แบบเสนอผลงานที่เป็นเลิศดิจิทัล

แบบเสนอผลงานท่ีเป็นเลิศ (Best Practice) การขับเคล่ือนการศกึ ษาด้วยเทคโนโลยีดจิ ิทัล
สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 11

ชอื่ ผลงาน การจดั การเรยี นรู้เคมีโดยใชท้ ฤษฎี 5E สู่ทักษะอาชีพด้วยเทคโนโลยดี ิจิทลั

ช่ือผู้เสนอผลงาน นางพิมพน์ ้ำผ้ึง วรรณสาม

โรงเรียน มาบอำมฤตวิทยา

โทรศัพท์ 077-578577 มอื ถือ 096-2277481

โทรสาร 077-578577 e-mail [email protected]

รายละเอยี ดผลงาน

1. ความสำคญั ของผลงาน/การปฏิบัตทิ ี่เปน็ เลิศ ทีน่ ำเสนอ

ปัจจุบนั โลกเร่มิ เข้าสูย่ ุคระบบเศรษฐกจิ และ สงั คมดิจิทัลที่เทคโนโลยีดจิ ิทลั จะไม่ไดเ้ ปน็ เพยี ง

เครอ่ื งมือสนับสนนุ การทำงานอกี ต่อไป แต่จะหลอมรวมเข้ากับชวี ิตคนอย่างแท้จรงิ และจะเปลย่ี นโครงสร้าง

รปู แบบกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ กระบวนการผลิต การคา้ การบริการ และกระบวนการ ทางสังคมอ่นื ๆ รวมถึง

การมปี ฏสิ ัมพนั ธร์ ะหวา่ งบคุ คล ไปอย่างสน้ิ เชิง ประเทศไทยจึงตอ้ งเรง่ นำเทคโนโลยี ดจิ ทิ ัลมาใชเ้ ป็นเครื่องมือ

สำคญั ในการขบั เคลื่อนการ พัฒนาประเทศ โดยในบริบทของประเทศไทย เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลสามารถตอบปัญหา

ความท้าทายท่ี ประเทศกำลังเผชญิ อย่หู รอื เพิ่มโอกาสในการพัฒนา ทางเศรษฐกิจและสังคม ข้าพเจา้ ในฐานะท่ี

เปน็ ครู ต้องการทีจ่ ะพฒั นาศักยภาพของนักเรียนให้ร้เู ทา่ ทันสื่อ รู้เทา่ ทันโลก การพัฒนาศักยภาพของคนใน

ประเทศทัง้ บคุ ลากรด้านเทคโนโลยี บุคลากรทที่ ำงานในภาค เกษตร อตุ สาหกรรม และบริการ รวมถึงคนทั่วไป

ท่ี จะต้องชาญฉลาด รู้เทา่ ทนั สื่อ เทา่ ทนั โลก ข้าพเจา้ จงึ จัดกจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ในห้องเรยี นเคมี ท่ีมกี าร

ตน่ื ตัวตลอดเวลาดว้ ยการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทัล แอพลิเคชนั ตา่ งๆ รวมไปถงึ การนำบอร์ดสมองกลฝังตวั

เขา้ มามสี ่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมการเรยี นนรู้ สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียน เรยี นรู้เคมอี ยา่ งสนุก สรา้ งสรรคแ์ ละปลอดภัย

เช่น การจัดกิจกรรมในการเรียนรู้วชิ าเคมีพ้นื ฐานเช่น เทอร์โมเพลาสติกสรรสร้างนวัตกรรม ด้วย 3D Printer ,

ผเู้ รยี นสามารถนำความรู้มาปรบั ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวนั และสร้างสรรค์ผลงานได้ โดยใชว้ สั ดุอปุ กรณ์ทม่ี ี

อยอู่ ยา่ งจำกัดใหส้ อดคล้องกับบริบทของชุมชน นอกจากนี้ยังมกี ารสรา้ ง Growth Mindset เพอ่ สง่ เสริมให้

ผู้เรยี นตระหนกั และเห็นคุณค่าในตนเอง ตลอดจนสรา้ งสรรค์ผลงานได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

ข้าพเจ้าจึงได้พัฒนาพัฒนาการจัดการเรียนรู้เคมีโดยใชท้ ฤษฎี 5E สู่ทักษะอาชีพด้วยเทคโนโลยีดจิ ิทัล

ด้วยการสอนแบบ STEM หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง พอลิเมอร์ และ สารชีวโมเลกุล เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการ

เรียนรายวิชาเคมีพื้นฐาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมาบอำมฤตวิทยา ในแผนการจัดการ

เรยี นรู้นจ้ี ะมกี ิจกรรม STEM ดงั นี้

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 STEM : ลูกบอลเดง้ ดง๋ึ 2 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 STEM : ผลติ ภณั ฑ์คอมโพสติ ยางพาราสรา้ งรายไดส้ ู่ 4 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 ชุมชน (ศกึ ษาสมบตั ขิ องยาง) 2 ชว่ั โมง
STEM :เทอร์โมเพลาสติกสรรสรา้ งนวัตกรรม
ดว้ ย 3D Printer

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 STEM: Cupcake by Saponification 4 ชวั่ โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 STEM: เชฟกระทะเหลก็ : ศึกษาการแปลง 3 ช่วั โมง

สภาพโปรตนี

ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนเกิดทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับ

ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นต่อไป อีกทงั้ ยังสร้างรายไดใ้ หน้ กั เรียนและสรา้ งอาชพี ในชมุ ชนได้อีกดว้ ย

2.จุดประสงคแ์ ละเปา้ หมายของการดำเนินงาน
1. เพอ่ื พฒั นาการจดั การเรยี นรแู้ บบ STEM เรอ่ื ง พอลเิ มอร์และสารชีวโมเลกลุ เพือ่ เพม่ิ ผลสมั ฤทธิ์

ทางการเรียนรายวิชาเคมพี ื้นฐาน ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรยี นมาบอำมฤตวิทยา มี
ประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์75/75

2. เพอื่ หาค่าดชั นีประสิทธผิ ลของการจดั การเรยี นรู้แบบ STEM เรือ่ ง พอลเิ มอร์และสารชวี โมเลกุล

