โครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สของโพรทิสต์และสัตว์บางชนิด

โครงสร้างทใ่ี ช้ในการแลกเปลยี่ นแก๊ส

สอนโดย นางอณุสรา บัวลอย kru: Poopae

[email protected]

การปรับตวั ของสิ่งมีชีวติ

• การดารงชีวติ มนุษย์และสัตว์ขนึ้ อยู่กบั ส่ิงแวดล้อมท้งั ภายนอก
และภายในของส่ิงมีชีวติ เอง

• มนุษย์และสัตว์ช้ันสูงมกี ารปรับตวั เพื่อให้เข้ากบั สภาพแวดล้อม
ภายนอกให้ได้ โดยการเปลย่ี นแปลงสภาพภายในของสัตว์น้ัน ๆ
เอง

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การปรับตวั ของส่ิงมชี ีวติ

• เช่น กบใช้ผวิ หนังและปอดหายใจ
ในช่วงกบโตเตม็ วยั

• แต่ในช่วงทก่ี บยงั เป็ นตัวอ่อนหรือที่
เรียกว่า ลูกอ๊อด ( tadpole larva )

• กบหายใจทางเหงือก

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การรักษาดุลยภาพในร่างกาย

• สัตว์ช้ันสูงรวมท้งั มนุษย์มกี ระบวนการรักษาดุลยภาพของร่างกายเพ่ือให้
เข้ากบั สภาพแวดล้อมมากกว่าส่ิงมีชีวติ เซลล์เดยี ว

• ดงั น้ันในสัตว์ช้ันสูงรวมท้งั มนุษย์จงึ มีระบบต่าง

เพ่ือทาหน้าท่นี ี้ ในขณะทส่ี ิ่งมีชีวติ เซลล์เดียวภายในเซลล์
ทาหน้าทไ่ี ด้ทุกระบบ

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การรักษาดุลยภาพของร่างกาย

• ทสี่ าคญั คือเร่ืองของนา้ และเกลือแร่ในร่างกาย ต้งั แต่การลาเลยี ง
ไปยงั ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายรวมท้งั การกาจดั ทงิ้

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

1. ระบบหายใจกบั การรักษาดุลยภาพของร่างกาย

• ส่ิงมชี ีวติ ต้องใช้พลงั งานในกจิ กรรมต่าง ๆ เพ่ือการดารงชีวติ
พลงั งานส่วนใหญ่ได้มาจากการสลายโมเลกลุ ของสารอาหาร
ด้วยการทาปฏิกริ ิยากบั แก๊สออกซิเจน

• กระบวนการสลายอาหารเพื่อให้ได้พลงั งานเช่นนีเ้ รียกว่า

การหายใจ ( Respiration )

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

1. ระบบหายใจกบั การรักษาดุลยภาพของร่างกาย

• มสี ่ิงมชี ีวติ ต่าง ๆ มอี วยั วะทใี่ ช้ในการหายใจหรือแลกเปลย่ี นแก๊ส
แตกต่างกนั ขนึ้ อยู่กบั ร่างกายของส่ิงมีชีวติ น้ัน ๆ ว่ามีความ
ซับซ้อนอย่างไร

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลย่ี นแก๊สของโพรทิสต์

• ส่ิงมชี ีวติ เซลล์เดยี ว ในสิ่งมชี ีวติ ขนาดเลก็ และมเี ซลล์เพยี งเซลล์เดยี ว ในพวก
โพรทสิ ต์ เช่น โพรโทซัว

• ตวั อย่างคือ อะมบี า การแลกเปลยี่ นแก๊สใช้วิธีการแพร่เข้า – ออกผ่านเย่ือหุ้มเซลล์

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การแลกเปลย่ี นแก๊สของโพรทิสต์

• เมื่ออะมบี าต้องการออกซิเจนน้ัน ปริมาณออกซิเจนในเซลล์มคี วามหนาแน่นน้อย
กว่าความหนาแน่นของออกซิเจนทอ่ี ย่นู อกเซลล์ ออกซิเจนจงึ แพร่ผ่านเย่ือหุ้ม
เซลล์เข้ามา

• ในขณะน้ันความหนาแน่นของ
คาร์บอนไดออกไซด์ภายในเซลล์
มมี ากกว่าภายนอกจึง
มีการแพร่ออก

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การแลกเปลยี่ นแก๊สของโพรทิสต์

แต่การแพร่เข้าออกนีจ้ ะเกดิ ขนึ้ ไม่ได้เลย
หากเยื่อหุ้มเซลล์ปราศจากความชื้นหรือมีความบางไม่พอ

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างทใ่ี ช้ในการแลกเปลยี่ นแก๊สของฟองนา้

