หนงั สืออา่ นเพมิ่ เติม
กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
ชุด หนา้ ทีพ่ ลเมือง เร่ืองทีค่ วรรู้
เลม่ ที่ 6
เร่ือง มารยาทไทย
เร่อื งโดย
นายจกั รกฤช บินรามัน
ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครชู านาญการ
โรงเรยี นสามคั คบี ารุง
สานกั งานเขตทงุ่ ครุ กรงุ เทพมหานคร
ภาพ : นางสาวพิชญาภา ปรดี าวรรณกลุ
หนงั สอื อา่ นเพ่มิ เติม
กล่มุ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
ชุด หน้าท่พี ลเมือง เรอ่ื งที่ควรรู้
เล่มท่ี 6
เร่อื ง มารยาทไทย
เรือ่ งโดย
นายจักรกฤช บินรามัน
ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครชู านาญการ
โรงเรียนสามคั คบี ารงุ
สานกั งานเขตท่งุ ครุ กรุงเทพมหานคร
ภาพ : นางสาวพิชญาภา ปรดี าวรรณกลุ
คำนำ
หนังสืออา่ นเพิม่ เติม กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 ชดุ หน้าทพี่ ลเมอื ง เรอ่ื งที่ควรรู้ เลม่ ท่ี 6 เรอ่ื ง มารยาทไทย
จัดทาข้ึนเพ่ือใหน้ ักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใชอ้ ่านเพ่ิมเตมิ ประกอบการเรียนรู้ สาระ
หน้าทพ่ี ลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนนิ ชีวติ ในสังคม ซึ่งนักเรียนสามารถเรียนรู้ไดด้ ้วยตนเอง
โดยมเี นอ้ื หาสอดคล้องกับหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนสามคั คีบารุง ซ่ึงจะชว่ ยใหน้ กั เรียน
มคี วามรู้ความเข้าใจและปฏิบัติตนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ในการดาเนนิ ชีวติ ในสงั คม และ
เปน็ พลเมอื งที่ดขี องประเทศในอนาคต
ผจู้ ัดทาขอขอบพระคุณ ผเู้ ชีย่ วชาญทุกทา่ น ทใี่ หข้ ้อเสนอแนะในการจดั ทาหนังสอื
อ่านเพมิ่ เติม ชดุ หนา้ ที่พลเมอื ง เรอื่ งท่คี วรรู้ จนสาเรจ็ ลลุ ว่ งไปดว้ ยดี ผจู้ ัดทาหวังเปน็ อย่างยงิ่ ว่า
หนังสอื เลม่ น้ี จะชว่ ยใหน้ กั เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ และสง่ เสริมให้นกั เรียนตระหนักถงึ คณุ ค่า
ของการเปน็ พลเมอื งท่ีดี รูจ้ ักรักษาวัฒนธรรมของชาติ และสามารถดาเนนิ ชวี ติ อยู่ในสังคมไดอ้ ยา่ ง
มีความสขุ
จักรกฤช บินรามนั
ก
สำรบัญ หนำ้
คานา ก
สารบัญ ข
คาแนะนาการใช้แบบฝึกทกั ษะ ค
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด/ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ง
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1
เนือ้ เร่ือง 3
กจิ กรรม 22
แบบทดสอบหลังเรียน 35
กระดาษคาตอบ 38
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรียน 39
เฉลยกิจกรรม 40
แบบบนั ทกึ คะแนน 41
บรรณานกุ รม 42
ประวัติผ้เู ขยี น 43
ข
คำแนะนำในกำรใชห้ นงั สืออ่ำนเพมิ่ เตมิ
หนงั สอื อา่ นเพ่มิ เติม กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ชุด หนา้ ท่พี ลเมอื ง เรื่องทค่ี วรรู้ มที ั้งหมด 6 เล่ม ดังนี้
เลม่ ที่ 1 เรอ่ื ง กฎหมายพื้นฐาน
เลม่ ท่ี 2 เร่ือง ขอ้ มูลขา่ วสาร
เล่มท่ี 3 เรื่อง การเมืองการปกครองของไทย
เล่มที่ 4 เร่อื ง การส่งเสรมิ ประชาธปิ ไตย
เลม่ ท่ี 5 เรอ่ื ง วฒั นธรรมไทย
เล่มท่ี 6 เร่อื ง มารยาทไทย
ในหนงั สอื อา่ นเพิม่ เตมิ มีองค์ประกอบ คอื คานา สารบัญ คาแนะนาในการใช้
มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ดั / จดุ ประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เน้ือเรื่อง
กิจกรรม แบบทดสอบหลงั เรียน เฉลยแบบทดสอบ เฉลยกจิ กรรม บรรณานุกรม
และประวัติผแู้ ตง่
หนังสืออ่านเพมิ่ เติม ชุด หน้าทพ่ี ลเมอื ง เรอ่ื งทค่ี วรรู้ มีข้นั ตอนการใช้ดังน้ี
1. ศกึ ษาคาแนะนาการใช้ให้เขา้ ใจ
2. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 10 ขอ้ ใชเ้ วลาโดยประมาณ 10 นาที
3. ศกึ ษาเน้อื เรือ่ ง
4. ทากจิ กรรมหลงั การอา่ น
5. ทาแบบทดสอบหลังเรยี น 10 ข้อ ใช้เวลาโดยประมาณ 10 นาที
6. ตรวจคาตอบแบบทดสอบ และกิจกรรม
ค
มำตรฐำนกำรเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั
มำตรฐำนกำรเรียนรู้
มำตรฐำน ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัตติ ามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองท่ีมีค่านิยมทดี่ งี าม และธารง
รักษาประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยู่ร่วมกนั ในสังคมไทย และสงั คมโลกอย่างสันติสขุ
ตวั ชี้วัด
1. ปฏบิ ัติตามกฎหมายทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับชีวติ ประจาวันของครอบครวั และชมุ ชน
2. วเิ คราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาและธารงรักษาวัฒนธรรมอันดีงามแสดงออกถงึ
มารยาทไทยไดเ้ หมาะสมถูกกาลเทศะ
3. แสดงออกถึงมารยาทไทยได้เหมาะสมถูกกาลเทศะ
4. อธบิ ายคณุ ค่าทางวฒั นธรรมท่แี ตกตา่ งกันระหว่างกลุ่มคนในสังคมไทย
5. ติดตามข้อมลู ข่าวสาร เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน เลอื กรบั และใช้ขอ้ มูล ข่าวสารในการ
เรยี นรไู้ ดเ้ หมาะสม
มำตรฐำนกำรเรียนรู้
มำตรฐำน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปจั จุบนั ยึดมั่น ศรัทธาและธารง
รกั ษาไวซ้ ง่ึ การปกครองระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ
ตวั ชวี้ ดั
1. เปรียบเทียบบทบาท หนา้ ท่ขี ององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และรัฐบาล
2. มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีส่งเสริมประชาธปิ ไตยในทอ้ งถน่ิ และประเทศ
3. อภิปรายบทบาท ความสาคัญในการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งตามระบอบประชาธปิ ไตย
จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. อธิบายความหมายและความสาคัญของมารยาทไทย
2. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้มีมารยาทถูกต้องเหมาะสม
3. แสดงความชนื่ ชมผ้มู ีมารยาทถูกตอ้ งเหมาะสม
ง
แบบทดสอบก่อนเรยี น
คำชแี้ จง นกั เรยี นทาเครื่องหมาย X ทับตัวอกั ษรหนา้ คาตอบทีถ่ กู ตอ้ งท่สี ุด
๑. ใครทักทายผู้อาวุโสได้ถูกต้องท่ีสดุ
ก. อาบิสทักทายด้วยการยืนตรงแลว้ พดู ว่า “สวสั ดีครับ”
ข. อยั รีนทกั ทายด้วยการยกมือไหวแ้ ลว้ “สวสั ดีค่ะ”
ค. ฟาคริ ทกั ทายด้วยการโค้งคานบั แล้วพูดวา่ “สวสั ดีครบั ”
ง. ฮันนานยน่ื มือเขา้ ไปจบั แล้วพดู วา่ “สวัสดีคะ่ ”
๒. นักเรียนเดินผ่านขณะทผ่ี ใู้ หญ่น่ังพน้ื ควรปฏบิ ัติอยา่ งไร
ก. สารวม เมอ่ื ใกลถ้ ึงผใู้ หญแ่ ลว้ คอ้ มตวั
ข. สารวม เม่อื ใกลถ้ ึงผู้ใหญแ่ ล้วคอ้ มตวั พร้อมกบั ยอ่ เข่า
ค. สารวม เม่ือใกลถ้ ึงผใู้ หญแ่ ล้วเดินให้เบาที่สดุ
ง. สารวม เม่อื ใกล้ถงึ ผใู้ หญ่แล้วให้เดนิ เข่า เมอื่ ผา่ นไปแล้วจึงลุกขึ้นเดนิ
๓. ใครปฏบิ ตั ิตนไม่เหมำะสมขณะรับประทานอาหาร
ก. องิ เดือนใชช้ ้อนกลางเม่อื รับประทานอาหารรว่ มกบั ผู้อนื่
ข. อิงจันทร์ใหผ้ ใู้ หญ่ลงมอื ทานอาหารก่อนแล้วตนคอ่ ยทานตาม
ค. อิงฟา้ ทานอาหารเสรจ็ แล้วรบี ผลักจานออกจากตวั ทนั ที
ง. อิงดาวไมพ่ ูดขณะอาหารอยู่ในปาก
๔. นกั เรียนรับประทานอาหารทีโ่ รงเรียนเสร็จแลว้ ข้อใดที่ไม่ควรทา
ก. รวบช้อนสอ้ มใหเ้ รยี บร้อย
ข. นาภาชนะไปเกบ็ ไว้ท่ีกาหนด
ค. รวบรวมเศษอาหารทิง้ ถังขยะ
ง. ทานเสรจ็ แล้วไม่เกบ็ ภาชนะ
๕. การนงั่ เก้าอี้ตอ่ หน้าผใู้ หญค่ วรปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร
ก. น่งั ตวั ตรงและสารวม
ข. นง่ั ตามสบาย
ค. นั่งไขวห่ า้ ง
ง. นั่งพับเพียบ
1
๖. ขณะท่ีนักเรียนเดนิ แลว้ ไดย้ ินเสียงเพลงชาตนิ กั เรียนควรทาอยา่ งไร
ก. หยดุ เดินและยนื ตรงเพอ่ื แสดงความเคารพ
ข. หยดุ เดนิ และยืนท่าตามสบาย
ค. เอามอื แนบลาตัวแลว้ เดินช้าๆ
ง. รบี เดนิ ทันที
๗. การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์จะตอ้ งกราบก่คี รง้ั
ก. ๑ ครั้ง
ข. ๒ ครัง้
ค. ๓ ครัง้
ง. ๔ ครั้ง
๘. การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ใชอ้ วัยวะทง้ั ๕ ยกเว้นข้อใด
ก. หนา้ ผาก
ข. มอื และขอ้ ศอกทั้ง ๒
ค. เข่าท้ัง ๒
ง. จมูก
๙. ยกมอื ขน้ึ ในท่าประนมมือมีช่อื เรยี กว่าอยา่ งไร
ก. อญั ชลี
ข. วนั ทา
ค. อภิวาท
ง. ประนมมือ
๑๐.การประนมมือแล้วยกข้ึนพรอ้ มกับค้อมศรี ษะลงใหห้ ัวแมม่ ือจรดระหวา่ งคว้ิ ปลายนิ้วช้ี
แนบสว่ นบนของหนา้ ผากเปน็ การแสดงความเคารพตอ่ ใคร
ก. การแสดงความเคารพพระรตั นตรยั
ข. การแสดงความเคารพตอ่ พอ่ แม่
ค. การแสดงความเคารพตอ่ คุณครู
ง. การแสดงความเคารพต่อบุคคลท่วั ไป
2
มำรยำทไทย
สุขใจกบั นาดาเปน็ เพือ่ นรกั กนั สุขใจเปน็ ชาวพทุ ธส่วนนาดาเปน็ ชาวมุสลิม ถึงสอง
คนน้ีนับถือศาสนาตา่ งกันแตก่ ็รักและมคี วามเขา้ ใจกนั
นำดำ : “สุขใจ…พกั เท่ียงแล้วเรารบี ทานข้าวนะ”
สุขใจ : “จะรบี ไปไหนหรือจ๊ะ” สขุ ใจถามนาดาด้วยความสงสัย
นำดำ : “ทานขา้ วเสร็จแลว้ สขุ ใจพานาดาไปหาครูพรศรหี นอ่ ยนะจะ๊ ”
สุขใจ : “ไปหาครูทาไมหรือจ๊ะ”
นำดำ : “นาดาอยากร้เู รอ่ื งมารยาทไทยให้มากกวา่ น้ี จะไปใหค้ รสู อน
เรือ่ งมารยาทไทยจ้ะ”
สุขใจ : “นาดาเป็นชาวมสุ ลมิ ยงั อยากรู้เร่อื งมารยาทไทยซง่ึ เป็นเร่อื ง
ท่ีดีมากเลยนะจะ๊ จะวา่ ไปแลว้ สุขใจเป็นคนไทยแทๆ้ ยังไมค่ อ่ ยรเู้ รอ่ื ง
มารยาทไทยสกั เท่าไหร่เลย” สุขใจยม้ิ แบบอายๆ
นำดำ : “ถงึ นาดาจะเป็นชาวมสุ ลิมแต่นาดากอ็ ยากเรยี นรู้เร่อื งมารยาทไทย
เพราะนาดาคิดว่ามารยาทไทยเป็นสง่ิ ทีง่ ดงามมากจ้ะ”
3
เมอ่ื ถึงเวลาพกั เท่ียงสขุ ใจกบั นาดารีบลงมาทานขา้ วเทีย่ งเม่อื ทาน
เสรจ็ แลว้ ทั้งสองก็เอาภาชนะไปเก็บไวอ้ ย่างเรยี บร้อยและรีบเดินมุ่งหน้าไปหาครพู รศรี
เม่ือพบครพู รศรที งั้ สองคนก็กลา่ ว คาวา่ “สวสั ดีคะ่ ” พรอ้ มยกมอื ไหว้
ครพู รศรี : “สวสั ดจี ้ะ” พร้อมยิ้มให้ทงั้ สองคนอยา่ งเอ็นดู
นำดำ : “ครูทานข้าวหรอื ยงั คะ”
ครูพรศรี : “ทานแลว้ จะ้ …มาหาครูมีอะไรหรอื เปลา่ จะ๊ ”
นำดำ : “ครวู า่ งไหมคะ”
ครูพรศรี : “ว่างจะ้ ”
สขุ ใจ : “พอดเี ลยค่ะ…นาดากบั หนอู ยากจะรบกวนใหค้ รูสอนเร่ืองมารยาทไทยคะ่ ”
4
ครูพรศรีย้ิมแล้วตอบวา่
ครูพรศรี : “ไดส้ ิจะ๊ …อนั ดับแรกต้องรคู้ วามหมายของมารยาทกอ่ น
ครูพรศรี : มำรยำท หมายถงึ กริ ิยา วาจาทส่ี ภุ าพเรียบรอ้ ย ทบ่ี ุคคลพงึ ปฏบิ ัติ
ในสังคม โดยมรี ะเบยี บแบบแผนอันเหมาะสมตามกาลเทศะ ….
ต่อไปครูจะพดู ถงึ “มำรยำทของสังคมไทย” คนไทยไดส้ บื ทอด
มารยาทไทยทดี่ ีงามตง้ั แตอ่ ดตี จนถึงปจั จุบนั การแสดงมารยาทไทย
ใหเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะถอื เปน็ สิง่ สาคัญและทาให้ตา่ งชาติ
เหน็ ความเปน็ อารยธรรมของไทย
นำดำ : “มารยาทไทยท่สี าคญั มอี ะไรบา้ งคะ” นาดาถามดว้ ยความอยากรู้
5
ครูพรศรี : “มารยาทไทยท่สี าคญั มดี งั น้ี จ้ะ
๑. กำรแสดงควำมเคำรพ
สขุ ใจ
ครพู รศรี : “การแสดงความเคารพ มีหลายอยา่ งใชไ่ หมคะ” สขุ ใจแทรกถามขนึ้
: “ใช่แลว้ จ้ะ…ดงั ที่ครูจะบอกต่อไปน้ี
6
ครพู รศรี : กำรแสดงควำมเคำรพพระรตั นตรยั
ครูหนั ไปพูดกบั นาดาวา่
ครูพรศรี : “ชาวพทุ ธเคารพพระรัตนตรยั มาก การแสดงความเคารพจะปฏบิ ัติ
โดยการไหว้หรือกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ตามความเหมาะสม
ของสถานที่
นำดำ : “ค่ะคร”ู
แลว้ นาดากย็ ้มิ
ครพู รศรี : “อธบิ ายตอ่ นะจะ๊ …
7
ครพู รศรี : กำรไหว้ คอื การกระพมุ่ มอื ใหป้ ลายนว้ิ มอื ทั้งสองขา้ งชิดกัน
ฝา่ มอื ท้ังสองประกบกนั แนบระหว่างอก ไมก่ างศอก แลว้
ยกมือขึน้ พรอ้ มกบั ค้อมศีรษะลงใหห้ ัวแม่มอื จรดระหวา่ งคิ้ว
ปลายนวิ้ ชี้แนบสว่ นบนของหนา้ ผาก”
หลงั จากครอู ธบิ ายการไหว้เสร็จ สขุ ใจกล็ กุ ขนึ้ ยนื ปฏิบตั ใิ ห้นาดาดู
สุขใจ : “ครคู ะ…หนูไหว้ถกู ต้องไหมคะ”
ครพู รศรี : “ไหวถ้ กู ต้องและงามมากจ้ะ”
สขุ ใจยิม้ เขินเมื่อครชู ม นาดากย็ ม้ิ ให้สุขใจ
8
ครูพรศรี : “ต่อไปจะเปน็ การกราบจะ้ …การกราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์”
นำดำ
ครพู รศรี : “การกราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์ คอื อะไรคะครู”
: “การกราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์ คอื การใชอ้ วัยวะท้ัง ๕ ไดแ้ ก่
หน้าผาก มือ ขอ้ ศอกท้ัง ๒ และเขา่ ทง้ั ๒ สมั ผสั กบั พ้นื
มี ๓ จงั หวะ
9
จงั หวะท่ี ๑ เรยี กวา่ อญั ชลี ยกมอื ขึน้ ในท่าประนมมอื
10
จงั หวะท่ี ๒ เรียกว่า วนั ทำ ยกมอื ขนึ้ ไหว้ หวั แม่มอื จรดระหว่างค้ิว
ปลายนวิ้ ช้แี นบส่วนบนของหนา้ ผาก
11
จงั หวะท่ี ๓ เรยี กว่า อภิวำท ทอดมอื ทั้งสองลงพร้อมๆ กนั ให้มอื และแขน
ทง้ั สองข้างราบกับพื้น ควา่ มือหา่ งกนั เลก็ น้อยพอใหห้ นา้ ผากจรดพน้ื
ระหวา่ งมอื ทัง้ สอง
12
พอครูอธบิ ายจบสขุ ใจก็เปลย่ี นทา่ นัง่ พรอ้ มทีจ่ ะกราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์ใหน้ าดาดู
ครพู รศรี : “สุขใจทาได้ถูกตอ้ งจะ้ ”
นำดำ : “การแสดงความเคารพต่อพระรัตนตรยั แลว้ ตอ่ ไปเป็นการแสดง
ความเคารพตอ่ ใครคะ”
ครพู รศรี : ตอ่ ไปเปน็ กำรแสดงควำมเคำรพตอ่ บคุ คล
สขุ ใจ : “การแสดงความเคารพต่อบคุ คลกจ็ ะไมเ่ หมอื นกนั นะนาดา”
สุขใจหันมาพดู กับนาดา
ครูพรศรี : “ใชแ่ ล้วจ้ะ…
13
ครูพรศรี : กำรไหว้ผมู้ ีพระคณุ และผใู้ หญ่ทน่ี บั ถอื ได้แก่ พอ่ แม่ ปู่ ยา่
ตา ยาย ครู ให้ประนมมอื แลว้ ยกขึน้ พร้อมคอ้ มศรี ษะลงให้หัวแมม่ อื
จรดปลายจมกู ปลายนว้ิ ชีแ้ นบระหวา่ งคว้ิ
14
ครพู รศรี : กำรไหวบ้ คุ คลทว่ั ไปที่เคำรพนบั ถือหรอื ผมู้ ีอำยมุ ำกกว่ำเล็กนอ้ ย
ใหป้ ระนมมอื แลว้ ยกขึ้นพร้อมกับคอ้ มศีรษะลง ใหห้ ัวแมม่ ือจรด
ปลายคางปลายน้วิ ชแ้ี นบปลายจมกู
15
ครูพรศรี : กำรกรำบผู้มีพระคุณและผูใ้ หญ่ที่นับถือ ผูก้ ราบท้งั ชายและหญิง
ให้น่ังพับเพยี บทอดมอื ท้งั สองข้างลงพรอ้ มกัน มอื ประนมต้ังกบั พ้ืน
สุขใจ คอ้ มตวั ลงใหห้ นา้ ผากแตะบนสว่ นของมอื ที่ประนม กราบ ๑ ครัง้
ครูพรศรี ไม่แบมอื
: “เร่ืองการแสดงความเคารพจบแล้ว ต่อไปเปน็ เรือ่ งอะไรคะ”
: “เร่ืองการยนื จะ้ ”
16
นาดาทวนคาพูดของครูอีกคร้งั
นำดำ : “การยืน เราต้องมมี ารยาทในการยืนดว้ ยหรือคะนกึ วา่
จะยนื แบบไหนก็ได้หมด”
ครูพรศรี : “เราตอ้ งมีมารยาทในการยืนจะ้ เช่น
กำรยนื เคำรพธงชำติและเพลงชำติ ใหย้ นื ตรงแสดงความเคารพ
โดยหนั หน้าไปทางธงชาติ เมอ่ื เพลงจบให้ค้อมศรี ษะคานบั ”
นำดำ : “หนูก็ยนื ตรงเคารพเพลงชาติและร้องเพลงชาตคิ ่ะ”
นาดาพูดแลว้ ยม้ิ
17
ครูพรศรี : “กำรยนื สนทนำกบั ผใู้ หญ่ ใหย้ ืนตรง เท้าชิด ประสานมอื กัน
อยู่ต่ากวา่ ระดบั เอว คอ้ มตัวเล็กน้อยไมค่ วรชดิ หรอื หา่ งจากผใู้ หญ่
มากเกินไป
กำรยืนเขำ้ แถวคอย ให้เขา้ แถวเป็นระเบียบ เรยี งลาดับกอ่ น – หลงั ”
สุขใจ : “มารยาทในการยืน ๓ ข้อ นี้ หนูกบั นาดาทาครบคะ่ ”
ครพู รศรี : “ดีมากจ้ะๆ”
สขุ ใจ : “มารยาทในการยืนแลว้ ตอ่ ไปเปน็ มารยาทในการเดนิ แนๆ่ เลย
ใชไ่ หมคะ”
สขุ ใจหนั หนา้ มาถามครู
18
ครพู รศรี : “มำรยำทในกำรเดนิ มดี ังน้ี
กำรเดินผำ่ นผู้ใหญ่
ขณะผู้ใหญ่ยนื ใหเ้ ดนิ ผา่ นระยะหา่ งพอสมควร ในลักษณะสารวม
ปลอ่ ยมอื ไวข้ ้างลาตวั แลว้ ค้อมตัวเมอื่ ใกล้ถึงผ้ใู หญ่
ขณะที่ผใู้ หญ่นั่งเกา้ อี้ ให้เดินผา่ นระยะห่างพอสมควรในลกั ษณะสารวม
ปลอ่ ยมอื ไวข้ ้างลาตัว แลว้ คอ้ มตวั พร้อมกับยอ่ เขา่ เมอื่ ใกลถ้ งึ ผูใ้ หญ่
ขณะที่ผู้ใหญ่น่ังหรือนอนกบั พนื้ ใหเ้ ดนิ ผา่ นระยะหา่ งพอสมควรใน
ลักษณะสารวม เมอ่ื ใกล้ถงึ ผใู้ หญ่ใหเ้ ดินเข่า เมื่อผ่านไปแลว้ จงึ ลุกขึ้นเดนิ
กำรเดินโดยทัว่ ไป คือ การเดนิ ด้วยกริ ยิ าท่ีสุภาพ ไมเ่ ดนิ เสยี งดงั
19
นำดำ : “ตอ่ ไปเป็นมารยาทในการน่ังใชไ่ หมคะ”
ครูพรศรี
: “ใช่จะ้ …มำรยำทกำรน่ัง ปฏิบตั ดิ ังนี้
กำรนงั่ เก้ำอตี้ อ่ หน้ำผู้ใหญ่ นงั่ ตัวตรง สารวม กริ ยิ าและสายตา
มอื ทง้ั สองขา้ งประสานกันวางบนหนา้ ขา
กำรนั่งพบั เพยี บต่อหน้ำผใู้ หญ่ มอื ทั้งสองข้างประสานกนั
วางไว้บนหนา้ ขา และเกบ็ ปลายเท้าโดยเบนปลายเทา้ เขา้ หาสะโพก
เมอ่ื ครอู ธิบายเสร็จครูก็ให้สองคนปฏบิ ตั ิใหด้ ู ทง้ั สองปฏิบตั ิได้ถูกตอ้ ง
สขุ ใจ : “มารยาทการนอน” สุขใจพดู ขึน้
นำดำ : “ขนาดนอนยังต้องมีมารยาทอกี หรอื คะคุณครู”
นาดาทาหนา้ สงสยั
20
ครูพรศรี : “ตอ้ งมจี ะ้ …ครขู ออธบิ ายเลยนะ
ครพู รศรี
: มำรยำทกำรนอน
สขุ ใจ กำรนอนหงำย นอนตวั ตรง เทา้ และขาทง้ั สองชดิ กันมอื ทง้ั สอง
ครูพรศรี ขา้ งวางไว้ใตห้ นา้ อกเลก็ นอ้ ยหรือวางมอื และแขนสองขา้ งแนบลาตวั
กำรนอนตะแคง การนอนกับผู้ใหญ่ ควรนอนใหศ้ ีรษะต่ากว่า
ตวั ท่านเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ”
: “ครูใหป้ ฏิบตั ิไหมคะ”
: “ไม่ตอ้ งจะ้ จาวธิ แี ลว้ นาไปปฏิบัติที่บา้ น”
21
นำดำ : “ครคู ะการรบั ของสง่ ของตอ้ งมีมารยาทดว้ ยใช่ไหมคะ เพราะหนู
เคยเห็นการรับของสง่ ของให้ผใู้ หญ่กจ็ ะมีวธิ แี ตกต่างกันคะ”
ครูพรศรี : “การรับของสง่ ก็ต้องมีมารยาทในการรับ ส่งของจะ้ ซ่งึ มวี ิธี
ปฏบิ ัตติ ่างกัน ครจู ะอธบิ ายให้ฟังนะคะ”
กำรประเคนส่ิงของแกพ่ ระภกิ ษแุ ละกำรรบั ของจำกพระภิกษุ
การประเคนสง่ิ ของแก่พระภกิ ษุ ถา้ เปน็ สง่ิ ของทีย่ กได้ ให้ใชส้ องมือ
ยกแลว้ ประเคนในระยะหัตถบาส ถา้ เปน็ ผู้ชายจะประเคนในลกั ษณะมอื ต่อมอื
ถ้าผู้หญงิ จะวางของบนผา้ ทพ่ี ระภกิ ษทุ อดออกมา จากน้นั กราบและเดินเข่า
ถอยหลงั ออกมา
นำดำ : “ครคู ะ…คาวา่ ประเคนกับคาวา่ ระยะหตั ถบาส หมายถงึ อะไรคะ”
ครูพรศรี : “ประเคน หมายถงึ การส่งของถวายพระภายในหตั ถบาส
ระยะหตั ถบาส หมายถงึ ระยะระหว่างพระสงฆท์ นี่ ง่ั ทาสังฆกรรม
หรอื ระหวา่ งพระภกิ ษุสามเณรกับคฤหสั ถ์ผูถ้ วายของหา่ งกนั
ไม่เกนิ ศอกหน่ึง”
22
สขุ ใจ : “ การรับสง่ิ ของจากพระภิกษุ ควรปฏบิ ตั ิอยา่ งไรคะคณุ ครู”
ครูพรศรี
: “กำรรับส่ิงของจำกพระภิกษุ ให้เข้าไปใกลใ้ นระยะพอประมาณ
นำดำ แล้วแสดงความเคารพ ผ้ชู ายใหย้ นื่ มือรบั สงิ่ ของ ผู้หญิงใหเ้ อ้ือมมือขวา
ครูพรศรี รบั สิ่งของทพ่ี ระภกิ ษวุ างไวต้ รงหนา้ ดว้ ยความสารวมจะ้
: “การประเคนสง่ิ ของแก่พระภกิ ษุกบั การรบั สิง่ ของจากพระภิกษุ
