เจอกัน
หนอง
คันทรง
ต.หนองคันทรง อ.เมืองตราด จ.ตราด
จัดทำโดย
โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย
เจอกัน
หนอง
คันทรง
ต.หนองคันทรง อ.เมืองตราด จ.ตราด
จัดทำโดย
โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย
คำนำ
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการท่องเที่ยวในที่แปลกใหม่ ซึ่งเราก็มี
สถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรมและอาหารแสนอร่อย ที่รอให้คุณมาลิ้ม
ลอง ชิมรสชาติ ด้วยเหตุนี้ โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ตำบล
หนองคันทรง อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด จึงได้จัดทำหนังสือเล่ม
เล็กหรือแฮนบุค (HANDBOOK) “เจอกันหนองคันทรง” นี้ขึ้น
โดยรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในธรรมชาติ กิจกรรมแสนสนุก
และอาหารในท้องถิ่น ที่อยู่ในหนองคันทรงเอาไว้ และนำเสนอในรูป
แบบหนังสือเล่มเล็ก ที่มีสีสันสดใสน่าอ่าน พร้อมเกร็ดความรู้ เล็กๆ
น้อยๆ ให้นักท่องเที่ยวได้รับความรู้เพิ่มเติม หนังสือเล่มเล็กเล่มนี้จึง
เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาท่องเที่ยวในตำบลหนองคันทรง
ได้เป็นอย่างดี
โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย U2T
สาขาการท่องเที่ยว
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
สารบัญ
บทที่ 1 รู้จักหนองคันทรง 2
3
รู้จักหนองคันทรง…………………………………………………………………
สภาพทั่วไปหนองคันทรง พื้นที่ เขตพื้นที่……………………….…… 5
6
บทที่ 2 เที่ยวหนองคันทรง 7
8
มหัศจรรย์ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ…………………………………….. 9
มหัศจรรย์ลานตะบูน…………………….……………………………………..
สวนมะพร้าวน้ำหวาน…………………….……………………………………
เหยี่ยวแดงคอขาว…………………….…………………………………………
บ้านไร่เขียวขจีฟาร์ม…………………….……………………………….…….
บทที่ 3 กิจกรรมแสนสนุก
แผนที่กิจกรรมแสนสนุก………………….……………………………….…. 11
พาทำผ้ามัดย้อม…………….……………….……………………………….…. 12
โยนโบว์ลิ่งจากลูกตะบูน……….……………….………….………….….….. 13
วางลอบปู…………………..……….……………….………….………….….….. 14
สานหมวกใบคันทรง………………..……….…………….………….……….. 15
ทำขนมพิมพ์ข้าวตอก………………..……….……………..……….……….. 16
จิบชาร้อยรู ใบโกงกางทอด………………..……….……………..……….. 17
บทที่ 4 แหล่งประวัติศาสตร์ 19
โบราณสถาน โบราณวัตถุ 20
ร่องรางปืนใหญ่………..………………….……………………………………..
วัดหนองคันทรง………..………………….……………………………………..
สารบัญ
บทที่ 5 อาหารท่าระแนะ 22
23
ต้มส้มปลากระบอก………………..…………………………………………… 24
ห่อหมก…………………….………………………………………………………
จันรอนย่าง………………………………….…………………………………….. 25
26
ปลากระบอกทอด………………….…………………………………….…….. 27
กะปิหลน ผักสด…………………….…………………………………………… 28
หัวปลีต้มน้ำกะทิ…………………….…………………………………..……… 29
แมงกะพรุนดองฝาด…………………….……………………………….…….…..
ลูกจาก………………………..………………….………………………..…….….
