แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1/2566 รหัสวิชา ค33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 หน่วยการเรียนรู้ที่1 สถิติและขอมูล เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ชื่อเรื่อง การน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพ เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวนัฎชริดา รังกุพันธ์ สอนวัน พฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน 2566 เวลา 9.40น.– 10.20 น. 1. มาตรฐานการเรียนรู้/สาระ มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปญหา 2. ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ม.6/1 เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการน าเสนอข้อมูล และแปลความหมายของค่าสถิติเพื่อประกอบการ ตัดสินใจ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้(K) 1) สามารถวิเคราะห์การน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภูมิแท่งได้(K) 2) สามารถสรุปผลที่ได้จากการน าเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่งได้(K) 3.2 ปฏิบัติกิจกรรม เรื่อง แผนภูมิแท่ง (P/S) 3.3 สร้าง/ออกแบบ การน าเสนอด้วยแผนภูมิแท่ง 3.4 ใฝ่เรียนรู้มีความรับผิดชอบ มีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม (A) 4. สาระส าคัญ แผนภูมิแท่ง (bar chart) เป็นการน าเสนอข้อมูลด้วยแท่งรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากในแนวตั้งหรือแนวนอน โดยใช้ความสูงหรือความยาวของแท่งรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแต่ละรูปแสดงความถี่ของข้อมูลของแต่ละตัวแปรที่ สนใจศึกษา แผนภูมิแท่งมีได้หลายแบบ เช่น 1.1 แผนภูมิแท่งเชิงเดี่ยว (simple bar chart) เป็นแผนภูมิแท่งซึ่งมีตัวแปรที่สนใจศึกษาเพียง หนึ่งตัว โดยแสดงข้อมูลและความถี่ของข้อมูล เพื่อแสดงการเปรียบเทียบความถี่ของแต่ละข้อมูล ตัวอย่างที่ 3 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลแห่งหนึ่งได้ส ารวจหมู่เลือดในระบบ ABO ของชาวบ้านที่อาศัย อยู่ใกล้โรงพยาบาลจ านวน 30 คน ได้ผลส ารวจดังนี้ A B O AB O B AB O B A O O A B AB O B AB O B O B O O A O A O B O สามารถเขียนแผนภูมิแท่งเชิงเดี่ยว แสดงจ านวนชาวบ้านจ าแนกตามหมู่เลือดในระบบ ABO ได้ดังนี้
แผนภูมิแท่งแสดงจ านวนชาวบ้านจ าแนกตามหมู่เลือดในระบบ ABO 1.2 แผนภูมิแท่งพหุคูณ (multiple bar chart) เป็นแผนภูมิแท่งซึ่งมีตัวแปรที่สนใจศึกษาตั้งแต่2 ตัว ขึ้นไป (ในที่นี้จะศึกษาเพียง 2 ตัวเท่านั้น) โดยแสดงข้อมูลของแต่ละตัวแปรที่สนใจศึกษาบนแกนเดียวกัน และ แสดงความถี่ร่วมของข้อมูลของตัวแปรที่สนใจศึกษาด้วยแท่งรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก 1.3 แผนภูมิแท่งส่วนประกอบ (component bar chart) เป็นแผนภูมิแท่งที่แสดงจ านวนรวมและ ส่วนประกอบของจ านวนรวมนั้น โดยการแบ่งเป็นส่วนย่อย ๆ ตัวอย่างที่ 4 จากการส ารวจการใช้สื่อสังคมออนไลน์หลักของนักเรียนโรงเรียนวังน้ าเย็นวิทยาคม จ านวน 1,000 คน โดยผู้ตอบแบบส ารวจแต่ละคนสามารถเลือกสื่อสังคมออนไลน์หลักที่ตนเองใช้ได้เพียงสื่อเดียว เท่านั้น ได้ผลส ารวจดังนี้ 1) จากข้อมูลที่ก าหนดให้ จะได้แผนภูมิแท่งพหุคูณแสดงจ านวนนักเรียนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลักดังนี้