ตา่ งจากการส่งของ รับของจากผูใ้ หญใ่ ช่ไหมคะ”
: “ต่างกันแน่นอนจะ้ …กำรส่งของให้ผใู้ หญ่ กำรรบั ของจำกผใู้ หญ่
ปฏบิ ัติดงั น้ี
23
ครพู รศรี : กำรสง่ ของให้ผใู้ หญ่ ถา้ เป็นของเบาให้ย่นื สงิ่ ของดว้ ยมอื ขวาให้ทา่ น
ถา้ ของหนกั ใหย้ ื่นใหด้ ว้ ย มือทง้ั สองขา้ งแล้วถอยกลบั มาพอประมาณ
ถา้ เปน็ งานพธิ ีทาความเคารพก่อนกลับไปประจาท่ี
เมื่อครูอธบิ ายเสรจ็ แลว้ ให้ทง้ั สองคนปฏบิ ตั ใิ หด้ ูแลว้ พูดวา่
ครพู รศรี : “ทั้งสองคนเกง่ จริงๆ ต่อไป…”
24
ครูพรศรี : กำรรบั ของจำกผ้ใู หญ่ ควรแสดงความเคารพทุกครงั้ กอ่ นรบั ของ
ถา้ เปน็ ของเบาใหย้ ่นื มือขวารับมือซ้ายแนบลาตวั ถา้ เป็นของหนัก
นำดำ ใหย้ นื่ มือท้งั สองข้างรับ”
ครพู รศรี
: “การรับประทานอาหารยง่ิ ต้องมีมารยาทใช่ไหมคะคุณครู”
: “ใช่จ้ะ…มารยาทการรับประทานอาหาร มีดงั น้ี
25
ครูพรศรี :
ถา้ นัง่ บนเก้าอใ้ี หน้ ่งั ตวั ตรง ไม่เทา้ ศอกบนโต๊ะอาหารถา้ นั่งกบั พน้ื ผ้หู ญงิ
น่ังพบั เพยี บ ผ้ชู ายนั่งท่าสภุ าพ ตัวตรง ไม่เทา้ แขนกบั พ้ืน
ถ้ามีผใู้ หญร่ ว่ มรับประทานอาหาร ให้น่ังรอทา่ นก่อนและให้ท่านลงมอื
รับประทานอาหารกอ่ นจงึ รบั ประทานตาม
การรับประทานอาหารร่วมโตะ๊ ควรใชช้ อ้ นกลาง ไม่ควรหยบิ สิ่งของขา้ ม
หน้าผ้อู นื่
การรบั ประทานอาหารดว้ ยความสภุ าพ ไมเ่ ค้ียวเสยี งดงั ไมค่ ุยขณะที่
อาหารอยใู่ นปาก
เมอ่ื รับประทานอาหารเสรจ็ ให้รวบชอ้ นสอ้ ม ถ้ารับประทานทโ่ี รงเรยี น
ควรนาภาชนะไปเก็บไวบ้ ริเวณทก่ี าหนด
การแสดงกริ ิยาอาการ”
สขุ ใจ : “ครูต่อไปเปน็ เร่อื งอะไรคะ”
ครพู รศรี : “เร่อื งการทกั ทายจะ้ ”
26
สุขใจ : “มารยาททางสงั คมไทยทกั ทายกนั ด้วยการแสดงความเคารพ
เช่น การยกมอื ไหวผ้ อู้ าวโุ ส และกลา่ วคาว่า “สวัสด”ี
ผู้หญงิ ใช้คาว่า “สวัสดีคะ่ ” ส่วน ผู้ชาย ใชค้ าว่า “สวัสดีครับ”
ครูพรศรี : “ใชแ่ ลว้ จ้ะ…อยา่ งทเี่ ราสองคนมาหาครกู ก็ ลา่ วคาวา่ สวัสดีคะ่
พร้อมยกมอื ไหว้ นี่เป็นการแสดงมารยาทการทกั ทายจ้ะ”
นำดำ : “การสนทนา ควรใช้คาสุภาพ ใชค้ าที่แสดงความเคารพต่อกัน
เช่น ครับ ค่ะ”
สุขใจ : “นาดาพดู ถูกตอ้ งจะ้ ”
ครูพรศรี : “การพูดสุภาพเป็นส่งิ ทีด่ ีคนท่สี นทนาด้วยกอ็ ยากจะสนทนา
กับเราด้วยนะจะ๊ ”
ทง้ั นาดาสุขใจตา่ งตอบพร้อมกนั วา่ “คะ่ …ครู” แล้วมองหน้ากนั หวั เราะเบาๆ
27
นำดำ สขุ ใจ : “การใชค้ าพูดเป็นส่ิงสาคญั มากนะจะ๊
ครพู รศรี ดังนนั้ การใช้คาพดู เราควรใชใ้ ห้
เหมาะสมกับกาลเทศะ”
: “การใช้คาพูดให้เหมาะสมกบั กาลเทศะ มีอะไรบา้ งคะ”
: “การใช้คาพูดใหเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ มีดังน้ี
กำรใช้คำพูดสนทนำและคำสรรพนำมกับพระภกิ ษุ ใหเ้ หมาะสมกับ
คณุ วฒุ แิ ละวยั วฒุ ิของทา่ น เชน่ หลวงตา หลวงพ่อ หลวงพ่ี และใช้คาพดู
เรยี กตนเองวา่ กระผม ดิฉัน หนู
กำรใช้คำพดู กบั ผใู้ หญ่และผูท้ ี่เคำรพ ควรมีคานาหนา้ นามแทนท่าน
เสมอ เชน่ คุณพ่อ คุณแม่ คุณครู และใช้ถ้อยคาสภุ าพเรยี กตนเอง เช่น
กระผม ผม ดิฉนั หนู
การใช้ถอ้ ยคากบั เพอื่ น พดู ดว้ ยคาสภุ าพต่อกัน ไมใ่ ชถ้ ้อยคาหยาบคาย
28
สขุ ใจ : “หนูขอบคณุ คณุ ครมู ากนะคะทีส่ อนเร่อื งมารยาทไทยทาให้
หนูเขา้ ใจมากยงิ่ ข้นึ และหนจู ะนาไปปฏิบตั ิให้ถูกตอ้ งและเหมาะสมค่ะ
ครพู รศรี
นำดำ : “ดมี ากจ้ะ…”
: “หนูกข็ อบคณุ คณุ ครูมากคะ่ ถึงแมห้ นจู ะเปน็ มุสลมิ หนกู ็นา
มารยาทไทยบางอยา่ งทห่ี นปู ฏบิ ตั ไิ ด้ไปปฏิบัตใิ หเ้ หมาะสมค่ะ
นาดาย้มิ ใหค้ รูและสุขใจเพ่อื นรกั
ครูพรศรี : “ครชู ืน่ ชมในตัวหนทู ้ังสองคนมากนะทส่ี นใจเรอ่ื งมารยาทไทย
และนาเร่ืองมารยาทไทยไปปฏิบัติใหถ้ ูกต้องและเหมาะสม
ครชู นื่ ชมจรงิ ๆจ้ะ”
สขุ ใจ : “ครูคะ…เหลอื เวลาอกี ประมาณ ๑๕ นาที กจ็ ะเขา้ เรียนวิชาตอ่ ไป
หนอู ยากรู้เรอ่ื งวัฒนธรรมของสงั คมไทย ครจู ะอธบิ ายใหห้ นกู ับนาดา
ฟงั ได้ไหมคะ”
ครพู รศรี : “ได้อยแู่ ล้วจ้ะ…ครูชอบนักเรยี นที่มีความใฝเ่ รยี นรู้”
29
สุขใจ : “ครูคะ…สงั คมไทยมีความแตกตา่ งทางวัฒนธรรมระหว่างกลุ่มคน
ภาคตา่ งๆใช่ไหมคะ”
ครพู รศรี : “ใช่แลว้ จ้ะ…สงั คมไทยมคี วามแตกตา่ งทางวัฒนธรรมระหวา่ ง
กลุ่มคนภาคต่างๆเพราะในแตล่ ะท้องถ่ินจะมวี ฒั นธรรมท่ีแตกต่างกนั
ข้นึ อยกู่ บั สภาพสิง่ แวดลอ้ มและลกั ษณะทางกายภาพของแต่ละทอ้ งถ่ิน”
นำดำ : “มีอะไรบา้ งคะ”
ครูพรศรี : “วฒั นธรรมที่แตกต่างของแต่ละทอ้ งถิ่น ”
กำรใช้ภำษำถน่ิ
ภำษำไทยถ่ินกลำง ภำษำไทยถิน่ เหนอื ภำษำไทยถิ่นอสี ำน ภำษำไทยถน่ิ ใต้
พดู อู้ เวา้ แหลง
อร่อย ลา แซบ หรอย
30
กำรรับประทำนอำหำร วัฒนธรรมการรบั ประทานอาหารจะแตกต่างกนั
ขึน้ อยกู่ บั วัตถุดบิ ทห่ี าไดจ้ ากท้องถนิ่
สุขใจ : “หนเู คยอา่ นหนังสอื อาหารของแต่ละภาค ท่นี ยิ มรบั ประทานค่ะ”
ครูพรศรี : “สขุ ใจบอกครูกบั นาดาหนอ่ ยสิจะ๊ วา่ แตล่ ะภาคนยิ มรบั ประทาน
อาหารแบบไหน”
สุขใจ : “ ไดเ้ ลยคะ่ …ภาคกลาง อาหารที่นิยมรบั ประทาน เช่น แกงจดื
ลูกรอก แกงเขยี วหวาน น้าพรกิ กะปิ ภาคเหนอื อาหารท่ีนยิ ม
รับประทาน เช่น น้าพรกิ อ่อง แคบหมู แกงฮงั เล ไส้อ่วั
ภาคอสี าน อาหารท่นี ยิ มรับประทาน เช่น สม้ ตา ลาบ ขา้ วเหนยี ว
ภาคใต้ อาหารท่ีนิยมรับประทาน เชน่ ผัดสะตอ แกงส้ม คั่วกลง้ิ
นำดำ : “สขุ ใจเกง่ มากเลย”
สขุ ใจยม้ิ ดใี จเมอ่ื ได้รับคาชมจากเพอ่ื นรกั
31
สขุ ใจ : “สงั คมไทยมคี วามหลากหลายทางวฒั นธรรมท่แี ตกต่างกัน
ดังนั้นเราควรยอมรับความหลากหลายทางวฒั นธรรมที่แตกตา่ งกัน
ครูพรศรี ในสังคมไทยใช่ไหมคะ”
นำดำ
สุขใจ : “ใชจ่ ้ะ…เราควรยอมรบั ความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกตา่ งกนั
นำดำ ในสังคมไทย”
สุขใจ : “หนทู ราบคะ่ วา่ ทาไมเราควรยอมรับความหลากหลายทาง
วัฒนธรรมทแี่ ตกตา่ งกนั ในสงั คมไทย”
: “นาดาเพราะอะไรหรอ” สขุ ใจถามดว้ ยความอยากรู้
: “เพราะวา่ วัฒนธรรมของแต่ละท้องถน่ิ ในสงั คมไทย เป็นสงิ่ ทด่ี ีงาม
และก่อให้เกิดประโยชนต์ ่อการดาเนินชวี ิต บางท้องถนิ่ นบั ถือศาสนา
ตา่ งกนั ชาวพทุ ธ ชาวมุสลมิ ชาวคริสต์ การยอมรับความหลากหลาย
ทางวฒั นธรรมทาใหเ้ กิดความสงบสุข”
: “เม่ือเรายอมรับวัฒนธรรมหรือยอมรบั ศาสนาท่แี ตกตา่ งกัน
ก็อยูใ่ นสังคมอยา่ งมีความสุข
32
ครูพรศรี : “ใครจะบอกประโยชนแ์ ละคณุ ค่าทางวฒั นธรรมไดบ้ ้างจ๊ะ”
สุขใจ : “หนคู ะ่ …วัฒนธรรมของแตล่ ะท้องถน่ิ มีประโยชน์และมีคณุ คา่
ตอ่ การดาเนนิ ชวี ิตแสดงใหเ้ ห็นถงึ ความเจรญิ ในสังคม
เปน็ เอกลักษณ์ท่ีปฏบิ ัติสืบทอดกนั มาทาใหเ้ กดิ ความเปน็ ระเบยี บ
และความเป็นอนั หน่ึงอันเดยี วกันในสังคม”
ครูพรศรี : “เกง่ มากจะ้ ” แล้วครูกพ็ ดู ต่อวา่ “เรามวี ัฒนธรรมทดี่ ีงามในทอ้ งถิ่น
เราควรอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมทีด่ ีงามไว้ ซงึ่ แนวทางการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรม
ในท้องถ่ิน มดี ังนี้
๑. การปฏบิ ตั ิตนตามขนบธรรมเนียมประเพณขี องท้องถน่ิ ใหถ้ กู ตอ้ ง
๒. เผยแพร่วัฒนธรรมของทอ้ งถิน่ ให้เป็นที่รจู้ ักของคนทว่ั ไป
๓. อนุรักษ์ สบื สานวัฒนธรรมอนั ดีงามของทอ้ งถ่ิน เช่น การพดู ภาษาถิน่ ใหถ้ กู ต้อง
การเขา้ ร่วมประเพณีในทอ้ งถิน่
๔. มีความภาคภูมใิ จในวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่
33
พอครพู ดู จบเสยี งกริ่งเปน็ สัญญาณเตอื นว่าหมดเวลาพกั เทย่ี งไดเ้ วลาเรียนวิชาตอ่ ไป
นำดำ : “หนูท้งั สองคนขอบคณุ ครมู ากนะคะท่ีอธบิ ายเรื่องมารยาทไทย
และวฒั นธรรมของสังคมไทย”
ทงั้ สองคนพูดพรอ้ มกนั วา่ “ขอบคณุ ค่ะ” พรอ้ มยกมือไหวแ้ ลว้ ไปเรียนวชิ าตอ่ ไป
34
กิจกรรมท่ี 1
คำชี้แจง ให้นกั เรยี นแสดงการปฏิบัตติ นตามหลักมารยาทไทยใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม
แล้วบันทกึ ผลการปฏบิ ัติลงในตาราง
ตำรำงบันทกึ กำรปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั มำรยำทไทย
กำรปฏิบตั ติ นตำมมำรยำทไทย ปฏิบัติดีมำก ปฏิบตั ิพอใช้ ควรปรบั ปรุง
2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน
กำรแสดงควำมเคำรพ
1. การไหวผ้ ้ใู หญ่ (บิดามารดา ครู อาจารย์)
2. การกราบผู้ใหญ่
กำรยนื
1. การยนื สนทนากับผ้ใู หญ่
2. การยนี เคารพธงชาติ
กำรเดนิ
1. การเดินเข้าหอ้ งประชุม
2. การเดินผ่านผู้ใหญ่
กำรนั่ง
1. การน่ังพับเพียบตอ่ หน้าผูใ้ หญ่
2. การนง่ั เก้าอ้ีตอ่ หน้าผ้ใู หญ่
กำรรบั ของ สง่ ของ
1. การรับของจากผู้ใหญ่
2. การส่งของใหผ้ ู้ใหญ่
กำรแสดงกริ ิยำอำกำร (มำรยำท)
1. การทกั ทายครู
2. การสนทนาและใช้คาพดู กบั เพื่อน
เกณฑ์กำรให้คะแนน ดมี ำก
17 – 20 คะแนน นักเรยี นปฏบิ ตั ิตนตามมารยาทไทยได้ พอใช้
13 – 16 คะแนน นกั เรยี นปฏิบัตติ นตามมารยาทไทยได้
0 – 12 คะแนน นกั เรียนควรปรับปรงุ การปฏบิ ตั ิมารยาทไทย
35
แบบทดสอบหลงั เรยี น
คำชแี้ จง นกั เรยี นทาเครอ่ื งหมาย X ทับตวั อักษรหน้าคาตอบท่ถี ูกตอ้ งทส่ี ดุ
1. นกั เรยี นเดินผา่ นขณะที่ผ้ใู หญ่นั่งพื้นควรปฏิบตั ิอยา่ งไร
ก. สารวม เมอ่ื ใกลถ้ ึงผู้ใหญ่แลว้ คอ้ มตวั
ข. สารวม เมอ่ื ใกล้ถึงผู้ใหญ่แล้วค้อมตัวพร้อมกับยอ่ เข่า
ค. สารวม เมื่อใกล้ถึงผใู้ หญ่แลว้ เดินใหเ้ บาทส่ี ุด
ง. สารวม เมอื่ ใกลถ้ งึ ผใู้ หญ่แล้วใหเ้ ดินเข่า เมือ่ ผ่านไปแลว้ จึงลกุ ข้ึนเดิน
2. นกั เรยี นรบั ประทานอาหารทโี่ รงเรียนเสรจ็ แลว้ ข้อใดที่ไม่ควรทา
ก. รวบชอ้ นส้อมให้เรียบรอ้ ย
ข. นาภาชนะไปเก็บไวท้ ก่ี าหนด
ค. รวบรวมเศษอาหารท้งิ ถงั ขยะ
ง. ทานเสรจ็ แล้วไม่เกบ็ ภาชนะ
3. ใครทักทายผอู้ าวโุ สไดถ้ กู ต้องที่สุด
ก. อาบสิ ทักทายดว้ ยการยนื ตรงแล้วพดู วา่ “สวสั ดีครับ”
ข. อยั รีนทกั ทายดว้ ยการยกมอื ไหว้แลว้ “สวัสดีคะ่ ”
ค. ฟาคริ ทักทายดว้ ยการโคง้ คานบั แลว้ พูดว่า“สวัสดีครับ”
ง. ฮันนานยน่ื มือเขา้ ไปจบั แลว้ พดู ว่า “สวัสดีคะ่ ”
4. การนั่งเก้าอี้ตอ่ หน้าผู้ใหญ่ควรปฏิบตั อิ ย่างไร
ก. น่ังตัวตรงและสารวม
ข. น่ังตามสบาย
ค. นัง่ ไขวห่ ้าง
ง. น่ังพับเพยี บ
5. ใครปฏิบัตติ นไมเ่ หมำะสมขณะรบั ประทานอาหาร
ก. อิงเดือนใช้ช้อนกลางเมือ่ รบั ประทานอาหารรว่ มกบั ผอู้ ื่น
ข. องิ จนั ทร์ให้ผู้ใหญล่ งมือทานอาหารก่อนแลว้ ตนค่อยทานตาม
ค. องิ ฟ้าทานอาหารเสร็จแล้วรีบผลกั จานออกจากตวั ทนั ที
ง. องิ ดาวไม่พูดขณะอาหารอยูใ่ นปาก
36
6. ยกมอื ขนึ้ ในท่าประนมมือมีชือ่ เรียกวา่ อยา่ งไร
ก. อญั ชลี
ข. วนั ทา
ค. อภิวาท
ง. ประนมมอื
7. ขณะทนี่ กั เรยี นเดนิ แล้วได้ยินเสยี งเพลงชาตนิ ักเรยี นควรทาอยา่ งไร
ก. หยุดเดนิ และยนื ตรงเพ่อื แสดงความเคารพ
ข. หยดุ เดินและยนื ท่าตามสบาย
ค. เอามือแนบลาตัวแล้วเดนิ ช้าๆ
ง. รีบเดนิ ทนั ที
8. การประนมมอื แล้วยกขึ้นพรอ้ มกบั คอ้ มศรี ษะลงใหห้ ัวแมม่ ือจรดระหวา่ งคิ้ว ปลายน้วิ ชี้
แนบส่วนบนของหนา้ ผากเป็นการแสดงความเคารพต่อใคร
ก. การแสดงความเคารพพระรตั นตรัย
ข. การแสดงความเคารพตอ่ พ่อ แม่
ค. การแสดงความเคารพต่อคณุ ครู
ง. การแสดงความเคารพตอ่ บคุ คลทวั่ ไป
9. การกราบแบบเบญจางคประดิษฐจ์ ะตอ้ งกราบกีค่ ร้ัง
ก. ๑ ครง้ั
ข. ๒ ครงั้
ค. ๓ คร้งั
ง. ๔ ครั้ง
10. การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ใชอ้ วยั วะท้ัง ๕ ยกเว้นขอ้ ใด
ก. หน้าผาก
ข. มือและขอ้ ศอกทงั้ ๒
ค. เข่าทงั้ ๒
ง. จมูก
37
กระดำษคำตอบ
คาชแี้ จง โปรดทาเครอ่ื งหมาย X ลงในช่อง ก ข ค ง ขอ้ ทถี่ กู ต้องเพียงข้อเดียว
ทดสอบก่อนเรียน ทดสอบหลงั เรียน
ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง
1. 1.