บทที่ 1
รู้จักหนองคันทรง
2
รู้จักหนองคันทรง
ตำบลหนองคันทรง มีประวัติเล่าสืบต่อกันมาว่ามี
ประชาชนมาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้นานกว่า 200 ปี
ส่วนชื่อหมู่บ้านหนองคันทรงนั้นสันนิษฐานว่ามีที่มา 2 ทางคือ
1. ตั้งชื่อตามพันธุ์ไม้และลักษณะของพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำโดยสันนิษฐาน
ว่าเดิมหมู่บ้านนี้มีหนองน้ำใหญ่อยู่กลางหมู่บ้านและบริเวณรอบๆ
หนองน้ำมีต้นคันทรงขึ้นชุกชุม
2. เดิมชื่อบ้านหนองคันทรงสันนิษฐานว่าในเดือนเมษายนช่วง
ประเพณีสงกรานต์ในหมู่บ้านจะมีการทำพิธีเข้าทรงเพื่อบูชาผีต่างๆ
ระลึกถึงบุญคุณของผีที่เกี่ยวข้องกับการทำมาหากิน เช่น ผีลอบ
(เครื่องมือ จับสัตว์น้ำ) ผีกระด้ง ผีแมว เป็นต้น โดยจะทำพิธีเชิญแม่
ศรีเป็นการทำขวัญ นอกจากนี้ยังมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผีไม่มี
ญาติ ทำบุญตามศาลเจ้า/บุญส่งเรือ
3
สภาพทั่วไปหนองคันทรง
ตำบลหนองคันทรงมีพื้นที่ประมาณ 27.50 ตารางกิโลเมตร
หรือ 17.187 ไร่สภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มพื้นที่บางส่วนติดชายฝั่ งทะเล
แบ่งเป็นพื้นที่ทำการเกษตร 16,562 ไร่พื้นที่ป่าชายเลนประมาณ 5,625 ไร่
พื้นที่
เป็นพื้นที่ราบลุ่มมีป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์อากาศชุ่มชื้น
เหมาะแก่การเกษตร พื้นที่บางส่วนติดชายฝั่ งทะเลอ่าวไทย
เขตพื้นที่
✎ทิศเหนือ ติดกับ ต.หนองเสม็ด และ ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ. ตราด
✎ทิศใต้ ติดกับ ต.ห้วงน้ำขาว อ.เมือง จ.ตราด
✎ทิศตะวันออก ติดกับ ปากแม่น้ำตราด อ่าวไทย อ.เมือง จ.ตราด
✎ทิศตะวันตก ติดกับ ต.หนองเสม็ด และ ต.หนองโสน อ.เมือง จ.ตราด
บทที่ 2
เที่ยวหนองคันทรง
5
เที่ยวหนองคันทรง
มหัศจรรย์ป่าชายเลน
บ้านท่าระแนะ
เป็นป่าชายเลนที่ชาวบ้านหมู่ที่ 2 บ้านท่าระแนะ ตำบลหนองคันทรง
ร่วมกันอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนที่สำคัญให้กับชาวประมง
พื้นบ้าน สำหรับป่าชายเลนบ้านท่าระแนะมีเนื้อที่นับพันไร่
สำหรับความแตกต่างของป่าชายเลนบ้านท่าระแนะแห่งนี้
กับป่าชายเลนแห่งอื่น คือ มีต้นแสม อายุกว่า 100 ปี มีสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์
โดยเฉพาะ ปลากระบอก หอยพอก หอยจุ๊บแจง ปูแสม
เกร็ดความรู้ : ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะมีถึง 4 ป่า นั่นก็คือ ป่าลำพูน ป่าโกงกาง ป่าจากและป่าตะบูน
6
มหัศจรรย์ลานตะบูน
ลานตะบูนแห่งนี้เกิดขึ้นจากรากของ
ต้นตะบูนที่มีอยู่มากในพื้นที่ป่าโกงกางของหมู่บ้าน
ท่าระแนะ ซึ่งความพิเศษของรากตะบูนนั้นจะมีราก
