ศาลปกครองเชียงใหม่ ศาลปกครองแพร่
ศาลปกครองอดุ รธานี
ศาลปกครองพิษณุโลก ศาลปกครองสกลนคร
ศาลปกครองสพุ รรณบรุ ี ศาลปกครองขอนแก่น
ศาลปกครองนครสวรรค์
ศาลปกครองเพชรบรุ ี ศาลปกครองอบุ ลราชธานี
ศาลปกครองภเู กต็
ศาลปกครองสงู สดุ ศาลปกครองบรุ ีรมั ย์
ศาลปกครองนครศรธี รรมราช ศาลปกครองกลาง ศาลปกครองนครราชสีมา
ศาลปกครองสงขลา ศาลปกครองระยอง
ศาลปกครองที่จะจดั ตงั้
ตาม พ.ร.บ. จดั ตงั้ ศาลปกครองฯ
ศาลปกครองยะลา
51
ศาลปกครอง ศาลปกครองเชียงใหม่
พิษณุโลก
ศาลปกครอง ศาลปกครองอดุ รธานี
นครสวรรค์ อดุ รธานี ศาลปกครองขอนแก่น
ศาลปกครองสพุ รรณบรุ ี ศาลปกครองอบุ ลราชธานี
ศาลปกครองเพชรบรุ ี
อบุ ล
ศาลปกครองภเู กต็ ราชธานี
ศาลปกครองสงขลา ศาลปกครองนครราชสีมา
ศาลปกครองยะลา ศาลปกครองระยอง
ศาลปกครองสงู สดุ
ศาลปกครองกลาง
ศาลปกครองท่ีเปิ ดทาํ การแล้ว
ศาลปกครอง
นครศรีธรรมราช
52
ระบบตลุ าการศาลปกครอง
เป็นระบบเปิ ด
คณุ วฒุ ิ ไมจ่ าํ กดั ว่าต้อง
จบกฎหมาย
คณุ สมบตั ิ เปิ ดกว้าง
ประสบการณ์ หลากหลาย
(มตี ่อ)
53
วิธีการคดั เลือก ตรวจสอบคณุ สมบตั ิ
ทดสอบความรคู้ วามสามารถ
สาํ หรบั
ตลุ าการฯ และความเหมาะสม
ชนั้ ต้น
สอบข้อเขียน
(มตี ่อ)
สอบสมั ภาษณ์
พิจารณาหลกั ฐานท่ีแสดงประสบการณ์
ในการทาํ งานหรอื ผลงานทางวิชาการ
รบั ฟังความคิดเหน็ ของบคุ คลในแวดวง
กฎหมายและการบริหารราชการแผน่ ดิน
54
สาํ หรบั ตลุ าการฯ ใช้วิธีการเดียวกนั กบั ตลุ าการฯ ชนั้ ต้น
ศาลสงู แต่ไมม่ ีการสอบข้อเขียน
บคุ คลทวั่ ไป
ตลุ าการฯ ชนั้ ต้น ใช้วิธีการ “เล่ือนไหล”
55
เขตอาํ นาจของศาลปกครองตามบทบญั ญตั ิ
ของพระราชบญั ญตั ิจดั ตงั้ ศาลปกครอง
และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
56
ค่พู ิพาทในคดีปกครองจะต้องมี
“หน่วยงานทางปกครอง” หรือ
“เจ้าหน้าที่ของรฐั ”
เป็นค่พู ิพาทอย่ดู ้วย
57
พระราชบญั ญตั ิจดั ตงั้ ศาลปกครองและ
วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 3
ให้นิยามของ “หน่วยงานทางปกครอง” ไว้ว่า
“หน่วยงานทางปกครอง” หมายความว่า กระทรวง
ทบวง กรม ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมฐี านะเป็นกรม
ราชการส่วนภมู ิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รฐั วิสาหกิจที่ตงั้ ขึน้ โดย
พระราชบญั ญตั ิหรอื พระราชกฤษฎีกา หรือหน่วยงานอื่นของรฐั
และให้หมายความรวมถึงหน่วยงานท่ีได้รบั มอบหมายให้ใช้
อาํ นาจทางปกครองหรอื ให้ดาํ เนินกิจการทางปกครอง
58
หน่วยงานที่อาจถกู ฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้
หน่วยงานของรฐั ท่ีอย่ใู นบงั คบั บญั ชาของรฐั บาล
หน่วยงานของรฐั ท่ีอย่ใู นกาํ กบั ดแู ลของรฐั บาล
หน่วยงานของรฐั ท่ีมิได้อย่ใู นบงั คบั บญั ชา
หรือกาํ กบั ดแู ลของรฐั บาล
หน่วยงานเอกชนท่ีได้รบั มอบหมายให้ใช้อาํ นาจ
ทางปกครอง
59
