The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรื่องนี้เกี่ยวกับการกำกับภาพยนต์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Print Love, 2023-02-21 02:56:40

ผู้กำกับภาพยนต์

เรื่องนี้เกี่ยวกับการกำกับภาพยนต์

คำ นา หนังสืออิเล็กทรอนิส์ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของ รายวิชา การสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกสื ชั้น ชั้ มัธยมศึกษาปีที่2โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ความรู้เรื่องผู้กันกับภาพยนต์ ผู้จัดทำ ได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำ หนังสือ อิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากเป็นชื่อที่น่าสนใจ หวังว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบับนี้จะให้ความรู้และเป็น ประโยชน์แก่ทุกๆท่าน


สารบัญ 1.รู้จักอาชีพ -ลักษณะงาน -ขั้น ขั้ ตอนการทำ งาน -สถานที่ทำ งาน -ผู้ที่ต้องทำ งานด้วย 3.ความก้าวหน้าทางอาชีพ -ตำ แหน่งและเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพ -การแข่งขันและความต้องการตลาด 2.การทำ งาน 4.ข้อดีของอาชีพ 5.ข้อจำ กัดของอาชีพ 6.คุณสมบัติที่เหมาะสมกับอาชีพ 7.ทักษะที่ควรมี 8.เส้นทางสู่อาชีพ 9.คำ แนะนำ สำ หรับพัฒนาตนเอง -Hard Skills -Soft Skills -กิจกรรมต่าง ๆ


ภาพยนตร์คือสื่อบันเทิงประเภทหนึ่งที่เข้าถึงผู้ชมจำ นวนมาก ไม่ใช่แค่เพียงระดับประเทศแต่สามารถโด่งดังระดับสากลได้ การได้มี ผลงานกำ กับนับเป็น ป็ เรื่อรื่งที่ยาก ต้องใช้เวลาและการสั่งสั่สม ประสบการณ์รวมถึงโอกาสที่เหมาะสม ทำ ให้ผู้กำ กับภาพยนตร์ได้รับ ชื่อเสียงและการจับตามองจากทุกทาง นับได้ว่าว่เป็น ป็ อีกอาชีพหนึ่งที่มี แต่คนใฝ่ฝัฝ่น ฝั ถึง งานกำ กับคือทั้งทั้หมดของภาพยนตร์ เพราะการกำ กับ ภาพยนตร์หมายถึงการกำ กับทุกอย่างที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่อรื่งนั้นนั้ไม่ ว่าว่จะเป็น ป็ การแสดง เสื้อผ้า สถานที่ เพลง การตัดต่อ หรือรืแสงสี เป็น ป็ ต้น เมื่อภาพยนตร์เรื่อรื่งหนึ่งได้รับคำ ชื่นชม ก็มักจะต้องยกความดี ความชอบให้ผู้กำ กับภาพยนตร์เสมอ รู้จักอาชีพ