ที่เลื้อยขึ้นมาอยู่บนพื้นดิน เมื่อผสานเข้ากันระหว่างหลายๆ ต้น
ทำให้เกิดเป็นพื้นดินที่มีลวดลายของรากตะบูนอย่างงดงาม
7
สวนมะพร้าวน้ำหวาน
มะพร้าวส่วนใหญ่จะปลูกกันในพื้นที่
ลุ่มชื้นแฉะ และต้นมะพร้าวยังชอบที่จะอยู่ใกล้บริเวณน้ำ
กร่อยแถวๆชายทะเล ซึ่งที่นี่ก็อยู่ในบริเวณของ
ป่าชายเลนที่เป็นน้ำกร่อยจึงทำให้เกิดสวนมะพร้าวน้ำหวานของคุณลุงสายชลขึ้นมา
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่สวนมะพร้าวน้ำหวานได้จะได้เรียนรู้ถึงวิธี
วิธีการดูเนื้อมะพร้าวว่าลูกไหนมีเนื้อหรือไม่มีเนื้อ
ลูกไหนมีรสชาติหวานซ่าหรือหวานหอม สอนการดูทะลาย
ของมะพร้าวและเมื่อคุณลุงสายชลได้สอนวิธีการเลือก
มะพร้าวแล้ว ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวทำอีกโดยการให้
แยกย้ายไปเลือกมะพร้าวของตัวเองมาแล้วมาลุ้นกันว่า
สิ่งที่ลุงสายชลได้ให้ความรู้ไป นักท่องเที่ยวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงๆหรือไม่
เกร็ดความรู้ : มะพร้าวน้ำหอมสามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ ถึงแม้ไขมันอื่มตัวจะสูง แต่ไม่ได้ไปเพิ่ม
ระดับไขมันชนิดไม่ดีในร่างกาย เพราะฉะนั้นแนะนำให้ทานนะคะคุณผู้อ่านทุกท่าน
8
เหยี่ยวแดงคอขาว
เหยี่ยวแดงคอขาวเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของการมาเยือนตำบลหนอง
คันทรงนักท่องเที่ยวสามารถเจอเหยี่ยวขาวคอแดงได้ที่ร้านอาหาร คนพลัด
ถิ่น ซึ่งเหยี่ยวขาวคอแดงจะบินออกมาโชว์ตัวในช่วงเที่ยงๆ เพื่อมากิน
อาหารที่ทางร้านได้เตรียมไว้ให้กับเหล่าเหยี่ยว ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน
คนพลัดถิ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ
9
บ้านไร่เขียวขจีฟาร์ม
เป็นแหล่งปลูกผักอินทรีย์ส่งออกทั้งในและนอกประเทศ และยังขยายเครือ
ข่ายให้แก่ผู้ที่ปลูกผักอินทรีย์ด้วย ที่นี่ผลิตผักอินทรีย์ปลอดสารพิษมากกว่า
20 ชนิด จำหน่ายสู่ผู้รักสุขภาพ นอกจากนี้ที่ไร่ยังเปิดให้กลุ่มผู้ที่สนใจได้เข้า
มาเรียนรู้วิธีการปลูกผักอินทรีย์อีกด้วย
บทที่ 3
กิจกรรมแสนสนุก
11
แผนที่กิจกรรมแสนสนุก
12
พาทำผ้ามัดย้อม
โดยนำวัตถุดิบในธรรมชาติมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กลายเป็นสี
ปัจจัยมาจาก ลูกตะบูน หาได้ง่ายและมีมากในพื้นที่ เมื่อได้มาแล้วจะนำ
เปลือกหุ้มลูกตะบูนมาหั่น และต้มในน้ำเดือด ประมาณ 1 ชั่วโมง ให้ได้น้ำ
สีน้ำตาล สำหรับนำไปทำผ้ามัดย้อมลวดลายต่างๆ
วิธีการเริ่มจากแช่ผ้าในน้ำสะอาด 1 ครั้ง จากนั้นใส่
ในหม้อน้ำตะบูน ประมาณ 30 นาที จึงนำขึ้นมาซัก
น้ำสะอาด หรือน้ำปูนใส ไม่ก็ใช้น้ำสารส้ม เพื่อ
ตกแต่งสีให้เข้มหรืออ่อนตามต้องการ จึงนำไปตาก
แดด
13
