The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

55052_บรรยายวินัย สพม.33

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นคร เจือจันทร์, 2020-11-05 22:59:36

55052_บรรยายวินัย สพม.33

55052_บรรยายวินัย สพม.33

■ละทิง้ หนา้ ท่ีราชการ หมายถึง ไม่อยปู่ ฏบิ ัติราชการตาม
หนา้ ท่ี ซึ่งไดแ้ กก่ ารไม่มายังสถานท่ีราชการเพือ่ ปฏบิ ัตติ าม
หนา้ ทหี่ รือเพอ่ื ใหผ้ ู้บังคบั บญั ชามอบหมายงานให้ปฏิบัติ
รวมทั้งการมายังสถานท่รี าชการแล้วไมอ่ ย่ปู ฏิบัติงานละท้ิงไป
ไม่อยู่ในสถานทีท่ ี่ควรอยู่

■ ทอดท้งิ หน้าทร่ี าชการ หมายถงึ มาอยูใ่ นสถานทีร่ าชการแต่
ไม่สนใจไปธุระ ไม่ปฏิบัตริ าชการตามหน้าท่ี ปลอ่ ยใหง้ านคงั่
คา้ ง

มาตรา 85 (2) ละทิง้ หรือทอดทิง้ หน้าทีร่ าชการ โดย
ไม่มเี หตุผลอนั สมควร เป็ นเหตุให้เสียหาย
แก่ราชการอย่างร้ายแรง

◼ การละทงิ้ หน้าทร่ี าชการไม่จากดั เวลามากน้อย

◼ โดยไม่มเี หตุผลอนั สมควร น้ัน พจิ ารณาจากพฤตกิ ารณ์
สาเหตุ และเหตุผลความจาเป็ นถงึ ขนาดท่ีจะต้องละทงิ้ หน้าท่ี
ราชการ

◼ เกดิ ความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง

และเป็ นผลโดยตรงจากการละทงิ้ หน้าทร่ี าชการน้ัน

■มาตรา 85 (3) ละทงิ้ หน้าทร่ี าชการเกนิ กว่า 15 วนั
ตดิ ต่อกนั โดยไม่มเี หตุอนั สมควรและไม่กลบั มาอกี
เลย (ระดบั โทษไล่ออก) ปรับปรุงมติ ครม. การ
ลกงวโา่ ท1ษ5กวรนั ณแีกลระณไีลมะ่กทลิ้งบั ตมิดาตอ่อีกใเนลคยร(มาวตเิดคียรวมก.นั เกิน
234/2536)

วนั ขาดราชการไม่จ่ายเงินเดือน (มติครม.152/2497)

• กำรละท้ิงหนำ้ ท่ีรำชกำรต่อเน่ืองโดยไมไ่ ดม้ ำ
หรอื ไม่ไดอ้ ยปู่ ฏิบตั ิหนำ้ ที่รำชกำรเลยเป็ นเวลำเกิน
15 วนั คือตงั้ แต่ 15 วนั ครึง่ ข้ึนไป
• กำรนบั วนั ละท้ิงหนำ้ ท่ีรำชกำรในกรณีท่ีมี
วนั หยดุ รำชกำรอยใู่ นช่วงกลำงของเวลำ ตอ้ งนบั
วนั หยดุ รำชกำรนน้ั เป็ นวนั ละท้ิงหนำ้ ท่ีติดต่อในครำว
เดียวกนั ดว้ ย