• ในฟองนา้ การแลกเปลย่ี นแก๊สเกดิ กบั เซลล์แต่
ละเซลล์ทน่ี า้ ผ่านเข้าไปถึงทางช่องนา้ เข้า

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างทใี่ ช้ในการแลกเปลย่ี นแก๊สของไฮดรา

• ไฮดรายงั คงใช้ช่องแกสโตรวาสคูลาร์
เป็ นทางผ่านของนา้

• เป็ นตวั นาออกซิเจนและรับ
คาร์บอนไดออกไซด์
จากเซลล์ออกมา

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การแลกเปลย่ี นแก๊สของหนอนตวั แบน

พลานาเรียยงั ใช้การแลกเปลยี่ นแก๊สผ่านผวิ หนังเช่นเดยี วกบั อะมบี า

• ผนังลาตวั ของพลานาเรียบางและ
เปี ยกชื้นอยู่เสมอ โครงสร้างของ
ร่างกายพลานาเรียมีลาตัวแบน
จึงมีพืน้ ทผี่ วิ มากทาให้มี
ประสิทธิภาพในการแลกเปลย่ี น
แก๊สได้ดี

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การแพร่ ของแก๊สในไส้ เดือนดนิ

• ไส้เดือนดนิ มรี ะบบหมุนเวยี นเลือด ช่วยในการแพร่ของแก๊ส
เพื่อให้เพยี งพอต่อความต้องการของร่างกาย

• แก๊สทแี่ พร่ผ่านผวิ หนังไส้เดือนดนิ เข้าไปจะเข้าสู่หลอดเลือด
หมุนเวยี นไปเลยี้ งส่วนต่าง ๆ ของร่างกายต่อไป

• ในขณะเดยี วกนั คาร์บอนไดออกไซด์จากเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย
ท่ีปล่อยออกมาจากเลือดจะแพร่ออกทางผวิ หนงั ของไส้เดือนดนิ

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ข้อดขี องระบบหมุนเวยี นของเลือดของไส้เดือนดนิ

• ช่วยเร่งอตั ราการเปลยี่ นแก๊สกบั สิ่งแวดล้อมได้
โดยการนาออกซิเจนไปสู่เซลล์ทอ่ี ยู่ภายในได้
รวดเร็ว

• ทาให้บริเวณผวิ หนังมคี วามหนาแน่น
ของออกซิเจนน้อยอยู่เสมอ จงึ รับการแพร่ของ
ออกซิเจนจากส่ิงแวดล้อมภายนอกได้ตลอดเวลา

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างในการแลกเปลยี่ นแก๊สของแมลง

• ในสัตว์ช้ันสูงขึน้ มา ได้แก่ พวกอาร์โทรพอดใช้แมลงเป็ นตวั อย่าง
• บริเวณท้องจะพบว่ามรี ูเลก็ ๆ เรียกว่า ช่องหายใจ หรือ สไปเรเคลิ ( Spiracle )

อย่ทู ผ่ี นังลาตวั ตามปกตมิ ี 10 คู่ คือ
ปล้องอก 2 คู่ และปล้องท้อง 8 คู่

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างในการแลกเปลยี่ นแก๊สของแมลง

• ถัดจากรูเปิ ดสไปเรเคลิ เข้าไปในลาตวั จะเป็ นท่อลม(trachea ) เป็ นหลอดใส ๆ เลก็ ๆ
ยืดหดได้คล้ายสปริง

• เมื่ออากาศเข้าไปตามท่อลมแล้วจะผ่านไปตามท่อลมทแ่ี ตกแขนงเป็ นท่อลมฝอย (
tracheole )

• จนถงึ ท่อทเ่ี ลก็ ทส่ี ุดมผี นังบางมากทสี่ ัมผสั กบั เซลล์ร่างกาย

• ปลายท่อทเ่ี ลก็ ทสี่ ุดมขี องเหลวอาบอยู่ ออกซิเจนจากท่อลมจะละลายในของเหลว
และแพร่เข้าสู่เนื้อเย่ือใกล้เคยี ง

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ระบบท่อลมในแมลง

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ระบบหมุนเวยี นเลือดแบบเปิ ดในแมลง

• ระบบเลือดหรือเลือดหรือหลอดเลือดของแมลงเกือบไม่จาเป็ น
ทจี่ ะต้องรับออกซิเจนไปส่งทเ่ี ซลล์

• เพราะระบบท่อลมของแมลงนาอากาศส่งไปถงึ เนื้อเย่ือได้

• รวมท้งั การเคล่ือนไหวของลาตวั แมลง ทาให้ท่อลมยืดหด ช่วยให้อากาศ
ไหลเวยี นเข้าออกจากระบบท่อลมได้ดี

