นทิ านสาหรบั เด็ก
เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการอา่ นและการเขยี น
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓
เรือ่ ง ใครสาคญั
ชอ่ื ผู้แต่ง นางสาวกรรณิการ์ ขันตี
ช่ือผู้วาดภาพ นายทรงยศ ไสยนิตย์
ประวัติผแู้ ต่ง ประวัติผู้วาดภาพ
ชื่อ นางสาวกรรณิการ์ ขนั ตี ชื่อ นายทรงยศ ไสยนิตย์
วุฒิ ศษ.ม. (การสอนภาษาไทย) ตาแหนง่ ครชู านาญการพิเศษ
ตาแหน่ง ครู ที่ทางาน โรงเรยี นเทศบาลสวนสนกุ
วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ
ที่ทางาน โรงเรียนเทศบาล ๕ สหี รักษ์วิทยา เทศบาลนครขอนแกน่
เทศบาลนครอุดรธานี
คำนำ
นทิ ำน เรื่อง ใครสำคัญ จดั ทำขนึ้ เพ่ือพัฒนำกำรอ่ำน สร้ำงนสิ ัยรักกำรอ่ำนของนกั เรียนช้ันประถมศึกษำปีท่ี ๓ และใช้เปน็ สื่อประกอบแผนกำร
จัดกำรเรียนรู้ กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย เพือ่ ฝึกให้นักเรยี นอ่ำนสะกดคำไดถ้ ูกตอ้ ง อำ่ นไดค้ ล่อง เขำ้ ใจควำมหมำยของคำ จับใจควำมสำคญั ของ
เรอ่ื ง และวเิ ครำะห์เร่ืองได้ นทิ ำนเร่อื ง ใครสำคัญ เป็นนิทำนท่ีแต่งด้วยคำประพนั ธป์ ระเภทรอ้ ยแก้ว ซ่งึ เป็นเรอื่ งรำวที่บอกถึงควำมสำมัคคขี องคนท่อี ยู่
รว่ มกันในสงั คม และควรมีควำมเออื้ เฟื้อเผอ่ื แผช่ ว่ ยเหลอื ซึง่ กนั และกนั งำนทุกอยำ่ งจึงจะสำเร็จไปไดด้ ว้ ยดถี ำ้ มกี ำรเก่ียงกันทำงำนจะทำให้เกิดปญั หำ
และงำนไมป่ ระสบควำมสำเร็จ หนงั สอื นิทำนเล่มน้ีเหมำะกับนกั เรียนระดบั ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี ๓ สำมำรถบูรณำกำรกบั หน่วยกำรเรยี นรอู้ ื่นไดต้ ำมควำม
เหมำะสม
ในกำรจดั ทำหนงั สือนิทำนสำหรับเดก็ ในคร้ังน้ี เสรจ็ สมบูรณ์ได้ดว้ ยดี จำกกำรสง่ เสรมิ สนับสนุน แนะนำตรวจสอบควำมถกู ตอ้ งจำก ผู้อำนวยกำร
โรงเรียนเทศบำล ๕ สหี รกั ษ์วทิ ยำ เทศบำลนครอดุ รธำนี จังหวัดอดุ รธำนี ตลอดจนคณะครใู นโรงเรยี นทุกคน จึงขอขอบคณุ ไว้ ณ ทีน่ ้ีดว้ ย ผ้จู ดั ทำหวงั
เป็นอยำ่ งยิง่ วำ่ นทิ ำนสำหรบั เดก็ ชุดนีค้ งจะเป็นประโยชนต์ ่อผูส้ นใจเป็นอยำ่ งดี
กรรณิกำร์ ขนั ตี
ครูวิทยฐำนะ ครูชำนำญกำรพิเศษ
๑