พระราชบญั ญตั ิจดั ตงั้ ศาลปกครองและ
วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 3
ให้นิยามของ “เจ้าหน้าที่ของรฐั ” ไว้ว่า
“เจ้าหน้าท่ีของรฐั ” หมายความว่า
(1) ข้าราชการ พนักงาน ลกู จ้าง คณะบคุ คล หรือผทู้ ี่ปฏิบตั ิงานใน
หน่วยงานทางปกครอง
(2) คณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท คณะกรรมการหรือบคุ คลซ่ึงมี
กฎหมายให้อาํ นาจในการออกกฎ คาํ สงั่ หรอื มติใดๆ ท่ีมีผลกระทบต่อ
บคุ คล และ
(3) บคุ คลท่ีอย่ใู นบงั คบั บญั ชาหรอื ในกาํ กบั ดแู ลของหน่วยงานทาง
ปกครองหรอื เจ้าหน้าท่ีรฐั ตาม (1) หรอื (2)
60
ค่พู ิพาท
เอกชนพิพาทกบั หน่วยงานทางปกครอง
เอกชนพิพาทกบั เจ้าหน้าท่ีของรฐั
หน่วยงานทางปกครองพิพาทกบั หน่วยงานทางปกครอง
เจ้าหน้าท่ีของรฐั พิพาทกบั เจ้าหน้าที่ของรฐั
เจ้าหน้าที่ของรฐั พิพาทกบั หน่วยงานทางปกครอง
61
คดีปกครองที่อยใู่ นอาํ นาจของศาลปกครอง
ตาม พ.ร.บ.จดั ตงั้ ศาลปกครอง
คดีตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) คดีที่ผฟู้ ้องคดีฟ้องว่าหน่วยงาน
ประกอบกบั มาตรา 72 วรรคหนึ่ง (1) ทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรฐั
มตี ่อ
ออก “กฎ” โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและ
ขอให้ศาลเพิกถอนกฎดงั กล่าว
ออก “คาํ สงั่ ” โดยไมช่ อบด้วยกฎหมาย
และขอให้ศาลเพิกถอนคาํ สงั่ ดงั กล่าว
“กระทาํ การอื่นใด” โดยไม่ชอบ
ด้วยกฎหมายและขอให้ศาลสงั่ ห้าม
การกระทาํ ดงั กล่าว
62
คดีตามมาตรา 9 วรรคหน่ึง (2) คดีที่ผฟู้ ้องคดีฟ้องว่าหน่วยงาน
ประกอบกบั มาตรา 72 วรรคหน่ึง (2) ทางปกครองหรอื เจ้าหน้าท่ีของรฐั
ละเลยต่อหน้าท่ีตามที่กฎหมาย
กาํ หนดให้ต้องปฏิบตั ิและขอให้ศาล
สงั่ ให้ปฏิบตั ิตามหน้าท่ีภายในเวลา
ที่กาํ หนด
ปฏิบตั ิหน้าที่ดงั กล่าวล่าช้าเกินสมควร
และขอให้ศาลสงั่ ให้ปฏิบตั ิตามหน้าที่
ภายในเวลาที่กาํ หนด
มตี ่อ
63
คดีตามมาตรา 9 วรรคหน่ึง (3) คดีท่ีผฟู้ ้องคดีฟ้องว่าหน่วยงาน
ประกอบกบั มาตรา 72 วรรคหน่ึง (3) ทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรฐั
กระทาํ ละเมิดอนั เกิดจาก การใช้อาํ นาจตามกฎหมาย
กกาารรออออกกกฎฎ
การออกคาํ สงั่ ทางปกครอง
การละเลยต่อหน้าที่ตามท่ี
กฎหมายกาํ หนดให้ต้องปฏิบตั ิ
การปฏิบตั ิหน้าที่ดงั กล่าวล่าช้าเกินสมควร
และขอให้ศาลสงั่ ให้ใช้เงินหรือให้ส่งมอบทรพั ยส์ ินหรอื ให้กระทาํ การ
หรืองดเว้นกระทาํ การ
กระทาํ การดงั กล่าวข้างต้นที่ทาํ ให้มีความรบั ผิดอย่างอ่ืน
นอกจากความรบั ผิดทางละเมิดและขอให้ศาลออกคาํ บงั คบั
ให้อย่างเดียวกนั กบั กรณีฟ้องวา่ กระทาํ ละเมิด
64
มตี อ่
คดีตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (4) คดีพิพาทเก่ียวกบั สญั ญาทางปกครองและ
ประกอบกบั มาตรา 72 วรรคหน่ึง (3) ขอให้ศาลออกคาํ บงั คบั ให้อย่างเดียวกนั
คดีตามมาตรา 9 วรรคหน่ึง (5) กบั คดีตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (3)
ประกอบกบั มาตรา 72 วรรคหน่ึง (5) คดีท่ีมีกฎหมายกาํ หนดให้หน่วยงานทาง
ปกครองหรือเจ้าหน้าท่ีของรฐั ฟ้องคดีต่อศาล
คดีตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (6) เพื่อบงั คบั ให้บคุ คลต้องกระทาํ หรอื ละเว้น
การกระทาํ อย่างหน่ึงอยา่ งใด และขอให้ศาล
สงั่ ให้บคุ คลกระทาํ หรอื ละเวน้ การกระทาํ อย่าง
หนึ่ งอย่างใดเพ่ือให้เป็ นไปตามกฎหมาย
คดีพิพาทเก่ียวกบั เร่อื งท่ีมีกฎหมายกาํ หนดให้
อย่ใู นเขตอาํ นาจศาลปกครอง
65
คดีที่อยใู่ นอาํ นาจของศาลปกครองสงู สดุ
(พ.ร.บ. จดั ตงั้ ศาลปกครองฯ ม.11)
คดีพิพาทเกี่ยวกบั คาํ วินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทตามท่ีท่ีประชมุ ใหญ่
ตลุ าการในศาลปกครองสงู สดุ ประกาศกาํ หนด
คดีพิพาทเก่ียวกบั ความชอบด้วยกฎหมายของพระราชกฤษฎีกา หรอื กฎที่ออกโดย
คณะรฐั มนตรี หรือโดยความเหน็ ชอบของคณะรฐั มนตรี เช่น กฎกระทรวงท่ีออก
โดยรฐั มนตรี เป็นกฎท่ีออกโดยความเหน็ ชอบของค.ร.ม.มีสภาพเป็นกฎ
(ศส. 309/45) กฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลอ่ื นขนั้ เงินเดือน พ.ศ. 2544 เป็นกฎท่ีออกโดย
ความเหน็ ชอบของ ค.ร.ม. (คาํ สงั่ ท่ี ฟ.1/44) เป็นต้น
คดีท่ีกฎหมายกาํ หนดให้อย่ใู นอาํ นาจของศาลปกครองสงู สดุ
คดีท่ีอทุ ธรณ์คาํ พิพากษาหรือคาํ สงั่ ของศาลปกครองชนั้ ต้น
66
คดีที่ไม่อย่ใู นอาํ นาจของศาลปกครองตาม
พ.ร.บ. จดั ตงั้ ศาลปกครองฯ ม.9 วรรคสอง
การดาํ เนินการเก่ียวกบั วินัยทหาร เช่น การสงั่ ขงั สงั่ ลดขนั้ เงินเดือน
ทหาร การปลดออกจากนายทหารประจาํ การ
การดาํ เนินการของคณะกรรมการตลุ าการตามกฎหมายว่าด้วย
ระเบียบข้าราชการฝ่ ายตลุ าการ เช่น การโยกยา้ ย การลงโทษทาง
วินัย การเล่ือนตาํ แหน่งของข้าราชการตลุ าการศาลยตุ ิธรรม
คดีที่อย่ใู นอาํ นาจของศาลเยาวชนฯ ศาลแรงงาน ศาลภาษีอากร
ศาลทรพั ยส์ ินทางปัญญาฯ ศาลล้มละลาย หรอื ศาลชาํ นัญพิเศษอ่ืน
67
คดีท่ีไมอ่ ย่ใู นอาํ นาจของศาลปกครอง
เพราะมีกฎหมายพิเศษตดั อาํ นาจของศาลปกครอง
พรก.บรรษทั บริหารสินทรพั ยไ์ ทย พ.ศ. 2544 ม. 11
พรก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ม. 16
พรบ. การรกั ษาความมนั่ คงภายในราชอาณาจกั ร พ.ศ. 2551
68
คดีที่ไมอ่ ย่ใู นอาํ นาจของศาลปกครอง
ตามแนวคาํ วินิจฉัยของศาลปกครองและหรือ
คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอาํ นาจหน้าที่ระหว่างศาล
“การกระทาํ ของรฐั บาล”
กระบวนการทางนิติบญั ญตั ิ
การพิพากษาคดีของศาล
การดาํ เนินการตามกระบวนการยตุ ิธรรมทางแพ่งและการบงั คบั คดีแพ่ง
การดาํ เนินการตามกระบวนการยตุ ิธรรมทางอาญาและการบงั คบั คดีอาญา
การปฏิบตั ิหน้าที่ทวั่ ไป
ฯลฯ 69
ลกั ษณะพิเศษของวิธีพิจารณาคดีปกครอง