โยนโบว์ลิ่งจากลูกตะบูน
ซึ่งกิจกรรมนี้อยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวมหัศจรรย์ลานตะบูน
ลานตะบูนแห่งนี้เกิดขึ้นจากรากของต้นตะบูนที่มีอยู่มากในพื้นที่ป่า
โกงกางของหมู่บ้านท่าระแนะ ซึ่งความพิเศษของรากตะบูนนั้นจะมีรากที่เลื้อยขึ้น
มาอยู่บนพื้นดิน
เมื่อผสานเข้ากันระหว่าง
หลายๆ ต้นทำให้เกิดเป็น
พื้นดินที่มีลวดลายของ
รากตะบูนอย่างงดงาม
ที่ขาดไม่ได้เลยคือกิจกรรม
โยนโบว์ลิ่งจากลูกตะบูน
ลักษณะจะคล้ายกับการเล่นโบว์ลิ่งทั่วไป แต่ที่แตกต่างคือวัสดุ
14
วางลอบปู
เป็นกิจกรรมที่ท้าทายอีกกิจกรรมหนึ่งคือการได้เรียนรู้วิถีชีวิต
ของชาวประมงพื้นบ้านในการออกเรือไปวางลอบปู
กิจกรรมนี้นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสถึงการเป็นชาวประมง
โดยแท้ ซึ่งชาวบ้านจะนำพานักท่องเที่ยว
ขึ้นเรือไปวางลอบปูตามป่าชายเลน ได้เรียนรู้วิธีการทำลอบปู การวางเหยื่อ รวม
ถึงการวางลอบปู นักท่องเที่ยวจะได้ลงมือทำด้วยตนเอง
15
สานหมวกใบคันทรง
ต้นคันทรงเป็นต้นไม้ประจำตำบลหนองคันทรง ส่วนต้นจาก
เป็นพันไม้ที่มีมากในป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ สมัยก่อนชาวบ้าน
ได้นำใบคันทรงมาเย็บเป็นตับสำหรับมุงหลังคาบ้าน
ชุมชนท่าระแนะได้นำใบจากและใบคันทรงมาทำ
เป็นหมวกไว้ใช้เองและขายให้นักท่องเที่ยวซึ่ง
หมวกใบคันทรงของท่าระแนะ นับได้ว่ามีที่เดียวใน
ประเทศไทย ใบคันทรงยังเป็นสมุนไพรรักษาโรค
สะเก็ดเงินอีกด้วย
16
ทำขนมพิมพ์ข้าวตอก
เป็นขนมไทยพื้นบ้านและเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของชุมชน
บ้านท่าระแนะอีกด้วยซึ่งขนมพิมพ์ข้าวตอกจะใช้เป็นมะพร้าวกวน
กับน้ำตาล และข้าวตอกหน้าตาคล้ายๆกระยาสารท แต่จะนุ่มหอมมันกว่า
วิธีการทำก็คือ เราต้องนำพิมพ์ข้าวตอก ซึ่งเป็น
พิมพ์ไม้ เจาะเป็นรูปต่างๆ นำข้าวตอกที่เราตำไว้
โรยลงไปในพิมพ์ เสร็จแล้วก็ปั้ นมะพร้าวกวนกดๆ
ลงไปในพิมพ์เคาะออกมาก็จะได้ ขนมพิมพ์ข้าว
ตอก
17
จิบชาร้อยรู ใบโกงกางทอด
เป็นขนมไทยพื้นบ้านและเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของชุมชน
บ้านท่าระแนะอีกด้วยซึ่งขนมพิมพ์ข้าวตอกจะใช้เป็นมะพร้าวกวน
กับน้ำตาล และข้าวตอกหน้าตาคล้ายๆกระยาสารท แต่จะนุ่มหอมมันกว่า
บทที่ 4
แหล่งประวัติศาสตร์
โบราณสถาน
โบราณวัตถุ
19
ร่องรางปืนใหญ่
ร่องรางปืนแห่งนี้ ถูกค้นพบโดยบรรพบุรุษของชาวตำบลหนองคันทรง
เมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา และได้ทำการสืบประวัติความเป็นมา จนทราบว่า
ร่องรางปืนแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์อายุ
นานกว่า 190 ปีมาแล้วในปีพศ.2376 ทรงให้พระยาบดินทร์เดชาและ