นางสาว ก. ข้าราชการครูตาแหน่งอาจารย์ 1 โรงเรียนบ้านนกเขาทอง สานักงานการประถมศึกษาอาเภอแก้งคร้อ
สานักงานการประถมศึกษาจังหวดั ชัยภูมิ ไม่มาปฏิบตั หิ น้าทร่ี าชการเป็ นเวลา195 วนั โดยไม่มีเหตุผลจาเป็ นอ่ืนใด
และไม่ได้จัดส่งใบลาตามระเบียบของทางราชการ อนั เป็ นความผดิ วนิ ัยร้ายแรงตามมาตรา 92 วรรคสอง แห่ง
พระราชบญั ญตั ิระเบยี บข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 จงึ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ แต่นางสาว ก. ได้ย่ืน
อุทธรณ์ต่อ ก.ค. โดยชี้แจงว่าเหตุทข่ี าดราชการเป็ นเวลา195 วนั น้ัน เน่ืองจากตนเองเป็ นโรคภูมิคุ้มกนั บกพร่อง
(HIV) ก.ค.พจิ ารณาแล้วเห็นว่าเหตุผลดงั กล่าวนางสาว ก. ควรไปพบแพทย์เพื่อวนิ ิจฉับว่าเป็ นโรคร้ายดงั กล่าวจริง
หรือไม่ แต่นางสาว ก. กลบั ละทงิ้ หน้าทรี่ าชการไปทนั ที ท้งั ๆ ทยี่ งั ไม่รู้ว่าตนเองเป็ นโรคภูมคิ ุ้มกนั บกพร่องจริง
หรือไม่ และถงึ แม้ว่าจะเป็ นภูมคิ ุ้มกนั บกพร่องจริงกต็ าม นางสาว ก กย็ งั สามารถท่จี ะส่งใบลาป่ วยหรือแจ้งให้
ผู้บังคบั บัญชาทราบได้ แต่เนื่องจากนางสาว ก. กลบั มาปฏบิ ตั ิราชการอกี ระดบั โทษไม่ถงึ ไล่ออกจากราชการ จงึ มี
มติลดโทษไล่ออกจากราชการเป็ นโทษปลดออกจากราชการ

กฎ ก.ค.ศ.
ว่าด้วยการเลื่อนข้นั เงนิ เดือนของข้าราชการครูและบุคลากร

ทางการศึกษาพ.ศ. ๒๕๕๐

ข้อ ๖ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซ่ึงจะได้รับการพจิ ารณาเล่ือนข้ันเงนิ เดือน
คร่ึงข้นั ในแต่ละคร้ังต้องอยู่ในหลกั เกณฑ์ ดงั ต่อไปนี้

(๔) ในคร่ึงปี ท่ีแล้วมาต้องไม่ขาดราชการโดยไม่มเี หตุผลอนั สมควร

ต้องไม่กระทาการอนั ได้ช่ือ
ว่าเป็ นผู้ประพฤตชิ ั่ว

หากกระทาการอนั ได้ช่ือว่า
เป็ นผู้ประพฤตชิ ั่วอย่างร้ายแรงเป็ น

ความผดิ วนิ ัยอย่างร้ายแรง

มาตรา 94 วรรคสาม ข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาท่เี สพยาเสพติด หรือสนับสนุนให้ผู้อื่นเสพยาเสพตดิ
เล่นการพนันเป็ นอาจิณ หรือกระทาการล่วงละเมิดทางเพศ
ต่อผู้เรียนหรือนักศึกษาไม่ว่าจะอยู่ในความดูแลรับผดิ ชอบ
ของตนหรือไม่ เป็ นความผดิ วนิ ัยอย่างร้ายแรง

คำพิพำกษำศำลปกครองสงู สดุ อ.340/2549

กำรกระทำอื่นใดที่ไดช้ ่ือว่ำเป็ นผปู้ ระพฤติชวั่ อยำ่ ง
รำ้ ยแรง จะตอ้ งพิจำรณำ ถึงเกียรติของขำ้ รำชกำร
ผนู้ น้ั และควำมรสู้ กึ ของสงั คม
ท่ีมีต่อกำรกระทำของผนู้ นั้ ประกอบกบั เจตนำ ในกำร
กระทำ โดยคำนึงถึงพฤติกำรณข์ องผนู้ น้ั ว่ำ
ไดก้ ระทำกำรอนั ทำใหร้ ำชกำรไดร้ บั ควำมเสียหำยต่อ
ภำพพจนช์ ื่อเสียงหรอื ไม่