การทำ งาน การกำ กับภาพยนตร์นั้นโดยทั่วไปจะเน้นที่การกำ กับการ แสดงเป็นหลัก การกำ กับส่วนอื่น ๆ ของภาพยนตร์เช่น การ ตัดต่อ เพลง อาจจะไม่ใช่การตัดสินใจของผู้กำ กับ 100% ขึ้น อยู่กับการตกลงกันก่อนเริ่มงานของตัวผู้กำ กับและค่ายหนังว่า ค่ายต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในระดับไหน ดังที่เราจะได้เห็น ภาพยนตร์บางเรื่องมี director’s cut ปล่อยมาภายหลัง -ลักษณะงาน หากพูดถึงภาพยนตร์ที่แสดงถึงตัวตนของผู้กำ กับมาก ๆ ผู้ กำ กับจะเข้มงวดกับทุก ๆ รายละเอียด รวมถึงบางครั้งก็มีส่วน ในการเขียนบทเองด้วย ผู้กำ กับสามารถตัดสินใจได้ในทุกขั้น ตอน ตั้งแต่สัดส่วนภาพ การคัดเลือกนักแสดง เสื้อผ้า-หน้าผม อาร์ตไดเรกชั่น โดยในแต่ละส่วนจะมีผู้รับผิดชอบแยกกันไป เช่น กำ กับภาพ, กำ กับศิลป์,ป์ โปรดิวเซอร์ ซึ่งผู้กำ กับจะพูดคุยกับทุก ฝ่าฝ่ยเพื่อให้เห็นภาพที่ตรงกัน การทำ ภาพยนตร์ต้องอาศัยความ ไว้ใจและการสื่อสารที่ดีเพื่อให้ผลลัพธ์เป็น ป็ ไปอย่างที่วางแผนไว้ ภาพยนตร์หนึ่งเรื่องใช้เวลาในการสร้างนานเป็น ป็ ปี ๆ ในบาง เรื่องอาจใช้เวลา 3-5 ปี หรือมากกว่านั้นก็มี เป็น ป็ เพราะความ คาดหวังของภาพยนตร์เรื่องหนึ่งนั้นสูงมาก คาดหวังด้านราย ได้ คาดหวังกระแสชื่นชอบ คาดหวังรางวัล การลงทุนก็สูงเช่น กัน กว่าภาพยนตร์หนึ่งเรื่องจะออกมาได้ ทีมงานต้องใช้ความ ละเอียดในทุกๆ ขั้นตอน เรียกได้ว่า frame by frame งาน ของผู้กำ กับจึงไม่ใช่แค่ช่วงถ่ายทำ แต่ต้องคอยดูแลทุกขั้นตอน และทำ ให้ภาพยนตร์เรื่องนั้นเป็น ป็ ของตัวเองอย่างแท้จริง


ขั้น ขั้ ตอนการทำ งาน ในการทำ งานของภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง สามารถแบ่งได้หลัก ๆ ดังนี้ -pre-production (ก่อนผลิต) ขั้นตอนนี้หมายถึงทุกขั้น ตอนก่อนเข้าช่วงถ่ายทำ เริ่มตั้งแต่การเริ่มโปรเจกต์ การเขียนบท การเข้าไปพูดคุยกับค่ายหนัง การคัดเลือกนัก แสดง การเตรียมฉากและสถานที่ถ่ายทำ การเตรียมการถ่ายทำ ซึ่งในช่วงนี้สิ่งที่กินเวลาที่สุดอาจจะเป็น ป็ การเขียนบท เพราะบท ต้องถูกส่งให้ทุกฝ่าฝ่ยเพื่อใช้ในขั้นตอนต่อไป รวมถึงส่งผลต่อ ภาพยนตร์มาก ถ้าเริ่มต้นดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ทำ ให้การเขียนบท ต้องค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ตัดสินใจในส่วนนี้ ส่วนการเตรียมงาน สร้างด้านอื่น ๆ เองก็ต้องพิถีพิถันเช่นกัน เช่น เพื่อความ สะดวกในการถ่ายทำ ฉากบางฉากถึงกับต้องสร้างขึ้นมาใหม่ ทั้งหมด ก็ต้องใช้เวลาเตรียมการ หรือขั้นตอนการคัดเลือกนัก แสดงก็เช่นกัน ในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด อาจมีคนมาสมัคร คัดเลือกนักแสดงในแต่ละเรื่องมากมาย และหลังจากได้นัก แสดงที่ถูกใจมาแล้ว ก็ยังต้องเวิร์คช็อปต่อเพื่อความเข้าถึง บทบาท -production (การผลิต) ช่วงถ่ายทำ นั้นจะต้องผ่านการวางตา รางเวลามาอย่างดี เพราะการออกกองแต่ละครั้งเป็น ป็ ส่วนที่ใช้ทุน สูง เพราะต้องใช้ทีมงานเยอะ ระดับ 30 คนขึ้นไป ช่วงถ่ายทำ เป็นช่วงที่หนักและเหนื่อย ต้องใช้สมาธิสูงในการถ่ายทำ ทุกฉาก ถ้าต้องการกลับมาถ่ายซ่อมทีหลังจะเป็น ป็ เรื่องลำ บาก บางเรื่อง การถ่ายทำ อาจมีฉากที่ต่างประเทศ หรือนักแสดงมีงานต่อ มีข้อ จำ กัดมากมายที่ทำ ให้ช่วงผลิตต้องเข้มงวดด้านเวลามาก ๆ


