The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิจัยในชั้นเรียน CBL 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chalikae, 2023-09-11 05:24:30

วิจัยในชั้นเรียน CBL 2565

วิจัยในชั้นเรียน CBL 2565

44 ตารางที่ 1 แสดงคะแนนจากแบบทดสอบอัตนัย วงจรที่ 1 หลังจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้ การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมี เลขที่ คะแนนทดสอบ วงจรที่ 1 (20 คะแนน) คิดเป็นร้อยละ เกณฑ์ร้อยละ 70 1 12 60.00 ไม่ผ่าน 2 14 70.00 ผ่าน 3 14 70.00 ผ่าน 4 14 70.00 ผ่าน 5 12 60.00 ไม่ผ่าน 6 12 60.00 ไม่ผ่าน 7 12 60.00 ไม่ผ่าน 8 16 80.00 ผ่าน 9 14 70.00 ผ่าน 10 18 90.00 ผ่าน 11 16 80.00 ผ่าน 12 16 80.00 ผ่าน 13 16 80.00 ผ่าน 14 18 90.00 ผ่าน 15 16 80.00 ผ่าน 16 14 70.00 ผ่าน 17 18 90.00 ผ่าน 18 12 60.00 ไม่ผ่าน 19 18 90.00 ผ่าน 20 18 90.00 ผ่าน รวม 300 ร้อยละ 60.00 ค่าเฉลี่ย 15.00 S.D. 2.29 จากตารางที่ 1 พบว่า คะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 1 ข้อ หลังจากการ จัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมีจากคะแนนเต็ม 20 มี


45 ค่าเฉลี่ย 15.00 คิดเป็นร้อยละ 60 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.29 และมีจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ 70 จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 75 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 4. การสะท้อนผล จากผลการจัดการเรียนรู้ พบว่าวิธีการสอนมีความเหมาะสมน่าสนใจ เพราะทำให้นักเรียน ได้รับความสนุกสนานและความรู้จากประสบการณ์ตรง เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ นักเรียนให้ความร่วมมือในการจัด กิจกรรมเป็นอย่างดี แต่ยังมีนักเรียนจำนวน 5 คน ที่มีคะแนนทำแบบทดสอบเพื่อวัดทักษะด้านการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ ไม่ผ่านเกณฑ์ เนื่องจากนักเรียนบางคนให้ความสนใจในตอนต้นชั่วโมง แต่ตอนเข้ากิจกรรมกลุ่มเริ่มมี การพูดคุยและเล่นกันบ้าง ดังนั้น ผู้สอนควรหาแนวทางในการแก้ไข ดังนี้ 4.1 ผู้สอนอาจต้องเพิ่มความเข้มงวดกับนักเรียนบางคนให้มากขึ้น 4.2 ครูผู้สอนต้องพยายามกระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันระดมความคิดในขณะทำงานกลุ่มให้ มากขึ้น วงจรที่ 2 1. การวางแผน จากการปฏิบัติการในวงจรที่ 1 ผู้วิจัยได้นำผลจากการวิจัยหารือกับผู้เข้าร่วม PLC เพื่อปรับปรุง แก้ไขแผนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว เพื่อนำมาใช้จัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนทั้ง 5 คนที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากมี ปัญหาในเรื่องของฉันทลักษณ์และบางคนที่ไม่ตั้งใจเรียนมีการพูดคุยระหว่างเรียน ซึ่งผู้วิจัยได้หาแนวทางในการแก้ไข โดยการปรับเพิ่มกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้มากขึ้น ได้แก่ 1.1 การเพิ่มเวลาในการแต่คำประพันธ์ให้มากขึ้น 1.2 การมีส่วนร่วมของครูโดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือและดูแลนักเรียนในการทำ กิจกรรมมากขึ้น 2. การปฏิบัติ ผู้วิจัยนำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับ กิจกรรมผะหมีเพื่อพัฒนาทักษะด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ที่ได้ปรับปรุงแล้วไปปฏิบัติการสอนในชั้น เรียนจริง โดยมี 5 ขั้นตอน ดังนี้1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ 2) ขั้นตั้งปัญหาและแบ่งกลุ่ม 3) ข้นการค้นและคิด 4) ขั้น นำเสนอ และ 5) ขั้นประเมินผล 3. การสังเกต จากคะแนนแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 1 ข้อ หลังจากการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การจัดการ เรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมีในวงจรที่ 1 ผู้วิจัยจึงได้นำแผนการจัดการเรียนรู้ มาทำ การจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนกลุ่มที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ทั้ง 5 คน อีกครั้ง จากนั้นจึงได้นำแบบทดสอบวัดทักษะด้าน การแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์เดิมมาทำการทดสอบ ผลดังตารางที่ 2


