การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต

การเคลื่อนที่ของ สิ่งมีชีวิต

ปีการศึก ศึ ษา 2566 คำ นำ รายงานฉบับบันี้เนี้ ป็นส่วนหนึ่งของวิชวิาชีววิทวิยาในชีวิตวิ ประจาวันวั โดยมี วัตวัถุประสงค์ เพื่อพื่ให้รู้ถึงถึความสาคัญคัของสิ่งสิ่มีชีมี ชีวิตวิซึ่งรายงานเล่มนี้มีนี้ มี เนื้อนื้หาเกี่ยกี่วกับกัการเคลื่อลื่นที่ขที่องสิ่งสิ่มีชีมี ชีวิตวิเราสามารถนำ ความรู้นี้รู้มนี้าปรับรั กับกัการใช้ชีวิตวิ ประจาวันวัของเราได้ ผู้จัดจัทำ หวังวัว่า ในการทำ รายงานเนื่อนื่งมาจากเป็นเรื่อรื่งที่น่ที่ น่าสนใจ และ ได้รู้ถึงถึคุณประโยชน์เพื่อพื่มาเรียรีบเรียรีงให้ผู้อ่านได้อ่านและเข้าใจได้ง่าย ยิ่งยิ่ขึ้นขึ้ผู้จัดจัทาจึงจึขอขอบคุณ อาจารย์ พัชพัรา วัฒวัพรหม ผู้ให้ความรู้และ แนวทางการศึกศึษา เพื่อพื่นๆทุกคนที่ใที่ห้ความ ช่วยเหลือลืมาโดยตลอด ทาง ผู้จัดจัทาหวังวัว่า รายงานฉบับบันี้จนี้ะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน ทุก ๆ ท่าน โดยเฉพาะเจ้าของกิจกิการ หากรายงานฉบับบันี้มีนี้ข้มี ข้อผิดผิพลาด ประการใด ดิฉัดินฉัต้องขออภัยภั ไว้นว้ะที่นี้ที่ด้นี้ ด้วย ผู้จัดจัทำ นางสาวปิยวดี อ่องเพชร

การเคลื่อนที่ของมนุษย์ สารบับั บั ญบั ญ การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว การเคลื่อนที่ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง การเคลื่อนที่ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง 1 2 3 4 5

สิ่ง สิ่ มีชี มี ชี วิต วิ มีก มี ารเคลื่อ ลื่ นไหว และ เคลื่อ ลื่ นที่แ ที่ ตก ต่างกัน กั โดยอาศัย ศั โครงสร้างที่ช่ ที่ ช่ วยในการ เคลื่อ ลื่ นไหวที่แ ที่ ตกต่างกัน กั เช่น สิ่ง สิ่ มีชี มี ชี วิต วิ เซลล์ เดีย ดี วอาศัย ศั โครงร่างค้ำ จุนของเซลล์ (Cytoskeleton) ช่วยในการเคลื่อ ลื่ นที่ ส่วน คน และสัต สั ว์มีก มี ระดูกสัน สั หลัง ลั เคลื่อ ลื่ นที่โ ที่ ดย อาศัย ศั การ ทํางานร่วมกัน กั ของโครงกระดูก กล้ามเนื้อ นื้ และข้อ ต่อ การเคลื่อ ลื่ นที่ การเคลื่อ ลื่ นที่ข ที่ ที่ อง สิ่ง สิ่ มีชี มี สิ่ ชี วิต วิ สิ่ ง สิ่ มีชี มี ชี วิต วิ

