ตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ตำบลคลองฉนาก

รวบรวมโดยนักศึกษา สาขารัฐประศาสนศาสตร์ภาคเรียนที่ 1/2564 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

นายธนพันธ์ ชิตเชื้อ



นายศุภชัย อินทอง



นายทรงศักดิ์ พุ่มพวง

พระราชดำรัส




"การทำงานใดๆ ไม่ว่าเล็ก ใหญ่ ง่าย ยาก
ถ้าย่อหย่อนจากความเพียรเเล้ว

ยากที่จะสำเร็จเรียบร้อยทันเวาลาได้"





พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระราชทานเเก่ คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้า เนื่องในโอกาส
วันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๓๓

คำนำ

หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
ทางรัฐประศาสนศาสตร์ รหัสวิชา(BPA0602)โดยมีจุดประสงค์ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตำบล
คลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน ส่วนที่ 2 โครงสร้างของชุมชน ส่วนที่ 3 โครงสร้างเศรษฐกิจและอาชีพ
ส่วนที่ 4 สถานที่สำคัญๆ ส่วนที่ 5 การวิเคราะห์ศักยภาพชุมชน ซึ่งจุดประสงค์
ในการศึกษาข้อมูลต่างๆ ของตำบลคลองฉนากเพื่อให้ผู้จัดทำได้ฝึกการศึกษาค้นคว้า
และนำสิ่งที่ได้จากการศึกษาค้นคว้ามารวบรวมเเละเรียบเรียงเป็นหนังสือเก็บไว้เป็นประโยชน์
ต่อการเรียนของตนเองและประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ

คณะผู้จัดทำได้เลือกตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานีในการทำหนังสือ
เเนะนำตำบล เนื่องจากเป็นตำบลที่มีความน่าสนใจ ทางคณะผู้จัดทำได้ลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลต่างๆ
กับชุมชนโดยตรง คณะผู้จัดทำขอขอบคุณอาจารย์ปานเผด็จ นวนหนู อาจารย์อายับ ซาดัดคาน
ผู้ให้ความรู้ เเละเเนะเเนวทางการศึกษาการจัดทำหนังสือ ในครั้งนี้ ขอขอบคุณบุคคลากรหน่วย
งานต่างๆ ของตำบลคลองฉนาก รวมไปถึงชาวบ้านที่ให้ข้อมูลในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับตำบล
เเละขอขอบคุณเพื่อนๆที่ได้ให้คำปรึกษาในการจัดทำหนังสือให้ผ่านไปได้ด้วยดี
ทั้งนี้ทางคณะผู้จัดทำหวังว่าหนังสือเเนะนำตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จะให้ความรู้ เเละเป็นประโยชน์เเก่ผู้อ่านทุกๆท่าน

คณะผู้จัดทำ

สารบัญ หน้า

เรื่อง 1
2
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 3
ประวัติความเป็นมา 4
ขนาดและที่ตั้งของตำ บล 5
ทรัพยากรธรรมชาติที่สำ คัญ 6
สภาพภูมิประเทศ/สภาพภูมิอากาศ 10
การเดินทาง/การคมนาคม 11
12
ส่วนที่ 2 โครงสร้างของชุมชน 14
การเมืองการปกครอง 16
ข้อมูลประชากร 19
การศึกษา 22
ศาสนา/วัฒนธรรม 25
28
ส่วนที่ 3 โครงสร้างเศรษฐกิจและอาชีพ 29
ส่วนที่ 4 สถานที่สำ คัญ
ส่วนที่ 5 การวิเคราะห์ศักยภาพชุมชน
บรรณานุกรม
ภาคผนวก

สารบัญตาราง หน้า

ตารางที่1 ชื่อถนนในหมู่บ้านตำบลคลองฉนาก 6
ตารางที่ 2 ข้อมูลปกครองส่วนท้องถิ่น 11
ตารางที่3 ข้อมูลปกครองท้องที่ 12
ตารางที่4 ข้อมูลประชากร 12
ตารางที่5 ช่วงอายุเเละจำนวนประชากรชายหญิง 13
ตารางที่6 จำนวนประชากรเเละครัวเรือนในเขต 13
ตารางที่7 ศูนย์อาศาสมัครประจำหมู่บ้าน 15

1

ส่วนที่ 1

ข้อมูลพื้นฐาน

Basic infromation 2
ข้อมูลพื้นฐาน

ประวัติความเป็นมา และไม่มี

ตำบลคลองฉนาก ไม่มีประวัติที่แน่ชัด

เอกสารใดๆที่พอจะยืนยันความเป็นจริง เกี่ยวกับ

ประวัติของหมู่บ้านแต่มีหลักฐานบางอย่าง ที่สามารถ

นำมายืนยันประกอบคำบอกเล่าของคนเก่าคนแก่ พอที่จะเชื่อถือได้

ดังนี้ ตำบลตลองฉนากตั้งอยู่ริมฝั่งคลองฝั่งซ้ายแยกมาจาก

"แม่น้ำหลวง" หรือแม่น้ำตาปี ซึ่งติดต่อกับทะเลในสมัยนั้น ลำคลอง

ลึกมาก น้ำเค็มจัดในหน้าแล้ง ช่วงเดือน ธันวาคมถึงเดือน พฤษภาคม

มีปลาชุกชุมมาก ในช่วงฤดูน้ำเค็ม มีปลาทะเลเกือบทุกชนิดเข้ามาอาศัย

อยู่ในลำคลองนี้ ราษฎรอาศัยลำคลองทำการประมงเลี้ยงชีพตลอดมา

และยังเคยมีปลาฉนากที่มีลักษณะคล้ายๆ กับปลาฉลาม

มีฟันยื่นออกมายาวประมาณ 120 เซนติเมตร คล้ายๆกับเลื่อยยนต์

ตัดแต่งกิ่งไม้ ข้างๆรอบมีหนามแหลมเป็นซี่ๆ ยังคงมีหลักฐานเก็บไว้

ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก ชาวบ้านได้ตั้งชื่อคลอง

นั้นว่า "คลองฉนาก" ต่อมาได้มีผู้อพยพมาตั้งถิ่นฐานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

