The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

E-BOOK มหาเวสสันดรชาดก ห้อง 4-12

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Tonnam Panusorn, 2023-12-07 11:52:23

E-BOOK มหาเวสสันดรชาดก ห้อง 4-12

E-BOOK มหาเวสสันดรชาดก ห้อง 4-12

มหาเวส สันดรชาดก 4/12 มหาเวส สันดรชาดก 4/12 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 1 จาก 37


ทศชาติชาดก ปฐมเหตุการเทศน์มหาชาติ ยมกปาฏิหาริย์ ฝนโบกขรพรรษ มหาชาติ 13 กัณฑ์ กัณฑ์ทศพร กัณฑ์หิมพานต์ กัณฑ์ทานกัณฑ์ กัณฑ์วนประเวศน์ กัณฑ์ชูชก กัณฑ์จุลพน กัณฑ์มหาพน กัณฑ์กุมาร กัณฑ์มัทรี กัณฑ์สักกบรรพ กัณฑ์มหาราช กัณฑ์ฉกษัตริย์ Table of content สารบัญ เรื่อง หน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 2 จาก 37


Table of content สารบัญ กัณฑ์นครกัณฑ์ อานิสงส์และความเชื่อเกี่ยวกับการฟัง เทศน์มหาชาติ การกลับชาติมาเกิดของตัวละคร เพลงหน้าพาทย์ และจำ นวนพระคาถา ประจำ กัณฑ์ เทศบารมี ลักษณะคำ ประพันธ์ร่ายยาว ชาดก พระเวสสันดร และ พระนางมัทรี พระเจ้ากรุงสญชัย และ พระนางผุสดี ชาลี และ กัณหา ชูชก และ นางอมิตดา มหาชาติภาคกลาง เหนือ อีสาน ใต้ สัตตสดกมหาทาน สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส และ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเทพโมลี (กลิ่น) และ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) สํานักวัดถนน และ สํานักวัดสังกระจาย ปกหน้า สารบัญ ปกหลัง รวมไฟล์ เรื่อง หน้า 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 3 จาก 37


ชาติติติที่ติที่ที่ที่6 เพื่พื่พื่อพื่บำบำบำบำเพ็พ็พ็ญพ็ศีศีศีลศีบารมีมีมีมี ทศชาติติ ติชติ าดก ความหมาย 1.เตมีมีมีย์มีย์ย์ชย์าดก ชาติที่ 1 เพื่อบำ เพ็ญเนกขัมมบารมี - เตมียชาดก (เต) เป็นชาติแรก ในทศชาติชาดก ก่อนที่จะมาตรัสรู้เป็นสมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธ เจ้านาม พระสมณโคดม ชาตินี้ พระองค์ทรงบำ เพ็ญเนกขัมมบารมี หมายถึง การละทิ้งจากกามคุณทั้ง ๕ 2.ชนกชาดก ชาติที่ 2 เพื่อบำ เพ็ญวิริยบารมี ชาติที่ 9 เพื่อบำ เพ็ญสัจจบารมี ชาติที่ 10 เพื่อบำ เพ็ญทานบารมี สำ หรับชาติสุดท้าย เป็นชาติที่สำ คัญ และบำ เพ็ญ บารมีอันยิ่งใหญ่ ชาติที่ 10 เพื่อบำ เพ็ญทานบารมี สำ หรับชาติสุดท้าย เป็นชาติที่สำ คัญ และบำ เพ็ญ บารมีอันยิ่งใหญ่ ชาติที่ 8 เพื่อบำ เพ็ญอุเบกขาบารมี ชาติติติที่ติที่ที่ที่4 เพื่พื่พื่อพื่บำบำบำบำเพ็พ็พ็ญพ็อธิธิธิษธิ ฐานบารมีมีมีมี 4.เนมิมิมิรมิาชชาดก ชาติที่ 3 เพื่อบำ เพ็ญเมตตาบารมี 3.สุวรรณสามชาดก 5.มโหสถชาดก ชาติติติที่ติที่ที่ที่5 เพื่พื่พื่อพื่บำบำบำบำเพ็พ็พ็ญพ็ ปัปัปัญปัญาบารมีมีมีมี 6.ภูภูภูริภูริริทัริทัทัตทัชาดก 9.วิวิวิทูวิทูทูรทูชาดก 10.เวสสัสัสันสั ดรชาดก ทศชาติชาดก เป็นชาดกที่สำ คัญ กล่าวถึง 10 ชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ ก่อนจะเสวยพระชาติมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า หรือเจ้าชายสิทธัตถะแห่งศากยวงศ์ ทศชาติชาดก เป็นชาดกที่สำ คัญ กล่าวถึง 10 ชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ ก่อนจะเสวยพระชาติมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า หรือเจ้าชายสิทธัตถะแห่งศากยวงศ์ 77..จัจัจัจันจัจันททชชาาดดกก 88..วิวิวิวิทูวิทูวิทูทูรทูทูรชชาาดดกก ชชาาติติติติที่ติที่ติที่ที่ที่ที่77เเพื่พื่พื่พื่อพื่พื่อบำบำบำบำบำบำเเพ็พ็พ็พ็ญพ็พ็ญขัขัขัขันขัขันติติติติบติติบาารรมีมีมีมีมีมี นายรวิพวิล ทองนพคุณคุเลขที่ 1 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 4 จาก 37


๑. กัณฑ์ทศพร ๒. กัณฑ์หิมพานต์ ๓. กัณฑ์ทานกัณฑ์ ๔. กัณฑ์วนปเวสน์ ๕. กัณฑ์ชูชก ๖. กัณฑ์จุลพน ๗. กัณฑ์มหาพน ๘ .กัณฑ์กุมาร ๙. กัณฑ์มัทรี ๑๐. กัณฑ์สักกบรรพ ๑๑. กัณฑ์มหาราช ๑๒. กัณฑ์ฉกษัตริย์ ๑๓. กัณฑ์นครกัณฑ์ ๑. กัณฑ์ทศพร ๒. กัณฑ์หิมพานต์ ๓. กัณฑ์ทานกัณฑ์ ๔. กัณฑ์วนปเวสน์ ๕. กัณฑ์ชูชก ๖. กัณฑ์จุลพน ๗. กัณฑ์มหาพน ๘ .กัณฑ์กุมาร ๙. กัณฑ์มัทรี ๑๐. กัณฑ์สักกบรรพ ๑๑. กัณฑ์มหาราช ๑๒. กัณฑ์ฉกษัตริย์ ๑๓. กัณฑ์นครกัณฑ์ หลังจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงยมก ปาฏิหาริย์ ทำ ให้พระประยูรญาติละทิฐิยอมถวายบังคม ก็บังเกิดฝนโบกขรพรรษพระภิกษุทั้งหลายจึงได้ทูลถาม พระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ตรัสเล่าว่า ฝนชนิดนี้เคย ตกมาแล้วในอดีต พระองค์จึงทรงแสดงธรรมเรื่อง มหาเวสสันดรชาดกหรือเรื่องมหาชาติ ทั้ง ๑๓ กัณฑ์ โดยทั้ง ๑๓ กัณฑ์นั้นรวมกันแล้วจะมีคาถารวมกัันครบ 1000 คาถาพอดี พงษ์กรณ์ พันธุ์วงราช เลขที่ 2 ในวงการผู้นับถือพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่าถ้าได้ฟังเทศน์มหาชาติครบ ๑๓ กัณฑ์ และ ดำ เนินชีวิตตามหลักธรรมะที่ท่านประมวลไว้ในพระคัมภีร์จะได้รับผลดีถึง ๓ ชั้น คือ ๑. ชาตินี้ชีวิตจะสุขเย็น ดังเช่นอริยะชนเพราะมีธรรมะรักษา ๒. ครั้นแตกกายท าลายขันธ์ จะมีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า ๓. จะได้พบพระศาสนาของพระศรีอริยเมตตรัยในอนาคต ๑๓ กัณฑ์ มี ปฐมเหตุตุตุ ก ตุ การเทศน์น์ น์ ม น์ มหาชาติติติติ E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 5 จาก 37


ยมกปาฏิหาริย์ คือ ปาฏิหาริย์ที่แสดงเป็นคู่ ๆ เป็นปาฏิหาริย์ที่พระพุทธเจ้าทรงกระทําที่ต้นมะม่วงซึ่งเรียก ว่าคัณฑามพพฤกษ์ คือ ทรงบันดาลท่อนํ้าท่อไฟออกจากส่วนของพระกายเป็นคู่ ๆ กัน เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อทรงตรัสรู้ใหม่ๆ เพื่อตัดความสงสัยของเทวดาว่าพระองค์ได้ตรัสรู้จริงๆ หรือไม่ พระองค์จึง เสด็จขึ้นไปแสดงยมกปาฏิหาริย์ในนภากาศ ครั้งที่ ๒ หลังจากที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้แล้ว ในพรรษาที่ ๗ ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ข่มพวกอัญญเดียรถีย์ แล้วก็เสด็จไปทรงแสดงพระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ครั้งที่ ๓ ในขณะที่พระองค์เสด็จลงจากสรรค์ชั้นดาวดึงส์ และอีกครั้งหนึ่ง ในวันสิ้นพระพุทธศาสนาพระธาตุอันตรธานพระธาตุทั้งหมดจักประชุมกันที่มหาโพธิมัณฑสถาน แล้วรวมเป็นพระพุทธรูปแสดงพุทธสรีระประทับนั่งขัดสมาธิ ณ โพธิมัณฑสถานจักการทำ ปาฏิหาริย์ ซึ่งมีแต่เทวดาเท่านั้นที่เห็นต่อจากนั้นเตโชธาตุลุกโพลงขึ้นจากพระสรีรธาตุ ทำ ให้พระสรีระนั้นหมดสิ้นไป นายภควุฒิ โสดชื่น เลขที่ 3 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 6 จาก 37


เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จถึงกรุงกบิลพัสดุ์ ฝ่าย พระเจ้าสุทโธทนะเป็นประธานมาต้อนรับ แต่ ต่างก็ยังไม่ยอมนอบน้อมนมัสการ เพราะเห็น ว่าพระพุทธองค์มีวัยอ่อนกว่า พระพุทธองค์ ได้มองเห็นเหตุดังนั้น จึงทรงแสดงปาฏิหาริย์ โดยการลอยขึ้นไปจงกรมอยู่บนอากาศ ให้ธุลี ละอองพระบาทหล่นลงมาบนพระเศียรเหล่า พระประยูรญาติจากนั้นหมู่พระประยูรญาติ ต่างพากันชื่นชมโสมนัสด้วยบุญญาภินิหาร ของพระพุทธองค์ ขณะนั้น “ฝนโบกขร พรรษ” ก็ตกลงมาเป็นที่น่าอัศจรรย์ ฝนโบกขรพรรษ ฝนโบกขรพรรษเป็นฝน สำ ม สำ หั คั หัศ คัญ จรรย์ เกิดขึ้นในกาละสมัย เปียก ของการบำ เพ็ญบารมี ให้ ประกา ไม่เปียกก็ได้ เป็นฝนที่ให้ผล รเดียว และมีสีแดง ฝนมีลักษณะดังนี้ หยดน้ำ ฝนมีสีแดง สามารถปรารถนาได้ว่า อยากจะเปียกฝนหรือไม่ เมื่อถูกกายแล้วจะหล่นสู่พื้นดิน เมื่อหยดลงแล้วจะซึมหาย ไปในแผ่นดินทันที ภูดิศ วงศ๋สวนนท์ เลขที่ 4 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 7 จาก 37