เพอ่ื เพ่ิมผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนรายวิชาเคมีพื้นฐาน ของนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรยี นมาบ
อำมฤตวิทยา ท่ีผ้ศู ึกษาสร้างข้ึน

3. เพอ่ื เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นก่อนและหลังเรียนด้วยรปู แบบการจดั การเรียนรแู้ บบ
STEM เร่อื ง พอลิเมอร์และสารชีวโมเลกลุ เพื่อเพิม่ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนรายวิชาเคมีพื้นฐาน ของ
นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี นมาบอำมฤตวิทยา ที่ผู้ศึกษาสร้างขนึ้ มนี ัยสำคญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดับ
.01

4. เพอ่ื ประเมินความพึงพอใจของนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรยี นมาบอำมฤตวิทยา
หลงั จากไดร้ ับการจดั การเรยี นรู้แบบ STEM เรือ่ ง พอลเิ มอรแ์ ละสารชีวโมเลกุล เพ่อื เพ่ิมผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรยี น รายวิชาเคมีพื้นฐานที่ผ้ศู กึ ษาสร้างขึ้น

3.กระบวนการผลติ ผลงาน หรอื ขั้นตอนการดำเนนิ งาน
3.1 ข้ันตอนการออกแบบการจดั การเรยี นรู้แบบ STEM
1.ศกึ ษาเอกสาร หลักการ ทฤษฎีการจัดการเรยี นรใู้ นรปู แบบต่าง ๆ รูปแบบการจดั การเรียนรแู้ บบ

STEM Education บทความ และผลงานวจิ ัยที่เกยี่ วข้อง STEM Education
2.ออกแบบกิจกรรมการเรยี นร้ทู จ่ี ะบรู ณาการรูปแบบการจดั การเรยี นรู้แบบ STEM Education ใน

หน่วยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง พอลเิ มอรแ์ ละสารชวี โมเลกลุ ดังน้ี คือ ในช่วั โมงท่ี 1 จัดการเรียนรขู้ น้ั ตอนปกตคิ ือ ขัน้
นำ ข้นั สอน และข้นั สรุปและในช่ัวโมงที่ 2 นำสถานการณ์จำลอง ตัวอย่าง กรณีศึกษา ให้นกั เรยี นฝกึ การ
เชอ่ื มโยงความรู้กับประเดน็ ปัญหาในชวี ิตประจำวนั โดยมขี ้ันตอนดงั นี้ ขน้ั ท่ี 1 กำหนดปัญหาหรือความท้าทาย
ข้นั ที่ 2 สำรวจแนวคิดเพื่อการแก้ปญั หา ขน้ั ที่ 3 วางแผนการพฒั นาแนวทางแก้ปัญหา ข้ันท่ี 4 ทดสอบและ
ประเมนิ ขั้นที่ 5 นำเสนอผล/แนวทางแกป้ ัญหา

3. นำกิจกรรมท่ีได้ไปทดลองใช้กับนักเรียนจำนวน 3 คน มคี วามสามารถ เกง่ ปานกลาง และอ่อน
4.นำเสนอผ้เู ชีย่ วชาญเพ่ือตรวจสอบความถกู ต้องของรปู แบบที่ได้เพื่อขอคำแนะนำ แล้วนำมา
ปรับปรุงตามคำ แนะนำ
5. เขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ตามข้ันตอนการจัดการเรียนรแู้ บบ STEM ทผี่ ู้ศึกษาสรา้ งข้ึน

3.2 ขั้นตอนการสร้างแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นเรือ่ ง พอลิเมอร์และสารชีวโมเลกุล
1. ศกึ ษาหลกั สตู รแกนกลาง หลักสตู รสถานศกึ ษา การวดั และประเมินผล แนวคิดในการสรา้ ง

แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนเนอ้ื หาท่เี กย่ี วข้องกับปฏิกิริยาเคมี และโจทย์ O – net ท่มี ีเน้อื หา
ใกลเ้ คียงและเก่ียวข้องกนั ในรายวิชาเคมีพื้นฐาน

2. สรา้ งแบบทดสอบ จำนวน 40 ข้อ นำเสนอต่อผเู้ ช่ียวชาญเพื่อประเมินความสอดคล้องระหว่าง
ขอ้ สอบวัดผลสมั ฤทธ์ิกับจุดประสงค์การเรยี นรแู้ ล้ววิเคราะหข์ อ้ มลู การหาค่าดัชนีความสอดคล้อง

3. คัดเลอื กและจัดพิมพ์ข้อสอบทีผ่ ่านการตรวจคุณภาพแล้วจำนวน 30 ขอ้ ใชเ้ ปน็ แบบทดสอบฉบับ
จริงเพื่อใชใ้ นการทดลองต่อไป

3.3 ขั้นตอนการสรา้ งแบบประเมนิ ความพึงพอใจของนักเรียน หลังจากไดร้ บั การเรียนรู้แบบ STEM
1.สรา้ งแบบประเมินท่มี ลี กั ษณะเป็นแบบมาตราสว่ นประมาณค่า (Rating Scale) ตามวิธีของ

ลเิ คอร์ท (Likert)
2. นำแบบประเมินเสนอต่อผู้เชีย่ วชาญเพื่อขอคำแนะนำตามความเหมาะสม
3. ปรบั แกแ้ บบประเมินตามคำแนะนำของผเู้ ชย่ี วชาญ และจัดพิมพ์แบบประเมนิ เพ่ือนำไปใช้

ประเมินความพึงพอใจของนกั เรียนท่ไี ด้รับการจัดการเรยี นรู้เคมโี ดยใช้ทฤษฎี 5E สทู่ กั ษะอาชีพด้วยเทคโนโลยี

ดิจิทัลแบบ STEM
3.4 รูปแบบของการศกึ ษา

ใชแ้ บบแผนการทดลองแบบ One Group Pretest-Posttest Design (ลว้ น สายยศ และอังคณา สาย
ยศ. 2538 :248-249) โดยการเลือกกลุม่ ตวั อยา่ งแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซ่ึงเป็นห้องท่ผี ศู้ กึ ษาทำ
การสอน ซ่ึงมีขั้นตอน ดังน้ี