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างในการแลกเปลย่ี นแก๊สของแมลง

• ผนังของท่อลมมีความแข็งแรง ประกอบด้วยควิ ตเิ คลิ
( Cuticle ) จงึ ทาให้คงรูปอยู่ได้
• แมลงบางชนิดมถี ุงลม ( Air sac ) ขนาดใหญ่ช่วยเกบ็ อากาศไว้หายใจ
เพื่อช่วยอดั อากาศให้ผ่านเข้าออกได้เร็วขนึ้

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างในการแลกเปลย่ี นแก๊สของแมลง

• แมลงบางชนิด เช่น ตัก๊ แตนใช้การยืดหดของกล้ามเนื้อหน้าท้องและอก
เพ่ือช่วยดันอากาศให้เข้าออกจากตวั ทางช่องหายใจ

• ดงั น้ันถ้าแมลงตัวโตมาก ๆ จะไม่มคี วามดันบรรยากาศเพยี งพอที่จะส่ง
แก๊สเข้าไปสู่ปลายสุดของท่อลม ( คือ Tracheole ) ได้ เป็ นสาเหตุทา
ให้แมลงมขี นาดจากดั

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ท่อลมของแมลง

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างในการแลกเปลยี่ นแก๊สของปลา

• เหงือกปลามิได้เป็ นอวยั วะที่เปิ ดให้เห็นโดยตรง แต่มแี ผ่นปิ ดเหงือก
( Operculum ) ปิ ด และสามารถเปิ ดปิ ดได้ เม่ือปลาอ้าปากให้นา้
ผ่านปากเข้าไป

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างในการแลกเปลยี่ นแก๊สของปลา

• ดงั น้ันจะเห็นแผ่นปิ ดเหงือกปลาเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
• เป็ นจงั หวะพอเหมาะพอดกี บั การอ้าปากและหุบปากของปลา
• ไม่ว่าปลาจะลอยตวั อย่นู ่ิงหรือปลากาลงั ว่ายนา้ เคล่ือนไหวอยู่
• ดงั น้ัน ถงึ แม้ในนา้ มปี ริมาณออกซิเจนละลายอยู่เพยี ง 0.5 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร

กต็ าม
• ปลากย็ งั สามารถรับออกซิเจนจากนา้ อย่างเพยี งพอกบั ความต้องการตลอดเวลา

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างของเหงือกปลา

• การทเี่ หงือกปลาแตกแขนงเป็ นเส้นเลก็ ๆ เป็ นการเพมิ่ พืน้ ที่ผวิ ทจี่ ะได้
สัมผสั กบั ออกซิเจนในนา้ โดยมเี ยื่อบาง ๆ ของเหงือกอยู่ใกล้ชิดกบั หลอด
เลือดมาก

ทาให้ออกซิเจนแพร่
จากนา้ เข้าหลอดเลือด
ได้ง่ายขึน้

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ลกั ษณะเหงือกของปลา

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ลกั ษณะเหงือกของก้งุ

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ลกั ษณะเหงือกแบบต่าง ๆ

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การแบ่งชนิดของเหงือกตามตาแหน่งของเหงือก

ก. เหงือกทอ่ี ยู่ภายในร่างกาย ( Internal gill ) พบในปลา ก้งุ ปู หอย
และหมกึ
ข. เหงือกทยี่ ่ืนออกจากร่างกาย ( External gill ) ซึ่งอาจอยู่ด้านหน้า
หรือด้านข้างของลาตวั มีลกั ษณะเป็ นขนหรือเป็ นฟิ ลาเมนต์ พบใน
ลูกอ๊อด ซาลามานเดอร์ ตวั อ่อนของปลาบางชนิด ปลาดาว

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ลกั ษณะเหงือกปลากระดูกแขง็

• การเรียงตวั ของหลอดเลือดฝอยในเหงือกปลากระดูกแขง็
มีส่วนช่วยในการแลกเปลยี่ นแก๊ส

• โดยการไหลของเลือดจะสวนทางกบั การไหลของนา้ ผ่านเหงือก
วธิ ีนีจ้ ะช่วยให้ออกซิเจนแพร่เข้าสู่หลอดเลือดได้มากทส่ี ุด

• วธิ ีนีเ้ รียกว่า การแลกเปลยี่ นแก๊สแบบทวนกระแส
( Counter – cerrent exchang )

การแลกเปลย่ี นแก๊สแบบทวนกระแส

• ( Counter – cerrent exchang ) เป็ นการแลกเปลย่ี นแก๊ส
โดย 2 ระบบทไ่ี หลสวนทางกนั

• เลือดท่ีไหลสวนทางกบั กระแสนา้
จะได้ออกซิเจนเพม่ิ ขนึ้ เร่ือย ๆ จากนา้

• โดยวธิ ีนีเ้ หงือกจึงสามารถรับออกซิเจนมากกว่า 80 %
ของออกซิเจนทล่ี ะลายอยู่ในนา้

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

อวยั วะแลกเปลยี่ นแก๊สในแมงมุม

• บุคลงั ( Book lung )พบในแมงมุม มลี กั ษณะเป็ นห้องเลก็ ๆ มีทาง
ตดิ ต่อกบั อากาศภายนอก ภายในห้องเลก็ ๆ มีแผ่นเยื่อบาง ๆ เรียงซ้อน
เป็ นปึ ก

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

บุคลงั ( Book lung )

• ออกซิเจนจากอากาศจะเข้าสู่ของเหลวทห่ี มุนเวยี นอยู่ในบุคลงั
• ของเหลวนาออกซิเจนไปให้เนื้อเย่ือร่างกายและดงึ คาร์บอนไดออกไซด์

ออกมา

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ววิ ฒั นาการของปอด

• ปอดมีววิ ฒั นาการเริ่มจาก
• ธรรมดา มหี ลอดเลือดฝอยมาหล่อเลยี้ ง

และมคี วามชื้น จนกระทงั่ ววิ ฒั นาการใน
การเพมิ่ พืน้ ทผี่ วิ ของปอดให้มากทสี่ ุด
โดยการแบ่งพืน้ ทีผ่ วิ ด้านในให้มรี อยพบั
มากขึน้ พร้อมท้งั มีหลอดเลือดฝอยมา
เลยี้ งมากขนึ้

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การหายใจของกบ

• กบหายใจเอาอากาศเข้าทางรูจมูก อากาศผ่าน
โพรงจมูกเข้าช่องปาก ช่วงนีพ้ ืน้ ทปี่ ากด้านล่าง
ลดตวั ลง อากาศจะไปอยู่ในช่องปาก เม่ือกบยก
พืน้ ปากล่างขึน้ อากาศจะถูกดนั เข้าปอด

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การหายใจของนก

• นกจะต้องบิน จงึ ต้องใช้พลงั งานมาก เพ่ือลอยตวั อยู่ในอากาศ ดงั น้ันนก
จงึ มีววิ ฒั นาการจนทาให้กระดูกเบา โดยมโี พรงอยู่ในกระดูก และตาม
โพรงเหล่าน้ันมถี ุงลม(Air sacs) แทรกเข้าไป

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ถุงลมนก (Air sacs)

• ถุงลมทาหน้าทเ่ี กบ็ สารองอากาศไว้ให้นกใช้แลกเปลยี่ นแก๊ส
• โดยถุงลมจานวน 8 – 9 ถุงนีม้ ที างตดิ ต่อกบั ปอด
• เม่ือนกหายใจผ่านหลอดลมคอเข้าไป
อากาศจะแยกออกไปตามหลอดลมเข้าสู่ปอด
• บางส่วนผ่านเลยเข้าไปยงั ถุงลม

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การแลกเปลย่ี นแก๊สของนก

• นกแลกเปลยี่ นแก๊สกบั อากาศ
ในปอดก่อน เมื่อหายใจ
ออกอากาศในปอดจะออกไป
และอากาศจากถุงลมทตี่ ่อจาก
ปอดจะเข้าไปแทนท่ี

• นกจงึ สามารถแลกเปลย่ี น
แก๊สได้อกี คร้ัง

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

การแลกเปลยี่ นแก๊สของนก

• ดงั น้ันนกสูดลมหายใจเข้าออกแต่ละคร้ัง

2• ปอดสามารถแลกเปลยี่ นแก๊สได้ คร้ัง

• ซึ่ง มากกว่าสัตว์เลยี้ งลูกด้วยนา้ นมเท่าตวั

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

โครงสร้างของปอด

• ภายในปอดของนกมหี ลอดลม ( Bronchus ) และมแี ขนงหลอดลม (
ParaBronchus ) แยกออกไป

• ทแี่ ขนงหลอดลมมีท่ออากาศ ( Air capillary ) แตกแขนงออก
โดยรอบและมหี ลอดเลือดฝอยมาพนั อยู่

• การแลกเปลยี่ นแก๊สในปอดนกเกดิ ขึน้ ทท่ี ่ออากาศนี้

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สรุปการแลกเปลย่ี นแก๊ส

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สอนโดย นางอณุสรา บวั ลอย ครชู านาญการพเิ ศษ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู ้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี