The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุปโครงการช่างเชื่อมโลหะ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kwankao.ppp18, 2023-04-28 04:17:29

สรุปโครงการช่างเชื่อมโลหะ

สรุปโครงการช่างเชื่อมโลหะ

รายงานผลการจัดโครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ ไม่เกิน ๓๐ ชั่วโมง ประจำปีงบประมาณ 256๖ ไตรมาส ๒ วิชาช่างเชื่อมโลหะ หลักสูตร 40 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 1 – 13 มีนาคม ๒๕๖๖ ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ จัดโดย กศน.อำเภอห้วยราช ผู้ประสานงาน นางสาวฤดี กิรัมย์ ครูกศน.ตำบล ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอห้วยราช สำนักงาน กศน.จังหวัดบุรีรัมย์


บันทึกข้อความ ส่วนราชการ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอห้วยราช ที่ ศธ0210.4222 / วันที่ มีนาคม ๒๕๖๖ เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน เรียน ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอห้วยราช ตามที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอห้วยราช ได้มอบหมายให้ กศน.อำเภอห้วยราช จัดทำโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรชั้นเรียนวิชาชีพ วิชาช่างเชื่อมโลหะ จำนวน 40 ชั่วโมง ประจำปีงบประมาณ 256๖ ตามแผนงานพร้อมรายงานผลการปฏิบัติและการจัดกิจกรรม นั้น บัดนี้ ข้าพเจ้านางสาวฤดี กิรัมย์ ตำแหน่ง ครูกศน.ตำบล ได้จัดทำสรุปผลการดำเนินงาน โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรชั้นเรียนวิชาชีพ วิชาช่างเชื่อมโลหะ จำนวน 40 ชั่วโมง ประจำปี งบประมาณ 256๖ ไตรมาส ๒ เสร็จเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดดังแนบ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา ลงชื่อ...................................................... (นางสาวฤดี กิรัมย์) ครูกศน.ตำบล ลงชื่อ...............................................ผู้ตรวจ (นางสาวสุธาสินีย์ ไกรสันเทียะ) ครู กศน.ตำบล ลงชื่อ...............................................ผู้ทาน (นางสาวภัทรวดี รอบแคว้น) ครูชำนาญการ ลงชื่อ................................................. (นางสาวณัฏฐณิชา อินทรโสภา) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอห้วยรา


คำนำ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 (แก้ไขเพิ่มเติมพุทธศักราช 2545) และ พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดจุดมุ่งหมาย สำคัญในการพัฒนาคนไทยให้ได้รับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ปัจจุบัน และอนาคต ทั้งด้านประชากร การเมืองการปกครอง สังคม เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเชื่อมโยงสังคมเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย ระดับภูมิภาค และระดับโลก จึงจำเป็นที่จะต้องจัดการเรียนรู้ ตลอดชีวิต เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายประชาชนได้รับการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งด้านการ พัฒนาอาชีพ การพัฒนาทักษะชีวิต และการพัฒนาสังคมและชุมชนซึ่งต้องใช้วิธีการและรูปแบบที่หลากหลาย ตาม ความต้องการและความสนใจของประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยเน้นกระบวนการคิดเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตามหลักปรัชญาคิดเป็นและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กศน.ตำบลห้วยราช จึงได้ดำเนินการสรุปผลการดำเนินงานการศึกษาอาชีพ โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรชั้นเรียนวิชาชีพ วิชาช่างเชื่อมโลหะ จำนวน 40 ชั่วโมง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการ จัดกิจกรรมของ กศน.อำเภอห้วยราช ทั้งในการบริหารงาน การพัฒนางาน การทำงาน ที่ตรงตามความต้องการ ของผู้เรียน ผู้รับบริการ ชุมชนและสามารถเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย กศน.ตำบลห้วยราช มีนาคม 2566


สารบัญ เรื่อง หน้า บทที่ 1 บทนำ ๑ บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ๓ บทที่ 3 วิธีดำเนินโครงการ ๕ บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน ๖ บทที่ 5 สรุปอภิปรายและข้อเสนอแนะ 1๐ ภาคผนวก - บันทึกขออนุญาตเปิดกลุ่มอาชีพ รูปแบบชั้นเรียน - หลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง รูปแบบชั้นเรียน - คำสั่งแต่งตั้งวิทยากร - แผนการจัดการเรียนรู้ - รายชื่อผู้เข้ารับการอบรม - แบบความพึงพอใจ - รายงานผลแบบความพึงพอใจ - ภาพกิจกรรม คณะผู้จัดทำ