วนั หนึ่ง ตา หู จมกู ปาก ทะเลาะกัน เถียงกันวา่ ใครสาคญั ท่สี ดุ
๒
ดวงตาบอกว่า “ฉนั นแ่ี หละที่สาคัญ ถ้าไม่มีฉันก็มองไมเ่ หน็ คนกจ็ ะเดนิ
หลงทาง ตกเหวหรอื ตกนาตายกไ็ ด้”
๓
หไู ดย้ ินจงึ พูดวา่ “ถงึ ฉันจะมองไมเ่ ห็นแตฉ่ นั กไ็ ดย้ นิ เสียง ฉนั จึงบอกทางเดนิ
อยา่ งปลอดภยั ได”้
๔
ปากไดย้ ินดังนัน จึงพดู ว่า “เม่อื หูได้ยินแลว้ ถ้าฉันไมพ่ ดู ออกมา หกู ็ไม่ไดย้ นิ
ฉนั น่แี หละทสี่ าคัญทส่ี ุด”
๕
จมกู น่ิงอยนู่ านจงึ พูดบ้าง “พวกเธอลองคดิ ดสู ิ ถ้าฉันหยดุ หายใจเพียงไมก่ ี่นาที
พวกเธอกต็ ้องตายพร้อมกนั หมด ฉนั นแ่ี หละทส่ี าคัญทส่ี ดุ ”
๖
ตา หู จมูก ปาก ตา่ งคดิ วา่ ตนเองสาคัญท่สี ุด จงึ ไมม่ ใี ครทาหนา้ ท่ขี องตน
๗
ดวงตาไมม่ องสิ่งตา่ ง ๆ และหลบั สนทิ หไู ม่ยอมฟังเสียงอะไรเลย
๘
ปากไม่ยอมกินอาหาร และจมกู กาลังจะหยดุ หายใจ
๙
เม่อื ทกุ สว่ นของร่างกายหยุดทางาน คนกอ็ ่อนเพลยี ไมม่ ีแรง เจบ็ ปวดทรมาน
๑๐
เม่อื ร่างกายหมดแรง ใกลจ้ ะตาย ตา หู ปาก จมกู จึงทนไมไ่ ด้
๑๑
ดวงตา ลืมตามองร่างกายทท่ี รดุ โทรม จมูก หายใจเอาอากาศเขา้ สู่รา่ งกาย
หู ได้ยินเสยี งท้องร้องด้วยความหวิ ปาก จงึ ยอมกนิ อาหารที่มปี ระโยชน์
๑๒
รา่ งกายก็แข็งแรงขนึ กลับมกี าลัง สมบรู ณ์แข็งแรงเหมือนเดมิ เพราะทกุ ส่วน
ของร่างกายสามคั คีกัน
ลาดบั ท่ี ๑๓
๑
๒ แบบฝึกหดั ท่ี ๑ อา่ นสะกดคา แจกลูก (ใครสาคญั )
๓
๔ คา สะกดคา แจกลกู
๕ กำย ก - -ำ - ย - กำย
๖ ใคร คร - ใ- - ใคร
๗ ดวง ด - - วั - ง - ดวง
๘ ตก ต - โ – ะ - ก - ตก
๙ ตำ ต - -ำ - ตำ
๑๐ เถียง ถ - เ -ี ย - ง - เถียง
๑๑ ท้อง ท - อ - ง - ทอง, ทอง - - ้ - ท้อง
๑๒ ปำก ป - -ำ - ก - ปำก
๑๓ มอง ม - อ - ง - มอง
๑๔ เมื่อ ม - เ - ื อ - เมือ, เมอื - - ่ - เม่ือ
๑๕ ยนิ ย - - ิ - น - ยิน
แรง ร - แ- - ง - แรง
หมด หม - โ – ะ - ด - หมด
หยุด หย - - ุ - ด - หยุด
เหว ห - เ- - ว - เหว
๑๔
แบบฝึกหดั ท่ี ๒ อา่ นคาและความหมาย
ลาดับท่ี คา คาอา่ น ความหมาย
๑ ทรมำน ทอ - ระ - มำน ทำใหล้ ำบำก, ทำทำรุณ ทำให้ละพยศหรือลดทิฐมิ ำนะลง
๒ ทรดุ โทรม เสื่อมไปเพรำะร่วงโรย คร่ำครำ่ หรือตรำกตรำเกนิ ไป