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ .ศ.2542

■ชู้.... หมายถงึ คู่รัก ผู้ล่วงประเวณี การล่วงประเวณี
■เป็ นชู้.... หมายถงึ ชายทไี่ ปล่วงประเวณดี ้วยเมียเขา
■มีชู้.... หมายถึง หญิงยังมีสามีอยู่ไปล่วงประเวณีกับชาย

อ่ืน
■ชู้สาว.... หมายถงึ รักๆ ใคร่ๆ เชิงกามารมณ์



ผอ.และครูสาวรายหนึ่งเจรจาเร่ืองการประเมินผลการปฏบิ ัติงานของบุคลากรในโรงเรียน โดยผอ.อ้างว่าผู้ประเมนิ
ขนึ้ อยู่กบั ผอ.เพยี งคนเดยี วทจ่ี ะชี้ขาด มองกนั ตามเนื้องานจะได้เพยี ง 1-2 คนเท่าน้ัน แต่ผอ.จะสามารถเพมิ่ ให้อกี
เป็ นกรณพี เิ ศษ และคน ๆ น้ันจะต้องเป็ นคนพเิ ศษของผอ. ทผี่ อ.มคี วามรู้สึกดตี ่อครูสาว จึงให้เลือกเองว่าจะ
ตดั สินใจอย่างไร



ผู้เรียน

เร่ื องส่ วนตัวแต่มีผลกระทบต่องานราชการ

ชู้ในรูปแบบต่างๆข้างต้น จะเห็นว่าเป็นเร่ือง เก่ียวข้องโดยตรง
กับช่ือเสียงและพฤติกรรมส่วนตัว ซ่ึงมี ผลกระทบต่อ ศรัทธา
ของประชาชนที่มีต่อตัวข้าราชการและจะส่งผลกระทบไปถึง
หน่วยงานด้วย อัน จะก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรคต่อการ
ปฏบิ ตั ิหนา้ ทร่ี าชการ ของตัวข้าราชการเอง

แนวทางการลงโทษกรณเี ป็ นชู้ หรือมชี ู้

■ควรลงโทษถงึ ออกจากราชการ ซึ่งจะเป็ นปลดออก
หรือไล่ออก กแ็ ล้วแต่ พฤติกรรมของการกระทา
เป็ นเรื่องๆไป

กำรที่ขำ้ รำชกำรมีพฤติกำรณแ์ ละกำรกระทำ
อนั เช่ือไดว้ ่ำเป็ นชกู้ บั ภรรยำของผอู้ ่ืน ถือว่ำ
กระทำกำรอนั ไดช้ ่ือว่ำเป็ นผปู้ ระพฤติชว่ั อยำ่ ง
รำ้ ยแรง กำรสงั่ ลงโทษไลข่ ำ้ รำชกำรดงั กลำ่ ว
ออกจำกรำชกำร จึงเป็ นกำรใชด้ ลุ พินิจโดยชอบ
ดว้ ยกฎหมำยแลว้

67

ข่มขืนกระทาชาเรา

■ แนวทางในการลงโทษถึงไลอ่ อกจากราชการ
■ ตวั อย่าง ผช.พยาบาล ได้ใชผ้ ้าอุดปากและ มัดมือคนไขห้ ญงิ ทอ่ี ยบู่ นเตยี ง

คนไขจ้ นอยใู่ นภาวะที่ไม่สามารถขัดขนื ได้ แลว้ กระทาชาเรา จนสาเร็จ
ความใคร่ โทษทไ่ี ดร้ ับคอื ไล่ออก ฐานประพฤตชิ ัว่ อย่างรา้ ยแรง

ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกนั เจ้าหน้าท่ีของรัฐ
มใิ ห้เกยี่ วข้องกบั ยาเสพติด พ.ศ. 2542