จนมีราษฎรหนาแน่นตลอFแนวชายฝั่ง จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 6

พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชบัญญัติยกเลิกการปกครอง

ระบบมณฑลมาเป็นจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเปลี่ยนชื่อแม่น้ำหลวง

เป็นแม่น้ำตาปีประมาณปี พ.ศ.2476 หมู่บ้าน คลองฉนากก็ได้

ยกฐานะเป็นตำบลคลองฉนาก และยกฐานะจากสภาตำบล

เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก ตามประกาศกระทรวง

มหาดไทยเรื่อง จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล

ลงวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2539

(แผนพัฒนาท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก (พ.ศ.2566 – 2570)

ขนาดเเละที่ตั้งของตำบล 3

ที่ตั้ง
ตำบลคลองฉนาก ตั้งอยู่ห่าง
จากศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 15 กิโลเมตร
ห่างจากอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ประมาณ 12 กิโลเมตร
ในปี 2554ได้มีถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 420 ตัดผ่าน
การเดินทางสะดวกมากขึ้น สามารถใช้ได้สองเส้นทาง คือ
ทางบกและทางน้ำ โดยอาศัยเรือยนต์หรือเรือหางยาว
และรถยนต์ส่วนตัว รถรับจ้างไม่ประจำทางในการเดินทาง
ปัจจุบันได้มีการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยทาง
องค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก
ได้จัดทำโครงการก่อสร้างถนนสายต่างๆ เข้าหมู่บ้านมากขึ้น
ทำให้มีการเดินทางสะดวกมากขึ้น
เพิ่มความคล่องตัวให้กับราษฎรในพื้นที่ใช้ในการขนส่งนำ
สินค้าออกสู่ตลาด ลดภาระค่าใช้จ่าย
เนื้อที่ ตำบลคลองฉนาก มีเนื้อที่ประมาณ 21.50 ตาราง
กิโลเมตร หรือประมาณ 13,437.50ไร่

อาณาเขต


ทิศเหนือจดทะเลฝั่งอ่าวไทย (อ่าวบ้านดอน)

ทิศตะวันตกจด ทิศตะวันออก

ตำบลบางชนะ จดตำบลบางกุ้ง

อ.เมือง อ.เมือง

จ.สุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี

ทิศใต้จดเทศบาลนคร


สุราษฎร์ธานี อ.เมือง

จ.สุราษฎร์ธานี

ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ 4

แหล่งน้ำ
เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของชาว
ตำบลคลองฉนาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มี
แม่น้ำล้อมรอบ และยังมีอีกหลายสายที่เป็น
แนวเขตกั้นระหว่างหมู่บ้าน แม่น้ำ ลำบาง ที่
สำคัญได้แก่ แม่น้ำตาปี




ป่าไม้

ในพื้นที่ตำบลคลองฉนาก เป็นพื้นที่ป่าไม้ชายเลน มีไม้
ประเภท ไม้โกงกาง ไม้ลำภู ไม้แสม เป็นต้น เป็นแหล่ง
อาศัยของสัตว์นานาชนิด ทั้งสัตว์น้ำ สัตว์บก เช่น ลิงแสม
นกอพยพ




ภูเขา
พื้นที่ตำบลคลองฉนากไม่มีพื้นที่ภูเขาที่ปรากฏ
เนื่องจากพื้นที่ติดทะเลอ่าวไทย




ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ
ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยแหล่ง
อาหารทะเล มีทั้งแม่น้ำ ป่าไม้ พืชเศรษฐกิจ ซึ่งมี
ความอุดมสมบูรณ์โดยธรรมชาติ เมื่อเทียบกับ
พื้นที่ในเมืองที่เป็นเมืองอุตสาหกรรมเป็นส่วน
ใหญ่

ลักษณะภูมิประเทศและลักษณะภูมิอากาศ 5

ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ เป็นพื้นที่ป่าชายเลน มีสภาพทั่วไป
เหมือนเกาะแก่ง เพราะมีแม่น้ำลำคลองหลายสายเป็นศูนย์กลางหมู่บ้าน ในอดีต
สภาพบ้านเรือนส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำลำคลองในสภาพปัจจุบันได้มีการ
ก่อสร้างบ้านเรือนติดถนนมากขึ้น แต่ยังคงสภาพบ้านริมแม่น้ำ ในช่วงฤดูน้ำ
ทะเลหนุนจะมีน้ำท่วมขังบ้านเรือน หรือแหล่งการเกษตรของราษฎรในพื้นที่ได้
รับความเสียหายบ้าง จึงไม่เหมาะแก่การทำเกษตรมากนัก เพราะมีลักษณะดิน
เป็นดินเปรี้ยว ดินเค็ม

ลักษณะภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศของพื้นที่แบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู คือ

1. ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ระยะนี้เป็นช่วง
ว่างของฤดูมรสุม หลังจากสิ้นสุดฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแล้วอากาศจะเริ่ม
ร้อนและจะมีอากาศร้อนจัดไปที่สุดเดือนเมษายน แต่ไม่ร้อนมากนักเนื่องจาก
ภูมิประเทศเป็นคาบสมุทรอยู่ใกล้ทะเล กระแสลมและไอน้ำจากทะเลทำให้อากาศ
คลายร้อนลงไปมาก

2. ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ลม
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมร้อนและชื้นจากมหาสมุทรอินเดียพัดปกคลุม
ประเทศไทย ทำให้มีฝนตกทั่วไป และในช่วงฤดูฝนยังมีร่องความกดอากาศต่ำ
ปกคลุมภาคใต้เป็นระยะ ๆ อีกด้วย จึงทำให้มีฝนตกมากและเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้
รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกมาก
ในช่วงฤดูหนาว คือระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมอีกช่วงหนึ่งด้วย จึงนับ
พื้นที่ตำบลคลองฉนากมีฤดูฝนที่ยาวนาน

3. ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นฤดูลม
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ในระยะนี้จะมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเย็น
และแห้ง จากประเทศจีนพัดปกคลุมประเทศไทยทำให้อุณหภูมิลดลงทั่วไปและมี
อากาศหนาวเย็น แต่เนื่องจากพื้นที่อยู่ด้านชายฝั่งตะวันออกของภาคใต้อุณหภูมิจึง
ลดลงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว อากาศจึงไม่สู้จะหนาวเย็นมากนัก และตามชายฝั่งทะเล
จะมีฝนตกทั่วไปโดยเฉพาะในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน

ลักษณะของดิน
พื้นที่ตำบลคลองฉนากได้รับอิทธิพลจากแม่น้ำตาปีและน้ำทะเลหนุนสูง จะมีน้ำ
ท่วมขังดินจะอุ้มน้ำตลอดเวลา ทำให้มีสภาพเป็นดินเค็ม ดินเปรี้ยว

6

การเดินทาง
การคมนาคม

1.การคมนาคมขนส่งทางบก
ถนนที่ดำเนินการก่อสร้างตามงบประมาณขององค์การบริหาร
ส่วนตำบลคลองฉนากและงบประมาณเงินอุดหนุนจากหน่วยงานรัฐ
ประเภทถนนแอลฟัลติกส์และถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก

จำนวน 8 สาย ได้เเก่

ตารางที่ 1 ชื่อถนนในหมู่บ้านตำบลคลองฉนาก

ข้อมูลจากกองช่าง อบต.คลองฉนาก เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564

7

กากรคารมไนฟาคฟม้ขนา ส่ง

การคมนาคมขนส่งทางบก
การคมนาคมขนส่งในพื้นที่ตำบลคลองฉนาก สามารถเดินทางขนส่ง ได้ทั้งทาง
บกและทางน้ำ ซึ่งในอดีตนั้น การคมนาคมขนส่งจะให้เรือยนต์เป็นพาหนะใน
การขนส่งสินค้าหรือเดินทางออกสู่ตัวเมือง หรือไปมาหาสู่กันในพื้นที่และพื้นที่
ใกล้เคียง แต่ในปัจจุบันได้มีการตัดถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 420 ผ่านตำบล
คลองฉนาก ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนากก็ได้ดำเนินการพัฒนา
ในด้านโครงการสร้างพื้นฐานโดยการตัดถนน และสะพานเชื่อมต่อเพื่อให้
ประชาชนในพื้นที่สามารถติดต่อกันได้สะดวกยิ่งขึ้น เพิ่มช่องทางการขนส่ง
สินค้าออกสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น ทำให้วีถีชีวิตและคุณภาพชีวิตดีขึ้นตามลำดับ



การคมนาคมขนส่งทางน้ำ
การคมนาคมขนส่งทางน้ำ ได้แก่ แม่น้ำสายบางหมก, ตาปี, สะบ้าย้อย,

คลองทองหลวง

การไฟฟ้า 8

หมู่ที่ / หมู่บ้าน จำนวนครัวเรือน มีไฟฟ้า ไม่มีไฟฟ้า หมายเหตุ

1 บ้านคลองฉนาก 15 - 15
2 บ้านตากแดด 126 90 36
3 บ้านบางหมก 138 59 76
4 บ้านสะบ้าย้อย 189 100 89
5 บ้านทองหลวง 208 90 118
6 บ้านบางกลา 129 98 31 ข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้าน ม.6
7 บ้านศรีวัฒนาตาปี 56
56 ข้อมูลจาก ส.อบต. ม.7

การประปา

หมู่ที่ / หมู่บ้าน จำนวนครัวเรือน มีน้ำประปา ไม่มีน้ำประปา หมายเหตุ

1 บ้านคลองฉนาก 15 - 15 -

2 บ้านตากแดด 126 90 36 -

3 บ้านบางหมก 138 59 76 -

4 บ้านสะบ้าย้อย 189 100 69 ประปาหมู่บ้าน 20 ครัวเรือน

5 บ้านทองหลวง 208 90 118 -

6 บ้านบางกลา 129 46 83 -

7 บ้านศรีวัฒนาตาปี 56 - 56 ข้อมูลจาก ส.อบต.