เจ้าพระยาพระคลัง นำกองทัพไปปราบญวนที่บ้านแหลมหิน อ.เมืองตราด
เนื่องจากญวณจะแย่งชิงเขมรไปจากไทย เมื่อยกทัพมาถึงบ้านแหลมหิน จึง
ให้ทหารช่วยกันขุดหินเป็นร่องรางปืน เพื่อขนย้ายปืนใหญ่ขึ้นมาตั้งบนเนิน
ดินที่สร้างเป็นค่ายทหารบริเวณกระโจมไฟเกาะปู เพื่อยิงต่อสู้กับญวณ และ
พร้อมจะลากปืนใหญ่ลงเรือเมื่อเพลี่ยงพล้ำได้ หลังเสร็จสิ้นสงครามแล้ว ถูก
นำไปตั้งไว้ที่โรงเรียนวัดแหลมหิน และต่อมาได้ถูกย้ายไปตั้งไว้ที่หน้าอาคาร
เรียน โรงเรียนตราษตระการคุณมาจนถึงปัจจุบันนี้นายสุมลบอกว่า การมา
ตั้งค่ายทหารและขุดรางร่องปืนใหญ่ที่บ้านเกาะปู เนื่องจากมีลักษณะเป็น
แหลมยื่นลงไปในทะเล อยู่บริเวณปากแม่น้ำตราด และสามารถมองเห็น
ทัศนียภาพของเขาบรรทัดได้ชัดเจนและอยู่ในวิถีกระสุนปืนใหญ่ ที่สามารถ
ยิงไปได้ถึง ประกอบสมัยนั้นการยกทัพมาต่อสู้กับข้าศึก ต้องเดินทางมาทาง
เรือ จึงนำทัพมาตั้งต่อสู้กับข้าศึกในบริเวณดังกล่าว
20
วัดหนองคันทรง
ประวัติความเป็นมาของวัด
วัดหนองกันทรงนับว่าเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ๒๓๒๑ ใน
แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้จุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ทราบ
จากผู้สูงอายุหลายท่านซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าเดิมวัดนี้ตั้งอยู่บนแผ่นดิน ที่
ห่างจากวัดไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ ๘00 เมตร ซึ่งคนในหมู่บ้าน
เรียกกันว่า เสาธงปัจจุบันยังเป็นที่สาธารณะมีเนื้อทีประมาณ ๒.0 ตารางวา
แต่ตั้งอยู่ได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากที่ดินอยู่ที่ลุ่ม เมื่อถึงฤดูฝนน้ำ
ท่วม ราษฎรในหมู่บ้านจึงพร้อมใจกันย้ายไปอยู่ในที่ดินที่ตั้งวัดอยู่ในปัจจุบัน
ในเนื้อที่ประมาณ ๗ ไร่ เศษโดยทำการสร้างกุฏิไว้เพียง ๒ หลังด้วยกัน ระยะ
ต่อมาวัดหนองกันทรงนี้ยังไม่เจริญเท่าที่ควร
เจ้าอาวาสวัดในสมัยนั้น ได้รับความเมตตาจากพระยาพิพิธฤทธิเดษวิเศษ
สิงหนาท "สุข" อดีตเจ้าเมืองตราครัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้า
อยู่หัวเป็นพระบิดาของเจ้าจอมมารดาจันทร์ ในพระบาทสมเด็จ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ ซึ่งได้อุทิศที่ดินทางทิศตะวันตกให้แก่วัด
หนองคันทรงอีกประมาณ ๔ ไร่ เศษ และได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ ตลอดมา.
เมื่อสร้างวัดใหม่ขึ้นทางวัดยังไม่ได้สร้างอุโบสถ พระสงฆ์ที่จำพรรษา ต้องไป
ทำพิธีสังฆกรรมที่บริเวณหนองน้ำ ซึ่งเรียกว่า หนองโบสถ์ ปัจจุบันทางสภา
ตำบลได้ปรั่บปรุงเป็นหนองน้ำ
บทที่ 5
อาหารของท่าระแนะ
22
ต้มส้มปลากระบอก
ต้มส้มปลากระบอก