■ ระเบียบน้ีมีมาตรการการดาเนินการทางวนิ ยั อยา่ งเขม้ งวด
ครอบคลุมไปถึงผบู้ งั คบั บญั ชาท่ีละเลยไม่ดาเนินการสืบสวน หรือ
ดาเนินการทางวนิ ยั กรณีมีการร้องเรียนกล่าวหาหรือกรณีเป็นท่ี
สงสยั วา่ เจา้ หนา้ ที่ของรัฐผใู้ ดเก่ียวขอ้ งกบั ยาเสพติด โดยใหถ้ ือวา่
ผบู้ งั คบั บญั ชากระทาผดิ วนิ ยั ดว้ ย นอกจากน้ีหากมีกรณีมีมูลวา่
เจา้ หนา้ ท่ีของรัฐผใู้ ดไปเก่ียวขอ้ งยาเสพติดผบู้ งั คบั บญั ชาตอ้ งสงั่
พกั ราชการและจะตอ้ งลงโทษสถานหนกั ดว้ ย

■ มฝี ิ่ นไว้ในครอบครองและใช้เสพ ศาลพพิ ากษาลงโทษจาคุกแต่รอลงอาญา (โทษไล่
ออก)

■ มกี ญั ชาไว้ในครอบครองเพ่ือจาหน่าย ศาลพพิ ากษาลงโทษจาคุก (โทษไล่ออก)
■ ถูกศาลพพิ ากษาจาคุกในข้อหามเี ฮโรอนี ไว้ในครอบครอง เพ่ือจาหน่าย (โทษไล่ออก)

การประพฤตชิ ่ัวอย่างร้ายแรง เป็ นความผิดวนิ ัยอย่าง

–ร้ายแรง
เบิกค่าเช่าบ้าน เบย้ี เล้ยี ง ค่าทีพ่ กั เท็จ

ตวั อยา่ ง

■ เจา้ หน้าทีธ่ ุรการ 3 ไดร้ บั อนุมตั ิใหม้ ีสทิ ธเิ บิกคา่ เชา่ บา้ น แตข่ ณะที่ยงั ไมเ่ ข้า
พักอาศัยบา้ นหลงั ทีเ่ ชา่ บิดาได้ ถึงแกก่ รรม เจา้ หนา้ ท่ผี นู้ ีจ้ งึ ไปพักอาศัยอยู่
ท่บี ้านมารดา และไดพ้ ักอาศัยอย่จู นถึงปจั จุบัน แตไ่ ด้นา หลักฐานการเชา่
บ้านที่ไดร้ ับอนุมัติดังกล่าวแล้วนัน้ ไปใชส้ ิทธเิ บกิ คา่ เชา่ บ้านจากทาง
ราชการตลอดมา โดยท่ีมไิ ดเ้ ข้าพกั อาศยั อยูจ่ ริง รวม 5 ปี 3 เดือน เป็นเงนิ
ท้งั สิน้ 89,700 บาท แต่เจา้ หนา้ ทผี่ ู้นไี้ ดช้ ดใชเ้ งนิ คนื แก่ทางราชการ
ครบถ้วน เม่อื ทราบวา่ ไม่ไดส้ ิทธเิ บกิ แล้ว โทษ ปลดออก

มาตรา 94 วรรค 2
■การกระทาความผดิ อาญาจนได้รับโทษจาคุก หรืคุกโทษที่

หนักกว่าจาคุกโดยคาพพิ ากษาถงึ ทส่ี ุดให้จาคุกหรือให้รับโทษ
หนักกว่าจาคุก เว้นแต่เป็ นโทษสาหรับความผดิ ทก่ี ระทาโดย
ประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ ........ เป็ นความผดิ วนิ ัยอย่าง
ร้ายแรง

คาว่า “ความผดิ อาญา” หมายความว่า เป็นความผดิ ตามประมวลกฎหมาย
อาญา หรอื พระราชบญั ญตั ทิ ม่ี โีทษทางอาญา

คาว่า “ได้รับโทษจาคุกโดยคาพพิ ากษาถงึ ทีส่ ุด” หมายความว่าได้โทษ
จาคุกจริงๆและต้องเป็ นโทษท่ีถึงทีส่ ุดแล้ว หากมกี ารอุทธรณ์หรือฎกี า
ยงั ไมถือว่าคดถี ึงทสี่ ุด หรือหากศาลพพิ ากษาให้ลงโทษจาคุกแต่ให้รอลง
อาญาไว้ก่อน หรืศาลพพิ ากษาให้ลงโทษจาคุกแต่ให้เปลยี่ นจากโทษ
จาคุกเป็ นโทษสถานอ่ืนที่เบากว่าโทษจาคุก ยงั ไม่ถือว่าได้รับโทษจาคุก

