PBL หน่วย เส้น

หน่วยบรู ณาการ PBL (Pr
ฐานสมรรถนะ

ระดบั ชั้นประถม

roblem-based Learning)
ะ หน่วย เส้น

มศกึ ษาปี ที่ 6

Objective : เรียนรู้วัฒนธรรมอ

อาหารทมี่ คี ุณค่าตอ่ ร่างกายไดห้

อาหารจากเส้นสามารถประกอบ
หลากหลาย

ภมู หิ ลังข

ในสงั คมท่ีมีการเปล่ยี นแปลงอย่างรวดเรว็ ทาให
ผคู้ นหาอาหารในป่า ทงุ่ นา แมน่ า้ ลาคลองและประกอบอา
มากมาย ทงั้ อาหารสาเรจ็ รูป ก่งึ สาเรจ็ รูป อาหารสด อาหาร
ประเภทเสน้ เป็นอีกเมนหู น่งึ ท่ีมีใหเ้ ลอื กมากมาย เชน่ ก๋วยเ
เพ่ิมสว่ นผสมอีกมายมาย ไม่ว่าจะเป็นลกู ชิน้ หมู ไก่ เพ่ือให
นอกจากนีผ้ ผู้ ลติ ไดพ้ ฒั นาใหส้ ามารถเก็บไดน้ านมากขนึ้ อีก
สารกนั บดู สารกนั รา สารฟอกขาว ซง่ึ ถา้ รา่ งกายไดร้ บั ในปร
ทอ้ งเสยี คล่นื ไส้ อาเจียร

เรารูห้ รอื ไม่วา่ อาหารท่ีเราบรโิ ภคเขา้ สรู่ า่ งกายใ
เป็นเหตใุ หเ้ กิดโรครา้ ยแรงตามมาโดยไมร่ ูต้ วั จงึ เป็นท่ีมาขอ
เพ่ือเป็นฐานในการสรา้ งผเู้ รยี นรู้ และผรู้ ว่ มสรา้ งสรรคน์ วตั ก
และย่งั ยืน มีความสามารถในการจดั การตนเอง พง่ึ ตนเอง
บรรลเุ ปา้ หมายไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ และรูเ้ ทา่ ทนั ตอ่ กา

ของหน่วย

หว้ ถิ ีชีวิตของคนเปล่ยี นไป โดยเฉพาะวิถีการกินอยู่ ในอดีต
าหารเพ่ือบรโิ ภคเอง แตป่ ัจจบุ นั อตุ สาหกรรมอาหารเกิดขนึ้
รแหง้ ทาใหส้ ามารถซอื้ มาบรโิ ภคไดอ้ ย่างง่ายดาย อาหาร
เต๋ยี ว ขนมจีน ผดั ไทย บะหม่ีก่งึ สาเรจ็ รูป เป็นตน้ มีการ
หเ้ ป็นท่ีนิยมไดม้ ีการพฒั นาหลายสตู ร หลายช่ือ ซง่ึ
กดว้ ย ทาใหม้ กั มีการใสส่ ารปนเปื้อนในอาหารลงไป เชน่
รมิ าณท่ีมากเกินไปก็จะสง่ ผลรา้ ยตอ่ รา่ งกาย ทาให้

ในแตล่ ะวนั มีสารปนเปื้อนอยู่ ซง่ึ ส่งผลตอ่ สขุ ภาพและอาจ
องการเรยี นรูห้ น่วย อาหาร (ประเภทเสน้ ) ใน Quarter นี้
กรรม มีบทบาทในการรว่ มสรา้ งสรรคม์ ีวิถีชีวติ พอเพียง
มีวินยั สามารถบรหิ ารจดั การเวลาและทรพั ยากร เพ่ือ
ารเปล่ยี นแปลงของโลก

วเิ คราะหโ์ ครงสร้างเชิงระบบ หน่วย : เส้น E

ส่ิงทเ่ี ป็ นอยู่ แบ
พฤต
บรโิ ภคเสน้ สาเรจ็ รูปมากเกินไป
โคร
- ความสะดวกและง่ายตอ่ การรบั ประทานและซอื้ มา
บรโิ ภค คว
- ราคาถกู และมใี หเ้ ลอื กมากมาย คุณค
- ไมช่ อบทาอาหารเอง

ครอบครัว หยบิ ย่ืนความสะดวกสบายในการใชช้ วี ิต
สังคม การแขง่ ขนั กบั เวลาในการใชช้ ีวติ และหารายได้
เศรษฐกิจ อตุ สาหกรรมอาหารสาเรจ็ รูปมีมากมายขนึ้
มงุ่ กาไรมากกว่าความปลอดภยั ของผบู้ รโิ ภค โฆษณา
ชวนเช่ือ
- อาหารท่ีผ่านโฆษณาทางโทรทศั นป์ ลอดภยั เพราะผ่าน
อย. มาแลว้
- อาหารจากโรงงานอตุ สาหกรรมปลอดภยั เพราะผา่ น
กรรมวิธีทางการผลติ มาแลว้
- ราคาถกู และไดป้ รมิ าณเยอะถือว่าเราไดก้ าไร

สงิ่ ทอ่ี ยากใหเ้ ป็ น

ประกอบอาหารรบั ประทานเองไดห้ ลากหลาย และ
รบั ประทานอาหารท่ีปลอดภยั

Event - ทาอาหารบั ประทานเอง
- ศกึ ษาท่ีมา และผลกระทบตอ่ รา่ งกาย
บบแผน
ตกิ รรม ครอบครัว สรา้ งโอกาสและสนบั สนนุ การเรยี นรู้
การศึกษา สรา้ งกระบวนการเรยี นรูเ้ พ่ือใหเ้ กดิ
รงสร้าง ทกั ษะท่ีจะนาไปใชไ้ ดจ้ รงิ