1. กอ่ นการจดั การเรยี นรู้ ผู้ศึกษาไดท้ ำการทดสอบก่อนเรียน (Pre – test) กบั นักเรียนช้นั
มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 จำนวน 28 คนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนก่อนเรียน เรอื่ ง พอลิเมอรแ์ ละ
สารชวี โมเลกุล จำนวน 30 ขอ้

2. ผู้ศกึ ษาไดท้ ำการจดั การเรียนรู้กบั นักเรยี นกลุ่มเดมิ โดยจดั ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ใน 1 หนว่ ย
การเรียนรู้ เร่ือง พอลเิ มอร์และสารชีวโมเลกุล จำนวนทัง้ สนิ้ 11 แผน ดงั น้ี

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 พอลเิ มอร์ 10 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 STEM : ลกู บอลเดง้ ดงึ๋ 2 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 1 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 การเกิดพอลเิ มอร์และปฏิกริ ยิ าการเกดิ พอลเิ มอร์ 4 ช่วั โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 STEM : ผลิตภัณฑ์คอมโพสิตยางพาราสรา้ งรายไดส้ ู่ 2 ชว่ั โมง
ชุมชน (ศึกษาสมบัตขิ องยาง)
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 STEM : เทอร์โมเพลาสตกิ สรรสรา้ งนวตั กรรม ด้วย 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 3D Printer 14 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 สมบัตบิ างประการของพอลิเมอร์ 4 ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 3 ชั่วโมง
สารชีวโมเลกลุ
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 STEM: Cupcake by Saponification 2 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 STEM: เชฟกระทะเหล็ก : ศึกษาการแปลงสภาพ 2 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 โปรตนี 1 ชั่วโมง
ความหมายและประเภทของคารโ์ บไฮเดรต

นำ้ ตาลโมเลกุลเดี่ยวและการทดสอบ

น้ำตาลโมเลกุลคู่และน้ำตาลโมเลกุลใหญ่

กรดนิวคลีอคิ

3. การจัดการเรยี นร้ใู นชวั่ โมงท่ี 1 จัดการเรยี นรใู้ นเนื้อหาทีจ่ ำเปน็ หลักการ ตามข้ันตอนคือ ขนั้ นำ
ขน้ั สอน และขั้นสรปุ การจดั การเรียนร้ใู นชว่ั โมงท่ี 2 ไดน้ ำสถานการณ์จำลอง ตวั อย่าง กรณีศกึ ษาการวเิ คราะห์
ปญั หาตามรปู แบบกระบวนการของ STEM เพื่อให้นักเรียนฝึกการเชื่อมโยงความรกู้ บั ประเด็นปญั หาใน
ชวี ติ ประจำวัน โดยมีขน้ั ตอนดังน้ี ขั้นที่ 1 กำหนดปัญหาหรือความท้าทาย ขั้นที่ 2 สำรวจแนวคิดเพ่ือการ
แก้ปัญหา ขัน้ ที่ 3 วางแผนการพัฒนาแนวทางแกป้ ญั หา ขั้นท่ี 4 ทดสอบและประเมินข้ันท่ี 5 นำเสนอผล/
แนวทางแก้ปัญหา

4. หลงั จากจัดการเรียนรู้จนครบหนว่ ยการเรียนรู้เรอ่ื ง พอลิเมอร์และสารชวี โมเลกุล จำนวนทงั้ สิ้น
4 แผนการจดั การเรยี นรู้ครูผสู้ อนและนักเรยี นรว่ มกันตงั้ ประเด็นปญั หาในชีวิตประจำวัน ร่วมกันวางแผนการ
พัฒนากระบวนการผลิตใหม่ ที่เปน็ ประโยชน์ตอ่ การดำเนนิ ชีวิต และการทำงาน

5.นกั เรียนกลุ่มทดลองสรา้ งสรรค์ชิ้นงานตามรูปแบบบูรณาการท่เี น้นให้ความสำคญั กับวิชา
วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรมศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์ และทำการนำเสนอต่อเพ่ือนในชั้นเรยี นและรว่ ม
แลกเปลยี่ นเรยี นรู้กับเพอื่ นในห้องเรยี น

6. หลังจากสิน้ สุดการจดั การเรียนรทู้ ุกแผนการจดั การเรียนรู้แลว้ ผู้ศึกษาได้ทำการทดสอบหลงั เรยี น
(Post – test) กบั นกั เรยี นกลุม่ เดมิ อีกคร้งั ดว้ ยแบบทดสอบฉบบั เดยี วกันกบั ขอ้ 1

7.หาค่าประสิทธภิ าพของกระบวนการของขั้นตอนการจดั การเรียนรเู้ คมโี ดยใชท้ ฤษฎี 5E สูท่ กั ษะ
อาชีพดว้ ยเทคโนโลยี ดว้ ยการสอนแบบ STEM ทผี่ ู้ศึกษาออกแบบขึ้นตามเกณฑ์ 75/75

8. หาค่าดชั นีประสิทธิผลของรปู แบบการจัดการเรยี นรู้เคมโี ดยใช้ทฤษฎี 5E สู่ทกั ษะอาชีพดว้ ย
เทคโนโลยี ด้วยการสอนแบบ STEM

9. เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนก่อนและหลงั เรยี นด้วย ของการจดั การเรยี นรู้เคมีโดยใชท้ ฤษฎี
5E สู่ทกั ษะอาชีพด้วยเทคโนโลยี ด้วยการสอนแบบ STEM ใช้ t – test แบบ Dependent Sample (ลว้ น
สายยศ และอังคณา สายยศ.2536 :104)

10. ผู้ศึกษาได้ให้นกั เรยี นทกุ คนทำแบบประเมนิ ความพึงพอใจตอ่ การจัดการเรียนรูเ้ คมีโดยใชท้ ฤษฎี
5E สู่ทักษะอาชีพด้วยเทคโนโลยี ดว้ ยการสอนแบบ STEM เพื่อประเมินความเหมาะสมของรูปแบบและหา
ค่าเฉลี่ยแลว้ แปรผล