(ข้อมูลจากกองช่าง อบต.คลองฉนาก เมือวันที่ 18 มิถุนายน 2564)

9

โทรศัพท์

พื้นที่ตำบลคลองฉนาก เข้าถึงสัญญาณเครือข่าย
โทรศัพท์ได้ทุกระบบ และมีเสาสัญญาณโทรศัพท์
จำนวน 3 เครือข่ายได้แก่ ทรูมูฟ เอไอเอส และดีเทค




ระบบโลจิสติกส์




พื้นที่ตำบลคลองฉนาก ปัจจุบันระบบการขนส่ง
มีความครอบคลุม ทั้งบริการขนส่ง จดหมาย
พัสดุ ของบริษัทไปรษณีย์ไทย และยังมีบริการ
ขนส่งของเอกชน

10

ส่วนที่2

โครงสร้างของชุมชน

ด้านการเมืองการปกครอง 11

ข้อมูลการปกครองท้องถิ่น ผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก



ตารางที่ 2 ข้อมูลการปกครองส่วนท้องถิ่น

เเผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2566- พ.ศ. 2570

ข้อมูลการปกครองท้องที่ 12

ตำบลคลองฉนากแบ่งเขตการปกครองออก
เป็น 7 หมู่บ้าน (หมู่ที่ 1-6 และ หมู่ที่ 7) ดังนี้




2.2 ข้อมูลประชากร

2.2.1 ข้อมูลเกี่ย
วกับจำนวนประชากร (ข้อมูลเปรียบ

เทียบย้อนหลัง 3 – 5 ปี และการคาดการณ์ในอนาคต)
ข้อมูลจาก สำนักทะเบียน อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี

จังหวัดสุราษฎร์ธานี พฤษภาคม 2564

13

ช่วงอายุและจำนวนประชากร



ตำบลคลองฉนากมีประชากรทั้งสิ้นจำนวน 2,943 คน โดยแยกเป็นประชากร
ชายจำนวน 1,473 คน และแยกเป็นประชากรหญิง จำนวน 1,470 คน

ข้อมูลจาก สำนักทะเบียน อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีจังหวัดสุราษฎร์ธานี พฤษภาคม 2564



แสดงจำนวนประชากรและครัวเรือนในเขต องค์การบริหารส่วนตำบล
คลองฉนาก อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี




ข้อมูลจาก สำนักทะเบียน อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีจังหวัดสุราษฎร์ธานี พฤษภาคม 2564

14

ด้านการศึกษา/ศาสนา/วัฒนธรรม

การศึกษา

ในพื้นที่ตำบลคลองฉนากมีโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม
ศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 มีจำนวน 2 โรงเรียน และศูนย์การศึกษานอกระบบและ
การศึกษาตามอัธยาศัยตำบลคลองฉนาก จำนวน 1 แห่ง ดังนี้

1 โรงเรียนวัดแหลมทอง สังกัดสำนักงานเขตการศึกษาขั้นพื้นฐาน เริ่มก่อตั้งเมื่อ
วันที่ 1 มิถุนายน 2482 เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล – ระดับประถมศึกษามีจำนวน
นักเรียนทั้งสิ้น 38 คนผู้บริหารการศึกษาคนปัจจุบันคือ นางสาวกิ่งกาญจน์ ทินชิณพงศ์
ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนวัดแหลมทอง เบอร์โทร 090-1674140

2 โรงเรียนวัดนทีคมเขต สังกัดสำนักงานเขตการศึกษาขั้นพื้นฐาน เริ่มต่อตั้งปี 2477
เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล – ระดับประถมศึกษา มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 30 คน
ผู้บริหารสถานศึกษาคนปัจจุบันคือ นางสาวจิราวรรณ หนูแปลก ตำแหน่ง ผู้อำนวยการ
โรงเรียนวัดนทีคมเขตเบอร์โทร090-1675140

3 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตำบลคลองฉนาก ตั้งอยู่
หมู่ที่ 4 ตำบลสะบ้าย้อย เปิดสอนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น – มัธยมศึกษา
ตอนปลาย ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 61 คน แยกเป็น นักเรียนชายจำนวน 46 คน
นักเรียนหญิง 15 คน สอนโดย ครูรดา อัครเมธีกุลล์ ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลคลองฉนาก
เบอร์โทร 088-6891635

ข้อมูลด้านอื่นๆเกี่ยวกับการศึกษาของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา
ตามอัธยาศัย ตำบลคลองฉนาก

- จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต
- การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ

- การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน

- การจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
- ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน
- ส่งเสริมกิจการพิเศษ

- กิจกรรมจิตอาสา เราทำดีด้วยหัวใจ

บริบททางสังคม 15

สาธารณสุข

มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองฉนากตั้งอยู่
หมู่ที่ 3 ตำบลคลองฉนาก มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้บริการและมี อาสาสมัครสาธารณสุข
ประจำหมู่บ้านขับเคลื่อนกิจกรรมด้านต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพอนามัย การควบคุมโรค
การป้องกันและระงับโรคติดต่อ การส่งเสริมสุขภาพ การให้ภูมิคุ้มกันโรคโดยมี
นางลัดดา เรืองด้วง ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองฉนาก
เป็นผู้บริหาร

ศูนย์อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน จำนวน 7 หมู่บ้าน



สังคมสงเคราะห์

- ดำเนินการในการขึ้นทะเบียนสำหรับ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยเอดส์
- รับขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
- บริการสำรวจและจัดหางบประมาณเพื่อปรับปรุงซ่อมบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส
- ประสานการทำบัตรผู้พิการ