เป็ นวิธีพิจารณาคดีที่ใช้ระบบไต่สวน
เป็นวิธีพิจารณาคดีท่ีเน้นกระบวนพิจารณาท่ีทาํ เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร
เป็นวิธีพิจารณาคดีที่เรียบง่ายเพ่ือให้ค่กู รณีสามารถ
ดาํ เนินกระบวนพิจารณาได้ด้วยตนเอง
เป็นวิธีพิจารณาคดีท่ีมีการถ่วงดลุ อาํ นาจของตลุ าการในการตดั สินคดี
70
ขนั้ ตอนต่าง ๆ ของการดาํ เนินกระบวนพิจารณา
คดีปกครองในศาลปกครองชนั้ ต้น
เงอ่ื นไขในการฟ้องคดีและการเสนอคาํ ฟ้อง
การตรวจคาํ ฟ้อง
การแสวงหาขอ้ เทจ็ จริง
การสรปุ สาํ นวน
การแถลงการณ์ของตลุ าการผแู้ ถลงคดี
การนัง่ พิจารณาคดี
การทาํ คาํ พิพากษาและคาํ สงั่
71
เงอื่ นไขในการฟ้องคดี
คาํ ฟ้องต้องมีสาระสาํ คญั ครบถ้วนตามที่กฎหมายกาํ หนดไว้
ผฟู้ ้องคดีต้องเป็นผมู้ ีสิทธิฟ้องคดีและมีความสามารถในการฟ้องคดี
ก่อนการฟ้องคดี ในกรณีท่ีมีกฎหมายกาํ หนดไว้ ผมู้ ีสิทธิฟ้องคดีจะต้องดาํ เนินการ
โต้แย้งคดั ค้านต่อเจ้าหน้าท่ีหรือคณะกรรมการของฝ่ ายบริหารให้ครบขนั้ ตอน
ตามท่ีกฎหมายกาํ หนดไว้เสียก่อน จึงจะนําคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองได้
คาํ ฟ้องต้องยน่ื ภายในกาํ หนดเวลาฟ้องคดี 72
การฟ้องคดีต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล ผฟู้ ้องคดีต้องชาํ ระค่าธรรมเนียมศาล
ให้ครบถว้ น
ต้องไม่เป็นการฟ้องซ้อน ฟ้องซา้ํ หรอื ดาํ เนินกระบวนพิจารณาซา้ํ
บทบาทของศาลปกครอง
ในการสรา้ งหลกั กฎหมายปกครอง
73
ศาลปกครองเป็นสภาพบงั คบั ของกฎหมายปกครอง
และเป็นผพู้ ิทกั ษ์หลกั ความชอบด้วยกฎหมายของ
การกระทาํ ทางปกครอง
โดยผซู้ ่ึงได้รบั ความเดือดรอ้ นเสียหายจากการกระทาํ ทางปกครองใด
มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองให้วินิจฉัยว่าการกระทาํ ทางปกครองนัน้
ชอบด้วยกฎหมายหรอื ไม่
โดยก่อนที่ศาลปกครองจะวินิจฉัยได้ว่าการกระทาํ ทางปกครองพิพาท
ชอบด้วยกฎหมายหรอื ไม่ ศาลปกครองจะต้องพิจารณาเสียก่อนว่า
หลกั กฎหมายปกครองที่จะใช้เป็นฐานในการวินิจฉัยคดีนัน้ เป็นอย่างไร
ถ้าตวั บทกฎหมายปกครองท่ีมีอย่มู ีช่องว่างหรอื ไมเ่ หมาะสม
ศาลปกครองกม็ ีอาํ นาจท่ีจะอดุ ช่องว่างหรอื วางหลกั กฎหมายปกครอง
ท่ีจะใช้ในการวินิจฉัยคดีนัน้ ได้โดยการอ้าง “หลกั กฎหมายทวั่ ไป”
74
“หลกั กฎหมายทวั่ ไป” ในระบบกฎหมายไทย
และการนํามาใช้ในการสร้างและพฒั นา
หลกั กฎหมายปกครอง
75
กฎหมายลายลกั ษณ์อกั ษรท่ีอ้างถึงหลกั กฎหมายทวั่ ไปโดยตรง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4
มาตรา 4 กฎหมายนัน้ ต้องใช้ในบรรดากรณีซึ่งต้องด้วยบทบญั ญตั ิใดๆ
แห่งกฎหมายตามตวั อกั ษรหรอื ตามความมงุ่ หมายของบทบญั ญตั ินัน้ ๆ
เมื่อไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรบั คดีได้ ให้วินิจฉัยคดีนัน้ ตามจารีต
ประเพณีแห่งท้องถิ่น ถ้าไมม่ ีจารีตประเพณีเช่นว่านัน้ ให้วินิจฉัยคดีอาศยั เทียบ
กฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง และถา้ บทบญั ญตั ิกฎหมายเช่นนัน้ กไ็ มม่ ีด้วย
ให้วินิจฉัยตามหลกั กฎหมายทวั่ ไป
76
ปัญหาการใช้หลกั กฎหมายทวั่ ไปในประเทศไทย
ในกฎหมายเอกชน มีการใช้หลกั กฎหมายทวั่ ไปน้อยมากเพราะระบบการศึกษากฎหมาย
ในกฎหมายมหาชน ของไทยเน้นกฎหมายลายลกั ษณ์อกั ษร แต่ไม่ค่อยมีปัญหามากนัก
เพราะในกฎหมายเอกชนมีบทบญั ญตั ิของกฎหมายลายลกั ษณ์อกั ษร
สมบรู ณ์พอ เช่น ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์
มีการใช้หลกั กฎหมายทวั่ ไปน้อยมากเช่นกนั
มีการนําหลกั กฎหมายทวั่ ไปของกฎหมายเอกชนมาใช้กบั
กฎหมายมหาชน เพราะระบบการศึกษากฎหมายของไทย
ถกู ครอบงาํ โดยกฎหมายเอกชน
กฎหมายปกครองของไทยยงั ล้าหลงั และขาดหลกั ทวั่ ไป
คงมีแต่กฎเกณฑเ์ ฉพาะเร่ืองท่ีกระจดั กระจายอย่ใู นตวั บท
กฎหมายต่างๆ
77
กฎหมายปกครองว่าด้วยการจดั ตงั้ ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
มีเจตนารมณ์ที่จะให้ศาลปกครองของไทยเป็นผสู้ ร้างและพฒั นา
หลกั กฎหมายปกครองของไทยตามแนวทางเดียวกนั กบั ท่ีศาลปกครอง
ของฝรงั่ เศสได้สร้างและพฒั นาหลกั กฎหมายปกครองของฝรงั่ เศส
ในส่วนท่ีเป็ น “ความรบั ผิดอย่างอ่ืน” ตาม ม.9 ว.1 (3)
สารบญั ญตั ิ “สญั ญาทางปกครอง” ตาม ม.3 + ม.9ว.1 (4)
ในส่วนท่ีเป็ น การอ้าง“หลกั กฎหมายทวั่ ไป” ในคดีประเภทอ่ืน
วิธีสบญั ญตั ิ ตาม ม.44 และ ข้อ 5 ว.2 ของระเบียบฯ
78
ศาลปกครองมีอาํ นาจในการกาํ หนดว่า
“ความรบั ผิดอย่างอื่น” คืออะไร
ตาม ม.9 ว.1 (3) มีหลกั กฎหมายทางปกครอง
“สญั ญาทางปกครอง” ว่าอย่างไร
ตาม ม.3 และ ม.9 ว.1 (4)
“หลกั กฎหมายทวั่ ไป”
ในทางปกครอง
79
คดีพิพาทเกี่ยวกบั “ความรบั ผิดอย่างอ่ืน”
ของหน่วยงานทางปกครองหรอื เจ้าหน้าที่ของรฐั
มาตรา 9 วรรคหน่ึง (3) ศาลปกครองมีอาํ นาจพิจารณา การใช้อาํ นาจตามกฎหมาย
แห่ง พ.ร.บ.จดั ตงั้ พิพากษาคดีเกี่ยวกบั การกระทาํ กฎ
ศาลปกครองฯ ละเมิดหรอื ความรบั ผิดอย่างอ่ืน คาํ สงั่ ทางปกครองหรือคาํ สงั่ อ่ืน
ของหน่วยงานทางปกครองหรอื การละเลยต่อหน้าที่ตามท่ี
เจา้ หน้าท่ีของรฐั อนั เกิดจาก กฎหมายกาํ หนดให้ต้องปฏิบตั ิ
การปฏิบตั ิหน้าท่ีดงั กล่าวล่าช้า
เกินสมควร
80
การอ้างหลกั กฎหมายทวั่ ไปในส่วนของกฎหมายปกครองทางสารบญั ญตั ิ
คดีที่มีการฟ้องขอให้เพิกถอน “กฎ” หรอื “คาํ สงั่ ทางปกครอง”
การอ้างหลกั ความเสมอภาค
ศาลปกครองได้รองรบั “หลกั การเคารพต่อกฎเกณฑท์ ี่ตนเองกาํ หนดขึ้น” (ซ่ึงถือเป็นหลกั การย่อย
ของหลกั ความเสมอภาคของบุคคลภายใต้กฎหมาย) โดยวินิจฉัยว่า ฝ่ ายปกครองต้องถกู ผกู พนั ต่อ
กฎเกณฑท์ ี่ตนสร้างขึน้ โดยคาํ สงั่ เฉพาะรายท่ีตนออกมาจะต้องไมฝ่ ่ าฝื นกบั กฎเกณฑท์ ี่ตนกาํ หนดไว้
เป็นการทวั่ ไป (คาํ พิพากษาศาลปกครองสงู สดุ คดีหมายเลขแดงที่ อ.14/2545) (คดีการสรรหา กทช.)