วามเชอื่ อาหารจากโรงงานอตุ สาหกรรมไมป่ ลอดภยั
ค่า ค่านิยม อาหารท่ีผลติ เองปลอดภยั กว่าซือ้ ตาม
ทอ้ งตลาด

กรอบแนวคดิ ห
(Competency-base

Desired Competency
Outcome of
Education DOE. 1. การจัดการตนเอง มีคว
(Self Management :SM) การท
ผู้เรียนรู้ และท
Learner person 2. การสอื่ สาร สมด
(Communication)
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ สาม
นวัตกรรม (Innovative 3. การรวมพลังทางาน โดยใ
เป็ นทมี
Co-creator) มีคว
(Collaboration for Teamwork : แรงร
พลเมอื งทเี่ ข้มแข็ง CT) แตก
(Active Citizen)
4. การคิดขั้นสูง มีคว
(Higher Order แกป้
Thinking: HOT) ใหม่ๆ

5. การเป็ นพลเมืองทเี่ ข้มแข็ง มีคว
(Active Citizen : AC) เคาร
แกป้
ประเ
พอเพ

หลักสูตรฐานสมรรถนะ
ed Curriculum Framework)

คาอธิบาย Competency

วามสามารถในการจดั การตนเอง พง่ึ ตนเอง นาตนเองในการเรยี นรู้ กาหนดเปา้ หมายชีวิตและ
ทางาน ตามความสามารถและความถนดั ของตน มีวินยั ในตนเองสามารถบรหิ ารจดั การเวลา
ทรพั ยากร เพ่อื บรรลเุ ปา้ หมายไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ รูเ้ ทา่ ทนั ต่อการเปล่ียนแปลง มีความ
ดลุ ทงั้ รา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ และสงั คม

มารถส่ือสารบนความเขา้ ใจ เคารพในความคดิ เห็นและวฒั นธรรมท่ีแตกต่างใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย
ใชภ้ าษาไทยและภาษาองั กฤษไดอ้ ย่างมีคณุ ภาพ

วามสามารถในการเป็นผนู้ าและสมาชิกท่ีดีในกลมุ่ สามารถทางานรว่ มกบผอู้ ่ืนดว้ ยความรว่ ม
รว่ มใจ มีกระบวนการทางานและมนษุ ยส์ มั พนั ธท์ ่ีดี พรอ้ มปรบั ตวั ประสานงานความคิดท่ี
กตา่ ง ใชส้ นั ติวธิ ีในการประสานความขดั แยง้ จนประสบความสาเรจ็

วามสามารถในการจดั ระบบการคดิ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ สามารถใชข้ อ้ มลู ในการตดั สินใจ
ปัญหา มีความยืดหย่นุ ทางความคดิ ประสานหรอื สงั เคราะหค์ วามคดิ ท่ีแตกต่าง ริเรม่ิ ความคดิ
ๆ โดยคานงึ ถงึ ผลกระทบรอบดา้ น

วามสามารถปฏิบตั ิตนในฐานะพลเมืองไทยและพลเมืองโลกท่ีมีความรบั ผดิ ชอบต่อส่วนรวม
รพความแตกต่างของบคุ คล โดยคานงึ ถงึ สิทธิหนา้ ท่ีและกตกิ า มีส่วนรว่ มในการรบั ผิดชอบ
ปัญหาจดั การส่งิ แวดลอ้ ม พฒั นาสงั คม และสรา้ งการเปล่ียนแปลงท่ีเป็นธรรมในระดบั ทอ้ งถ่ิน
เทศและโลก มีบทบาทในการรว่ มสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมอตั ลกั ษณค์ วามเป็นไทย มีวิถีชีวติ
พียงและย่งั ยืน

สมรรถนะ สมรรถนะระดับประถมศึกษา
1. การจดั การตนเอง
1. มคี วามสามารถในการดาเนินชีวติ อย่ใู หไ้ ด้ เชน่ อ
2. การส่อื สาร 2. มีเปา้ หมาย มกี ารวางแผน มกี ารจดั การทรพั ยา
3. มีความรูส้ กึ ท่ีดีตอ่ ตนเอง (Self-esteem) สามารถ
3. การรวมพลังทางานเป็ น ความถนดั ความสนใจของตนเองได้
ทมี 1. ใชภ้ าษาถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจ ความคดิ ค
4. การคดิ ขัน้ สูง 2. เลือกรบั ขอ้ มลู หรอื สรา้ งขอ้ มลู ข่าวสารท่ีเป็นประโ
3. เคารพในความคดิ เหน็ ท่ีแตกต่าง สามารถสรา้ งก
5. การเป็ นพลเมืองที่ มีความสามารถในการทางานรว่ มกบั ผอู้ ่ืน ทางานต
เข้มแขง็
1. มีความสามารถในการคดิ (Thinking ability) ได
นา้ หนกั ขอ้ มลู เพ่ือตดั สนิ ใจเลือก และใหเ้ หตผุ ลของ
2. มีความสามารถในการคดิ รเิ รม่ิ (Creative thinkin
กรม มีความยืดหยนุ่ มีมมุ มองตอ่ การหาเสน้ ทางให
1. มีความรบั ผิดชอบต่อบทบาทหนา้ ท่ี ในฐานะผเู้ ร
2. มคี วามสามารถในการรบั ผดิ ชอบ มีสว่ นรว่ มในก
รบั รูค้ วามเป็นไปของสงั คม และสามารถชว่ ยเหลือส
เป็นตน้