4.ผลการดำเนนิ งาน/ผลสมั ฤทธิ/์ ประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั
การจดั การเรยี นรู้เคมีโดยใชท้ ฤษฎี 5E สู่ทักษะอาชีพด้วยเทคโนโลยี ด้วยการสอนแบบ STEM เร่ือง

พอลิเมอรแ์ ละสารชีวโมเลกลุ เพ่ือเพิ่มผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นรายวิชาเคมพี ้นื ฐาน ของนกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษา
ปที ่ี 6 โรงเรียนมาบอำมฤตวิทยา สำหรับครผู สู้ อนท่ตี ้องการเน้นทกั ษะการจดั การศึกษาแบบบรู ณาการที่เนน้ ให้
ความสำคญั กับวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วศิ วกรรมศาสตร์และคณิตศาสตรอ์ ย่างเทา่ เทียมกนั เพ่ือให้
นกั เรยี นเกดิ กระบวนการเรยี นร้ทู กั ษะการเชื่อมโยงและกระบวนการแกป้ ัญหา และเปน็ การสง่ เสริมให้นักเรยี น
เกดิ ทกั ษะทจี่ ำเปน็ ในศตวรรษที่ 21 นอกจากนีย้ ังเป็นการยกระดบั ผลสมั ฤทธสิ์ งู ขน้ึ โดยมีขัน้ ตอนดังนี้

ทดสอบก่อนเรียน
(Pre-test)

จดั การเรียนรใู้ นเนือ้ หาท่จี ำเปน็
หลดั การตามขั้นตอน คือ ขั้นนำ ข้ันตาม ขน้ั สรุป

วเิ คราะห์ปัญหาตามข้ันตอน

สรา้ งสรรคช์ ิ้นงานตามรูปแบบ STEM

ทดสอบหลังเรียน
(Post-test)

นักเรยี นเกดิ กระบวนการเรยี นรู้ ทกั ษะการเช่ือมโยงและกระบวนการแกป้ ญั หา และเป็นการสง่ เสริม
ให้นักเรียนเกดิ ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ร้จู กั นำเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลประยุกต์ใชก้ บั ประเดน็ ปัญหาในชวี ิตประจำวนั
มาวางแผนผลติ ผลงานใหมท่ ี่เปน็ ปะโยชน์ตอ่ การดำรงชีวิต

จากการท่ผี ู้ศกึ ษาไดน้ ำรปู แบบการจดั การเรยี นร้เู คมโี ดยใช้ทฤษฎี 5E สทู่ กั ษะอาชีพดว้ ยเทคโนโลยี ด้วย
การสอนแบบ STEM เรือ่ ง พอลเิ มอร์และสารชวี โมเลกลุ เพ่อื เพ่ิมผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเคมีพืน้ ฐาน
ของนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมาบอำมฤตวยิ า ท่ีออกแบบขน้ึ ไปทดลองใชก้ ับนกั เรยี นช้ัน
มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนมาบอำมฤตวิทยา จำนวน 28 คน ปรากฏผล ดงั นี้

1. ประสิทธิภาพการจดั การเรียนร้เู คมโี ดยใชท้ ฤษฎี 5E สทู่ กั ษะอาชีพดว้ ยเทคโนโลยี ด้วยการสอนแบบ
STEM เรือ่ ง พอลเิ อมร์และสารชวี โมเลกุล เพื่อเพมิ่ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นรายวชิ าเคมีพื้นฐาน ของนักเรียนช้นั
มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี นมาบอำมฤตวิทยา มปี ระสทิ ธภิ าพ 77.98/76.94 ซงึ่ สูงกว่าเกณฑ์75/75 ทต่ี ้ังไว้

2. ดัชนปี ระสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้เคมโี ดยใช้ทฤษฎี 5E สูท่ กั ษะอาชีพดว้ ยเทคโนโลยี ดว้ ยการ
สอนแบบ STEM มีค่าเทา่ กับ 0.6276 แสดงว่า การจดั การเรยี นรู้เคมโี ดยใช้ทฤษฎี 5E สูท่ ักษะอาชีพด้วย
เทคโนโลยี ด้วยการสอนแบบ STEM ทีอ่ อกแบบขึน้ มีความเป็นไปได้ท่จี ะทำใหผ้ ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น
รายวิชาเคมพี ื้นฐาน ของนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นมาบอำมฤตวทิ ยา เปล่ียนแปลงไปในทางท่ี
สงู ขน้ึ หรอื มีความกา้ วหนา้ และมคี วามรู้เพ่มิ ขน้ึ รอ้ ยละ 62.76

3.จากการเปรยี บเทียบผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนก่อนเรียนและหลังเรยี นดว้ ยการใช้ t – test แบบ
Dependent Sample (ลว้ น สายยศ และอังคณา สายยศ. 2536 : 104) ที่เรียนด้วยรปู แบบการจดั การเรียนรู้
แบบ STEM พบวา่ คา่ t คำนวณมีคา่ เทา่ กบั 28.31และค่า t ในตารางในช้ันแหง่ ความเป็นอิสระ ท่ี 64 มีคา่
เทา่ กบั 2.6549 แสดงว่าผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นหลงั เรยี นดว้ ยรปู แบบการจดั การเรียนรู้เคมโี ดยใช้ทฤษฎี 5E สู่
ทักษะอาชีพดว้ ยเทคโนโลยี ดว้ ยการสอนแบบ STEM ทส่ี รา้ งข้นึ สูงกว่าก่อนเรยี นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติท่ี
ระดบั .01

4. นักเรียนมคี วามพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรูแ้ บบ STEM ทอ่ี อกแบบข้ึน มีค่าเฉล่ียเทา่ กับ 4.54
หมายความว่าการจดั การเรยี นรเู้ คมโี ดยใช้ทฤษฎี 5E สูท่ ักษะอาชีพด้วยเทคโนโลยี ด้วยการสอนแบบ STEM มี
ความเหมาะสมในการนำมาใช้ในการจดั การเรียนการสอนอยใู่ นระดบั มากทีส่ ดุ

5.ปัจจยั ความสำเร็จ
1. การออกแบบการจัดการเรียนรู้เคมีโดยใชท้ ฤษฎี 5E สทู่ ักษะอาชพี ด้วยเทคโนโลยี ดว้ ยการสอน