มหาชาติ 13 กัณฑ์ กัณฑ์ที่ ๑ ทศพร ๑๙ พระคาถา กัณฑ์ที่ ๒ หิมพานต์ ๑๓๔ พระคาถา กัณฑ์ที่ ๓ ทานกัณฑ์ ๒๐๙ พระคาถา กัณฑ์ที่ ๔ วนประเวสน์ ๕๗ พระคาถา กัณฑ์ที่ ๕ ชูชก กล่าวถึงชูชกที่นำ เงินที่หาได้จึงนำ ไปฝากไว้กับเพื่อน แต่เพื่อนนำ เงินไปใช้หมดจึงให้ลูกสาวนาม”อมิต ตดา”ไปแทน อมิตตดาได้ทําหน้าที่เป็นภรรยาที่ดีจนคนอื่นไปเทียบกับเมียตัวเองจนเมียคนอื่นไม่ยอมคุยกับ อมิตตดา อมิตตดาจึงขอให้ชูชกไปขอลูกพระเวสสันดรมาไม่งั้นงั้จะไม่ยอมทำ งาน กัณฑ์ที่ ๖ จุลพน ๓๕ พระคาถา กัณฑ์ที่ ๗ มหาพน ๘๐ พระคาถา กัณฑ์ที่ ๕ ชูชก ๗๙ พระคาถา กัณฑ์ที่ ๙ มัทรี ๙๐ พระคาถา กัณฑ์ที่ ๑๑ มหาราช ๖๙ พระคาถา กัณฑ์ที่ ๑๒ ฉกษัตริย์ ๓๖ พระคาถา ว่าด้วยพรสิบประการที่พระอินทร์ทรงประทานแก่นางเทพธิดา ชื่อว่า ผุสดีผู้เป็นมเหสีซึ่งทูลขอไว้ในวันจะจุติจากสวรรค์ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ เมื่อพระนางผุสดีจุติจากสวรรค์มาเป็นพระราชธิดาของพระเจ้ามัทราช เมื่อเจริญวัย ๑๖ ได้พรรษาก็อภิเษกกับพระเวสสันดร ต่อมาพระเวสสันดรได้มอบช้างเผือกนามปัจจัยนาคให้แคว้นกลิงคะจึงถูกประชาชนขับไล่ ก่อนพระเวสสันดรจะเสด็จออกพระนครสีพีเพื่อไปป่าหิมพานต์ก็ทรงบริจาคทาน 7 สิ่งๆ ละ700ระหว่างทางมียากจกมาทูลของพระราชทานรถและม้า พระองค์ ก็ทรงเมตตาประทานให้ ในที่สุดทั้งทั้สองพระองค์ทรงอุ้มพระโอรส พระธิดา เสด็จพระด าเนินเข้าสู่ป่าหิมพานต เมื่อพระเวสสันดร ถึงป่าวนาสณฑ์ เมื่อพระเจ้าเจตราษฎร์ทราบจึงทูลอ้อนวอนให้ทรงเป็นกษัตษัริย์ครองมาตุ ลนครแต่พระเวสสันดรก็ทรงปฏิเสธพระเจ้าเจตราษฎร์จึงได้ทรงพรรณนาหนทางไปสู่ป่าหิมพานต์นพระอินทร์ทรงบัญชาให้พระวิษณุกรรมเทพบุตรเนรมิตศาลาให้ ๒ หลัง กล่าวถึงเส้นทางในป่าโปร่งหรือป่าเล็กซึ่งเป็นทางเดินที่พรา เจตบุตรชี้ใชี้ห้ชูชกเดินไปหาพระอัจจุต ฤๅษีเษีพื่อให้ช่วยชี้หชี้นทางที่จะไปต่อ ถึงวงกต พรรณนาถึงป่าใหญ่ที่ชูชกเดินมาจนถึงอาศรมพระอัจจุตฤๅษีแษีล้ว หลอกพระฤๅษีว่ษีว่าตนเป็นคนคุ้นเคยกับพระเวสสันดรมาก่อนพระอัจจุตฤๅษีมิษี มิสงสัยจึงให้ชูชกพักแรมด้วยหนึ่งคืนรุ่งเช้าก็ชี้ทชี้างไปป่าหิมพานต์ไปสู่อาศรมสถานพระเวสสันดร กัณฑ์ที่ ๘ กุมาร ๑๐๑ พระคาถา กล่าวถึงชูชกผู้ผจญความลําบากเดินทางไปขอสองกุมารจากพระเวสสันดร แล้วพระองค์ทรงยก สองกุมารให้ชูชก บันดาลให้บังเกิดความมหัศจรรย์บนแผ่นดิน ชูชกผูกแขนสองกุมา แล้วเฆี่ยนตีต่อหน้าพระเวสสันดรจนพระองค์ เกิดบันดาลโทสะเกือบระงับดับไว้มิได้ กล่าวถึงพระนางมัทรีกลับจากป่าหาผลไม้ ไม่เห็นพระกัณหาชาลี จึงทูลอ้อนวอนถามพระเวสสันดรแต่พระเวสสันดรไม่ทรงตอบพระนางมัทรีออกตามหากัณหาชาลีตลอดคืนยันรุ่งจน รู้สึก เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างที่สุดจนสลบไปเมื่อพระนางฟื้นคืนมาจึงตรัสบอกความจริงและ ขอให้พระนางอนุโมทนาสาธุการในปุตตทานครั้งรั้นี้ด้วยกัณฑ์ที่ ๑๐ สักบรรพ ๔๓ พระคาถากล่าวถึงท้าวสักกเทวราช คือ พระอินทร์ เกรงว่าถ้ามีใครมาขอ พระนางมัทรี พระเวสสันดรก็จะประทานให้อีก จึงจ าแลงกายเป็นพราหมณ์ มาขอไว้ก่อน้แล้วขอฝากไว้ก่อน กล่าวถึงชูชกพาสองกุมารเดินทางมาถึงป่าใหญ่ เทพเจ้าแปลงร่างเป็น พระเวสสันดรและพระนางมัทรีมาคอยดูแลพระกุมารทั้งทั้สอง เมื่อถึงทางแยกเทพเจ้าก็ดลใจให้ชูชกกเดินหลงไปในนครสีพ พระเจ้าสญชัยโปรดให้ชูชกและสองกุมารเข้าเฝ้าขณะเดียวกันพระเจ้ากรุงกลิงคะโปรดให้พราหมณ์ ๘ คน นําช้าง ปัจจัยนาคมาถวายคืน ฝ่ายชูชกบริโภคอาหารเกินขนาดไฟธาตุกําเริบท้องแตก ถึงแก่ความตาย กล่าวถึงพระเจ้าสญชัยที่นํากองทัพมารับพระเวสสันดรเมื่อหกกษัตษัริย์ได้พบกันก็บังเกิดความรู้สึกทั้งทั้ดีพระทัยและ เศร้าโศกอย่างรุนแรง ทรงกรรแสงสุดจะประมาณจนสลบไปครั้งรั้นั้นนั้แผ่นดินสั่นสั่ ไหวและท้าวสหัสนัยเทวนราชบันดาลฝนโบกขรพรรษตกลงมาประพรมชุบชีพให้ชื่นบาน ฟื้นคืนลมปฤดีทุกคน กัณฑ์ที่ ๑๓ นครกัณฑ์ ๔๘ พระคาถา กล่าวถึงพระเวสสันดรได้รับคําทูลเชิญให้ลาผนวช เพื่อรับราช สมบัติและให้ท าพิธีราชาภิเษกใน บริเวณพระอาศรมแล้วจึงทรงช้างปัจจัยนาคเดินทางกลับนครสีพี บรรดาสัตว์น้อยใหญต่างพากันเศร้า โศกเสียใจมื่อพระเวสสันดรกลับมาครองพระนครก็มี ห่าฝนสัตตรัตนมาศตกไปทั่วทั่พระนคร ศิรพัชร์ ชมสุข 5 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 8 จาก 37


กัณฑ์ที่ 1: กัณฑ์ทศพร มีทั้งทั้หมด ๑๙ พระคาถา เป็นกัณฑ์ที่พระอินทร์ประสาทพรแก่พระนางผุสดี ก่อนที่จะจุติลงมาเป็นพระ ราชมารดาของพระเวสสันดร ภาคสวรรค์พระนางผุสดีเทพอัปสรสิ้นสิ้บุญท้าวสักกะ เทวราช สวามีทรงทราบจึงพาไปประทับ ยังสวนนันทวันในเทวโลก พร้อมให้พร10 ประการ คือ1. ให้ได้อยู่ในปราสาทของพระเจ้าสิริราช แห่งนครสีพี 2. ขอให้มีดวงเนตรคมงาม และดำ ขลับ ดั่งลูกเนื้อทราย3. ขอให้คิ้วคิ้คมขำ ดั่งสร้อยคอนกยูง4. ขอให้ได้นาม “ผุสดี” ดังภพเดิม 5. ขอให้มีโอรสที่ทรงเกียรติยศเหนือกษัตริย์ทังหลายและมีใจบุญ 6. ขอให้มีครรภ์ที่ผิดไปจากสตรีสามัญ คือแบนราบในเวลาทรงครรภ์7. ขอให้มีพระถันงามและไม่หย่อนยาน 8. ขอให้มีเกศาดำ ขลับตลอดชาติ 9. ขอให้มีผิวพรรณละเอียดบริสุทธิ์ดุจทองคำ ธรรมชาติ 10. ขอให้มีอำ นาจปลดปล่อยนักโทษที่ ต้องอาญาประหารได้ อานิสงส์: จะได้รู้จักเป้าหมาย ในการอธิษฐานใจใน การทำ บุญทำ กุศลว่าหวัง จะให้ตนได้ประสบสุขอย่างไรบ้าง ณัษฐพงษ์ เกษมกิจธนานันต์ เลขที่ 6 ข้อคิด: การทำ บุญจักให้สำ เร็จสม ประสงค์ต้องอธิษฐานจิตตั้งตั้เป้าหมายชีวิตที่ตนปรารถนาไว้ ความ ปรารถนาที่จะสำ เร็จสมดัง ตั้งตั้ใจ ผู้นั้นนั้ต้องมีศีลบริบูรณ์ ทำ ดี รักษาดี เพิ่มพูนความดีจะไม่มีตกต่ำ E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 9 จาก 37


กักั กั ณ กั ณฑ์ฑ์ ฑ์ หิ ฑ์ หิ หิ ม หิ มพานต์ต์ ต์ต์ คืคืคือคือะไร? มีมีมีกี่มีกี่ กี่คกี่ าถา? มีมี มีมี134 คาถา เนื้นื้ นื้อนื้เรื่รื่ รื่อรื่ งย่ย่ย่อย่ คืคืคือคืกักักัณกั ฑ์ฑ์ฑ์ที่ฑ์ที่ที่ที่2 ในเรื่รื่รื่อรื่ งพระเวสสัสัสันสั ดร เนื้นื้นื้อนื้หาเกี่กี่กี่ยกี่ วกักักับกั การให้ห้ห้ช้ห้ช้ช้าช้ง “ปัปัปัจปั จัจัจัยจั นาค” แก่ก่ก่เก่มืมืมือมืงอื่อื่อื่นอื่ เมื่อพระนางผุสดีจุติจากสวรรค์มาเกิดที่โลกเป็นพระราชธิดา ของพระเจ้ามัทราชได้รับการอภิเษกเป็นพระมเหสีของพระเจ้าสญ ชัยต่อมาได้ประสูติพระราชโอรสทรงพระนามว่า “เวสสันดร” และในวันเดียวกัน นางช้างฉัททันต์ ได้ให้กำ เนิดลูก ช้างชื่อ “ปัจจัยนาค” , หลังจากพระเจ้าสญชัยได้ทรงมอบราชสม บัตแด่พระเวสสันดรเลยมีความคิดที่จะให้ทาน เมื่อเกิดฝนแล้ง เลยมีคนมาขอช้างปัจจัยนาคพระองค์ก็ให้เลยถูกเกลียด เลยไป ขอให้พระเจ้าสญชัยเนรเทศไปที่ป่าหิมพานต์ ข้ข้ข้อข้คิคิคิดคิ ? การให้ห้ห้ต้ห้ต้ต้อต้งมีมีมีขมีอบเขตแล้ล้ล้วล้ต้ต้ต้อต้ง ตรวจสอบก่ก่ก่อก่นว่ว่ว่าว่ถ้ถ้ถ้าถ้ให้ห้ห้ไห้ปจะไม่ม่ม่มีม่มีมีมี ใครเดืดืดือดืดร้ร้ร้อร้นจากการให้ห้ห้นั้ห้นั้นั้ นั้ ในชั่ชั่ชั่วชั่ ชีชีชีวิชีวิวิตวิหนึ่นึ่นึ่งนึ่ จะไม่ม่ม่พม่ลัลัลัดลั พรากจาก คนรัรัรักรั ของรัรัรักรั และยศศัศัศักศั ดิ์ดิ์ดิ์ที่ดิ์ที่ที่ตที่ นม อานินินิสนิ งส์ส์ส์?ส์ ธนบดีระกาศเลขที่7 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 10 จาก 37


กักักัณกัฑ์ฑ์ ฑ์ ท ฑ์ ทานกักักัณกัฑ์ฑ์ ฑ์ฑ์ ถึงรุ่งเช้าพระเวสสันดรก็บริจาคสัตสดกมหาทาน(การให้ครั้งใหญ่) โดย กำ หนดไว้สิ่งละ700 คือ 1.ช้าง700เชือก 3.โคนม 700 ตัว 5.นารี 700คน 7.ทาสี 700 คน 2.ม้า 700 ตัว 4.รถ 700 คัน 6.ทาส 700คน 8.เครื่องผ้าอย่างละ700 9.น้ำ เหล้า จากนั้นก็พระเวสสันดรและครอบครัวก็ไปเขาวงกตเพื่อไปบำ เพ็ญพรต หลังจากที่พระนางผุสดีรู้ว่าพระเวสสันดรจะถูกเนรเทศจากเมืองเพราะ ให้ช้างแก่เมืองอื่น ก็รีบมาหาพระเวสสันดรและนางมัทรี และพูดคุยกัน พระนางผสุดีก็ร้องไห้เสียใจพยายามไปขออภัยพระเจ้ากรุงสัญชัย เพื่อไม่ให้พระเวสสันดรถูกเนรเทศแต่ก็ไม่สำ เร็จ ข้อคิดที่ได้ 1.ชีวิตมีทั้งความสุขและความทุกข์ 2.การยอมเสียลสะความสุขของตนเพื่อคนอื่น พชรพร มุกดาลอย เลขที่ 8 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 11 จาก 37


เนื้อเรื่อรื่ง กัณฑ์วนปเวศน์ ว่าด้วยเรื่อง พระเวสสันดร ได้เดินทางมาถึงเมืองเจตรัฐ พระราชาได้ ออกมาต้อนรับ และประสงค์จะมอบเมืองให้ ปกครอง พระเวสสันดรทรงปฏิเสธ เพราะมี ความประสงค์ที่จะบำ เพ็ญเพียรในป่า ตลอด ระยะเวลา ๗ เดือน ที่ทั้ง ๔ พระองค์ได้ บำ เพ็ญเพียรในป่า พระราชาให้พรานเจต บุตรมาคอยดูแลเฝ้าอารักขา กักั กั ณ กั ณฑ์ฑ์ ฑ์ วฑ์ วนประเวศน์น์ น์น์ ข้อข้คิด 1.ยามเห็นใจ ยามจน ยามเจ็บ ยามจาก เป็น ยามที่ควรจะได้รับความเหลียวแล 2.ผลดีของมิตรแท้ คือ ไม่ทอดทิ้งในยามเพื่อน ทุกข์ ช่วยอุ้มชูยามเพื่อนอ่อนล้า 3.น้ำ ใจของคนดี หากรู้ชัดว่าปกติสุขของคน ส่วนมากจะตั้งอยู่ได้เพราะการเสียสละของตน ก็สมัครสลัดโอกาสและโชคลาภอันจะพึงได้ด้วย ความชื่นชม นางสาววันทิตา ลักษณะโต เลขที่9 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 12 จาก 37


กักั กั ณ กั ณฑ์ฑ์ ฑ์ ชูฑ์ ชูชู ช ชู ชก เนื้อเรื่อง กัณฑ์ชูชก ว่าด้วยเรื่อง เฒ่าชูชกซึ่งเป็น ขอทาน ได้นำ เงินที่ขอทานมาได้ไปฝากไว้ กับเพื่อน พอมาทวงเงินคืนเพื่อนได้ใช้เงิน หมดแล้ว เลยยกลูกสาวชื่ออมิตตดาให้ เมื่อนางอมิตตดาไปอยู่กับเฒ่าชูชก นางได้ ปรนนิบัติรับใช้มิได้ขาดตกบกพร่อง จน ทำ ให้เพื่อนบ้านต่างอิจฉามาต่อว่าตบตี นาง จึงไม่ยอมปรนนิบัติรับใช้อีก จึงบอกให้เฒ่าชู ชกไปขอชาลี กัณหา เพื่อเอามาเป็นทาสรับ ใช้แทน ข้อคิด ๑. ของที่รักและหวงแหน ที่โบราณห้ามฝาก ผู้อื่นไว้คือ เงิน ม้า เมีย ยิ่งน้องเมียห้ามฝาก เด็ดขาด อันตรายมาก ๒. ภรรยาที่ดีย่อมไม่ย่อหย่อนต่อหน้าที่ ข้าว ดำ น้ำ ตัก ฟืนตอหักหา น้ำ ร้อน น้ำ ชา เตรียมไว้เสร็จ ๓.ของไม่คู่ควรย่อมมีปัญหา ตำ ราหิโตปเทศ กล่าวว่า “ความรู้เป็นพิษเพราะเหตุที่ไม่ใช้ อาหารเป็นพิษเพราะเหตุไฟธาตุไม่ย่อย เมียสาวเป็นพิษเพราะผัวแก่” อานิสงค์ ผู้ใดบูชากัณฑ์ชูชก จะได้บังเกิดในตระกูล กษัตริย์ ประกอบด้วยสมบัติอันงดงามกว่าผู้ อื่น จะเจรจากับผู้ใด ก็มีเสียงไพเราะ ครั้งจะ ได้สามี หรือภรรยา รวมทั้งมีบุตรก็จะมีรูป ร่างทรงงดงาม สอนง่าย (ผู้ใดจะบูชากัณฑ์นี้ ควรอธิษฐานด้วยความตั้งใจ เพราะชูชกได้ ตั้งมั่นในคำ อธิษฐานตอนมีชีวิตอยู่ไว้) นินินิตินิติติธติร เชิชิชิญชิ สภา 10 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 13 จาก 37


กัณฑ์จุลพน ว่าด้วยเรื่อรื่ง เฒ่าชูชกออกเดินทางไปเขาวงกตเพื่อพื่ ขอชาลีและกัณหา ระหว่างทางได้พบพรานเจตบุตรผู้คอยดูแลเฝ้าอารักรัขา จึงได้ออกอุบายลวงให้เชื่อว่าได้รับรันำ สาสน์จากพระเจ้ากรุงสัญชัยมาส่งให้พระ เวสสันดรเพื่อพื่กลับวัง เพราะได้รับรัการอภัยโทษแล้วเมื่อมื่พรานป่าได้ยินก็เชื่อคำ ลวงนั้น และได้บอกทางไปเขาวงกตอีกด้วย กัณกัฑ์จุฑ์ลจุพน ๑. มีอำ นาจหากขาดปัญญาย่อมถูกหลอกได้ง่าย๒. คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด๓. ไว้ใจทาง วางใจคน จะจนใจตัว ผู้ใดบูชากัณฑ์จุลพน แม้จะบังเกิดในปรภพใด ๆ จะเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยสมบัติบริวริารจะมีอุทยานอันดารดาษด้วยดอกไม้หอมตลบไป แล้วจะมีสระโบกขรณีอันเต็มไปด้วยปทุมชาติ ครั้นรั้ตายไปแล้วก็ได้ เสวยทิพยสมบัติในโลกหน้าสืบไปฯ ชัชชัชญา นุชเนื่อง 11 เนื้อเรื่อง ข้อคิด อานิสงค์ E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 14 จาก 37


น.ส.อภิฐนั นท์การเนตรเลขที่12 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 15 จาก 37


กักั กั ณ กั ณฑ์ฑ์ ฑ์ กุ ฑ์ กุ กุ ม กุ มาร เนื้นื้นื้อนื้เรื่รื่รื่อรื่ง กัณฑ์กุมารเป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดรทรงให้ทานสองโอรสแก่ เฒ่าชูชกพระนางมัทรี ฝันร้ายเหมือนบอกเหตุแห่งการ พลัดพราก รุ่งเช้าเมื่อพระนางมัทรีเข้าป่าหา อาหารแล้ว ชูชกจึง เข้าเฝ้าทูลขอสองกุมาร สองกุมารลงไปซ่อนตัวอยู่ที่สระพระ เวสสันดรจึงเสด็จติดตามหาสองกุมารแล้วมอบให้แก่ชูชก พ่อแม่ทุกคนรักลูกเหมือนกันแต่ห่วงไม่เท่ากันโดยจะห่วงหญิง มากกว่าชายเพราะหญิงจะต้องปกป้องตัวเองมากกว่า ข้ข้ข้อข้คิคิคิดคิ ศุภวิชวิญ์ แขเกษม เลขที่ 13 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 16 จาก 37


กักักัณกั ฑ์ฑ์ ฑ์ มั ฑ์ มั มั ท มั ทรีรีรีรี เนื้อเรื่อง ว่าด้วยเรื่อง พระนางมัทรีเข้าป่าหาผลไม้ ขณะ เดินทางกลับอาศรมพบเจอเหตุการณ์ มหัศจรรย์ต่าง ๆ เช่น เกิดพายุใหญ่ มืดครึ้ม ไปทั่วบริเวณ อีกทั้งยังมีสิงห์สาราสัตว์ร้ายมา ขวางทางไว้ เมื่อมาถึงอาศรมได้ทราบเรื่องราว ของกุมารทั้ง ๒ ทำ ให้พระองค์เสียพระทัยมาก จนสลบไป หลังจากฟื้นคืนสติกลับมา พระนาง ได้อนุโมทนากับพระเวสสันดรด้วย อานิสงส์ ผู้ใดบูชากัณฑ์มัทรี เกิดในโลกหน้าจะเป็น ผู้มั่งคั่ง สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เป็นผู้ มีอายุยืนยาว ทั้งประกอบด้วยรูปโฉมงดงาม กว่าคนทั้งหลาย จะไปในที่แห่งใด ก็จะมีแต่ ความสุขความเจริญทุกหนแห่ง ข้อคิด ลูกคือแก้วตาดวงใจของผู้เป็นพ่อแม่“ลูกดีเป็นที่ชื่นใจของพ่อ แม่ ลูกแย่พ่อแม่ช้ำ ใจ” รักใครเล่าจะเท่าพ่อแม่รัก ห่วงใดเล่าจะ เท่าพ่อแม่ห่วง หวงใดเล่าจะเท่าพ่อแม่หวง ให้ใครเล่าจะเท่าพ่อ แม่ให้ เพราะฉะนั้นพึงเป็นลูกแก้ว ลูกขวัญ ลูกกตัญญู ที่ชาว โลกชื่นชม พรหมก็สรรเสริญฯ รวิสราอนุดิษฐเลขที่14 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 17 จาก 37


กัณฑ์สักกบรรพ ว่าด้วยเรื่อง พระอินทร์เกรงว่าจะมีผู้มาขอพระนางมัทรีไปอีก จักไม่มีผู้ปรนนิบัติ พระเวสสันดร พระโพธิญาณจักเป็นอันตราย จึงได้แปลงเป็นพราหมณ์ชราลงมาขอ เมื่อได้แล้วไม่ เอาไป กลับถวายคืนแก่พระเวสสันดร โดยห้ามประทานนางแก่ผู้ใดอีก พร้อมทั้งประสาทพร ๘ ประการ ให้แก่พระเวสสันดร แล้วท้าวสหัสนัยก็เนรมิตร่างเป็นพระอินทร์เหาะขึ้นฟ้าไปทันที พร ๘ ประการมีดังนี้ ๑. ให้ทรงได้รับอภัยโทษ ๒. ให้ทรงช่วยคนถูกฆ่าได้ ๓. ให้ไพร่ฟ้าได้พึ่งพา ๔. ให้มั่นคงในมเหสี ไม่ลุ่มหลงสตรีอื่น ๕. ให้ได้สืบสันติวงศ์ ๖. ให้มีสิ่งของบริจาคทานมิสิ้น ๗. ให้มีอาหารทิพย์พอเพียงทุกรุ่งเช้า ๘. ให้ได้สำ เร็จพระโพธิญาณ การทำ ดีแม้ไม่มีคนเห็น ก็เป็นความดีอยู่วันยังค่ำ ดุจทองคำ แม้จะอยู่ในตู้โชว์ หรือในกำ ปั่นก็เป็น ทองคำ อยู่นั่นเอง เข้าลักษณะว่า ความดีเหมือน เพชรเหมือนทอง การทำ ความดีแม้ไม่มีคนเห็น แต่เทพยดาอารักษ์เบื้องบนท่านย่อมรู้ ผู้ใดบูชากัณฑ์สักกบรรพ จะได้เป็นผู้เจริญด้วยลาภยศตลอดจน จตุรพิธพรทั้ง ๔ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดกาลฯ เนื้อเรื่อง ข้อคิดประจำ กัณฑ์ อาณิสงค์กัณฑ์สักกบรรพ จิรพนธ์ แซ่ลี้ เลขที่ 15 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 18 จาก 37


กัณ กั ฑ์มหาราช วิชาภาษาไทยนายรัชรัพล ลี้รัลี้ตรันา เลขที่ 16 อานิสงส์:ส์จะเป็นป็ผู้มีบุมีบุญรักรัษาเทวดาคุ้มคุ้ครอง สิ่งสิ่ที่รัที่กรัเสียสี ไปจะได้คืนคืมาโดยเร็วร็ มีทั้มีงทั้หมด 19 พระคาถา ณ มหาราช กล่าล่วถึงถึชูชชูกพาสองพระกุมกุารกลับลัมาเป็นป็ทาสรับรั ใช้ เดินทางจนมาถึงถึทางสองแพร่งร่คือคืทางหนึ่งแยกไปกาลิงลิครัฐรั อีกทางหนึ่งไปกรุงรุสีพีสี พีเทวดาดลใจ ให้ชูห้ชชูกจำ ทางผิดและไปทาง เมือมืงสีพีสี พีเมื่อมื่ชูชชูกพาพระกุมกุารทั้งทั้สองเดินทางมาถึงถึเมือมืงสีพีสี พีพระเจ้าจ้กรุงรุสญชัยชัก็ทก็รงพระสุบิสุนบิว่าว่ขณะที่พที่ระองค์ปค์ระทับทัว่าว่ ราชการอยู่นั้น มีชมีายผู้หนึ่ง ผิวสีดำสี ดำนำ ดอกบัวบัคู่หคู่ นึ่งมาถวายพระองค์ทค์รงรับรัดอกบัวบันั้นไว้ ครั้นรั้บรรทมตื่นจึงจึ ให้โห้หรหลวงทําทํ นาย โหรหลวงได้กราบทูลทูว่าว่จะมีพมีระประยูรญาติ ที่จที่ากกันกั ไปนาน กลับลัมาเข้าเฝ้าฝ้ครั้นรั้รุ่งรุ่เช้าช้เสด็จประทับทัหน้าพระลานหลวงพระองค์ทค์อดพระเนตรเห็นห็ชูชชูกและสองพระกุมกุารเดินผ่านหน้าพระที่นั่ที่ นั่ง จึงจึ โปรด ให้ทห้หารไปนำ ตัวมาไถ่ถถ่ามจนทรงทราบความ จริงริแล้วล้จึงจึ ไถ่ตัถ่ ตัวพระกุมกุารทั้งทั้สอง จากชูชชูกและพระราชทาน เลี้ยลี้งอาหารแก่ชูก่ชชูก ชูชชูกกินกิ โดยไม่คำม่คำนึงถึงถึธาตุตนจน เป็นป็เหตุให้ ถึงถึแก่คก่วามตาย พระเจ้าจ้กรุงรุสญชัยชัจึงจึ ให้ทห้หารประกาศตามหาญาติของ ชูชชูกเพื่อพื่มารับรัทรัพรัย์ แต่ไม่มีม่ ใมีครมารับรัจึงจึส่งส่คืนคืเข้าสู่ ท้อท้งพระคลังลัจากนั้นพระเจ้าจ้กรุงรุสญชัยชัเตรียรีมการเสด็จไปรับรัพระเวสสันสัดรและพระนางมัทมัรีกรีลับลัคืนคืพระนคร E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 19 จาก 37


พรากมีวันพบ จากมีวันเจอ จากกันยามเป็นได้เห็นน้ำ ใจจากกันยามตายได้เห็นน้ำ ตา พรากมีวันพบ จากมีวันเจอ จากกันยามเป็นได้เห็นน้ำ ใจจากกันยามตายได้เห็นน้ำ ตา กักัณณฑ์ ฑ์ฉฉกกษัษัตตริริย์ย์ มีมีมีมี36 พระคาถา ลำ ดับเหตุการณ์ พระเจ้จ้จ้าจ้กรุรุรุงรุสญชัชัชัยชั พระนางผุผุผุสผุดีดีดีดีพระชาลีลีลีลีพระกักักัณกัหา เสด็ด็ด็จด็ไปทูทูทูลทูเชิชิชิญชิพระเวสสัสัสันสัดร และพระนางมัมัมัทมั รีรีรีกรีลัลัลับลั พระนคร เมื่มื่มื่อมื่กษัษัษัตษั ริริริย์ริย์ย์ทั้ย์ทั้ทั้งทั้หกพระองค์ค์ค์ทค์รงพบกักักันกัต่ต่ต่าต่งก็ก็ก็ทก็รงสะอื้อื้อื้นอื้ ไห้ห้ห้คห้ร่ำร่ำร่ำร่ำครวญ เสนาอำ มาตย์ สนมกำ นัล ก็สะอื้นไห้คร่ำ ครวญ ต่างตกอยู่ในวิสัญญีภาพ เสนาอำ มาตย์ สนมกำ นัล ก็สะอื้นไห้คร่ำ ครวญ ต่างตกอยู่ในวิสัญญีภาพ ต่อมาพระอินทร์บันดาลให้ฝนโบกขรพรรษตกลงมา ทุกคนจึงฟื้นคืนสติ ต่อมาพระอินทร์บันดาลให้ฝนโบกขรพรรษตกลงมา ทุกคนจึงฟื้นคืนสติ และขอให้ห้ห้พห้ระเวสสัสัสันสัดรลาผนวช กลัลัลับลัไปครองราชสมบับับัติบัติติสืติสืสืบสืไป ข้อคิดประจำ กัณฑ์ กัณฑ์ฉกษัตริย์ ภานุสรณ์ สวนสมบูรณ์ เลขที่ 17 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 20 จาก 37


นายธนวิชญ์ คำ ชมภูเลขที่18 เป็นกัณฑ์ที่หกกษัตริย์นำ พยุหโยธาเสด็จนิวัติพระนครททพระเวสสันดรขึ้นครองราชย์แทนพระราชบิดา พระเจ้ากรุงสัญชัยตรัสสารภาพผิด พระเวสสันดรจึงทรงลาผนวชพร้อมทั้งพระนางมัทรีและเสด็จ กลับสู่สีพีนคร เมื่อเสด็จถึงจึงรับสั่งให้ชาวเมืองปล่อยสัตว์ที่กักขัง ครั้นยามราตรีพระเวสสันดรทรง ปริวิตกว่า รุ่งเช้าประชาชนจะแตกตื่นมารับบริจาคทาน พระองค์จะประทานสิ่งใดแก่ประชาชนท้าวโกสีห์ ได้ทราบจึงบันดาลให้มีฝนแก้ว๗ประการ ตกลงมาในนครสีพีสูงถึงหน้าแข้ง พระเวสสันดรจึงทรง ประกาศให้ประชาชนขนเอาตามปรารถนา ที่เหลือให้ขนเข้าคลังหลวง ในการต่อมาพระเวสสันดรเถลิง ราชสมบัติปกครองนครสีพีโดยทศพิธราชธรรมบ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขตลอดพระชนมายุ ข้อคิดประจำ กัณฑ์ การทำ ความดีย่อมได้รับผลดีตอบแทนการใช้ธรรมะในการปกครองย่อมทำ ให้เกิดความสงบร่มเย็น กัณฑ์นครกัณฑ์ มี48คาถา อานิสงส์กัณฑ์นครกัณฑ์ ผู้ใดบูชากัณฑ์นครกัณฑ์จะได้เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยวงศาคณาญาติข้าทาสชายหญิงธิดาสามีหรือ บิดามารดาเป็นต้นอยู่พร้อมหน้ากันโดยความผาสุกปราศจากโรคาพาธทั้งปวงจะทำ การใดๆก็ พร้อมเพรียงกันยังการงานนั้นๆให้สำ เร็จลุล่วงไปด้วยดี E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 21 จาก 37


๑. เมื่อมื่ตายจากโลกนี้แล้ว จะมีโมีอกาสได้พด้บ พระพุทพุธเจ้าจ้พระนามว่าว่ ศรีอรีริยริเมตไตย ๒. เมื่อมื่ดับดัขันขัธ์ไธ์ปเกิดกิ ในสุคติโติลกสวรรค์ ๓. เมื่อมื่ตายไปแล้วจะไม่ตม่กนรก ๔. เมื่อมื่ถึงถึยุคยุพระพุทพุธเจ้าจ้พระนามว่าว่ ศรีอรีริยริเมต ไตย จะได้จุด้ติจุไติปเกิดกิเป็นป็มนุษย์ ๕.ได้ฟัด้งฟัธรรมต่อต่หน้าพระพักพัตร์ขร์องพระพุทพุธองค์ จะได้ดด้วงตาเห็นห็ธรรมเป็นป็พระอริยริบุคบุคล ๑. เมื่อมื่ตายจากโลกนี้แล้ว จะมีโมีอกาสได้พด้บ พระพุทพุธเจ้าจ้พระนามว่าว่ ศรีอรีริยริเมตไตย ๒. เมื่อมื่ดับดัขันขัธ์ไธ์ปเกิดกิ ในสุคติโติลกสวรรค์ ๓. เมื่อมื่ตายไปแล้วจะไม่ตม่กนรก ๔. เมื่อมื่ถึงถึยุคยุพระพุทพุธเจ้าจ้พระนามว่าว่ ศรีอรีริยริเมต ไตย จะได้จุด้ติจุไติปเกิดกิเป็นป็มนุษย์ ๕.ได้ฟัด้งฟัธรรมต่อต่หน้าพระพักพัตร์ขร์องพระพุทพุธองค์ จะได้ดด้วงตาเห็นห็ธรรมเป็นป็พระอริยริบุคบุคล อานิสงส์และความเชื่อ เกี่ยวกับการฟังเทศน์มหาชาติ อานิสงส์และความเชื่อ เกี่ยวกับการฟังเทศน์มหาชาติ ความเชื่อว่าผู้ที่มีโอกาสได้รับฟังเทศน์มหาชาติให้จบเพียงวัน เดียวครบบริบูรณ์ ทั้ง ๑๓ กัณฑ์ ความเชื่อว่าผู้ที่มีโอกาสได้รับฟังเทศน์มหาชาติให้จบเพียงวัน เดียวครบบริบูรณ์ ทั้ง ๑๓ กัณฑ์ จะได้รับอานิสงส์การฟังเทศน์มหาชาติ ให้สำ เร็จความปรารถนาทุกประการ ดังนี้ จะได้รับอานิสงส์การฟังเทศน์มหาชาติ ให้สำ เร็จความปรารถนาทุกประการ ดังนี้ คุณภัทร ศิริเริพ็ง เลขที่ ๑๙ E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 22 จาก 37


พระเจ้าจ้กรุงรุสนชัยชัพระนางผุสดีพระนางมัทมัรีพระชาลี ชูชชูกพรานเจตบุตบุรพระกัณกัหาพระเวสสันสัดรพระเจ้าจ้กรุงรุมัทมัราช จมานวิกวิา อัจอัจุตจุ ฤาษีพระเวสสุกสุรรมพระอินอิทร์พระยาราชสีห์สี ห์พระยาเสือสื โคร่งร่พระยาเสือสืเหลือลืงพระเวสสันสัดรพระนางมัทมัรี ช้าช้งปัจปัจัยจันาเตนทร์ ปัจปัจยนาเคนทร์ นายนักการ มหาทาน สหชาติโติยธา กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระเจ้าจ้สุทสุโธทนะ กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระนางสิริสิมริหามายา กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระนางพิมพิพายโสธรา กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระราหุลหุ กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระเทวทัตทั กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็นายฉันฉันะ กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็นางอุบอุลวรรณา กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระพุทธเจ้าจ้ กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระมหานาม กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็นางจิญจิจมานวิกวิา กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระสารีบุรีตบุร กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระโมคคัลคัลานะ กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระอนุรุทรุ กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระอุบอุาลี กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระสิมสิพลี กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระจุลจุนาค กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระมหากัจกัจายนะ กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็นางวิสวิาขา กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระมหากัสกัสปป กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็นางกีสกีาโคตมี กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พระอานนท์ กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็อนาถบิณบิทกเศรษฐี กลับลัชาติมติาเกิดกิเป็นป็พุทธเวไนย กลับชาติมาเกิดเป็น พระเจ้าสุทโธทนะพระนางผุสดี กลับชาติมาเกิดเป็น พระนางสิริมหามายาพระนางมัทรี กลับชาติมาเกิดเป็น พระนางพิมพายโสธราพระชาลี กลับชาติมาเกิดเป็น พระราหุลชูชก กลับชาติมาเกิดเป็น พระเทวทัตพรานเจตบุตร กลับชาติมาเกิดเป็น นายฉันนะพระกัณหา กลับชาติมาเกิดเป็น นางอุบลวรรณาพระเวสสันดร กลับชาติมาเกิดเป็น พระพุทธเจ้าพระเจ้ากรุงมัทราช กลับชาติมาเกิดเป็น พระมหานาม นางอมิตตดา กลับชาติมาเกิดเป็น นางจิญจมานวิกาอัจจุตฤาษี กลับชาติมาเกิดเป็น พระสารีบุตรพระเวสสุกรรม กลับชาติมาเกิดเป็น พระโมคคัลลานะพระอินทร์ กลับชาติมาเกิดเป็น พระอนุรุทพระยาราชสีห์ กลับชาติมาเกิดเป็น พระอุบาลีพระยาเสือโคร่ง กลับชาติมาเกิดเป็น พระสิมพลีพระยาเสือเหลือง กลับชาติมาเกิดเป็น พระจุลนาคพระเวสสันดร กลับชาติมาเกิดเป็น พระมหากัจจายนะพระนางมัทรี กลับชาติมาเกิดเป็น นางวิสาขาช้างปัจจัยนาเตนทร์ กลับชาติมาเกิดเป็น พระมหากัสสปป ปัจจยนาเคนทร์ กลับชาติมาเกิดเป็น นางกีสาโคตมี นายนักการที่เอาสข่าวไปทูลพระเวสสันดร กลับชาติมา เกิดเป็น พระอานนท์ มหาทาน กลับชาติมาเกิดเป็น อนาถบิณทกเศรษฐีสหชาติโยธา กลับชาติมาเกิดเป็น พุทธเวไนย การกลับชาติมาเกิดของตัวละคร นายกิตติวิชวิญ์ เสรีเรีรือรืงยุทธ เลขที่ 20 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 23 จาก 37


เพลงหน้าพาทย์ และจำ นวนพระคาถา ประจำ กัณฑ์ มีจำ นวนคาถา 1000 คาถา 13 กัณฑ์ และมีเพลงประจำ กัณฑ์ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงกำ หนดให้พิณพาทย์ บรรเลงเพลงประจำ กัณฑ์ดังนี้ ๑. กัณฑ์ทศพร 19 คาถา เพลง สาธุการ ๒. กัณฑ์หิมพานต์ 137 คาถา เพลง ตวงพระธาตุ ๓. กัณฑ์ทานกัณฑ์ 209 คาถา เพลง พญาโศก ๔. กัณฑ์วนปเวศน์ 57 คาถา เพลง พญาเดิน ๕. กัณฑ์ชูชก 78 คาถา เพลง เซ่นเหล้า ๖. กัณฑ์จุลพน 35 คาถา เพลง คุกพาทย์ ๗. กัณฑ์มหาพน 80 คาถา เพลง เชิดกลอง ๘. กัณฑ์กุมาร 101 คาถา เพลง โฮด เชิดฉิ่ง ๙. กัณฑ์มัทรี 90 คาถา เพลง ทยอยโอด ๑๐.กัณฑ์สักกบรรน 43 คาถา เพลง กลม ๑๑.กัณฑ์มหาราช 69 คาถา เพลง กราวนอก ๑๒.กัณฑ์ฉกษัตริย์ 36 คาถา เพลง ตระนอน ๑๓.กัณฑ์นครกัณฑ์ 78 คาถา เพลง กลองโยน เพลงหน้าพาทย์ จำ นวนพระคาถา ประจำ กัณฑ์ นนาายย ภภวิวิวิศวิศ นนววลลศศรีรีรีรีเเลลขขที่ที่ที่ที่2211 21 เพลงหน้าพาทย์แบ่งตามหน้าที่การนำ ไปใช้ประกอบการแสดงของตัวละคร ๑. เพลงหน้าพาทย์ประกอบกิริยาไปมา ๒. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการยกทัพ ๓. เพลงหน้าพาทย์ประกอบความสนุกสนานร่าเริง ๔. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฎิหารย ๕. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการต่อสู้และและติดตาม ๖. เพลงหน้าพาทย์ประกอบการแสดงอารมณ์ทั่วไป ๗. เพลงหน้าพาทย์เบ็ดเตล็ด E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 24 จาก 37


เทศบารมี พระบารมี คือ ธรรมที่นำ ไปให้ถึห้ ถึงฝั่งพระนิพนิพาน หมายความว่าว่เมื่อมื่พระบรมโพธิสัธิตสัว์เว์ฝ้าบำ เพ็ญพ็ธรรมจน เต็มครบบริบูริบูรณ์เณ์ต็มที่แล้วก็จะเป็นป็ สะพานนำ พระองค์ท่านให้บห้รรลุถึลุถึงฝั่ง คือ ได้ตด้รัสรัพระปรมาภิเษกสัมสั โพธิญาณ และเสด็จด็ดับดัขันขัธ์เธ์ข้าข้สู่ ปรินิริพนิพาน ซึ่งซึ่เรียรีกอีกอย่าย่งหนึ่งนึ่ว่าว่ “พระบารมีธมีรรม” เทศน์ หมายถึงการถ่ายทอดธรรม อันเป็นป็คำ สั่งสั่สอนทางศาสนาด้วด้ยการ แสดงชี้แชี้จงให้ฟัห้งฟัเป็นป็การเผยแผ่ ศาสนาแบบหนึ่งนึ่ที่ใช้กัช้ กันมาแต่สมัยมัพุทธกาล พระบารมี เทศน์ 1 ทานบารมี 2 ศีลบารมี 3 เนกขัมมบารมี 4 ปัญญาบารมี 5 วิริยบารมี 6 ขันติบารมี 7 สัจบารมี 8 อธิษฐานบารม 9 เมตตาบารมี 10 อุเบกขาบารมี บารมี ๑-๑๐ 11 จัดเป็นบารมีประเภท ธรรมดา ทานอุปบารมี 12 ศีลอุปบารมี 13 เนกขัมมอุปบารมี 14 ปัญญาอุปบารมี 15 วิริยอุปบารมี 16 ขันติอุปบารมี 17 สัจอุปบารมี 18 อธิษฐานอุปบารมี 19 เมตตาอุปบารมี 20 อุเบกขาอุปบารมี บารมี ๑๑-๒๐จัดเป็นบารมีประเภท ปานกลาง 21 ทานปรมัตถบารมี 22 ศีลมัตถบารมี 23 เนกขัมมปรมัตถบารมี 24 ปัญญาปรมัตถบารมี 25 วิริยปรมัตถบารมี 26 ขันติปรมัตถบารมี 27 สัจปรมัตถบารมี 28 อธิษฐานปรมัตถบารม 29 เมตตาปรมัตถบารมี 30 อุเบกขาปรมัตถบารมี บารมี ๒๑-๓๐ จัดเป็นบารมีประเภท อุกฤษ์สูงสุด รวมลงเป็นป็บารมี ๓๐ ทัศทัคือคื รวมเป็นป็พระบารมีธมีรรมที่พระโพธิสัธิตสัว์ผู้ว์ ปผู้ รารถนาเป็นป็องค์สมเด็จด็พระสัมสัมาสัมสัพุทธเจ้าจ้จักจัต้องบำ เพ็ญพ็ ให้ครบบริบูริบูรณ์เณ์ต็มที่ ๓๐ ถ้วน ฉะนั้นนั้จึงจึเรียรีกเป็นป็ศัพท์ว่าว่ “พระสมติงสบารมี”มีหรือรืบารมี ๓๐ ทัศ ด้วด้ยเหตุนี้ตุนี้ นางสาวเมธาพร สุดแสวง เลขที่ 22 ประเภทการเทศน์แบ่งบ่ตามทำ นอง การเทศน์ว่น์าว่ โดยทำ นองมี 2 แบบ คือ 1 เทศน์ธน์รรมวัตวัร คือเทศน์โน์ดยในเสียสีงและทำ นอง เป็นป็ ปกติเหมือมืนอ่านหรือรืพูดธรรมดา ไม่ไม่ด้อด้อก เสียสีงและทำ นองไพเราะด้วด้ยการขับขัขาน มุ่งมุ่ ให้ เข้าข้ใจในเนื้อนื้หาธรรมะเพื่อพื่ ให้นำห้นำไปปฏิบัติบั ติได้เด้ป็นป็สำ คัญ เรียรีกว่าว่เทศน์ทำน์ ทำนองธรรมวัตวัร ก็ได้ 2 เทศน์แน์หล่ คือเทศน์โน์ดยใช้เช้สียสีงและทำ นองที่มุ่งมุ่ความไพเราะเป็นป็สำ คัญ เช่นช่เทศน์มน์หาชาติ เทศน์ แหล่ ซึ่งซึ่มีทั้มี ทั้งทั้แหล่ในคือเรื่อรื่งในมหาชาติและแหล่นอกคือเรื่อรื่งอื่นๆ ที่นำ มาเสริมริ โดยมุ่งมุ่ความสนสท รีย์รี ย์เช่นช่แหล่ชมนก แหล่ชมดง แหล่หญิงญิม่าม่ย E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 25 จาก 37


ลัก ลั ษณะคำ ประพันธ์ร่ายยาว - จำนวนคำ ในแต่ละวรรคไม่จำ กัด จะมากเท่าไหร่ก็ได้ แต่ไม่ควรน้อยกว่า ๕ คำ ที่นิยมคือ ๘–๑๕ คำ - การส่งสัมผัส คำสุดท้ายของวรรคหน้า ส่งไปที่คำ ใดก็ได้ของวรรคต่อๆไป แต่ยกเว้นคำ สุดท้าย อรรคพงษ์ รุจิรัตนอนันต์ เลขที่ 23 มหาเวสสันดรชาดกแต่งด้วยร่ายยาว มีแบบแผนการแต่งคือ ขึ้นต้นกัณฑ์ด้วยจุณณียบท เป็นคาถาบาลีสั้นๆ สรุปใจความของ เนื้อเรื่องของกัณฑ์นั้นๆ ดำ เนินความด้วยร่ายยาว บางตอนที่สำ คัญ ก็จะแทรก พระคาถาบาลีไว้ด้วย บางครั้งแทรกความเรียงร้อยแก้ว กลบท กลอนพื้นบ้าน E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 26 จาก 37


ชาดก เรื่องราวหรือชีวประวัติในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำ เพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำ มาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่าง ๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์ เรียกเรื่องในอดีตของพระองค์นี้ว่า ชาดก ชาดกเป็นเรื่องเล่าคล้ายนิทาน บางครั้งจึงเรียกว่า นิทานชาดกชาดกที่ทรงเล่านั้นมีหลายร้อยเรื่อง ว่าทรงเคยเกิดเป็นมนุษนุย์บ้าง เป็น สัตว์บ้าง แต่ที่รู้จักกันโดยทั่วไป คือ 10 ชาติสุดท้ายที่เรียกว่าทศชาติ ชาดก และชาติสุดท้ายที่สุดที่ทรงเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร จึง เรียกเรื่องพระเวสสันดรนี้ว่า มหาเวสสันดรชาดก ชาดก มี ๒ ประเภทคือ ๑.ชาดกนิบาต ชาดกในนิบาต หรือที่เรียกว่า นิบาตชาดก หมายถึง ชาดกทั้ง ๕๔๗ เรื่องที่มีอยู่ในคัมภีร์ขุททกนิกายของพระสุตตันต ปิฎก ในพระไตรปิฎกภาษาบาลี นิบาตชาดกแต่งเป็นคาถาคือคำ ฉันท์ล้วนๆโดยจะมีการแต่งขยายความเป็นร้อยแก้ว เป็นอรรถกถา ชาดก เหตุที่เรียกว่า นิบาตชาดก ก็เพราะว่า ชาดกในพระไตรปิฎกนี้ จะถูกจัดหมวดหมู่ตามจำ นวนคาถา มีทั้งหมด ๒๒ หมวด หรือ ๒๒ นิบาต นิบาตสุดท้ายคือ นิบาตที่ ๒๒ ประกอบด้วยชาดก ๑๐ เรื่องหรือที่เรียกว่า "ทศชาติชาดก" ๒. ชาดกนอกนิบาต หมายถึง ชาดกที่ไม่ปรากฏในคัมภีร์พระ ไตรปิฎก เป็นชาดกที่ภิกษุชาวเชียงใหม่ได้รวบรวมเรื่องราวมาจากนิทานพื้นบ้านไทยมาแต่งเป็นชาดก ขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๐๐๐-๒๒๐๐ ชาดกนี้เรียกอีกชื่อว่า "ปัญญาสชาดก"แปลว่า ชาดก ๕๐ เรื่องและรวมกับเรื่องในปัจฉิมภาคอีก ๑๑ เรื่อง รวมเป็น ๖๑ เรื่อง นาย ภูมิพัฒน์ ประทีปทอง เลขที่ 24 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 27 จาก 37


พระเวสสัสั สั น สั นดร และ พระนางมัมั มั ท มั ทรีรี รีรี พระนางมัมัมัทมั รีรีรีรี มัทรีเป็นพระราชธิดาของกษัตริย์แห่งกรุงมัทราชและได้อภิเษกกับ พระเวสสันดรซึ่งพระนางมัทรีจึงเป็นผู้ที่มีส่วนให้การบำ เพ็ญทานบารมีของพระ เวสสันดรบรรลุดังความตั้งใจ พระนางมีโอรสและธิดา ๒ องค์ คือ พระชาลีและ พระกัณหา อธิณัท ศรีวิศาล เลขที่ 25 เวสสันดรชาดกเป็นเรื่องราวในอดีตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงบำ เพ็ญทานบารมี อย่างยิ่งยวด ในพระชาตินี้ทรงบริจาคมหาทานอันยิ่งใหญ่ มีอะไรก็ทรงสละให้ผู้อื่นได้ หมด แม้กระทั่งบุตร ภรรยา การบริจาคของพระองค์เปรียบเสมือนหม้อที่คว่ำ เพื่อให้น้ำ ไหลออกจนหมดไม่เหลือแม้เพียงหยดเดียว นิสัยรักการให้ทานนี้ ทรงสั่งสมมานับภพนับ ชาติไม่ถ้วน จนกระทั่งในภพชาตินี้พระองค์ทรงบังเกิดมาเป็น “นักให้บันลือโลก” ที่สร้าง มหาทานบารมีนับตั้งแต่วันแรกที่ประสูติไปจนตลอดพระชนม์ชีพ การสร้างทานบารมี ของพระโพธิสัตว์ในพระชาตินี้ จึงเข้าทำ นองว่า “ยอมตาย ไม่ยอมหวง” นั่นเอง พระเวสสัสัสันสัดร E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 28 จาก 37


267 พระเจ้าจ้กรุงรุสญชัยชั พระเจ้ากรุงสญชัย เป็นตัวละครอยู่ในวรรณคดีเรื่องร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดกมีชื่อเรียกต่างๆกัน เช่น สมเด็จพระบรมกษัตริย์ พระปิ่นเกล้ามกุฎพิภพสีพี สมเด็จพระอัยกาธิบดีศรีสมมุติเทพวงศ์ เป็นต้น พระเจ้ากรุงสญชัยเป็นพระราชาแห่งกรุงสีพีราษฎร์พระราชบิดา ของพระเวสสันดร เมื่อพระโอรสมีพระชนมายุสมควรจะสืบราชสมบัติแล้วก็ทรงสละราชสมบัติให้ทรงปกครองต่อไปพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ ที่เห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมืองมากกว่าประโยชน์ส่วนพระองค์เอง ทรงเนรเทศพระเวสสันดรออกจากเมืองพร้อมด้วยพระนางมัทรี พระ ชาลี และพระกัณหาเมื่อชาวเมืองมาร้องทุกข์ว่าพระโอรสทรงกระทำ ผิดแม้พระมเหสีจะทูลขอร้องประการใดก็มิได้คืนคำ ทั้งที่ทรงอาลัยรักใน พระโอรสแต่ก็ทรงหักพระทัยได้ เพื่อประโยชน์สุขของบ้านเมืองและยังได้ทรงไถ่ตัวพระชาลีและพระกัณหาคืนจากชูชกด้วย พระเจ้ากรุงสญชัยแม้จะเป็นพระมหากษัตริย์ แต่เมื่อทรงทราบว่าพระองค์เป็นผู้ผิดก็หาได้ทรงมีทิฐิไม่ ทรงขอโทษพระชาลีซึ่งเป็นพระ นัดดา ต้อนรับพระเวสสันดรกลับเข้าเมืองก็ได้ตรัสขอโทษพระเวสสันดรพระเจ้ากรุงสญชัย กลับชาติมาเกิดเป็น พระเจ้าสุทโทธนะ พระนางผุสผุดี พระนางผุสดี เป็นตัวละครอยู่ในวรรณคดีเรื่องร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก เดิมเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าพันธุมราชชื่อสุธัมมา ต่อมาได้บังเกิดเป็นอัครมเหสีของสมเด็จพระอมรินทราธิราชชื่อผุสดี เมื่อจุติจากสวรรค์ได้ถือกำ เนิดเป็นพระราชธิดาของพระเจ้ามัททราช ครั้นเจริญวัยก็ได้อภิเษกเป็นอัครมเหสีของพระเจ้ากรุงสญชัยและเป็นพระมารดาของพระเวสสันดรพระนางผุสดีธิดากษัตริย์มัททราช มเหสีของพระเจ้ากรุงสญชัยแห่งกรุงสีพีราษฎร์และพระมารดาของพระเวสสันดรนั้น เมื่อเสวยพระชาติเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าพันธุม ราชแห่งพันธุมดีนครทรงได้รับพระราชทานแก่นจันทน์แดงจากพระราชบิดาจึงได้นำ ไปบดใส่ผอบทองและถวายแด่พระวิปัสสิสัมมาสัม พุทธเจ้าพร้อมทั้งอธิษฐานว่าขอให้ได้เป็นพุทธมารดาในอนาคต ด้วยกุศลผลบุญนี้ทำ ให้พระนางได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ เป็นพระมเหสี ของพระอินทร์ ครั้นเมื่อถึงกำ หนดจะจุติจากสวรรค์ก็ได้รับพระราชทานพร ๑๐ ประการจากพระอินทร์ด้วย พระนางผุสดี กลับชาติมาเกิด เป็น พระนางสิริมหามายา ธัญธร เขียนภักดี เลขที่ 26 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 29 จาก 37


ผู้แต่ง 6 ท่าน พระนิพนธ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส กัณฑ์ทศพร กัณฑ์หิมพานต์ กัณฑ์วนปเวสน์ กัณฑ์จุลพนกัณฑ์สักกบรรพ กัณฑ์มหาราชกัณฑ์ฉกษัตริย์และ นครกัณฑ์ พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กัณฑ์วนปเวสน์ กัณฑ์ จุลพน และกัณฑ์สักกบรรพ งานนิพนธ์ จ่า พระยาพระคลัง(หน) กัณฑ์กมา กัณฑ์มัทรี งานนิพนธ์ พระเทพโมลี (กลิ่น) กัณฑ์มหาพน งานนิพนธ์ สํานักวัดสังข์กระจาย กัณฑ์ชูชก งานนิพนธ์ สํานักวัดถนน กัณฑ์ทานกัณฑ์ ความโดดเด่น เน้นการพรรณนาความมากกว่าภาคเหนือและอีสาน แต่น้อยกว่าภาคกลาง เน้นแสดงลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น เช่นเรื่องอาหาร สำ นวน พระมหาชาดก ฉบับวัดมัชฌิวา วาส แต่งเป็น กาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16 กาพย์ สุรางคนางค์ 28 และ มาบินีฉันท์ 15 งานบุญที่สำ คัญ บุญผะเหวด หรือ บุญพระเวส พระเวสก็คือพระ เวสสันดร มักนิยมทาในเดือน 4 หรือในเดือน 10 ซึ่งเป็นเทศกาลสารท หรือก่อนทอดกฐินพระราชทาน สำ นวน เป็นภาษาถิ่นและท้องถิ่นอีสาน ต่างกันที่สํานวนโซหาร ด้านสำ นวน แต่งเป็นร่ายยาว มีคำ คล้องจองสัมผัสในแต่ละวรรค มหาชาติสำ นวนสร้อยสังกรเป็นสำ นวนที่รวบรวม โดยพระอุบาลีคุณูปมาอาจารย์ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคเหนือ มหาชาติ ๔ ภาค ความโดดเด่น มีการเล่นคำ ซ้ำ ใช้คำ ง่าย ไม่เน้นการพรรณนา ความพิศดาร สำ นวน มีความไพเราะ ใช้ฝาอลังการ และการพรรณนา พิสดาร ร่ายยาว นิยมเรียกว่า มหาชาติค่ากลอน ตั้ง ตั้ ธรรม คนในภาคเหนือ เรียกว่า คนในภาคใต้ เรียกว่า เทศน์มน์หาชาติ คนในภาคกลาง เรียกว่า คนในภาคอีสาน เรียกว่า เทศน์มน์หาชาติ งานบุญบุผะเหวด นางสาวสาริศา เกิดเกลี้ยง เลขที่ ๒๗ E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 30 จาก 37