ตามมาชิมกันได้เลยเมนูนี้เป็นเมนูพื้นบ้านของชาวบ้านตำบลหนอง
คันทรง วิธีทำก็คือต้มเครื่องแกงที่มีส่วนผสมของกะปิ หอมแดง พริกไทย
รากผักชี ปรุงรสด้วย ส้มมะขาม น้ำปลา และน้ำตาล จากนั้นจึงใส่เนื้อปลา
ลงไป ปลาที่นิยมใช้ เช่น ปลาทู ปลากระบอก ปลากะพง ปลานิล เป็นต้น
ในส่วนของรสชาติคนไทยโบราณใช้คำว่า “ส้ม” เพื่อบอกถึงรสเปรี้ยว ดัง
นั้น ต้มส้มต้องมีรสเปรี้ยวนำ สามารถใช้ส่วนผสมหลากหลายเพื่อให้มีรส
เปรี้ยว ไม่ว่าจะเป็นมะขามเปียก มะขามแขก หรือน้ำส้มน้ำตาลโตนด หลัง
จากลองชิมแล้วรสชาติเปรี้ยวนำมาตามชื่อเลยค่ะ หวาน เค็มค่อยๆตาม
มา แถมที่เราได้กินมีไข่ปลาด้วย เรียกได้ว่าเครื่องแน่นๆ ถ้าไปถึงหนอง
คันทรงอย่าลืมไปชิมนะคะ
23
ห่อหมก
ห่อหมก
วันนี้มาในเมนูห่อหมก ถือเป็นเมนูห้ามพลาดของที่นี่ ซึ่งเป็นอาหาร
คาวที่มีชื่อเสียงของไทยมาช้านาน และเป็นเมนูที่นิยมบริโภค เพราะมี
คุณค่าทางอาหารครบถ้วน โดย ในห่อหมกประกอบด้วย โปรตีนจาก
ปลา ไขมันจากกะทิ คาร์โบไฮเดรตจากผัก ในอดีตชาวบ้านนิยมปรุง
ห่อหมกรับประทานภายในครัวเรือน บางครั้งก็ใช้เป็นอาหารสำหรับ
รับรองแขก หรือเป็นอาหารสำหรับจัดเลี้ยงในงานต่างๆ ไม่ต้องพูดถึง
รสชาติเลยค่ะ รสเข้มข้น รสออกเผ็ดหน่อยๆ พอกินกับข้าวสวยร้อน
สักจาน อร่อยกำลังพอดีเลยแหละ
24
จันรอนย่าง
จันรอนย่าง
จุดเด่นคือความอร่อยที่ดีต่อสุขภาพเพราะไม่ใส่ผงชูรส ไม่ผสมแป้ง
และไม่ใส่ส่วนผสมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ จะใช้ปลาสดเท่านั้น ผสม
คลุกเคล้ากับพริกแกงที่มีส่วนผสมของสมุนไพร และเทคนิคสำคัญคือ
ใส่ไข่แทนใส่กะทิ จะทำให้เนื้อฟูและนิ่ม ที่สำคัญ คือต้องปั้ นพันกับ
อ้อย แล้วนำไปย่างไฟอ่อนจนสุก และวิธีการกินแจงรอน ให้เคี้ยวแท่ง
อ้อยด้วย จะมีความหวานฉ่ำออกมาเข้ากับเนื้อแจงรอนที่ไม่หวานมาก
นัก รสชาติจะหวานนิดนึง หอมเครื่องแกงสมุนไพร ความเด้งหนึบของ
เนื้ อปลาทำให้แจงรอนบ้านท่าระแนะมีความโดดเด่นเป็นเมนูที่นักท่อง
เที่ยวมาบ้านท่าระแนะแล้วต้องได้กินเรียกได้ว่าแจงรอนชื่ อแปลกแถม
รสชาติเป็นเอกลักษณ์ ของบ้านท่าระแนะอีกด้วย
25
ปลากระบอกทอด
ปลากระบอกทอด
ปลากระบอก เป็นปลากระดูกแข็ง มีรูปร่างโดยรวมเรียวยาวค่อน
ข้างกลมเป็นทรงกระบอก ปากเล็ก มีครีบหลัง 2 ตอน เป็นปลาที่พบ
ได้ทั้งในน้ำจืด น้ำกร่อยและทะเลปลาเศรษฐกิจ ที่มีการทำประมง และ
เพาะเลี้ยงเป็นจำนวนมาก เนื้อปลาอร่อยเป็นที่นิยมในท้องตลาด นำ
มาทำอาหารได้หลายอย่าง ที่นิยม ได้แก่ ต้มส้มปลากระบอก ปลากระ
บอกทอดเป็นต้นซึ่งปลากระบอกทอดเป็นเมนูที่ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก
และได้คุณค่าโปรตีนจากปลาทะเลอีกด้วย
26
กะปิหลน+ผัดสด