า โรงเรียนลาปลายมาศพฒั นา

สมรรถนะระดบั ประถมศึกษา
อย่เู ป็น ทากินเป็น ไปเป็น (ทกั ษะชีวติ พืน้ ฐาน)
ากร มกี ารลงมือทาและกากบั ตนเองใหท้ ากิจกรรมนน้ั ไดบ้ รรลตุ ามเปา้ หมาย
ถจดั การตนเอง (Self-management) เพ่ือพฒั นา self ใหส้ ามารถนาตนเอง รูจ้ กั

ความรูส้ กึ และทศั นะของตนเองดว้ ยการพดู และการเขยี น
โยชนต์ ่อตนเองและคนอ่นื ผ่านช่องทางการส่ือสารท่ีหลากหลาย
การส่ือสารเพ่ือความเขา้ ใจรว่ มได้
ตามบทบาทหนา้ ท่ี และเคารพในความคิดต่าง

ดแ้ ก่ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ วพิ ากษ์ มโนทศั น์ และวจิ ารณญาณ เช่น สามารถช่งั
งการเลอื กใหเ้ หตผุ ลอย่างสมเหตสุ มผลท่ีมากกวา่ ระดบั ตวั เอง ตอ่ ส่งิ ท่ีเลือกได้
ng ) กลา้ แสดงความคิดเหน็ ซง่ึ จะนาไปสกู่ ารตดั สนิ ใจรว่ ม การคิดออกแบบนวตั
หมใ่ นการแกป้ ัญหา
รยี น ในฐานะสมาชกิ ของกลมุ่ ของสงั คม
การทาหนา้ ท่ีต่อการเรยี นรู้
สงั คมไดต้ ามศกั ยภาพ เชน่ การทิง้ ขยะ การดแู ลพืน้ ท่ีรบั ผิดชอบ หรอื ช่วยงานบา้ น

วเิ คราะหส์ มรรถนะและตวั ชีว้

สมรรถนะ 1. มีความสามารถในการดาเนนิ ชีวิต มีทกั ษะชีวติ พนื้ ฐานในก
1. การจดั การตนเอง 2. มีเปา้ หมาย มีการวางแผน มีการจดั การในการผลติ เสน้ จาก
3. มีความตระหนกั รูส้ กึ ดีต่อตนเอง (Self Esteem) ท่ีไดท้ าเสน้
ได้

2. การสอ่ื สาร 1. ใชภ้ าษาถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจ ความคดิ ความรูส้ กึ แ
และประกอบอาหารจากวตั ถดุ บิ ในทอ้ งถ่ินผา่ นชนิ้ งาน ภาระงา
2. สามารถเลือกรบั ขอ้ มลู เก่ียวอาหาร หรอื สรา้ งขอ้ มลู ขา่ วสารท
3. เคารพในความคดิ เหน็ ท่ีแตกตา่ ง สามารถสรา้ งการส่ือสารเพ

3. การรวมพลังทางานเป็ น มีความสามารถในการทางานรว่ มกบั ผอู้ ่ืน ทางานตามบทบาทห

ทมี ชมุ ชนเพ่อื ทางานรว่ มกนั เชน่ การผลิตเสน้ และประกอบอาหาร

4. การคดิ ขั้นสูง 1. มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะหส์ าเหตแุ ละปัญ

2. มีความสามารถคิดอย่างมีวจิ ารณญาณดว้ ยการใหเ้ หตผุ ลท

3. มีความสามารถในการคดิ รเิ รม่ิ เพ่อื คน้ หาวธิ ีการผลิตเสน้ จาก

เสน้ ทางใหม่ท่ีจะนาไปสกู่ ารตดั สินใจ โดยคานงึ ถึงผลกระทบอย

5. การเป็ นพลเมอื งท่ี 1. มีความรบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ี ในฐานะผเู้ รยี นสมาชิกของกลมุ่

เข้มแขง็ พฒั นา

2. มีความรบั ผิดชอบ มีส่วนรว่ มในการทาหนา้ ท่ีตอ่ การเรยี นรู้

วัดใหส้ อดคล้องกบั หน่วย “เส้น”

สมรรถนะ
การใชช้ ีวิตอย่เู ป็น ทากินเป็น ไปเป็น (ทาเสน้ และประกอบอาหารจากเสน้ )
กวตั ถดุ ิบในทอ้ งถ่ิน และกากบั ตนเองใหท้ ากิจกรรมนน้ั ไดบ้ รรลตุ ามเปา้ หมาย
นและประกอบอาหารกินเอง สามารถจดั การตนเอง (Self-management) เพ่อื ใหอ้ ย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่ืน

และทศั นะของตนเองดว้ ยการพดู และการเขียนเพ่อื ถ่ายถอด นาเสนอเร่อื งราวเก่ียวกบั ผลิตเสน้
านท่ีหลากหลาย เช่น คลปิ ละคร เพลง การต์ นู ช่อง นิทาน Flowchart Mind mapping เป็นตน้
ท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ ตนเอง และคนอ่ืนผ่านชอ่ งทางการส่ือสารท่ีหลากหลาย
พ่อื ความเขา้ ใจรว่ มในการเลือกรบั ประทานอาหารท่ีเหมาะสมตอ่ ความตอ้ งการของรา่ งกาย

หนา้ ท่ี และเคารพในความคดิ ต่าง ในกิจกรรมท่ีตอ้ งรว่ มกบั เพ่อื น คณุ ครู ผปู้ กครอง บคุ คลใน
รจากเสน้
ญหาท่ีมาจากการรบั ประทานอาหาร
ท่ีสมเหตสุ มผลในการเลือกใชว้ ตั ถดุ บิ ในทอ้ งถ่ินไดอ้ ย่างคมุ้ คา่
กวตั ถดุ บิ ท่ีหลากหลาย สามารถมองเหน็ ปัญหาและวธิ ีแกไ้ ขปัญหา ตลอดจนสามารถมองหา
ยา่ งรอบดา้ น
ม ของสงั คม รว่ มลงมือทา รว่ มคดิ แกไ้ ขปัญหาท่ีเกิดขนึ้ ระหวา่ งการทางาน สะทอ้ นผลเพ่อื

ต่อการชว่ ยกนั ดแู ลรกั ษาอปุ กรณก์ ารทาอาหาร ทง้ั ก่อนทาและหลงั ใชง้ านเสรจ็ เรยี บรอ้ ย

การงานอาชพี และเทคโนโลยี สังคมศ
- อธิบายเหตผุ ลในการทางานแตล่ ะขนั้ ตอนถกู ตอ้ งอตาม - รูแ้ ละเขา้ ใจประวตั ศิ าสตร์ ความสา
กระบวน ศาสนา
- เลือกใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์ - เขา้ ใจและสืบสานวฒั นธรรมและป
- เลือกใชเ้ คร่อื งมือ อปุ กรณท์ ่ีเมาะสมกบั การใชง้ านได้ - บรหิ ารจดั สรรทรพั ยากรในการผลิต
อยา่ งเหมาะสม คมุ้ คา่ รวมถึงใชเ้ คร่อื งมือในการคน้ หา ทรพั ยากรท่ีมีอยอู่ ยา่ งจากดั ใหม้ ีประi
ขอ้ มลู อยา่ งสรา้ งสรรค์ ระบบเศรษฐกิจตา่ ง เหน็ ความสมั พนั
- คน้ หาขอ้ มลู ท่ีนา่ สนใจและเป็นประโยชนจ์ ากแหล่ง เศรษฐกิจโลก
เรยี นรูท้ ่ีนา่ สนใจ นา่ เช่ือถือ ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ - อธิบายลกั ษณะทางกายภพโลกไดอ
- เขา้ ใจและสามารถอธิบายความแต
ในแตล่ ะสงั คม ประเทศ พรอ้ มทงั้ ยอ

ศิลปะศึกษา หน่วย
- สร้างสรรคง์ านทศั นะศิลป์ ตามจินตนาการอยา่ งสร้างสรรคแ์ ละเขา้ ใจ เส้น
ความสมั พนั ธ์ทางประวตั ิศาสตร์และวฒั นธรรม
- เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสร้างสรรค์ นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ น
สิ่งท่ีเรียนรู้
- เขา้ ใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์ อยา่ งสร้างสรรค์

ประวตั ศิ าสตร์ สุขศึกษา –
- เขา้ ใจธรรมชาติของการ
- เขา้ ใจความสาคญั ของเวลากบั ยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ ใชว้ ธิ ี พฒั นาการของมนุษย์ เห็น
ทางประวตั ิศาสตร์ในการวเิ คราะหเ์ หตุการณ์ต่าง ๆ อยา่ งเป็น
ระบบ มีทกั ษะในการดาเนินชีว
- เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยอ์ ดีต-ปัจจุบนั และการเปล่ียนแปลง - รักการออกกาลงั กายมีร
ทางสภาพแวดลอ้ ม วฒั นธรรม ประเพณีตามกาลเวลา เห็นคุณคา่ ของการส่งเสร

Web เช่ือมโยงหน่วยการเรียนรู้ กบั K หน่วย : เส้น (ช่วงเปลย่ี นถ่ายหลกั สูตร)

ศกึ ษา หน้าทแ่ี ละพลเมอื ง
าคญั ศาสดาท่ีมีความสาคญั ตอ่ - เขา้ ใจตอ่ การปฏิบตั ติ นตามหนา้ ท่ีการเป็นพลเมืองมี
คา่ นิยมท่ีดี รกั ษประเพณีวฒั นธรรมอยรู่ ว่ มกันอยา่ งสนั ติ
ประเพณี อารยธรรมพืน้ บา้ น - เขา้ ใจการเมือง การปกครองจากอดีต-ปัจจบุ นั
ตและการบรโิ ภค และจดั สรร - ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ อดทน ใฝ่เรยี นรู้ ทาหนา้ ท่ีในการเป็น
ะสทิ ธิภาพและคมุ้ คา่ รวมถึงเขา้ ใจ พลเมืองท่ีดแี ละยอมรบั ผลท่ีเกิดขนึ้ ของตน
นธ์ และความรว่ มมือของ - มีมารยาทในการอยรู่ ว่ มกนั เอือ้ เฟื้อ เสียสละและ
รบั ผิดชอบตอ่ สงั คม
อ้ ยา่ งมีเหตผุ ล
ตกตา่ งของการเมืองการปกครอง
อมรบั และปรบั ตวั ในความแตกตา่ ง

– พละศึกษา วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รเจริญเติบโตและ -ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ต้งั คาถามเก่ียวกบั ส่ิงที่ศึกษาตาม
นคุณคา่ ของตนเองและอ่ืน ความสนใจ
-วางแผนการศึกษาคน้ ควา้ สารวจ ตรวจสอบโดยใชว้ จิ ารณญาณ
วติ
ตามหลกั แนวคิดของนกั วทิ ยาศาสตร์
ระเบียบวนิ ยั ในการใชช้ ีวติ -ใชเ้ ครื่องมือ วสั ดุอุปกรณ์ในการศึกษาคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มูล
ริมสุขภาพท่ีดี
บนั ทึก สรุปผลการเรียนรู้
-สามารถต้งั คาถาม ออกแบบ ลงมือตรวจสอบโดยเลือกวธิ ีท่ี
หลากหลาย ตระหนกั ถึงคุณค่าทางวทิ ยาศาสตร์
-สามารถอธิบายเก่ียวกบั ความสมั พนั ธ์เช่น น้า อากาศ อาหาร ท่ีมี
ความสาคญั ต่อการดารงชีวติ รวมถึงนาขอ้ มูลไปใชใ้ หเ้ กิด
ประโยชน์