๓ ทะเลำะ ซดุ - โซม ทุ่มเถียงกันด้วยควำมโกรธ, โตเ้ ถยี งกัน, เป็นปำกเป็นเสียงกนั
๔ ประโยชน์ ทะ - เลำะ สง่ิ ทีม่ ีผลดีดหี รือเป็นคุณ
๕ สนทิ ประ - โหยด อยำ่ งใกล้ชดิ , ชดิ ชอบ
๖ สมบรู ณ์ สะ - หนดิ ครบถ้วนบรบิ ูรณ์
๗ สำมัคคี สม - บูน ควำมพร้อมเพรยี งกัน, ควำมปรองดองกัน
๘ สำคัญ สำ - มกั - คี เป็นพิเศษกว่ำธรรมดำ
๙ หน้ำท่ี สำ - คัน กจิ ท่จี ะตอ้ งทำดว้ ยควำมรับผดิ ชอบ
๑๐ หลงทำง หน้ำ - ที่ เขำ้ ไปแลว้ หำทำงออกไม่ได้
๑๑ เหว หลง - ทำง ช่องลึกลงไปในภูเขำ, ชอ่ งลกึ ระหวำ่ งเขำ
๑๒ ออ่ นเพลยี มแี รงลดน้อยถอยลง, หยอ่ นกำลงั
เหว
ออ่ น - เพลยี
๑๕
แบบฝึกหัดที่ ๓ อ่านเขียนคาด้วยภาพ
คาชีแจง : ดูภำพ ประสมตวั อกั ษรใหเ้ ป็นคำทม่ี ีควำมหมำยแลว้ เขียนลงใน
๑. ่า า
๒. า า
้๐า
๓. ใ
๔.
๕.
๑๖
แบบฝกึ หัดที่ ๔ ตอบคาถามจากเรื่องที่อ่าน
คาชแี จง : ตอบคำถำม
๑. หู ตำ จมกู ปำก ทะเลำะกันเรื่องใด
ตอบ
๒. ดวงตำว่ำตวั เองสำคญั อย่ำงไร
ตอบ
๓. หน้ำทขี่ อง หู ตำ จมกู ปำก คอื อะไร
ตอบ
๔. เม่ือ หู ตำ จมกู ปำก ไม่ทำหน้ำท่ขี องตนเอง ทำให้รำ่ งกำยเป็นอย่ำงไร
ตอบ
๕. นกั เรียนได้ขอ้ คิดอะไรจำกเร่อื งน้ี
ตอบ
๑๗
แบบฝกึ หัดท่ี ๕ เขยี นแผนผงั ความคดิ และสรุปขอ้ คิด
คาชีแจง : เขียนแผนผงั ควำมคิดเรอื่ ง ใครสำคญั
ใครสาคญั
สรปุ ข้อคิด
๑๘
แบบฝึกหดั ที่ ๖ ตอบคาถาม
คาชีแจง : ทำเคร่อื งหมำย ลอ้ มรอบข้อทถี่ ูกตอ้ งทสี่ ดุ เพียงขอ้ เดยี ว
๑. ใครเปน็ คาพดู ขึนกอ่ นวา่ ใครสาคัญกว่ากนั ค. ปำก
ก. ตำ ข. จมกู ค. ปำก
ค. ปำก
๒. “ถา้ ฉนั ไมพ่ ูดออกมาหกู ็ไมไ่ ดย้ ิน” นา่ จะเป็นคาพดู ของใคร ค. หู
ก. ตำ ข. จมูก ค. ไม่เกดิ สิ่งใดข้นึ กบั รำ่ งกำยเลย
๓. ใครมีหน้าทใี่ นการหายใจ ข. จมกู
ก. ตำ
๔. “ถงึ มองไมเ่ ห็น แตไ่ ดย้ ินเสยี ง” นา่ จะคาพดู ของใคร
ก. จมกู ข. ปำก
๕. เมื่อทุกอยา่ งในรา่ งกายคนเราหยุดทางาน จะทาให้เกิดสงิ่ ใด
ก. ร่ำงกำยอ่อนเพลีย ข. ร่ำงกำยแขง็ แรง
๑๙
๖. เหตุใด หู ตา จมูก ปาก จงึ กลับมาทาหน้าทีข่ องตนอีกครงั
ก. อยำกให้ร่ำงกำยแขง็ แรง ข. รวู้ ่ำใครสำคัญ ค. ร่ำงกำยอ่อนเพลียใกล้จะตำย
