเศษ กองพลทหารช่าง โดยกองพลทหารช่างถือเป็นหน่วยทหารที่ เป็นกลไกส าคัญของ กรมการทหารช่าง ในการสนับสนุนภารกิจที่
ได้รับมอบหมายจาก กองทัพบก นอกจากนี้ยังเป็นหน่วยแก้ไขปัญหาความ เดือดร้อนให้กับประชาชน และสนับสนุนการบรรเทาสาธารณภัยเร่งด่วน เมื่อ ได้รับการสั่งการจากรัฐบาล กองพลทหารช่าง ได้ยึดแนวนโยบายของกองทัพบกเป็นหลักในการ ด าเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาก าลังพลให้มีความเป็นทหารอาชีพ พร้อมปฏิบัติตามค าสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด รวมทั้งยึดมั่นและเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ยังให้ความส าคัญกับการดูแลสวัสดิการของ ก าลังพลชั้นผู้น้อย ในการลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวก าลังพล รวมทั้งการดูแลความเป็นอยู่ของทหารกองประจ าการให้เป็นไปตามนโยบาย ของ ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของก าลังพล ทุกระดับชั้นให้ดีขึ้น อย่างเป็นรูปธรรม เสริมสร้างความภาคภูมิใจ และพร้อมที่ จะปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป
ประวัติความเป็นมา กรมการสัตว์ทหารบก นับตั้งแต่ กรมการสัตว์ทหารบก ก าเนิดมาตามค าสั่ง กห . พิเศษ ที่ 59/23640 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2495 โดยเป็นหน่วยขึ้น ตรงต่อกองทัพบก มีฐานะเป็นกรมฝ่ายยุทธบริการและเหล่าสาย วิทยาการ มีที่ตั้งอยู่ที่บริเวณ ถนนศรีอยุธยา ต.พญาไท อ.พญาไท กรุงเทพฯ และในปี พ . ศ .2515 ได้มีการย้ายที่ตั้งหน่วยมาตั้งอยู่ที่บ้าน ต้นส าโรง ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จังหวัดนครปฐม นับเป็นเวลาที่นานมาก แต่กรมการสัตว์ทหารบก ก็ยังไม่มีชื่อค่ายทหาร เหมือนหน่วยทหารอื่น ๆ จนกระทั่งในปี พ.ศ.2534 พล.ต.สุภาพ ภัทรนาวิก ( เจ้ากรมการสัตว์ ทหารบก ในขณะนั้น ) ได้มีนโยบายที่จะให้มีชื่อค่ายทหารของกรมการ สัตว์ทหารบกขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่หน่วย และผู้ที่ได้วางรากฐานให้ ก าเนิดกิจการด้านการสัตว์ และหน่วยทหารการสัตว์ขึ้นในประเทศไทย จากนโยบายดังกล่าวแล้ว กรมการสัตว์ทหารบก
จึงมีหนังสือขอพระราชทานชื่อค่ายทหาร ตามหนังสือ กส.ทบ. ที่ กห 0448/3811 ลง 12 พฤศจิกายน 2534 ไปยังกองทัพบก โดยพิจารณาเลือกพระนามของ พล.ต. หม่อมเจ้า ทองฑีฆายุ ท องให ญ่ บิ ด า ข องทห า ร ก า ร สั ต ว์ ม า เป็น ชื่อ ค่ า ยทห า ร คื อ “ ค่ายทองฑีฆายุ ” ซึ่ง กระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือแจ้งให้ส านัก เลขาธิก า รคณะ รัฐมนตรีน าความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอ พระราชทานชื่อค่ายทหารของกรมการสัตว์ทหารบก ส านักราช เลขาธิการน าความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อค่ายทหาร คือ “ ค่ า ยทองฑีฆ ายุ ” ตามปร ะก าศส านักนา ยกรั ฐมนตรี เรื่อง พระราชทานชื่อค่ายทหาร ลง 17 สิงหาคม 2535