46 ตารางที่ 2 แสดงคะแนนทดสอบอัตนัย วงจรที่2 หลังจากเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ สร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมี เลขที่ คะแนนทดสอบ วงจรที่ 2 (20 คะแนน) คิดเป็นร้อยละ เกณฑ์ร้อยละ 70 1 18 90.00 ผ่าน 5 18 90.00 ผ่าน 6 18 90.00 ผ่าน 7 18 90.00 ผ่าน 18 18 90.00 ผ่าน รวม 90 ร้อยละ 4.50 ค่าเฉลี่ย 18.00 S.D. 0.50 จากตารางที่ 2 พบว่า คะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 1 ข้อ หลังจากการ จัดการเรียนรู้ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมี ของนักเรียน 5 คน ที่ไม่ ผ่านเกณฑ์ในการทดสอบครั้งแรก จากคะแนนเต็ม 20 มีค่าเฉลี่ย 18.00 คิดเป็นร้อยละ 4.50 ค่าส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน 0.05 และมีจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ 70 จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ของจำนวนนักเรียน ทั้งหมด 4. การสะท้อนผล ผลการจัดการเรียนรู้ที่ได้จากการปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ พบว่าเนื้อหามีความเหมาะสม น่าสนใจมากขึ้น มีการปรับกิจกรรมเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนให้มีความน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มเวลาในการให้ นักเรียนทำกิจกรรม นักเรียนได้รับความสนุกสนานและมีความตั้งใจในการทำกิจกรรมและเรียนมากขึ้น มีการพูดคุย และเล่นระหว่างเรียนน้อยลง ซึ่งสรุปสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไข ดังนี้ 4.1 อาจจัดกิจกรรมที่เสริมแรงให้นักเรียนมากขึ้น เช่น การยกย่อง การให้รางวัล 4.2 ผู้สอนอาจต้องเพิ่มการควบคุมชั้นเรียน


47 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ การวิจัย เรื่อง การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาทักษะด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ โดยใช้การ จัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียน มัธยมหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ผู้วิจัยได้นำเสนอตามลำดับ ดังนี้ 1. สรุปผล 2. อภิปรายผล 3. ข้อเสนอแนะ 1. สรุปผล วงจรที่ 1 1. การวางแผน ผู้วิจัยได้ศึกษาปัญหาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนมัธยมหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อำเภอ ด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา พบว่า นักเรียนความรู้และความเข้าใจในฉันทลักษณ์ของกาพย์ยานี 11 นักเรียนไม่ สามารถเขียนคำคล้องจองต่อได้ เนื่องจากมีคลังคำศัพท์น้อย และนักเรียนขาดกำลังใจในการเรียน คิดว่าตนเองไม่มี ความสามารถเพียงพอ และคิดว่าการแต่งบทร้อยกรองกาพย์ยานี 11 เป็นเรื่องยากไม่สามารถทำได้ จึงเป็นสาเหตุที่ ทำให้นักเรียนไม่ชอบการแต่งคำประพันธ์และคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย ไม่สนุกสนาน จากนั้นผู้วิจัยจึงได้พัฒนาโดยจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 แผน 4 ชั่วโมง โดยกำหนด จุดประสงค์และรูปแบบกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ได้ถูกต้อง 2. การปฏิบัติ ผู้วิจัยนำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับ กิจกรรมผะหมีเพื่อพัฒนาทักษะด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ ที่จัดทำขึ้นไปปฏิบัติการสอนในชั้นเรียนจริง โดยมี 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ 2) ขั้นตั้งปัญหาและแบ่งกลุ่ม 3) ข้นการค้นและคิด 4) ขั้นนำเสนอ และ 5) ขั้นประเมินผล 3. การสังเกต ในขณะที่มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนั้น ผู้วิจัยและผู้เข้าร่วม PLC ได้สังเกตและรวบรวม ข้อมูลโดยได้ทำการจดบันทึกไว้ในเครื่องมือและสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม พบว่า คะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 1 ข้อ หลังจากการจัดการเรียนรู้โดย ใช้การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมีจากคะแนนเต็ม 20 มีค่าเฉลี่ย 15.00 คิด เป็นร้อยละ 60 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.29 และมีจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ 70 จำนวน 15 คน คิดเป็น ร้อยละ 75 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด


48 4. การสะท้อนผล จากผลการจัดการเรียนรู้ พบว่าวิธีการสอนมีความเหมาะสมน่าสนใจ เพราะทำให้นักเรียน ได้รับความสนุกสนานและความรู้จากประสบการณ์ตรง เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ นักเรียนให้ความร่วมมือในการจัด กิจกรรมเป็นอย่างดี แต่ยังมีนักเรียนจำนวน 5 คน ที่มีคะแนนทำแบบทดสอบเพื่อวัดทักษะด้านการแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ ไม่ผ่านเกณฑ์ เนื่องจากนักเรียนบางคนให้ความสนใจในตอนต้นชั่วโมง แต่ตอนเข้ากิจกรรมกลุ่มเริ่มมี การพูดคุยและเล่นกันบ้าง ดังนั้น ผู้สอนควรหาแนวทางในการแก้ไข ดังนี้ 4.1 ผู้สอนอาจต้องเพิ่มความเข้มงวดกับนักเรียนบางคนให้มากขึ้น 4.2 ครูผู้สอนต้องพยายามกระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันระดมความคิดในขณะทำงานกลุ่มให้ มากขึ้น วงจรที่ 2 1. การวางแผน จากการปฏิบัติการในวงจรที่ 1 ผู้วิจัยได้นำผลจากการวิจัยหารือกับผู้เข้าร่วม PLC เพื่อปรับปรุง แก้ไขแผนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว เพื่อนำมาใช้จัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนทั้ง 5 คนที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากมี ปัญหาในเรื่องของฉันทลักษณ์และบางคนที่ไม่ตั้งใจเรียนมีการพูดคุยระหว่างเรียน ซึ่งผู้วิจัยได้หาแนวทางในการแก้ไข โดยการปรับเพิ่มกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้มากขึ้น ได้แก่ 1.1 การเพิ่มเวลาในการแต่คำประพันธ์ให้มากขึ้น 1.2 การมีส่วนร่วมของครูโดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือและดูแลนักเรียนในการทำ กิจกรรมมากขึ้น 2. การปฏิบัติ ผู้วิจัยนำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับ กิจกรรมผะหมีเพื่อพัฒนาทักษะด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ที่ได้ปรับปรุงแล้วไปปฏิบัติการสอนในชั้น เรียนจริง โดยมี 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ 2) ขั้นตั้งปัญหาและแบ่งกลุ่ม 3) ข้นการค้นและคิด 4) ขั้น นำเสนอ และ 5) ขั้นประเมินผล 3. การสังเกต จากคะแนนแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 1 ข้อ หลังจากการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การจัดการ เรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมีในวงจรที่ 1 ผู้วิจัยจึงได้นำแผนการจัดการเรียนรู้ มาทำ การจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนกลุ่มที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ทั้ง 5 คน อีกครั้ง จากนั้นจึงได้นำแบบทดสอบวัดทักษะด้าน การแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์เดิมมาทำการทดสอบ พบว่า คะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 1 ข้อ หลังจากการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมี ของนักเรียน 5 คน ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ในการ ทดสอบครั้งแรก จากคะแนนเต็ม 20 มีค่าเฉลี่ย 18.00 คิดเป็นร้อยละ 4.50 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.05 และมี จำนวนผู้ผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ 70 จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด


49 4. การสะท้อนผล ผลการจัดการเรียนรู้ที่ได้จากการปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ พบว่าเนื้อหามีความเหมาะสม น่าสนใจมากขึ้น มีการปรับกิจกรรมเพื่อนำเข้าสู่บทเรียนให้มีความน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มเวลาในการให้ นักเรียนทำกิจกรรม นักเรียนได้รับความสนุกสนานและมีความตั้งใจในการทำกิจกรรมและเรียนมากขึ้น มีการพูดคุย และเล่นระหว่างเรียนน้อยลง ซึ่งสรุปสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไข ดังนี้ 4.1 อาจจัดกิจกรรมที่เสริมแรงให้นักเรียนมากขึ้น เช่น การยกย่อง การให้รางวัล 4.2 ผู้สอนอาจต้องเพิ่มการควบคุมชั้นเรียน 2. อภิปรายผล การวิจัย เรื่อง การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาทักษะด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ โดย ใช้การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนมัธยมหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ผู้วิจัยนำมาอภิปรายผลได้ ดังนี้ จากคะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบอัตนัย จำนวน 1 ข้อ หลังจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้การ จัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมี ของนักเรียน 20 คน มีจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ คะแนนร้อยละ 70 จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าการใช้การจัดการ เรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมีนี้ สามารถพัฒนาทักษะด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภท กาพย์ สอดคล้องกับคำกล่าวของวิริยะ ฤาชัยพาณิชย์และวรวรรณ นิมิตพงษ์กุล (2562) ว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) นี้จะทำให้ผู้เรียนมีทักษะในการคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นการสอนที่ ทำให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์และคิดสร้างสรรค์และสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ไพลิน แก้วดกและทัศน์ศิรินทร์ สว่าง บุญ (2559) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การสอน แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์สูง กว่านักเรียนที่มีการจัดการเรียนรู้แบบปกติและสอดคล้องกับสอดคล้องกับงานวิจัยของ กำธร ดิษธรรม (2557) ศึกษาการพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบความคิดสร้างสรรค์เป็นฐาน เรื่อง ภาพปะติดจากวัสดุธรรมชาติ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ พบว่า ความก้าวหน้าของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจัดกิจกรรมการจัดการ เรียนรู้แบบความคิดสร้างสรรค์เป็นฐาน เรื่อง ภาพปะติดจากวัสดุธรรมชาติสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนงานวิจัยของ มงคล เรียงณรงค์และลัดดา ศิลาน้อย (2557) ศึกษา การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสร้างสรรค์เป็น ฐาน (CBL) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาส 21103 สังคมศึกษา 2 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 30.20 คิดเป็นร้อยละ 75.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 3. ข้อเสนอแนะ การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้และการศึกษา ดังต่อไปนี้


50 1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ 1.1 ควรมีการนำการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมี ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนในเรื่องอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการทำกิจกรรมกลุ่มและทำให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ 1.2 ควรมีการนำการจัดการเรียนรู้แบบเกมเป็นฐาน Game Based Learning (GBL) ร่วมกับสื่อเกมกระดาษอัจฉริยะ ไปปรับใช้กับนักเรียนในระดับชั้นอื่นหรือในหลายๆ โรงเรียนเพื่อจะทำให้ได้ข้อสรุปที่ กว้างขวางครอบคลุมมากขึ้น 2. ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมีเป็นกิจกรรมที่ สร้างความสนใจแก่ผู้เรียนเป็นอย่างมาก จึงควรพัฒนาต่อยอดการวิจัย โดยการพัฒนาเป็นสื่อออนไลน์หรือเกม คอมพิวเตอร์