ค. ล - เ - อ - ย - เลย
๗. “เลย” ข้อใดสะกดคา แจกลกู ได้ถูกตอ้ ง ข. ล - เ - ย - เลย ค. โ - ท - ะ - น
ก. ล - เล - ย - เลย ค. หู ตำ จมูก ปำก
ค. ควำมพยำยำม
๘. “ทน” ข้อใดสะกดคา แจกลูกไดถ้ กู ต้อง ข. ท - อ - ะ - น
ก. ท - โ - ะ - น
๙. ตวั ละครใดทีเ่ ปน็ ตัวเอกของเร่ือง ข. ตำ จมกู
ก. หู ปำก
๑๐. นิทานเรือ่ งนี ใหข้ ้อคดิ เกยี่ วกับเร่อื งใด ข. ควำมสำมคั คี
ก. ควำมรกั
๒๐
เฉลยแบบฝึกหดั
เฉลยแบบฝกึ หดั ท่ี ๓ เฉลยแบบฝกึ หัดท่ี ๔
๑.ร่ำงกำย ๑.ทะเลำะว่ำใครสำคญั ท่ีสุด
๒.ดวงตำ ๒.ช่วยใหค้ นสำมำรถมองเหน็
๓.ใคร ๓.หทู ำใหไ้ ด้ยิน, ตำทำให้มองเหน็ ,
๔.ปำก
๕.ตกน้ำ จมูกช่วยให้หำยใจ, ปำกทำให้พูดได้
๔.คนออ่ นเพลียไม่มีแรงเจ็บปวดทรมำน
เฉลยแบบฝกึ หัดที่ ๕ ๕.ทกุ คนตอ้ งสำมัคคี
อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครู เฉลยแบบฝึกหัดท่ี ๖
๑.ก ๒.ค ๓.ข
๔.ค ๕.ก ๖.ค
๗.ค ๘.ก ๙.ค
๑๐.ข
บรรณานุกรม
จินตนา ใบซกู าย.ี (๒๕๔๒). เทคนิคการเขียนหนังสือสาหรับเดก็ . กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพรา้ ว.
ถวลั ย์ มาศจรสั . (๒๕๔๐). การเขยี นหนังสือสง่ เสรมิ การอ่านและหนงั สอื อา่ นเพ่มิ เติม. กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั ต้นอ้อ จากดั .
ราชบัณฑิตยสถาน. (๒๕๔๖). พจนานกุ รม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพฯ : บรษิ ัทนานมบี ๊คุ ส์ จากัด.
วิชาการ, กรม กระทรวงศึกษาธกิ าร. (๒๕๔๕). คู่มอื การจดั การเรยี นรูก้ ลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์องค์การ
รับสง่ สนิ ค้าและพสั ดภุ ณั ฑ์.
.(๒๕๕๑). สาระและมาตรฐานการเรียนรกู้ ลมุ่ สาระภาษาไทย. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์องค์การรับสง่ สินค้าและพัสดภุ ณั ฑ์.
สานักงานคณะกรรมการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน, กระทรวงศึกษาธกิ าร และกรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ . (๒๕๔๙).
นทิ านเสรมิ สรา้ งอคี ิว เดก็ อายุ ๓-๕ ป.ี พิมพค์ ร้ังที่ ๓. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย
จากัด.