อาชญากรรม

ในพื้นที่ตำบลคลองฉนากไม่ปรากฏคดีอาชญากรรม เนื่องจากเป็นพื้นที่

สังคมชนบท ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นคนในท้องถิ่นดั้งเดิม จึงไม่มี

ยาเสพติด ปัญหาในเรื่องของอาชญากรรม




ปัญหายาเสพติดในพื้นของตำบลคลองฉนาก ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับยา



เสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (พืชกระท่อม) โดยการแก้ปัญหายาเสพติดของ

องค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก ได้ดำเนินการตั้งงบประมาณจัดทำ

โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้

ประชาชน เยาวชน มีความรู้ความเข้าใจโทษของยาเสพติด

16

การนับถือศาสนา

การนับถือศาสนา
ในพื้นที่ตำบลคลองฉนาก มีวัด 2 แห่ง ได้แก่ วัดแหลมทอง วัดนทีคมเขตประชากรใน

ตำบลคลองฉนากส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 99.86 ร้อยละ 0.10 นับถือศาสนา
อิสลาม และร้อยละ 0.05 นับถือศาสนาคริสต์
ประเพณีและงานประจำปี

ประเพณีของชาวตำบลคลองฉนาก ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา คือ ประเพณีชักพระทอด
ผ้าป่า เป็นการร่วมกันจัดตกแต่งเรือพนมพระ มีทั้งเรือพระบกและเรือพระน้ำ จุดเด่นของ
ประเพณี จะอยู่ในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จะมีการนำเรือไปจอดตามบ้านเรือนราษฎรที่มีการ
ตั้งพุ่มผ้าป่า แล้วล่องแม่น้ำเพื่อไปรวมตัวกันและจอดเรือในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี
เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมบุญในประเพณี ซึ่งยังถือเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาว
จังหวัดสุราษฎร์ธานี และประเพณีทำบุญเดือนสิบ หรืออีกชื่อเรียกว่ารับ-ส่งตายาย หมายถึง
การระลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว มีการนำอาหารไปถวายพระทำบุญเพื่อรับบรรพบุรุษ
ที่ล่วงลับไปแล้ว รับแล้วเชื่อกันว่าจะมาอยู่กับลูกหลาน 15 วัน แล้วส่งกลับ วันส่งกลับจะมี
การทำบุญใหญ่ โดยการทำขนมต่างๆตามความเชื่อ เช่น ขนมลา แทนเครื่องนุ่งห่ม ขนมพอง
เป็นสัญลักษณ์แทนแพสำหรับผู้ล่วงลับใช้ล่องข้ามห้วงมหรรณพ ขนมไข่ปลา แทนเครื่อง
ประดับ ขนมดีซำแทนเงินเบี้ยสำหรับใช้สอย ขนมบ้าแทนสะบ้าใช้เล่นในงานเทศกาล
สงกรานต์

17

บริบทสังคม/ความเป็นอยู่

อาชีพหลักของประชากรตำบลคลองฉนาก คือ ด้านเกษตร ปศุสัตว์ ประมง
1 การเกษตร ภาคการเกษตรของตำบลคลองฉนาก ยังไม่เติบโตเท่าที่ควร
เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะน้ำท่วมขัง เป็นพื้นที่ราบลุ่ม อยู่ติดทะเล
ราษฎรส่วนใหญ่เน้นการประกอบอาชีพประมง ซึ่งเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมาช้านาน
จะมีก็สวนมะพร้าวบ้างเล็กน้อยปัจจุบันก็เริ่มปลูกปาล์มกันเพิ่มขึ้น
ส่วนเกษตรอื่นๆ ยังมีปัญหาเรื่องสภาพดินและปัญหาน้ำ คิดเป็นร้อยละ 0.34
ของผู้ประกอบอาชีพ (ข้อมูลจากการสำรวจ จปฐ.2562)
2 การประมง ด้านการประมง เป็นอาชีพหลักของชาวตำบลคลองฉนาก
ร้อยละ 17.97 ของผู้ประกอบอาชีพ (ข้อมูลจากการสำรวจ จปฐ.2562)
3 การปศุสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ในตำบลคลองฉนาก มีประชากรเลี้ยงสัตว์
จำนวนน้อยมาก ร้อยละ 0.01 ของผู้ประกอบอาชีพ ได้แก่ เลี้ยงเป็ดไข่
4 การบริการ งานบริการในพื้นที่ตำบลคลองฉนาก ได้แก่ ร้านซ่อมมอเตอร์ไซต์
ร้านขายอาหารตามสั่ง

5 การท่องเที่ยว การท่องเที่ยวได้มีการริเริ่มรวมกลุ่มเพื่อดำเนินการด้านการท่องเที่ยว จำนวน 1
กลุ่ม แต่ยังขาดการประชาสัมพันธ์ และขาดงบประมาณในการดำเนินการ

6. การพาณิชย์และกลุ่มอาชีพ
หมู่ที่ 1 กลุ่มเลี่ยงปลาในบ่อปูน
หมู่ที่ 2 กลุ่มส่งเสริมอาชีพประมง
หมู่ที่ 3 กลุ่มเลี่ยงปลาและไร่นาสวนผสม
หมู่ที่ 4 กลุ่มอาชีพเลี้ยงกุ้ง
หมู่ที่ 5 กลุ่มเลี้ยงปลากะพงขาวในบ่อดิน
หมู่ที่ 6 กลุ่มประมงพื้นบ้าน