51 บรรณานุกรม กลุ่มความรู้การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning. (2563). คู่มือองค์ความรู้การจัดการเรียนแบบ Active Learning ด้วยวิธีการ CBL (Creativity Based Learning). สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2566, จาก https://elcls.ssru.ac.th/martusorn_kh/pluginfile.php/74/mod_resource/content/1/.pdf คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. (2557). การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นพื้นฐาน (Creativity Based Learning: CBL). สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2566, จาก http://km.bus.ubu.ac.th/?p=1845 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. (2563). การจัดการความรู้ (Knowledge Management) ด้านการผลิตบัณฑิต ประจำปีการศึกษา 2563 ประเด็น“การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL)”. สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2566, จาก https://eqa.pcru.ac.th/QA/doc/km/km2563huso1.pdf โครงการการสอนออนไลน์สำหรับประเทศไทย. CREATIVE-BASED LEARNING การเรียนรู้โดยใช้การคิดสร้างสรรค์เป็นฐาน. สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2566, จาก https://active-learning.thailandpod.org/learning-activities/creative-based-learning วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี. (2561). องค์ความรู้ในประเด็นการสอนแบบสร้างสรรค์. สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2566, จาก http://164.115.41.60/knowledge/?p=604 วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์. (2558). การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน Creativity-based Learning (CBL). สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2566, จาก file:///C:/Users/Administrator.QAJIRN9GTGDLQ4C/Downloads/casnova1,+Journal+manager, +23-38.pdf สุรีย์ ไวยกุฬา. น่ารู้เรื่องผะหมี. สืบค้น 29 สิงหาคม 2566 จาก http://www.seal2thai.org/etc/suree/pamee/pamee4.htm มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน. (2552). ประโยชน์ของการเล่นปริศนาคำทาย. สืบค้น 30 สิงหาคม 2566 จาก https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=34&chap=3&page=t34-3- infodetail08.html จักรกฤษ คำพวง. (2565). การพัฒนาแบบฝึกแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ร่วมกับกิจกรรม ทายโจ๊กปริศนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. สืบค้น 29 สิงหาคม 2566 จาก http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/bitstream/123456789/4314/1/61255402.pdf ปทุมพร พงศ์ทองและเตือนจิตต์ ศรีอนันต์. (2556). คำประพันธ์. สืบค้น 29 สิงหาคม 2566 จาก https://www.pw.ac.th/emedia/media/thai/poetry_pathumporn.ppt


52 ธีรวัช นิลขลัง. (2553). คำประพันธ์. สืบค้น 29 สิงหาคม 2566 จาก https://www.gotoknow.org/posts/416608 จรินทร์ งามแม้น. (2543). การพัฒนาแบบฝึกการเขียนคำประพันธ์กลอนสุภาพและกาพย์ยานี 11 สำหรับนักเรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 1. สืบค้น 30 สิงหาคม 2566 จาก http://www.thapra.lib.su.ac.th/objects/thesis/fulltext/snamcn/Jarin_Ngamman/fulltext.pdf วีระยุทธ ชาตะกาญจน์. (2553). การวิจัยเชิงปฏิบัติการ. วารสารราชภัฏสุราษฎร์ธานี, 2(1), 30-49. สืบค้นจาก https://e-journal.sru.ac.th/index.php/srj/article/view/241 นิภาพร โพธิราช. (2562). การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อแก้ปัญหาการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาสารคาม. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. สืบค้นจาก http://fulltext.rmu.ac.th/fulltext/2562/M127508/Phothirach%20Nipaporn.pdf นุชวนา เหลืองอังกูร. (2563). การวิจัยเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน. ขอนแก่น: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.


53 ภาคผนวก


54 ภาคผนวก ก แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ร่วมกับกิจกรรมผะหมี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนมัธยมหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา


55 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 สะท้อนความคิดพินิจกาพย์ เวลา ๑๒ ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 7 ความคิดสร้างสรรค์ในกาพย์ยานี 11 เวลา 3 ชั่วโมง สอนวันที่ เดือน พ.ศ. ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา ๒๕๖5 ครูผู้สอน นางสาวชาลิสา หาญกิจ ตำแหน่ง ครู ๑. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ม.๑/๕ แต่งบทร้อยกรอง ๒. สาระสำคัญ ความคิดสร้างสรรค์ในบทร้อยกรอง คือ เป็นความคิดแปลกใหม่ ลึกซึ้งคมคายและเป็นความคิดที่เป็น ประโยชน์ การฝึกฝนแต่งกาพย์ยานีจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวและความคิดเป็นร้อยกรองอย่างสร้างสรรค์ได้ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนอธิบายลักษณะฉันทลักษณ์ของกาพย์ยานี 11 ได้ ๒. นักเรียนแต่งกาพย์ยานี 11 ที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ได้ ๓. นักเรียนสามารถนำเสนอชิ้นงานของตนเองได้อย่างมีปัญญารู้คิด ๔. สาระการเรียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ในกาพย์ยานี 11 ลักษณะความคิดสร้างสรรค์ในกาพย์ยานี 11 มีดังนี้ 1. เป็นความคิดที่แปลกใหม่ คือ มีแนวคิดที่ริเริ่มสร้างสรรค์ไม่ซ้ำกับผู้อื่น คิดในสิ่งที่ผู้อื่นไม่คิด 2. ความคิดลึกซึ้งคมคาย ทำให้ร้อยกรองนั้นน่าสนใจ น่าเชื่อถือ น่าเลื่อมใส แง่คิดในเชิงปรัชญา และจินตนาการอันกว้างไกลจัดว่าเป็นความคิดที่ลึกซึ้งคมคายได้ 3. ความคิดที่ให้ประโยชน์ ไม่ใช่มุ่งสนองความต้องการของผู้แต่งเพียงอย่างเดียวแต่ควรให้ ประโยชน์แก่ผู้อ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลและสังคม 5. สมรรถนะสำคัญ 1) ความสามารถในการสื่อสาร - มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่าง เหมาะสม 2) ความสามารถในการคิด - มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ - มีทักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์


56 3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - มีทักษะในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน (สะท้อนการจัดกิจกรรม) 7.1 ชิ้นงาน : แต่งผะหมีกาพย์ยานี 11 7.2 ภาระงาน : การคิดคำที่เป็นการพ้องคำหน้าและนำมาแต่งผะหมีกาพย์ยานี 11 พร้อมนำเสนอผลงาน 8. กิจกรรมการเรียนรู้ (3 ชั่วโมง) จัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมผะหมีร่วมกับการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (CBL) ขั้นที่ 1 ขั้นกระตุ้นความสนใจ ครูเปิดปริศนาผะหมีผ่านโปรแกรม Powerpoint แล้วให้นักเรียนสังเกตปริศนาผะหมี โดยนำ สนทนาถึงรูปแบบการใช้ร้อยกรองในการแต่งและจุดมุ่งหมายของการแต่งและตอบผะหมี ขั้นที่ 2 ขั้นตั้งปัญหาและแบ่งกลุ่มตามความสนใจ 1. ครูให้นักเรียนศึกษาฉันทลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์ของผะหมีซึ่งเป็นกาพย์ยานี 11 และสังเกตเกี่ยวกับจำนวนคำและสัมผัสโดยเปรียบเทียบกับแผนผังกาพย์ยานี 11 โดยให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์และ ค้นพบด้วยตนเอง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นปัญหาในหัวข้อต่าง ๆ ที่นักเรียนค้นพบ ดังนี้ (ตอบ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อ ๑) 1) การวิเคราะห์ส่วนประกอบ - จากแผนผัง บทร้อยกรองบทนี้มีจำนวนกี่วรรค วรรคละกี่คำ - มีสัมผัสคล้องจองตำแหน่งไหนบ้าง 2) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ - เปรียบเทียบตำแหน่งคำในผะหมีกับคำในแผนผังว่าตรงกันหรือไม่ 3) การวิเคราะห์หลักการ - ผะหมีที่นำมาให้สังเกตนี้มีฉันทลักษณ์ตรงกับร้อยกรองประเภทใด - นักเรียนอาศัยหลักการใดในการสังเกตฉันทลักษณ์และการสังเกตเนื้อหาของผะ หมี 2. ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่องลักษณะคำตอบของผะหมี โดยครูยกตัวอย่างคำตอบที่มีลักษณะ เป็นคำผวน การผันวรรณยุกต์ คำตอบที่ขึ้นต้นเหมือนกัน และคำตอบที่ลงท้ายเหมือนกัน จากนั้นให้นักเรียนสังเกต ใจความของผะหมีทีละวรรค แล้วให้ช่วยกันเขียนคำที่น่าจะเป็นคำตอบของแต่ละวรรค 3. ครูและนักเรียนช่วยกันหาความสัมพันธ์ของคำที่น่าจะเป็นคำตอบบนกระดาน แล้วสรุปมา เป็นคำตอบที่ถูกต้อง ครูเฉลยปริศนาผะหมี โดยครูใช้ลักษณะคำถามให้นักเรียนคิดวิเคราะห์ ดังนี้