-post-production (หลังผลิต) หลังจากถ่ายทำ เสร็จ ก็จะเข้า สู่ช่วงตัดต่อและทำ ให้ภาพยนตร์สมบูรณ์ การตัดต่อผู้กำ กับอาจ จะให้อิสระนักตัดต่อ เมื่อตัดต่อเสร็จก็จะตามด้วยใส่เพลง เสร็จ แล้วจึงมาทำ สี ในช่วงนี้อาจมี การทดลองฉายให้กลุ่มคนเล็กๆ ได้รับชมเพื่อวิเคราะห์ผลตอบ รับ ก่อนจะลงตารางฉายและเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโปรโมทหนัง ซึ่ง ส่วนมากจะเช้าสู่ความรับผิดชอบของค่ายหนังแล้ว ผู้กำ กับเอง ก็ต้องมาเดินสายกับนักแสดงด้วย -After screening (หลังออกฉาย) หลังภาพยนตร์ฉายเสร็จ ผู้ กำ กับก็จะติดตามผลตอบรับจากผู้ชม บางคนอาจเดินสาย ส่'ภาพยนตร์เข้าชิงรางวัลประจำ ปีหปีรือเทศกาลต่างประเทศ รางวัลในประเทศอย่าง รางวัลนักวิจารณ์จากชมรมวิจารณ์ บันเทิง รางวัลสุพรรณหงส์ หรือรางวัลต่างประเทศก็มี ภาพยนตร์ไทยไปคว้ามาแล้วมากมาย สถานที่ทำ งาน -vอฟฟิศฟิของค่ายหนัง หากทำ งานเป็น ป็ ผู้กำ กับภาพยนตร์สังกัด ของบริษัทหรือค่ายภาพยนตร์ ก็เป็น ป็ ธรรมดาที่จะต้องเข้า ออฟฟิศฟิ ในบางครั้ง ช่วงก่อนและหลังการผลิต อาจเข้ามเพื่อ ประชุม ประสานงาน workshop เป็น ป็ ต้น แต่หากเป็น ป็ ผู้กำ กับ อิสระอาจจะมีการเข้าไปประสานงานกับออฟฟิศฟิเจ้าของค่ายที่ เป็นนายทุนหรือเจ้าของโปรเจกต์ -กองถ่ายนอกสถานที่ ในช่วงทำ งานบรรยากาศกองถ่ายคือ สถานที่ ๆ ผู้กำ กับใช้ชีวิตอยู่มากที่สุด ร่วมกับเพื่อนร่วมงานอีก หลายชีวิต