2) จากข้อมูลที่ก าหนดให้ จะได้แผนภูมิส่วนประกอบ แสดงจ านวนนักเรียนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลัก ดังนี้ 5. สาระการเรียนรู้ -วิเคราะห์และสรุปผลที่ได้จากการน าเสนอข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง 6. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 6.1 สมรรถนะส าคัญของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ให้ผู้สอนเลือกใช้ตามความเหมาะสม 6.2 สมรรถนะหลักตามกรอบหลักสูตรฐานสมรรถนะ (ฉบับร่าง) 1. การคิดขั้นสูง 2. การสื่อสาร 3. การรวมพลังท างานเป็นทีม 4. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และวิทยาการอย่างยั่งยืน 7. ทักษะในศตวรรษที่ 21 (3R 8C) 3R อ่านออก เขียนได้ คิดเลขได้ 8C ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ปัญหา , ทักษะความเข้าใจต่าง วัฒนธรรม, ทักษะความร่วมมือ , ทักษะด้านการสื่อสาร ,ทักษะคอมพิวเตอร์ , ทักษะอาชีพและทักษะการ เรียนรู้)
3 R 1. ทักษะการอ่าน (Reading) 2. ทักษะการ เขียน (Writing) 3. ทักษะการ คิดค านวณ (Arithmetic) 7 C 7.1 ทักษะทางอารมณ์ 1. ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving) 2. ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation) 3. ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และภาวะผู้น า (Collaboration , teamwork and leadership) 4. ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) 5. ทักษะด้าน การสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ (Communication information and media literacy) 6. ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing) 7. ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) 7.2 ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ (Life skills and career) 1. ความยืดหยุ่นและการปรับตัว 2. การริเริ่มสร้างสรรค์และการเป็นตัวของตัวเอง 3. ทักษะสังคม และสังคมข้ามวัฒนธรรม 4. การเป็นผู้สร้างหรือผู้ผลิต และความรับผิดชอบเชื่อถือได้ 5. ภาวะผู้น าและความรับผิดชอบ 7.3 คุณลักษณะส าหรับศตวรรษที่ 21 (Features in the 21st century) 1. คุณลักษณะด้านการท างาน ได้แก่ การปรับตัว คิดสร้างสรรค์ ความเป็นผู้น า 2. คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้น าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง 3. คุณลักษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ขยัน บริการสังคม 8. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attribute) ใฝ่เรียนรู้มีความรับผิดชอบ มีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม 9. กระบวนการจัดการเรียนรู้(โดยใช้รูปแบบ 5 Steps ) ขั้นที่ 1 การตั้งค าถาม ( Learning to Question ) 1. ครูชี้แจง แจ้งข้อปฏิบัติของห้องเรียนและขั้นตอนกระบวนการเรียนรู้และการวัดประเมินผล 2. ครูใช้ค าถามทบทวนความรู้เดิมนักเรียนเกี่ยวกับการน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพ ดังนี้
- เราสามารถน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพได้ด้วยวิธีใดบ้าง ? (น าเสนอโดยใช้ตารางแจกแจงความถี่ แผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิวงกลม และแผนภูมิแท่ง) 3. ครูตั้งค าถามเพื่อเป็นการกระตุ้นคิดในเนื้อหาที่จะเรียนในชั่วโมง ดังนี้ - นักเรียนทราบหรือไม่ว่าแผนภูมิแท่งมีกี่ชนิด อะไรบ้าง ? 4. ครูน าเสนอสไลด์จากสื่อการสอน PowerPiont ภาพนิ่งที่ 1 - ภาพนิ่งที่ 4 ภาพนิ่งที่ 1 ภาพนิ่งที่ 2 ภาพนิ่งที่ 3 ภาพนิ่งที่ 4 5. ครูอธิบายลักษณะของแผนภูมิแท่งเชิงเดี่ยว ว่า แผนภูมิแท่งเชิงเดี่ยว (simple bar chart) เป็นแผนภูมิแท่ง ซึ่งมีตัวแปรที่สนใจศึกษาเพียงหนึ่งตัว โดยแสดงข้อมูลและความถี่ของข้อมูล เพื่อแสดงการเปรียบเทียบความถี่ ของแต่ละข้อมูล พร้อมน าเสนอสไลด์จากสื่อการสอน PowerPiont ภาพนิ่งที่ 5 ภาพนิ่งที่ 5
6. ครูน าเสนอภาพนิ่งที่ 5 และครูใช้ค าถามดังนี้ - แผนภูมิแท่งดังกล่าวน าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งใด ? (แสดงผลผลิตเกษตรของชาวต าบลศรีแก้ว) - จากแผนภูมิดังกล่าว ตัวแปรที่สนใจศึกษา คือ ? (ประเภทของผลผลิต ได้แก่ ข้าว อ้อย มัน ส าปะหลัง และฟักทอง) 7.ครูน าเสนอภาพนิ่งที่ 6 ครูอธิบายลักษณะของแผนภูมิแท่งเชิงซ้อนหรือ แผนภูมิแท่งพหุคูณ (multiple bar chart) เป็นแผนภูมิแท่งซึ่งมีตัวแปรที่สนใจศึกษาตั้งแต่2 ตัวขึ้นไป (ในที่นี้จะศึกษาเพียง 2 ตัวเท่านั้น) โดย แสดงข้อมูลของแต่ละตัวแปรที่สนใจศึกษาบนแกนเดียวกัน และแสดงความถี่ร่วมของข้อมูลของตัวแปรที่สนใจ ศึกษาด้วยแท่งรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ภาพนิ่งที่ 6 8. จากภาพนิ่งที่ 6 และครูใช้ค าถามดังนี้ - แผนภูมิแท่งดังกล่าวน าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งใด ? (น าเสนอจ านวนเหรียญรางวัลการแข่งขัน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ พ.ศ.2532-2547 ) - จากแผนภูมิดังกล่าว ตัวแปรที่สนใจศึกษามีกี่ตัว อะไรบ้าง ? (มี 2 ตัวแปร คือ วิชาที่แข่งขัน และ ประเภทของเหรียญ) 9.ครูน าเสนอภาพนิ่งที่ 7 ครูอธิบายลักษณะของแผนภูมิแท่งส่วนประกอบ (component bar chart) เป็น แผนภูมิแท่งที่แสดงจ านวนรวมและส่วนประกอบของจ านวนรวมนั้น โดยการแบ่งเป็นส่วนย่อย ๆ ภาพนิ่งที่ 7
8. จากภาพนิ่งที่ 7 และครูใช้ค าถามดังนี้ - แผนภูมิแท่งดังกล่าวน าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งใด ? (น าเสนอจ านวนผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์) - จากแผนภูมิดังกล่าว ตัวแปรที่สนใจศึกษามีกี่ตัว อะไรบ้าง ? (มี 2 ตัวแปร คือ ชนิดของสื่อสังคม ออนไลน์ และ เพศ) ขั้นที่ 2 การสืบค้นความรู้และสารสนเทศ ( Learning to Search ) 9.ครูยกตัวอย่างที่3 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลแห่งหนึ่งได้ส ารวจหมู่เลือดในระบบ ABO ของชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ใกล้โรงพยาบาลจ านวน 30 คน ได้ผลส ารวจดังนี้ A B O AB O B AB O B A O O A B AB O B AB O B O B O O A O A O B O 10. ให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เสนอแนวคิดในการน าเสนอข้อมูลว่านักเรียน จะน าเสนอข้อมูลโดยใช้ แผนภูมิแท่งอย่างไร 11. ครูสุ่มให้นักเรียนออกมาน าเสนอหน้าชั้นเรียน 12. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยให้ได้ ว่าแผนภูมิแท่งแสดงจ านวนชาวบ้านจ าแนกตามหมู่เลือดในระบบ ABO ขั้นที่ 3 การสร้างองค์ความรู้ ( Learning to Construct ) 13.ครูให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ที่ 2.2 เรื่อง การน าเสนอข้อมูลคุณภาพ 14. ครูน าเสนอสื่อการสอน PowerPiont ภาพนิ่งที่ 8 และใช้ค าถามเป็นการกระตุ้นคิด เพื่อให้นักเรียน สามารถวิเคราะห์และสรุปผลการน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภูมิแท่ง ภาพนิ่งที่ 8
15. จากภาพนิ่งที่ 8 ครูใช้ค าถามเป็นการกระตุ้นคิด เพื่อให้นักเรียนสามารถวิเคราะห์และสรุปผลการ น าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภูมิแท่ง ดังนี้ - นักเรียนชั้นใดมีจ านวนมากที่สุด ? (ชั้น ม.1) - นักเรียนชั้นใดมีนักเรียนหญิงมากที่สุด และมีจ านวนเท่าใด ? (ชั้น ม.3 มีจ านวน 62 คน) -ชั้น ม.3 มีนักเรียนชายคิดเป็นร้อยละเท่าไร ของนักเรียนทั้งหมด ? (ชั้น ม.3 มีนักเรียนชายจ านวน 15 คน จากมีนักเรียนทั้งหมด 224 คน ดังนั้น คิดเป็นร้อยละ 100 6.70 224 15 ของนักเรียนทั้งหมด ) 16. ครูให้นักเรียนท าแบบฝึกทักษะที่ 2.2 ข้อ 2 และข้อ3 ขั้นที่ 4 สื่อสารและน าเสนออย่างมีประสิทธิภาพ ( Learning to Communicate ) 17. ครูสุ่มเลือกนักเรียนออกมาน าเสนอแนวคิดของตนหน้าชั้นเรียน 18. ให้นักเรียนทั้งชั้นร่วมกันอภิปราย ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของค าตอบ และการให้เหตุผล แนวความคิดวิธีการแก้ปัญหา ซักถามหากเกิดข้อสงสัยในการน าเสนอแนวคิด ขั้นที่ 5 การบริการสังคมและจิตสาธารณะ ( Learning to Serve ) 19. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปหัวข้อเรื่องการน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภูมิแท่ง หาก นักเรียนคนไหนไม่เข้าใจ ครูอธิบายเพิ่มเติมหรือให้เพื่อนนักเรียนที่เข้าใจช่วยอธิบาย 10. สื่อ/วัสดุ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้(Media / Materials / Equipment / Learning Resources) 10.1 ใบความรู้ที่ 2.2 เรื่อง การน าเสนอข้อมูลคุณภาพ 10.2 แบบฝึกทักษะที่2.2 เรื่อง การน าเสนอข้อมูลคุณภาพ 10.3 สื่อการสอน PowerPiont เรื่อง การน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ 11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ สิ่งที่จะวัดตามจุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือที่ใช้วัด เกณฑ์ผ่าน 1) สามารถวิเคราะห์การน าเสนอข้อมูลเชิง คุณภาพด้วยแผนภูมิแท่งได้(K) 2) สามารถสรุปผลที่ได้จากการน าเสนอ ข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่งได้(K) การตอบค าถาม ตรวจการแสดงแนวคิด ของค าตอบ - แบบฝึกทักษะที่2.2 ได้ระดับดีขึ้นไป
2) ปฏิบัติกิจกรรม แบบฝึกทักษะที่2.2 (P/S) ตรวจการแสดงแนวคิด ของค าตอบ -แบบฝึกทักษะที่2.2 ได้ระดับดีขึ้นไป 3) สร้าง/ออกแบบ การน าเสนอด้วย แผนภูมิแท่ง ประเมินผลงาน แบบประเมินผลงาน ได้ระดับดีขึ้นไป 4) ใฝ่เรียนรู้ มีความรับผิดชอบ มีส่วนร่วม ในการปฏิบัติกิจกรรม. (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ได้ระดับดีขึ้นไป 12. บูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 12.1การน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ หลักพอเพียง ประเด็น ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี เนื้อหา ก าหนดเนื้อหาได้สอดคล้องกับ มาตรฐานตัวชี้วัดและเหมาะสมกับ เวลา วัย และความสามารถของ ผู้เรียน นักเรียนได้เรียนรู้ตรงตาม มาตรฐานและตัวชี้วัด ครบถ้วน กระบวนการ บรรลุตาม เป้าหมาย การศึกษา -ล าดับเนื้อหาจากง่ายไป หายาก เพื่อให้นักเรียน เข้าใจง่าย -เตรียมเนื้อหาในการ จัดการเรียนรู้ให้ ครอบคลุมตามมาตรฐาน และตัวชี้วัดตรงตาม หลักสูตร -นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ผ่านเกณฑ์ เวลา ก าหนดเวลาได้เหมาะสมกับเนื้อหา และกิจกรรมการเรียนรู้ -เพื่อให้การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ได้ครบถ้วน ตามที่ก าหนด ตรงตาม โครงสร้างหลักสูตร -ส่งเสริมให้นักเรียนท า กิจกรรมอย่างมี ประสิทธิภาพ -มีการจัดสรรเวลาเพิ่ม ส าหรับ นักเรียนที่ไม่ สามารถปฏิบัติกิจกรรม ได้ตามขั้นตอน เช่น การสอนซ่อมเสริม วิธีการจัด กิจกรรม ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ได้ อย่าง เหมาะสมส าหรับนักเรียน -เพื่อให้นักเรียนมี คุณภาพตามมาตรฐาน และตัวชี้วัด เพื่อให้มี แนวทางเทคนิค และ -มีแนวทางการพัฒนา ปรับปรุงวิธีสอนในครั้ง ต่อไป
กระบวนการจัดการ เรียนรู้ที่เหมาะสมกับ นักเรียน แหล่งเรียนรู้ เลือกแหล่งเรียนรู้ได้เหมาะสมกับ กิจกรรม การจัดการเรียนรู้ เนื้อหา และความสนใจของผู้เรียน -ส่งเสริมการใช้แหล่ง เรียนรู้ในโรงเรียนและ นอกโรงเรียน -เสริมสร้างให้นักเรียน เข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น -มีความพร้อมในการ จัดการเรียนรู้และเป็นไป ตามแผน -ประหยัดเวลาและ ระยะทางในการเรียนรู้ สื่ออุปกรณ์/ -เลือกสื่อที่เหมาะกับเนื้อหา กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ และ ความสนใจของผู้เรียน -ครูเตรียมสื่อให้เพียงพอกับจ านวน นักเรียน -เพื่อกระตุ้นความสนใจ ของนักเรียน -เสริมสร้างให้นักเรียน เข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้น -เตรียมสื่ออุปกรณ์ได้/ เหมาะสมกับผู้เรียน -ลดภาระการอธิบายของ ครู -เพิ่มความรู้ความเข้าใจที่ เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ประเมินผล -ออกแบบการวัดและประเมินผลได้ เหมาะสมกับมาตรฐานและตัวชี้วัด -เพื่อประเมินนักเรียนตรง ตามสภาพจริงหรือ เป้าหมายที่ต้องการ เรียนรู้ -ศึกษาและสร้างเครื่องมือ วัดผลให้ตรงตามตัวชี้วัด และผ่านการตรวจสอบ คุณภาพ ความรู้ที่ครู จ าเป็นต้องมี ครูมีความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานและตัวชี้วัด เทคนิคและกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ หลากหลาย คุณธรรม ของครู มีความรักเมตตาต่อศิษย์ มีความรับผิดชอบ มีความยุติธรรม และความอดทน 12.2 ผู้เรียนได้เรียนรู้หลักคิดและฝึกปฏิบัติตามหลัก 3 ห่วง 2 เงื่อนไข เกิดคุณลักษณะ อยู่อย่าง“ ”พอเพียง หลักพอเพียง ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี -นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม ได้เหมาะสมกับสภาพ ความเป็นจริงและความ ถนัดของตนเอง -นักเรียนรู้จักใช้เหตุผลใน การเรียน เรื่อง สถิติและ ข้อมูล - นักเรียนมีการวางแผน ในการท างานที่ดีและมี ความละเอียดรอบคอบ ความรู้ที่นักเรียน จ าเป็นต้องมี นักเรียนมีความรู้เรื่องการการวางแผนการท างาน วิธีการท างานร่วมกับผู้อื่นและ นักเรียนสามารถเห็นถึงความส าคัญของการศึกษา เรื่องสถิติและข้อมูล คุณธรรมของนักเรียน นักเรียนมีความรับผิดชอบ มีความตั้งใจ ใฝ่เรียนรู้ ความมีระเบียบวินัย มีความ มุ่งมั่นในการท างานและความสามัคคี
12.3 ประเมินผลลัพธ์ )K P A) ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจ พอเพียง พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงใน 4 มิติ ด้าน องค์ประกอบ สมดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ วัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ มีความรู้ในการ เลือกใช้สื่อในการ ค้นคว้าหาข้อมูล ได้เหมาะสม มีความรู้ในการ วางแผนและการ ท างานร่วมกันเป็น กลุ่ม รู้จักประยุกต์ บทเรียนกับบริบท ของโรงเรียนคือมี ทักษะชีวิตเป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ในการกปฏิบัติตนตามหลัก ประชาธิปไตยให้ความเคารพ ในการ ตัดสินใจร่วมกันใน การท างาน ทักษะ มีทักษะในการ เลือกใช้สื่อได้ อย่าง ถูกต้องและ เหมาะสม -มีทักษะในการท างาน ร่วมกับผู้อื่น -มีทักษะในการ น าเสนอและ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีทักษะในการ ประยุกต์บทเรียน กับสิ่งแวดล้อม มีทักษะในการปฏิบัติตนตาม หลักประชาธิปไตยให้ความ เคารพในการ ตัดสินใจ ร่วมกันในการท างาน ค่านิยม มีความตระหนัก ในการเลือกใช้สื่อ ได้ถูกต้องและ เหมาะสม -ตระหนักถึงความ รับผิดชอบต่อหน้าที่ การท างานในกลุ่ม -ยอมรับความคิดเห็น ซึ่งกันและกัน -มีความมุ่งมั่นในการ ท างาน ตระหนักถึง ความส าคัญในการ ประยุกต์บทเรียน กับ สิ่งแวดล้อม เกิดค่านิยมที่ดีในการปฏิบัติ ตนตามหลักประชาธิปไตยให้ ความเคารพในการตัดสินใจ ร่วมกันในการท างาน 13. ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) …………………………………………………………………………………………………………………………………..…………….……….. …………………………………………………………………………………………………………………………………..…………….……….. …………………………………………………………………………………………………………………………………..…………….……….. ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ .................................................................................................................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ ........................................................... (................................................) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้.........................................................
บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 1.ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.สมรรถนะที่เกิดกับผู้เรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4.จุดเด่น-จุดที่ควรพัฒนาของการจัดกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5.ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ................................................ (นางสาวนัฎชริดา รังกุพันธ์) ผู้จัดการเรียนรู้
ความคิดเห็นของผู้อ านวยการโรงเรียนมัญจาศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย ....................................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ........................................................... (....................................................) ต าแหน่ง ....................................
รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค 33101 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 ใบความรู้ รหัสใบความรู้ที่ 2.2 ใช้ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ….. โดย ครูนัฎชริดา รังกุพันธ์ หัวข้อนี้จะทบทวนเกี่ยวกับ แผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิรูปวงกลม และแผนภูมิแท่ง 1. แผนภูมิรูปภาพ (pictogram) เป็นการน าเสนอข้อมูลโดยใช้รูปภาพหรือสัญลักษณ์แสดงความถี่ ของ แต่ละข้อมูล ซึ่งจะต้องก าหนดในแผนภูมิว่ารูปภาพหรือสัญลักษณ์หนึ่งรูปนั้นแทนความถี่เท่าใด ตัวอย่างที่ 1 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลแห่งหนึ่งได้ส ารวจหมู่เลือดในระบบ ABO ของชาวบ้านที่อาศัย อยู่ใกล้โรงพยาบาลจ านวน 30 คน ได้ผลส ารวจดังนี้ A B O AB O B AB O B A O O A B AB O B AB O B O B O O A O A O B O สามารถเขียนแผนภูมิรูปภาพแสดงจ านวนชาวบ้านจ าแนกตามหมู่เลือดในระบบ ABO ได้ดังนี้ จากข้อมูลที่ก าหนดให้ จะได้ว่า เลือดหมู่ A มีความถี่เป็น 5 เลือดหมู่ B มีความถี่เป็น 8 เลือดหมู่ AB มีความถี่เป็น 4 เลือดหมู่ O มีความถี่เป็น 13 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การวิเคราะห์และน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพ ค าชี้แจง เอกสารประกอบการเรียนที่ 2.2 การวิเคราะห์และน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ ตัวชี้วัด เข้าใจและใช้ความรู้ทางสถิติในการน าเสนอข้อมูล และแปลความหมายของค่าสถิติเพื่อประกอบการ ตัดสินใจ (ค3.1 ม.6/1) สาระการเรียนรู้แกนกลาง • ค่ากลาง (ฐานนิยม) • การน าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพ น าเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ เขียนแผนภูมิรูปภาพได้ดังนี้
2. แผนภูมิรูปวงกลม (pie chart or circular chart) เป็นการน าเสนอข้อมูลโดยใช้พื้นที่ภายในของ รูป วงกลมแทนความถี่ของข้อมูลทั้งหมด และแสดงสัดส่วนของความถี่ของแต่ละข้อมูลด้วยพื้นที่แต่ละส่วนภายใน รูปวงกลมซึ่งแบ่งด้วยรัศมี โดยสัดส่วนของความถี่ของแต่ละข้อมูลเท่ากับสัดส่วนของขนาดของมุมที่จุด ศูนย์กลางของรูปวงกลม โดยทั่วไปจะแสดงสัดส่วนของความถี่ของข้อมูลด้วยความถี่สัมพัทธ์ในรูปร้อยละ ตัวอย่างที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลแห่งหนึ่งได้ส ารวจหมู่เลือดในระบบ ABO ของชาวบ้านที่อาศัย อยู่ใกล้โรงพยาบาลจ านวน 30 คน ได้ผลส ารวจดังนี้ A B O AB O B AB O B A O O A B AB O B AB O B O B O O A O A O B O สามารถเขียนแผนภูมิรูปวงกลมแสดงจ านวนชาวบ้านจ าแนกตามหมู่เลือดในระบบ ABO ได้ดังนี้ จากข้อมูลที่ก าหนดให้ จะได้ว่า หมู่เลือด ความถี่ ร้อยละความถี่สัมพัทธ์ ขนาดของมุมที่จุดศูนย์กลางของรูป วงกลม A 5 100 16.67 30 5 360 60 30 5 B 8 100 26.67 30 8 360 96 30 8 AB 4 100 13.33 30 4 360 48 30 4 O 13 100 43.33 30 13 360 156 30 13 รวม 30 100 360 โดยทั่วไปไม่นิยมเขียนมุมที่จุดศูนย์กลางของรูปวงกลมก ากับไว้ในแผนภูมิรูปวงกลม แต่จะเขียน ความถี่ หรือความถี่สัมพัทธ์ในรูปร้อยละก ากับไว้ในแต่ละส่วน ดังนี้ แผนภูมิวงกลมแสดงจ านวนชาวบ้าน แผนภูมิวงกลมแสดงจ านวนชาวบ้าน จ าแนกตามหมู่เลือดในระบบ ABO จ าแนกตามหมู่เลือดในระบบ ABO หรือ
3. แผนภูมิแท่ง (bar chart) เป็นการน าเสนอข้อมูลด้วยแท่งรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากในแนวตั้งหรือ แนวนอนโดยใช้ความสูงหรือความยาวของแท่งรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากแต่ละรูปแสดงความถี่ของข้อมูลของแต่ละตัว แปรที่สนใจศึกษา แผนภูมิแท่งมีได้หลายแบบ เช่น 3.1 แผนภูมิแท่งเชิงเดี่ยว (simple bar chart) เป็นแผนภูมิแท่งซึ่งมีตัวแปรที่สนใจศึกษา เพียง หนึ่งตัว โดยแสดงข้อมูลและความถี่ของข้อมูล เพื่อแสดงการเปรียบเทียบความถี่ของแต่ละข้อมูล ตัวอย่างที่ 3 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลแห่งหนึ่งได้ส ารวจหมู่เลือดในระบบ ABO ของชาวบ้านที่อาศัย อยู่ใกล้โรงพยาบาลจ านวน 30 คน ได้ผลส ารวจดังนี้ A B O AB O B AB O B A O O A B AB O B AB O B O B O O A O A O B O สามารถเขียนแผนภูมิแท่งเชิงเดี่ยว แสดงจ านวนชาวบ้านจ าแนกตามหมู่เลือดในระบบ ABO ได้ดังนี้ แผนภูมิแท่งแสดงจ านวนชาวบ้านจ าแนกตามหมู่เลือดในระบบ ABO 3.2 แผนภูมิแท่งพหุคูณ (multiple bar chart) เป็นแผนภูมิแท่งซึ่งมีตัวแปรที่สนใจศึกษาตั้งแต่2 ตัวขึ้นไป (ในที่นี้จะศึกษาเพียง 2 ตัวเท่านั้น) โดยแสดงข้อมูลของแต่ละตัวแปรที่สนใจศึกษาบนแกนเดียวกัน และแสดงความถี่ร่วมของข้อมูลของตัวแปรที่สนใจศึกษาด้วยแท่งรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก 3.3 แผนภูมิแท่งส่วนประกอบ (component bar chart) เป็นแผนภูมิแท่งที่แสดงจ านวนรวมและ ส่วนประกอบของจ านวนรวมนั้น โดยการแบ่งเป็นส่วนย่อย ๆ
ตัวอย่างที่ 4 จากการส ารวจการใช้สื่อสังคมออนไลน์หลักของนักเรียนโรงเรียนวังน้ าเย็นวิทยาคม จ านวน 1,000 คน โดยผู้ตอบแบบส ารวจแต่ละคนสามารถเลือกสื่อสังคมออนไลน์หลักที่ตนเองใช้ได้เพียงสื่อเดียว เท่านั้น ได้ผลส ารวจดังนี้ 1) จากข้อมูลที่ก าหนดให้ จะได้แผนภูมิแท่งพหุคูณแสดงจ านวนนักเรียนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลักดังนี้ 2) จากข้อมูลที่ก าหนดให้ จะได้แผนภูมิส่วนประกอบ แสดงจ านวนนักเรียนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลักดังนี้
ค าชี้แจง ให้นักเรียนตอบค าถาม 1. จากการส ารวจการใช้สื่อสังคมออนไลน์หลักของนักเรียน โรงเรียนวังน้ าเย็นวิทยาคม โดยผู้ตอบแบบส ารวจแต่ละคนสามารถ เลือกสื่อสังคมออนไลน์หลักที่ตนเองใช้ได้เพียงสื่อเดียวเท่านั้น ได้ผลส ารวจดังแผนภูมิรูปวงกลมดังนี้ 1.1) จงสรุปเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์หลักของนักเรียน ที่ตอบแบบส ารวจนี้ ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2) ถ้ามีนักเรียนตอบแบบส ารวจทั้งหมด 2,000 คน จงหาว่ามีนักเรียนตอบแบบส ารวจเลือกใช้ Facebook, Instagram, Twitter, Line และอื่น ๆ เป็นสื่อสังคมออนไลน์หลักอย่างละกี่คน ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3) จ านวนนักเรียนที่ตอบแบบส ารวจที่ใช้ Facebook เป็นสื่อสังคมออนไลน์หลักคิดเป็นประมาณกี่เท่าของ จ านวนนักเรียนที่ใช้ Twitter เป็นสื่อสังคมออนไลน์หลัก ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค 33101 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 แบบฝึกทักษะ รหัสแบบฝึกทักษะที่ 2.2 ใช้ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ … โดย ครูนัฎชริดา รังกุพันธ์
2. จากการส ารวจประเภทเครื่องดื่มที่ลูกค้าชื่นชอบมากที่สุด โดยมีผู้ตอบแบบส ารวจจ านวน 400 คน ซึ่งเป็น ลูกค้าของร้าน A, B, C และ D ร้านใดร้านหนึ่งเพียงร้านเดียว ได้ผลส ารวจดังแผนภูมิแท่งพหุคูณต่อไปนี้ 2.1)ถ้ามีผู้ตอบแบบส ารวจเป็นลูกค้าของแต่ละร้านจ านวนเท่ากัน จงหาว่ามีลูกค้าที่ชื่นชอบชานมไข่มุกมาก ที่สุดกี่คน(ให้นักเรียนแสดงแนวคิด) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2) ถ้ามีผู้ตอบแบบส ารวจเป็นลูกค้าของแต่ละร้านจ านวนเท่ากัน จงหาว่ามีลูกค้าที่ชื่นชอบนมสดไข่มุกมาก ที่สุดกี่คน และคิดเป็นร้อยละเท่าใดของผู้ตอบแบบส ารวจทั้งหมด(ให้นักเรียนแสดงแนวคิด) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3) ถ้ามีลูกค้าที่ตอบแบบส ารวจจากร้าน A จ านวน 80 คน จากร้าน B จ านวน 100 คน และจากร้าน C จ านวน 120 คน จงเรียงล าดับประเภทของเครื่องดื่มที่ลูกค้าชื่นชอบมากที่สุดจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด (ให้นักเรียนแสดงแนวคิด) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากการส ารวจความต้องการเรียนเพิ่มเติมของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนวังน้ าเย็น วิทยาคม จ านวน 138 คน จาก 4 ห้องเรียน โดยให้เลือกวิชาที่ต้องการเรียนเพิ่มเติมเพียงวิชาเดียวจากจ านวน 3 รายวิชา คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ได้ผลส ารวจดังแผนภูมิแท่งพหุคูณต่อไปนี้ ร้อยละของนักเรียนที่ต้องการเรียนเพิ่มเติมในแต่ละรายวิชา 3.1) จงพิจารณาว่าโรงเรียนควรจะเปิดสอนเพิ่มเติมในรายวิชาใดให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จึงจะ สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนของ 4 ห้องเรียนนี้มากที่สุด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.2) ถ้าห้อง ม.6/4 มีนักเรียน 35 คน ม.6/5 ม.6/6 และ ม.6/7 มีนักเรียน 34 คน จงหานักเรียนที่ส ารวจ มีความ ต้องการเรียนเพิ่มเติมวิชาคณิตศาสตร์มากหรือน้อยกว่านักเรียนที่ต้องการเรียนวิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษ รวมกัน และคิดเป็นจ านวนกี่คน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค 33101 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 สื่อการสอน Microsoft PowerPoint ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การน าเสนอข้อมูลเชิง คุณภาพด้วยแผนภาพ โดย นางสาวนัฎชริดา รังกุพันธ์ ภาพนิ่งที่ 1 ภาพนิ่งที่ 2 ภาพนิ่งที่ 3 ภาพนิ่งที่ 4 ภาพนิ่งที่ 5 ภาพนิ่งที่ 6
ภาพนิ่งที่ 7 ภาพนิ่งที่ 8
ภาพการจัดการเรียนรู้