57 1) การวิเคราะห์ส่วนประกอบ - ใจความในแต่ละวรรคมีความหมายว่าอะไร - แต่ละวรรค มีคำใดบ้างที่น่าจะเป็นคำตอบ 2) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ - คำที่นักเรียนช่วยกันทายมานั้น มีคำใดเกี่ยวข้องและคำใดไม่เกี่ยวข้องกับ ใจความของคำถาม - คำตอบในแต่ละวรรคมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ในลักษณะใด 3) การวิเคราะห์หลักการ - คำตอบที่ถูกต้องของผะหมี ตรงตามลักษณะทางหลักภาษาอย่างไร - คำสำคัญที่ทำให้นักเรียนค้นหาคำตอบได้คือคำใด 4. ครูให้นักเรียนสังเกตผะหมีอื่น ๆ ซึ่งเป็นผะหมีที่มีคำถามเป็นกาพย์ยานี 11 และมีคำตอบ ที่ขึ้นต้นเหมือนกัน 5. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๔ – ๕ คน จำนวน 6 กลุ่ม ๆ ละ 3-5 คน โดยครูแบ่งเด็ก เก่งเป็น 6 คน แล้วให้นักเรียนที่เหลือเลือกว่าจะอยู่กลุ่มเดียวกับใครใน 6 คนนี้ เพื่อให้เกิดความไว้วางใจในการ ทำงานร่วมกัน ขั้นที่ 3 ขั้นค้นคว้าและคิด 1. ครูให้นักเรียนระดมพลังสมองคิดคำที่มีลักษณะเป็นคำผวน การผันวรรณยุกต์ คำตอบที่ ขึ้นต้นเหมือนกัน หรือคำตอบที่ลงท้ายเหมือนกัน โดยให้นักเรียนเลือกตามความสมัครใจ แล้วนำคำที่คิดนั้นมาแต่งผะ หมีของกลุ่มตนเองให้เป็นกาพย์ยานี 11 โดยสมาชิกในกลุ่มแต่ละคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ไม่ว่าจะเป็น ความคิดที่เห็นว่าดีมีคุณภาพ หรืออาจมีประโยชน์น้อยก็ตาม แต่ละคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระและ สร้างสรรค์ให้ได้จำนวนบทมากที่สุด โดยอาศัยแผนผังกาพย์ยานี 11 และตัวอย่างผะหมีที่ได้เรียนรู้ไป (ตอบ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อ 2) 2. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องและเลือกบทร้อยกรองที่แต่งได้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ และสละสวย จากนั้นนำผะหมีไปออกแบบในรูปแบบโปสเตอร์ วีดีโอ หรืออินโฟกราฟิก ผ่าน application canva และออกแบบการนำเสนอผลงาน แบ่งงานกันรับผิดชอบตามความสามารถและความถนัดของแต่ละคน ขั้นตอนที่ 4 นำเสนอ 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนอย่างสร้างสรรค์ จากนั้นให้เพื่อน ร่วมทายคำถามจากผะหมีและช่วยกันตอบคำถามให้ถูกต้อง (ตอบจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อ 3) 2. ครูให้นักเรียนนำเสนอผลงานโดยที่ครูไม่ซักถามหรือแสดงความคิดเห็น ในขณะเดียวกัน ครูคอยกระตุ้นให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นกลุ่มเพื่อนที่นำเสนอ จากนั้นครูและนักเรียน ร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของฉันทลักษณ์และสรุปความรู้ทั้งหมด (ตอบจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อ ๑) ขั้นที่ 5 ประเมินผล ครูและนักเรียนมีส่วนร่วมในการประเมินผลงานร่วมกัน ส่วนของนักเรียนให้ทุกคน ประเมินผลงานเพื่อนในแต่ละกลุ่ม โดยครูแจกสติกเกอร์รูปหัวใจให้นักเรียนคนละ 3 ดวง นักเรียนคิดวิเคราะห์ว่า กลุ่มไหนสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ดีที่สุด ฉันทลักษณ์ถูกต้อง และรูปแบบสวยงาม ก็ให้นำสติกเกอร์ไปติดให้ผลงาน


58 ของกลุ่มนั้น ครูจะนับจำนวนเพื่อให้คะแนน ส่วนครูประเมินผลทั้งด้านทักษะการแต่งคำประพันธ์ทักษะการทำงาน ร่วมกัน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แล้วแจ้งคะแนนในการเรียนการสอนครั้งต่อไป เพื่อให้ผู้เรียนนำผลการ ประเมินไปพัฒนาตนเอง และกลุ่มที่ได้รับคะแนนมากที่สุดจะได้รับรางวัลจากครู 9. สื่อ /แหล่งเรียนรู้ ๑. Powerpoint ๒. ผะหมีที่มีลักษณะคำถามเป็นกาพย์ยานี 11 จำนวน 5 บท 10. วัดผลประเมินผล สิ่งที่ต้องการวัด/ประเมิน วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ด้านความรู้ นักเรียนอธิบายลักษณะ ฉันทลักษณ์ของกาพย์ยานี 11 ได้ สังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน รายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการ เรียนของนักเรียน รายบุคคล เกณฑ์คุณภาพ ระดับ ดี ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ด้านทักษะและ กระบวนการ นักเรียนแต่งกาพย์ยานี 11 ที่แสดงถึงความคิด สร้างสรรค์ได้ ประเมินจากแบบ ประเมินการแต่ง ร้อยกรอง แบบประเมิน การแต่งร้อยกรอง เกณฑ์คุณภาพ ระดับ ดี ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์การประเมิน ด้านคุณลักษณะ นักเรียนสามารถนำเสนอ ชิ้นงานของตนเองได้อย่าง มีปัญญารู้คิด ประเมินจาก แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน เกณฑ์คุณภาพ ระดับ ดี ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์การประเมิน ความมุ่งมั่นในการทำงาน ประเมินจาก แบบประเมิน ความมุ่งมั่นใน การทำงาน แบบประเมิน ความมุ่งมั่นในการทำงาน เกณฑ์คุณภาพ ระดับ มาก ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์การประเมิน กิจกรรมเสนอแนะ


59 ผะหมีที่มีลักษณะคำถามเป็นกาพย์ยานี 11 ผะหมีที่ 1 ผู้ทายโชคราศี ใจปรานีและรักใคร่ น้ำหมักจากปักษ์ใต้ คนเลื่อมใสในอินเดีย คำตอบคือ หมอดู เอ็นดู บูดู ฮินดู ผะหมีที่ 2 ตัวกลมสมบูรณ์ดี ตำแหน่งนี้ต้องมีน้อง เสพกัญชาไม่น่าลอง อย่าขุ่นข้องลองคิดทำ คำตอบคือ พี พี่ พี้ ผะหมี่ที่ 3 ที่พักสูงสองชั้น ยื่นไปนั้นระเบียงนอก คิดแล้วก็ไม่ออก โปรดช่วยบอกตอบให้ที จะแบ่งให้เท่าๆ ถัวกันเอาเท่าที่มี ไหวพริบก็ต้องดี ระแวงทีให้แน่ใจ คำตอบคือ เฉลียง เฉลย เฉลี่ย ฉลาด ผะหมี่ที่ 4 ก้อนใสแสนเย็นปาก ดื่มเหล้ามากเป็นโรคนั้น สงสารแต่อดกลั้น พูดยืนยันไม่ยอมแพ้ คำตอบคือ น้ำแข็ง ตับแข็ง ใจแข็ง ปากแข็ง ผะหมีที่ 5 ฉันนี้มีสามตา แต่หนึ่งขายืนทั้งวัน รถวิ่งต้องดูฉัน สามตานั้นสีต่างกัน คำตอบคือ เสาไฟจราจร