ผู้ที่ต้องทำ งานด้วย ผู้กำ กับเป็นอาชีพที่ต้องพบปะผู้ร่วมงานมากมาย บางคนอาจไ เจอเพียงวันเดียว ส่วนคนหลักๆ ที่จะต้องทำ งานด้วยคือ -โปรดิวเซอร์ นับเป็นอีกคนที่มีส่วนต่อการสร้างภาพยนตร์เรื่อ หนึ่งสูงมาก โดยโปรดิวเซอร์เองก็จะร่วมงานตั้งแต่ต้นจนจบ หน้าที่หลักคือการทำ ให้งานสำ เร็จไปอย่างลุล่วง ไม่ว่าจะเป็น ป็ กา ช่วยหาทุน การบริหารเงิน การคัดเลือกทีมงาน การวางแผน ถ่ายทำ การคุยกับค่ายหนังและโรงฉาย รวมไปถึงการส่ง ภาพยนตร์เข้าเทศกาลใดๆ โปรดิวเซอร์จะรับทำ หน้าที่ส่วนที่เน้ การจัดการ เรื่องงบประมาณ เอกสาร จะต้องทำ งานตัวติดกั ผู้กำ กับตลอดเวลา และช่วยกันคิดว่าควรพาทิศทางหนังไปทา ไหนจะดีที่สุด -ผู้ช่วยผู้กำ กับ จะมีบทบาทสำ คัญช่วงผลิต บางคนอาจจะเข้า มามีส่วนร่วมตั้งแต่ก่อนหน้านั้น แต่หน้าที่หลักๆ อยู่ที่การ จัดการช่วงถ่ายทำ ให้สำ เร็จตามเวลาที่กำ หนดไว้ ผู้ช่วยผู้กำ กับ จะต้องเข้าใจที่มาที่ไปของแต่ละฉาก เข้าใจสิ่งที่ผู้กำ กับต้องการ สิ่งที่ผู้กำ กับวางแผนไว้ คอยจัดการให้ทุกฝ่าฝ่ยในกองทำ หน้าที่ ของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ในบางครั้งการถ่ายทำ อาจวางอยู่ใน ตารางที่แน่นมาก เนื่องด้วยงบประมาณหรือข้อจำ กัดอื่นๆ ทำ ให้ ช้าไม่ได้ ช่วงถ่ายทำ จึงเป็น ป็ ช่วงที่มีความเครียดและกดดันสูง ผู้ ช่วยผู้กำ กับจะเป็นคนที่จัดการช่วงนี้ให้เป็น ป็ ไปอย่างลุล่วง


-ผู้กำ กับภาพ หรือ DP (Director of photography) คือ คนที่รับผิดชอบการถ่ายทั้งหมด จะต้องพูดคุยกับผู้กำ กับ มากๆ เข้าใจแนวทางการทำ งานของกันและกัน ต้องไว้ใจกัน ภาพยนตร์คือการสื่อสารผ่านภาพเคลื่อนไหว ผู้กำ กับภาพก็ คือคนถ่ายทั้งหมด เช่น ฉากที่อารมณ์หนักหน่วงจะถ่ายแบบ กล้องสั่นๆ เพื่อสื่อถึง อารมณ์ที่หวั่นไหวของตัวละคร ดังนั้นภาษาการเล่าของผู้กำ กับ และภาษาภาพของผู้กำ กับภาพจึงต้องเป็น ป็ ภาษาเดียวกัน -นักแสดง คือ บุคคลที่เรียกได้ว่าเป็น ป็ หน้าตาของภาพยนตร์ เรื่องนั้น ส่วนมากจะมีชื่อเสียงมาก่อน นักแสดงจึงมีอิทธิพล มากขนาดที่สามารถช่วยให้ภาพยนตร์เรื่องนั้นทำ กำ ไรได้ ผู้ กำ กับมักจะต้องสนิทสนมกับนักแสดงเพื่อการเข้าถึงบทบาท ตัวละคร ต้องใช้ความรู้สึกและอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร ผู้ กำ กับต้องสื่อสารสิ่งท่ตัวเองต้องการให้กับนักแสดงให้ได้ มัก จะมีการซ้อมบทเป็นเดือนๆ เพื่อให้ช่วงถ่ายทำ แสดงออกมาได้ ดีที่สุด ผู้กำ กับบางคนจึงมักมีนักแสดงคู่บุญ เพราะเมื่อเข้า อกเข้าใจถึงสิ่งที่ผู้กำ กับคิดแล้ว ก็จะทำ ให้ทำ งานกันง่ายขึ้น