ความเสมอภาคในการเข้ารบั ราชการ : ศาลปกครองวินิจฉัยว่า การท่ี กอ.มีมติไมร่ บั สมคั รผฟู้ ้องคดี
โดยมิได้พิจารณาถงึ ความสามารถท่ีแท้จริงในการปฏิบตั ิงานของผ้ฟู ้องคดี เป็นการเลือกปฏิบตั ิท่ี
ไมเ่ ป็นธรรมต่อผฟู้ ้องคดี (คาํ พิพากษาศาลปกครองสงู สดุ คดีหมายเลขแดงท่ี อ.142/2547)
(คดีทนายความรปู กายพิการ)
(มตี อ่ ) 81
การอ้างหลกั แห่งความได้สดั ส่วน
ในคดีท่ีผฟู้ ้องคดีฟ้องขอให้ศาลปกครองเพิกถอนกฎกระทรวงท่ีกาํ หนดให้มคั คเุ ทศก์
เข้ารบั การฝึ กอบรมวิชามคั คเุ ทศก์ ศาลปกครองวินิจฉัยว่า การกาํ หนดให้มคั คเุ ทศก์
เข้ารบั การอบรมเพ่ิมเติมเป็นมาตรการที่จาํ เป็นเพื่อให้วตั ถปุ ระสงคด์ งั กล่าวข้างต้น
สมั ฤทธ์ิผล โดยที่ไมก่ ระทบกระเทือนสาระสาํ คญั แห่งสิทธิ เน่ืองจากเป็นวิธีการท่ี
เหมาะสมท่ีสดุ ที่จะทาํ ให้มคั คเุ ทศกไ์ ด้รบั ความร้คู วามเข้าใจและนําไปปฏิบตั ิ อีกทงั้
ข้อกาํ หนดดงั กล่าวกม็ ิได้ขดั ต่อหลกั ดลุ ยภาพระหว่างความเสียหายที่เกิดขึน้ ต่อ
มคั คเุ ทศกห์ รือสงั คมโดยส่วนรวมกบั ประโยชน์มหาชน เนื่องจากการบงั คบั ให้
มคั คเุ ทศกเ์ ข้ารบั การฝึ กอบรมย่อมจะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ดงั นัน้ กฎกระทรวง
ฉบบั นี้จึงไม่ขดั ต่อหลกั ความได้สดั ส่วนท่ีจะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของมคั คเุ ทศกจ์ น
เกินสมควรอนั จะถือว่าเป็นการขดั ต่อรฐั ธรรมนูญ พิพากษายกฟ้อง (คาํ พิพากษา
ศาลปกครองสงู สดุ ที่ ฟ.15/2545)
82
หลกั กฎหมายทวั่ ไปทางวิธีสบญั ญตั ิ
มาตรา 44 การดาํ เนินการทงั้ ปวงเกี่ยวกบั การฟ้อง การร้องสอด
แห่ง การเรียกบคุ คล หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าท่ี
ของรฐั เข้ามาเป็นค่กู รณีในคดี การดาํ เนินกระบวนพิจารณา
พ.ร.บ.จดั ตงั้ ศาลปกครองฯ การรบั ฟังพยานหลกั ฐานและการพิพากษาคดีปกครอง
นอกจากที่บญั ญตั ิไว้แล้วในพระราชบญั ญตั ิ ให้เป็นไปตาม
หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการที่กาํ หนดโดยระเบยี บของ
ที่ประชมุ ใหญ่ตลุ าการในศาลปกครองสงู สดุ
ข้อ 5 วรรคสองแห่งระเบียบ ในกรณีท่ีกฎหมายหรือระเบยี บตามวรรคหน่ึง
ของที่ประชุมใหญ่ตลุ าการใน มิได้กาํ หนดเรื่องใดไว้โดยเฉพาะให้ดาํ เนินการ
ศาลปกครองสงู สดุ ว่าด้วย ตามหลกั กฎหมายทวั่ ไปว่าด้วยวิธีพิจารณา
วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 คดีปกครอง
83
“หลกั กฎหมายทวั่ ไป” ในทางวิธีสบญั ญตั ิโดยศาลปกครองไทย
ในส่วนที่เก่ียวกบั มีการวินิจฉัยวา่ การกระทาํ บางประเภท
เขตอาํ นาจศาล ไม่อยใู่ นเขตอาํ นาจของศาลปกครอง
นอกเหนือจากที่มีการระบไุ ว้ใน
ม.9 ว.2
การกระทาํ ทางการเมอื งของฝ่ ายบริหาร
การกระทาํ ทางนิติบญั ญตั ิ
การใช้อาํ นาจทางตลุ าการ
การกระทาํ ในกระบวนการยตุ ิธรรมทางอาญา
(ยงั มีต่อ) 84
ในส่วนท่ีเกี่ยวกบั การพิจารณาผมู้ ีสิทธิฟ้องคดี
เง่ือนไขในการฟ้ องคดี ตาม ม.42 ว.1
การพิจารณาระยะเวลา
ในการฟ้ องคดี
ในส่วนที่เก่ียวกบั หลกั การพิจารณาไมเ่ กินคาํ ฟ้อง
การกาํ หนดคาํ บงั คบั หรอื คาํ ขอ
85
บทบาทของศาลปกครองในการวางหลกั
ปฏิบตั ิราชการท่ีดีของฝ่ ายปกครองและ
บทบาทของสาํ นักงานศาลปกครอง
ในการเผยแพร่และเสนอแนะให้
ฝ่ ายปกครองปฏิบตั ิตาม
86
บทบาทของศาลปกครอง
ในการวางหลกั ปฏิบตั ิราชการที่ดี
ของฝ่ ายปกครอง
87
หลกั ปฏิบตั ิราชการท่ีดีในการออกกฎหรือคาํ สงั่ ทางปกครอง
การออกข้อบญั ญตั ิท้องถ่ินที่มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของ 88
ประชาชนจะต้องมีกฎหมายบญั ญตั ิให้อาํ นาจไว้อย่างชดั แจ้ง
มิฉะนัน้ เป็นการออกข้อบญั ญตั ิท้องถิ่นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
(คาํ พิพากษาของศาลปกครองสงู สดุ ท่ี อ.34/2549)
การดาํ เนินการตามอาํ นาจหน้าที่ของหน่วยงานทางปกครอง
หรอื เจ้าหน้าท่ีของรฐั ตามที่กฎหมายกาํ หนดไว้ อนั จะมีผลกระทบ
ต่อสิทธิของประชาชนที่เก่ียวข้องนัน้ จะต้องมีหลกั เกณฑใ์ นการ
ดาํ เนินการท่ีแน่นอน ต้องคาํ นึงถึงสดั ส่วนระหว่างประโยชน์
สาธารณะกบั ประโยชน์ส่วนบคุ คลและสดั ส่วนระหว่างความจาํ เป็น
กบั ผลกระทบท่ีจะเกิดขึน้ ต่อสิทธิของประชาชนเป็นสาํ คญั
(คาํ พิพากษาศาลปกครองสงู สดุ ท่ี อ.102/2549)
หลกั ปฏิบตั ิราชการที่ดีเกี่ยวกบั ระยะเวลาในการปฏิบตั ิงาน
หากไมม่ ีกฎหมายกาํ หนดระยะเวลาในการพิจารณาคาํ ขอหรอื การกระทาํ ใดๆ
ของหน่วยงานทางปกครองหรอื เจ้าหน้าท่ีของรฐั ไว้เป็นการเฉพาะ
ควรดาํ เนินการให้แลว้ เสรจ็ ภายใน 90 วนั นับแต่วนั ที่ได้รบั เรอ่ื ง
(คาํ พิพากษาของศาลปกครองสงู สดุ ที่ 260/2546 (ประชมุ ใหญ่))
หน่วยงานทางปกครองยอ่ มผกู พนั ที่จะต้องปฏิบตั ิหน้าที่ให้เป็นไป
ตามระเบยี บซึ่งตนกาํ หนดขนึ้ การไม่ปฏิบตั ิหน้าที่ตามท่ีกาํ หนดระยะเวลาท่ี
ระเบียบดงั กลา่ วกาํ หนดไว้แลว้ เป็นเหตใุ ห้เกิดความเสียหายแก่ผทู้ ี่เก่ียวข้อง
ย่อมเป็นการกระทาํ ละเมิดท่ีหน่วยงานทางปกครองต้องรบั ผิดในผลแห่งละเมิด
ที่เกิดขึน้
(คาํ พิพากษาศาลปกครองสงู สดุ ที่ อ.171/2549)
89
หลกั ปฏิบตั ิราชการที่ดีเกี่ยวกบั การเวนคืนอสงั หาริมทรพั ย์
ในการกาํ หนดเงินค่าตอบแทนการเวนคืนอสงั หาริมทรพั ย์
ถือเป็นหน้าท่ีของหน่วยงานผรู้ บั ผิดชอบการเวนคืนท่ีต้อง
พิจารณาว่าท่ีดินส่วนท่ีเหลือจากการเวนคืนมีมลู ค่า
หรอื ราคาลดลงจากกรณีท่ีต้องถกู เวนคืนหรือไม่ เพียงใด
โดยไม่จาํ ต้องให้เจ้าของท่ีดินรอ้ งขอเสียก่อน
(คาํ พิพากษาของศาลปกครองสงู สดุ ที่ อ.29/2549)
90
หลกั ปฏิบตั ิราชการที่ดีเกี่ยวกบั การใช้อาํ นาจ
ในการป้องกนั และรกั ษาความสงบเรียบรอ้ ย
เม่ือการชมุ นุมของประชาชนมิได้เป็นไปโดยสงบ เจ้าหน้าท่ีของรฐั
จึงสามารถเข้าสลายการชมุ นุมได้ แต่ทงั้ นี้ ต้องกระทาํ เท่าที่จาํ เป็น
โดยคาํ นึงถึงความเหมาะสมและเป็นไปตามลาํ ดบั ขนั้ ตอน
ตามหลกั สากล
(คาํ สงั่ ศาลปกครองกลาง ท่ี 464/2552)
91
บทบาทของสาํ นักงานศาลปกครอง
ในการการเผยแพร่และเสนอแนะ
ให้ฝ่ ายปกครองปฏิบตั ิตาม
92
ในกรณีที่ศาลปกครองได้มีแนวคาํ วินิจฉัยวางหลกั ปฏิบตั ิราชการที่ดี
ของฝ่ ายปกครองในเรื่องใดไว้เป็นบรรทดั ฐานแล้ว
สาํ นักงานศาลปกครอง เผยแพรแ่ นวคาํ วินิจฉัยดงั กล่าวให้ฝ่ ายปกครอง
ควรดาํ เนินการ ดงั นี้ ได้รบั ทราบและเข้าใจเพื่อป้องกนั มิให้มีการกระทาํ
ทางปกครองที่ศาลปกครองได้วินิ จฉัยไว้แล้ววา่
ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซาํ้ ซากอีก
จดั ให้มีการเสวนาระหว่างหน่วยงานทางปกครอง
หรือเจ้าหน้าท่ีของรฐั ที่ถกู ฟ้องคดีมากๆ กบั ตวั แทน
ภาคประชาชนเพื่อทาํ ความเข้าใจเก่ียวกบั
แนวคาํ วินิจฉัยของศาลปกครอง
ในกรณีท่ีจาํ เป็น ขอความรว่ มมือจากคณะรฐั มนตรี
ให้มีมติกาํ ชบั ให้หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าท่ี
ของรฐั ถือปฏิบตั ิตามแนวคาํ วินิจฉัยของศาลปกครองที่
ได้วางหลกั ปฏิบตั ิราชการที่ดีของฝ่ ายปกครอง
93
วรรณกรรมแนะนํา
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. คาํ อธบิ ายกฎหมายปกครอง , พมิ พค์ รงั้ ท่ี 30.
(กรุงเทพฯ : วญิ �ชู น , 2564).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. คาํ อธบิ ายกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ปี ฏบิ ตั ริ าชการ
ทางปกครอง , พมิ พค์ รงั้ ท่ี 14 . (กรุงเทพฯ : วญิ �ชู น , 2564).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. คาํ อธบิ ายกฎหมายวา่ ดว้ ยความรบั ผดิ ทางละเมดิ
ของเจา้ หน้าท,่ี พมิ พค์ รงั้ ท่ี 12 . (กรงุ เทพฯ : วญิ �ชู น , 2565).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. คาํ อธบิ ายกฎหมายจดั ตงั้ ศาลปกครองและ
วธิ พี จิ ารณาคดปี กครอง, พมิ พค์ รงั้ ท่ี 12. (กรงุ เทพฯ : วญิ �ชู น , 2563).
94
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. กฎหมายรฐั ธรรมนูญ แนวคดิ และประสบการณ์
ของต่างประเทศ , พมิ พค์ รงั้ ท่ี 6. (กรงุ เทพฯ : วญิ �ชู น , 2560).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. กฎหมายมหาชน ววิ ฒั นาการของกฎหมายมหาชน
ในตา่ งประเทศและในประเทศไทย , พมิ พค์ รงั้ ท่ี 6 . (กรงุ เทพฯ :
วญิ �ชู น , 2563).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. กฎหมายปกครองเกย่ี วกบั การบรหิ ารงานบคุ คล
และการดาํ เนินการทางวนิ ยั ของขา้ ราชการประเภทต่าง ๆ.
กรุงเทพฯ : วญิ �ชู น , 2560).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. กฎหมายปกครองเกย่ี วกบั การศกึ ษา. (กรุงเทพฯ :
วญิ �ชู น , 2560).
95
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. กฎหมายปกครองเกย่ี วกบั การจดั ซอ้ื จดั จา้ ง และ
การบรหิ ารพสั ดุภาครฐั , พมิ พค์ รงั้ ท่ี 4. (กรงุ เทพฯ : วญิ �ชู น , 2563).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. รฐั และนิตบิ ุคคลมหาชน, พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. (กรงุ เทพฯ :
วญิ �ชู น , 2565).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. องคก์ รอสิ ระ : ขอ้ พจิ ารณาทางกฎหมายมหาชน.
(กรุงเทพฯ : วญิ �ชู น , 2561).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. กฎหมายเกย่ี วกบั วนิ ยั การเงนิ การคลงั ของรฐั
วธิ กี ารงบประมาณและการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ , พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2.
(กรงุ เทพฯ : วญิ �ชู น , 2563).
96
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. ขอ้ ควรรทู้ างกฎหมายทเ่ี กย่ี วกบั องคก์ รปกครอง
สว่ นทอ้ งถนิ่ . (กรุงเทพฯ : วญิ �ชู น , 2562).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. ความรบั ผดิ ชอบของรฐั : ความรบั ผดิ ทางละเมดิ และ
ความรบั ผดิ ชอบโดยปราศจากความผดิ . (กรงุ เทพฯ : วญิ �ชู น , 2563).
ชาญชยั แสวงศกั ดิ์. สญั ญาของทางราชการ : กฎหมายเปรยี บเทยี บ.
(กรุงเทพฯ : วญิ �ชู น , 2563).
ชาญชยั แสวงศกั ด.ิ ์ โทษทางปกครอง : กฎหมายเปรยี บเทยี บ. (กรงุ เทพฯ :
วญิ �ชู น, 2564).
97