■ศาลปกครองสูงสุดได้มแี นววนิ ิจฉัยเป็ นบรรทดั ฐานไว้
ตามคาพพิ ากษาศาลปกครองสูงสุด ท่ี อ.142/2549 ว่า
“การดาเนินการทางวนิ ัยไม่ต้องรอผลคดอี าญา และผล
ของคดอี าญาจะเป็ นประการใดไม่ผูกมดั ผู้ดาเนินการทาง
วนิ ัยทจี่ ะเห็นแตกต่างได้ หากได้กระทาไปโดยสุจริตและ
เป็ นไปตามกฎหมายแล้ว”

คาพพิ ากษาศาลปกครองสูงสุดท่ี อ.67/2547

■ ไดว้ างหลกั กรณีการลงโทษทางวนิ ยั ที่เก่ียวเนื่องกบั คดีอาญาวา่ เม่ือมี
การดาเนินการทางวินยั และไดส้ ่ังลงโทษแก่ขา้ ราชการผูใ้ ดไปแลว้
หากปรากฏ ภายหลงั ว่าขา้ ราชการผูน้ ้ันกระทาผิดอาญาจนได้รับ
โทษจาคุก ผลของการได้รับโทษจาคุกเป็ นความผิดวินัยอย่าง
ร้ายแรงซ่ึงเป็นความผิดที่ปรากฏชดั แจง้ ผบู้ งั คบั บญั ชายงั สามารถสง่ั
ลงโทษไล่ออกหรือปลดออกไดโ้ ดยไม่ถือวา่ เป็นการดาเนินการทาง
วินยั ซา้ํ แมม้ ูลกรณีการกระทาความผดิ จะเป็นเหตเุ ดียวกนั

หนังสือกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ น.826/2482 ลงวนั ท่ี 2
พ.ค. 2482

■ข้าราชการต้องหาคดีอาญา แพ่ง ล้มละลาย
■ให้รายงานเจ้ากระทรวงทบวงกรมให้ทราบโดยด่วน
■เพ่ือจะได้ทราบความเป็ นไปของข้าราชการในสังกดั

ตอ้ งปฏิบตั ิหนา้ ท่ีใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายระเบียบแบบแผน
ของทางราชการและหน่วยงานการศึกษา มติคณะรัฐมนตรี
หรือนโยบายของรัฐบาลโดยถือประโยชนส์ ูงสุดของผเู้ รียน
หากละเลยหรือประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุใหร้ าชการเสียหาย
อยา่ งร้ายแรงเป็นความผดิ วนิ ยั ร้ายแรง

■ คาวา่ “ประมาทเลินเล่อ”หมายถึงกระทาโดยไม่รอบคอบ ไม่ระมดั ระวงั หรือกระทา
โดยพล้งั เผลอ หลงลืม

■ การประมาทเลินเล่อในหนา้ ที่ราชการมีไดท้ ้งั กระทา หรือ ละเวน้ การกระทา เช่น มี
หนา้ ท่ีควบคุมหอ้ งสอบ ควบคุมหอ้ งสอบไม่ดีจนมีผเู้ ขา้ สอบหลอกคาตอบซ่ึงกนั และ
กนั หรือเช่น เป็นเจา้ หนา้ ท่ีการเงินลืมนาเงินเขา้ เกบ็ รักษาในตูน้ ิรภยั ของหน่วยงาน
เป็นเหตุใหเ้ งินสูญหาย เป็นตน้