-นักตัดต่อ เป็นคนที่รับฟุตเทจ (Footage) ภาพยนตร์มาและ นำ มาร้อยเรียง การตัดต่อไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ แต่ ในจังหวะแต่ละจังหวะ การตัดต่อเองก็สามารถเล่าเรื่องได้อีก ทาง เช่น เมื่อตัวละครพูดถึงดอกไม้ แล้วตัดภาพไปที่ตัวละคร อีกตัว ก็จะทำ ให้ผู้ชมเข้าใจได้ว่าดอกไม้ที่พูดถึงเปรียบกับตัว ละครตัวนั้น รวมถึงจังหวะการตัดเร็วตัดช้า ก็ทำ ให้ความรู้สึก เวลาดูหนังเปลี่ยนไปเช่นกัน อาทิเช่น หนังแอ็คชั่นจะเร็วๆ ส่วนหนังชีวิตจะค่อยเป็น ป็ ค่อยไป ดังนั้นการตัดต่อจึงมีศาสตร์ ที่ละเอียดกว่าที่คิด ผู้กำ กับเองก็ต้องเข้าใจภาษานี้ -ค่ายหนัง เป็นอีกส่วนที่สำ คัญมากๆ ต่อทั้งผู้กำ กับและ ภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง เป็น ป็ ส่วนที่เริ่มโปรเจกต์และดำ เนินการ ดูแลความเรียบร้อยให้กับทีมงาน ตลอดจนการโปรโมทเพื่อให้ เป็นไปตามเป้าหมาย ความก้าวหน้าทางอาชีพ ตำ แหน่งและเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพ การเป็นผู้กำ กับนับได้ว่าเป็น ป็ จุดที่สูงสุดของการทำ ภาพยนตร์ แต่ว่าการสั่งสมชื่อเสียงและเอกลักษณ์ ก็เป็น ป็ อีกขั้นของอาชีพผู้ กำ กับ เพราะภาพยนตร์เป็น ป็ สื่อที่มีประสิทธิภาพที่จะโด่งดังไปทั่ว โลก ผู้กำ กับชื่อดังที่เป็น ป็ ที่รู้จักของคนในประเทศและคนทั่วโลก อาทิเช่น เจ้ย-อภิชาตพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำ กับคนไทยที่ได้ รางวัลปาล์มทองคำ จากเทศกาลภาพยนตร์คานส์ และผลงาน หลายๆ ชิ้นต่อมาของเขามีเอกลักษณ์โดดเด่นจนต้องได้รับการ พูดถึงหรือการยกเป็นตัวอย่างการเรียนการสอนเสมอ


การแข่งขันและความต้องการตลาด ในปีปีหนึ่งจะมีภาพยนตร์ไทยเข้าฉายในโรงเฉลี่ย 50-60 เรื่อ ความแข่งขันสูงของอาชีพผู้กำ กับเกิดจากโอกาสที่น้อยมากใน แต่ละปีเนื่องจากความต้องการของตลาดที่ไม่ได้สูงมาก รวม ถึงการใช้ต้นทุนที่สูง ทำ ให้ต่อปีมีปี มีภาพยนตร์ไทยออกฉายน้อย รวมถึงโอกาสให้ผู้กำ กับหน้าใหม่น้อยมาก และในบางครั้งเมื่อได้ ทำ ภาพยนตร์แล้วเรื่องหนึ่ง ก็ไม่มีอะไรรับรองว่าจะมีงานต่อ ข้อดีของอาชีพ เนื่องแค่ไหน -ได้สร้างสรรค์งานศิลปะ ศาสตร์ของภาพยนตร์มีประวัติ ยาวนาน และมีการศึกษาจริงจังรวมถึงมีเทศกาล งานภาพยนตร์ มีวัฒนธรรมภายในมากมาย ดังนั้นการได้เป็น ป็ ส่วนหนึ่งของภาพยนตร์โลกนับเป็น ป็ อีกหนึ่งหมุดหมายที่น่า ประทับใจของอาชีพ -ได้สร้างผลงานที่มีอิทธิพลกับสังคม ภาพยนตร์เป็น ป็ สื่อบันเทิง ก็จริง ทว่ามี Soft power ที่ส่งผลอย่างคาดไม่ถึง การทำ ภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงที่ถูกกดขี่ สุดท้ายแล้วอาจจะ ทำ ให้มีคนเข้าใจถึงความรุนแรงในปัญปัหานี้ ดังนั้นคำ พูดที่กล่าว ว่า ภาพยนตร์เปลี่ยนโลก จึงไม่ได้เกินจริงไปเลย -งานอิสระ สามารถขยับตารางเวลาได้ รวมถึงจะมีบางช่วงที่ไม่ เข้มงวดเรื่องเวลามากนัก ทำ ให้มีช่วงที่ทำ งานได้อย่างอิสระ -มีชื่อเสียง เมื่องานได้ออกฉาย หากมีผลตอบรับที่ดี ผู้กำ กับก็ จะได้รับความสนใจจากผู้คน และถ้ามีผลงานโด่งดังต่อเนื่องก็จ สะสมชื่อเสียงมาเรื่อยๆ


ข้อจำ กัดของอาชีพ -เป็นงานที่กินเวลานานกับภาพยนตร์แต่ละเรื่องแต่ละโปรเจกต์ ทำ ให้ต้องแบกรับความเครียดต่อเนื่องนาน -มีความกดดันสูง ภาพยนตร์แต่ละเรื่องใช้ต้นทุนทรัพยากรเงิน และคนสูงมาก ทำ ให้ผู้กำ กับถูกกดดันหากผลตอบรับออกมาไม่ ดี -งานมีความเสี่ยงสูงได้เรื่องทุนกำ ไร ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะได้ รับผลตอบรับดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับปัจปัจัยหลาย ๆ อย่าง แม้ว่าตัว บทและตัวภาพยนตร์จะผ่านการตั้งใจทำ มามาก ๆ แต่ถ้าช่วงเข้า ฉายมีภาพยนตร์เรื่องอื่นที่คนสนใจกว่า ก็ทำ ให้ผลตอบรับผิดไป จากที่คาดได้ -งานไม่เป็นเวลา เนื่องจากแต่ละช่วงความหนักเบาของการ ทำ งานไม่เท่ากัน เช่น ช่วงถ่ายทำ จะต้องออกกองติดกันหลาย วันต่อเนื่อง ทำ ให้เป็นช่วงที่เหนื่อยกายมาก ในขณะที่บางช่วงก็ มีเวลาว่าง -รายได้ไม่แน่นอน หากรอรายได้จากการทำ ภาพยนตร์อย่าง เดียวอาจไม่ต่อเนื่อง ทำ ให้ผู้กำ กับมักต้องรับงานเสริมเพื่อหา รายได้จากแหล่งอื่น ๆ


คุณสมบัติที่เหมาะสมกับอาชีพ -ชอบและมีความสนใจในศาสตร์ภาพยนตร์ คุณสมบัตินี้อาจเป็น เหตุผลให้ใครหลายคนตั้งให้ผู้กำ กับภาพยนตร์เป็นอาชีพในฝัน เลยทีเดียว แต่อีกข้อที่ไม่ควรขาด คือการเป็นนักเล่าเรื่องเล่า เรื่อง โดยเฉพาะการเล่าเรื่องด้วยภาพ -ช่างสังเกต ละเอียดรอบคอบ ยิ่งช่างสังเกตและละเอียดมาก เท่าไหร่ ผลงานภาพยนตร์ก็จะยิ่งน่าสนใจและมีคุณภาพมาก เท่านั้น -ทนรับแรงกดดันได้ดี งานภาพยนตร์เป็น ป็ งานที่ต้องเกี่ยวข้อง กับผู้คนมากมาย มีปัจปัจัยที่ต้องแบกรับมากมาย ทั้งเวลา ปัจปัจัย เรื่องคนและทีม งบประมาณและสถานที่ ถ้าใจรักจริงเรื่องแรง กดดันอาจจะไม่ใช่ปัญหา -มีความคิดสร้างสรรค์ หลายครั้งที่บทภาพยนตร์ที่มี อาจต้องมี การตีความที่แตกต่างออกไป เพื่อให้การเล่าเรื่องดูแปลกใหม่ ดังนั้นผู้กำ กับต้องชอบคิดอะไรแปลกใหม่ รวมทั้งขวนขวายที่จะ เพิ่มพูนความรู้หาแนวคิดที่นอกกรอบอยู่เสมอ -มีความรับผิดชอบสูง ผู้กำ กับเปรียบเหมือนแกนหลักของ ภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเกิดปัญปัหาส่วนใดก็ตามจะต้อง พร้อมที่จะรับผิดชอบและแก้ไขปัญปัหา


ทักษะที่ควรมี -ทักษะเฉพาะทางด้านศิลปะภาพยนตร์ นอกจากจะได้จากการ เรียนในคณะนิเทศศาสตร์แล้ว ยังเป็น ป็ สิ่งที่สามารถสั่งสมได้ จากประสบการณ์ ความชอบความสนใจ และกาารฝึก ฝึ ฝน -ทักษะการสื่อสาร อาชีพนี้ต้องเจอผู้คนหลากหลายทั้งนอก ในและในกองถ่าย และผู้กำ กับถือเป็น ป็ แกนหลักของงานทั้ง เรื่องบท เรื่องภาพ ดังนั้นการสื่อสารเป็น ป็ เรื่องสำ คัญมาก ที่สุด -ทักษะผู้นำ ขึ้นชื่อว่าเป็น ป็ ผู้กำ กับ นั่นหมายถึงการควบคุม ดูแลหลายต่อหลายเรื่องในงานเบื้องหลังต่าง ๆ การคุมทีม นักแสดงและทีมงานต่างให้ทำ งานถึงเป้าป้หมายและเป็น ป็ ไป อย่างราบรื่นจึงต้องอาศัยภาวะผู้นำ ของผู้กำ กับภาพยนตร์ ด้วย -การจัดการเวลา ต้นทุนที่สำ คัญในการทำ งานนอกจากเงิน และคนแล้ว คือเวลาที่ต้องบริหารให้ดี เป็น ป็ ไปตามแผนเพราะ หากผิดพลาดไปจะส่งผลเสียต่องานได้ -การแก้ปัญหาตัดสินใจ เป็นธรรมดาที่การทำ งานทั้งก่อน ถ่ายทำ ช่วงถ่าย หรือ post production อาจมีเหตุการณ์ ไม่คาดฝันฝัหรือทำ ให้ตัวงานที่วางไว้ไม่เป็น ป็ ไปตามแผน ดังนั้น นอกจากการมีแผนสำ รองที่ดีแล้ว ผู้กำ กับภาพยนตร์ควร รู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีและส่งผลกระทบต่องานน้อย ที่สุด