18

7. การพาณิชย์ ได้แก่ การประกอบอาชีพค้าขาย ทั้งขายปลีก-ขายส่ง สินค้า
อุปโภคบริโภค และรับซื้อและจำหน่าย กุ้ง หอย ปู ปลา จากชาวประมงในตำบล
8 แรงงาน การจ้างแรงงานในพื้นที่ตำบลคลองฉนาก น้อยมาก ส่วนใหญ่ราษฎร
ในพื้นที่จะออกไปใช้แรงงานในตัวเมือง เช่น เป็นลูกจ้างบริษัท ลูกจ้างแรงงาน

ร้านอาหาร ซึ่งปรากฏอยู่ในอาชีพรับจ้างทั่วไปถึงร้อยละ 20.51 และพนักงาน
บริษัท ร้อยละ 0.72ของผู้ประกอบอาชีพ

ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม
ประเพณีของชาวตำบลคลองฉนาก ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา คือ ประเพณีชักพระ
ทอดผ้าป่า เป็นการร่วมกันจัดตกแต่งเรือพนมพระ มีทั้งเรือพระบกและเรือพระน้ำ จุดเด่น
ของประเพณี จะอยู่ในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จะมีการนำเรือไปจอดตามบ้านเรือนราษฎร
ที่มีการตั้งพุ่มผ้าป่า แล้วล่องแม่น้ำเพื่อไปรวมตัวกันและจอดเรือในเขตเทศบาลนคร
สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมบุญในประเพณี ซึ่งยังถือเป็นประเพณีที่ยิ่ง
ใหญ่ของชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และประเพณีทำบุญเดือนสิบ หรืออีกชื่อเรียกว่ารับ-ส่ง
ตายาย หมายถึง การระลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว มีการนำอาหารไปถวายพระทำบุญ
เพื่อรับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว รับแล้วเชื่อกันว่าจะมาอยู่กับลูกหลาน 15 วัน แล้วส่ง
กลับ วันส่งกลับจะมีการทำบุญใหญ่ โดยการทำขนมต่างๆตามความเชื่อ เช่น ขนมลา แทน
เครื่องนุ่งห่ม ขนมพอง เป็นสัญลักษณ์แทนแพสำหรับผู้ล่วงลับใช้ล่องข้ามห้วงมหรรณพ
ขนมไข่ปลา แทนเครื่องประดับ ขนมดีซำแทนเงินเบี้ยสำหรับใช้สอย ขนมบ้าแทนสะบ้าใช้
เล่นในงานเทศกาลสงกรานต์

ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ภาษาถิ่น
ภาษาถิ่นของชาวตำบลคลองฉนาก เป็นภาษาใต้ตะวันตก เป็น ภาษาถิ่นที่ใช้ในจังหวัด
กระบี่ พังงาระนอง สุราษฎร์ธานีและชุมพร มีลักษณะสำเนียงคล้ายคลึงกัน
OTOP สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกในตำบลคลองฉนากยังมีไม่เด่นชัดนัก ชาวบ้านส่วนใหญ่
ประกอบอาชีพประมง ออกเรือทะเลหากุ้ง หอย ปู ปลา แล้วนำขายยังพ่อค้าคนกลางบ้าง
บางรายก็จำหน่ายปลีกบ้าง ที่พอจะเป็นสินค้าที่ผลิตโดยชาวตำบลคลองฉนาก ก็จะมี
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นของกลุ่มบ้านตากแดด หมู่ที่ 2 จักรสารก้านมะพร้าว เสวียนหม้อ
หมู่ที่ 2กะปิบ้านบางหมก หมู่ที่ 3ไข่เค็มบ้านบางหมก หมู่ที่ 3 กลุ่มปลาแดดเดียวบ้านทอง
หลวง หมู่ที่ 5 และกะปิบ้านศรีวัฒนาตาปี หมู่ที่ 8

19

ส่วนที่ 3

โครงสร้างเศรษฐกิจและอาชีพ

20

แหล่งทุนทางธรรมชาติ

ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยแหล่งอาหารทางทะเล มีทั้ง

แม่น้ำ ป่าไม้ พืชเศรษฐกิจ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์โดยธรรมชาติ เมื่อ

เทียบกับพื้นที่ในเมืองที่เป็นเมืองอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่

แหล่งน้ำ


แหล่งน้ำ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของชาวตำบลคลองฉนาก

เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีแม่น้ำล้อมรอบ และยังมีอีกหลายสายที่เป็นแนว

เขตกั้นระหว่างหมู่บ้าน แม่น้ำ ลำบาง ที่สำคัญได้แก่ แม่น้ำตาปี

-แม่น้ำตาปี 1 แห่ง

(แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.256 - พ.ศ.2570)

ไม้และป่าไม้

ในพื้นที่ตำบลคลองฉนาก เป็นพื้นที่ป่าไม้ชายเลน มีไม้ประเภท ไม้

โกงกาง ไม้ลำภู ไม้แสม เป็นต้น เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์นานาชนิด ทั้ง

สัตว์น้ำ สัตว์บก เช่น ลิงแสม นกอพยพ

(แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.256 - พ.ศ.2570)

ภูเขา

พื้นที่ตำบลคลองฉนากไม่มีพื้นที่ภูเขาที่ปรากฏ เนื่องจากพื้นที่ติดทะเล

อ่าวไทย
แหล่งอาหาร

ตำบลคลองฉนากมีทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยแหล่ง

อาหารทางทะเล มีทั้งแม่น้ำ และโดยส่วนใหญ่ชาวบ้านมีอาชีพประมง

จึงขึ้นชื่อเรื่องของอาหารทะเล อาหารพื้นถิ่น ได้แก่ กะปิบ้านบางหมก

ไข่เค็ม ปลาแดดเดียวบ้านทองหลวง

(นายประสิทธิ์ นิลเวช ,30 สิงหาคม 2564)

21

ผลิตภัณฑ์ชุมชนของดีของขึ้นชื่อ

น้ำมันมะพร้าว
จุดเริ่มต้น

ผลิตโดย นางอำพร จันทร์แสง อยู่บ้านเลขที่ 52/1 หมู่ที่ 2 ตำบลคลอง
ฉนาก อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานีหมู่ที่คนไทยคุ้นเคยกับ
การใช้น้ำมันมะพร้าวในชีวิตประจำวันมานานแล้ว แต่สมัยก่อนเป็นแค่น้ำ
มะพร้าวจากการคั้นกะทิสดๆ แล้วนำไปเคี่ยว ความจริงมะพร้าวมีประโยชน์
มากกว่านั้น หากนำมาแปรรูปด้วยวิธีการทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น สามารถนำ
มาทาบำรุงผิวพรรณ นำไปแปรรูปเป็นสบู่ ครีมทากันส้นเท้าแตกได้หลายคน

นิยมใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นตัวช่วยด้านสุขภาพ เนื่องจากน้ำมันมะพร้าว
สามารถบริโภคได้ มีประโยชน์ต่อระบบหล่อลื่นในลำไส้ให้ทำงานได้ดีมาก ใน
ช่วงเช้าและก่อนนอนหากรับประทานน้ำมันมะพร้าวได้สัก 1 ช้อนชา จะช่วยให้

ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น โมเลกุลของน้ำมันมะพร้าวค่อนข้างสั้น เมื่อ
เคลื่อนย้ายเข้าไปในร่างกาย จะเดินทางเร็ว ส่งผลให้เกิดการย่อยสลายได้เร็ว
ไม่เหมือนไขมันที่ไม่อิ่มตัวซึ่งมีโมเลกุลยาวมาก เมื่อโมเลกุลยาวโอกาสที่

คาร์บอนจับตัวจึงง่ายมากกรมวิชาการเกษตร แนะนำกรรมวิธีทำน้ำมัน
มะพร้าวแบบสกัดเย็น เพื่อเป็นรายได้เสริมให้แก่เกษตรกรชาวสวนมะพร้าว
และผู้สนใจ โดยทั่วไป มะพร้าว 6-7 ลูก จะสามารถผลิตน้ำมันมะพร้าวได้ 1

ลิตร ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ก็ไม่ยุ่งยากอะไร สามารถใช้สิ่งที่มีอยู่แล้ว นั่นคือ
หม้อตุ๋น ขวดโหลแก้ว และเครื่องครัวที่ล้วนมีอยู่ประจำบ้านทุกบ้าน

22

ส่วนที่ 4

สถานที่สำคัญ

23

สถานที่สำคัญ




แหล่งท่องเที่ยงเเละสถานที่สำคัญ
วัดแหลมทอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลคลองฉนาก อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี
จังหวัดสุราษฎร์ธานี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 15 ไร่
2 งาน 60 ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือจดที่ดินเอกชน ทิศใต้จดคลองบางไทร
ทิศตะวันออกจดคลองฉนาก ทิศตะวันตกจดที่ดินเอกชน อาคารเสนาสนะ
ประกอบด้วย อุโบสถ สร้างเมื่อง พ.ศ. 2490 ศาลาการเปรียญ สร้างเมื่อ
พ.ศ. 2509 กุฏิสงฆ์ จำนวน 10 หลัง นอกจากนี้มี ฌาปนสถาน หอระฆัง โรงครัว
และกุฏิเจ้าอาวาส วัดแหลมทอง ตั้งเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2460

นายชู – นายปรอด ชัยชนะ ได้บริจาคที่ดินให้สร้างวัด
โดยได้สร้างเป็นสำนักสงฆ์ชื่อว่า “สำนักสงฆ์แหลมโทง”

เนื่องจากเป็นแหลมทรายมีปลางโทงขึ้นมากิน
ดอกข้าวลอยมาติดสันทรายนี้เป็นอย่างมากมาย ในปี พ.ศ. 2492
จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดแหลมทอง” ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2499 มีพระสมุห์หนู อมรทตฺโต พ.ศ. 2542

เป็นเจ้าอาวาส



(ศูนย์ข้อมูลทางวัฒนธรรม.วัดแหลมทอง ออนไลน์].2011,สืบค้นเมื่อ
3 ตุลาคม 2564. จาก https://www.klongchanak.go.th/travel/detail/1429/data.html

24

ศาสนาสถาน

ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีวัด 2 แห่งได้แก่

- วัดแหลมทอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 3

- วัดนทีคมเขต ตั้งอยู่หมู่ที่ 4

(แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2566 - พ.ศ.2570)




แหล่งเรียนรู้/โรงเรียน/ห้องสมุดชุมชน

โรงเรียนประถมศึกษา 2 แห่ง คือ
- โรงเรียนแหลมทอง ตั้งอยู่ที่3
- โรงเรียนนทีคมเขต ตั้งอยู่ที่4
(แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2566 -
พ.ศ.2570)

25

ส่วนที่ 5

การวิเคราะห์ศักยภาพชุมชน

26

การวิเคราะห์ศักยภาพชุมชน










จุดแข็ง(Strengths)

1.ผู้นำชุมชนมีความเข้มแข็ง
2.มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
3.มีแหล่งอาหารทางทะเลที่สมบูรณ์
4.มีวิถีชุมชนท้องถิ่น วิถีประมงพื้นบ้าน
5.มีกลุ่มอาชีพและกลุ่มองค์กรต่างๆ
6.มีแหล่งทองเที่ยวชุมชน
7.มีความได้เปรียบเรื่องการสัญจร มีทั้งทางบกและทางน้ำ
8. มีประชากรทำธุรกิจได้ทั้งทางบกและทางน้ำ
9. มีพื้นซึ่งอยู่ชานเมือง การคมนาคมกับตัวเมืองสะดวกสะบาย

จุดอ่อน(Weaknesses)

1.ขาดระบบการกำจัดขยะ
2.การรวมกลุ่มของเกษตรยังไม่เข้มแข็ง
3.ขาดองค์ความรู้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน
4.ขาดการส่งเสริมด้านการรวมกลุ่มอาชีพอย่างจริงจัง
5.ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการยังไม่ทั่วถึงและครอบคลุม
6. เป็นพื้นที่ลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยทั้งในช่วงหน้าฝน และช่วงน้ำ
ทะเลหนุนสูง
7. มีช่องทางในการเพาะปลูกค่อยข้างน้อยเพราะเป็นพื้นซับน้ำ
และน้ำกร่อยส่งผลให้ดินเค็มดินเปรี้ยว
8. ทรัพยากรทางธรรมชาติมีน้อยเพราะเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ

27

โอกาส

(Opportunities)

1. ตำบลคลองฉนากมีการคมนาคมขนส่งได้ทั้งทางบกและทางน้ำ
2. สภาพพื้นที่เป็นลุ่มปากแม่น้ำ เป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์
3. การเลือกประกอบธุรกิจได้ในสองทำเลที่ดีจะสามารถสร้างเงินหมุนเวียนได้
สูงและมีลูกค้าประจำ และเฉพาะทาง

4. มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ในชุมชนที่ได้
จากการประมง

5. การประกอบธุรกิจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำจะดึงดูดลูกค้าได้

มากกว่า เนื่องจากตำบลคลองฉนากเป็น
พื้นที่คิดคลองสาขาของแม่น้ำตาปี
6. ธุรกิจสามารถเติบโต สร้างความมั่นคง
และสร้างเงินหมุนเวียนได้ เนื่องการ
คมนาคมมีสองทางเลือกทางน้ำและทางบ
ก และติดกับตัวเมืองสุราษฎร์ธานี

ทั้งสองทาง

อุปสรรค

(Threats)

1.ราคาของต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น เช่น ราคาน้ำมัน ราคาโลหะ ผลผลิตอื่นๆ
เป็นต้น
2.ผลกระทบจากโรคระบาดที่ทำให้ธุรกิจและยอดขายสินค้าลดลง
3.การมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ธุรกิจบางอย่างเข้ามาทำง่าย หรือ
กำลังเป็นที่สนใจจากสถานการปัจจุบันที่ออกไปทำงานต่างถิ่นยากทำประชากร
บางกลุ่มหันมาใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นเพื่อเอาตัวรอดในสถาะการโรคระบาด
4.ภาวะที่ไม่ดีนัก ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ส่งผลให้ผู้บริโภคลดการซื้อ
สินค้าลง
5.ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงประกอบอาชีพเประมงมีรายได้น้อย มีความเลื่อมล้ำ
ของรายได้และสังคม
6.ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง

28

บรรณานุกรม

ประสิทธิ์ นิลเวช.ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี[สัมภาษณ์].เมื่อวันที่30 สิงหาคม 2564.
อรอุมา เเซ่ลิ้ม.ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี[สัมภาษณ์].เมื่อวันที่30 สิงหาคม 2564.

สุวิทย์ สุทธิราช.ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี[สัมภาษณ์].เมื่อวันที่30 สิงหาคม 2564.

ปัญญา เกิดผล.ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี[สัมภาษณ์].เมื่อวันที่31 สิงหาคม 2564.

สุนิพน เสือเเก้ว.ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี[สัมภาษณ์].เมื่อวันที่31 สิงหาคม 2564.

ธนทัต ชะลำนัย.ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตำบลคลองฉนาก อำเภอ
เมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี[สัมภาษณ์].เมื่อวันที่31 สิงหาคม

2564.

องค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก.เเผนพัฒนาท้องถิ่น
พ.ศ.2566-พ.ศ.2570.สถานที่พิมพ์:งานวิเคราะห์นโยบาย

เเละเเผน/องค์การบิรหารส่วนตำบลคลองฉนาก/จังหวัด
สุราษฎร์ธานี.

องค์การบริหารส่วนตำบลคลองฉนาก อำเภอเมือง จังหวัด
สุราษฎร์ธานี.(เเผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2566-2570)

[online].เข้าถึงได้จากhttps://www.ts-
local.com/demo/index/index.php (3 ตุลาคม 2564).

29

ภาคผนวก