29 ครั้งรั้หนึ่ง ณ กรุงเชตุดร พระนางผุสดี พระมเหสีของพระเจ้ากรุงสัญชัย ได้รับรัพรวิเศษจากพระอินทร์ โดยพรวิเศษนั้นนั้พระนางผุสดี ได้มากถึง 10 ข้อ มีข้อหนึ่งพระนางขอให้ไห้ด้เป็นพระมารดาของพระโพธิสัตว์ และเมื่อพระนางทรงตั้งตั้ครรภ์ พระนางผุสดีก็ประสูติพระโอรส ชื่อว่า “พระเวสสันดร” พระเวสสันดรยิ่งเจริญริวัยมากขึ้นเท่าใด พระองค์ก็ยิ่งทรงบริจริาคทาน แก่ประชาชนมากขึ้นตามลำ ดับ เมื่อพระเวสสันดรมีพระชันษาได้ 16 พรรษา พระองค์ได้อภิเษกสมรสกับพระนางมัทรี พระราชธิดาแห่งห่กรุงมัทราช เมื่อขึ้นครองราชสมบัติ พระองค์ก็ยิ่งบริจริาคทานมากขึ้นและมาก ยิ่งขึ้น ทรงโปรดให้สห้ร้าร้งโรงทาน 6 แห่งห่ต่อมาเมื่อพระนางมัทรีไรีด้ประสูตรพระราชธิดาและพระราชโอรส ทรงพระนามว่า กัณหา และ ชาลี ต่อมามีอยู่คราวหนึ่ง แคว้นกลิงคราฐเกิดฝนแล้ง เจ้าเมืองกลิงกราฐ ได้ข่าวว่าช้างคู่บุญของพระเวสสันดรที่ชื่อ “ช้างปัจจยานาเคน ทร์”ร์เป็นช้างมงคล ถ้าไปอยู่ที่ใด ที่นั่นนั่ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล พระองค์จึงส่งพราหมณ์ แปดคนไปขอช้างจากพระเวสสันดรพระเวสสันดรจึงบริจริาคทานให้ไห้ป ทำ ให้ชห้าวเมืองเชตุดรโกรธแค้นขอให้พห้ระเจ้ากรุงสัญชัย ขับพระเวสสันดรออกจากเมือง พระเจ้ากรุงสัญชัยมิรู้จรู้ะทำ ประการใด จึงต้องยอมทำ ตาม คำ ร้อร้งเรียรีนของ ประชาชน พระเวสสันดร พร้อร้มด้วยพระนางมัทรี และสองกุมารกัณหาชาลีทรงรถเทียมม้าเสด็จนอกเมือง ระหว่างทางมีพราหมณ์มาดักรอขอราชรถ พระเวสสันดรก็บริจริาคให้ แล้วทุกพระองค์ก็เสด็จโดย พระบาทเดินทางมุ่งเข้าป่าไป ทั้งทั้สี่พระองค์เดินทางมาจนกระทั้งทั้ถึงสระบัวใหญ่เชิงเขาวงกต ซึ่งซึ่เทวดาเนรมิตไว้ พระเวสสันดรจึงตกลงผนวชเป็น ฤๅษี บำ เพ็ญภาวนาอยู่ที่นี่ กล่าวถึงชูชก เป็นขอทานแก่โลภมาก มีเมียสาวสวยชื่อ อมิตตา นางอมิตตาขยันขันแข็ง จึง เป็นที่รังรัเกียจของบรรดาหญิงที่เกียจคร้าร้น ทำ ให้บห้รรดาหญิงที่เกียจคร้าร้นนั้นนั้พากันด่าทอทุบตี จนนางอมิตตาไม่กล้าออกไปทำ งานนอกบ้าน จึงอ้อนวอนขอให้ชูห้ชูกไปขอลูกทั้งทั้สองของพระเวสสันดรมาให้นห้างใช้ต่างทาส ชูชก ด้วยความที่รักรัเมีย จึงเดินทางไปขอลูกทั้งทั้สองของพระเวสสันดรมาให้ พระเวสสันดรก็บริจริาคทานให้กัห้ กับชูชก ต่อมาเมื่อเรื่อรื่งรู้เรู้ข้าไปถึง เมืองหลวง มาดารของพระเวสสันดรก็ให้ไห้ปรับรัตัวหลานทั้งทั้สองเข้าเมือง และให้รห้างวัลกับชู ชก ชูชกได้รับรัรางวัลและอาหารมากมาย กินจนท้องแตกตายลายไทย หุ่นหุ่บัวบัทอง เลขที่ 28 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 31 จาก 37


นายธนวัฒน์ พรมโพธิ์ ม.4/12 เลขที่ 29 การเทศน์มน์ หาชาติทั้ ติ ง ทั้ 4ภาค การเทศน์มหาชาติภาคเหนือ การเทศน์มหาชาติภาคตะวันวัออก เฉียฉีงเหนือนื การเทศน์มหาชาติภาคกลาง การเทศน์มหาชาติภาคใต้ ภาคเหนือของไทยเรียกการเทศน์มหาชาติว่า “ตั้งธรรมหลวง” หมายถึง การเทศน์ธรรม ชาดกที่ยาวกว่าทุกเรื่อง เป็นการฟังเทศน์ครั้ง ใหญ่ มีคนมาร่วมฟังเทศน์กันมากเป็นพิเศษ ซึ่ง การฟังเทศน์ครั้งใหญ่ รวมทั้งการฟังเทศน์แบบ ธรรมวัตรและฟังมหาเวสสันดรด้วย มหาชาติ ภาคเหนือและภาคอีสานมีความโดดเด่นเรื่องการ ใช้คำง่ายๆ มรบทบรรยายเรียบง่าย ไม่เน้นการ พรรณนาความพิสดาร ถ้ามีการเล่นคำก็นิยม เล่นคำซ้ำต้นวรรค ประเพณีเทศน์มหาชาติภาคใต้เรียกว่า “ฟัง ธรรมมหาชาติ” โดยทางวัดจะบอกบุญกับ ประชาชน ผู้ซึ่งเคยทำบุญที่วัดนั้นๆ และใช้วิธี จับสลากว่าใครจะได้กัณฑ์ไหนหรือแจกฎีกาไป ตามหมู่บ้านต่างๆ นิยม ทำหลังจากเสร็จการทำ นาแล้วคือในเดือน ๖ ขึ้น ๑๕ ค่ำ มหาชาติภาคใต้ มีการพรรณนาความมากกว่าในฉบับภาคเหนือ และอีสาน แต่ก็ไม่มากเท่าการพรรณนาความ ของกวีภาคกลาง เทศน์มหาชาติภาคกลาง มีทั้งทำนองหลวงและทำนองราษฎร์ มีทั้งเทศน์ในวัง และเทศน์ในวัด เทศน์ในวังเทศน์แบบทำนอง หลวงอย่างเดียว เทศน์ในวัดมีทั้งทำนองหลวงและทำนอง ราษฎร์ส่วนวัดขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมด้านบุคลากร จะ เทศน์มหาชาติแบบเรียงกัณฑ์ทั้ง ๑๓ กัณฑ์ตามคัมภีร์เรียก ว่าทำนองหลวง เทศน์นอกคัมภีร์เรียกว่าทำนองราษฎร์บาง วัดก็เทศน์แบบผสมผสาน เรียกว่าเทศน์ทั้งเนื้อนอกเนื้อใน มหาชาติภาคกลางมีสำนวนพรรณนาความดีเด่น ใช้คำอย่าง อลังการ มักใช้ศัพท์ยาก นิยมซ้ำคำหรือซ้ำกลุ่มคำ เล่นคำ และเล่นเสียงสัมผัสพยัญชนะและสระอย่างแพรวพราย นอกจากนี้บางตอนยังแต่งเป็นกลบทหลากหลายชนิดด้วย บุญผะเหวด มีความเกี่ยวข้องกับชาดกเรื่อง พระ มหาเวสสันดร ชาดกที่แสดงบารมี 10 ประการของ พระชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าที่ได้ทรงเพียร บำเพ็ญเพื่อจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ในภาษา อีสานจะออกเสียง “พระเวส” เป็น “ผะเหวด” จึง เป็นชื่อเรียกบุญนี้ว่า “บุญผะเหวด” บ้างก็เรียก “บุญมหาชาติ” เพราะเป็นชาติกาลที่สำคัญที่สุด ของพระพุทธเจ้ามหาชาติภาคเหนือและภาคอีสาน มีความโดดเด่นเรื่องการใช้คำง่ายๆ มรบท บรรยายเรียบง่าย ไม่เน้นการพรรณนาความ พิสดาร ถ้ามีการเล่นคำก็นิยมเล่นคำซ้ำต้นวรรค E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 32 จาก 37


สัต สั ตสดกมหาทาน สัตตสดกมหาทาน ในที่นี้หมายถึง การให้ทานวัตถุ 7 ชนิด ชนิดละ 700 เหตุไฉนชาวนครสีพีจึงจะให้ขับไล่เวสสันดรลูกรักผู้ไม่มีโทษ ผู้แม้พระราชาต่างแดนทั้งหลายก็เคารพบูชา พระองค์ได้ทรงบริจาค ช้าง 700 เชือก ม้า 700 ตัว รถ 700 คัน สตรี 700 นาง แม่โคนม 700 ตัว ทาสชาย หญิง อย่างละ 700 คน (ซึ่งแต่ละอย่างเลือกมาอย่างดีที่สุด) ทรงดำ ริว่าจะบริจาคสัตตสตกมหาทาน ทำ ไมบริจาคช้างมงคลเพียงเชือกเดียวเท่านั้น ถึงกับ เป็นเหตุให้พระเวสสันดรต้องถูกเนรเทศออกจาก เมือง เครื่องประดับที่ช้างใช้ แต่อย่างมีมูลค่ารวม 2,400,000 กหาปณะ ตัวช้าง 1 ตัว จึงทำ ให้พระเวสสันดรถูกเนรเทศ เทวดาทั้งหลายต่างแซ่ซ้องสาธุการในมหาทานของท่าน ที่ทำ ได้ โดยยากยิ่ง แต่ชาวเมืองสีพียังมีคนตระหนี่อยู่มาก มีใจไม่กว้าง ใหญ่อย่างพระบรมโพธิสัตว์ จึงไม่อนุโมทนา ในยามราตรี พระเวสสันดรได้เสด็จไปหาพระนางมัทรีอัครมเหสี และให้โอวาทพระนาง ว่า“เธอจงบริจาคทาน ในท่านผู้มีศีลทั้งหลายตามสมควร เพราะทานที่ทำ ไว้ดีแล้ว ข้อคิด นาย อดิศักดิ์ น้อน้มผล เลขที่ 30 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 33 จาก 37


สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส และ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส พระนามเดิม พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวาสุกรี เป็นสมเด็จพระ สังฆราชไทยพระองค์ที่ 7 แห่งอาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัย สมบูรณาญาสิทธิราชย์) และเป็นพระราชวงศ์พระองค์แรกที่ทรงได้ รับสถาปนาให้ดำ รงตำ แหน่งสมเด็จพระสังฆราช นอกจากนี้ยังเป็น สมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกที่ประสูติในสมัยรัตนโกสินทร์ ทรง สถิต ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ในสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำ รงสมณศักดิ์เมื่อปี พ.ศ. 2394 ถึงปี พ.ศ. 2396 รวม 2 ปี สิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษาได้ 62 ปี 364 วัน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรีและ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 48 ตามประวัติศาสตร์ไทย มีพระนามเดิมว่า"เจ้าฟ้ามงกุฎ"เสด็จพระราชสมภพ ณ พระราชวังเดิม เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ปีชวด ตรงกับวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2347 ในรัชสมัยพระบาท สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช[2] เป็นพระราชโอรส พระองค์ที่ 43 และเป็นลำ ดับที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธ เลิศหล้านภาลัยกับสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี นาย ไชยพศ จันทร์โชติ เลขที่ 31 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 34 จาก 37


พระเทพโมลี มีนมีามเดิมว่าว่ กลิ่น เกิดเมื่อ พ.ศ. 2283 ในสมัยมั สมเด็จพระเจ้าจ้อยู่หัวบรมโกศ มีเชื้อสายรามัญ ต่อมาอุปอุสมบท วัดวัตองปุ อยุธยา เมื่อกรุงศรีอรียุธยาแตก พระเทพโมลี ครั้งรั้ยังเป็นพระกลิ่น ได้หลบภัยข้าข้ศึก ล่องลงมาทาง ใต้ ถึงถึสมัยรัตรันโกสินทร์ไร์ด้กลับมาอยู่วัดวักลางนา ( วัดวัชนะสงครามราช วรมหาวิหวิาร ) ต่อมาเมื่อทราบข่าข่วพระอาจารย์สุก มาสถิตถิวัดวัพลับ ( วัดวั ราชสิทธารามราชวรวิหวิาร ) เป็นที่พระญาณสังวรเถร จึงจึตามมาอยู่วัดวัพลับ เพื่อมาศึกษาพระกรรมฐานในสำ นักพระญาณสังวรเถร เมื่อมื่ศึกษาจนสำ เร็จร็ท่านได้ออก ธุดงค์ ต่อมาท่านได้นำ เอาประสบการณ์การออกสัญจรจาริกริธุดงค์ กค์ารเดินป่า มาแต่งวรรณกรรม มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มหาพน ในพ.ศ. 2351 พระมหากลิ่นได้แต่ง คัมคัภีร์เร์วสสันดรชาดกขึ้นขึ้ 13 กัณฑ์ ต่อต่มาปี 2358 ทางราชการรับรัคัดคัเลือกของท่าน ไว้สว้องกัณฑ์คือคืกัณท์ทานกัณฑ์และ กัณฑ์มหาพน โดยเฉพาะกัณฑ์มหาพนที่ต่อต่มามีชื่อเสียงมาก เจ้าพระยาพระคลัง เทพโพลี นามเดิมว่าว่ หน เป็นเสนาบดีกรมคลังในรัชรัสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬจุาโลกมหาราช และเป็นเป็น กวี ควีนสำ คัญคัคนหนึ่งในสมัยต้น รัตรันโกสินทร์ เดินทางออกไปส่งสำ เภาหลวงที่สมุทมุรปราการ กราบทูลขอบายศรีศีรีศีรษะสุกรพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯรับรัสั่งว่าว่พระยาพระคลัง นั้นเลอะเลือนจึงจึมีพระ ราชโองการให้ถอดพระยาพระคลัง ออกจากตำ แหน่งลงเป็นพระยาศรีอัรีคอัรราช ช่วย ราชการกรมท่า แล้วทรงแต่งตั้งพระยาพิพัฒโ พักษา ขึ้นขึ้เป็นพระยาพระคลัง เสนาบดี กรมคลัง ลำ ดับที่สองแห่งกรุงรัตรันโกสินทร์ ณฐมน ธณัฐภคพล ม.4/12 32 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 35 จาก 37


35 สำ นักวัดถนนเเละสำ นักวัดสังกระจาย ด้วยเหตุที่ตุที่ไม่มีม่หมีลักฐานแน่นอนว่าว่ผู้แผู้ ต่งเป็นใคร ทราบเพียพีงแต่ว่าว่เป็นภิกษุที่อยู่วัยู่ดวัถนน ซึ่งซึ่เป็นวัดวัเก่าแก่ตั้งตั้อยู่ทยู่างฝั่งตะวันวัตกของแม่น้ำม่ น้ำสีกุสีกกุอันเป็นเขตติดต่อระหว่าว่งจังจัหวัดวัพระนครศรีอรียุธยาและจังจัหวัดวัอ่างทองจึงจึใช้ชื่ช้ ชื่อชื่ผู้แผู้ ต่งกัณฑ์ทานกัณฑ์ว่าว่สำ นักวัดวัถนน แทนชื่อชื่ผู้ เเต่ง เรื่อรื่งผู้แผู้ ต่งกัณฑ์ทานกัณฑ์นี้ นายทองคำ อ่อนทับทิม มรรคนายกวัดวัถนน กับนายเสงี่ยม คงตระกูลกูได้สอบถามผู้เผู้ฒ่าฒ่ผู้แผู้ ก่ในละแวกบ้าบ้นใกล้วัดวัถนน โดยเฉพาะอย่าย่งยิ่งยิ่ยายสมบูรณ์ สุปสุ ญสันสั ธ์ อายุ ๙๐ ปี เศษ พอจะทราบเค้าประวัติวั ติของท่านผู้แผู้ ต่งว่าว่ชื่อชื่ทองอยู่ เกิดที่บ้าบ้นไผ่จำผ่จำศีล อำ เภอ วิเวิศษไชยชาญ จังจัหวัดวัอ่างทอง (เดิมอำ เภอนี้เป็นที่ตั้งตั้ตัวเมือมืงวิเวิศษไชยชาญ) ปีเกิดของท่าน ประมาณ พ.ศ.๒๓๐๐ คือ ปลายแผ่นผ่ดินสมเด็จพระเจ้าจ้อยู่หัยู่วหับรมโกศ เมื่อมื่อายุประมาณ ๘-๙ ขวบ ได้ ไปศึกษาเล่าเรียรีนที่จังจัหวัดวัพระนครศรีอรียุธยา แต่ไม่ทม่ราบว่าว่อยู่วัยู่ดวัอะไร เมื่อมื่อายุประมาณ ๑๐-๑๑ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ประจวบกับกรุงศรีอรียุธยาแตกเมื่อมื่พ.ศ. ๒๓๑๐ ประชาชนอพยพหนีภัย สงครามไปอยู่ตยู่ามชนบท ในกรุงศรีอรียุธยาเกิดขัดขัสนเสบียบีงอาหาร สามเณรทองอยู่จึยู่งจึจำ เป็นต้อง เดินทางกลับบ้าบ้นเกิด คือ ตำ บลไผ่จำผ่จำศีล การเดินทางในครั้งรั้นั้นนั้ต้องเดินทางผ่าผ่นวัดวัภูเภูขาทอง อำ เภอกรุงเก่า มาบ้าบ้นกุ่มกุ่ผ่าผ่นบ้าบ้นบางชะนีซึ่งซึ่เป็นตำ บลติดกับบ้าบ้นเลน ตำ บลโผงเผง ที่บ้าบ้นนี้มีวัมีดวั อยู่วัยู่ดวัหนึ่ง เรียรีกว่าว่ “วัดวัถนน” สามเณรทองอยู่ไยู่ด้พักพัที่วัดวันี้ ในขณะนั้นนั้วัดวัถนนเกือบจะเป็นวัดวัร้าร้ง มี สามเณรรูปหนึ่งคอยดูแดูลรักรัษา เณรรูปนี้ได้ชวนสามเณรทองอยู่มยู่าอยู่ด้ยู่ ด้วยกัน แต่สามเณรทองอยู่ผัดผัว่าว่ขออุปสมบทเป็นพระภิกษุก่อน ต่อมาประมาณ พ.ศ. ๒๓๒๑ หรือรื๒๓๒๒ ในแผ่นผ่ดินสมเด็จพระเจ้าจ้ตากสินสิมหาราช ท่านจึงจึได้อุปสมบทและมาอยู่วัยู่ดวัถนนนี้ ท่านทองอยู่นัยู่ นับว่าว่เป็นสถาปนิกชั้นชั้เยี่ยยี่มท่านหนึ่ง ท่านจึงจึได้สร้าร้งเจดีย์ไย์ว้อว้งค์หนึ่ง ซึ่งซึ่ เวลานี้นับว่าว่เป็นเจดีย์ที่ย์ ที่งดงามปรากฏอยู่หยู่น้าพระวิหวิารวัดวัถนน ถึงกับมีผู้มีมผู้ าวาดรูปไปเป็นแบบ ก่อสร้าร้ง ในด้านวรรณกรรม นอกจากท่านได้แต่งร่าร่ยยาวมหาเวสสันสัดรชาดก กัณฑ์ทานกัณฑ์แล้วยังยัแต่งบททำ ขวัญวันาคไว้อว้ย่าย่งไพเราะอีกด้วย สำ นักนัวัดวัถนน - กัณฑ์ทานกัณฑ์ สำ นักวัดวัสังสัข์กข์ระจาย - กัณฑ์ชูชก ส่วส่นท่านผู้แผู้ ต่งกัณฑ์ชูชกซึ่งซึ่เรียรีกว่าว่ สำ นักวัดวัสังสัข์กข์ระจาย นี้ สมเด็จพระเจ้าจ้บรมวงศ์เธอกรมพระยาดำ รงราชานุภาพทรงสันสันิษฐานว่าว่ คือ พระ เทพมุนี (ด้วง) แต่ประวัติวั ติของพระเทพมุนี (ด้วง) ไม่เม่ ป็นที่ทราบกันมากนัก ทราบแต่ว่าว่ท่านเป็นเจ้าจ้อาวาสรูปแรกของวัดวัสังสัข์กข์ระจาย และเป็นที่ทราบว่าว่ ท่านเป็นผู้คผู้ งแก่เรียรีน มีคมีวามรู้ครู้วามสามารถยิ่งยิ่ ใน พ.ศ. ๒๓๓๒ คราวเกิดอสุนีสุนีบาตตกต้องมุขพระที่นั่งนั่อิน ทราภิเศกมหาปราสาท (ปัจจุบันบัคือพระที่นั่งนั่ดุสิดุตสิมหาปราสาท) ติดเป็นเพลิง ไหม้ ม้ขึ้นขึ้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฟ้จุฬาโลกมหาราชทรงพระแสง ของ้าวเร่งร่ข้าข้ราชการดับเพลิงจนสงบ แล้วทรงปริวิริตวิกว่าว่เห็นห็จะเป็น อัปมงคลนิมิตมิแก่บ้าบ้นเมือมืง พระราชาคณะที่เป็นปราชญ์ มีคมีวามชำ นาญทั้งทั้พุทธศาสตร์แร์ละโหราศาสคร์ ต่างได้ลงชื่อชื่ถวายชัยชัมงคลให้เห้บาพระทัยว่าว่ ไม่ เป็นอัปมงคลแต่อย่าย่งใด หากจะเป็นความปราชัยชับังบัเกิดแก่ศัตรูในภายหน้า ซึ่งซึ่รายนามพระสงข์ที่ข์ ที่ถวายพระพรครั้งรั้นั้นนั้มีพมีระเทพมุนีวัดวัสังสัข์กข์ระจายด้วย รูปหนึ่ง นอกจากนี้ พระเทพมุนีรูปนี้ยังยัเคยถวายเทศน์กัณฑ์ชูชกในรัชรักาล ที่ ๑ ทั้งทั้ยังยัเคยถวายแก้ข้อข้กังขาปัญหาธรรมและพระราชปุจฉาในรัชรักาลที่ ๑ อีกด้วย นางสาวชนิตา เหมนิธิ เลขที่ 33 E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 36 จาก 37


E-BOOK มหาเวสสันสัดรชาดก หน้าน้ 37 จาก 37


Click to View FlipBook Version