ตารางวเิ คราะห์ K S

Knowledge

Specific Knowledge (ความรู้ทเ่ี จาะจงเฉพาะ ทกั ษะชวี ิต
หน่วยนี)้ - สามารถอย่เู ป็น (ทกั ษะชีวิตพนื้ ฐาน) เลือ
- ความเขา้ ใจเก่ียวกบั แปง้ เสน้ รา ในชีวติ อย่ใู หไ้ ดก้ บั สภาวการณท์ ่ีเปล่ียนแป
- กระบวนการทาแปง้ เสน้ อาหาร - สามารถปฏิบตั ติ วั ใหถ้ กู สขุ อนามยั เชน่ ล
- ส่ิงท่ีทาใหแ้ ปง้ เป็นเสน้ เพราะมี กลเู ตน (Gluten) - สามารถผลติ แปง้ เพ่อื นามาทาเป็นเสน้ แ
- การทาแปง้ ไม่ใหเ้ กิดราและเก็บไดน้ าน ทกั ษะการคิดเชิงตรรกะ (วิเคราะห์ สงั เค
- วฒั นธรรมอาหารจากเสน้ สามารถคิดวิเคราะห์ สงั เคราะหส์ ่ิงท่ีไดเ้ รยี
- วฒั นธรรมการดารงชีวติ ตนเองได้
ทกั ษะการคิดริเรม่ิ (จินตนาการ การคดิ ส
Core - subject : - คิดวางแผนการทางานอยา่ งเป็นระบบ ค
- คิดสรา้ งสรรคช์ นิ้ งาน เพ่อื นาเสนอใหผ้ อู้ ่ืน
ความรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy)
ทกั ษะการแก้ปัญหา
มองเห็นความสาคญั ของสารอาหารท่ีจาเป็นต่อ สามารถแกโ้ จทยก์ ารเรยี นรูร้ ว่ มกบั เพ่อื นใน

รา่ งกาย ทกั ษะ Digital skills
สามารถเขา้ ใจและนาเครอ่ื งมือ อปุ กรณแ์ ล
ความรู้ดา้ นสิง่ แวดล้อม (Environmental พฒั นาการกระบวนการทางานในการผลิต

Literacy) ทกั ษะการทางานร่วมกัน
เขา้ ใจและตระหนงั ถึงคณุ ค่าของวตั ถดุ ิบในชมุ ชน - สามารถทางานรว่ มกบั ผอู้ ่ืนตามบทบาทห
ตามโจทยห์ รอื บทบาทในแต่ละสปั ดาห์
การเงนิ เศรษฐศาสตร์ ธุรกจิ และการเป็ น
ผู้ประกอบการ (Financial, Economics, Business ทกั ษะการสื่อสาร
and Entrepreneurial Literacy) สามารถใชภ้ าษาถ่ายทอดความรูส้ กึ ความ
เหน็ ความสาคญั คณุ ค่าของการใชท้ รพั ยากรอย่าง
คมุ้ ค่า และเกิดประโยชนส์ งู สดุ
ความรู้ด้านการเป็ นพลเมอื งทดี่ ี (Civic Literacy)

S A ของหน่วย : ป่ า Attribute
Skills
- มี Attitude ต่อการ
อก ตดั สนิ ใจเพ่อื ใหช้ ีวิตดาเนนิ ไปอย่างมีคณุ ภาพท่ีดีขนึ้ เช่น มีเปา้ หมาย ทาอาหาร
ปลงไป เป็นตน้ - มี Passion ตอ่ การ
ลา้ งมือบอ่ ย ซกั เสือ้ ผา้ ทางานบา้ น เรยี นรู้
แลว้ นาไปประกอบอาหารท่ีมีคณุ คา่ ไดห้ ลากหลายเมนู - Effort พยายาม
คราะห์ มโนทศั น์ และวิจารณญาณ) - มีความใฝ่เรยี น ใฝ่รู้
ยนรูอ้ ยา่ งมีวิจารณญาณ รวมทงั้ สามารถเช่ือมโยงกบั ชีวติ ประจาวนั ของ - มีความสามารถใน
การคิดใครค่ รวญใน
สรา้ งสรรค์ และการคดิ เชงิ นวตั กรรม) งานท่ีทา สรา้ ง
คิดวเิ คราะห์ สงั เคราะหอ์ ยา่ งมีขนั้ ตอน ทางเลือกและ
นเขา้ ใจได้ ตดั สนิ ใจ เชิง
จรยิ ธรรมได้
นแต่ละสปั ดาห์ - มีเปา้ หมายในการ
ทางานท่ีชดั เจน
ละเทคโนโลยีดิจติ อลท่ีมีอยู่ มาใชใ้ นการส่ือสาร คน้ ควา้ และเรยี นรูห้ รอื - มีความอดทน และ
ตส่ือเพ่อื Educate รบั ผิดชอบงานท่ีไดร้ บั
มอบหมายจนสาเรจ็
หนา้ ท่ี เคารพในความคิดเห็นท่ีแตกตา่ ง และสามารถเป็นผูน้ าหรอื ผตู้ าม

มคดิ ความเขา้ ใจและทศั นคตขิ องตนเอง ดว้ ยการพดู การเขียน ตามโจทย์

ลกั ษณะของปัญห

P0 ปัญหา - ความไมร่ ู้
ครูสรา้ งโจทย/์ สถานการณ์ เพ่ือใหเ้ ด

จากวธิ ี Passive Learning - เป็ นวธิ ี Act

P1 ปัญหา หรอื สถานการณ์ ท่ีใหผ้

เดก็ แสดงสมรรถนะ สรา้ งนวตั กร

P2 บางคน บางกลมุ่ ไมถ่ งึ เกณฑส์
ครู Feedback เดก็ พบปัญหา

แสดงสมรรถนะ สรา้ งนวตั กรรม(ว

หาของหนว่ ย PBL

ดก็ เรยี นรู้ เขา้ ใจ K พืน้ ฐานของหนว่ ย

tive Learning

ผเู้ รยี นฝึกแก้ (จากครู)

รรม(วธิ ี หรอื เครอ่ื งมือ) เพ่ือแกป้ ัญหานนั้

สมรรถนะท่ีกาหนด

าท่ีตอ้ งแก้ เรยี นรูเ้ พ่มิ ฝึกเพ่มิ

วธิ ี หรอื เครอ่ื งมือ) เพ่ือแกป้ ัญหานนั้

เค้าโครงปฏทิ นิ การเร
หน่วย

รียนรู้บูรณาการ PBL
ย เส้น

สร้างแรงบันดาลใจ P1อาหารในแตล่ ะพนื้ ถ่นิ P1 เราจะทาแปง้ จากม
P0แบง่ กลมุ่ ออกแบบและ สมั พนั ธก์ บั วิถีชีวิตของคน ขา้ วเหนียว ขา้ วเจา้ ได้
ทาอาหารเมนเู สน้ ประเภท ในทอ้ งถ่ินอยา่ งไร? อย่างไร?
ต่าง ๆ I0 P0แบ่งกลมุ่ ทาอาหาร 4 ออกแบบขนั้ ตอน และล
P1เราจะออกแบบหน่วยการ ภาคและศกึ ษาขนมธรรม มือผลติ แปง้ จาก มนั ข
เรยี นรูใ้ หน้ า่ สนใจไดอ้ ย่างไร? เนียมวฒั นธรรมวถิ ีชีวิตและ เหนียว ขา้ วเจา้ I1
ปฏิทนิ การเรยี นรู้ I1 ออกแบบชนิ้ งาน I0

Week1 Week2 Week 3

Week 10 Week 9 Week 8

กิจกรรม Home P0 วฒั นธรรมอาหารจากเสน้ P1นกั เรยี นจะออกแบ
P1 นกั เรยี นจะออกแบบนาเสนอส่งิ ท่ี มีความสมั พนั ธก์ บั วฒั นธรรม การกินอยา่ งไรใหม้ ีส
เรยี นรูม้ าตลอด 10 สปั ดาหใ์ หผ้ อู้ ่ืน การดารงชีวิตอย่างไร? ดี?
เขา้ ใจไดอ้ ยา่ งไร? คน้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั การ คน้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั
- นกั เรยี นคาดหวงั วา่ จะไดเ้ รยี นรูอ้ ะไร? วฒั นธรรมอาหารจากเสน้ มี ตรวจสอบคณุ ภาพอ
- อะไรคือส่ิงสาคญั ท่ีสดุ ของเนือ้ หาท่ีได้ ความสมั พนั ธก์ บั วฒั นธรรม และกฎหมายคมุ ครอ
เรยี นรู?้ การดารงชีวิต อภปิ ราย ผบู้ รโิ ภค อภปิ รายรว่
- มีกระบวนการทาอยา่ งไร และทาไม รว่ มกนั พรอ้ มขมวดความ พรอ้ มขมวดความเขา
ตอ้ งทาแบบนี?้ เขา้ ใจในรูปแบบท่ีหลากหลาย รูปแบบท่ีหลากหลาย
- เราจะนามาปรบั ใชใ้ นชีวิตไดอ้ ย่างไร? I0
สรุปองคค์ วามรูห้ ลงั จบ Quarter I1

มนั P2 นกั เรยี นจะมีวธิ ีการหรอื P1นกั เรยี นจะผลติ เสน้ จากแปง้ ท่ีมีอยู่
กระบวนการทาอยา่ งไรไม่ใหแ้ ปง้ ท่ีทา อย่างไร?

เกิดเชือ้ รา และเก็บไวใ้ ชไ้ ดน้ าน คน้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั การผลิตเสน้ ต่าง

ลง คน้ หาขอ้ มลู เก่ียวกบั การเกิดรา และ ๆ นาขอ้ มลู มาอภปิ รายรว่ มกนั เพ่ือ
ขา้ ว ปัจจยั ท่ีสง่ ผลใหเ้ กิดรา รว่ มอภปิ ราย ออกแบบขนั้ ตอนการผลิตเสน้ เป็น
เพ่อื หาวธิ ีการแกไ้ ขปัญหารว่ มกัน ลง กลมุ่ ลงมือผลติ เสน้ ตามกระบวนท่ี

มือทาซา้ สรุปกระบวนการแกไ้ ข วางแผนไว้ พรอ้ มประกอบเป็นอาหาร

ปัญหาจากการลงมือทา I2 และสรุปเป็นชนิ้ งาน I1

Week 4 Week 5

Week 7 Week 6

บบ P1 นกั เรยี นจะผลิตเสน้ ในรูปแบบใหม่ P1 นกั เรยี นจะมีวธิ ีการถนอมเสน้
สขุ ภาพ อยา่ งไรใหม้ ีสารอาหารท่ีมีประโยชนต์ ่อ ใหส้ ามารถเก็บไวไ้ ดน้ านขนึ้ ได้
รา่ งกาย? อย่างไ?
บการ นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ออกแบบวางแผนการผลิต คน้ หาขอ้ มลู วธิ ีการถนอมอาหาร
อาหาร เสน้ รูปแบบใหมท่ ่ีไดส้ ารอาหารหลากหลาย อภิปรายสรุปกระบวนการรว่ มกนั
อง นกั เรยี นลงมือผลติ เสน้ รูปแบบใหม่ รว่ มกนั และลงมือถนอมเสน้ ใหเ้ ก็บไวไ้ ด้
วมกนั สะทอ้ นปัญหาและวธิ ีการแกไ้ ขรว่ มกนั นานขนึ้ สะทอ้ นปัญหาและ
า้ ใจใน ปรบั ปรุงพฒั นาใหม่อีกครง้ั หลงั จากพบ วธิ ีแกไ้ ขรว่ มกนั พรอ้ มสรุป
ย I1 ปัญหา สรุปกระบวนการทาในรูปแบบท่ี กระบวนการทางาน I1
สรา้ งสรรค์ I1

ตวั อยา่ งกจิ กรรมหน่วย

เส้น Quarter 1 ปี 2563

สรา้ งแรงบนั ดาลใจ

จดั บรรยา
เหน็ เสน้

ากาศในชนั้ เรยี น
นท่ีหลากหลาย

แบง่ กลมุ่ ทาอาหารเมนเู สน้ ประเภท
ตา่ ง ๆ เชน่ ลอดช่อง หม่ีเย็น
พาสตา้

ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้

ออกแบบสิ่งท่ีรูแ้ ลว้ และอยากเรยี นรู้

โจทย:์ ทาเมลด็ ขา้ วและมนั สาปะหลงั ใหเ้ ป

แตล่ ะกลมุ่ สืบคน้ ขอ้ มลู ตามแหลง่
เรยี นรู้ ออกแบบวางแผน แบง่ บทบาท

หนา้ ท่ีในการทาแปง้

ป็นแปง้

แบง่ นกั เรียนออก 3 กลมุ่
เพ่ือทาขา้ วเหนียว ขา้ ว
เจา้ มนั สาปะหลงั ใหเ้ ป็น

แปง้

P2ปัญหาท่ีพบขณะทาแปง้ : แปง้ ขนึ้ รา

ครูตงั้ คาถาม ราเกิดขนึ้ ไดอ้ ยา่ งไร?
จะจดั การอย่างไร?

ระดมความคิด
ขอ้ มลู เพ่ือแ
ลองทา

า

ด คน้ ควา้ หา
แกป้ ัญหา
าใหม่

P2โจทย(์ แกป้ ัญหา) : จะทาอย่างไรใหแ้ ปง้ ไม

ม่ขนึ้ รา?

ทาใหม่ ในครงั้ ท่ี 2 และ3ดว้ ย
วิธีการใหม่

P1โจทย:์ จะทาแปง้ เป็นเสน้
ไดอ้ ยา่ งไร?

P2นาแปง้ ท
ปัญหาท่ีพบคือ แป

ขาดเป
พบขอ้ มลู เ

คน้ ควา้ ขอ้ มลู เพ่ือแกป้ ัญหา

ท่ีไดท้ าเป็นเสน้
ปง้ ไมเ่ ป็นเสน้ หรอื เสน้
ป็นทอ่ นๆ
เก่ียวกบั กลเู ตน็

ลงมือทาใหม่
สรา้ งเสน้ ใยกลเู ต็นใหแ้ ปง้
เป็นเสน้ ดว้ ยโปรตีนจากไข่

P1โจทย์ :ออกแบบเสน้ ทมี่ ีสารอาหาร 5

แตล่ ะกลมุ่ ออกแ
ทาอาหารจากเสน้
สารอาหารครบทงั้

P2 อาหารท่ีออกมาไ
รสชาติไมด่ ี เสน้ มีกล

จากการหมกั แป

คน้ ควา้ ขอ้ มลู และออกแบบและทาใหม่
เชน่ กลมุ่ พ่ีโอเปิล้ ออกแบบเป็นเมนขู อง
หวาน โดยนาทเุ รยี นมาบดละเอียดและ
นวดเขา้ กบั เสน้ ผสมเขา้ กบั นาใบเตยเพ่ือ

เพ่มิ กลิน่ หอม

หมู่

แบบ
นท่ีให้
ง5หมู่

ไมน่ ่ากิน
ล่ินท่ีเกิด
ปง้

Home : เลา่ สง่ิ นาเสนอความงอกงา

- วางแผนการนาเสนองาน
ประเมนิ ตนเอง
- นาเสนอความงอกงามในรูปแบบ รายการ MasterChef

าม

เป้าหมายทเ่ี ป็ นหัวใจของ นักเรียนถงึ เป้าหมาย อะไรทบี่ ่ง
หน่วย นั้นหรือไม่

ความรู้/ทกั ษะ นกั เรยี นท่ีถงึ เปา้ หมาย 19 -Flow chart กระบวนการแปรรูปวตั
คน
เขา้ ใจกระบวนการแปรรูปวตั ถดุ บิ - เขา้ ใจและอธิบายสาเหตขุ องปัญห
เป็นแปง้ เพ่ือผลติ เสน้ แปรรูปวตั ถดุ บิ ตา่ ง ๆใหเ้ ป็นแปง้ เชน่
ความเขา้ ใจเก่ียวกบั กระบวนการทา
ทาตามแบบ หลงั จากทากิจกรรม “ก
ช่วั โมงและนาไปบดใหร้ ะเอียด จาก
ประมาณ1วนั เม่ือแปง้ ใหแ้ ลว้ ก็นาแ
ละเอียด”

พโี ซ่ (ผลิตแปง้ จากมนั สาปะหลงั )พ
แปง้ วา่ มีปัจจยั ท่ีทาใหเ้ กิดรา คอื คว

เกิดความเขา้ ใจเก่ียวกบั กระบวนกา
ของกระบวนการทาแปง้ ในแตล่ ะขนั้
ปรมิ าณการเตมิ นา้ และกระบวนการ
ในการเกิดเชือ้ รา

-ในการทาแปง้ มนั สาปะหลงั ครงั้ แรก
และในครงั้ ท่ีสองพ่ีปลายมองหาวิธีท
มีกากใยเยอะท่ีสดุ และจะลดการใชส้

ไม่ถึงเปา้ หมาย 3 คน นกั เรยี นยงั ไมส่ ามารถคดิ วเิ คราะ

งบอกวา่ ถงึ เป้าหมายนั้น มีกระบวนการอยา่ งไร

ตถดุ บิ เป็นแปง้ -ครูใหโ้ จทยน์ กั เรยี นลงมือทาอาหารประเภทเสน้
จากวตั ถดุ บิ หลกั ท่ีครูกาหนดให้ (มนั สาปะหลงั ขา้ ว
หาท่ีพบขณะท่ีทา (แปง้ เกิดเชือ้ รา) หลงั จากการลงมือ เจา้ ขา้ วเหนียว)
น พใี่ บตอง (ผลิตแปง้ จากขา้ วเจา้ ) สามารถอธิบาย
าแปง้ จากเมล็ดขา้ วเจา้ วา่ ขนั้ ตอนการทาเป็นอยา่ งไร -แบง่ กลมุ่ เพ่ือศกึ ษากระบวนการทาแปง้ จากแหลง่
การทาแปง้ จากขา้ วเจา้ ตอ้ งแชข่ า้ วเพ่ือใหข้ า้ วน่มิ 4-5 เรยี นรูท้ ่ีหลากหลาย
กนนั้ นาขา้ วท่ีบดละเอียดแลว้ ใสถ่ าดแลว้ นาไปตาก
แปง้ มาบดใหล้ ะเอียดอีกครงั้ และไดแ้ ป้งขา้ วเจา้ ท่ีเนือ้ -ลงมือทาแปง้ จากวตั ถดุ บิ

พบปัญหาและสามารถหาสาเหตขุ องการเกิดเชือ้ ราใน -Reflection ผลท่ีเกิดขนึ้ ปัญหาท่ีพบ และหาแนว
วามชืน้ และรูว้ า่ ราจะเจรญิ เตบิ โตเม่ือมีออกซเิ จน ทางแกไ้ ข

ารท่ีจาเป็นตอ่ การทาแปง้ การมองเหน็ ความสาคญั
นตอน และควบคมุ ปัจจยั เพ่ือไมใ่ หเ้ กิดรา เชน่ การลด
รตากในท่ีท่ีมีแสงสวา่ งและอากาศถา่ ยเทเพ่ือลดปัจจยั

ก พปี่ ลายใหญ่บอกวา่ เนือ้ แปง้ มีกากใยเยอะมาก
ท่ีจะลดกากใยลงโดยมองหาวา่ กากใยสว่ นใดของมนั ท่ี
สว่ นนนั้ ลง

ะห์ และอธิบายส่ิงท่ีไดเ้ รยี นรูใ้ หก้ บั ผอู้ ่ืนเขา้ ใจได้

เป้าหมายทเ่ี ป็ นหัวใจของ นักเรียนถงึ เป้าหมาย อะไรทบี่ ง่
หน่วย นั้นหรือไม่

ความรู้/ทักษะ นกั เรยี นถึงเปา้ หมาย นกั เรยี นทกุ คนไดท้ าอาหารจ
ทกุ คน
สามารถผลติ อาหารประเภท -พ่ีเซนสามารถนาแปง้ ท่ีผลติ
เสน้ ท่ีมคี ณุ ค่าทางอาหารและ เสน้ ท่ีทานน้ั จะไดส้ ารอาหารค
ปลอดภยั บลอ็ กโคล่จี ะไดว้ ิตามนิ เติมน

(ระดบั 5-7 ) -พ่ีโอเปิ้ลและพ่ีโซ่ แปรรูปแป
แปง้ ผสมกบั เนือ้ ทเุ รยี น นา้ ใบ
เสน้ นามารบั ประทานพรอ้ ม

คุณลักษณะ นกั เรยี นถงึ เปา้ หมาย นกั เรยี นสามารถลงมอื ทาแป
ทกุ คน คน้ หาสาเหตแุ ละรว่ มกนั หาว
นกั เรยี นตระหนกั ถงึ สขุ นิสยั มมุ มองความคิดซง่ึ กนั และกนั
ต่อตนเองและผอู้ ่ืน

งบอกวา่ ถงึ เป้าหมายนั้น มกี ระบวนการอย่างไร

จากแปง้ -ครูใหโ้ จทยน์ กั เรยี นทาอาหารประเภท
เสน้ ท่ีมีคณุ ค่าทางอาหารและปลอดภยั
ตจากมนั สาปะหลงั มาแปรรูปเป็นเสน้ โดย
ครบ 5หมู่ ดว้ ยการเตมิ ไข่จะไดโ้ ปรตีน เตมิ -แบง่ กลมุ่ เพ่ือออกแบบเมนอู าหารจาก
นา้ มนั มะกอกจะไดไ้ ขมนั เสน้

ปง้ เป็นเมนใู หมซ่ ง่ึ เป็นของหวาน เกิดจากนา -ลงมอื สรา้ งสรรคเ์ มนปู ระเภทเสน้ ท่ีมี
บเตย และไข่ไก่ นวดใหเ้ ขา้ กันและทาเป็น คณุ ค่าทางอาหารและปลอดภยั
มกบั ไอศกรมี และCrumble
-Reflection ผลท่ีเกิดขนึ้ ปัญหาท่ีพบ
และหาแนวทางแกไ้ ข

-ลงมือทาซา้ และพฒั นาสตู รใหม่

ปง้ และเสน้ เม่อื เผชญิ กบั ปัญหาสามารถ สะทอ้ นกระบวนการลงมือทาและผลท่ี
วิธีการแกไ้ ขหลากหลายผา่ นการแลกเปล่ียน เกิดขนึ้ ทกุ สปั ดาห์
น