แบบ STEM มกี ารออกแบบตามขัน้ ตอนและเปน็ ระบบมีการศกึ ษาปัญหาท่นี ำมาสู่หัวขอ้ การศึกษา มีการศกึ ษา
ทฤษฎี หลกั การทเ่ี กี่ยวข้องการขอคำแนะนำจากผู้เช่ยี วชาญ

2. ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรยี นด้วยการจดั การเรียนรเู้ คมีโดยใช้ทฤษฎี 5E สู่
ทกั ษะอาชพี ดว้ ยเทคโนโลยี ด้วยการสอนแบบ STEM อย่างมนี ัยสำคญั ทางสถติ ิท่รี ะดบั .01เพราะข้นั ตอนการ
ออกแบบการจดั การเรยี นรู้ได้ศึกษา หลักสูตร หลกั การวดั ผลประเมินผล แนวทางการออกขอ้ สอบ รวมถงึ
ข้อสอบได้ผา่ นการหาคุณภาพอย่างเป็นระบบ

3. ความพึ่งพอใจต่อรปู แบบการจัดการเรยี นรู้เคมโี ดยใช้ทฤษฎี 5E ส่ทู ักษะอาชีพดว้ ยเทคโนโลยี ด้วย
การสอนแบบ STEM อาจเปน็ เพราะครจู ดั การเรยี นรโู้ ดยเน้นให้นักเรยี นวเิ คราะห์และแยกประเด็นสำคญั ของ

เรือ่ ง เพ่ือนำมาสู่การหาคำตอบและเชอ่ื มโยงหลักการ รูปแบบบูรณาการที่เน้นให้ความสำคญั กับวิชา
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์อย่างเทา่ เทยี มกนั

4 .ผูบ้ รหิ ารมีแนวนโยบายให้ความสำคัญ สง่ เสรมิ การจดั การเรียนรู้ ทเ่ี น้นการวิจัยในชัน้ เรียนเพอื่
พัฒนานกั เรยี นอยา่ งเป็นระบบ และยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนในทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้

5. ผปู้ กครองใหก้ ารสนบั สนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนในการสร้างสรรคช์ ิ้นงาน
6. นักเรียนมี growth mindset เกิดแรงบนั ดาลใจ และมีแรงจูงใจในการทำกิจกรรม สามารถสร้างช้นิ งานไดด้ ี
สรา้ งรายไดใ้ หน้ ักเรียนอีกด้วย

6.บทเรียนท่ไี ดร้ ับ

1. ครตู ้องเชอ่ื มั่นวา่ ผูเ้ รยี นสามารถพฒั นาตนเองได้ สร้าง growth mindset แรงบนั ดาลใจ และแรงจูงใจให้
นกั เรียน อกี ท้งั ในการจดั การเรยี นรูใ้ หน้ กั เรยี นนน้ั ได้พัฒนาศกั ยภาพท้ัง 3 ด้านไปพร้อมๆ กนั โดยผา่ นการ
ทำงาน ได้แก่

1. ดา้ นความรู้ในเรื่อง พอลเิ มอร์และสารชีวโมเลกลุ
2. ดา้ นความสามาร คือ มีความสามารถในดา้ นการแสวงหาความรคู้ วามสามารถในการวาง

แผนการทำงาน ความสามารถในการแกป้ ญั หาจากงานทท่ี ำ อีกท้ังยงั พฒั นาต่อยอดจาก
สงิ่ ท่ีเรียนไปเปน็ โครงงาน สามารถไปแข่งขันระดับประเทศได้เกินเป้าหมาย
3. ด้านคุณธรรม คือ ความรบั ผิดชอบซอื่ สตั ยม์ ุ่งมน่ั ในงานที่ทำ
2. รปู แบบการจดั การเรยี นรู้เคมโี ดยใชท้ ฤษฎี 5E สทู่ กั ษะอาชีพด้วยเทคโนโลยี ด้วยการสอนแบบ STEM
ที่ออกแบบขึ้น มีประสิทธภิ าพ 77.98/76.94 ซงึ่ สูงกวา่ เกณฑ์ 75/75 ท่ตี ้ังไว้ แสดงว่า การจดั การ
เรียนรู้เคมโี ดยใชท้ ฤษฎี 5E สู่ทกั ษะอาชพี ดว้ ยเทคโนโลยี ดว้ ยการสอนแบบ STEM มีประสทิ ธิภาพ
คอ่ นข้างสูงมคี วามเปน็ ไปได้ส่งผลให้ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนสงู ขึ้น
3. การจดั การเรียนรู้เคมโี ดยใชท้ ฤษฎี 5E สูท่ กั ษะอาชีพด้วยเทคโนโลยี ดว้ ยการสอนแบบ STEM ท่ี
ออกแบบขึน้ มคี วามเป็นไปได้ทีจ่ ะทำให้ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนรายวชิ าเคมพี ้นื ฐาน ของนักเรียนชั้น
มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 โรงเรียนมาบอำมฤตวทิ ยาเปลีย่ นแปลงไปในทางทสี่ ูงข้นึ
4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรยี นมาบอำมฤตวทิ ยาทเ่ี รียน
ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เคมีโดยใชท้ ฤษฎี 5E สทู่ ักษะอาชพี ด้วยเทคโนโลยี ดว้ ยการสอนแบบ
STEM รายวชิ าเคมพี ื้นฐาน ของนกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 โรงเรยี นมาบอำมฤตวิทยาสงู กว่ากอ่ น
เรียนอย่างมีนัยสำคญั ทางสถิตทิ รี่ ะดบั .01
5. นกั เรียนมีความพงึ พอใจตอ่ การจัดการเรียนรู้เคมีโดยใชท้ ฤษฎี 5E สู่ทักษะอาชีพดว้ ยเทคโนโลยี ดว้ ย
การสอนแบบ STEM อยู่ในระดบั มากท่สี ุด หมายความการจดั การเรียนรเู้ คมีโดยใชท้ ฤษฎี 5E สู่ทกั ษะ
อาชพี ดว้ ยเทคโนโลยี ดว้ ยการสอนแบบ STEM สามารถทำใหน้ กั เรยี นเกดิ กระบวนการเรียนรรู้ ปู แบบ
บูรณาการที่เนน้ ใหค้ วามสำคัญกบั วชิ าวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์ ทำ
ให้นักเรียนเกิดทศั นคติทด่ี ีต่อการจัดการเรยี นรู้เคมีโดยใชท้ ฤษฎี 5E สทู่ ักษะอาชพี ด้วยเทคโนโลยี ดว้ ย
การสอนแบบ STEM มากข้ึน

7. การเผยแพร/่ การไดร้ ับการยอมรับ/การเผยแพร่

การเผยแพร่/การยอมรับ

1. ประชาสมั พันธใ์ นส่ือสงั คมออนไลน์
2. http://pimnamphueng.blogspot.com/
3. รว่ มแบง่ ปันความรู้ใหก้ บั เพื่อนครูในโรงเรยี นและต่างโรงเรยี น
4. นกั เรยี นสามารถนำความรู้จากกิจกรรม STEM จากการจัดการเรียนรู้ ไปต่อยอดเปน็ โครงงาน
นำเสนอระดับประเทศ ในสว่ นโครงงานสะเตม็ ศกึ ษา โครงงานนาโนเทคโนโลยี ปีการศึกษา 2560-2562

รางวลั ท่ีได้ตอ่ ตนเอง

1. รางวัลชนะเลศิ ระดับประเทศ ตัวแทนประเทศไทย Innovative Teachers Leadership
Awards 2019 (ถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพ
รตั นราชสดุ า เจ้าฟ้ามหาจักรีสริ นิ ธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภกั ดี สริ ิกจิ การณิ ีพรี ยพัฒน รัฐสีมา
คณุ ากรปยิ ชาติ สยามบรมราชกุมารี)

2. รางวลั ครูดเี ดน่ STEM ประเทศไทย ระดบั จงั หวดั
3. รว่ มจัดทำคู่มือครูวชิ าออกแบบและเทคโนโลยี มัธยมศึกษาปีท่ี 3 สสวท.
4. วทิ ยากรแกนนำวชิ าออกแบบและเทคโนโลยี สสวท.
5. วทิ ยากรแกนนำวชิ าวทิ ยาการคำนวณ สพฐ.
6. ผา่ นการคดั เลอื กนำเสนอผลงาน KruKid Kid Bright Challenge รอบแรก
7. ออกรายการครคู ลับ คลบั ของคณุ ครู ช่อง ทรปู ลูกปัญญา ตอน “เคมสี นุก สร้างอาชีพ”
8. รว่ มจัดทำแผนและคู่มือครวู ิชาเทคโนโลยี ม.1 -ม.2 โรงเรียนไกลกังวล DLTV
9. ครดู ีเดน่ กลุ่มสาระการรเรียนรูวทิ ยาศาสตร์ ปี 2560-2561
10. ครดู เี ดน่ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ชมุ นุม STEM Startup 4.0 ปี 2560-2561

รางวลั ท่ไี ด้ตอ่ ผูเ้ รียน ปี 2560
1. วันท่ี 16 มถิ ุนายน รางวัลโครงงานระดบั ดเี ดน่ ในการประกวดโครงงานนาโนเทคโนโลยี ภาคกลาง จดั

โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยแี ห่งชาติ ศูนยน์ าโนพลัสภาคกลาง และ สวทช. เปน็ ตวั แทนไปแข่งรอบชงิ
ชนะเลิศระดบั ประเทศและได้ออกรายการ พลังวทิ ย์ คดิ เพื่อคนไทย ตอนประกวดโครงงาน
วิทยาศาสตร์นาโนเทคโนโลยี https://www.youtube.com/watch?v=c-Y84D6PXLE
10 สิงหาคม ได้รบั รางวัลชมเชย ในการประกวดโครงงานสะเตม็ ศกึ ษา ระดบั ประเทศ จัดโดย สสวท.
ทโี่ รงแรมรอยอลเบญจา กทม.
2. วนั ท่ี 17 สิงหาคม ได้รบั คัดเลือกโครงงานนาโนเทคโนโลยีผา่ นเข้ารอบชงิ ชนะเลิศ ชงิ ถ้วยพระราชทาน
จากสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี วนั ท่ี 21-22 สงิ หาคม ของ วิทยาลยั นาโน
เทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง แต่ไม่ได้ไปแข่ง เพราะติดแข่ง
โครงงานวิทยาศาสตร์นาโนเทคโนโลยี ของศนู ยน์ าโนเทคโนโลยีแห่งชาติ
3. วนั ท่ี 26-27 สงิ หาคม 2560 เปน็ ตวั แทนไปแขง่ โครงงานนาโนเทคโนโลยีรอบชิงชนะเลิศ
ระดบั ประเทศ ท่ีเมอื งทองธานี จดั โดยศนู ย์นาโนเทคโนโลยีแหง่ ชาติ ร่วมกับ สวทช.

ปี 2561
1. นักเรยี นในทป่ี รกึ ษาโครงงานวิทยาศาสตร์ไดร้ บั ทนุ เขา้ โครงการพัฒนาอจั ฉรยิ ภาพทางวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีสำหรบั เดก็ และเยาวชน (JSTP) สำนกั งานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.)
วนั ท่ี 17-19 พฤษภาคม 2561
2. วันที่ 15 มถิ นุ ายน 2561 นกั เรยี นผา่ นเข้ารอบ Master class ระดบั ภาคใต้ ในการแข่งขนั นำเสนอ
ความรู้ความปลอดภัยดา้ นนาโนเทคโนโลยีแหง่ ชาติ ณ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตหาดใหญ่ จดั
โดยศูนยน์ าโนเทคโนโลยแี หง่ ชาติ
3. วนั ที่ 20-21 สงิ หาคม 2561 ไดผ้ า่ นการนำเสนอโครงงานนาโนเทคโนโลยีรอบชงิ ชนะเลศิ
ระดบั ประเทศ คร้ังท่ี 9 วทิ ยาลัยนาโนเทคโนโลยี สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกลา้ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง
2 โครงงาน
ปี 2562
1. วันท่ี 26-27 สิงหาคม 2561 ได้ผา่ นการนำเสนอโครงงานนาโนเทคโนโลยีรอบชิงชนะเลิศ
ระดับประเทศ ครั้งที่ 10 วิทยาลัยนาโนเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจ้าคุณทหาร
ลาดกระบงั 4 โครงงาน