เส้นทางสู่อาชีพ หากมีความฝันฝัจะเป็นผู้กำ กับภาพยนตร์ และต้องการเข้าใกล้ เส้นทางความฝันฝัเราจะทำ อย่างไรได้บ้าง -ทำ หนังสั้นส่งเข้าประกวดตามเวทีต่างๆ ที่เปิดปิทั้งเวทีใน ประเทศและเวทีต่างประเทศ การทำ แบบนี้จะทำ ให้เราพัฒนาผล งานของตัวเอง และได้รับรู้ผลตอบรับจากคนภายนอก ได้ แข่งขันกับคนทำ หนังคนอื่น ๆ เพื่อนำ เอาข้อติชมมาพัฒนา ตนเอง -สร้างผลงานลงออนไลน์ ให้มีคนพบเห็นในวงกว้างมากขึ้น สังเกตกระแสตอบรับ รับฟังฟัความคิดเห็นทั้งบวกและลบเพื่อนำ มาปรับปรุงในงานต่อไป การทำ แบบนี้อาจทำ ให้เกิดการไวรอล และอาจนำ ไปสู่การจ้างงาน -เขียนบทภาพยนตร์ขนาดย่อแล้วส่งขอทุน ในโลกของคนทำ หนัง มีโครงการการขอทุนพัฒนาบทจากที่ต่าง ๆ ทั้งไทยและ ต่างประเทศ โดยจะคัดเลือกบทหนังที่น่าสนใจมากพอ เพื่อนำ มาพัฒนาต่อ ถ้าคุณมั่นใจว่าเรื่องที่คุณอยากเล่ามีความน่า สนใจมากพอ -ส่งเวิร์คช็อปเขียนบท หรือกำ กับ มีโครงการมากมายให้ได้ ฝึก ฝึ ฝนและทดลองเขียนบทหรือกำ กับ จะมีบทเรียนเบื้องต้นให้ เรียนรู้ทางทฤษฎี และให้ปฏิบัติจริง เมื่อลองทำ ดูอาจได้ผลงาน จริงและได้การร่วมมือจากเพื่อนใหม่ ๆ -ยื่นผลงานไปที่บริษัทภาพยนตร์ คุณอาจต้องมีผลงานที่เคย ทำ หรือบทหนังที่ เรื่องย่อที่เคยเขียน คัดเลือก


คำ แนะนำ สำ หรับพัฒนาตนเอง Hard Skills -ฝึก ฝึ การใช้โปรแกรมการตัดต่อ ลองถ่ายภาพวิดีโอเล่น ๆ จากสิ่งรอบตัว แล้วตัดต่องาน -ฝึก ฝึ การใช้โปรแกรมเพื่อการนำ เสนอผลงาน เพื่อให้ผู้อื่น เข้าใจความคิดของเราได้ดี Soft Skills -ฝึก ฝึ พูดสื่อสาร และการเล่าเรื่อง อาจจะใช้เวทีที่โรงเรียนหรือ มหาวิทยาลัย เป็นตัวแทนในการนำ เสนอหน้าชั้นเรียน -ฝึก ฝึ การทำ งานเป็นทีม ลองเป็น ป็ หัวหน้าทีมเพื่อฝึก ฝึ การจัดการ การประสานงานและภาวะผู้นำ กิจกรรมต่าง ๆ ลองฝึก ฝึ งานเป็นผู้ช่วยผู้กำ กับเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับผู้กำ กับเพื่อ เรียนรู้การทำ งานของผู้กำ กับแต่ละคน หาแหล่งอ้างอิงที่ทำ ให้ผลงานออกมาดียิ่งขึ้นแหล่งอ้างอิงอาจ มาจากหลายที่ เช่นจากสื่อเคลื่อนไหว ฝึก ฝึ งานเขียนบท ลองเริ่มจากหาเรื่องใกล้ตัวเพื่อให้เรารู้ราย ละเอียดของสิ่งที่ต้องการเล่าและเข้าใจสิ่งนั้นดีที่สุด เช่น เพื่อน ครอบครัว หรือเริ่มสังเกตจากสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่นคนรอบกาย คนในอาชีพต่างๆ การส่งหนังเข้าเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศเพื่อให้ได้รับรู้การ ตอบรับจากคนต่างชาติ และได้พบกับคนทำ หนังต่างประเทศ สำ หรับคำ ปรึกษาและการร่วมมือกัน ผลงานที่ตนเองพอใจที่สุด แล้วลองเสนอตามบริษัทภาพยนตร์ หรือโฆษณา ให้เขาลองพิจารณา คุณอาจได้การจ้างงานจริงถ้า งานคุณน่าสนใจมากพอ


บรรณนุกรม https://www.trueplookpanya.com/explorer /occupation-step3/43 ผู้กํากับภาพยนตร์. (2023).


Click to View FlipBook Version