■ความเสียหายท่ีวา่ ร้ายแรงน้นั จะตอ้ งพจิ ารณาขอ้ เทจ็ จริงเป็น
เรื่องไป และความเสียหายไม่จาเป็นตอ้ งเป็นทรัพยส์ ินมีราคา
หรือตีราคาไดเ้ สมอไป อาจจะเป็นการเสียหายแก่ชื่อเสียงของ
ทางราชการ หรือความเสียหายในดา้ นความเช่ือถือที่
ประชาชนมีต่อทางราชการ กน็ บั เป็นความเสียหายแก่ทาง
ราชการอยา่ งร้ายแรงไดเ้ ช่นกนั

ขณะปฏิบตั ิหนา้ ท่ีอยเู่ วรประจาสานกั งาน ไดอ้ ่านหนงั สือนอกมุง้
และจุดยากนั ยงุ ไว้ เมื่อเขา้ นอนลืมดบั ยากนั ยงุ เป็นเหตุใหไ้ ฟลุก
ไหมม้ ุง้ และท่ีนอนท้งั หมด และไหมท้ รัพยส์ ินของทางราชการ
เสียหายเลก็ นอ้ ย (โทษ ตดั เงินเดือน 10% เป็นเวลา 2 เดือน)

■มีหนา้ ที่เกบ็ รักษาเงินค่าผอ่ นส่งรถจกั รยายนตแ์ ละนาเงินส่ง
คลงั จงั หวดั แต่ไดม้ อบหมายใหล้ ูกจา้ งประจานาเงินท่ีเกบ็
รักษาไวส้ ่งคลงั จงั หวดั แทน ปรากฏวา่ ลูกจา้ งคนดงั กล่าวได้
ถือโอกาสยกั ยอกเงิน แลว้ หลบหนีไป แต่ภายหลงั เจา้ หนา้ ท่ี
ผนู้ ้ีไดห้ าเงินมาส่งใชค้ ืนครบถว้ นแลว้ (โทษ ภาคทณั ฑ)์

■ นายเผลอ ตาแหน่งนกั จดั การงานทวั่ ไปชานาญการพเิ ศษ และพวกรวม 3 คน ไดร้ ับแต่งต้งั ใหเ้ ป็น
คณะกรรมการพจิ ารณาผลประกวดราคาการเช่ารถยนตส์ ่วนกลางของโรงพยาบาล บุคคลท้งั สาม
ไดร้ ับราคาของผเู้ สนอราคารายบริษทั ส.คาร์เร้นท์ จากดั โดยไม่ไดต้ รวจสอบเอกสารประกวด
ราคา ซ่ึงหากตรวจสอบใหค้ รบถว้ นตามระเบียบของทางราชการแลว้ จะพบวา่ ผเู้ สนอราคารายน้ี
ไม่ไดแ้ นบหนงั สือรับรองผลงาน มาพร้อมกบั การยน่ื ซองเสนอราคา ซ่ึงถือวา่ เป็นเง่ือนไขและ
สาระสาคญั ก่อใหเ้ กิดการไดเ้ ปรียบเสียเปรียบกนั ระหวา่ งผเู้ สนอราคาดว้ ยกนั และภายหลงั ไดม้ ี
การแจง้ ใหผ้ เู้ สนอราคานาหนงั สือรับรองผลงานมายนื่ หลงั จากไดพ้ ิจารณาไปแลว้

■ พฤติกรรมของนายเผลอ กบั พวกดงั กล่าว เป็นการกระทาผดิ วินยั อยา่ งไม่ร้ายแรง ฐานประมาทเลินเล่อใน
หนา้ ท่ีราชการ มาตรา 83 (4) ประกอบมาตรา 84 แห่งพระราชบญั ญตั ิระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ.2551
สมควรลงโทษภาคทณั ฑ์ แต่เน่ืองจากการกระทาดงั กล่าวมิไดก้ ่อใหเ้ กิดความเสียหายแก่ทางราชการ เนื่องจาก
กรณีน้ี มีผยู้ น่ื ซองเสนอราคาเพียงรายเดียวและเสนอราคาต่ากวา่ ราคากลางท่ีกาหนดไว้ ทาใหร้ าชการประหยดั งบ
รายจ่ายและไม่ปรากฏวา่ ไดม้ ีเจตนาทุจริตประกอบกบั นายเผลอกบั พวกดงั กล่าว ไม่เคยกระทาความผดิ วินยั มา
ก่อน และเป็นความผดิ วนิ ยั เลก็ นอ้ ย จึงงดโทษทางวนิ ยั ไวแ้ ลว้ ใหว้ า่ กล่าวตกั เตือนเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร

(1) เบิกเงนิ เท็จโดยเจตนา -ปลด/ไล่ ออก (ท่ี นร 0709.2/ว8 ลงวนั ท่ี 2
6 กรกฎาคม 2536) (มติ ก.พ.)

( การพิจารณาโทษกรณีที่ข้าราชการใช้สิทธิเบิกเบีย้ เลีย้ งและค่าพาหนะเดินทางตลอดจนเงินอ่ืนในทานองเดียวกันเป็ นเท็ จ เป็ นกรณีท่ีควร
พจิ ารณาจากรายละเอยี ดและพฤติการณ์เป็ นรายๆ ไป ซ่ึงอาจไม่เสมอเหมือนกันและองค์ประกอบความผิดกแ็ ตกต่างกันกับความผิดฐานทุจริต
ต่อหน้าที่ราชการ )

(2) ปลอมลายมือผู้อ่ืนไปหาประโยชน์-ปลด/ไล่ ออก
(ท่ี นร 0505/ว197 ลงวนั ท่ี 17 พฤศจิกายน 2548)

(มติ ก.พ.)
(3)เบนิกรค0่าเ2ช่0าบ4้า/นวเท6จ็ 1-ไลลง่อวอนั กท่ี 30 มีนาคม 2541 (มติ ครม.)

(4)นทรุจ0ริต2ฯ0/5ล/ะวท2งิ้ ฯ3ไ4ม่กลลงบัวนัมทาเี่ล2ย4-ไธลัน่อวอากคม 2536

(5) เรียนกรร้อ0ง7เ(งม0นิ ต9ฝิ .าค3กร/เมขว.้า2ทใหาลง้เทงาวน่านัก-บัทไ่ี ลว2่2อ8อ3กก4.)พ.2538
(6) นการรพ05นนั0ป5ร/ะวเภ1ท(2มท3ต่ี ิกลคมงร.วมหนั .้า)ทมี่ข9าดพ-ฤปษลภดา/คไมล่อ2อ5ก46
(7ล)บั เกปตนา็ นารรมไเวมค0ล่ไา5าปสต0่ังปิดข4ฏตอ2บิ่องัต/กผริ2นัู้บา(เ0งัมชกค3กนิตบั าิกบรคลวตงรญั่าวมาชม1นั .า)ทท5(ไี่่ี ย2ดว้า้นัร5ยับ/–พมชปอ่ฤวลบศยดรหจ/ากิมชไาากลยย่านอรอ2)ก548

(8)ทขลตแี่แออนจกทรเ้งอับเ้จขลงก้ยรีอ/าินมงจรขูลผ้าปงเลอรทวงงะจ็าาเตนคมนนุณคนิ/นเบนสออุคมาง่ืผนคบเลขทลตั ง้าาแิ(าผขอลนล่วะาคงชผยนา.ลกนเอทงร่ืในา็จหะนม)้ทโสบาดัาดเุคปยผส็คผนิ่ดวลลขนวใงอนิผนางนกลัยางมอราิใยนช่า่/เปง็ นร้ าผยลแงารนง
(นร 0707.3/ว5 ลว.(1มต2ิ กเม.พ.ย.).52

(9)นปยแรราะมบ0พ้ศ้า7ฤา(ล0เตสพิช9พพั่ิว./1รา้คาก/ยรษปแอารบร5งอค3กปร1าอลรงดลล)/งงไโวทลนั ่อษทอใ่ี นก2ค1ดอีกานั ญยาายน 2553
(แนวทางลงโทษ สานักงาน ก.พ.)

จบคาบรรยาย


Click to View FlipBook Version