60 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนตามรายการ แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ – สกุล บอกลักษณะ ของฉันท ลักษณ์กาพย์ ยานี 11 ได้ ถูกต้อง ยกตัวอย่าง คำสัมผัสใน และสัมผัส นอกได้ บอก ความหมาย ของคำ ได้ถูกต้อง ใช้ภาษาไทย ได้อย่าง ถูกต้อง รวม ๑๒ คะแนน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ลงชื่อ .................................................. .. ผู้ประเมิน ........./ .............................../ ...... เกณฑ์การตัดสิน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป (๑๐ คะแนน) ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ ๓ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ ๒ คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๐ – ๑๒ ดี ๖ – ๙ พอใช้ ต่ำกว่า ๖ ปรับปรุง


61 รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนนแบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนรายบุคคล รายการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ๑. บอกลักษณะของ ฉันทลักษณ์กาพย์ยานี 11 ได้ถูกต้อง บอกลักษณะของฉันทลักษณ์ กาพย์ยานี 11 ได้ถูกต้อง ทั้งหมด บอกลักษณะของฉันท ลักษณ์กาพย์ยานี 11 ได้ ถูกต้องบางจุด บอกลักษณะของฉันท ลักษณ์กาพย์ยานี 11 ไม่ได้ ๒. ยกตัวอย่างคำสัมผัส ใน และสัมผัสนอกได้ ยกตัวอย่างคำสัมผัสใน และ สัมผัสนอกได้ 5 คำ ขึ้นไป ยกตัวอย่างคำสัมผัสใน และ สัมผัสนอกได้ 3-4 คำ ยกตัวอย่างคำสัมผัสใน และสัมผัสนอกได้ 1-2 คำ ๓. บอกความหมายของ คำได้ถูกต้อง บอกความหมายของคำได้ ถูกต้องทุกคำ บอกความหมายของคำได้ ถูกต้องบางคำ บอกความหมายของคำ ไม่ได้ ๔. ใช้ภาษาไทยได้อย่าง ถูกต้อง ใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง ทุกคำ ใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง 3 คำ ขึ้นไป ใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง 5 คำขึ้นไป


62 แบบประเมินการแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี๑๑ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ✓ลงใน ช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ-สกุล ฉันทลักษณ์ เนื้อหาสาระ ที่นำเสนอ ความไพเราะ ความคิดสร้างสรรค์ การใช้ภาษา รวม สรุปผล การประเมิน ๔ 4 4 4 4 20 ผ่าน ไม่ผ่าน เกณฑ์การให้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป (๑6 คะแนน) ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ ๔ คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ ๓ คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ ๒ คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๘ – ๒๐ ดีมาก ๑๔ – ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ำกว่า ๑๐ ปรับปรุง ลงชื่อ ..............................................ผู้ประเมิน (.........................................................) ................./............................/....................


63 เกณฑ์การประเมินการแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี๑๑ รายการ ประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) 1. รูปแบบ ฉันทลักษณ์ รูปแบบฉันทลักษณ์ ถูกต้องดีมาก รูปแบบฉันทลักษณ์ ถูกต้องเป็นส่วนมาก รูปแบบฉันทลักษณ์ ถูกต้องเพียงบางส่วน รูปแบบฉันทลักษณ์ ถูกต้องเป็นส่วนน้อย 2. เนื้อหาสาระ ที่นำเสนอ เนื้อหาสาระที่นำเสนอ ถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระที่ นำเสนอมีสาระ อยู่ในเกณฑ์ดี เนื้อหาสาระที่ นำเสนอมีสาระ อยู่ในเกณฑ์พอใช้ เนื้อหาสาระที่ นำเสนอไม่มีสาระ ชัดเจน 3. ความไพเราะ การเล่นคำ เล่นอักษร เล่นสระ ความไพเราะ การเล่นคำ เล่นอักษร เล่นสระ อย่างใดอย่างหนึ่ง อยู่ในระดับดีมาก ความไพเราะ การเล่นคำ เล่นอักษร เล่นสระ อย่างใดอย่างหนึ่ง อยู่ในระดับดี ความไพเราะ การเล่นคำ เล่นอักษร เล่นสระ อย่างใดอย่างหนึ่ง อยู่ในระดับพอใช้ ขาดความไพเราะ ไม่มีการเล่นคำ เล่นอักษร หรือเล่นสระ ขาดสัมผัสในวรรค 4. ความคิด สร้างสรรค์ มีความคิดสร้างสรรค์ ที่น่าสนใจสะท้อน แนวความคิดใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ น่าสนใจ สะท้อน ความคิด มีความคิด สร้างสรรค์ แต่ไม่แปลกใหม่ ไม่มีความคิด สร้างสรรค์ 5. การใช้ภาษา มีการใช้ภาษาที่ ถูกต้องเหมาะสม ใช้คำที่สื่อความหมาย ได้ตามวัตถุประสงค์ สะกดคำถูกต้องทุกคำ มีการเว้นวรรค โดยไม่ฉีกคำและใช้ ภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่กำกวม มีการใช้ภาษาอย่าง ถูกต้องเหมาะสม ใช้คำที่สื่อความหมาย ได้ตามวัตถุประสงค์ สะกดคำผิดน้อยกว่า ๓ คำ มีการเว้นวรรค แต่ฉีกคำ ๒ ตำแหน่ง และใช้ภาษาที่เข้าใจ ง่ายไม่วกวน มีการใช้ภาษาอย่าง ถูกต้องเหมาะสม ใช้คำที่สื่อ ความหมายได้ตาม วัตถุประสงค์ สะกดคำผิดน้อยกว่า ๔ คำ มีการเว้นวรรค แต่ฉีกคำ ๓ ตำแหน่ง และใช้ภาษาที่เข้าใจ ง่ายไม่วกวน มีการใช้ภาษาที่ไม่ ค่อยถูกต้องเหมาะสม ใช้คำที่ยังไม่ค่อยสื่อ ความหมายให้ตรง วัตถุประสงค์สะกด คำผิด ๕ คำขึ้นไป มีการเว้นวรรค แต่ฉีกคำ ๔ ตำแหน่ง ขึ้นไป และใช้ภาษา ที่ยังวกวน


64 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน การแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนำเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ๑ การถ่ายทอดเนื้อหา ๒ ความถูกต้องของเนื้อหา ๓ บุคลิกภาพและความมั่นใจ ในการนำเสนอ ๔ การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม ๕ วิธีการนำเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป (๑6 คะแนน) ผลงานหรือพฤติกรรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ ๔ คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องบางส่วน ให้ ๓ คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ ๒ คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๘ – ๒๐ ดีมาก ๑๔ – ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ำกว่า ๑๐ ปรับปรุง


65 เกณฑ์การประเมินการนำเสนอผลงาน การแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ประเด็น การประเมิน ระดับคุณภาพ ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) 1. การถ่ายทอด เนื้อหา - คล่องแคล่ว ไม่ติดขัด ทำให้เข้าใจประเด็นได้ ง่ายและเร็ว -การพูดมีการเว้น จังหวะ และการเน้นคำ หรือเน้นสาระสำคัญ อย่างเหมาะสมเพื่อทำ ให้ผู้ฟังติดตามการ นำเสนอ - ความเร็วในการพูดอยู่ ในระดับเหมาะสม - คล่องแคล่ว ไม่ติดขัด ทำให้เข้าใจประเด็นได้ ง่าย -การพูดมีการเว้น จังหวะอย่างเหมาะสม - ความเร็วในการพูด อยู่ในระดับเหมาะสม - ไม่คล่องแคล่ว มีการ หยุดชะงักบ้าง เป็นบาง จังหวะ - พูดเร็วจนจับความไม่ ค่อยได้ หรือพูด ช้าจนเกินไป - ติดขัดหลายครั้ง หรือ ใช้คำ เช่น “เอ่อ” “อ่า” บ่อยครั้ง - หยุดชะงักในหลาย จังหวะ - พูดเร็วจนจับความ ไม่ค่อยได้ หรือ พูดช้ำจนเกินไป 2. ความถูกต้อง ของเนื้อหา เนื้อหาถูกต้อง ชัดเจนทั้งหมด เนื้อหาไม่ถูกต้อง มากกว่า 2-3 แห่ง เนื้อหาไม่ถูกต้อง มากว่า 4-5 แห่ง เนื้อหาไม่ถูกต้อง มากกว่า 6 แห่งขึ้นไป 3. บุคลิกภาพ และความมั่นใจ ในการนำเสนอ มีท่าทางผ่อนคลาย มีความเชื่อมั่น เป็นตัวของตัวเอง ไม่มีข้อผิดพลาด มีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่แก้ไขได้รวดเร็ว มีความตึงเครียดน้อย หรือไม่มีเลย มีความตึงเครียด ปานกลาง มีปัญหาใน การแก้ไขข้อผิดพลาด มีความตึงเครียดและ วิตกกังวล มีปัญหาใน การแก้ไขข้อผิดพลาด 4. การมีส่วนร่วม ของสมาชิกใน กลุ่ม แสดงให้เห็นว่ามี ความร่วมมือกันอย่างดี มีการแบ่งหน้าที่ กันชัดเจน แสดงให้เห็นว่ามีความ ร่วมมือกัน แต่มีการ แบ่งหน้าที่ไม่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่ามีความ ร่วมมือกัน แต่ไม่มีมี การแบ่งหน้าที่กัน แสดงให้เห็นว่าไม่มี ความร่วมมือกันและ ไม่มีการแบ่งหน้าที่กัน 5. วิธีการนำเสนอ ผลงานอย่าง สร้างสรรค์ มีการใช้graphic เสียง รูปภาพ ตัวอักษร และสีสัน เร้าความสนใจ ผู้ฟังได้ดี การใช้ graphic เสียง รูปภาพ ตัวอักษร และสีสันมากเกินไป แต่ยังเกี่ยวข้องกับงาน นำเสนอ เน้นการใช้ graphic เสียง รูปภาพ ตัวอักษร และสีสันมากเกินไป จนทำให้ผู้ฟังเกิดความ รำคาญหรือแทบ จะไม่มีการใช้ graphic ใด ๆ เลย เน้นการใช้graphic เสียง รูปภาพ ตัวอักษร และสีสันมากเกินไป ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับงาน นำเสนอ


Click to View FlipBook Version