8. ปัญหา/อปุ สรรค

ในชว่ งแรกของกิจกรรมผู้เรียนไม่มีความมน่ั ใจในการทำกจิ กรรม เนื่องจากขาดกระบวนการทักษะทาง
วทิ ยาศาสตร์ เมอ่ื ครูใหก้ ำลังใจ ช่วยกนั สร้าง growth mindset เช่อื มัน่ วา่ ตนเองทำได้ นกั เรยี นกท็ ำไดด้ ี ท่ี
สำคัญครตู ้องคอยให้ feedback เด็กเพื่อจะเปน็ แรงผลักดนั ใหน้ ักเรียนได้พฒั นาศักยภาพต่อไป เม่อื นักเรียนมี
ความม่นั ใจ นกั เรียนอยากทำกจิ กรรม หอ้ งเรยี นมคี วามสขุ นักเรยี นอยากเขา้ ห้องเรียน ส่งให้ผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนก็สงู ขึ้นตามมา

ภาคผนวก

การจดั กจิ กรรมในหอ้ งเรยี นโดยใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั สู่ชุมชน
กจิ กรรมในห้องเรียน

รางวัลชนะเลศิ ระดับประเทศ ตวั แทนประเทศไทย Innovative Teachers Leadership Awards 2019
(ถว้ ยพระราชทานจากสมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า เจ้าฟ้ามหาจกั รีสิรนิ
ธร มหาวชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ ิกจิ การณิ ีพรี ยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี)

รางวัลครดู ีเดน่ STEM ประเทศไทย ระดบั จังหวดั

นำเสนอผลงาน KruKid Kid Bright Challenge รอบแรก

คณะทำงาน จัดทำแผนและคามอื การจัดการเรียนรูว้ ชิ าเทคโนโลยี กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี โรงเรียนไกลกังวน DLTV

คณะจดั ทำคูม่ อื ครูวชิ าออกแบบและเทคโนโลยี ม.3 สสวท.
คณะกรรมการชมรมครูไทยเมคเกอร์

ครูแกนนำ นำเสนอนวัตกรรมโครงการ FAB LAB : Smart Parking ณ บ้านพกั วทิ ยาศาสตรส์ ริ นิ ธร

ผลงานเด่นดา้ นการจดั การเรยี นรู้ทภ่ี าคภูมใิ จ
จดั การเรยี นการสอนโดยใช้ STEM จดั การกระบวนการคดิ ของผูเ้ รียน สง่ ผลใหผ้ ลสัมฤทธิ์ทางการ

เรยี นและการทดสอบ O-NET ในสาระทีร่ ับผดิ ชอบของผู้เรียนเพ่ิมสงู ขน้ึ อีกท้งั ผู้เรียนมกี ารพฒั นา
กระบวนการคดิ สามารถคิดค้นหาความรูท้ ำโครงงานจนได้รับรางวลั หลายรางวัล
ผลงานที่เกิดกับผเู้ รยี น
ปี 2558 งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ลาดกระบงั ชุมพร

1.โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลองระดับ ม.ตน้ รางวลั ชมเชยอนั ดบั 1 (จุลินทรียเ์ บญจคุณ)
ศิลปหตั ถกรรมครง้ั ที่ 64 ระดับเขตพื้นที่

1.โครงงานอาชพี ระดับ ม.ตน้ รางวัลชมเชยอันดับ 1 (ดินเบญจคณุ )
ปี 2559 งานสปั ดาหว์ ิทยาศาสตร์ลาดกระบงั ชุมพร

1.โครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภททดลอง ระดบั ม.ต้น รางวัลชนะเลิศเหรยี ญทอง (จลุ นิ ทรีย์สร้างดิน
เลย้ี งพืช)
2.โครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภทนวตั กรรม ระดับ ม.ปลาย รางวัลรองชนะเลศิ อนั ดบั 1 (การพฒั นา
เยือ่ กระดาษนาโนจากเปลือกทเุ รียน)
3.โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทนวตั กรรม ม.ปลาย รางวลั รองชนะเลิศอนั ดบั 2 (กระถางชวี ภาพนา
โน)
4.โครงงานวิทยาศาสตรป์ ระเภททดลอง รางวลั ชมเชยอนั ดับ 1 รางวัล (Amazing soil)
5.โครงงานวิทยาศาสตรป์ ระเภททดลอง รางวัลชมเชยอันดับ 1 (Bluddergrass nano)
ศิลปหัตถกรรมคร้งั ที่ 65 ระดับเขตพนื้ ท่ี
1. โครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภททดลอง ม.ปลาย เหรยี ญเงิน
2. โครงงานวทิ ยาศาสตรป์ ระเภทส่งิ ประดษิ ฐ์ ม.ต้น ชนะเลิศเหรียญทองไปแข่งต่อระดบั ภาคที่จังหวัด
ระนอง
3.โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เหรยี ญเงิน
ศลิ ปหตั ถกรรม ระดบั ภาคคร้งั ที่ 65
1.โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ม.ต้น ได้ที่ 11 จาก 26 โรงเรียน ได้เหรียญทองแดง

ปี 2560
4. วนั ที่ 16 มิถุนายน รางวัลโครงงานระดับดีเด่นในการประกวดโครงงานนาโนเทคโนโลยี ภาคกลาง จัด