กะปิหลน+ผักสด
เมนูกะปิหลน วิธีปรุงกะปิหลน โดยโขลกพริกขี้หนู ตะไคร้ กระชาย
และกะปิ ให้ละเอียดจากนั้นนำไปผัดใส่กะทิผัดจนแตกมันจึงใส่หมูสับ
และปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลาใส่พริกชี้ฟ้าและใบมะกรูดลงไป
เคี่ยวจนงวดเครื่องจิ้มประเภทหลนอย่าง หลนกะปิ จะใส่เนื้อหมูเข้าไป
ด้วย รสชาติออกเค็ม หวาน มัน และเผ็ดจากพริก รสชาติกะปิหลนที่
เข้มข้นเข้ากันได้ดีกับผักเคียงอย่างมะเขือเปราะถั่วพูแตงกวา
27
หัวปลีต้มน้ำกะทิ
หัวปลีต้มน้ำกระทิ
ปลีกล้วยหรือดอกกล้วยมีประโยชน์มากต่อสุขภาพช่วยเรียกขับ
น้ำนมแม่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยโรคเบาหวานสมุนไพรเป็นยา
แก้โรคโลหิตจางแก้โรคกระเพาะและลำไส้น้ำคั้นจากหัวปลีบำรุงโลหิต
แก้ถ่ายเป็นมูกเลือด หัวปลีกล้วยนำมาเป็นอาหารได้ทั้งแบบสดจากต้น
หรือปรุงให้สุก เช่น ลวกจิ้มน้ำพริก แกง ยำ หัวปลีสดคู่กับผัดไทย และ
เต้าเจี้ยวหลน ขนมจีนน้ำพริก
28
แมงกะพรุนดองฝาด
แมงกะพรุนดองฝาด
แมงกะพรุ นนิยมนำมาดองกับน้ำฝาดซึ่งเป็นอาหารพื้ นเมืองในภาค
ตะวันออกหรือนำมาตากแห้งใส่กับอาหารต่างๆ เช่น ใช้ใส่ในเย็นตาโฟ
หรือดองเค็มแบบกึ่งแห้งส่งขายต่างประเทศในแถบเอเชียที่มีความ
นิยมบริโภคแมงกะพรุนเช่นกัน เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี การดองฝาดนั้น
มีประโยชน์ทำให้มีพฤกษเคมีที่มีฤทธิ์ต้านเชื้ อแบคทีเรียจากพืชที่นำ
มาดองอยู่ในผลิตภัณฑ์แมงกะพรุนดองฝาดด้วยเพราะสารจากเปลือก
ไม้ของต้นอินทรีที่นำมาดองกับแมงกะพรุนหนังจะให้สารในกลุ่มแทน
นินฟลาโวนอยด์และฟีนอลิกรสชาติของแมงกะพรุนจะมีรสฝาดๆ เนื้อ
กรุบกรอบ นิยมนำมาทานกับน้ำพริกถั่ว ที่มีรส เปรี้ยว หวาน และเค็ม
29
ลูกจาก
ลูกจาก
ลูกจาก มีรสหวาน หอม นอกจากจะกินสดแล้ว สามารถนำมาทำ
เป็นขนมหวาน เช่น ลูกจากลอยแก้ว หรือลูกจากเชื่อมน้ำตาล ใบจาก
ใช้มาเย็บเป็นตับสำหรับมุงหลังคา บ้านเรือน หรือ ร้าน ซุ้ม ต่างๆ เพื่อ
ความสวยงาม และเย็นสบายกว่ากระเบื้อง นอกจากนั้นแล้ว ยังนำใบ
มาทำเป็นที่รองรับอาหารได้อีกด้วย เช่น ขนมจาก ส่วนต้นก็ใช้เลี้ยงตัว
ด้วงลองไปชิมมาแล้วพูดไม่ออกนอกจากคำว่าอร่อย!!
เจอกันหนองคันทรง
รวบรวมและเรียบเรียง
กวีณา เรืองเที่ยง
ชวิน ถัดหลาย
นรัชต์ภพ ธนพิกุลพันธ์
ปิยะวรรณ เคนภาวะ
ศุภสุดา เนวะลา
สรรฐปกรณ์ ชูเกิด
ที่ปรึกษา
อาจารย์อริยา เรียงจันทร์
อาจารย์พจนีย์ ศักดิ์เดชากุล
อาจารย์ธรรมรัตน์ ศัลยวุฒิ
โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย
สาขาการท่องเที่ยว คณะศิลปศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
เจอกันหนองคันทรง ติดต่อท่องเที่ยว : 081-161-6694 (ผู้ใหญ่สายชล)