2. 2.
3. 3.
4. 4.
5. 5.
6. 6.
7. 7.
8. 8.
9. 9.
10. 10.
ประเมนิ ผล กอ่ นเรียน หลังเรยี น ผลกำรพฒั นำ หมำยเหตุ
10 10
คะแนนเตม็ เพ่มิ ขน้ึ
เทา่ เดมิ
ทดสอบได้ ลดลง
คะแนน
ชอื่ – สกุล ......................................................................ชน้ั .................เลขที่...................
38
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลังเรยี น
คาช้ีแจง โปรดทาเคร่อื งหมาย X ลงในช่อง ก ข ค ง ข้อทีถ่ ูกตอ้ งเพยี งข้อเดยี ว
ทดสอบก่อนเรยี น ทดสอบหลงั เรียน
ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง
1. x 1. x
2. x 2. x
3. x 3. x
4. x 4. x
5. x 5. x
6. x 6. x
7. x 7. x
8. x 8. x
9. x 9. x
10. x 10. x
ประเมนิ ผล กอ่ นเรยี น หลงั เรียน ผลกำรพฒั นำ หมำยเหตุ
10 10
คะแนนเต็ม เพม่ิ ข้นึ
เทา่ เดมิ
ทดสอบได้ ลดลง
คะแนน
ช่อื – สกุล ......................................................................ชน้ั .................เลขที่...................
39
เฉลยกิจกรรมที่ 1
คำชแี้ จง ให้นักเรยี นแสดงการปฏบิ ตั ติ นตามหลักมารยาทไทยให้ถูกต้องเหมาะสม
แลว้ บนั ทึกผลการปฏบิ ัตลิ งในตาราง
ตำรำงบนั ทกึ กำรปฏบิ ตั ติ นตำมหลกั มำรยำทไทย
การใหค้ ะแนนการปฏบิ ตั ิตนตามหลักมารยาทไทย อยใู่ นดุลยพินจิ ของครูผูส้ อน
กำรปฏบิ ัตติ นตำมมำรยำทไทย ปฏิบตั ดิ ีมำก ปฏบิ ัตพิ อใช้ ควรปรับปรุง
2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน
กำรแสดงควำมเคำรพ
1. การไหว้ผู้ใหญ่ (บิดามารดา ครู อาจารย์)
2. การกราบผู้ใหญ่
กำรยืน
1. การยนื สนทนากับผใู้ หญ่
2. การยนี เคารพธงชาติ
กำรเดนิ
1. การเดนิ เข้าหอ้ งประชมุ
2. การเดนิ ผ่านผู้ใหญ่
กำรน่งั
1. การนงั่ พับเพยี บต่อหนา้ ผ้ใู หญ่
2. การนงั่ เก้าอ้ีต่อหนา้ ผใู้ หญ่
กำรรบั ของ ส่งของ
1. การรับของจากผู้ใหญ่
2. การสง่ ของให้ผู้ใหญ่
กำรแสดงกริ ยิ ำอำกำร (มำรยำท)
1. การทักทายครู
2. การสนทนาและใช้คาพูดกบั เพ่อื น
เกณฑก์ ำรให้คะแนน ดมี ำก
20 – 24 คะแนน นักเรยี นปฏบิ ตั ติ นตามมารยาทไทยได้ พอใช้
15 – 19 คะแนน นักเรยี นปฏบิ ตั ิตนตามมารยาทไทยได้
0 – 14 คะแนน นกั เรยี นควรปรบั ปรงุ การปฏบิ ัติมารยาทไทย
40
แบบบนั ทกึ คะแนน
กจิ กรรม
แบบฝึกทกั ษะ คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้
กิจกรรมที่ 1 20
รวมคะแนน 20
เกณฑ์กำรประเมินและพจิ ำรณำระดับคณุ ภำพ
นักเรยี นจะตอ้ งได้คะแนนระหวา่ งเรียน ตง้ั แต่ 12 คะแนนขน้ึ ไป จงึ ถือว่าผา่ น
ได้คะแนน 17 – 20 คะแนน ได้ระดับ 3 หมายถงึ ดี
พอใช้
ได้คะแนน 12 – 16 คะแนน ได้ระดบั 2 หมายถึง ปรับปรงุ
ได้คะแนน 0 – 11 คะแนน ได้ระดบั 1 หมายถงึ
สรุปผลกำรประเมิน ระดบั คุณภำพ
ผ่ำน ไม่ผ่ำน
41
บรรณำนกุ รม
จนิ ตนา ใบกาซยู ี. กำรจัดทำหนงั สอื สำหรับเด็ก. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น, 2534.
ถวัลย์ มาศจรัส. เทคนิคและตัวอย่ำงกำรเขยี นหนงั สอื อ่ำนสง่ เสริมกำรอ่ำนและหนังสอื
อำ่ นเพิ่มเตมิ . กรงุ เทพฯ : สานกั พมิ พ์มติ ใิ หม,่ 2538.
ราชบณั ฑติ ยสถาน. พจนำนุกรม ฉบบั รำชบัณฑติ ยสถำน พ.ศ. 2542. กรงุ เทพฯ :
นานมบี ุค๊ ส์ลเิ คช่ันส์, 2546.
สถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.). คู่มอื ครูสงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม
ช้ันประถมศึกษำปีที่ 6. กรุงเทพฯ : พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.), 2552.
เอกรนิ ทร์ ส่ีมหาศาล และคณะ. ส่อื กำรเรยี นรู้ รำยวชิ ำพนื้ ฐำน ชดุ แม่บทมำตรฐำน
Smart O – Net สังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ป.6. กรงุ เทพฯ :
อกั ษรเจรญิ ทศั น์, 2557.
42
ประวัตผิ ู้เขียน
ชื่อ – ช่ือสกลุ นายจกั รกฤช บนิ รามนั
วัน เดอื น ปี เกิด 5 เมษายน 2520
สถานที่เกดิ กรุงเทพมหานคร
สถานทอี่ ยอู่ าศัย 72 ซอยประชาอุทศิ 69 ถนนประชาอทุ ิศ
แขวงบางมด เขตทงุ่ ครุ กรุงเทพมหานคร 10140
ตาแหน่งหนา้ ทีก่ ารงานปจั จบุ นั
สถานทท่ี างานปัจจุบนั ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ
โรงเรียนสามัคคีบารุง สานักงานเขตทุ่งครุ
ปัจจุบนั สอนวิชา กรุงเทพมหานคร
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
ประวัติการศกึ ษา สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
พ.ศ. 2541 จบการศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี
ครุศาสตรบ์ ัณฑติ (คบ.) วชิ าเอก จิตวทิ ยาและการแนะแนว –
บรรณรกั ษศาสตร์ และสารนเิ ทศศาสตร์ จากสถาบัน
ราชภัฏบ้านสมเดจ็ เจา้ พระยา
43