แผนปฏิฏิ ฏิ บั ฏิ บั บั ติ บั ติ ติ ก ติ การด้ด้ ด้ า ด้ านการศึศึ ศึ ก ศึ กษา จัจั จั ง จั งหวัวั วั ด วั ดปราจีจี จี น จี นบุบุ บุ รี บุ รี รีรี ประจำจำ จำจำ ปีปีปี งปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ สำสำสำสำสำสำนันันันักงานศึศึศึศึ กษาธิธิกธิธิารจัจัจัจังหวัวัดวัวั ปราจีจีจีจีนบุบุบุบุรีรีรีรี
ก แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 คำนำ แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ฉบับนี้ จัดทำโดยคำนึงถึงยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 - 2580 (แผนระดับ 1) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสาม พ.ศ. 2566 - 2570 นโยบายและแผนระดับชาติ ว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (แผนระดับ 2) นโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อ รัฐสภา แผนการศึกษาแห่งชาติ แผนปฏิบัติราชการของกระทรวงศึกษาธิการ แผนปฏิบัติราชการของ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (แผนระดับ 3) และแผนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการวิเคราะห์ สถานการณ์และแนวโน้มทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงข้อมูล พื้นฐาน สภาพปัจจุบัน วิเคราะห์สถานการณ์ด้านการศึกษาของจังหวัดปราจีนบุรี โดยสำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดปราจีนบุรี และคณะทำงานจากประชาคมการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี (PEC) สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนปฏิบัติการด้านการศึกษา จังหวัดปราจีนบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จะเป็นข้อมูลแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบาย ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการการพัฒนาการศึกษาของจังหวัดปราจีนบุรี และเป็นประโยชน์ให้กับ สถานศึกษา หน่วยงานทางการศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี ขอขอบคุณคณะทำงานจากประชาคมการศึกษา จังหวัดปราจีนบุรี (PEC) และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการจัดทำแผนปฏิบัติการ ด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ฉบับนี้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี เมษายน 2567
ข แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 สารบัญ หน้า คำนำ ก สารบัญ ข บทสรุปผู้บริหาร 1 ส่วนที่ 1 บริบทเชิงพื้นที่ของจังหวัดปราจีนบุรี 9 1. ความเป็นมาของจังหวัดปราจีนบุรี 9 2. ที่ตั้งและอาณาเขต 11 3. ข้อมูลการปกครองและประชากร 12 3.1 ข้อมูลการปกครอง 12 3.2 ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและแรงงาน 14 4. ข้อมูลด้านสังคมและความมั่นคง 18 4.1 ด้านสาธารณสุข 18 4.2 ด้านศาสนา 19 4.3 ด้านการศึกษา 21 ส่วนที่ 2 บริบทแผนที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา 27 แผนระดับ 1 2.1 ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 27 แผนระดับ 2 2.2 แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) 31 2.3 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสาม 36 2.4 นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566 –2570) 43 นโยบายรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน 45 แผนระดับ 3 2.5 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) 46 2.6 แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 48 2.7 นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 53 ( พ.ศ. 2561-2580 ) 2.8 แผนปฏิบัติราชการ ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566–2570) ของกระทรวงศึกษาธิการ 54 2.9 นโยบายและจุดเน้นกระทรวงศึกษาธิการ ประจ ำปี พ.ศ. 2566 – 2570 55 2.10 นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 60
ข แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 สารบัญ (ต่อ) หน้า 2.11 แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 66 2.12 แผนพัฒนาการศึกษากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ( ปี พ.ศ. 2566 – 2570 ) 69 2.13 แผนพัฒนาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2566 – 2570 (ฉบับทบทวนปีงบประมาณ พ.ศ. 2567) 71 2.14 แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2566 – 2570 73 ส่วนที่ 3 สาระสำคัญของแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 77 3.1 วิสัยทัศน์ 77 3.2 พันธกิจ 77 3.3 ประเด็นยุทธศาสตร์ 77 3.4 เป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย 78 3.5 แนวทางการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2566 - 2570 84 ส่วนที่ 4 แผนงาน/โครงการ 86 สรุปจำนวนและงบประมาณของแผนงาน/โครงการในยุทธศาสตร์ 87 4.1 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 89 4.2 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 104 4.3 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 128 4.4 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 142 4.5 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 149 4.6 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 6 154 แผนงาน/โครงการที่ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานอื่น 160 ส่วนที่ 5 การนำแผนไปสู่การปฏิบัติ และการติดตามและประเมินผล 161 5.1 การนําแผนไปสู่การปฏิบัติ 161 5.2 การติดตามและประเมินผล 163 5.3 ตัวอย่างแบบติดตามแผนงาน/โครงการของหน่วยงานการศึกษา 164 ที่สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2566 ภาคผนวก 165 1. ประกาศคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรีเรื่อง แนวทางการขับเคลื่อน แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2566 – 2570 166 2. ประกาศสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรีเรื่อง แต่งตั้งคณะทำงาน จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 168
ข แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 1 จำนวนประชากรจากการทะเบียน แยกตามพื้นที่ พ.ศ. 2566 12 ตารางที่ 2 จำนวนบ้านจากการทะเบียน แยกตามพื้นที่ พ.ศ. 2566 13 ตารางที่ 3 ตารางแสดงจำนวนประชากรแบ่งตามเพศ พ.ศ. 2559 - 2566 13 ตารางที่ 4 จำนวนและประเภทสถานบริการภาครัฐ จังหวัดปราจีนบุรี จำแนกรายอำเภอ 18 ตารางที่ 5 จำนวนสถานพยาบาลเอกชน จังหวัดปราจีนบุรี 19 ตารางที่ 6 จำนวนของอาสาสมัครสาธารณสุข จังหวัดปราจีนบุรี 19 ตารางที่ 7 วัด สำนักสงฆ โบสถ์ คริสต์มัสยิด พระภิกษุ และสามเณร เป็นรายอำเภอ พ.ศ. 2564 20 ตารางที่ 8 จำนวนสถานศึกษารายสังกัดในจังหวัดปราจีนบุรีแยกตามรายอำเภอ 24 ตารางที่ 9 จำนวนครู/ผู้สอน รายสังกัด จำแนกตามระดับที่สอน 25 ตารางที่ 10 จำนวนนักเรียน/นักศึกษา จำแนกตามสังกัด 26
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 1 ตามที่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษา ในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ กำหนดให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด มีหน้าที่จัดทำแผนพัฒนาการศึกษา และแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาประกอบกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 หมวด 3 มาตรา 9 การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ ให้ส่วนราชการปฏิบัติดังต่อไปนี้ (1) ก่อนจะดำเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทำแผนปฏิบัติราชการไว้เป็น การล่วงหน้า (2) การกำหนดแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตาม (1) ต้องมีรายละเอียดของขั้นตอน ระยะเวลาและงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดำเนินการของแต่ละขั้นตอน เป้าหมายของภารกิจผลสัมฤทธิ์ ของภารกิจ และตัวชี้วัดความสำเร็จของภารกิจ (3) ส่วนราชการต้องจัดให้มีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สวนราชการกำหนดขึ้น ซึ่งต้องสอดคล้องกับมาตรฐานที่ ก.พ.ร. กำหนดในกรณีที่ การปฏิบัติภารกิจ หรือการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการเกิดผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นหน้าที่ ของส่วนราชการที่จะต้องดำเนินการแก้ไขหรือบรรเทาผลกระทบนั้น หรือเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการ ให้เหมาะสม สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรีจึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัด ปราจีนบุรีประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี(พ.ศ. 2561 – 2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนยุทธศาสตร์อื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ทุกระดับ รวมถึงแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรีพ.ศ. 2566 - 2570 มาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการ จัดการศึกษา โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ หน่วยงาน ทางการศึกษาในประชาคมการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี (PEC) เพื่อให้การขับเคลื่อนการดำเนินงานการจัด การศึกษาของจังหวัดปราจีนบุรี เป็นไปตามทิศทางการพัฒนาประเทศ นโยบายการจัดการศึกษาของรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาฉบับนี้ ประกอบด้วย บทสรุปผู้บริหาร , บริบท เชิงพื้นที่ของจังหวัดปราจีนบุรี, บริบทแผนที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา , สาระสำคัญของแผน , แผนงาน/ โครงการ และ การนำแผนไปสู่การปฏิบัติและการติดตามและประเมินผล บทสรุปผู้บริหาร แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 2 สาระสำคัญ วิสัยทัศน์ “ประชาชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ มีความรู้ คู่คุณธรรม สู่อาชีพและการมีงานทำ” พันธกิจ 1. สร้างโอกาสการเข้าถึงบริการทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ 2. ยกระดับการจัดการศึกษา เน้นความรู้คู่คุณธรรรม มีคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3. ส่งเสริมการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพโดยยึดหลักธรรมาภิบาล และ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนมีอาชีพและมีงานทำ ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. สร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึง มีคุณภาพและมาตรฐานเท่าเทียม อย่างยั่งยืนและ ต่อเนื่องตลอดชีวิต 2. ยกระดับทางการศึกษา เน้นความรู้คู่คุณธรรมในทุกระดับ ทุกประเภท 3. เสริมสร้างประสิทธิภาพระบบการบริหารจัดการการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล 4. ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีส ารสนเทศและการสื่อส ารเพื่อการศึกษ า อย่างมีประสิทธิภาพ 5. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษา สู่อาชีพหรือการมีงานทำตามความต้องการของสังคม 6. ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แนวทางขับเคลื่อนแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2566 - 2570 ตามที่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัด ปราจีนบุรี พ.ศ. 2566 – 2570 เมื่อคราวประชุม ครั้งที่ 5/2565 วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2565 นั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรีดังกล่าวเกิดการ บูรณาการ ตามนโยบายปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ มีความเป็นเอกภาพ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สามารถเห็นผลเชิงประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรม บรรลุตามวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ ตามที่กำหนดอาศัยอำนาจ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 ลงวันที่ 3 เมษายน 2560 ข้อ 8 (1) (2) (3) (4) (6) และ (7)
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 3 ประกอบกับมติที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี ครั้งที่ 5/2565 วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2565 นั้น กำหนดให้มีโครงการหลัก โดยให้หน่วยงานทางการศึกษาในจังหวัด ปราจีนบุรี ดำเนินการจัดทำโครงการที่มีความสอดคล้องและสามารถขับเคลื่อนโครงการหลัก บรรจุไว้ใน แผนปฏิบัติการประจำปีงบปประมาณ พ.ศ. 2566 – 2570 จนกว่าคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี จะมีมติเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ ประเด็นยุทธศาสตร์ ที่กล่าวมาข้างต้น และ สอดคล้องกับโครงการหลักดังต่อไปนี้ โครงการหลัก 1. โครงการส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำ 2. โครงการสนองพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3. โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนการสอน 4. โครงการสถานศึกษาปลอดภัย 5. โครงการพัฒนาทักษะด้านภาษาต่างประเทศ 6. โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 7. โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัย 8. โครงการส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้และรักการอ่าน 9. โครงการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษา 10. โครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 11. โครงการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษาทุกระดับ สู่ศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ให้หน่วยงานทางการศึกษาในจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับ โครงการหลักอย่างต่อเนื่อง และแจ้งให้สถานศึกษาในสังกัดดำเนินการร่วมกันขับเคลื่อนการจัดการศึกษา ของจังหวัดปราจีนบุรีตามโครงการดังกล่าว ให้เห็นผลเชิงประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งคณะกรรมการ ศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มอบหมายให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี คณะกรรมการและ อนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรีที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกำกับ นิเทศ ติดตาม ประเมินผล และรายงาน ผลเป็นระยะ ทุกไตรมาสต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อรับทราบผลการพัฒนา ปัญหา อุปสรรค ในอันที่จะดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนให้การพัฒนาการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี มีความเป็นเอกภาพ ไปในทิศทางเดียวกัน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถตอบโจทย์บริบทของจังหวัดปราจีนบุรี ได้อย่างแท้จริง