อาศัย ศั โครงร่างค้ำ จุนภายในเซลล์เพื่อ พื่ ให้เซลล์คงรูปร่างเรีย รี ก โครงสร้างเหล่านี้ว่ นี้ ว่ า ไซโกสเกเลตอน (Cytoskeleton)ไซ โทสเกเลต อน (Cytoskeleton):: คือ คื โครงสร้างภายใน เซลล์ ประกอบด้วย เส้น ส้ ใยที่ป ที่ ระสานกัน กั เป็นร่างแห แทรกตัว ตั อยู่ภ ยู่ ายใน cytoplasm ทํา หน้าที่เ ที่ ป็นโครงร่างกายในเพื่อ พื่ รัก รั ษารูปทรงหรือ รื เปลี่ย ลี่ นรูปทรง และ ทำ ให้เกิด กิ การ เคลื่อ ลื่ นไหวภายใน cytoplasm และการเคลื่อ ลื่ นที่ข ที่ อง เซลล์ บางชนิดไซโทสเกเลตอน(Cytoskeleton) ประกอบด้วย 1. ไมโครทูบูล (Microtubule) เป็นท่อตรงและกลวงประกอบ ด้วย tubulin protein ชนิด alpha-tubulinและ Bata-tubulin ขนาดเส้น ส้ ผ่าศูนย์กลาง 25 nm 2. ไมโครฟิลาเมนท์ (Microfilament) เป็นเส้น ส้ ใยทึบ ทึ 2 สายพัน พั กัน กั เป็นเกลีย ลี ว ประกอบด้วย Actin Protein 3. ประกอบด้วยมัด มั ของหน่วย ย่อยโปรตีน ตี ที่พั ที่ น พั กัน กั เป็นเกลีย ลี ว ขนาดเส้น ส้ ผ่าศูนย์กลาง 12 nmประกอบด้วยโปรตีน ตี หลายชนิด แล้วแต่ชนิดของ เซลล์ เช่น keratin การเคลื่อ ลื่ นที่ข ที่ องสิ่ง สิ่ มีชี มี ชี วิต วิ เซลล์เดีย ดี ว

อะมีบ มี า (AMEBA) เคลื่อ ลื่ นที่โ ที่ ดยอาศัย ศั การไหลของไซโทรพลาสซึม หรือ รื เท้า เทีย ที ม (PSEUDOPODIUM(ชูโดโพเดีย ดี ม)โดยการที่ไ ที่ ซโท 3 ส่วนด้วยกัน กั คือ คื 1.เอ็ก อ็ โทพลาสซึม (ECTOPLASM) เป็นไซโทรพลาสซึมที่ อยู่ข้างนอก มี ลัก ลั ษณะเป็นสารกึ่ง กึ่ แข็ง ข็ กึ่ง กึ่ เหลว เรีย รี กว่า เจล (GEL) 2.เอ็น อ็ โดพลาสซึม (ENDOPLASM) เป็นไซโทรพลาสซึมที รพลาสซึมจะไหล่ได้นั้ ด้ น นั้ เกิด กิ ขึ้น ขึ้ จาก อยู่ด้านในมีลั มี ก ลั ษณะค่อนข้างเหลว เรีย รี กว่า โซล (SOL) 3. ไมโครฟิลาเมนท์ การเกิด กิ เท้าเทีย ที ม เกิด กิ จากการแยกตัว ตั และรวมตัว ตั ของ โปรตีน ตี แอกติน ในไมโครฟิลา เมนท์ มีผ มี ลต่อการเปลี่ย ลี่ นแปลงของไซโท รพลาซึม ดัง ดั นี้ 1.ทำ ให้เอนโดพลาสซึมไหลไปในทิศ ทิ ทางที่จ ที่ ะมีบ มี าจะ เคลื่อ ลื่ นที่แ ที่ ล้วปรับ รั สภาพเป็นเอ็ก อ็ โทพลาสซึม 2.ส่วนเอ็ก อ็ โทรพลาสซึมที่ อยู่ด้านท้ายจะกลายเป็น เอนโด พลาซึม เป็นของเหลวไหลมาแทนที่เ ที่ อน โดพลาสซึมที่ เคลื่อ ลื่ นไปแล้ว

การเคลื่อ ลื่ นที่ข ที่ องไส้เดือ ดื นไส้เดือ ดื น (earth worm) ไส้เดือ ดื นจัด จั อยู่ในไฟลัม ลั แอนเนลิต ลิ า (annelida) ไส้เดือ ดื นมี กล้ามเนื้อ นื้ 2 ชุด คือ คื กล้ามเนื้อ นื้ วงกลมรอบตัว ตั (circular muscle) อยู่ท ยู่ างด้านนอก และกล้ามเนื้อ นื้ ตามยาว (longitudinal muscle) ตลอดลำ าตัว ตั อยู่ท ยู่ างด้านใน นอกจากนี้ไนี้ ส้เดือ ดื นยัง ยั ใช้ เดือ ดื ย (setae) ซึ่งเป็นโครงสร้าง เล็ก ล็ ๆ ที่ยื่ ที่ ยื่ น ยื่ ออกจากลำ ตัว ตั รอบ ปลื้อ ลื้ งช่วยในการ เคลื่อ ลื่ นที่ด้ ที่ ด้ วย ขณะที่ไ ที่ ส้เดือ ดื นเคลื่อ ลื่ นที่ ไส้เดือ ดื นจะใช้เดือ ดื ย จิก จิ ดิน ดิ ไว้ และกล้ามเนื้อ นื้ วงกลมหดตัว ตั ส่วน กล้ามเนื้อ นื้ ตาม ยาว คลายตัว ตั ทำ ให้ลำ ตัว ตั ยืด ยื ยาวออก เมื่อ มื่ สุด แล้ว ส่วนหน้า คือ คื ปล้องแรกของไส้เดือ ดื นกับ กั เดือ ดื ยจะจิก จิ ดิน ดิ แล้ว กล้ามเนื้อ นื้ วงกลมคลายตัว ตั กล้ามเนื้อ นื้ ตามยาวหดตัว ตั ถึง ถึ ส่วนท้าย ของลำ ตัง ตั เคลื่อ ลื่ นมาข้างหน้า การเคลื่อ ลื่ นที่ข ที่ อง ไส้เดือ ดื นเกิด กิ จาก การทำ งานร่วมกับ กั ของกล้ามเนื้อ นื้ วงกลม และกล้ามเนื้อ นื้ ตามยาว หดตัว ตั และคลายตัว ตั เป็นระลอก คลื่น ลื่ จาก ทางด้านหน้ามาทางด้านหลัง ลั ทำ ให้เกิด กิ การ เคลื่อ ลื่ นที่ไ ที่ ปด้านหน้า การเคลื่อ ลื่ นที่ข ที่ องสัต สั ว์ไม่มี ม่ ก มี ระดูกสัน สั หลัง ลั

การเคลื่อ ลื่ นที่ข ที่ องโลมาและวาฬ โลมาและวาฬมีข มี นาดใหญ่กว่าปลาทั่ว ทั่ ๆ ไปมาก และมีรู มี รู ปร่างเพรีย รี วเหมือ มื นปลา มีส่ มี ส่ วน กระดูกคอ สั้น สั้ ทำ ให้กลมกลืน ลื ระหว่างลำ ตัว ตั กับ กั หัว หั ขาคู่หน้า เปลี่ย ลี่ นไปเป็นครีบ รี ช่วยในการว่ายน้ำ และขาคู่หลัง ลั ก็ห ก็ ดหายไป แต่มีห มี างที่แ ที่ บนขนาด ใหญ่ขนานกับ กั พื้น พื้ การเคลื่อ ลื่ นที่ใ ที่ ช้การตวัด วั หาง และใช้ครีบ รี หน้าช่วยในการพยุงตัว ตั ทำ ให้ เคลื่อ ลื่ นที่ไ ที่ ปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี การเคลื่อ ลื่ นที่ข ที่ องสัต สั ว์มีก มี ระดูกสัน สั หลัง ลั