โดยศนู ยน์ าโนเทคโนโลยแี หง่ ชาติ ศูนยน์ าโนพลสั ภาคกลาง และ สวทช. เปน็ ตัวแทนไปแขง่ รอบชงิ
ชนะเลศิ ระดับประเทศ
และได้ออกรายการ พลังวทิ ย์ คิดเพื่อคนไทย ตอนประกวดโครงงานวทิ ยาศาสตรน์ าโนเทคโนโลยี
https://www.youtube.com/watch?v=c-Y84D6PXLE
10 สงิ หาคม ไดร้ บั รางวัลชมเชย ในการประกวดโครงงานสะเตม็ ศึกษา ระดบั ประเทศ จดั โดย สสวท.
ที่โรงแรมรอยอลเบญจา กทม.
5. วนั ที่ 17 สิงหาคม ไดร้ บั คัดเลือกโครงงานนาโนเทคโนโลยผี ่านเขา้ รอบชงิ ชนะเลศิ ชงิ ถ้วยพระราชทาน
จากสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี วันท่ี 21-22 สงิ หาคม ของ วิทยาลัยนาโน
เทคโนโลยี สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าเจา้ คุณทหารลาดกระบงั แตไ่ ม่ได้ไปแข่ง เพราะตดิ แข่ง
โครงงานวิทยาศาสตร์นาโนเทคโนโลยี ของศูนยน์ าโนเทคโนโลยีแหง่ ชาติ

6. วนั ที่ 26-27 สงิ หาคม 2560 เป็นตวั แทนไปแขง่ โครงงานนาโนเทคโนโลยรี อบชิงชนะเลิศ

ระดบั ประเทศ ที่เมืองทองธานี จัดโดยศนู ย์นาโนเทคโนโลยแี ห่งชาติ รว่ มกบั สวทช.

ปี 2561
1. นักเรียนในทปี่ รึกษาโครงงานวิทยาศาสตรไ์ ด้รับทนุ เข้าโครงการพฒั นาอัจฉริยภาพทางวทิ ยาศาสตร์และ
เทคโนโลยสี ำหรับเดก็ และเยาวชน (JSTP) สำนักงานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
วนั ท่ี 17-19 พฤษภาคม 2561
2. วันท่ี 15 มถิ ุนายน 2561 นกั เรียนผา่ นเขา้ รอบ Master class ระดับภาคใต้ ในการแข่งขนั นำเสนอ
ความรคู้ วามปลอดภยั ดา้ นนาโนเทคโนโลยีแหง่ ชาติ ณ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จดั
โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยแี หง่ ชาติ
4. วันท่ี 20-21 สิงหาคม 2561 ไดผ้ ่านการนำเสนอโครงงานนาโนเทคโนโลยีรอบชิงชนะเลิศ

ระดบั ประเทศ คร้ังท่ี 9
วทิ ยาลัยนาโนเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 2 โครงงาน
ปี 2560
7. วนั ที่ 16 มิถนุ ายน รางวัลโครงงานระดบั ดเี ด่นในการประกวดโครงงานนาโนเทคโนโลยี ภาคกลาง จดั

โดยศูนยน์ าโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ศูนย์นาโนพลัสภาคกลาง และ สวทช. เปน็ ตัวแทนไปแขง่ รอบชงิ
ชนะเลศิ ระดับประเทศ และไดอ้ อกรายการ พลังวทิ ย์ คดิ เพอื่ คนไทย ตอนประกวดโครงงาน
วทิ ยาศาสตรน์ าโนเทคโนโลยี https://www.youtube.com/watch?v=c-Y84D6PXLE

8. 10 สิงหาคม ไดร้ ับรางวลั ชมเชย ในการประกวดโครงงานสะเตม็ ศึกษา ระดับประเทศ จัดโดย
สสวท. ท่โี รงแรมรอยอลเบญจา กทม.

9. วนั ท่ี 17 สงิ หาคม ได้รับคัดเลือกโครงงานนาโนเทคโนโลยผี ่านเข้ารอบชงิ ชนะเลิศ ชิงถ้วยพระราชทาน
จากสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี วนั ท่ี 21-22 สงิ หาคม ของ วิทยาลยั นาโน
เทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจ้าคณุ ทหารลาดกระบัง แต่ไม่ได้ไปแข่ง เพราะตดิ แข่ง
โครงงานวิทยาศาสตรน์ าโนเทคโนโลยี ของศูนยน์ าโนเทคโนโลยแี หง่ ชาติ

10. วนั ที่ 26-27 สิงหาคม 2560 เป็นตวั แทนไปแข่งโครงงานนาโนเทคโนโลยรี อบชิงชนะเลศิ
ระดบั ประเทศ ท่เี มืองทองธานี จัดโดยศนู ยน์ าโนเทคโนโลยแี หง่ ชาติ รว่ มกับ สวทช.

ปี 2561
1. นักเรยี นในท่ปี รึกษาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ไดร้ ับทนุ เขา้ โครงการพฒั นาอจั ฉรยิ ภาพทางวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยสี ำหรบั เด็กและเยาวชน (JSTP) สำนักงานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ
(สวทช.) วนั ท่ี 17-19 พฤษภาคม 2561 ไดร้ ับทุนทำโครงงานจาก สวทช. เปน็ จำนวนเงิน 10,000
บาท

2. วนั ที่ 15 มถิ ุนายน 2561 นกั เรยี นผ่านเข้ารอบ Master class ระดับภาคใต้ ในการแข่งขันนำเสนอ
ความรคู้ วามปลอดภยั ด้านนาโนเทคโนโลยีแหง่ ชาติ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จัด
โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ

5. วันที่ 20-21 สิงหาคม 2561 ไดผ้ ่านการนำเสนอโครงงานนาโนเทคโนโลยรี อบชงิ ชนะเลศิ ระดบั ประเทศ
ครั้งที่ 9 ณ วทิ ยาลยั นาโนเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหารลาดกระบงั 2
โครงงาน

ต่อยอดการขายสรา้ งอาชีพในชุมชน มีกิจกรรมชุมนมุ STEM Startup 4.0 รองรับผลิตภณั ฑห์ รอื ชิ้นงาน
นกั เรียนจากการทำกิจกรรมสะเตม็ เพ่ือการจำหน่ายกระขายรายได้สู่ชุมชน

ปี 2562
วันท่ี 26-27 สิงหาคม 2562ไดผ้ ่านการนำเสนอโครงงานนาโนเทคโนโลยรี อบชิงชนะเลศิ ระดับประเทศ ครั้งท่ี
10 ณ วทิ ยาลัยนาโนเทคโนโลยี สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจ้าคุณทหารลาดกระบงั 4 โครงงาน