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 4 สรุปสาระสำคัญตามแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2566 - 2570 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึง มีคุณภาพและมาตรฐานเท่าเทียมอย่างยั่งยืนและต่อเนื่องตลอดชีวิต เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัด 1. ประชาชนได้รับ โอกาสทางการศึกษา อย่างทั่วถึงมีคุณภาพ และมาตรฐาน ตาม หลักสูตรอย่างมี ประสิทธิภาพ 2. ประชาชนได้เรียนรู้ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต 1. ส่งเสริมให้ผู้เรียนให้ เข้าถึงโอกาสทางการศึกษา อย่างทั่วถึง และต่อเนื่อง ตลอดชีวิต 2. ส่งเสริม สนับสนุน แนว ทางการลดความเสี่ยงใน การออกกลางคัน การดูแล ช่วยเหลือเด็กพิการ และ เด็กด้อยโอกาส ของผู้เรียน 1. สัดส่วนนักเรียนปฐมวัย (3 - 5 ปี) ต่อประชากรกลุ่มอายุ 3 - 5 ปี เพิ่มขึ้น 2. ประชากรอายุ 6 - 11 ปี ได้เข้าเรียน ระดับประถม ศึกษาทุกคน 3. ประชากรอายุ 12 - 14 ปี ได้เข้าเรียนระดับ มัธยมศึกษาตอนต้นหรือเทียบเท่าทุกคน 4. สัดส่วนนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า (15 - 17 ปี) ต่อประชากร กลุ่มอายุ 15 - 17 ปี เพิ่มขึ้น 5. ประชากรวัยแรงงาน (15 – 59 ปี) มีจำนวนปีการศึกษาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6. ร้อยละของผู้เรียนพิการได้รับการพัฒนา สมรรถภาพหรือบริการทางการศึกษาเพิ่มขึ้น 7. ร้อยละของการส่งต่อเด็กด้อยโอกาส เข้าสู่ระบบการศึกษา 8. ร้อยละของการออกกลางคันของผู้เรียนระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน 9. ร้อยละของสถานศึกษามีการดำเนินงาน โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดภัยห่างไกล ยาเสพติดและอบายมุข
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 5 ประเด็นยุทธศาสตร์ 2 ยกระดับทางการศึกษา เน้นความรู้คู่คุณธรรมในทุกระดับ ทุกประเภท เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัด 1. ประชาชนได้รับการ พัฒนาให้มีความรู้คู่ คุณธรรม จริยธรรม มี คุณลักษณะที่พึง ประสงค์เป็นพลเมืองดี ของสังคม 2. บุคลากรทางการ ศึกษาทุกระดับทุก สังกัดได้รับการพัฒนา สมรรถนะ และคุณธรรม จริยธรรม ตามจรรยา บรรณวิชาชีพ 3. พัฒนาคุณภาพ การศึกษาทุกระดับทั้ง ในและนอกระบบ 1. ส่งเสริม สนับสนุน ให้ หน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษาดำเนินโครงการ เพื่อพัฒนาความรู้ คุณธรรม จริยธรรม ความเป็นพลเมืองดี แก่ผู้เรียนและบุคลากร 2. ส่งเสริมให้ผู้เรียนทุกช่วง วัยมีทักษะ คุณลักษณะ พื้นฐานของพลเมืองดี และ คุณลักษณะที่จำเป็นใน ศตวรรษที่ 21 3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนทุกช่วง วัยมีทักษะ ความรู้ ความ สามารถและสมรรถนะตาม มาตรฐานการศึกษา 4. ส่งเสริมสถานศึกษาทุก ระดับการศึกษาจัดกระบวน การเรียนรู้ตามหลักสูตร อย่างมีคุณภาพและ มาตรฐาน 5. ส่งเสริม สนับสนุน ครู อาจารย์ และบุคลกรทาง การศึกษามีสมรรถนะตาม มาตรฐานวิชาชีพ 1. ร้อยละของเด็กแรกเกิด ถึง 5 ปี มีพัฒนาการสมวัยเพิ่มขึ้น 2. ร้อยละของนักเรียนที่มีคะแนนผลการทดสอบทาง การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) แต่ละวิชา ผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ 50 ขึ้นไปเพิ่มขึ้น - ประถมศึกษาปีที่ 6 เฉลี่ยทุกวิชา - มัธยมศึกษาปีที่ 3 เฉลี่ยทุกวิชา - มัธยมศึกษาปีที่ 6 เฉลี่ยทุกวิชา 3. ความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของ นักเรียนระหว่างระดับจังหวัดและระดับภาค(ศธภ.9) ในวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษลดลง - ประถมศึกษาปีที่ 6 เฉลี่ย 2 วิชา - มัธยมศึกษาปีที่ 3 เฉลี่ย 2 วิชา - มัธยมศึกษาปีที่ 6 เฉลี่ย 2 วิชา 4. ร้อยละของจำนวนโรงเรียนที่ใช้กระบวนการ เรียนรู้เพื่อสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรมเพิ่มขึ้น 5. ร้อยละของจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมตาม โครงการน้อมนำแนวคิดตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจ พอเพียงสู่การปฏิบัติเพิ่มขึ้น 6. ร้อยละของผู้สำเร็จการศึกษาระดับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษา มีสมรรถนะเป็นที่พอใจของสถาน ประกอบการเพิ่มขึ้น 7. ร้อยละของสถานศึกษาที่มีคุณภาพตามเกณฑ์ ประกันคุณภาพการศึกษาที่สถานศึกษากำหนด เพิ่มขึ้น - ปฐมวัย - ขั้นพื้นฐาน - ขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 6 ประเด็นยุทธศาสตร์ 2 (ต่อ) ยกระดับทางการศึกษา เน้นความรู้คู่คุณธรรมในทุกระดับ ทุกประเภท เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัด 8. ระดับคุณภาพของผลการประเมิน ความสามารถด้าน การอ่านของผู้เรียน (RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 9. ความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ย ผลการประเมิน คุณภาพผู้เรียน (NT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างระดับ จังหวัดและระดับประเทศลดลง - คณิตศาสตร์- ภาษาไทย 10. สถานศึกษามีกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนา ผู้เรียนตาม ศักยภาพและความถนัด เช่น การจัดตั้งชมรม/ชุมนุม เพิ่มขึ้น 11. ผู้เรียนมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริม และพัฒนา ผู้เรียนตามศักยภาพและ ความถนัดของตนเอง 12. ร้อยละของจำนวนนักเรียนเข้าร่วม กิจกรรม/โครงงาน ที่เกี่ยวข้องกับ สถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 7 ประเด็นยุทธศาสตร์ 3 เสริมสร้างประสิทธิภาพระบบการบริหารจัดการการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด โครงการ 1. ระบบบริหารจัดการ การศึกษาในจังหวัด ปราจีนบุรี มีการบูรณา การจากทุกภาคส่วน อย่างเป็นระบบตาม หลักธรรมาภิบาล 2. ภาคีเครือข่ายทุก ภาคส่วนมีส่วนร่วมใน การสนับสนุนการจัด การศึกษา 1. ส่งเสริมสนับสนุนให้ทุก ภาคส่วนมีส่วนร่วมในการ พัฒนาและจัดการศึกษา 1. มีระบบการบริหารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและ เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 2. มีระบบการติดตามประกัน คุณภาพการศึกษาที่ เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทและความต้องการ จำเป็นของสถานศึกษา/ หน่วยงาน/องค์กร 3. มีฐานข้อมูลด้านการศึกษาเพื่อใช้ประโยชน์ใน การวางแผน การบริหารจัดการการศึกษา การ ติดตาม และประเมินผล 4. มีกลไกส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนสนับสนุน ทรัพยากรเพื่อการจัดการศึกษา 5. ร้อยละของครูและบุคลากรทางการศึกษาทุก ระดับและประเภทการศึกษาที่ได้รับการพัฒนา ตามมาตรฐานวิชาชีพเพิ่มขึ้น 6. จำนวนหน่วยงาน องค์กรภาครัฐ/เอกชน ที่มีส่วนร่วมจัดการศึกษาแบบประชารัฐ เพิ่มขึ้น ประเด็นยุทธศาสตร์ 4 ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัด 1. สถานศึกษามีการ นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อ การพัฒนาคุณภาพ การศึกษาอย่างมี ประสิทธิภาพ 2. มีการนำระบบ สารสนเทศมาใช้ในการ บริหารจัดการด้านต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ 1. ส่งเสริมและพัฒนาการ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมา ประยุกต์ใช้ในการพัฒนา คุณภาพการศึกษา การ บริหารราชการ และการ บริการประชาชน 2. ส่งเสริม พัฒนาสื่อการ เรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี ดิจิทัลที่เหมาะสมต่อการ เข้าถึงและพัฒนาการ เรียนรู้ตลอดชีวิต 1. มีระบบเครือข่ายเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อ การศึกษาที่ทันสมัย สนองตอบความต้องการของ ผู้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ 2. สถานศึกษาทุกแห่งมีอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพ สามารถใช้งานได้
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 8 ประเด็นยุทธศาสตร์ 5 ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษา สู่อาชีพและการมีงานทำตามความต้องการของสังคม เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัด 1. ผู้เรียนมีความรู้ และ ทักษะการประกอบอาชีพ และมีงานทำตามความ ต้องการของสังคม 2. ประชาชนมีความรู้ ความสามารถ และ ทักษะ สู่การมีอาชีพ และมีงานทำที่สามารถ พึ่งตนเองได้ 1. พัฒนาผู้เรียนและ ประชาชนให้มีความรู้ ทักษะ และสมรรถนะอาชีพให้ สอดคล้องกับความ ต้องการของสังคม 2. ส่งเสริมให้ผู้เรียนและ ผู้ปกครองมีทัศนคติที่ดีต่อ การเรียนต่อสายอาชีพ 1. ร้อยละของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาโดย บูรณาการองค์ความรู้แบบสะเต็มศึกษาเพิ่มขึ้น 2. ร้อยละของผู้เรียนที่เรียนในระบบทวิภาคี/ สหกิจศึกษาในสถานประกอบการ ที่มีมาตรฐานเพิ่มขึ้น 3. สัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาสูงขึ้น เมื่อเทียบกับผู้เรียนสามัญ 4. อัตราการได้งานทำ/ประกอบอาชีพอิสระ ของผู้สำเร็จการศึกษาระดับอาชีวศึกษา (ไม่นับศึกษาต่อ) ภายในระยะเวลา 1 ปี เพิ่มขึ้น 5. อัตราการได้งานทำ/ประกอบอาชีพอิสระ ของผู้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา (ไม่นับศึกษาต่อ) ภายในระยะเวลา 1 ปี เพิ่มขึ้น 6. ร้อยละของผู้เรียนมีความรู้และทักษะการ ประกอบอาชีพในศตวรรษที่ 21 7. ร้อยละของผู้เรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนต่อ สายอาชีพ ประเด็นยุทธศาสตร์ 6 ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัด 1. หน่วยงานและ สถานศึกษามีการ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 1. ส่งเสริมกิจกรรมสร้าง ความรู้ความเข้าใจ และความ ตะหนักรู้คุณภาพชีวิตที่เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย รูปแบบที่หลากหลาย 1. ร้อยละของจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม/ โครงงานที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 9 1. ความเป็นมาของจังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เคยเป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรื่องมายาวนาน ดังปรากฏการตั้งถิ่นฐาน ของชุมชนสมัยโบราณเมื่อประมาณ 2,000 - 2,500 ปีที่แหล่งโบราณคดีบ้านกระทุ่มแพ้ว ตำบลกระทุ่มแพ้ว อำเภอบ้านสร้าง บ้านหนองอ้อ ตำบลดงพระราม อำเภอเมืองปราจีนบุรี และบ้านดุงชัยมัน ตำบลประจันตคาม อำเภอประจันตคาม โบราณวัตถุที่พบ ได้แก่ ลูกปัดแก้วแบบอินโด - แปซิฟิก สีต่าง ๆ ลูกปัดหิน คาร์เนเลียน หินอะเกตและหินควอตซ์ เครื่องมือเหล็ก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการติดต่อสัมพันธ์กับชุมชนโบราณใกล้เคียงและ อินเดียโดยเฉพาะที่บ้านดงชัยมัน ได้พบชิ้นส่วนกลองมโหระทึก ซึ่งเป็นโบราณวัตถุในวัฒนธรรมดงซอน เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมซึ่งพบทางตอนใต้ของจีนและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศไทยและ ยังพบหลักฐานเป็นซากเมืองโบราณที่เรียกว่า “เมืองศรีมโหสถ” ที่ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ และบริเวณ บ้านโคกขวาง อำเภอศรีมหาโพธิ บริเวณซากเมืองโบราณเหล่านี้มีซากโบราณสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรม ศาสนกิจและโบราณวัตถุ ได้แก่ พระพุทธรูป เทวรูป เครื่องปั่นดินเผา เครื่องสำริดซึ่งเป็นเครื่องมือและเครื่องใช้ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปต่อมาศูนย์กลางความเจริญได้ย้ายมาตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ดังเช่นปัจจุบัน “เมืองปราจีน” เป็นชื่อที่เรียกกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และยังต่อมาจนถึงสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นเรียกว่า “เมืองปราจิณ” หรือ “มณฑลปราจิณ” จวบจนสมัยพระบาทสมเด็จ พระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดระเบียบการปกครองแผ่นดินตามแบบ ต่างประเทศมณฑลปราจิณได้ถูกยุบเลิกคงมีฐานะเป็นเพียงหัวเมืองเมืองหนึ่ง ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยน คำว่า “เมือง” เป็น “จังหวัด” จึงมีชื่อเรียกใหม่ว่า “จังหวัดปราจีนบุรี” คำขวัญประจำจังหวัดปราจีนบุรี “ ศรีมหาโพธิ์คู่บ้าน ไผ่ตงหวานคู่เมือง ผลไม้ลือเลื่อง เขตเมืองทวารวดี” ส่วนที่ 1 บริบทเชิงพื้นที่ของจังหวัดปราจีนบุรี
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 10 ภาพตราประจำจังหวัด ตราประจำจังหวัด เป็นรูปต้นโพธิศรีมหาโพธิปลูกไว้ที่ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ เป็นสัญลักษณ์ทางด้านพุทธศาสนาที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัดปราจีนบุรีเพราะเชื่อกันว่า เป็นต้นโพธิ์ที่สมณฑูต จากอินเดีย ซึ่งมาเผยแพร่พระศาสนา เมื่อราว พ.ศ. 500 ได้นำพันธุ์มาจากพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา ประเทศ อินเดีย เป็นต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับบำเพ็ญธรรมจนสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ์นี้ เป็นที่นับถือบูชากราบไหว้ของราษฎรในและนอกพื้นที่ และมีการจัดงานนมัสการเป็นประจำทุกปี ภาพดอกไม้ประจำจังหวัดปราจีนบุรี ดอกปีบ (ชื่อสามัญ Cork Tree) หรือภาคเหนือเรียกว่า กาซะลอง กาดสะลองภาคกลางเรียก ปีบ ภาษากะเหรี่ยง (กาญจนบุรี) เรียกว่า เด็กดองโห่ ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นสูงประมาณ 10 - 20 เมตร เปลือกลำต้นสีเทาขรุขระใบออกเป็นช่อลักษณะใบกลมรีขอบใบเรียบโคน ใบมน ใต้ใบเห็นเส้นใบชัดเจนดอกออกเป็นช่อตั้งตรง ลักษณะเป็นท่อยาวประมาณ 2 - 3 นิ้ว สีขาวปนเหลือง ขนาด 2 เซนติเมตร ปลายกลีบดอกเป็นแฉก 5 แฉก ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้และตัวเมีย ติดอยู่ใกล้ปากท่อ ผลมีลักษณะเป็นฝักแบน ภายในมีเมล็ดลักษณะแบนขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดและการปักชำ เหมาะที่จะ ปลูกในพื้นที่ที่มีดินร่วนซุย แสงแดดจัดหรือกลางแจ้งมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและประเทศพม่า
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 11 2. ที่ตั้งและอาณาเขต 2.1 ลักษณะทางกายภาพ จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งอยู่ภาคตะวันออกของประเทศ อยู่ระหว่างเส้นละติจูดที่ 13 องศา 39 ลิปดา ถึง 14 องศา 27 ลิปดาเหนือ และเส้นลองติจูดที่ 102 องศา 07 ลิปดาตะวันออก ห่างจาก กรุงเทพมหานคร 136 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 33,305 ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที เป็นจุดเชื่อมโยงการคมนาคมจากกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ราชอาณาจักรกัมพูชา ในรัศมี 100 กว่ากิโลเมตร และมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับ จังหวัดนครราชสีมา ทิศตะวันออก ติดต่อกับ จังหวัดสระแก้ว ทิศตะวันตะตก ติดต่อกับ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดนครนายก ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดฉะเชิงเทรา ภาพที่ตั้งและอาณาเขตจังหวัดปราจีนบุรี 2.2 ลักษณะภูมิประเทศ จังห วัดป ราจีนบุ รี มีพื้นที่ทั้งห มด 4,762.362 ตาร างกิโลเมตร (2,976,476.2 ไร่) โดยลักษณะ ภูมิประเทศตอนบนเป็นที่ราบสูงและป่าทึบสลับซับซ่อนมียอดเขาสูง 1,326 เมตร และเป็น แหล่งกำเนิดต้นน้ำหลายสายมีธรรมชาติที่สวยงาม ในขณะที่พื้นที่ตอนล่างเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำเหมาะแก่การ เพาะปลูก ได้แก่ ที่ราบลุ่มแม่น้ำบางปะกง ซึ่งมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 5 เมตร และที่ราบลุ่มแม่น้ำ ปราจีนบุรี ซึ่งเกิดจากแควหนุมานและ แควพระปรง ไหลมาบรรจบกันที่อำเภอกบินทร์บุรีและไหลลงสู่ อ่าวไทยที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 12 3. ข้อมูลการปกครองและประชากร 3.1 ข้อมูลการปกครอง ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 จังหวัดปราจีนบุรีมีประชากรทั้งสิ้น 498,550 คน แบ่งเป็นเพศชาย 246,159 คน (ร้อยละ 49.37) เพศหญิง 252,391 คน (ร้อยละ 50.63) ความหนาแน่นของ ประชากรต่อตารางกิโลเมตรโดยเฉลี่ย 104.69 คน จังหวัดปราจีนบุรีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอศรีมโหสถ อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอประจันตคาม อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอบ้านสร้าง โดยแบ่งเขตตำบล ออกเป็น 65 ตำบล และหมู่บ้าน 708 หมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย 1 องค์การบริหารส่วน จังหวัด (อบจ.) 14 เทศบาล 55 องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และ ดังตารางข้างล่างนี้ ตารางที่ 1 จำนวนประชากรจากการทะเบียน แยกตามพื้นที่ พ.ศ. 2566 สถิติจำนวนประชากรจังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่ ชาย หญิง รวม ยอดรวมทั้งหมด 246,159 252,391 498,550 อำเภอเมืองปราจีนบุรี 45,577 42,761 88,338 อำเภอกบินทร์บุรี 67,212 69,468 136,680 อำเภอนาดี 22,031 22,262 44,293 อำเภอบ้านสร้าง 13,450 13,987 27,437 อำเภอประจันตคาม 24,288 25,577 49,865 อำเภอศรีมหาโพธิ 37,844 39,889 77,733 อำเภอศรีมโหสถ 6,616 6,806 13,422 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลโคกมะกอก 1,058 1,169 2,227 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลโคกปีบ 2,731 3,009 5,740 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลศรีมหาโพธิ 1,747 1,840 3,587 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลกรอกสมบูรณ์ 1,745 1,767 3,512 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลประจันตคาม 2,076 2,299 4,375 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลบ้านสร้าง 1,569 1,628 3,197 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลนาดี 3,889 4,017 7,906 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลสระบัว 869 915 1,784 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลเมืองเก่า 3,223 3,333 6,556 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลบ้านนาปรือ 1,114 1,117 2,231 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลกบินทร์ 1,666 1,933 3,599 ท้องถิ่นเทศบาลเมืองปราจีนบุรี 7,454 8,614 16,068 ข้อมูลเดือน ณ พฤษภาคม 2566 ที่มา : สำนักงานบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 13 ตารางที่ 2 จำนวนบ้านจากการทะเบียน แยกตามพื้นที่ พ.ศ. 2566 สถิติจำนวนบ้านในจังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่ จำนวน (หลัง) ยอดรวมทั้งหมด 234,618 อำเภอเมืองปราจีนบุรี 36,935 อำเภอกบินทร์บุรี 55,176 อำเภอนาดี 18,631 อำเภอบ้านสร้าง 9,664 อำเภอประจันตคาม 17,942 อำเภอศรีมหาโพธิ 57,609 อำเภอศรีมโหสถ 6,801 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลโคกมะกอก 858 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลโคกปีบ 2,374 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลศรีมหาโพธิ 2,479 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลกรอกสมบูรณ์ 1,321 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลประจันตคาม 2,409 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลบ้านสร้าง 1,671 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลนาดี 3,410 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลสระบัว 650 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลเมืองเก่า 4,613 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลบ้านนาปรือ 809 ท้องถิ่นเทศบาลตำบลกบินทร์ 2,210 ท้องถิ่นเทศบาลเมืองปราจีนบุรี 9,056 ข้อมูลเดือน ณ พฤษภาคม 2566 ที่มา : สำนักงานบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ตารางที่ 3 ตารางแสดงจำนวนประชากรแบ่งตามเพศ (พ.ศ. 2559 - 2566) เพศ / ปี 2559 2560 2561 2562 2563 2564 2565 2566 ชาย 240,444 241,281 243,655 245,180 242,934 244,642 245,876 245,884 หญิง 244,785 246,263 247,985 249,500 249,273 250,683 251,892 251,894 รวม 484,829 487,544 491,640 494,680 492,207 495,325 497,768 497,778 ข้อมูลเดือน ณ พฤษภาคม 2566 ที่มา : สำนักงานบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 14 3.2 ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและแรงงาน ด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจจังหวัดในปี พ.ศ. 2566 มีสัญญาณขยายตัวจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากด้านอุปทาน ขยายตัว ภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ขณะที่ภาคเกษตรกรรมหดตัว ด้านอุปสงค์ขยายตัวจากการบริโภค ภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐหดตัว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจจังหวัด อัตรา เงินเฟ้อหดตัว ขณะที่การจ้างงานขยายตัว ด้านอุปทาน เศรษฐกิจด้านอุปทาน (การผลิต) พบว่ามีสัญญาณขยายตัวจากปีก่อน สะท้อนจากการ ขยายตัวของดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 15.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 14.8 โดยพิจารณาจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม และ ทุนจดทะเบียนของโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ขยายตัว และดัชนีผลผลิตภาคบริการ ขยายตัวร้อยละ 22.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 67.6 โดยพิจารณาจาก ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากกลุ่มกิจการโรงแรมที่พักขยายตัว เนื่องจากจังหวัดมีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริม การท่องเที่ยวและบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่าง ต่อเนื่อง เช่น การจัดงานเฉลิมฉลอง 115 ปีลายพระหัตถ์และงานอนุรักษ์และพัฒนาควายไทยและประกวดควายงาม ประกอบกับอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ แนวโน้มภาคบริการคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยว ในจังหวัด มากขึ้น โดยจังหวัดมีจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรม ท่องเที่ยว เชิงนิเวศ เชิงวัฒนธรรมฯ ขณะที่ดัชนีผลผลิตภาคเกษตรกรรม หดตัวร้อยละ -1.1 เมื่อ เทียบกับ เดือนเดียวกันของปีก่อน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -5.5 โดยพิจารณาจากปริมาณ ผลผลิต มันสำปะหลัง กุ้ง และไก่ที่ลดลง ด้านอุปสงค์ เศษฐกิจด้านอุปสงค์ (การใช้จ่าย) พบว่ามีสัญญาณขยายตัวจากปีก่อนจากการขยายตัว ของดัชนีการบริโภคภาคเอกชน ร้อยละ 16.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนขยายตัวจากเดือนก่อนที่ ขยายตัวร้อยละ 11.9 จากจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัว ขณะที่ดัชนีการลุงทุนภาคเอกชน ขยายตัวร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนขยายตัวจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 1.8 พิจารณาจากสินเชื่อ เพื่อการลงทุนขยายตัว และดัชนีการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวร้อยละ -11.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกับของปีก่อน หดตัวจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 21.2 โดยผลการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ เพิ่มขึ้น
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 15 ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดปราจีนบุรี (GPP : Gross Provincial Product) จังหวัดปราจีนบุรีได้พัฒนาในเชิงเศรษฐกิจและเป็นส่วนสำคัญของเขตพัฒนาการอุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างพื้นฐานอยู่ในเกณฑ์ดี มีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในหลายอำเภอ โดยในระยะหลังได้มีการ ขยายตัวของอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น โครงสร้างเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของจังหวัดปราจีนบุรีมีลักษณะ ผสมผสานระหว่างการเกษตร การอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว รายได้ส่วนใหญ่ได้มาจากภาคอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดในปี 2564 มีมูลค่า 271,868 ล้านบาท สาขาอุตสาหกรรมที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ การผลิต (ร้อยละ 83.6 ของ GPP) การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ จักรยานยนต์ ของใช้ ส่วนบุคคล และของใช้ในครัวเรือน (ร้อยละ 7.0 ของ GPP) ไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ และระบบปรับอากาศ (ร้อยละ 2.0 ของ GPP) เกษตรกรรม การป่าไม้ และการ ประมง (ร้อยละ 1.9 ของ GPP) กิจกรรมอสังหาริมทรัพย์และ การบริหารราชกรและการป้องกันประเทศ รวมทั้งการประกันสังคมภาคบังคับ (ร้อยละ 1.4 ของ GPP) รายละเอียดดังตารางที่ 1 (ภาคผนวก) ด้านแรงงาน ภาวะด้านแรงงานมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สืบเนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง เช่น สถานการณ์ทางการเมืองไม่มีเสถียรภาพ จะส่งผลถึงความเชื่อมั่นของนักธุรกิจ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เกิดการชะลอการลงทุน ชะลอการขยายกิจการ รวมถึงชะลอการจ้างงาน ในขณะที่การผลิตคนเพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงานของภาคการศึกษายังคงมีอย่างต่อเนื่อง มิอาจชะลอตามภาวการณ์ ด้านเศรษฐกิจ จึงส่งผลต่อการว่างงาน การทำงานต่ำระดับ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีการผลิต ต้นทุนการผลิต ฤดูกาล ทัศนคติทั้งของฝ่ายนายจ้างและผู้ใช้แรงงาน เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงของภาวะด้านแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการจ้างงาน การเคลื่อนย้ายแรงงาน ฝีมือแรงงาน มาตรฐานแรงงาน ฯลฯ ดังนั้นการจะทราบความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงของภาวะแรงงาน จึงต้องมี การพิจารณาศึกษาเพื่อกำหนดตัวชี้วัด พร้อมทั้งติดตามการเปลี่ยนแปลงเพื่อศึกษาวิเคราะห์ถึงสาเหตุของ ปัญหา รวมถึงทำนายหรือคาดการณ์อนาคต อันจะเอื้อประโยชน์ต่อการตัดสินใจในการกำหนดแผนงานที่ จะต้องทำให้สนองตอบต่อความต้องการของทุกกลุ่มทั้งนายจ้าง ผู้ใช้แรงงาน รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน อัตราการมีงานทำของจังหวัดปราจีนบุรี อัตราการจ้างงานเป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นภาวะการมีงานทำในตลาดแรงงานของจังหวัด ปราจีนบุรีว่ามีสัดส่วนมากน้อยเพียงใด ในไตรมาส 3 ปี 2566 พบว่าอัตราการจ้างงานในจังหวัดอยู่ที่ร้อยละ 71.0 ลดลงจาก ปี 2565 ที่อยู่ที่ร้อยละ 72.38 อัตราการจ้างงานในภาคเกษตรจังหวัดปราจีนบุรีมีอัตรา ร้อยละ 15.75 โดยเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาจะพบว่า อัตราการมีงานทำในภาคเกษตรจังหวัด ปราจีนบุรีลดลงซึ่งมี อัตราอยู่ที่ร้อยละ 24.59 (แผนภูมิ 3) ส่วนอัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตรก็จะมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น กล่าวคือ ไตรมาส 3 ปี 2566 มีอัตรา 84.24 เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 75.40