ระบบโครงกระดูกเป็นโครงสร้างของร่างกาย ช่วยป้องกัน กั อวัย วั วะ บอบบาง ต่างๆ ที่อ ที่ ยู่ภ ยู่ ายในที่เ ที่ กาะเกี่ย กี่ ว อยู่ภ ยู่ ายในกระดูกแต่ละส่วน ของร่างกาย องค์ประกอบสำ คัญ คั อีก อี อย่างหนึ่งภายใน-กระดูกคือ คื ไขกระดูก ขณะ เดีย ดี วกัน กั กระดูกยัง ยั เป็นแหล่งเก็บ ก็ สะสมเกลือ ลื แร่ชนิด ต่างๆ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่ง ยิ่ แคลเซียมและฟอสฟอรัส รั บริเริวณรอบ กระดูกจะมีเ มี นื้อนื้เยื่อ ยื่ หนาห่อหุ้มอยู่ เรีย รี กว่า เยื่อ ยื่ หุ้มกระดูก (Periosteum) ซึ่งเยื่อ ยื่ หุ้มกระดูกนี้ ประกอบด้วย เซลล์กระดูกและ หลอดเลือ ลื ด ซึ่งจะนำ เลือ ลื ดมาเลี้ย ลี้ งในส่วนของกระดูกชั้น ชั้ นอก กระดูกชั้น ชั้ นอกหรือ รื เรีย รี กว่า กระดูกทึบ ทึ (Compact bone) ประกอบ ด้วยเกลือ ลื แร่สะสมอยู่เป็นวงกลมล้อม รอบท่อขนาดเล็ก ล็ ๆ ซึ่งเรีย รี ก ว่า ท่อฮา เวอร์เขีย ขี น (Haversian canal) เซลล์กระดูกรอบๆท่อฮา เวอร์เชียน จะได้ รับ รั อาหารและออกซิเจนจากหลอดเลือ ลื ดที่ผ่ ที่ ผ่ านท่อ ฮาเวอร์เซียนที่ผ่ ที่ ผ่ านท่อ เหล่านี้ และถ้าหากว่า กระดูกเกิดกิแตกหัก หั เส้นส้ ประสาทในท่อเล็ก ล็ ๆ นี้ก็ นี้ จ ก็ ะส่ง กระแสประสาทไปยัง ยั สมองเราจึง จึ รู้สึก สึ ถึง ถึ ความเจ็บ จ็ ปวด ส่วนกระดูกชั้น ชั้ ใน นั้นนั้มองดูคล้ายรวงผึ้งผึ้ เพราะมีลั มี ก ลั ษณะเป็นร่างแหที่มี ที่ ช่ มี ช่ องว่างระหว่างกระดูก เรีย รี กว่า กระดูกพรุน (Spongy bone) แต่ก็มี ก็ ค มี วามแข็ง ข็ แรงไม่แพ้ส่วน กระดูกทึบ ทึ เช่นกัน กั ซึ่งถ้า กระดูกของคนเราเป็นกระดูกทึบ ทึ ทั้งทั้ท่อนร่าง-กาย คงหนัก นั มาก ไขกระดูกจะ มีปมี ริมริาณราวๆ 227 กรัม รั สามารถ ผลิตลิเซลล์เม็ด ม็ เลือ ลื ดแดงได้ประมาณ 5,000 เม็ด ม็ /วัน วั สำ หรับ รั ทารกในครรภ์ โครงกระดูกทุกชิ้น มีไมี ขกระดูกแดง บรรจุอยู่ แต่เมื่อ มื่ เจริญริเติบโตถึง ถึ วัย วั ผู้ใหญ่แล้วจะพบไข-กระดูกนี้เ นี้ ฉพาะใน ส่วนของ กะโหลก ศรีษ รี ะ กระดูกหน้าอก กระดูกสัน สั หลัง ลั กระดูกสะโพก และ บริเริวณตอนปลายของกระดูกชิ้นยาวๆ เท่านั้นนั้ การเคลื่อ ลื่ นที่ข ที่ องมนุษย์

โครงกระดูกของมนุษย์