บทที่ 1 บทนำ การจัดการศึกษาต่อเนื่อง โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ 1. หลักการและเหตุผล พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 (แก้ไขเพิ่มเติมพุทธศักราช 2545) และพระราช บัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พุทธศักราช 2551 ได้กำหนด จุดมุ่งหมายสำคัญในการพัฒนาคนไทยให้ได้รับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของ สถานการณ์ปัจจุบัน และอนาคต ทั้งด้านประชากร การเมืองการปกครอง สังคม เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการเชื่อมโยงสังคมเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย ระดับภูมิภาค และระดับโลก จึงจำเป็นที่จะต้องจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายประชาชนได้รับการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการ เปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งด้านการพัฒนาอาชีพ การพัฒนาทักษะชีวิต และการพัฒนาสังคมและชุมชน ซึ่งจำเป็นต้องใช้วิธีการและรูปแบบที่หลากหลาย ตามความต้องการและความสนใจของประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยเน้นกระบวนการคิดเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตามหลักปรัชญาคิดเป็นและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศใช้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษาต่อเนื่อง พุทธศักราช 2554 ประกาศ ณ วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2554 โดยสำนักงาน กศน. ได้กำหนดนโยบายด้านการ จัดการศึกษาต่อเนื่อง ดังนี้ หลักการ ๑. มุ่งเน้นให้กลุ่มเป้าหมายสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาไปใช้ในการประกอบอาชีพ พัฒนาอาชีพ พัฒนาทักษะชีวิต และพัฒนาสังคมและชุมชน เพื่อให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ๒. พัฒนาหลักสูตรที่ยึดหลักความสอดคล้องกับความต้องการและความจำเป็นของกลุ่มเป้าหมาย เป็นไปตามสภาพบริบทชุมชนและสังคม รวมถึงนโยบายของทางราชการ ๓. จัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยยึดหลักความสอดคล้องกับศักยภาพและความพร้อม ของผู้เรียน ความหลากหลายตามความแตกต่างของกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งบูรณาการปรัชญาคิดเป็น และหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ตามความเหมาะสม ๔. ยึดหลักการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและภูมิปัญญาในการดำเนินงาน 2. วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และฝึกทักษะการเชื่อมโลหะ พร้อมทั้งวิธีการสร้างรายได้ ให้แก่ตนเองและชุมชน ๒. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถจัดทำโครงการประกอบอาชีพ ซึ่งส่งผลให้มองเห็นช่องทางและตัดสินใจประกอบ อาชีพการติดตั้งฝ้าเพดานที่สอดคล้องกับศักยภาพตนเอง ชุมชน และสิ่งแวดล้อม จนสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ ๓. เพื่อให้ผู้เรียน มีคุณธรรม จริยธรรม และจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อตนเอง ชุมชนและสังคม 3. เป้าหมาย ด้านปริมาณ ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ตำบลห้วยราช จำนวน 1๕ คน ด้านคุณภาพ ร้อยละ ๘5 ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และฝึกทักษะการเชื่อมโลหะ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ ตนเองและชุมชนและสามารถจัดทำโครงการประกอบอาชีพ ซึ่งส่งผลให้มองเห็นช่องทางและตัดสินใจประกอบ อาชีพการทำชีพช่างปูกระเบื้องที่สอดคล้องกับศักยภาพตนเอง ชุมชน และสิ่งแวดล้อม จนสามารถสร้างรายได้ ที่มั่นคงได้และผู้เรียน มีคุณธรรม จริยธรรม และจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อตนเอง ชุมชนและสังคมได้ ๑


4. สถานที่ดำเนินการ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ 5. ระยะเวลาในการดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 1 – 13 มีนาคม 2566 (หยุดวันเสาร์วันอาทิตย์และวันจันทร์) 6. ขั้นตอนการดำเนินงาน 1. ประชุมวางแผน 2. เสนอโครงการเพื่อพิจารณาอนุมัติ 3. ดำเนินการจัดกิจกรรม กิจกรรม/โครงการ รูปแบบ/วิธีการ กลุ่มเป้าหมาย พื้นที่ดำเนินการ ระยะเวลา งบประมาณ การจัดการศึกษา ต่อเนื่องโครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียน วิชาชีพ จัดการสอนในวิชาชีพ การปูกระเบื้องให้กับ ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ ตำบลห้วยราช - ความสำคัญในการ ประกอบอาชีพ - ขั้นตอนและวิธีการ ประชาชนทั่วไป ตำบลห้วยราช จำนวน 1๕ คน ศาลาประชาคม หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ เวลา ๐๙.๐๐ น. ถึง เวลา ๑๕.๐๐ น. - ค่าวัสดุ 4,000 บาท - ค่าวิทยากร 4,0๐๐ บาท 4. ติดตามผลและประเมินผล 5. สรุปรายงานผลการดำเนินงาน 7. ผู้รับผิดชอบโครงการ - นางสาวฤดี กิรัมย์ ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล 8. เครือข่าย - ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ตำบลห้วยราช - ผู้นำชุมชน 9. โครงการที่เกี่ยวข้อง - การจัดการศึกษาต่อเนื่อง โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ 10. การประเมินผล - กรอกแบบสอบถาม 11. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ และฝึกทักษะการเชื่อมโลหะ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและ ชุมชนและสามารถจัดทำโครงการประกอบอาชีพ ซึ่งส่งผลให้มองเห็นช่องทางและตัดสินใจประกอบอาชีพการ เชื่อมโลหะ ที่สอดคล้องกับศักยภาพตนเอง ชุมชน และสิ่งแวดล้อม จนสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้และผู้เรียน มีคุณธรรม จริยธรรม และจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อตนเอง ชุมชนและสังคมได้ 12. การกำกับและติดตามผล 1. ติดตามความก้าวหน้าของโครงการที่ได้ดำเนินการแล้ว 2. ติดตามผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ของผู้เข้าร่วมโครงการ ๒


บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ความหมายของอาชีพ อาชีพ คือ การทำกิจกรรม การทำงาน การประกอบการที่ไม่เป็นโทษแก่สังคม และมีรายได้ตอบแทน โดยอาศัยแรงงานความรู้ ทักษะ อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการ แตกต่างกันไป ความสำคัญของอาชีพ คนเราเป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เป็นชุมชน การที่อยู่ร่วมกันในพื้นที่ ซึ่งมีขอบเขตจำกัด ที่อาจจะถูกกำหนดโดย ลักษณะภูมิประเทศ บนพื้นผิวโลก ทำให้แต่ละกลุ่มชนมีกิจกรรมในการดำรงอยู่แตกต่าง กันออกไปเมื่ออยู่รวมกันเป็นชุมชนใหญ่ก็ต้องมีการทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน ของการมีชีวิตอยู่ ความถนัด ความชอบ ของแต่ละคน ก็แตกต่างกันไป คนที่ทำบางอย่างเก่ง เช่น ชำนาญการปลูกผัก ก็จะผลิตพืชผล ได้เยอะ และมีลักษณะที่น่ารับประทาน คนอื่นมาพบเห็น ก็อยากได้ไปรับประทานบ้าง แรกๆก็คง ให้กันโดยไม่มีสิ่ง แลกเปลี่ยน ต่อมาก็นำสิ่งของมาแลกเปลี่ยน คนผู้นั้น ก็เห็นว่า การปลูกผัก ทำให้ตนได้สิ่งของต่างๆ ในสิ่งที่ ตนไม่ ต้องลงมือทำเอง เช่น เมื่ออยากได้ ผ้า ก็นำผักของตนไปแลก กับคนที่ทอผ้า ก็ได้ ผ้า มาใช้ตามต้องการ เขาจึง ขยายกิจการพืชสวนครัว ให้มากขึ้นโดยไม่สนใจ ทำกิจกรรม อย่างอื่น จนกลายเป็นว่า เขาสามารถดำรงชีพอยู่ได้ เพราะ การปลูกผัก การนำสิ่งของ เช่น พืชผัก เนื้อ ปลา ผืนผ้า ไปแลกเปลี่ยนกัน ไม่สะดวกในการขนส่ง ไม่ สะดวกในการจัดเก็บ สังคมมนุษย์ จึงพัฒนามาเป็นการใช้ วัตถุ เช่น หินสีเปลือกหอย โลหะ ซึ่งสะดวกในการ พกพา มาเป็น สื่อกลาง การแลกเปลี่ยน และได้ร่วมกันกำหนดมูลค่าขึ้นมา เพื่อจะได้ทราบว่า ผัก 1 มัด จะเทียบ ได้กับ เปลือกหอย กี่อัน ซึ่งต่อมาก็ กลายเป็นระบบเงินตรา หลังจากนั้นก็ทำให้เกิด การซื้อ การขาย กันขึ้น ใน สังคมมนุษย์ รูปลักษณ์ ของ เงิน เปลี่ยนไปตามยุค ตามสมัย จนถึงปัจจุบัน ที่มีลักษณะเป็น เหรียญ และ เป็น แผ่นบาง อาจทำด้วย กระดาษพิเศษ หรือพลาสติกสังเคราะห์ กำหนดสีสัน ที่แตกต่าง เพื่อแยกมูลค่าในการ แลกเปลี่ยน ของเงินนั้นๆ ที่กล่าวมา ถ้ามองแบบกว้างๆ จะเห็นว่า การที่จะมีชีวิตดำรงอยู่ของมนุษย์ จึงต้อง ประกอบ อาชีพ และเจ้าตัวอาชีพ ก็จะทำให้เกิดรายได้ ซึ่งมี สื่อกลาง ที่แทน จำนวนรายได้ ก็คือ เงิน อาชีพ ตรง กับคำ หลายคำในภาษาอังกฤษ ดังนี้ Employment Meatier Occupation Profession Pursuit Vocation Avocation Business Calling Career ซึ่งก็มีความหมายไปในลักษณะเดียวกัน ว่าเป็น อาชีพ ซึ่งมีผู้ให้ความหมายของ อาชีพ ไว้หลายความหมาย ดังนี้พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน อาชีพ เป็น คำนาม หมายถึง การเลี้ยง ชีวิต , การทำมาหากิน , งานที่ทำเป็นประจำเพื่อเลี้ยงชีพ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ให้ความหมายไว้ ว่า อาชีพ เป็นหน้าที่ของบุคคลในสังคม การที่บุคคลประกอบอาชีพจะได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือ รายได้ เพื่อใช้ จ่ายในการดำรงชีวิต เว็บปัญญาไทย กล่าวว่า อาชีพ หมายถึง การทำมาหากิน ทำธุรกิจ ตามความชอบหรือความ ถนัด ได้ค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง หรือเงินเดือน เว็บ spa ได้ให้ความหมายว่า อาชีพ หมายถึง การทำมาหากินจาก การทำงานหรือกิจกรรมใดๆที่ก่อให้เกิดผลผลิตและรายได้เป็นงานที่สุจริต ไม่ผิดศีลธรรมเป็นที่ยอมรับของ สังคม เว็บ ebook พูดถึงอาชีพ ว่าคือ การทำมาหากินจากการทำงานหรือกิจกรรมใด ๆ ที่ก่อให้เกิด รายได้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวว่า อาชีพ หมายถึง ประเภทหรือชนิดของงานที่บุคคลนั้นทำ ปกติบุคคลมี อาชีพเดียว หากในระหว่างรอบ 52 สัปดาห์ที่แล้ว บุคคลใดมีอาชีพมากกว่า 1 ชนิด ให้ถืออาชีพที่มีจำนวนสัปดาห์ การทำงานมากที่สุด หากจำนวนสัปดาห์เท่ากันให้นับอาชีพที่มีรายได้มากที่สุด เว็บ agaligo ให้ความหมายไว้ ว่า อาชีพ มาจากคำ บาลี สันสกฤต คำว่า อาชีวะ ซึ่งแปลว่า ความเป็นอยู่ การดำรงชีวิตอยู่ ในรูปคำไทย หมายถึงการเลี้ยงชีวิต การทำมาหากิน งานที่ทำเป็นประจำเพื่อเลี้ยงชีพสำหรับผู้เขียนเห็นว่า อาชีพ คือ การทำ กิจกรรมใดๆ ทั้งที่เป็นด้านบวกหรือด้านลบ ซึ่งกิจกรรมนั้น นำไปสู่สิ่งตอบแทน อาจจะเป็นรายได้ ที่เป็นวัตถุจับ ต้องได้ เช่น เงิน หรือ เป็นนามธรรม ที่จับต้องไม่ได้ เช่น ความปลอดภัยของตัวเอง ความศรัทธา อุดมคติ ความพึงพอใจ ความใฝ่ฝันส่วนตัว หรืออื่นๆ ซึ่งสิ่งตอบแทน ดังกล่าว เป็นเหตุหรือปัจจัยให้ชีวิต ๓


ดำรงอยู่ได้ ในสังคม ความสำคัญของอาชีพสามารถกล่าวถึงความสำคัญของอาชีพ ได้ดังนี้ 1. ทำให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ เมื่อมีอาชีพก็มีรายได้ สามารถจับจ่าย ใช้สอย ในชีวิตประจำวันได้โดยปกติ 2. ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีอาชีพ จะได้รับความน่าเชื่อถือ จากผู้คนในสังคม เพราะสังคม มนุษย์มองว่า คนมีอาชีพ เลี้ยงตัวเองได้ จะไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น เช่น ไม่ลักขโมย ไม่แย่งชิง ไม่เที่ยวขอหรือหยิบยืม สิ่งของจากผู้อื่น เรียกว่า มีเครดิตในตัวเอง 3. สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะอยู่ร่วมกัน การดำรงชีพอยู่ในสังคม ก็จะต้องมีการสมรส ผู้ที่มีอาชีพจะ ทำให้ผู้ที่มาเป็นคู่ชีวิต มีความมั่นใจ ว่า เมื่อมาอยู่ร่วมกันแล้ว ไม่อดตาย ไม่ลำบาก ไม่เดือดร้อน และคงจะมี ความสุขอย่างแน่นอน 4. สร้างครอบครัวได้โดยปกติสุข รายได้จากอาชีพ มีการสะสมไว้ ก็เพื่อสร้างครอบครัว ให้ดำรงอยู่ได้โดย ปกติ เมื่อเป็น ครอบครัว ก็มีญาติพี่น้องที่ต้องจุนเจือ มีลูก ซึ่งต้องดูแล อาหารการกินที่เพิ่มขึ้น เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ที่ต้องใช้ตามความจำเป็น ที่อยู่อาศัยต้องพอเหมาะกับฐานะทางเศรษฐกิจ และเมื่อเจ็บป่วยมาสบาย ก็ต้องได้รับ การดูแล รักษา จนเป็นปกติถ้าไม่มีอาชีพ ก็ขาดรายได้และการสร้างครอบครัว ก็จะเกิดปัญหา 5. ทำให้กิจกรรมสังคมมีการเคลื่อนไหว ในสังคมมีหลากหลายอาชีพ ก็จะทำให้เกิดกิจกรรมต่างๆขึ้น เกิดการเชื่อมประสาน ในจุดต่างๆของสังคม มีการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้คนในสังคม เช่น ผู้ขายกล้วยปิ้ง ริม ถนน ก็ไปซื้อ กล้วยจากผู้ค้าที่ตลาด ซึ่ง ก็มาจาก ชาวสวนที่ปลูกกล้วย นำมาส่งที่ตลาด ชาวสวนก็ได้ รับเงิน จากการขายกล้วยก็ให้เงินแก่ลูกเพื่อไปใช้จ่ายเป็นค่ากิจกรรมที่โรงเรียน ผู้ค้าที่ตลาดก็ได้เงินจากการขายกล้วยนำ เงินไปจ่ายค่าเช่าแผงที่ตลาดก็ได้คุยกับเจ้าของตลาดไปจ่ายค่าแชร์ก็ได้พบปะกับกลุ่มเพื่อนไปซื้อหวยหุ้นก็ได้เสี่ยง โชคกับผู้ขาย ส่วนผู้ค้ากล้วยปิ้งก็ได้พบปะกับลูกค้าผู้ทำงานธนาคารที่ซื้อห่อกลับไปทานที่ออฟฟิศ ลักษณะที่ กล่าวมาจะเห็นความเคลื่อนไหวของสังคมที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากอาชีพ 6. ทำให้เศรษฐกิจ และสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงในทางบวกเราก็เรียกว่าเป็นการ พัฒนามีการประกอบอาชีพ ก็ทำให้เศรษฐกิจของสังคมเคลื่อนไหวเมื่อมีความคล่องตัวก็เกิดสิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆขึ้นในสังคม เช่น มีถนน หนทาง มีรถโดยสาร มีไฟฟ้าใช้ มีโทรศัพท์ มีอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบใช้สายและไร้ สาย เหล่านี้เราก็บอกว่าเป็นการพัฒนา ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงเชิงลบก็ได้แก่การเกิดแหล่งเสื่อมโทรม เกิด ชุมชนเสื่อมโทรม เกิดปัญหาขยะล้นเมือง เกิดปัญหาการแย่งที่อยู่อาศัย การแย่งอาชีพการเกิดอาชญากรรม เกิด อาชีพที่ผิดกฎระเบียบของสังคม เกิดโรคติดต่อ และอื่นๆ รวมเรียกว่าเป็นความเสื่อมถอยของเศรษฐกิจและ สังคม สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สืบเนื่องมาจากการดำเนินกิจกรรมตามอาชีพของมนุษย์ ความหมาย/ความสำคัญของวิชาการเชื่อมโลหะ กศน.ตำบลห้วยราช ได้ดำเนินการสำรวจความต้องการเรียนวิชาชีพของประชาชนในพื้นที่ตำบลห้วยราช เพื่อจัดการศึกษาพัฒนาอาชีพ หลักสูตรรูปแบบชั้นเรียน (31 ชั่งโมงขึ้นไป) และได้สรุปผลการสำรวจ ปรากฏว่า มีผู้ต้องการเรียนวิชาชีพ วิชาช่างเชื่อมโลหะ จึงได้ดำเนินการขอเปิดสอนตามแนวทางการดำเนินงานการจัด การศึกษาต่อเนื่อง (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) นโยบายการดำเนินงานของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยประจำปี งบประมาณ 2566 ขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการ การศึกษาและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต การจัดการ ศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทุกช่วงวัย มุ่งเน้นการฝึกหลักสูตรวิชาชีพ เพื่อพัฒนาอาชีพและเป็น ช่องทางในการประกอบอาชีพ อาชีพช่างเชื่อมโลหะ เป็นอาชีพหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชน เป็นอาชีพที่ขาดแคลนสถาน ประกอบการต้องการแรงงานระดับกลางจำนวนมาก สามารถเป็นช่องทางประกอบเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวได้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายสำนักงาน กศน. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพคนให้มีคุณภาพ จัดกระบวนการเรียนรู้ตามแนวทางเกษตรธรรมชาติสู่การพัฒนาอาชีพ เกษตรกรรมอย่างยั่งยืน กศน.จังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้จัดทำหลักสูตรช่างเชื่อมโลหะ เพื่อส่งเสริมประชาชนในมีงานทำ ๔


บทที่ 3 วิธีดำเนินโครงการ กศน.ตำบลห้วยราช ได้จัดฝึกอาชีพให้ประชาชน จัดการศึกษาต่อเนื่อง โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถ และคุณลักษณะดังนี้ 1. มีความรู้ความเข้าใจการเชื่อมโลหะ 2. มีความรู้ความสามารถการเชื่อมโลหะ 3. มีความรู้ความสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง 4. นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และมีอาชีพเสริม ที่ทำให้เกิดรายได้ 1. การเตรียมการดำเนินโครงการ กศน.ตำบลห้วยราช ได้ประชุมเพื่อกำหนดเป้าหมายในการเข้าร่วมฝึกอาชีพให้ประชาชน การจัดการ ศึกษาต่อ โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน เนื่องรูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ มีประชาชนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 1๕ คน ระหว่างวันที่ 1 – 13 มีนาคม 2566 (หยุดวันเสาร์วันอาทิตย์และวันจันทร์) ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. ถึงเวลา ๑๕.๐๐ น. 2. การดำเนินโครงการ 2.1 มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมอย่างต่อเนื่อง 2.2 จัดเตรียมอุปกรณ์ สถานที่ในการจัดโครงการ 2.3 แบ่งหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการ 3. การติดตามผลการดำเนินการ 3.1 จัดแบบสอบถามผลการดำเนินการฝึกอาชีพให้ประชาชน การจัดการศึกษาต่อเนื่องโครงการศูนย์ฝึก อาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ เพื่อให้ตอบแบบสอบถาม กศน.ตำบลห้วยราช สังกัดศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอห้วยราช และส่งแบบสอบถามคืน ภายในวันที่จัดโครงการ 3.2 รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล 1. รวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามที่ส่งกลับ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเป็นร้อยละ 2. รวบรวมข้อมูลจากคำถามปลายเปิดเป็นหมวดหมู่และสรุปรายงานผล 3. นำเสนอข้อมูลในรูปแบบตาราง ๕


บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน กศน.ตำบลห้วยราช ได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมให้กับประชาชนทั่วไป การจัดการศึกษาต่อเนื่อง โครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน การศึกษาแบบชั้นเรียนวิชาชีพ ๓๑ ชั่วโมงขึ้นไป ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 หลักสูตร การเชื่อมโลหะ จำนวน 40 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 1 – 13 มีนาคม 2566 เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี นายชม ตระกูลรัมย์ เป็นวิทยากรให้ความรู้ กลุ่มเป้าหมายประชาชน จำนวน 12 คน ผลการดำเนินการมีประชาชนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 1๕ คน คิดเป็นร้อยละ 100 แสดงว่าเป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ ประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วม โครงการ ผลการตอบแบบประเมินความพึงพอใจ ปรากฎดังนี้ ตารางที่ 1.1 พบว่า จำนวนเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ รายการ จำนวนเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ (คน) จำนวนที่เข้าร่วมจริง (คน) จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ ผู้เข้าร่วมโครงการ 12 ๑๐๐ 1๕ ๑๐๐ รวม 12 ๑๐๐ 1๕ ๑๐๐ จากตารางที่ 1.1 พบว่า จำนวนเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งหมด จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ จำนวนประชาชนที่เข้าร่วมจริง 1๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ตารางที่ 1.2 แสดงจำนวนผู้ที่เข้าร่วมโครงการ โดยแยกตามเพศผู้ตอบแบบประเมิน ที่ รายการ จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 1 เพศชาย 8 5๓.๓๓ 2 เพศหญิง 7 47.๖๗ รวม 1๕ ๑๐๐ จากตารางที่ 1.2 พบว่า จำนวนผู้ตอบแบบประเมินทั้งสิ้น 1๕ คน เป็นเพศชาย จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 5๓.๓๓ เพศหญิง จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 47.๖๗ ตารางที่ 1.3 แสดงจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ โดยแยกตามช่วงอายุผู้ตอบแบบประเมิน ที่ รายการ จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 1 15 - ๓๐ ปี 3 20.00 2 ๓๑ - ๔๐ ปี 1 6.67 3 ๔๑ - 50 ปี 4 26.67 4 51 ปีขึ้นไป 7 46.67 รวม 1๕ 100 จากตารางที่ 1.3 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินทั้งสิ้น จำนวน 1๕ คน อายุ ๑๕ - 30 ปีขึ้นไป จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 20.00 อายุ 3๑ - 40 ปีขึ้นไป จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 6.67 อายุ ๔๑ - 50 ปี จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 26.67 อายุ 51 ปีขึ้นไป จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ ๔6.67 ๖


ตารางที่ 1.4 แสดงจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ โดยแยกตามอาชีพผู้ตอบแบบประเมิน ที่ รายการ จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 1 รับจ้าง 0 0.00 2 เกษตรกรรม ๑4 93.33 3 ค้าขาย ๑ ๖.๖๗ 4 พนักงานรัฐ / เอกชน 0 0.00 5 รับราชการ 0 0.00 6 อื่นๆ 0 0.00 รวม 1๕ 100 จากตารางที่ 1.4 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินทั้งสิ้น จำนวน 1๕ อาชีพเกษตรกร จำนวน ๑4 คน คิดเป็นร้อยละ 93.33 และอาชีพค้าขาย จำนวน ๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๖.๖๗ ตารางที่ 1.5 แสดงจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ โดยแยกตามระดับการศึกษาผู้ตอบแบบประเมิน ที่ รายการ จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 1 ประถม 8 53.33 2 ม.ต้น 1 6.67 3 ม.ปลาย 6 40.00 รวม 1๕ 100 จากตารางที่ 1.5 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินทั้งสิ้น จำนวน 1๕ คน ประถม จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 53.33 ม.ต้น จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 6.67 และ ม.ปลาย จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 2. ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ ต่อภาพรวมของโครงการ การประเมินความพึงพอใจ ได้ประเมิน ๔ ด้านเนื้อหาหลักสูตร ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม ด้านวิทยากร ด้านการอำนวยความสะดวก ตารางที่ 2.1 แสดงความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ ด้านเนื้อหาหลักสูตร ที่ รายการ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ หมายเหตุ 1 เนื้อหาตรงตามความต้องการ 4.๕3 ๙๐.67 2 เนื้อหาพอเพียงต่อความต้องการ 4.๓๓ ๘๖.๖๗ 3 เนื้อหาปัจจุบันทันสมัย 4.๖0 9๒.00 4 เนื้อหามีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพชีวิต 4.๕3 ๙๐.67 รวม 4.๕๐ ๙๐.๐๐ จากตารางที่ 2.1 พบว่า ด้านเนื้อหาหลักสูตร ค่าเฉลี่ย 4.๕๐ อยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ - เนื้อหาพอเพียงต่อความต้องการ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๕3 - เนื้อหาปัจจุบันทันสมัย อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๓๓ - เนื้อหามีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๖0 - เนื้อหาตรงตามความต้องการ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๕3 ๗


ตารางที่ 2.2 แสดงความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม ที่ รายการ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ หมายเหตุ 1 การเตรียมความพร้อมก่อนอบรม 4.5๓ 90.67 2 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ 4.๖๐ ๙๒.๐๐ 3 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา 4.๔๗ ๘๙.๓๓ 4 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย 4.๕๓ ๙๐.๖๗ ๕ วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ 4.๔7 8๙.33 รวม 4.52 90.40 จากตารางที่ 2.2 พบว่าด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม ค่าเฉลี่ย 4.52 อยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ - การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.5๓ - การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๖๐ - การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๔๗ - วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๕๓ - การเตรียมความพร้อมก่อนอบรม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๔7 ตารางที่ 2.3 แสดงความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ ด้านวิทยากร ที่ รายการ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ หมายเหตุ 1 วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ถ่ายทอด 4.๗๓ 9๔.๖๗ 2 วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใช้สื่อเหมาะสม 4.๕๓ 9๐.๖๗ ๓ วิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม 4.6๐ 9๒.๐๐ รวม 4.6๔ 92.๔๔ จากตารางที่ 2.3 พบว่าด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ค่าเฉลี่ย 4.6๔ อยู่ในระดับมากที่สุด เรียงลำดับ จากมากไปน้อย ดังนี้ - วิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๗๓ - วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใช้สื่อเหมาะสม อยู่ในระดับดีมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๕๓ - วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ถ่ายทอด อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.6๐ ตารางที่ 2.๔ แสดงความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ ด้านการอำนวยความสะดวก ที่ รายการ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ หมายเหตุ 1 สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก 4.๔๗ ๘๙.๓๓ 2 การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ 4.๒7 8๕.33 ๓ การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา 4.๔๗ 8๙.๓๓ รวม 4.๔๖ 87.78 รวมทั้งหมด 4.๔๐ 8๘.๐๐ ๘


จากตารางที่ 2.4 พบว่าด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ค่าเฉลี่ย 4.๔๐ อยู่ในระดับมาก อยู่ในลำดับที่ เท่ากันดังนี้ - สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๔๗ - การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๒7 - การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๔๗ โดยภาพรวม ผู้เข้าอบรมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรกลุ่มสนใจ มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ย 4.51 คิดเป็นร้อยละ 90.22 เกณฑ์การประเมินความพึงพอใจ คะแนนค่าเฉลี่ย 4.51 – 5.00 หมายถึง ดีมาก = ระดับค่าเฉลี่ยร้อยละ 90 ขึ้นไป คะแนนค่าเฉลี่ย 3.51 – 4.50 หมายถึง ดี = ระดับค่าเฉลี่ยร้อยละ 80-89 คะแนนค่าเฉลี่ย 2.51 – 3.50 หมายถึง ปานกลาง = ระดับค่าเฉลี่ยร้อยละ 70 – 79 คะแนนค่าเฉลี่ย 1.51 – 2.50 หมายถึง น้อย = ระดับค่าเฉลี่ยร้อยละ 60-69 คะแนนค่าเฉลี่ย 1.00 – 1.50 หมายถึง น้อยที่สุด = ระดับค่าเฉลี่ยร้อยละ 50-59 ๙


บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ ประกอบด้วย 1. โครงการและสถานที่เข้าร่วม โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ ๓1 ชั่วโมงขึ้นไป วิชาช่างเชื่อมโลหะ ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ๒. สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้น ๒.๑ ยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) ยุทธศาสตร์ที่ ๓ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ๒.๒ นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ ข้อ ๔ การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ๔.3 พัฒนาสมรรถนะอาชีพที่สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างช่องทางอาชีพในรูปแบบ หลากหลายให้ครอบคลุมผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย ๒.๓ นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ ๓.๒ ด้านการสร้างสมรรถนะและทักษะคุณภาพ ข้อ ๒ พัฒนาหลักสูตรอาชีพระยะสั้น ที่เน้น New skill Upskill และ Reskill ที่สอดคล้องกับ บริบทพื้นที่ ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ความต้องการของตลาดแรงงาน และกลุ่มอาชีพใหม่ที่รองรับ Disruptive Technology ๓. สรุปงบประมาณในการดำเนินงาน ใช้เงินงบประมาณประจำปี 256๖ โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รหัส ๕๐๓๓ จำนวน 8,000 บาท (หนึ่งพันสามร้อยบาทถ้วน) โดยมีรายละเอียดดังนี้ - ค่าวิทยากร (1 คน × 100 บาท × 40 ชม.) 4,000 บาท - ค่าวัสดุ 4,000 บาท หมายเหตุ ทุกรายการถัวเฉลี่ยตามที่จ่ายจริง ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 8,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 100 ๔. สรุปผลการดำเนินงาน ด้านกระบวนการ 4.1 ขั้นวางแผน (Plan) 1) ประชุมวางแผนชี้แจง การปฏิบัติงาน 2) ประสานเครือข่าย/จัดหาสถานที่ 3) เตรียมสื่อเอกสารและวัสดุ ๔) จัดทำโครงการ/และขออนุมัตีโครงการ 4.2 ขั้นตอนการดำเนินการ (Do) 4.3 การประเมินผล/ติดตามผล(Check) 10


4.4 ขั้นปรับปรุงแก้ไข (Action) 1) ประชุมคณะกรรมการโครงการเพื่อสรุปผลการดำเนินโครงการ 2) นำผลการดำเนินโครงการไปปรับปรุงและพัฒนาโครงการ ๕. อภิปรายผลการดำเนินงานโครงการ ๕.1 ผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 15 คน จากกลุ่มเป้าหมาย 12 คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ แสดงว่า เป็นโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ ๓1 ชั่วโมงขึ้นไป ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ มีผลออกมา ดังนี้ ๕.2 จำนวนผู้ตอบแบบประเมินทั้งสิ้น 15 คน เป็น เพศชาย 8 คน คิดเป็นร้อยละ 53.33 เพศหญิง จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 46.67 ๕.3 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินทั้งสิ้น จำนวน 15 คน อายุ ๑๕ - ๓๐ ปี จำนวน 3 คน อายุ 31- 40 ปี จำนวน 1 คน อายุ ๔๑ - ๕๐ ปี จำนวน 4 คน และ อายุ 51 ปีขึ้นไป จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐.๐ ๕.4 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินทั้งสิ้น จำนวน 15 คน อาชีพเกษตรกรรม จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 93.33 และอาชีพอื่นๆ(ค้าขาย) จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 6.67 ๕.5 พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินทั้งสิ้น จำนวน 15 คน ประถม จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 53.33 ม.ต้น จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 6.67 และ ม.ปลาย จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 ด้านหลักสูตร พบว่า ด้านเนื้อหาหลักสูตร ค่าเฉลี่ย 4.๕๐ อยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ - เนื้อหาพอเพียงต่อความต้องการ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๕๓ - เนื้อหาปัจจุบันทันสมัย อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๓๓ - เนื้อหามีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๖๐ - เนื้อหาตรงตามความต้องการ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๕3 ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม พบว่าด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม ค่าเฉลี่ย 4.52 อยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากมาก ไปน้อย ดังนี้ - การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.5๓ - การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๖๐ - การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๔๗ - วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๕๓ - การเตรียมความพร้อมก่อนอบรม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๔๗ ด้านวิทยากร พบว่าด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ค่าเฉลี่ย 4.6๔ อยู่ในระดับมากที่สุด เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ - วิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.7๓ - วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใช้สื่อเหมาะสม อยู่ในระดับดีมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๕๓ - วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ถ่ายทอด อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๖0 ๑1


ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก พบว่าด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ค่าเฉลี่ย 4.๔๐ อยู่ในระดับมาก อยู่ในลำดับที่เท่ากันดังนี้ - สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๔๗ - การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๒๗ - การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.๔7 ๖. ผู้เข้าร่วม โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ ๓1 ชั่วโมงขึ้นไป วิชาช่างเชื่อมโลหะ มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับ ดังนี้ ระดับค่าเฉลี่ยร้อยละ ๙๐ ขึ้นไป จำนวน 15 คน โดยภาพรวม ผู้เข้าอบรมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ ๓1 ชั่วโมงขึ้นไป วิชาช่างเชื่อม โลหะ มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ย 4.51 คิดเป็นร้อยละ 90.22 ๗. ด้านผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 15 คน จากกลุ่มเป้าหมาย 12 คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ได้ประโยชน์ จากฝึกอาชีพให้ประชาชน โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน มีผู้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างคนในชุมชน สามารถทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น เด็กและเยาวชนรู้จักการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น พร้อมทั้งประชาชนรู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มีความรู้ความเข้าใจ การปฏิบัติตนถูกต้องเหมาะสม รวมทั้ง ได้รับทราบข้อมูลพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็น กระบวนการเรียนการสอน กิจกรรมและระบบต่าง ๆ ได้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความรู้ซึ่งกันและกัน และนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการศึกษาและการดำเนินชีวิต มีโอกาสได้เรียนรู้อาชีพเพื่อนำไปสร้างรายได้เสริมให้กับตนเองและครอบครัวได้ ๘. ปัญหาอุปสรรค - ๙. ข้อเสนอแนะ ต้องการให้มีการฝึกอบรมอาชีพให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ๑๐. ประโยชน์ที่สาธารณชนได้รับ ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาความรู้และสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว และสามารถนำความรู้ไปใช้สอนผู้อื่นได้ ๑๑. สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไป พัฒนาผลิตภัณฑ์ ออกแบบและต่อยอด วิชาช่างเชื่อมโลหะ ให้สามารถนำไปสร้างรายได้เสริม และเป็นที่ต้องการของผู้รับบริการได้ ๑๒. ผู้รายงาน นางสาวฤดี กิรัมย์ ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล เบอร์โทร 097-2066737 - ๑๑


ภาคผนวก


ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ หลักสูตร 40 ชั่วโมง วิชาช่างเชื่อมโลหะ ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ครู กศน.ตำบล พบปะพูดคุยกับผู้เข้าร่วมโครงการ และกล่าววัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ วิทยากรบรรยาย และสาธิต วิธีการเชื่อมโลหะ พร้อมให้ผู้เข้าร่วมโครงการฝึกปฏิบัติ


ภาพกิจกรรม โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ หลักสูตร 40 ชั่วโมง วิชาช่างเชื่อมโลหะ ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ผลงานการเชื่อมโลหะของผู้เข้าร่วมโครงการ


คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา 1. นางสาวณัฏฐณิชา อินทรโสภา ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอห้วยราช 2. นางสาวภัทรวดี รอบแคว้น ครูชำนาญการ 3. นางสาวสุรีวัลย์ ปักกังเวสัง ครู 4. นายพิฬุณ กัณหา ครูอาสาสมัครฯ 5. นายปัจจุทธรณ์ นวลอ่อนธีรโชติ ครูอาสาสมัครฯ คณะทำงาน นางสาวฤดี กิรัมย์ ครู กศน.ตำบล เรียบเรียง/จัดทำรูปเล่ม นางสาวฤดี กิรัมย์ ครู กศน.ตำบล ************************************


Click to View FlipBook Version