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 16 อัตราการว่างงานของจังหวัดปราจีนบุรี การศึกษาอัตราการว่างงานในปีที่ผ่านมา จะพบว่าอัตราว่างงานของจังหวัดปราจีนบุรี แต่ละ ไตรมาสจะปรับตัวสูงขึ้นและลดลงตามปัจจัยในเรื่องฤดูกาล เนื่องจากจังหวัดปราจีนบุรีเป็นพื้นที่ เกษตรกรรม ไตรมาส 1 เป็นช่วงฤดูแล้งนอกฤดูการเกษตร หรือนอกฤดูเก็บเกี่ยว ส่งผลให้แรงงานในภาค เกษตรของจังหวัด ปราจีนบุรีว่างงาน อัตราการว่างงานในไตรมาส 1 จึงสูงและเริ่มลดลงในไตรมาส 2 เนื่องจากเป็นช่วงที่กำลัง แรงงานใหม่สำเร็จการศึกษาเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงาน สำหรับไตรมาส 3 เป็นช่วงฤดูการเกษตร ประกอบกับกำลัง แรงงานใหม่ที่สำเร็จการศึกษาเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงานจึงเป็นปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการว่างงานที่ลดลง และอัตรา การว่างงานจะเริ่มขยับตัวสูงขึ้นอีกเล็กน้อยในไตรมาส 4 แต่ยังคงอยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากไตรมาส 4 เป็น ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวยังต้องใช้แรงงานในภาคเกษตรกรรมอยู่ ดังนั้นอัตราการว่างงานจึงเป็นเครื่องชี้วัดที่เกี่ยวข้อง กับปัจจัยฤดูกาล นอกจากนี้อัตราการว่างงานจะเกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจและพื้นที่กล่าวคือ แรงงานจะมีการ เคลื่อนย้ายสู่ภาคเกษตรในไตรมาส ที่เป็นฤดูเพาะปลูก จังหวัดที่เป็นพื้นที่การเกษตรจะมีอัตราว่างงานต่ำ ขณะที่จังหวัดในพื้นที่ตั้งของอุตสาหกรรมจะมีอัตราว่างงานสูง อัตราการบรรจุงาน อัตราการบรรจุงานในแต่ละไตรมาส เป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของ ภาวการณ์ด้านแรงงาน ซึ่งสามารถศึกษาวิเคราะห์กับจำนวนตำแหน่งงานว่าง และจำนวนผู้สมัครงาน โดยเมื่อ วิเคราะห์จำนวนการบรรจุงานที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดดำเนินการ เทียบกับจำนวนตำแหน่งงานว่าง ที่แจ้งผ่าน สำนักงานจัดหางานจังหวัดปราจีนบุรีจะพบว่า อัตราการบรรจุงานต่อตำแหน่งงานว่าง ปี 2566 อยู่ ที่ร้อยละ 74.42 โดยมีอัตราลดลงกว่า ปี 2565 ที่มีร้อยละ 84.04 เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนของ ผู้บรรจุงานกับ จำนวนผู้สมัครที่มีอัตราร้อยละ 79.87 พบว่า มีอัตราเพิ่มขึ้นจาก ปี 2566 ที่มีอัตรา 78.75
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 17 รายงานสถานการณ์แรงงานจังหวัดปราจีนบุรี รายปี 2566 ที่มา : สำนักงานสถิติจังหวัดปราจีนบุรี รายงานสถานการณ์แรงงานจังหวัดปราจีนบุรี รายปี 2566 ที่มา : สำนักงานสถิติจังหวัดปราจีนบุรี 41,745 58,365 77,784 106,337 102,831 652 ผู้มีงานท าจังหวัดปราจีนบุรี จ าแนกตามระดับการศึกษา ต ่ำกว่ำประถมศึกษำ ประถมศึกษำ มัธยมศึกษำตอนต้น มัธยมศึกษำตอนปลำย อุดมศึกษำ ไม่ระบุ 46,722 50,020 51,918 74,528 90,561 0 20,000 40,000 60,000 80,000 100,000 ผู้มีงานท าจังหวัดปราจีนบุรี จ าแนกตามอาชีพ 5 อันดับแรก อาชีพขั้นพื้นฐานต่างๆ ในด้านการขายและการ ให้บริการ ผู้ปฏิบัติงานด้านความสามารถทางฝีมือ ผู้ที่ปฏิบัติงานที่มีฝีมือในด้านการเกษตร ป่าไม้ และการประมง พนักงานบริการและผู้จ าหน่ายสินค้า ผู้ควบคุมเครื่องจักรโรงง านและเครื่องจักร
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 18 4. ข้อมูลด้านสังคมและความมั่นคง 4.1 ด้านสาธารณสุข จังหวัดปราจีนบุรี มีสถานบริการสาธารณสุขภาครัฐและเอกชนกระจายอยู่ทุกอำเภอ ในภาครัฐสถานบริการบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วยโรงพยาบาลศูนย์ 1 แห่ง โรงพยาบาล ทั่วไป 1 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน 5 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหม 1 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบล (รพ.สต.) สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี 94 แห่ง อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขต่อประชากร แพทย์ 1 : 2,779 ทันตแพทย์ 1 : 10,992 เภสัชกร 1 : 6,508 พยาบาลวิชาชีพ 1 : 547 เตียงผู้ป่วย 1 : 489 ตารางที่ 4 จำนวนและประเภทสถานบริการภาครัฐ จังหวัดปราจีนบุรี จำแนกรายอำเภอ ที่มา : แผนปฏิบัติราชการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ปีงบประมาณ 2567
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 19 ตารางที่ 5 จำนวนสถานพยาบาลเอกชน จังหวัดปราจีนบุรี ที่มา : แผนปฏิบัติราชการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ปีงบประมาณ 2567 ตารางที่ 6 จำนวนของอาสาสมัครสาธารณสุข จังหวัดปราจีนบุรี ที่มา : แผนปฏิบัติราชการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ปีงบประมาณ 2567 4.2 ด้านศาสนา 1) ด้านศาสนา วัด พระภิกษุ และโรงเรียนพระปริยัติธรรม - ผู้นับถือศาสนาพุทธ จำนวนร้อยละ 98 - วัด/สำนักสงฆ์ จำนวน 415 แห่ง - ที่พักสงฆ์ จำนวน 119 แห่ง - พระอารามหลวง จำนวน 2 แห่ง - สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด จำนวน 14 แห่ง - หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อปต.) จำนวน 59 หน่วย - โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ จำนวน 1 แห่ง - พระภิกษุ จำนวน 1,905 รูป
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 20 - สามเณร จำนวน 245 รูป - พระราชาคณะ จำนวน 6 รูป - พระธรรมทูต จำนวน 65 รูป - พระจริยานิเทศก์ จำนวน 1 รูป - พระปริยัตินิเทศก์ จำนวน 5 รูป - ครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม จำนวน 37 รูป - ครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกบาลี จำนวน 9 รูป - พระวิปัสสนาจารย์ จำนวน 56 รูป - วัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่นเฉลิมพระเกียรติ จำนวน 1 วัด - วัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น จำนวน 15 วัด - วัดพัฒนาตัวอย่าง จำนวน 25 วัด - วัดอุทยานการศึกษา จำนวน 10 วัด - โบสถ์คริสตจักร จำนวน 6 แห่ง - มัสยิด จำนวน 3 แห่ง ตารางที่7 วัด สำนักสงฆ์ โบสถ์คริสต์ มัสยิด พระภิกษุ และสามเณร เป็นรายอำเภอ พ.ศ. 2564 ที่มา : สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 21 4.3 ด้านการศึกษา ในปัจจุบัน การจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี จัดการศึกษาทั้งในระบบและนอระบบ ครอบคลุมทุกอำเภอ ทุกระดับชั้นตั้งแต่เตรียมอนุบาลจนถึงระดับปริญญา มีหน่วยงานทางการศึกษาทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยสามารถจำแนกประเภทออกเป็น จำนวน 5 กระทรวง ดังนี้ 1. กระทรวงศึกษาธิการ 1.1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนระดับก่อน ประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 เขต ได้แก่ 1) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 รับผิดชอบการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา และขยายโอกาสชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 ในปีการศึกษา 2566 มีจำนวนโรงเรียนในเขต ความรับผิดชอบ จำนวน 114 แห่ง ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปราจีนบุรีอำเภอบ้านสร้าง อำเภอประจันตคาม อำเภอศรีมหาโพธิและอำเภอศรีมโหสถ มีนักเรียน จำนวน 19,688 คน มีห้องเรียน จำนวน 1,194 ห้อง และมีครู/ผู้สอน จำนวน 1,071 คน 2) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 2 รับผิดชอบการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา และขยายโอกาสชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 - 3 ในปีการศึกษา 2566 มีจำนวนโรงเรียนในเขต ความรับผิดชอบ จำนวน 113 แห่ง ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรีและอำเภอนาดีมี นักเรียน จำนวน 15,1258 คน มีห้องเรียน จำนวน 1,036 ห้อง และมีครู/ผู้สอนจำนวน 999 คน 3) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปราจีนบุรี นครนายก รับผิดชอบการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 ซึ่งมี สถานศึกษาที่รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีมีทั้งสิ้น 19 แห่ง มีนักเรียนจำนวน 15,069 คน มีห้องเรียน จำนวน 434/446 ห้อง และมีครู/ผู้สอน จำนวน 807 คน 4) ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดปราจีนบุรี จัดการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อม และฟื้นฟูสมรรถภาพให้แก่คนพิการทุกประเภท ในระดับก่อนวัยเรียน ซึ่งให้บริการทางการศึกษาที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ แบบไป - กลับ และการให้บริการนอก ศูนย์การศึกษาพิเศษ ได้แก่ การให้บริการที่บ้านและการให้บริการที่หน่วยบริการมีนักเรียน จำนวน 260 คน มี ห้องเรียน จำนวน 43 ห้อง และมีครู/ผู้สอนจำนวน 54 คน 5) โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี จัดการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและนักเรียนที่มีความ บกพร่องทางสติปัญญา ในรูปแบบสหศึกษา ลักษณะประจำและไปกลับ ตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน มีนักเรียน 232 คน มีห้องเรียน จำนวน 35 ห้อง และมีครู/ผู้สอน จำนวน 56 คน
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 22 1.2 กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ประกอบด้วย สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดปราจีนบุรีส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาในระบบ การศึกษา นอกระบบการศึกษา และการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีคุณภาพที่สอดคล้องกับนโยบายทางการศึกษา โดยยึดชุมชนเป็นฐานในการดำเนินงาน โดย สกร.ตำบล มีบทบาทเป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวก บทบาทหน้าที่ ครู สกร.ตำบล บทบาทหน้าที่ของ สกร.ตำบล มีสถานศึกษา จำนวน 7 ศูนย์มีนักเรียนจำนวน 10,592 คนมีห้องเรียน จำนวน 396 ห้อง มีครูผู้สอน จำนวน 400 คน 1.3 สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน มีสถานศึกษาเอกชนจัดการศึกษาในระบบ การศึกษา ตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล ก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษาและชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 ในพื้นที่ จังหวัดปราจีนบุรีมีทั้งสิ้น 26 แห่ง มีนักเรียน จำนวน 22,072 คน มีห้องเรียน จำนวน 1,628 ห้อง และมีครู/ ผู้สอน จำนวน 1,212 คน 1.4 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประกอบด้วย สถานศึกษาที่จัดโดยรัฐบาล จำนวน 4 แห่ง มีนักเรียน จำนวน 7,731 คน มีโรงเรียน จำนวน 324 ห้อง มีครูผู้สอน จำนวน 311 คน และจัดโดยเอกชนจำนวน 3 แห่ง มีนักเรียน จำนวน 1,999 คน มีห้องเรียน จำนวน 84 ห้อง และมีครู/ผู้สอน จำนวน 72 คน 2. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 2.1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดปราจีนบุรี จัดการศึกษาระดับปริญญาตรี- ปริญญาโท มีนักศึกษา จำนวน 1,883 คน มีห้องเรียน จำนวน 22 ห้อง มีครูผู้สอน จำนวน 30 คน 2.2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตปราจีนบุรี จัดการศึกษาระดับปริญญาตรี- ปริญญาโท มีนักศึกษา จำนวน 2,398 คน มีห้องเรียน จำนวน 144 ห้อง มีครู/ผู้สอน จำนวน 116 คน 2.3 มห าวิทยาลัยมห ามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตมห าวชิราลงกรณ ราชวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาปราจีนบุรี จัดการศึกษาระดับปริญญาตรี มีนักศึกษา จำนวน 212 คน มีห้องเรียน จำนวน 11 ห้อง มีครู/ผู้สอน จำนวน 17 คน
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 23 3. กระทรวงมหาดไทย (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ประกอบด้วย ศูนย์พัฒ น าเด็กเล็ก จ ำน วน 171 แห่ง โรงเรียนในสังกัดเทศบาล จำนวน 9 แห่ง และโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี 6 แห่ง 3.1 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา มีนักเรียน จำนวน 5,104 คนห้องเรียน จำนวน 170 ห้อง มีครู/ผู้สอน จำนวน 167 คน 3.2 โรงเรียนในสังกัดเทศบาล 1) เทศบาลเมืองปราจีนบุรี จัดการศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 มีจำนวนโรงเรียนในเขตความรับผิดชอบ จ ำนวน 6 แห่ง มีนักเรียน จำนวน 2,201 คน มีห้องเรียน จำนวน 102 ห้อง มีครูผู้สอน จำนวน 146 คน 2) เทศบาลตำบลกบินทร์จัดการศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มีจำนวนโรงเรียนในเขตความรับผิดชอบ จำนวน 2 แห่ง มีนักเรียน จำนวน 1,250 คน มีห้องเรียน จำนวน 37 ห้องมีครูผู้สอน จำนวน 68 คน 3) เทศบาลตำบลนาดีจัดการศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มีจำนวนโรงเรียนในเขตความรับผิดชอบ จำนวน 1 แห่ง มีนักเรียน จำนวน 333 คน มีห้องเรียน จำนวน 16 ห้อง มีครูผู้สอน จำนวน 17 คน 3.3 โรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี จัดการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 มีจำนวนโรงเรียนในเขตความรับผิดชอบ จำนวน 6 แห่ง มีนักเรียน จำนวน 2,271 คน มีห้องเรียน จำนวน 58 ห้องมีครูผู้สอน จำนวน 130 คน 4. กระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย วิทยาลัยแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร จัดการศึกษาระดับปริญญาตรี มีนักเรียน/ นักศึกษา จำนวน 134 คน มีห้องเรียน 4 ห้อง มีครู/ผู้สอน จำนวน 25 คน 5. สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาวัดแจ้งสังกัดสำนักพระพุทธศาสนา แห่งชาติ จัดการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 มีนักเรียน 55 คน มี มีห้องเรียน 6 ห้องและมีครู/ผู้สอน จำนวน 12 คน
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 24 ตารางที่ 8 แสดงจำนวนสถานศึกษารายสังกัดในจังหวัดปราจีนบุรีแยกตามรายอำเภอ
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 25 ตารางที่ 9 จำนวนครู/ผู้สอน รายสังกัด จำแนกตามระดับที่สอน
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 26 ตารางที่ 10 แสดงจำนวนนักเรียน/นักศึกษา จำแนกตามสังกัด
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 27 ในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี ได้ทำการวิเคราะห์เนื้อหาข้อมูล โดยมีพื้นฐานจากแผนยุทธศาสตร์ ระดับ ที่ 1 - 3 เข้าไว้ด้วยกันเพื่อความสอดคล้องและเชื่อมโยงแผนทุกระดับ ดังนี้ แผนระดับที่1 2.1 ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติได้ดำเนินการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะ 20 ปี โดยกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายและยุทธศาสตร์ ดังนี้ วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หรือเป็นคติพจน์ประจำชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ความมั่นคง การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลง ทั้งภายในประเทศ และภายนอก ประเทศในทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งมิติทางการทหาร เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง เช่น ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและ อธิปไตยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มีความเข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของประชาชน มีระบบการเมือง ที่มั่นคงเป็นกลไกที่นำไปสู่การบริหารประเทศที่ต่อเนื่องและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล สังคม มีความปรองดอง และความสามัคคี ส่วนที่ 2 บริบทแผนที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 28 สามารถผนึกกำลังเพื่อพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความเข้มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุ่น ประชาชน มีความมั่นคงในชีวิต มีงานและรายได้ที่มั่นคง พอเพียงกับการดำรงชีวิต มีการออมสำหรับวัยเกษียณ ความมั่นคง ของอาหาร พลังงาน และน้ำ มีที่อยู่อาศัย และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ความมั่งคั่ง ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมีความยั่งยืน จนเข้าสู่กลุ่มประเทศ รายได้สูง ความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาลดลง ประชากรมีความอยู่ดีมีสุขได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนา อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น และมีการพัฒนาอย่างทั่วถึงทุกภาคส่วน มีคุณภาพชีวิตตามมาตรฐานขององค์การ สหประชาชาติ ไม่มีประชาชนที่อยู่ในภาวะความยากจน เศรษฐกิจในประเทศมีความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันต้อง มีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่างๆ ทั้งในตลาดโลกและตลาดภายในประเทศเพื่อให้สามารถสร้าง รายได้ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ตลอดจนมีการสร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคตเพื่อให้สอดรับกับบริบทการพัฒนา ที่เปลี่ยนแปลงไป และประเทศไทยมีบทบาทที่สำคัญในเวทีโลก และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า อย่างแน่นแฟ้นกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย เป็นจุดสำคัญของการเชื่อมโยงในภูมิภาคทั้งการคมนาคมขนส่ง การผลิต การค้า การลงทุน และการทำธุรกิจ เพื่อให้เป็นพลังในการพัฒนา นอกจากนั้น ยังมีความสมบูรณ์ใน ทุน ที่จะสามารถสร้างการพัฒนาต่อเนื่องไปได้ ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนที่เป็น เครื่องมือเครื่องจักร ทุนทางสังคม และทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่อยู่บนหลักการใช้ การรักษา และการฟื้นฟู ฐานทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะ ต่อสิ่งแวดล้อม จนเกินความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศ การผลิตและการบริโภค เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดม สมบูรณ์มากขึ้นและสิ่งแวดล้อม มีคุณภาพดีขึ้น คนมีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความเอื้ออาทร เสียสละ เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม รัฐบาล มีนโยบายที่มุ่งประโยชน์ส่วนรวมอย่างยั่งยืน และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน และทุกภาค ส่วนในสังคมยึดถือและปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาอย่างสมดุล มีเสถียรภาพ และยั่งยืน โดยมีเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” โดยยกระดับศักยภาพของประเทศ ในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและ ความเสมอภาคทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีภาครัฐของประชาชน เพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม โดยการประเมินผลการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 29 1) ความอยู่ดีมีสุขของคนไทยและสังคมไทย 2) ขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาเศรษฐกิจ และการกระจายรายได้ 3) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ 4) ความเท่าเทียมและความเสมอภาคของสังคม 5) ความหลากหลายทางชีวภาพ คุณภาพสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ 6) ประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการเข้าถึงการให้บริการของภาครัฐ ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561 - 2580) มี 6 ยุทธศาสตร์ซึ่งเกี่ยวข้องกับภารกิจของสำนักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 6 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ 1. ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เน้นการบริหาร จัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เอกราช อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อย ในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติ สังคม ชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาคน เครื่องมือ เทคโนโลยี และระบบฐานข้อมูล ขนาดใหญ่ ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ และทุกระดับความรุนแรง ควบคู่ไปกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ใช้กลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการทั้งกับส่วนราชการ ภาคเอกชนประชาสังคม และองค์กรที่ไม่ใช่รัฐ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศทั่วโลก บนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาลเพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ ต่อการดำเนินการของยุทธศาสตร์ชาติด้านอื่นๆ ให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ ตามทิศทางและเป้าหมายที่กำหนด 2. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนาที่มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพื้นฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ 1) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย รวมทั้งความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศใน ด้านอื่นๆ นำมาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้สอดรับกับบริบทของเศรษฐกิจ และ สังคมโลกสมัยใหม่ 2) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ในมิติ ต่างๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและดิจิทัล และการปรับ สภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการอนาคต 3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมถึง ปรับรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ที่รองรับอนาคต บนพื้นฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐให้ประเทศไทย สามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลก ควบคู่ไปกับการ ยกระดับรายได้และการกินดีอยู่ดี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของคนชั้นกลางและลดความเหลื่อมล้ำของ คนในประเทศ ได้ในคราวเดียวกัน
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 30 3. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และ มีคุณภาพ โดยคนไทยมีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วง วัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม และเป็น พลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษ และ ภาษาที่ 3 และอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูงเป็นนวัตกรรรม นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และอื่นๆ โดยมีสัมมาชีพ ตามความถนัดของตนเอง 4. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส ำคัญที่ให้ความสำคัญการดึงเอาพลังของภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชน ท้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชน ในการร่วมคิดร่วมทำเพื่อส่วนรวม การกระจายอำนาจและความรับผิดชอบไปสู่กลไกบริหารราชการแผ่นดิน ในระดับท้องถิ่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการตนเอง และการเตรียมความพร้อมของ ประชากรไทยทั้งในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ สามารถ พึ่งตนเองและทำประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้นานที่สุด โดยรัฐให้หลักประกันการเข้าถึงบริการ และสวัสดิการที่มีคุณภาพ อย่างเป็นธรรมและทั่วถึง 5. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันทั้งภายใน และภายนอกประเทศอย่างบูรณาการ ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งในการกำหนดกลยุทธ์และแผนงาน และการให้ทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในแบบทางตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยเป็นการดำเนินการบนพื้นฐาน การเติบโตร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต โดยให้ความสำคัญกับการสร้าง สมดุลทั้ง 3 ด้าน อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนเพื่อคนรุ่นต่อไปอย่างแท้จริง 6. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐที่ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชน เพื่อประชาชน และประโยชน์ส่วนรวม” โดยภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับบทบาทภารกิจ แยกแยะบทบาท หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ในการกำกับหรือในการให้บริการในระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันมีขีดสมรรถนะสูง ยึดหลักธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการทำงานให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวมมีความทันสมัยและ พร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการทำงานที่เป็นดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่า และปฏิบัติงานเทียบได้ กับมาตรฐานสากล
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 31 รวมทั้งมีลักษณะเปิดกว้าง เชื่อมโยงถึงกันและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อตอบสนองความ ต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส โดยทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝังค่านิยม ความซื่อสัตย์สุจริต ความมัธยัสถ์ และสร้างจิตสำนึกในการปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่าง สิ้นเชิง นอกจากนั้น กฎหมายต้องมีความชัดเจน มีเพียงเท่าที่จำเป็นมีความทันสมัย มีความเป็นสากล มีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำและเอื้อต่อการพัฒนา โดยกระบวนการยุติธรรม มีการ บริหารที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติและการอำนวยความยุติธรรมตามหลักนิติธรรม แผนระดับที่2 2.2 แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติพ.ศ. 2561 - 2580 ตามพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 10 บัญญัติว่า 1) เมื่อมีพระบรมราชโองการประกาศใช้ยุทธศาสตร์ชาติแล้วให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติแต่ละด้าน จัดทำแผนแม่บทเพื่อบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติเสนอคณะกรรมการพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีและ 3) แผนแม่บทที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้ว ให้มีผลผูกพันหน่วยงานของรัฐที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น รวมทั้งการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทด้วย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นชอบแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) ตามที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเสนอ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 136 ตอนที่ 51 ก เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 เรื่อง ประกาศแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) จำนวน 23 ประเด็น ดังนี้
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 32 1. ประเด็นความมั่นคง มี 5 แผนย่อย 1.1 แผนย่อยการรักษาความสงบภายในประเทศ 1.2 แผนย่อยการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง 1.3 แผนย่อยการพัฒนาศักยภาพของประเทศให้พร้อมเผชิญภัยคุกคามที่กระทบต่อ ความมั่นคงของชาติ 1.4 แผนย่อยการบูรณาการความร่วมมือด้านความมั่นคงกับอาเซียน และนานาชาติ รวมทั้งองค์กรภาครัฐและมิใช่ภาครัฐ 1.5 แผนย่อยการพัฒนากลไกการบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวม 2. ประเด็นการต่างประเทศ มี 5 แผนย่อย 2.1 แผนย่อยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ 2.2 แผนย่อยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ 2.3 แผนย่อยการพัฒนาที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและพันธกรณีระหว่างประเทศ 2.4 แผนย่อยการส่งเสริมสถานะและบทบาทของประเทศไทยในประชาคมโลก 2.5 แผนย่อยการต่างประเทศมีเอกภาพและบูรณาการ 3. ประเด็นการเกษตร มี 6 แผนย่อย 3.1 แผนย่อยเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น 3.2 แผนย่อยเกษตรปลอดภัย 3.3 แผนย่อยเกษตรชีวภาพ 3.4 แผนย่อยเกษตรแปรรูป 3.5 แผนย่อยเกษตรอัจฉริยะ 3.6 แผนย่อยการพัฒนาระบบนิเวศการเกษตร 4. ประเด็นอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต มี 6 แผนย่อย 4.1 แผนย่อยอุตสาหกรรมชีวภาพ 4.2 แผนย่อยอุตสาหกรรมและบริการการแพทย์ครบวงจร 4.3 แผนย่อยอุตสาหกรรมและบริการดิจิทัล ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์ 4.4 แผนย่อยอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการพัฒนาระบบคมนาคม 4.5 แผนย่อยอุตสาหกรรมความมั่นคงของประเทศ 4.6 แผนย่อยการพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต 5. ประเด็นการท่องเที่ยว มี 6 แผนย่อย 5.1 แผนย่อยการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม 5.2 แผนย่อยการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ 5.3 แผนย่อยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงาม และแพทย์แผนไทย 5.4 แผนย่อยการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 33 5.5 แผนย่อยการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค 5.6 แผนย่อยการพัฒนาระบบนิเวศการท่องเที่ยว 6. ประเด็นพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ มี 2 แผนย่อย 6.1 แผนย่อยการพัฒนาเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 6.2 แผนย่อยการพัฒนาพื้นที่เมือง ชนบท เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ที่มีการบริหารจัดการตามแผนผังภูมินิเวศอย่างยั่งยืน 7. ประเด็นโครงสร้างพื้นฐานระบบโลจิสติกส์ และดิจิทัล มี 3 แผนย่อย 7.1 แผนย่อยโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ 7.2 แผนย่อยโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน 7.3 แผนย่อยโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล 8. ประเด็นผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ มี 4 แผนย่อย 8.1 แผนย่อยการสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการอัจฉริยะ 8.2 แผนย่อยการสร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน 8.3 แผนย่อยการสร้างโอกาสเข้าถึงตลาด 8.4 แผนย่อยการสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ 9. ประเด็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ มี 3 แผนย่อย 9.1 แผนย่อยการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 9.2 แผนย่อยการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ 9.3 แผนย่อยการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 10. ประเด็นการปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม มี 3 แผนย่อย 10.1 แผนย่อยการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และเสริมสร้างจิตสาธารณะ และการเป็นพลเมืองที่ดี 10.2 แผนย่อยการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมที่พึงประสงค์จากภาคธุรกิจ 10.3 แผนย่อยการใช้สื่อและสื่อสารมวลชนในการปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมของคนในสังคม 11. ประเด็นการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต มี 5 แผนย่อย 11.1 แผนย่อยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ 11.2 แผนย่อยการพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์จนถึงปฐมวัย 11.3 แผนย่อยการพัฒนาช่วงวัยเรียนและวัยรุ่น 11.4 แผนย่อยการพัฒนาและยกระดับศักยภาพวัยแรงงาน 11.5 แผนย่อยการส่งเสริมศักยภาพวัยผู้สูงอายุ
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 34 12. ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้มี 2 แผนย่อย 12.1 แผนย่อยการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 12.2 แผนย่อยการตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย 13. ประเด็นการเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดีมี 5 แผนย่อย 13.1 แผนย่อยการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาวะและการป้องกัน และควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่คุกคามสุขภาวะ 13.2 แผนย่อยการใช้ชุมชนเป็นฐานในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี 13.3 แผนย่อยการพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ทันสมัยสนับสนุนการสร้างสุขภาวะที่ดี 13.4 แผนย่อยการกระจายบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ 13.5 แผนย่อยการพัฒนาและสร้างระบบรับมือและปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่ และโรคอุบัติซ้ำที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 14. ประเด็นศักยภาพการกีฬา มี 3 แผนย่อย 14.1 แผนย่อยการส่งเสริมการออกกำลังกาย และกีฬาขั้นพื้นฐานให้กลายเป็นวิถีชีวิต และ การส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมออกกำลังกาย กีฬา และนันทนาการ 14.2 แผนย่อยการส่งเสริมการกีฬาเพื่อพัฒนาสู่ระดับอาชีพ 14.3 แผนย่อยการพัฒนาบุคลากรด้านการกีฬาและนันทนาการ 15. ประเด็นพลังทางสังคม มี 2 แผนย่อย 15.1 แผนย่อยการเสริมสร้างทุนทางสังคม 15.2 แผนย่อยการรองรับสังคมสูงวัยเชิงรุก 16. ประเด็นเศรษฐกิจฐานราก มี 2 แผนย่อย 16.1 แผนย่อยการยกระดับศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ 16.2 แผนย่อยการสร้างสภาพแวดล้อมและกลไกที่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก 17. ประเด็นความเสมอภาคและหลักประกันทางสังคม มี 2 แผนย่อย 17.1 แผนย่อยการคุ้มครองทางสังคมขั้นพื้นฐานและหลักประกันทางเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ 17.2 แผนย่อยมาตรการแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะกลุ่ม 18. ประเด็นการเติบโตอย่างยั่งยืน มี 5 แผนย่อย 18.1 แผนย่อยการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจสีเขียว 18.2 แผนย่อยการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจภาคทะเล 18.3 แผนย่อยการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ 18.4 แผนย่อยการจัดการมลพิษที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสารเคมีในภาคเกษตร ทั้งระบบให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล 18.5 แผนย่อยการยกระดับกระบวนทัศน์เพื่อกำหนดอนาคตประเทศ
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 35 19. การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ มี 3 แผนย่อย 19.1แผนย่อยการพัฒนาการจัดการน้ำเชิงลุ่มน้ำทั้งระบบเพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านน้ำของประเทศ 19.2 แผนย่อยการเพิ่มผลิตภาพของน้ำทั้งระบบในการใช้น้ำอย่างประหยัดรู้คุณค่า และสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้น้ำให้ทัดเทียมกับระดับสากล 19.3 แผนย่อยการอนุรักษ์และฟื้นฟูแม่น้ำลำคลองและแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วประเทศ 20. ประเด็นการบริการประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐ มี 5 แผนย่อย 20.1 แผนย่อยการพัฒนาบริการประชาชน 20.2 แผนย่อยการบริหารจัดการการเงินการคลัง 20.3 แผนย่อยการปรับสมดุลภาครัฐ 20.4 แผนย่อยการพัฒนาระบบบริหารงานภาครัฐ 20.5 แผนย่อยการสร้างและพัฒนาบุคลากรภาครัฐ 21.ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ มี 2 แผนย่อย 21.1 แผนย่อยการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ 21.2 แผนย่อยการปราบปรามการทุจริต 22. ประเด็นกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มี 2 แผนย่อย 22.1 แผนย่อยการพัฒนากฎหมาย 22.2 แผนย่อยการพัฒนากระบวนการยุติธรรม 23. ประเด็นการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม มี 5 แผนย่อย 23.1 แผนย่อยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ด้านเศรษฐกิจ 23.2 แผนย่อยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ด้านสังคม 23.3 แผนย่อยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ด้านสิ่งแวดล้อม 23.4 แผนย่อยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ด้านองค์ความรู้พื้นฐาน 23.5 แผนย่อยด้านปัจจัยสนับสนุนในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 36 2.3 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสาม พ.ศ. 2566 - 2570 การพัฒนาประเทศในระยะ 5 ปี ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่สิบสาม ให้สามารถก้าวข้าม ความท้าทายที่เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ จำเป็นจะต้องเร่งแก้ไขจุดอ่อนและ ข้อจำกัดของประเทศที่มีอยู่เดิม รวมทั้งเพิ่มศักยภาพในการรับมือกับความเสี่ยงสำคัญที่มาจากการเปลี่ยนแปลง ของบริบททั้งจากภายนอกและภายใน ตลอดจนการเสริมสร้างความสามารถในการสร้างสรรค์ประโยชน์จาก โอกาสที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงทีด้วยเหตุนี้ การกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะของ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่สิบสาม จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ พลิกโฉมประเทศไทยสู่ “สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้าง มูลค่าอย่างยั่งยืน” ซึ่งหมายถึง การสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับโครงสร้าง นโยบาย และ กลไก เพื่อมุ่งเสริมสร้างสังคมที่ก้าวทันพลวัตของโลก และเกื้อหนุนให้คนไทยมีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองได้ อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมกับ การยกระดับกิจกรรมการผลิตและการให้บริการให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มที่สูงขึ้น โดยอยู่บนพื้นฐานของความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสาม จึงได้กำหนดเป้าหมายหลักของการพัฒนาจำนวน 5 ประการ ประกอบด้วย 1. การปรับโครงสร้างภาคการผลิตและบริการสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม มุ่งยกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการสำคัญ ผ่านการผลักดันส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ ที่ตอบโจทย์พัฒนาการของสังคมยุคใหม่และเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นและผู้ประกอบการรายย่อยกับห่วงโซ่ มูลค่าของภาคการผลิตและบริการเป้าหมาย รวมถึงพัฒนาระบบนิเวศที่ส่งเสริมการค้าการลงทุนและนวัตกรรม 2. การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่ มุ่งพัฒนาให้คนไทยมีทักษะและคุณลักษณะที่เหมาะสม กับโลกยุคใหม่ ทั้งทักษะในด้านความรู้ ทักษะทางพฤติกรรม และคุณลักษณะตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคมและ เร่งรัดการเตรียมพร้อมกำลังคนให้มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และเอื้อต่อการปรับ โครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ภาคการผลิตและบริการเป้าหมายที่มีศักยภาพและผลิตภาพสูงขึ้น รวมทั้งให้ ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันและความคุ้มครองทางสังคมที่สามารถส่งเสริมความมั่นคงในชีวิต 3. การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ทั้งในเชิงรายได้พื้นที่ ความมั่งคั่ง และการแข่งขันของภาคธุรกิจ ด้วยการสนับสนุนช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและ ผู้ด้อยโอกาสให้มีโอกาสในการเลื่อนสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม กระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและจัดให้มี บริการสาธารณะที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสในการแข่งขันของภาค ธุรกิจให้เปิดกว้างและเป็นธรรม 4. การเปลี่ยนผ่านการผลิตและบริโภคไปสู่ความยั่งยืน มุ่งลดการก่อมลพิษ ควบคู่ไปกับ การผลักดันให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับขีดความสามารถในการ รองรับของระบบนิเวศ ตลอดจนลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความ เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 37 5. การเสริมสร้างความสามารถของประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยง ภายใต้บริบทโลกใหม่ มุ่งสร้างความพร้อมในการรับมือและแสวงหาโอกาสจากการเป็นสังคมสูงวัยการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยโรคระบาด และภัยคุกคามทางไซเบอร์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกลไกทาง สถาบันที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างและระบบการบริหารงานของภาครัฐให้ สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีได้อย่างทันเวลามี ประสิทธิภาพ และมีธรรมาภิบาล หมุดหมายการพัฒนา เพื่อถ่ายทอดเป้าหมายหลักไปสู่ภาพของการขับเคลื่อนที่ชัดเจนในลักษณะของวาระการ พัฒนา ที่เอื้อให้เกิดการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงานและหลายภาคส่วนในการผลักดันการพัฒนาเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ให้เกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 จึงได้กำหนดหมุดหมายการพัฒนา จำนวน 13 หมุดหมาย ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงสิ่งที่ประเทศไทยปรารถนาจะ “เป็น” หรือมุ่งหวังจะ “มี” เพื่อสะท้อน ประเด็นการพัฒนาที่มีลำดับความสำคัญสูงต่อการพลิกโฉมประเทศไทยสู่ “สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่า อย่างยั่งยืน” โดยหมุดหมายทั้ง 13 ประการ แบ่งออกได้เป็น 4 มิติ ดังนี้ 1. มิติภาคการผลิตและบริการเป้าหมาย หมุดหมายที่ 1 ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง หมุดหมายที่ 2 ไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน หมุดหมายที่ 3 ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก หมุดหมายที่ 4 ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง หมุดหมายที่ 5 ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของ ภูมิภาค หมุดหมายที่ 6 ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและอุตสาหกรรม ดิจิทัลของอาเซียน 2. มิติโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม หมุดหมายที่ 7 ไทยมีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้มแข็ง มีศักยภาพสูง และ สามารถแข่งขันได้ หมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน หมุดหมายที่ 9 ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลง และมีความคุ้มครองทางสังคมที่เพียงพอ เหมาะสม 3. มิติความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมุดหมายที่ 10 ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ หมุดหมายที่ 11 ไทยสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 38 4. มิติปัจจัยผลักดันการพลิกโฉมประเทศ หมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนา แห่งอนาคต หมุดหมายที่ 13 ไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน ภารกิจที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรีมีส่วนเกี่ยวข้องกับหมุดหมายการพัฒนาที่ เชื่อมโยงกับเป้าหมายหลัก ประกอบด้วย 3 หมุดหมาย ดังนี้ หมุดหมายที่ 9 ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลงและคนไทยทุกคนมีความคุ้มครองทาง สังคมที่เพียงพอเหมาะสม กลยุทธ์ที่ 2 การสร้างโอกาสที่เสมอภาคแก่เด็กจากครัวเรือนยากจนข้ามรุ่น กลยุทธ์ย่อยที่ 2.2 ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาทักษะอาชีพที่มีคุณภาพ จัดสรรเงินอุดหนุนและทรัพยากรที่จำเป็นแก่เด็กจากครัวเรือนยากจนข้ามรุ่น เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้าน การศึกษาในโรงเรียนและการเรียนรู้ภายนอกห้องเรียน ทั้งแหล่งเรียนรู้บนพื้นที่กายภาพและพื้นที่เสมือนจริง หรือออนไลน์พร้อมทั้งพัฒนาระบบการเฝ้าระวังและติดตามช่วยเหลือเด็กยากจนให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา หรือการพัฒนาทักษะอาชีพตามความเหมาะสม หมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนา แห่งอนาคต กลยุทธ์ที่ 1 คนไทยทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาในทุกมิติ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 พัฒนาเด็กช่วงตั้งครรภ์ถึงปฐมวัยให้มีพัฒนาการรอบด้าน มีอุปนิสัยที่ดี 1. การเตรียมความพร้อมพ่อแม่ผู้ปกครองและสร้างกลไกประสานความร่วมมือ เพื่อดูแลหญิงตั้งครรภ์ให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ และดูแลเด็กให้มีพัฒนาการสมวัย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ – 6 ปี 2. การพัฒนาครูและผู้ดูแลเด็กปฐมวัยให้มีความรู้และทักษะการดูแลที่เพียงพอ มีจิตวิทยาการพัฒนาการของเด็กปฐมวัย สามารถท างานร่วมกับพ่อแม่ผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการด้าน การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการสมวัยตามหลักการพัฒนาสมองและกระบวนการเรียนรู้แก่เด็กควบคู่ กับการพัฒนาการด้านร่างกาย สาธารณสุข และโภชนาการเพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีอย่างรอบด้าน ก่อนเข้าสู่วัยเรียน 3. การยกระดับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ได้มาตรฐาน และจัดสรรทรัพยากรที่ เพียงพอสำหรับการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นกลไกการพัฒนาเด็กปฐมวัยรายพื้นที่ที่มีคุณภาพ 4. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการดูแลปกป้องเด็กปฐมวัย ให้มี พัฒนาการที่ดีรอบด้าน สติปัญญาสมวัย โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคมและภาคเอกชน รวมถึงพัฒนาระบบสารสนเทศเด็กรายบุคคลเพื่อการส่งต่อไปยังสถานศึกษา และการพัฒนาที่ต่อเนื่อง
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 39 กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 พัฒนาผู้อยู่ในช่วงวัยการศึกษาระดับพื้นฐานให้มีความตระหนักรู้ในตนเอง มีทักษะดิจิทัลและมีสมรรรถนะที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ การดำรงชีวิตและการทำงานโดย 1. การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แนวใหม่ และขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติเพื่อให้ผู้เรียน สามารถจัดการตนเอง มีความสามารถในการสื่อสาร สามารถรวมพลังทำงานเป็นทีม มีการคิดขั้นสูงด้วยการ จัดการเรียนรู้เชิงรุก และขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติโดยนำร่องกับสถานศึกษาที่มีความพร้อม และมีมหาวิทยาลัย ในพื้นที่สนับสนุนความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ 2. การยกระดับการอาชีวศึกษา โดยการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ ร่วมกับกลุ่มอาชีพผู้ประกอบการ และสถาบันอุดมศึกษาสายปฏิบัติการ เพื่อให้ผู้เรียนมีสมรรถนะตามความ ต้องการของตลาดงาน มีงานทำและมีรายได้ตามสมรรถนะ และเป็นผู้ประกอบการใหม่ได้ 3. การยกระดับการผลิตและพัฒนาครูทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ โดยวางแผน จำนวน ความต้องการครูในแต่ละสาขา พัฒนาหลักสูตรการผลิตครูที่มีการเตรียมความพร้อมด้านวิชาการและ ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ พัฒนาระบบการ คัดกรองที่สะท้อนสมรรถนะวิชาชีพครู ปรับบทบาทของครูจาก “ผู้สอน” เป็น “โค้ช” ที่อำนวยการเรียนรู้โดย ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และมุ่งสู่การยกระดับครูสู่วิชาชีพชั้นสูง 4. การปรับปรุงระบบวัดและประเมินผู้เรียนให้มีความหลากหลายตามสภาพจริง ตลอดจน มีการประเมินการเรียนรู้เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนเป็น รายบุคคลที่เชื่อมโยงสู่การทำงานในอนาคต 5. การพัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนรู้ 6. การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง รวมถึงการรักษา ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ค่านิยมไทยให้สอดคล้อง เหมาะสมกับบริบทในปัจจุบัน เพื่อให้เป็น พื้นฐานของสังคมไทยและเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ในการสื่อสารภาพลักษณ์ของประเทศไทยและนำเสนอ ความเป็นไทยสู่สากล กลยุทธ์ย่อยที่ 1.4 พัฒนาวัยแรงงานให้มีสมรรถนะที่จำเป็นเพื่อการประกอบอาชีพและ เชื่อมโยงกับโลกของการทำงานในอนาคต 1. ส่งเสริมและกระจายโอกาสในการพัฒนาสมรรถนะให้กับแรงงานทุกกลุ่ม ทั้งการเพิ่มพูนและพัฒนาทักษะความรู้ใหม่ เพื่อให้มีทักษะตรงกับงานและอาชีพที่เปลี่ยนแปลงไป และการ พัฒนาทักษะเดิมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน โดยให้สถาบันการศึกษาร่วมกับองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และหน่วยงานพัฒนาของรัฐวางแผนสำรวจข้อมูลและจัดทำหลักสูตร ระยะสั้น เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานและทักษะที่จำเป็นในการทำงานและการใช้ชีวิต โดยมีการปรับกฎระเบียบ ให้มีความยืดหยุ่นเพื่อสนับสนุนการดำเนินการในรูปแบบที่หลากหลายได้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และรูปแบบการทำงานในอนาคตและประชาชนควรได้รับเครติตในทักษะอนาคต เพื่อใช้พัฒนาทักษะ ในหลักสูตรที่ได้รับการรับรองและสนับสนุนจากภาครัฐ
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 40 2. การพัฒนาแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงการเรียนรู้ การพัฒนาทักษะ และการเข้าสู่เส้นทางอาชีพ เข้าด้วยกันอย่างเบ็ดเสร็จ และมีหน่วยงานรับผิดชอบที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการพัฒนา ทักษะสามารถต่อยอดสู่การทำงาน และเชื่อมโยงการเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ โดยมีการรับรองมาตรฐาน รวมถึง การเสริมสร้างผู้ประกอบการที่เชื่อมโยงกับภาคการผลิตและบริการในพื้นที่ 3. ปรับรูปแบบการทำงาน ในการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีความคล่องตัว ในการทำงานได้ทุกที่ และสร้างวัฒนธรรมการทำงานในทุกองค์กรที่ส่งเสริมให้คนเก่งได้แสดงความสามารถและ แข่งขันอย่างเป็นธรรมเพื่อขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันและเพิ่มขีดความสามารถขององค์กร รวมถึงการเคารพ สิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิด้านแรงงาน เพื่อให้แรงงานมีความมั่นคงและปลอดภัย กลยุทธ์ที่ 3 การเรียนรู้ตลอดชีวิต กลยุทธ์ย่อยที่ 3.1 พัฒนาระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต 1. ส่งเสริมให้ภาคส่วนต่าง ๆ สร้างและพัฒนาเมืองเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ และพื้นที่ สร้างสรร ที่หลากหลาย ทั้งพื้นที่กายภาพ และพื้นที่เสมือนจริง โดยกำหนดมาตรการจูงใจที่เหมาะสมเพื่อให้ สถาบันการศึกษาหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคเอกชนโดยเฉพาะ ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ (Start-Up) สร้างพัฒนาแหล่งเรียนรู้ และพื้นที่สร้างสรรค์ที่มีคุณภาพ มีสาระที่ ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนทุกกลุ่ม ครอบคลุมทุกพื้นที่ เข้าถึงได้ง่ายทั้งพื้นที่กายภาพ และ พื้นที่เสมือนจริง เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้และใช้ประโยชน์ในการพัฒนาและแสดงศักยภาพอย่าง สร้างสรรค์ อันเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างค่านิยมและพฤติกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 2. สร้างสื่อการเรียนรู้ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยการสร้างสื่อที่ใช้ภาษาถิ่นเพื่อให้ ประชาชนที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยกลางเป็นภาษาหลักเข้าถึงได้ สื่อทางเลือกสำหรับผู้พิการทางสายตาและผู้พิการ ทางการได้ยิน รวมถึงสนับสนุนกลุ่มประชากรที่มีข้อจำกัดทางเศรษฐกิจให้เข้าถึงสื่อในราคาที่เข้าถึงได้ 3. การพัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิตของประเทศให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ที่สามารถเชื่อมโยงการเรียนรู้ในทุกระดับและประเภททั้งในระบบสายสามัญ สายอาชีพ การศึกษานอกระบบ และตามอัธยาศัยตั้งแต่มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา และนอกระบบเพื่อสร้างความคล่องตัว และ เปิดทางเลือกในการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนทุกระดับ 4. กำหนดมาตรการจูงใจ ให้ประชาชนพัฒนาตนเองด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดชีวิต โดยจัดให้มีแหล่งเงินทุนเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต อาทิ การพัฒนาเครดิตการฝึกอบรมสำหรับคน ทุกกลุ่มการจัดสรรสิทธิพิเศษในการเข้ารับบริการฝึกอบรม การเข้าชมแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ส่งเสริมให้เอกชนที่ ผลิตนวัตกรรมทางการศึกษาจัดทำกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร โดยกำหนดเงื่อนไขการให้ใช้ ผลิตภัณฑ์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 41 กลยุทธ์ย่อยที่ 3.2 พัฒนาทางเลือกในการเข้าถึงการเรียนรู้สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเรียนในระบบ การศึกษาปกติโดยจัดทำข้อมูลและส่งเสริมการจัดทำแผนการเรียนรู้ที่มีความยืดหยุ่นและหลากหลาย ของกลุ่มเป้าหมายเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม เพื่อให้ผู้เรียนสามารถวางเส้นทางการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อ จุดมุ่งหมายในอนาคตของตนเอง และสามารถเทียบโอนประสบการณ์ได้ทั้งนี้ ให้มีการพัฒนาบุคลากรที่ เกี่ยวข้องในทุกระดับให้มีความเข้าใจและมีสมรรถนะในการพัฒนาผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษที่มีความต้องการ ที่ซับซ้อน หมุดหมายที่ 13 ไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ประชาชน กลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาคุณภาพในการให้บริการภาครัฐที่ตอบโจทย์ สะดวกและประหยัด กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 ยกเลิกภารกิจการให้บริการที่สามารถเปิดให้ภาคส่วนอื่นให้บริการแทน โดยยกเลิกภารกิจการให้บริการของภาครัฐที่มีต้นทุนสูง เมื่อเทียบกับเอกชน หรือไม่มีความจำเป็นที่ภาครัฐต้อง ดำเนินการ โดยพัฒนากลไกและสร้างแรงจูงใจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนวิสาหกิจเพื่อสังคม องค์การนอกภาครัฐ และภาคีการพัฒนาอื่น ๆ เข้ามาดำเนินการหรือร่วมดำเนินการในลักษณะนวัตกรรมการ ให้บริการในการตอบสนองความต้องการของประชาชนและการพัฒนาประเทศที่มีการร่วมรับผลประโยชน์และ ความเสี่ยงในการดำเนินการ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 ทบทวนกระบวนการทำงานของภาครัฐควบคู่กับพัฒนาการบริการภาครัฐ ในรูปแบบดิจิทัลแบบเบ็ดเสร็จ โดยปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานของภาครัฐจากการควบคุมมาเป็นการกำกับ ดูแลหรือเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว โดยเฉพาะขั้นตอนการอนุมัติ อนุญาตต่าง ๆ พร้อมทั้งปรับกระบวนการ ทำงานภาครัฐโดยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและให้มีการเชื่อมโยงการให้บริการระหว่างหน่วยงานให้เกิดการทำงาน แบบบูรณาการ โดยกำหนดเป้าหมายการบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จในทุกบริการที่ภาครัฐยังต้องดำเนินการให้ เกิดการบูรณาการระหว่างหน่วยงานอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ระดับนโยบาย แผนงบประมาณ กำลังคนและ การติดตามประเมินผล ให้เป็นเอกภาพและมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกัน กลยุทธ์ที่ 2 การปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการและโครงสร้างของภาครัฐให้ยืดหยุ่น เชื่อมโยง เปิดกว้างและมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ กลยุทธ์ย่อยที่ 2.1 เร่งทบทวนบทบาทภาครัฐและกระจายอำนาจการบริหารจัดการภาครัฐ โดยปรับบทบาทและภารกิจใหม่ให้รองรับแนวทางการพัฒนาประเทศและสถานการณ์ในอนาคต ส่งเสริมการ กระจายอำนาจการบริหารจัดการภาครัฐ โดยเฉพาะในเรื่องโครงสร้างภาครัฐ อัตรากำลัง งบประมาณการ จัดซื้อจัดจ้างให้เกิดความยืดหยุ่น คล่องตัว มีประสิทธิภาพในการบริหารของส่วนราชการและจังหวัดและแก้ไข ปรับปรุง พัฒนากฎหมาย กฎระเบียบ ให้เอื้อต่อการกระจายอำนาจของส่วนราชการและการบูรณาการการ ทำงานร่วมกันของหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีศักยภาพพร้อมรับภารกิจ จากส่วนกลาง ไปดำเนินการได้ทั้งนี้ ควรมีการกำหนดกลไกที่สามารถให้หน่วยงานของรัฐสามารถปรับเปลี่ยน การทำงานหรือสร้างนวัตกรรมโดยไม่ติดอยู่ภายใต้กรอบเงื่อนไขของกฎระเบียบเดิมโดยเร็วเป็นอันดับแรก
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 42 กลยุทธ์ย่อยที่ 2.2 สร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาลภาครัฐ โดยเปิดเผยข้อมูล ผ่านเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้ประชาชน องค์กร เครือข่าย และภาคีการพัฒนาต่าง ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลและมี ส่วนร่วมในการให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความคิดเห็น และตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐผ่านช่อง ทางการติดต่อสื่อสารระหว่างกันที่หลากหลาย มีการบูรณาการการบริหารจัดการและน ำไปประกอบการ ตัดสินใจของหน่วยงานของรัฐในการแก้ปัญหาและการพัฒนาร่วมกัน เพื่อลดการทุจริตคอร์รัปชัน กลยุทธ์ที่ 3 ปรับเปลี่ยนภาครัฐเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่ใช้ข้อมูลในการบริหารจัดการเพื่อการ พัฒนาประเทศ กลยุทธ์ย่อยที่ 3.1 ปรับเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐทั้งหมดให้เป็นดิจิทัล โดยจัดทำข้อมูลสำหรับ การบริหารจัดการทรัพยากรของประเทศทั้งในด้านงบประมาณ ทรัพยากรบุคคล และข้อมูลอื่นของหน่วยงาน ของรัฐทั้งหมดอย่างบูรณาการให้เป็นดิจิทัลที่มีมาตรฐาน ถูกต้อง ปลอดภัย พร้อมใช้งาน มีการจัดเก็บที่ไม่ ซ้ำซ้อน ไม่เป็นภาระกับผู้ให้ข้อมูล มีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดการ วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายและการบริการภาครัฐให้สอดคล้องกับบริบท การพัฒนาได้อย่างเป็นปัจจุบัน พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นต่อสาธารณะในการใช้ประโยชน์ร่วมกันในการ พัฒนาประเทศ ทั้งนี้ เร่งพัฒนาระบบที่บูรณาการข้อมูลสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรภาครัฐในภาพรวมที่ สำคัญต่อการตัดสินใจในเชิงนโยบายให้แล้วเสร็จเป็นลำดับแรก กลยุทธ์ย่อยที่ 3.2 ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานภาครัฐเป็นดิจิทัล โดยออกแบบ กระบวนการทำงานใหม่ ยกเลิกการใช้เอกสารและขั้นตอนการทำงานที่หมดความจำเป็นหรือมีความจำเป็น น้อยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ตลอดกระบวนการทำงาน ตั้งแต่การวางแผน การปฏิบัติงาน และ การติดตามประเมินผลโดยเฉพาะการให้บริการประชาชนและผู้ประกอบการให้มีความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว มีช่องทางและรูปแบบการให้บริการที่หลากหลายที่สอดคล้องกับการทำงานแบบดิจิทัล กลยุทธ์ที่ 4 การสร้างระบบบริหารภาครัฐที่ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนและพัฒนาบุคลากร ให้มีทักษะที่จำเป็นในการให้บริการภาครัฐดิจิทัล และปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ มาตรการภาครัฐให้เอื้อต่อ การพัฒนาประเทศ กลยุทธ์ย่อยที่ 4.1 ปรับระบบการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐเพื่อดึงดูดและรักษา ผู้มีศักยภาพมาขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ กลยุทธ์ย่อยที่ 4.2 ยกเลิกกฎหมายที่หมดความจำเป็นและพัฒนากฎหมายที่เอื้อต่อการพัฒนา ประเทศ ตลอดจนปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยภาครัฐต้องให้ความสำคัญกับ การบังคับใช้กฎหมายที่จริงจัง การปรับเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้อำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชนและ ประชาชนในการพัฒนา
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 43 2.4 นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ ( พ.ศ.2566 – 2570 ) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566 - 2570) ใช้เป็นกรอบ ทิศทางในการป้องกัน แจ้งเตือน แก้ไข หรือระงับยับยั้งภัยคุกคาม เพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงแห่งชาติ และ รักษาผลประโยชน์แห่งชาติอันเป็นเป้าหมายสูงสุดของประเทศโดยมีวิสัยทัศน์ว่า “ประเทศชาติมีเสถียรภาพ ประชาชนอยู่ดีมีสุขปลอดภัย จากภัยคุกคามทุกรูปแบบ มีศักยภาพบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวม และ รักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติอย่างยั่งยืน” และมีเป้าหมายในภาพรวม : ประเทศไทยมีความมั่นคงและ มีเสถียรภาพมากขึ้น ประชาชนดำรงชีวิตโดยปกติสุขรวมทั้งมีการพัฒนาศักยภาพบริหารจัดการ เพื่อเสริมสร้าง ความมั่นคงแบบ องค์รวมและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติ โดยมีทั้งสิ้น 17 นโยบายและแผนความมั่นคง สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี มีการดำเนินงานเกี่ยวข้องกับนโยบายและแผน ระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติดังต่อไปนี้ นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 1 การเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ กลยุทธ์ หลักที่ 1 การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 ส่งเสริมการเรียนรู้ และการจัดทำหรือพัฒนาหลักสูตรการศึกษาเกี่ยวกับ สถาบันพระมหากษัตริย์ในทุกระดับอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับทุกช่วงวัย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและ การตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในชาติ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 ส่งเสริมการจัดทำและเผยแพร่ชุดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ สถาบัน พระมหากษัตริย์ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ โครงการพระราชดำริ หลักการทรงงานแก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป โดยมุ่งเน้นการจัดทำสื่อที่มีความทันสมัย มีการเผยแพร่ในหลายช่องทาง รวมถึงมีการ จัดทำระบบการบริหารจัดการชุดข้อมูลระหว่างส่วนราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยเฉพาะการเข้า มามีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน กลยุทธ์หลักที่ 2 การส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของคนในชาติอย่างสันติและเคารพใน ความแตกต่างหลากหลายบนพื้นฐานสิทธิมนุษยชน กลยุทธ์ย่อยที่ 2.4 สร้างความตระหนักรู้ การเสริมสร้าง ทัศนคติ และความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับหลักการสิทธิมนุษยชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน สถานศึกษา สถานที่ทำงาน ให้บุคคล ตระหนักและปกป้องถึงสิทธิของตนเอง รวมถึงเคารพและไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น กลยุทธ์ย่อยที่ 2.10 ส่งเสริมให้สถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษาเป็นหน่วยทางสังคม ที่สำคัญในการวางรากฐานความมั่นคงของประเทศ โดยมุ่งเน้นแนวคิดการแบ่งปันและการทำประโยชน์ เพื่อสังคม ส่วนรวม ตลอดจนการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างหลากหลายของคนในชาติ
แผนปฏิบัติการด้านการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. 2567 44 นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 8 การป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด กลยุทธ์หลักที่ 1 การเสริมสร้างความเข้มแข็งในระดับปัจเจกบุคคล ครอบครัว ชุมชน และ สังคมให้มีภูมิคุ้มกันและสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างพื้นที่ปลอดภัยและลดความต้องการยาเสพติด กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 สร้างภูมิคุ้มกันระดับบุคคล ด้วยการเสริมสร้างทัศนคติและความรู้ เท่าทัน ยาเสพติดทั้งการเสพและการค้า รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้สอดคล้อง กับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ทั้งรูปแบบ เนื้อหา วิธีการ และช่องทางการสื่อสาร และให้ความสำคัญกับการมี ส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายในทุกขั้นตอน นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 9 การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กลยุทธ์หลักที่ 1 การลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยให้มีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.3 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ รวมถึงการรับรู้และตระหนักรู้การจัดการ ความเสี่ยงจากสาธารณภัยที่ถูกต้องให้กับทุกภาคส่วน ทั้งมิติการวิเคราะห์ภัยที่อาจเกิดขึ้น ความล่อแหลม ในพื้นที่ และประเมินสภาพความเปราะบางที่อาจก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 10 การป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์ กลยุทธ์หลักที่ 1 การป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยงกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กระทบต่อ ระบบ โครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 ส่งเสริมให้หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศมีมาตรฐาน และแนวทางปฏิบัติในการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยง รักษาและฟื้นฟูความเสียหายจากภัยคุกคามทาง ไซเบอร์ที่เท่าทันต่อเหตุการณ์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล